ความคิดเห็นที่ 1 อย่าคิดมากนะคะคุณแม่ เดี๋ยวน้ำนมหด ขยันปั้มนมบ่อยๆ น้องต้องได้กลับมากินนมจากอกอุ่นๆคุณแม่แน่นอนคะ สู้ๆ จากคุณ : Marbee1982 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:08:08

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นกำลังใจให้คุณแม่คะ งานเลี้ยงลูกทั้งเหนื่อยและหนักอยู่แล้ว ยิ่งถ้าลูกไม่สบาย พ่อแม่ก็เหนื่อยและเครียดแทบหมดแรงกายแรงใจ หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลกว่าน้องจะโต สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : Ms...plum เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:13:01

ความคิดเห็นที่ 3 มองในแง่ดี การที่คุณจขกท. ออกมาตั้งกระทู้นี้ ทั้งๆ ที่เรื่องผ่านมาหลายเดือนแล้ว ก็แสดงว่า จขกท. คงยังคงคาใจ ไม่เข้าใจ ไม่สบายใจ ในสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวจขกท. เอง ..ดังนั้นการมาตั้งกระทู้ ได้รับความเห็นของเพื่อนสมาชิกมากมายหลายมุมมอง ได้อ่านคำอธิบายโดยละเอียดจากคุณหมอสุธีราเองเพิ่มเติม คาดว่าคงทำให้ จขกท. หายข้องใจ และ คงสามารถปล่อยวางลงได้ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีนะคะ ดีกว่าที่คุณจะแบกมันไปตลอดชีวิต จากคุณ : JNOY เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:25:17

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณแม่และน้องนะคะ จากคุณ : นกน้อยในสวนพลู เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:27:07

ความคิดเห็นที่ 5 อย่าคิดมากนะคะ ความห่วงลูก เราเข้าใจค่ะ อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป ขอให้น้องหายเร็วๆค่ะ จากคุณ : พระจันทร์แก้มป่อง เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:27:25

ความคิดเห็นที่ 6 บางที เวลาเราเจอปัญหาหนักๆ จะตัดสินใจรอหมอคนนี้ หรือรอหมอคนนั้น ความกังวลและความเป็นห่วงลูกสุดๆ ความเจ็บปวดที่เห็นลูกป่วย มันก็อาจทำให้เราสับสนและตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะทำยังไงดีก็ได้นะ ... อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป ขอให้คุณแม่สู้ๆ ปัญหาข้างหน้ายังมีอีกเยอะ เข้มแข็งนะคะ จากคุณ : nang_sida เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:27:38

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นกระทู้ที่ให้ความรู้เยอะอีกกระทู้นึงค่ะ เป็นกระทู้ที่ดีค่ะ จากคุณ : Pink Martini เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:40:51

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นใจคุณแม่ค่ะ เราเองก็เป็นคนนึงที่ไปหาหมอทีไรต้องเลือกหมอ มันต้องเลือกจริง ๆ นะ หมอแต่ละท่านวิธีพูดไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าหมอไม่ดีหรือไม่เก่ง แต่วิธีพูดที่ทำให้เราเข้าใจมันไม่เหมือนกัน บางทีเราต้องรอหมอท่านนั้นมาเราถึงพาลูกไปหา ไม่งั้นก็ให้ป่วยไปก่อนในกรณีที่ไม่รุณแรง ดูเป็นกรณีไป ถ้าเร่งด่วนจริง ๆ ถึงหาท่านไหนก็ได้ อย่าคิดมากค่ะ บางทีการที่เราพูด อาจจะคนละมุมมอง จะได้เห็นมุมมองอื่น ๆ บ้าง ลูกเราเคยท้องเสีย หมอไม่ให้ความกระจ่าง เราย้ายโรงพยาบาลเลยค่ะ โรงพยาบาลเดียวกันก็เปลี่ยนหมอไปเรื่อย ๆ ในการไม่สบายแต่ละครั้ง จนเจอหมอที่ใช่ (สำหรับความรู้สึกของเรา ) ไม่รู้นะ บางทีอารมณ์มันหน้ามืดตามัว ใครอธิบายอะไรก็ งง งง เพราะห่วงลูก เลยอาจจะทำให้เข้าใจการสื่อสารผิดไปบ้าง เรื่องกรณีที่ไม่ยอมนอนโรงพยาบาล อันนี้ก็เข้าใจอีกค่ะ ใครจะมีความเห็นต่างก็แล้วแต่นะ สำหรับเรา ถ้าไม่หนักจริง ๆ ไม่อยากให้นอนเลยค่ะ ลำบากมาก ลูกก็เล็ก ไม่มีที่เดินเล่น ไม่มีที่ที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย เพราะไปไหนเจอแต่คนใส่ชุดขาวที่ฉีดยาให้เขา เราเลยเลือกที่จะพาไปดูอาการทุกวันดีกว่านอนโรงพยาบาล แต่ในกรณีที่ต้องนอนจริง ๆ ก็ต้องทำใจ เคยนอนไป 2 ครั้งเหมือนกัน บางคนอาจคิดว่าไม่ห่วงลูกที่ไม่ให้ลูกนอนโรงพยาบาล แต่ใครจะรู้ ว่าหัวอกแม่ เอาลูกกลับมาดูอาการที่บ้าน คืน ทั้ง คืน ไม่ต้องหลับ เพราะเฝ้าลูก เกิดอะไรฉุกเฉินจะได้รีบพาไปทัน แต่มันสะดวกสบายกว่ามาก และรู้สึกว่าลูกก็ไม่หวาดกลัวหมอ จนเห็นไม่ได้ แถมที่บ้านก็ยังมีหลานตัวเล็กอีก และมี ตาอีก ถ้าไปนอนโรงพยาบาล ยุ่งกันทั้งครอบครัว เราะต้องผัดกันเฝ้า แม่ต้องลางาน ยายต้องมาช่วย แล้วหลานอีกคนจะอยู่กับใคร สารพัดปัญหา ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่ความคิดของแต่ละคนค่ะ แม่รักลูกเหมือนกันทุกคน แต่วิธีคิด วิธีสอน และวิธีเลี้ยงลูกนั้นแตก่างกันไป เราเคารพในความคิดของคนอื่นเช่นกัน บรรยายมาซะยืดยาว แค่จะบอกว่า คุณแม่อย่าคิดมากค่ะ ให้มันผ่านไป เราเลี้ยงลูกด้วยความสุขดีกว่า จากคุณ : อย่าให้บอก เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:42:19 A:125.26.144.79 X: TicketID:341720

ความคิดเห็นที่ 9 คุณแม่ทำถูกแล้วหละค่ะที่ไม่ต่อความยาวสาวความยืด เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ค่ะว่าเป็นยังไงในช่วงเวลาที่วิกฤติเช่นนั้น  เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : papaswon เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:52:10

ความคิดเห็นที่ 10 ชื่นชมคุณแม่ที่มาตั้งกระทู้ขอโทษในเรื่องที่ได้ทำผิดพลาดไป แบบนี้สิคะ จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีกับลูก ยังไงก็ขอให้น้องหายเร็วๆ นะคะ จากคุณ : แม่น้องอัณณา เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:54:11 A:203.107.217.33 X: TicketID:258399

ความคิดเห็นที่ 11 คุณแม่ จขกท ครับ ขออนุญาตนำเสนอว่า คุณแม่ไปพบคุณหมอเพื่อคุยกันให้เข้าใจเรื่องอาการต่างๆ ของลูก (รวมถึงวิธีล้างก้น ไม่ให้ติดเชื้อ) ตอนนี้ผมคิดว่า คุณหมอและพยาบาลวอร์ดเด็กรวมทั้งไอซียู น่าจะให้แนวทางที่ตรงกันครับ (อัดคลิปเรยครับ ตอนผมพาลูกคนแรกไปโรงพยาบาลทุกครั้ง ผมถ่่ายวีดีโอไว้ครับ เพราะผมกลัวลืม กลัวทำผิดขั้นตอน กลัวจำที่หมอบอกไม่ได้ แต่ถ่ายติดเฉพาะลูกผมนะครับ 555 ตอนหมอพูดแนะนำ ผมก็ถ่ายผนัง ถ้าเป็นขั้นตอนก็ถ่ายให้เห็นว่าต้องทำยังไงครับ) จะได้หายข้องใจและได้รับคำแนะนำที่ชัดเจนครับ เป็นประโยชน์กับลูกโดยตรงครับ ขอให้เข้าใจกัน และเรื่องจบลงด้วยดีครับ ส่วนเรื่องที่เป็นประเด็นขึ้นมานั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มันก็เป็นไปตามนั้นครับ ความจริงก็คือความจริงครับ ไม่มีหรอกครับ ในจริงมีเท็จ ในเท็จมีจริง....จริงก็คือจริง เท็จก็คือเท็จ รู้กันอยู่แก่ใจ ทั้งหมดทุกๆ ท่านที่เกี่ยวข้อง...ก็คงเป็นอุทาหรณ์ และเป็นประโยชน์กับทุกๆ คนครับ ปล.แฟนผมก็เพิ่งเขียนร้องเรียนระบบการทำงานของโรงพยาบาลนี้ไปเมื่อวานครับ 5555 จากคุณ : tonpiya เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:00:38

ความคิดเห็นที่ 12   เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะคะ เราเชื่อว่า ณ จุด ๆ นั้น ณ เวลานั้น อารามที่เรากลัวว่าลูกเราจะเป็นอะไรไป มันทำให้เราทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นล่ะค่ะ ขอให้น้องแข็งแรง กลับมาทานนมแม่ได้ไว ๆ นะคะ .... ส่วนเรื่องอื่น ๆ เราเชื่อว่า ความจริงยังไงมันก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ จริงก็คือจริง...เท็จก็คือเท็จค่ะ!!   จากคุณ : ruk_ton เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:20:11

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นใจคุณแม่เหมือนกันค่ะ  เห็นใจอีกฝ่ายด้วยเหมือนกัน ไม่รู้จะบอกจะเขียนอย่างไร  แต่เข้าใจในมุมของคนเป็นแม่ เวลาที่ลูกมีปัญหา บางทีเรื่องง่าย ๆ หรือเรื่องที่อาจไม่ต้องคิดนาน  ในนาทีนั้น สมองกลับไม่สั่งการให้ตัดสินใจขึ้นมาเฉย ๆ อาจเพราะความไม่แน่ใจความรู้เท่าไม่ถึงการณ์อะไรก็ตามแต่  เลยทำให้การตัดสินใจผิดพลาดหรือล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น   ดิฉันอ่านข้อความที่คุณเขียนมา บอกตรง ๆ เข้าใจมาก ๆ กับการนั่งรอในแต่ละนาที ในแต่ละช่วงการรอ การคิด การจะตัดสินใจ   ดิฉันว่านะ  มันขาดการสื่อสารที่เอื้ออาทรระหว่างกันค่ะ  คือ ถ้าพยาบาลเข้ามาเทคแคร์ ดูอาการ ให้การคอมเม้นท์เบื้องต้นว่า เด็กมีอาการผิดปกตินะคะ  เนื่องจากตัวบวมหรือซักถามอาการให้ละเอียดขึ้นหน่อย หรือมากกว่าปกติหน่อย อย่างนั้นอย่างนี้นะ  ก็น่าจะทราบปัญหาเบื้องต้นและสามารถแจ้งคุณหมอโดยด่วน  หรือ รีบโทรถามอาการเบื้องต้นจากคุณหมอว่าเคสนี้ควรทำอย่างไร ในกรณีทีคุณหมอยังไม่มาถึง รพ. หรืออยู่ระหว่างเดินทาง (ตรงนี้ขอบอกว่า ถ้าเป็นพญาไท2 เบื้องต้นถ้าพยาบาลไม่กล้าตัดสินใจ  พยาบาลจะรีบโทรเข้ามือถือคุณหมอให้เลยค่ะ ว่าอาการเด็กเป็นอย่างนั้นอย่างนี้นะ  ต้องทำยังไง  เพื่อรอคำตอบคุณหมอแจ้งมา หรือไม่คุณหมอจะขอคุยกับคุณแม่โดยตรงเลยว่ามีอาการยังไงและเบื้องต้นต้องทำยังไง  ขนาดลูกดิฉันแพ้ยา(ดิฉันสงสัยว่า "น่าจะแพ้")  โทรถามพยาบาลไม่ได้ตั้งใจโทรหาคุณหมอเลยนะคะ  แค่อยากทราบว่า ไอ้ยาตัวนี้เวลาแพ้ ผื่นขึ้นที่ดวงตาไหมเท่านั้นเอง  คุณพยาบาลไม่กล้าฟันธงสักพักคุณหมอโทรเข้ามือถือเลย  ถามละเอียดมาก วิเคราะห์ละเอียดมาก แล้วบอกให้พาเด็กมา รพ.เลย คุณหมอจะอยู่รอ (แม้ว่าจะเลิกงานแล้ว)   ซึ่งดิฉันว่า เหตุการณ์เช้าวันนั้นตั้งแต่ตี 5 ถ้าปฏิสัมพันธ์ระหว่างคุณพยาบาลที่จะเทคแคร์คุณแม่เป็นกรณีพิเศษหน่อย เพราะเด็กตัวบวมไปหมดแล้ว  กับคุณแม่ที่รีบแจ้งอาการเบื้องต้น  .... ยังไงคนนอกอย่างดิฉันก็ยังมองว่า คุณพยาบาลน่าจะไกด์ หรือ รีบโทรแจ้งคุณหมอประจำตัวทางโทรศัพท์ เพื่อขอคำปรึกษาเบื้องต้น  หากไม่มีนโยบายโทรถามแบบนี้ก็อาจจะถามจากคุณหมอท่านใดก็ได้ที่อยู่ที่ รพ.แล้ว  คือว่าในภาพรวมน่าจะทำได้ดีกว่านี้ค่ะ  ไม่ใช่คุณแม่ก็ต่างนั่งรอ ต่างนั่งเงียบ กันไปกันมา   ไม่รู้นะ ถ้าเป็นคุณหมอของลูกดิฉัน (คุณหมอมาลีพญาไท 2 ขอความกรุณาค่ะ ไม่ได้แฝงเรื่องอื่นนะ)   แต่ด้วยความเคารพคุณหมอสุธีราเหมือนกันค่ะ ตรงนี้ขอประทานโทษหากเป็นการไม่เข้าใจระบบการทำงานของ รพ.และของคุณหมอนะคะ แต่สิ่งที่ดิฉันได้รับจากคุณหมอประจำตัวลูกดิฉัน   จากเหตุการณ์ที่คุณหมอเห็นคุณแม่นั่งหน้าห้องแล้วหันไปถามพยาบาลว่าแม่เด็กจะตรวจไหมนั้น  แล้วพยาบาลบอกว่ารอผลอุจจาระอยู่ .... ถ้าเป็นคุณหมอของลูกดิฉันนะ  โดยปกติเห็นหน้า คนไข้ของตัวเอง-เด็กของตัวเองรอรักษาหน้าห้อง โดยสีหน้าไม่ได้ร้อนรนอะไร  เวลาคุณหมอเดินผ่านจะยิ้มให้และถามว่าวันนี้เป็นอะไร (คือถามเบื้องต้น และเดินเข้าห้องเพื่อเรียกตามคิว แต่จะถามก่อนว่าเป็นอะไร)  แต่ถ้าเห็นสีหน้าร้อนรน มีกังวล หรือไม่ก็มาแต่เช้าตรู่ขนาดนี้   .......ดิฉันเชื่อมั่น 100 %ว่า คุณหมอต้องเข้ามาคุยแน่นอน ว่าทำไมตัวบวมขนาดนี้ แล้วรออะไร  แล้วคงถามพยาบาลแหล่ะค่ะว่า ผลอุจจาระอีกนานไหม หรือ เร่งตรวจก่อนอะไรก็ตามแต่ .... ดิฉันเคยพาลูกสาวไปรอคิวแรกครั้งนึง คือเช้ามากเนื่องจากพาไปหาก่อนไปส่ง รร. คุณหมอมาเห็นพอดี สีหน้าคุณหมอแปลกใจเล็กน้อย ว่าทำไมมาเช้าจัง เป็นอะไรด่วนหรือเปล่า  ดิฉันยังยิ้มแล้วบอกว่า ไม่ค่ะ แค่เริ่มมีน้ำมูกใส ๆ ค่ะ  พอดีอยากรับยาไปทานที่โรงเรียนจะได้ไม่เสียเวลาทานยาไปวันนึง คุณหมอก็ยิ้ม  คือจะบอกว่า คุณหมอของดิฉันแค่เห็นคนไข้มาผิดเวลา ยังเอะใจเลยค่ะ จากเหตุการณ์ทั้งหมด บอกตรง ๆ โทษคุณแม่คนเดียวก็ไม่ถูกนักค่ะ  เพราะการสื่อสาร ของทุกฝ่ายว่าวันนี้มีเคสผิดปกติ ไม่ใช่ธรรมดา   ระหว่างคุณแม่ คุณพยาบาลและคุณหมอ น่าจะทีมเวิร์คกว่านี้ค่ะ   แต่ได้ฟังคำชี้แจงคุณหมอสุธีราแล้วเข้าใจทางคุณหมอคะ ในเนื้อหาวิชาการนะคะ  แต่ดิฉันว่าขาดการสื่อสารที่ดีระหว่างกันค่ะ เพราะในกระทู้นี้ จขกท. ก็ยังบอกเองว่า เพิ่งเข้าใจอาการของลูกอย่างละเอียดในวันนี้ค่ะ ปล.แก้ไขการเคาะวรรคนะคะ  เนื้อหาสาระเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 11:42:12 จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:31:40

ความคิดเห็นที่ 14 ดีใจที่ได้เห็นกระทู้ขอโทษ นี้นะคะ ทำผิดแล้วยอมรับผิด สังคมยอมรับค่ะ ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง และทำตามหน้าที่ กันทั้งนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าใครผิด หรือถูกหรอกคะ หน้าที่แม่ หรือหน้าที่พยาบาล ทุกคนทำตามหน้าที่ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ให้น้องหายไวไวค่ะ จากคุณ : พระจันทร์เกเร เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:32:04

ความคิดเห็นที่ 15 เข้าใจคุณแม่นะคะ อย่าคิดมาก ก็อารมณ์คนเป็นห่วงลูกอ่ะคะ : D ไงก็ผ่านไปแล้ว ดูแลรักษาตัวเองดี ๆ นะคะ จากคุณ : jeab (pue_sung) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:36:18

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องราวจบอย่างสวยงาม จากคุณ : ช่วยบอกทีจะให้ใช้ชื่ออะไร เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:40:47

ความคิดเห็นที่ 17 อย่าคิดมากนะคะ  ลูกป่วย คนเป็นแม่ก็เครียดเป็นธรรมดาค่ะ จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:42:30

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านมาตั้งแต่เช้า เข้าใจหัวอกคุณแม่นะคะ.... ขอให้น้องหายไวไว แล้วกลับมากินนมแม่ได้อีกค่ะ ปอลิง ลูกสาวเราตอนอยู่ในเดือนเป็นค่ะ (ประมาณแพ้แลคโตสป่าวไม่รู้) กินนมแม่เสร็จปุ๊ป ปู๊ดป๊าดปั๊บ วันละ 7-8 รอบเลย เราไม่ทราบเลยค่ะ แต่เราก็ให้กินนมแม่ไปเรื่อยๆ (ถ่ายเหลวทุกวัน เหนื่อยมากมาย) พอครบสามเดือน กลับมาค้นในเวป ถึงอ๋อ...ว่าอาจจะเป็นอย่างนั้น จากคุณ : Lylee138 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:44:09

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ได้อยากซ้ำเติมคุณแม่นะคะ รู้สึกเห็นใจ และขอให้น้องหายไวๆ จริงๆคะ    แต่กระทู้นี้ สะท้อนอะไรได้หลายๆอย่าง โดยเฉพาะคำชี้แจงของคุณหมออย่างละเอียด ตัวเราทำงานสายโรงพยาบาลเหมือนกัน จะเจอเคสลักษณะนี้เยอะ อะไรก็ไม่เอา แนะนำอะไรก็คิดว่าตัวเองรู้ดีสุด อ่านไปอ่านมาเราอึ้งมากกับแค่สวนปัสสาวะ คุณแม่คุณพ่อน้องยังไม่ยอม เจอบ่อยนะคะ ไม่ใช่แค่จขกท. ทำให้การรักษายุ่งยากมากขึ้น พูดง่ายๆ ไม่ค่อยมีใครอยากเป็นเจ้าของไข้ในคนไข้แบบนี้ ยุ่งยากตั้งแต่ระดับผู้ช่วย พยาบาล หมอ หมอเฉพาะทาง คิดดู spirit คุณหมอมาโรงพยาบาล4ทุ่ม เพื่ออธิบายแค่เรื่องสวนฉี่นี่นะ    มีคุณพ่อคุณแม่บางท่านลูกอาจจะป่วยบ่อย หรืออ่านเน็ตบ่อย ศึกษาหาความรู้บ่อย พอลูกป่วยไปโรงพยาบาล ก็จะกั๊กๆ กับหมอพยาบาล ฉันอ่านมาอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่รู้กั๊ก หรือไม่ไว้ใจ หรือยึดติด หรือเรียกลองภูมิ แนะนำว่าให้เดินทางสายกลางเถอะคะ ห่วงลูกจริง แต่ให้พอดี ไม่ใช่หวงไม่เชื่อใครทั้งสิ้น ทั้งภาษาพูด ภาษากาย เราเป็นผู้ให้บริการ เราดูออกค่ะ แต่เราก็ปุถุชนคนธรรมดากินเงินเดือนอันน้อยนิดแค่นั้น บางครั้งแค่จะเช็ดตัวให้ก็ไม่ยอม จะทำนู่นนี่ให้ก็ไม่ยอม ลูกคุณจะกลายเป็นเคสที่ไม่ค่อยมีคนอยากมายุ่งทันที!!  เคยเจอเคส ไข้ชัก อยู่รพ ชานเมืองนะคะ คุณแม่น้องจะขอพาน้องไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลชื่อเสียงโด่งดังในเมืองตอน6โมงแล้ว แนะนำให้admitก็ไม่ยอม อดรนทนไม่ได้เลยต้องสะกิดนิดนึงว่า ถ้าพาไปตอนนี้9โมงไม่รู้จะถึงรึเปล่ากว่าจะฝ่าดงรถติดไปได้ แถมเกิดน้องชักซ้ำละ เลยแนะนำว่าเอางี้ไม่อยากนอนที่นี่ ก็ไปนอนอีกโรงพยาบาลนึงแล้วกัน ห่างกันแค่ไม่ถึง10 นาที สรุปว่าไปค่ะ    เป็นโชคดีของน้องคุณแม่น้อง เยอะแต่พอดี ไม่มากไป จากคุณ : CutieVicki เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:11:09

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นกำลังใจให้ และขอชื่นชม คุณแม่ที่ออกมากล่าวขอโทษ จากใจจริง ครับ ขอให้น้องสุขภาพดีขึ้นและแข็งแรงในเร็ววันนะครับ จากคุณ : Jmpoki (Jmpoki) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:47:07

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นกำลังใจให้น้องหายไวๆๆ จากคุณ : credor เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:50:46

ความคิดเห็นที่ 22 เราก็เชื่อว่าความจริงก็คือความจริงวันยันค่ำ แต่ถ้าจะให้แปลเข้าข้างจขกท. "ในจริงมีเท็จ ในเท็จมีจริง" เขาน่าจะหมายความว่า คนที่พอฟังคำอธิบายของหมอ ก็เชื่อว่าเป็นความจริงทั้งหมดแล้วมาพูดว่าจขกท. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องล้างก้น เรื่องเิบิกค่านม จริงๆแล้วอาจจะเป็นเท็จก็ได้ ส่วนคนที่ปักใจเชื่อว่าจขกท. บิดเบือนความจริง เล่าความเท็จ อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ ที่ถูกน่าจะบอกว่า อย่าด่วนตัดสินคนอื่น โดยการฟังความข้างเดียว เหมือนที่มีบางคนแสดงความคิดเห็นไปแล้ว อันนี้เป็นความคิดเห็นของเราส่วนตัวนะ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ จากคุณ : หลับปุ๋ย เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:50:54 A:203.185.129.245 X: TicketID:357580

ความคิดเห็นที่ 23 คุณแม่คะ....ส่งจดหมายขอโทษฉบับนี้ไปทาง BNH ด้วยนะคะ เพราะญาติเราที่ทำงานเป็นพยาบาลที่นั่น (แต่ไม่ได้อยู่แผนกเด็ก) บอกว่า พยาบาลที่คุณกล่าวถึงเค้า จะยื่นใบลาออกแล้วค่ะ แล้วก็ขอให้น้องหายเร็ว ๆ ทุกเรื่องจบลงด้วยดีนะคะ จากคุณ : saturn_eyes เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:52:08

ความคิดเห็นที่ 24 ความเห็นที่ 23 อ่านแล้วเศร้าค่ะ ไม่อยากให้ออกเพียงเพราะไม่เข้ใจกัน จากคุณ : อย่าให้บอก เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:58:47 A:125.26.144.79 X: TicketID:341720

ความคิดเห็นที่ 25 อยากให้ จขกท ไปขอโทษกับเจ้าตัวเค้าเองมากกว่าค่ะ ไม่ต้องมาขอโทษในนี้หรอกค่ะ จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:03:29

ความคิดเห็นที่ 26 จขกท.จะผิดก็ผิดเรื่องที่โพสชื่อพยาบาลออกสื่อสาธารณะ แต่เรื่องอื่นๆเราเราเข้าใจขขกท.นะ คนเราไม่เคยอยู่ในจุดวิกฤตตรงนั้น ไปรพ.มาแล้วก่อนหน้าถึงสองรอบลูกก็มีแต่แย่ลง จะให้เชื่อถืออะไรใครก็ต้องคิดก่อนละ หมอก็คนธรรมดา เป็นพ่อเป็นแม่มือใหม่ ตัดสินใจผิดไปบ้าง ไขว้เขวไปบ้าง ก็เพราะกลัวลูกเป็นหนักกว่าเดิม จุดนี้เราเข้าใจคุณแม่มากๆ ส่วนคำชี้แจงของหมอ เรางงตรงทำไมคุณไม่ชี้แจงกับคุณแม่น้อง ณ เวลาที่แอดมิท หรือตอนน้องมารพ. คุณแม่เพิ่งจะกระจ่างเอาก็ตอนมีเรื่องกระทู้แนะนำหมอถึงออกมาชี้แจงผ่านสื่อ รู้สึกการสื่อสารระหว่างคุณหมอ กับคนไข้มีปัญหา เรื่องนมจะเบิกได้ไม่ได้ก็ไม่ควรยกเอามาเป็นประเด็น เหมือนจะพูดดิสเครดิตไม่เกิดประโยชน์กับเรื่องนี้ ไม่พูดยังจะดีกว่า เป็นกำลังใจนะคะ และอย่าไปคิดมากนักกับคห.บางคห.ที่ดีแต่สักว่าโพสตามใจปาก เป็นพ่อเป็นแม่คนกันแล้วแท้ๆ ส่วนน้องพยาบาลท่านนั้น เห็นใจค่ะ แต่เรียนตรงๆการบริการของน้องก็ตามที่หลายท่านคอมเม้นต์แหละค่ะ ดิฉันอยากเห็นใจแต่ก็เห็นใจได้ไม่เต็มที่ หากน้องไปทำหน้าที่นี้ที่อื่นที่ใด ขอให้ปรับปรุงสักเล็กน้อย งานพยาบาล โดยเฉพาะคนไข้เด็กเล็กๆ มันละเอียดอ่อน ทั้งกับตัวเด็กและพ่อแม่ ซึ่งแต่ละท่านก็กังวลอาการของลูกน้อยตนเอง บางท่านก็เพิ่งมีลูกคนแรก เก้ๆกังๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูก ก็เห็นใจสักนิด ช่วยเหลือใส่ใจสักหน่อย ยิ้มแย้มขณะบริการบ้าง มันไม่ได้ทำให้โลกแย่ลงหรอกนะคะ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 13:47:33 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 13:43:47 จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:38:32

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าเป็นตาม คห.23 สงสารพยาบาลคนนั้นมากเลยนะคะ ฝากถึง จขกท. ขอให้น้องหายไวๆค่ะ จากคุณ : candy_pinkmie!! เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:41:25

ความคิดเห็นที่ 28 ดิฉันคิดว่าหากเป็นตัวดิฉันเอง. แค่จดหมายขอโทษแค่นี้มันไม่เพียงพอค่ะ ควรจะไปขอโทษด้วยตัวเองค่ะ. ในเมื่อคุณกล้าที่จะเอาเค้ามาประจานในบอร์ดสาธารณะแบบนี้ ก็ควรมีความจริงใจในการไปขอโทษ. (อย่าอายค่ะ) ดิฉันว่าคุณทำได้ค่ะถ้าหากอยากขอโทษจากใจจริง(ไม่ใช่เขียนมาเพื่อกลัวโดนฟ้องหมิ่นประมาท) ปล. ความเห็นของดิฉันอาจไม่ถูกใจใครหลายๆคน (ที่ถือข้าง จขกท. แต่คิดว่าพวกคุณเหล่านั้นก็หน้าหงายเงิบไปหลายคนตั้งแต่กระทู้แรกแล้วนะค่ะ). เพราะพูดตรง. ดูไม่เห็นอกเห็นใจ. จขกท. แต่เหนือความเห็นอกเห็นใจมันต้องมีความถูกต้องมาก่อนค่ะ ถ้า คห. 23. เป็นจริง. จขกท. จะรับผิดชอบอย่างไรหรือค่ะ เพราะคิดว่าผู้เสียคงได้รับความอับอายมาก ในขณะเดียวกันคุณซึ่งมีแค่หมอกับพยาบาลไม่กี่คนที่รู้จักหรือเห็นหน้า. แต่พยาบาลคนนี้ต้องตรากหน้าไปทำงานทุกวัน จากคุณ : atta (sharnack) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:56:01

ความคิดเห็นที่ 29 เราว่าไม่น่าตำหนิทั้งเจ้าของกระทู้นี้ หรือคุณหมอเลย เพราะสถานการณ์ในมุมมองแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ และขอชื่นชมที่มาตั้งกระทู้นี้นะคะ ยังไงขอให้น้องหายเร็วๆค่ะ ลองกู้นมแม่ดูมั๊ยคะ อาจจะกู้ได้นะคะ จากคุณ : Love@Home เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:57:11

ความคิดเห็นที่ 30 คห.28กิ๊ฟท์หมดค่ะ ติดไว้ก่อน แต่เราเคยเห็นจขกทไปโพสต์ในหน้าแฟนเพจของBNHเรื่องนี้นะคะ แต่ตอนนี้เธอลบออกไปแล้ว จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:59:37

ความคิดเห็นที่ 31 ในอีกมุมนึง บางทีก็เข้าใจคนเป็นพ่อเป็นแม่เหมือนกันนะคะ เพราะโรงพยาบาลสมัยนี้ชอบเชียร์ให้ทำโน่นนี่มากมายราวกับคนไข้พิมพ์แบงค์เองได้ จากคุณ : JNOY เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:02:31

ความคิดเห็นที่ 32 คนเราผิดพลาดกันได้ค่ะ อภัยทานเป็นทานที่ประเสริฐสุดนะคะ ยังไงตอนนี้น้องก็ปลอดภัยแล้วบทเรียนครั้งนี้จะทำให้คุณแม่และน้องแข็งแกร่งค่ะ ที่สำคัญยังได้ความรู้ด้วย เราเห็นด้วยกับคห.บนนะคะที่จขกท.ควรไปขอโทษพยาบาลด้วยตัวเองค่ะ จากคุณ : Z-Cube เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:07:26

ความคิดเห็นที่ 33 คุณนลินารถน่าจะออกมาชี้แจงเน้อ ถูกผิดก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า ไม่ผิดก็รับคำขอโทษกันไป ถ้าผิดก็มารับผิดสังคมก็ให้อภัย ลาออกก็ดูจะมากไป แก้ไขกระบวนการทำงานและวิธีการสื่อสารกับคนไข้ ที่สำคัญคือการประเมินสภาวะวิกฤตของคนไข้เสียใหม่จะดีกว่าคะเพราะหมอดังๆคงไม่สามารถลงมาดูแลคนไข้ได้ตลอดเวลา เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพของตัวคุณเอง และภาพลักษณะของรพ. จากคุณ : เห็นใจคะ (แม่เก๋ของน้องพีค) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:29:12

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องนี้ ก็เหมือน ...ฟุตบอลครึ่งแรก ที่ ...ผู้รักษาประตู อยู่กันคนละข้าง มองไปแต่ข้างหน้า และมองในมุมของตัวเอง... ครึ่งหลัง สลับ ข้าง มองและเห็นในมุมของคนอื่นบ้าง เข้าใจบ้าง แต่ ก็ ไม่ทั้งหมดอยู่ดี เพราะ ยังคงอยู่กันคนละข้าง และมักอยู่ข้างตัวเองเสมอในทุกมุมมอง... แอบเม้นท์ให้เข้า กะ สถานการณ์ 4 ทีมสุดท้าย จากคุณ : tongtigger เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:44:28

ความคิดเห็นที่ 35 ทำไมคุณพยาบาลถึงกับจะลาออกเลยเหรอคะ ประชดใครให้ได้อะไรขึ้นมา เราทำงานสายการแพทย์ ขนาดเป็นคนใน บางครั้งยังเจอกิริยาที่ไม่ดีของพยาบาล เราเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากพยาบาลขาด จิตใจบริการ เราว่าคุณพยาบาลน่าจะเอาเรื่องนี้ไปขบคิดและปรุบปรุงตัวเองดีกว่า ในหลาย ๆ ความเห็นของกระทู้ต้นเหตุก็พูดคล้าย ๆ กันเกี่ยวกับการบริการของคุณพยาบาล หมายเหตุ ไม่ได้เข้าข้างเจ้าของกระทู้นะคะ จากคุณ : panic (panic) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:52:06

ความคิดเห็นที่ 36 เอ่อ คงไม่ได้ตั้งใจลาออกจะประชดใครหรอกมั้งคะ เราคิดว่าโดนจั่วหัวซะว่าเป็นสาเหตุให้ลูกเขาเกือบตาย และก็ทั้งยังทำให้คนอื่นที่เข้ามาอ่านถึงกับบอกว่าจะคิดใหม่หากจะมารับบริการที่รพ. ถ้าคุณพยาบาลจะตัดสินใจยื่นใบลาออก ก็ไม่แปลกค่ะ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:26:35

ความคิดเห็นที่ 37 จริงๆแล้ว หากคุณพยาบาลท่านนั้นไม่จำเป็นต้องลาออกเลยนี่คะ แค่ปรับปรุงวิธีการสื่อสารหรือบริการคนไข้ให้ดีขึ้น คนไข้ท่านอื่นๆที่ไปพบเจอคราวหน้าจะได้ประทับใจ และรู้สึกดีต่อตัวคุณพยาบาลเองและโรงพยาบาลมากขึ้นกว่าเดิม ..เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ จากคุณ : Closer Escape เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:29:03

ความคิดเห็นที่ 38 เราไม่ได้เข้าข้างจขกท.นะคะ แต่จากกระทู้แรก ในมุมมองของเราคุณแม่นำจดหมายที่ร้องเรียนนางพยาบาบคนหนึ่งกับทางรพ.มาลงในบอร์ดสาธารณะ เป็นธรรมดาที่คนอ่านอยากรู้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น รายละเอียดต่างๆจึงออกมา ทำให้เกิดการหักมุมอย่างที่หลายๆคห.บอก แต่ถ้ามองจากจุดเริ่มต้น จขกท.เค้าต้องการ complainพยาบาลไม่ใช่เหรอคะ ดังนั้นถ้ามองที่จุดนั้น พยาบาลเมื่อรับรู้แล้วก็ควรจะมองดูและปรับปรุงการทำงานและประสิทธิภาพของตัวเองค่ะ ส่วนคุณหมอที่ออกมาแจกแจงรายละเอียดนั้น ดีมากๆค่ะ จะได้เป็นกรณีศึกษาเป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ ส่วนตัวจขกท. ถ้าจะขอโทษควรจะขอโทษคณะหมอ ส่วนเรื่องพยาบาลนั้นเราต้องการร้องเรียนก็ต้องตามนั้น ถ้ามันเป็นเจตนารมณ์จริงๆ ถ้าจะขอโทษก็แค่เรื่องเอามาบอกที่บอร์ดสาธารณะเท่านั้นค่ะ เราเห็นด้วยที่ให้ไปขอโทษคุณหมอโดยตรง แต่ส่วนคุณพยาบาลขอโทษในบอร์ดคงเพียงพอ หากเราต้องการให้เค้าปรับปรุงการทำงานจริงๆ เดี๋ยวจะกายเป็นว่า..ฉันก็คงยังทำตัวอย่างนั้นต่อไป เพราะเค้ามาขอโทษชั้นแล้ว ชั้นไม่บกพร่องอะไร ก็จะเป็นอย่างนั้นไป แสดงความคิดเห็นด้วยความเคารพทุกฝ่ายค่ะ ปล.ถ้าออกคห.เห็นใจจขกท.ต้องหงายเงิบด้วยเหรอคะ งงกับบางคห.ค่ะ จากคุณ : lovers เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:32:12

ความคิดเห็นที่ 39 การที่พยาบาลคนนั้น ถูกเอาชื่อมาอ้างว่าทำให้ลูกคนอื่นเกือบตาย ไม่สมควรได้รับการขอโทษหรอคะ ด่าเค้าไว้ก็เยอะนะ คุณจะตำหนิเรื่องการทำงานที่ไม่ใส่ใจคนไข้ก็อีกเรื่อง แต่คุณก็ผิดที่เอาชื่อเค้ามาออกบอร์ดสาธารณะแบบนี้ ทำไมคุณถึงจะไม่ไปขอโทษหรือคะ หรือว่าไม่เกรงใจเพราะเขาเป็นพยาบาล คนทำดีทำำผิดย่อมแก้ไขนะคะ ส่วนตัวเรามองทุกคนเป็นคนเหมือนกัน จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:39:48

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นด้วยกับคห. 26ค่ะ จากคุณ : lovers เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:45:08

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าผมเป็นคุณหมอ หรือ พยาบาลของ BNH มาอ่านข้อความกั๊กๆแบบนี้ ก็แปลว่าไม่ได้เต็มใจอยากขอโทษล่ะครับ จากคุณ : tanoy_delphi เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:45:34

ความคิดเห็นที่ 42 บางความเห็นก็นะ สงสารพยาบาลจริงๆ พยาบาลลาออกก็บอกว่าเค้ามากไป เยอะไป คุณไม่คิดมั้งเหรอว่าพยาบาลต้องลาออกเพื่อกู้หน้าให้โรงพยาบาล อย่างน้อยลาออกยังพอมีโอกาสไปสมัครงานที่อื่นได้ แต่ถ้าโดนไล่ออกมันถึงขั้นจบอนาคตในวิชาชีพสายนี้ บอกตรงๆนะคะว่า ถ้าไม่พอใจพยาบาล ทำไมไม่พูดไม่ถามไปเลย ทำไมไม่บอกไปเลยว่า ลูกชั้นป่วยหนักนะ จะลัดคิวให้หน่อยไม่ได้เหรอ ลูกตัวบวมแล้วนะ ก็แจ้งความประสงค์คุณไปสิคะ ส่วนคนที่บอกว่า จขกท บ่นพยาบาล ไม่ได้บ่นหมอ ก็จขกทจั่วหัวว่าพยาบาลทำลูกเค้าเกือบตาย คุณหมอเลยมาชี้แจงว่า น้องป่วยเพราะอะไร ไม่ใช่เพราะพยาบาลที่ทำให้น้องป่วยหนัก แล้วมันผิดตรงไหนที่หมอจะออกมาชี้แจง อยากให้ทางโรงพยาบาลกับคุณพยาบาลฟ้องจัง จากคุณ : เอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่น เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:49:06 A:74.115.199.33 X: TicketID:141768

ความคิดเห็นที่ 43 จากที่อ่านมาเข้าใจว่าพยาบาลคนนั้นเค้าประเมินสภาพการป่วยของลูกคุณจขกท.ผิดพลาดและมารยาทก็แย่และอีกหลายคห.ก็มีประสบการณ์คล้ายๆกัน เรื่องนี้ถ้าเป็นความจริงเราคิดว่าควรปรับปรุงนะคะ ส่วนคุณหมอเด็กที่ออกมาชี้แจง เราไม่แปลกใจเลยที่ใครๆก็พูดตรงกันว่าเป็นคุณหมอเด็กคิวทอง ตรงประเด็นและให้ความรู้สึกใจดีค่ะ ^_^ จากคุณ : Whatever love means เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:51:28

ความคิดเห็นที่ 44 ดีแล้วค่ะ ที่มีเห็นด้วย... ไม่เห็นด้วย ในกระทู้เดียวกัน ทำให้พอมองพื้นฐานความคิดของคนได้ค่ะ... เป็นกรณีศึกษาธรรมชาตินิสัยมนุษย์ได้ ทำให้เห็นความแตกต่างระหว่าง... ความไม่ยุติธรรม กับ ความยุติธรรม นั้นมันตั้งอยู่บนพื้นฐานอะไรของแต่ละคน ท่านจขกท. และชื่อท่านๆที่ถูกนำมาอ้างอิง ตั้งแต่ตอนเกิดเหตุที่โรงพยาบาล การสื่อสารที่ตั้งอยู่บน ไม่ลดอัตตา มีทิฐ เข้าข้างตัวเอง... มันจึงบานปลายออกมาแบบนี้... ก็ดีเหมือนกัน ท่านทั้งสองฝ่ายจะได้ระวังตัวเองในการไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัว และคงปรับปรุงการปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความอ่อนโยนและตั้งอยู่ในอุเบกขาขึ้น จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:53:28

ความคิดเห็นที่ 45 คห 23 คะ คณมีญาติทำอยู่ รพ นั้นเหรอคะ ฝากไปบอกพยาบาลท่านนั้นด้วยได้ไหมคะ ปรับปรุงความเป็นมืออาชีพ ในการเป็นพยาบาลด้วยนะคะ ให้เธอยอมรับด้วยว่า เธอ ก็ผิดจริง .. เน้อ.. แต่ถ้าใจไม่รักในอาชีพจริงง ลาออก ก็ดีแล้วนะคะ. จะได้ไม่อึดอัด อ้อ เราให้ความเห็นเกี่ยวกับพยาบาลท่านนั้นไว้กระทู้ที่หมอมาชี้แจง นั่นคือความคิด ที่เราคิดต่อเธอค่ะ ในนี้เราไม่ขอพูดซ้ำ แต่เธอควรยอมรับว่า เธอก็ผิด ถึงแม้อาการเด็กจะไม่ถึงตาย การทำงานของเธอก็ไม่ดีจริง .. จงยอมรับด้วย จขกทเองก็ผิด .. อันนี้เขาออกมายอมรับแล้ว พยาบาลท่านนั้นควรยอมรับด้วยนะคะ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 16:05:12 จากคุณ : omelet-t เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:57:24

ความคิดเห็นที่ 46 ผมก็ว่าน่าฟ้องนะครับ การวิจารณ์(ประจาน)ในบอร์ดสาธารณะ โดยคนที่ถูกวิจารณ์ไม่ใช่บุคคลสาธารณะ นี่เรื่องใหญ่นะครับ จากคุณ : แม่ลูกหมู เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:58:09

ความคิดเห็นที่ 47 ที่น่าจะฟ้องมากที่สุดก็คือ พวกผสมโรงด่าสนุกปากมากกว่า จากคุณ : ริมน้ำคาน เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 16:10:27

ความคิดเห็นที่ 48 ก็เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่นะคะ เวลาลูกป่วยนี่ มันใจเสียมาก. แต่ก็งงๆ ว่าทำไมคุณแม่ไม่แอดมิทตั้งแต่หมอแนะนำครั้งแรก ไหนจะตอนหมอห้องฉุกเฉินอีก กลับเลือกจะอุ้มลูกมานอนรอหมอจนเช้าแทน ส่วนของพยาบาล โดนจั่วหัวว่าเกือบทำเด็กตาย เป็นหัวกระทู้อยู่จนคนมาด่าขนาดนี้ ไม่เครียดก็ไม่รู้จะพูดยังไง เธอก็พลาดตรงที่ไม่ได้สื่อสารกับคุณแม่ให้เข้าใจ แต่รู้สึกว่าโทษของเธอมันไม่น่าจะต้องหนักขนาดนี้ ส่วนที่คุณหมอออกมาอธิบาย ชัดเจนดี แม้บางส่วนอาจจะฟังรุนแรงไปนิดสำหรับความผิดพลาดของคุณแม่ แต่ก็เป็นส่วนที่จำเป็นต้องอธิบายให้คนที่ติดตามเรื่องเข้าใจถึงสถานการณ์ หวังว่าน้องจะหายเร็วๆ สุขภาพแข็งแรงนะคะ และหวังว่าเรื่องจะจบลงด้วยดีค่ะ จากคุณ : Chiyuri เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 16:13:50

ความคิดเห็นที่ 49 ฟ้องเราว่าเสียเวลาค่ะ อย่างมาก ศาลก็ให้ เขียน ขอโทษ จขกท ก็ทำแล้วจะฟ้อง อะไร แม่ที่มีลูกป่วย โดยที่ไม่รู้ชัดเจนถึงอาการป่วย การตีโพยตีพาย ปกป้องสิทธิ์ในการรับบริการ ศาลเขา มีความคิดพอป่ะคะ ถ้า อยู่ๆ ก็มาเขียนว่า โดยแต่งปั้นเรื่องขึ้นมา ค่อยไปฟ้อง จขกท ก็สามารถฟ้องได้นะ ว่า เธอท่านนั้น ทำงานบกพร่องอย่างไร ออกมายอมรับผิดอย่างแมนๆ ดีกว่า จขกทยอมรับแล้ว ทางคุณพยาบาลล่ะคะ ปล. ไม่มีใครด่าสนุกปากหรอก เรื่องจริงคือพยาบาล มีข้อผิดพลาด ทำไมไม่ยอมรับมันคะ??? เรื่องจริงก็คือ จขกท เขียน เยอะเกินจริง จขกท ยอมรับแล้ว ควรยอมรับมากกว่า จะมาทำให้รู้สึก ไม่ชอบ รพนี้ จนแอนตี้ได้นะคะ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 16:26:03 จากคุณ : omelet-t เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 16:18:44

ความคิดเห็นที่ 50 จริงๆ จะจบกระทู้แล้วค่ะ ถือว่ามาอัพเดทแล้วกันนะคะ เมื่อสักครู่ ผู้ใหญ่ของทางโรงพยาบาลได้โทรมาขอโทษดิฉันเมื่อสักครู่เรียบร้อยแล้วค่ะ เนื้อหาก็ประมาณว่า ที่เค้าใช้เวลานานกว่าจะติดต่อกลับมาเพราะมันเกี่ยวข้องกับหมอหลายท่าน คงมีการสอบสวนภายในอะค่ะ แล้วก็บอกว่าทางพยาบาลก็เสียใจกลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดิฉันก็บอกว่าเสียใจและขอโทษเหมือนกันที่อาจจ่าหัวเรื่องแรงเกินไป ก็ฝากขอโทษไปยังพยาบาลท่านั้นด้วย จากคุณ : PantipAddict เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 16:27:43

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นด้วยกับคุณ Jo_Smart อย่างมากค่ะ คุณแม่ไม่ต้องคิดมากนะคะ เราเข้าใจหัวอกแม่ในฐานะคนเป็นแม่เหมือนกัน แม้ลูกป่วยแม้เล็กน้อยเราก็นอยด์อยู่แล้วด้วยความเป็นห่วงลูกเท่าดวงใจ เรานั่งอ่านทั้งสองกระทู้แล้ว เราว่าบกพร่องตรงการสื่อสารต่อกันมากกว่า ทั้งตัวคุณแม่ พยาบาล และคุณหมอ เราไม่แน่ใจว่าวันนั้นคุณหมออธิบายกระจ่างชัดแบบในกระทู้ชี้แจ้งรึเปล่า ถ้าไม่อธิบายเช่นนั้นเราก็คิดว่าคุณแม่ก็คงมีการเข้าใจผิดได้ เพราะส่วนใหญ่เท่าที่เราเคยสัมผัสและทำงานใน รพ. บางครั้งคุณหมอ และพยาบาลเค้าเห็นเรื่องการเจ็บป่วยจนชิน คือบางทีอาจะไม่ได้อธิบายอะไรละเอียดหนะคะ เพราะคิดว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก กลับกันบางทีคนไข้ก็ไม่ได้ถามในสิ่งที่สงสัยด้วย(คือหมอบางท่าน ถ้าไม่ถามก็จะไม่ได้อธิบายอะไรมาก อธิบายแค่คร่าวๆ เพราะต้องตรวจเคสจำนวนมาก หรือถ้าเจอหมอวีนๆ หน่อยถามมากไปก็โดนบ่นอีก :P) ส่วนคุณพยาบาลก็น่าจะแสดงความเอื้ออาทรซักนิดเวลาที่พูดคุยกันคุณแม่ แสดงความอยากช่วยเหลือซักนิดหนะคะ ถึงแม้งานล้นมือ น่าจะทำให้อะไรๆ มันดีกว่านี้ จากคุณ : unpanggirl เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 16:39:51

ความคิดเห็นที่ 52 เรื่องจบลงด้วยดีก็ดีแล้วนะคะคุณจขกท. เป็นประโยชน์มากๆค่ะสำหรับเคสการป่วยของน้อง และข้อมูลการชี้แจงของคุณหมอ เป็นแนวทางในการดูแลลูกน้อยสำหรับแม่ๆต่อไปนะคะ และเป็นอุทาหรณ์สำหรับการโพสต์ในบอร์ดสาธารณะด้วยค่ะ จากคุณ : lovers เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 16:40:05

ความคิดเห็นที่ 53 จาก คห 50 ดีใจด้วยนะคะ ที่จบแบบแฮปปี้แล้ว :) ทางพยาบาล ก็มีสปิริตดีค่ะ ที่แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราโอเคกับเธอ มาก ที่เธอไม่นิ่งไปเฉยๆ ต่อไป มีอะไร คุณแม่เอง ต้องพูดต้องเคลียร์ ให้ชัดเจน ตั้งแต่ต้นเลยนะคะ อย่าเก็บเงียบไว้ จะได้ไม่เข้าใจผิดกันอีกค่ะ จากคุณ : omelet-t เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 16:51:34

ความคิดเห็นที่ 54 เข้าใจทั้งคุณแม่และคุณหมอคะ ให้กำลังใจทั้งสองฝ่ายนะคะ ในฐานะที่มีลูกเหมือนกัน ลูกเป็นอะไรนิดหน่อยก็เหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่โต พี่สาวก็เป็นหมอคะ ทราบดีว่าหมอมีงานล้นมือ แทบไม่มีเวลาส่วนตัวเลย อยู่บ้านเดียวกัน บางวันไม่ได้คุยกันสักคำ คุณแม่อย่าคิดมากนะคะ เรื่องผ่านไปแล้ว ให้มันผ่านไป ดูแลลูกวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่ออนาคตที่ดีต่อๆไปคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ส่วนคุณหมอก็ได้ให้ความรู้ที่ดีมากๆคะ เป็นสิ่งที่ดิฉันและหลายๆคนไม่ทราบ ขอขอบคุณคุณหมอมากๆคะ จากคุณ : มาดามซอง เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 16:53:52

ความคิดเห็นที่ 55 ยินดีด้วยค่ะ ที่ได้คำตอบจากรพ.แล้ว ทางเจ้าของกระทู้ก็ได้ตั้งกระทู้ขอโทษแล้ว แม้จะถูกใจหรือไม่ถูกใจท่านไหนก็ตาม ----- ฝากถึงผู้บริหารรพ.ด้วยนะคะ ระบบกับพยาบาลบางคน ระบบคิว ต้องปรับปรุงจริงๆนะคะ ในโรงพยาบาลระดับเดียวกัน เขามีวิธีจัดการให้คนไข้รู้สึกได้รับการบริการดีกว่าค่ะ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:05:57

ความคิดเห็นที่ 56 อ่านตั้งแต่กระทู้แรกที่เจ้าของกระทู้บิดเบือน ปั้นเรื่อง ก็ยังไม่เห็นว่าพยาบาลจะผิดมากมายอะไร  ยิ่งอ่านที่คุณหมออธิบาย ยิ่งไม่เห็นว่าพยาบาลจะบกพร่องที่ตรงไหน พอหมอมาอธิบาย ก็มีคนว่าหมอดิสเครดิต เบี่ยงประเด็น  บอกว่าเจ้าของกระทู้ตำหนิพยาบาลไม่ได้ตำหนิการรักษาของหมอ  .....แต่เราว่า เจ้าของกระทู้ไม่ได้ตำหนิพยาบาล แค่เอาเธอมาเป็น "แพะ"มากกว่า บางความเห็นว่า เจ้าของกระทู้แค่พูดเยอะเกินจริง แต่เท่าที่อ่าน นี่มันเข้าขั้นใส่ร้ายปรักปรำเลยนะคะ "ลูกเกือบตายเพราะความไม่ช่วยเหลือของพยาบาลชื่อ xxxx "  นี่หรือคะ เรียกว่าแค่ เยอะเกินจริง บางคนบอกแค่สื่อสารไม่ดี ....แต่เท่าที่อ่าน เจ้าของกระทู้ปฏิเสธทุกข้อคิดเห็นของหมอ  อาการขนาดหมอให้แอดมิท เจ้าของกระทู้ยังกล้าเอาลูกกลับบ้านได้ น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น "ลูกเกือบตายเพราะความอวดรู้ของคนเป็นแม่" มากกว่านะคะ จากคุณ : บนล่างซ้ายขวาหัวใจอยู่ที่เดิม เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:00:08

ความคิดเห็นที่ 57 บางรพ.ก็อยากให้แอทมิทซะเกินจำเป็น (จากประสบการณ์) จากคุณ : aewbank (aewbank) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:57:42

ความคิดเห็นที่ 58 เราว่าการเอาชื่อจริงเค้ามาลงแบบนี้ และทำให้เค้าเสียหายอย่างเป็นรูปธรรมขนาดนี้แล้ว (เชื่อเถอะว่าเรื่องนี้อย่างน้อยก็ต้องดังในวอร์ดเด็กแทบทุกโรงพยาบาลแน่ ยังไม่นับคุณแม่ๆที่เล่นพันทิป และคนที่เอาไปแชร์ต่ออีก) แล้วตอนหลังแค่มาบอกว่าขอโทษนะ ตอนนั้นเป็นห่วงลูกมากไปหน่อย อย่างนี้มันก็ไม่ไหวนะ ไม่ต้องมาถามนะว่า แล้วจะต้องให้ทำยังไงถึงจะพอใจ เราว่าถ้าจริงใจในการรู้สึกผิดว่า เราก็เกินไปจริงๆ น่าจะแสดงออกให้เห็นมากกว่านี้ว่ามีความจริงใจในการขอโทษ (ถึงแม้ว่าพยาบาลจะหน้าหงิกหน้างอ บริการไม่ดี ตามที่เล่าลือ แต่เราว่าเค้าไม่ได้มีความผิดขนาดจะต้องเอามาประจานให้เสียชื่อเสียงในวงวิชาชีพขนาดนี้) ลองคิดดูว่าถ้าชื่อจริงของคุณพร้อมที่ทำงานถูกแพร่ไปในทางเสียหายต่อวิชาชีพตัวเองขนาดนี้ คุณจะรู้สึกยังไง และจะทำอะไรต่อ อยากให้คิดดูให้มากๆ ว่ามันสมควรกับการบริการที่คุณรู้สึกไม่ประทับใจหรือไม่ อยากให้ลองคิดดูว่าควรทำยังไงต่อไปจึงจะเป็นการเหมาะสม แต่ถ้าคิดว่าฉันก็ไม่ผิด ขอโทษแล้วจะเอาอะไรอีก อันนั้นก็ไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนกัน (อันนี้ไม่้ต้องมาประชดว่าจะให้ไปกราบ หรือให้เงิน หรืออะไรนะคะ ขอให้คิดอย่างคนมีวุฒิภาวะ) จากคุณ : Snow_flurry เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:00:32

ความคิดเห็นที่ 59 เราว่าทีเรื่องมันเกิดเพราะจขกท.เล่าไม่ครบจนคนอื่นเข้าใจผิด โดยที่คู่กรณีไม่มีโอกาสมาชี้แจงเลย (ทั้งคุณหมอและพยาบาลและโรงพยาบาล) เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ต้องการเล่าเรื่องให้สาธารณชนฟังควรเล่าเรื่องให้ครบถ้วน ซึ่งตรงนี้ยากหน่อยถ้าคิดเข้าข้างตัวเองมากไป และที่สำคัญอย่าพาดพิงถึงขั้นเอ่ยชื่อใครนะคะ ที่สำคัญจขกท.ยังไม่เข้าใจสาเหตุของอาการป่วยของลูกคิดว่าที่เข้า ICU คืออาการหนักเกือบตายแล้ว ทั้งๆที่คุณหมอออกมาบอกว่าได้อธิบายจขกท.พร้อมสามีและคุณยายเป็นชม.ว่าต้องใส่สายสวนปัสสาวะเพื่อประเมินอาการและต้องติดตามใกล้ชิดจึงย้ายไป ICU มิใช่เพราะน้องอาการหนักหนาแต่เพราะที่วอร์ดนั้นไม่สามารถติดตามอาการได้ตลอดเวลาเหมือน ICU เราเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่แค่ได้ยินคำว่า ICU ก็คงตกใจและกลัวมาก..แต่การตั้งสติและทำความเข้าใจในถ้อยคำที่หมออธิบายนั้นสำคัญยิ่งเพราะนอกจากคุณจะกังวลแล้ว คุณอาจจะทำให้คนในครอบครัวกังวลเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นด้วย เคยมีคุณหมอท่านนึงบอกกับเราว่าสติคือทางออก..ถ้ามีสติยังไงก็เจอทางออก ความกังวลและลนลานไม่ได้ช่วยอะไร..ตอนนี้เหตุการณ์มันผ่านไปแล้วจบไปแล้ว ขอให้น้องหายเร็วๆ แข็งแรง และขอให้จขกท.เป็นแม่ที่มีสติเป็นหลักให้แก่ลูกนะคะ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 19:10:43 จากคุณ : Z-Cube เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:09:56

ความคิดเห็นที่ 60 คห 56 พยาบาลไม่ผิดมากมายอะไร และถือว่าผิดไหมล่ะคะ ผิดยัง ช่วยแถไม่ผิด อีก ไม่ใช่คนที่คุณรักหรือเปล่า คุณเลยคิดว่า ไม่ผิดมากมายอะไร เอาคำอธิบายหมอมาอ้างอีกละ ใครเขาจะกล่าวตำหนิคนในองค์กรตัวเองด้วยเล่า ทำแบบนั้นก็เขลาแย่แล้ว อันนี้ต้องบอกว่า "เพราะคำช่วยแถ ให้เธอพยายามไม่ผิด ของบางคห. ทำให้หมั่นไส้เธอเพิ่มขึ้น จากที่โอเคกับเธอไปแล้ว" จากคุณ : omelet-t เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:12:30

ความคิดเห็นที่ 61 ดูท่าคุณ omelet-t มีเหตุฝังใจกับพยาบาลหรือเปล่าคะ..เราว่าจะผิดไม่ผิดเค้าก็เคลียกันไปแล้ว ปล่อยวางเถอะนะคะความคิดเห็นคนเราย่อมต่างกันค่ะ ใจเย็นๆนะคะ จากคุณ : Z-Cube เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:15:49

ความคิดเห็นที่ 62 เรื่องจบลงด้วยดีนะคะ ต่างคนต่างมุมมองอยู่แล้ว เราเห็นใจคุณแม่นะคะ แม่คนในยามที่ลูกป่วยหนัก ต่างอยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เค้าอยู่แล้ว แต่เราอ่านที่คุณหมอมาตอบ แล้วชอบตรงที่ได้อธิบายรายละเอียดทางการแพทย์ได้ดี เราก็เรียนรู้ไปด้วย แต่แอบไม่ชอบในน้ำเสียงสักเท่าไหร่ เช่น เรื่องเบิกค่านมจากรัฐบาล ที่จริงไม่เห็นจำเป็นเลยที่ต้องอ้างถึง เอาจริงๆเราว่า บำรุงราษฏ์ดีกว่าเยอะอ่ะคะ ในระดับเดียวกันนะคะ ที่จริงสมิติเวช ก็ดีมาก พยาบาลมีมารยาททุกคน จากคุณ : Felizabelle เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:31:22

ความคิดเห็นที่ 63 เราเห็นใจพยาบาลคนนั้นนะ ทำงานหนักก็หนัก เหนื่อยก็เหนื่อย แถมจะต้องมารองรับความเยอะ ของ คนไข้บบางคน  บางเคสพยายามอธิบายอะไร พยายามพูดแต่ก็ไม่ฟัง ทำอะไรพูดอะไรก็เหมือนจะผิดหมดไปซะทุกอย่าง อย่าคิดว่า ชั้นมีเงิน ชั้นจะ ด่าจะประจานใครโดยที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางได้ เข้าใจว่าบางท่านห่วงลูก  แต่คนที่ทำงานเค้าก็มีหัวใจเหมือนกัน ดีแล้วแหละที่คุณพยาบาลลาออก บางทีกลับมาทำงาน รพ รัฐบาล ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยากจน ที่เค้าต้องการเราจริงๆ ยังจะดีกว่าทำงาน ที่เหมือนจะรองรับ อารมณ์คนมีฐานะดี แต่ ความฉลาดทางอารมณ์อาจจะไม่ดีก็ได้ จากคุณ : สบายดีไหม เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:55:15

ความคิดเห็นที่ 64 คห 60 เราแถตรงไหนคะ? รบกวนอ่านให้กระจ่าง ที่บอกว่าไม่ผิดอะไรมากมายคือตอนอ่าน กระทู้ของคุณคนที่เรียกตัวเองแม่ค่ะ ขนาดที่เธอใส่ร้ายเกินจริงขนาดนั้น เรายังไม่รู้สึกว่าคุณพยาบาลผิดอะไรมากมายขนาดที่เธอกล่าวอ้างว่าคุณพยาบาลเป็นสาเหตุให้ลุกเธอเกือบตาย เป็นสาเหตุให้ครอบครัวเธอเสียเงินอีกเดือนละ16500 เป็นค่านมต่อเดือน...แล้วยิ่งมาอ่านที่คุณหมอชี้แจง ยิ่งมองไม่เห็นความผิดใดๆเลย แล้วที่บอกว่า เอาคำชี้แจงของคุณหมอมาอ้าง กลายเป็นเราเขลา เราควรฟังความข้างเดียวแบบคุณหรือคะจะได้ยกหางตัวเองว่าฉลาดได้ ? จากคุณ : บนล่างซ้ายขวาหัวใจอยู่ที่เดิม เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:25:23

ความคิดเห็นที่ 65 คุณ z-cube ทำไมถึงคิดว่าเราฝังใจกับเธอล่ะคะ เธอปฏิบัติไม่ดีกับคนไข้บ่อยหรือคะ ที่เราเน้นพยาบาล ก็เพราะ เป็นเรื่องของพยายาลไม่ใช่เรื่องอื่น ช่วยบอก คห อื่นปล่อยวางด้วยสิคะ มันไม่ใช่เรื่องของเราอ่ะค่ะ แค่เราก็ชี้แจงความคิดที่มีต่อเธอ ค่ะ อย่าต่อข้อความที่เราเขียน เพราะเราก็จบ แล้ว นะ แก้เพิ่ม.. สำหรับ คห 64 อ่านไม่เข้าใจนะคะ.. ที่บอกว่าเขลาไม่ใช่คุณ .. แต่คนที่มาว่าคนในองกรตัวเอง มีน้อยค่ะ คนที่จะมาว่าคนในองค์กรตัวเอง มันโง่เกินไปว่าไหมคะ ไม่ได้ว่าคุณนะคะ.. แล้วที่ว่าเราฟังความข้างเดียว ไม่จริงค่ะ เราก็ฟังด้านคุณหมอ ด้วยไง.. แล้วทำไม จขกท ถึงฝังใจจังว่า เธอ เป็นสาเหตุ เพราะอะไรอ่ะ ในเมื่อเธอเขียน ร้องเรียนไป ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง เธอก็ซวยอยู่แล้ว... เราไม่ได้เชื่อใคร ไม่งั้น คอมเม้นไปตั้งแต่กระทู้ แรกแล้ว เข้าใจป่ะ.. แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 20:47:24 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 20:41:50 จากคุณ : omelet-t เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:36:08

ความคิดเห็นที่ 66 เราแซวเล่นนะคะอย่าถือสา เราไม่เคยไปใช้บริการหรอกค่ะไกลบ้านมากกกกกก ปล.เราแต่คิดเอาเองว่าจขกท.คงไม่อยากให้มีมาม่าเพิ่มน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 20:51:53 จากคุณ : Z-Cube เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:47:27

ความคิดเห็นที่ 67 คุณความเห็น 65 คุณก็รู้คำตอบอยู่แล้วนี่คะ ก็คำว่า "ฝังใจ" ไงคะ เธอฝังใจในหลายเรื่อง เธอ"ฝังใจ"ว่าสาเหตุมาจากคุณนางพยาบาล เหมือนที่เธอ"ฝังใจ"เรื่องนมแม่ เลยปฏิเสธที่จะเชื่อคำแนะนำของหมอที่ให้งดนมแม่   เหมือนที่เธอ"ฝังใจ" เรื่องความน่าเชื่อถือของหมอหนึ่ง จนไม่ยอมเชื่อหมออีกคน แล้วการที่เธอ"ฝังใจ" ...จำเป็นเหรอคะ ว่าสิ่งที่เธอ"ฝังใจ"อยู่นั้นถูกต้อง? จากคุณ : บนล่างซ้ายขวาหัวใจอยู่ที่เดิม เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 21:13:24

ความคิดเห็นที่ 68 เจ้าของกระทู้ทำไม่ถูกที่เขียนพาดพิงถึงชื่อพยาบาลในบอร์ดสาธารณะ ทั้งๆที่ควรจะไปร้องเรียนกับโรงพยาบาลต้นสังกัดมากกว่า   พอคุณหมอมาเขียนเล่าถึงความดื้อรั้นของเจ้าของกระทู้และครอบครัวที่มีต่อคำแนะนำของคุณหมอท่านอื่นๆในการช่วยเหลือลูกของเจ้าของกระทู้     เจ้าของกระทู้กลับนิ่งเฉยไม่โต้ตอบ  หมอพยาบาลเค้ามีจรรยาบรรณในวิชาชีพที่ค้ำคออยู่ที่จะไม่เปิดเผยชือคนป่วย หรือข้อมูลต่างๆ   คิดในมุมกลับ ถ้าความผิดพลาดของคนเป็นแม่และครอบครัว ถูกเขียนถึงออกสื่อสาธารณะ พร้อมชื่อ นามสกุลบ้าง  คุณจะรู้สึกอย่างไร   คราวหน้าคราวหลังก่อนจะติติงใครออกสื่อสาธารณะ  คิดเสียก่อนนะคะ   สงสารก็แต่ลูกของคุณ  ขออวยพรจากใจจริงให้น้องหายดีเป็นปกติในเร็ววันค่ะ จากคุณ : MCCGO เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 21:19:31

ความคิดเห็นที่ 69 จขกท.เค้าขอโทษแล้ว จะเถียงกันอะไร ที่เค้าไม่มาต่อเพราะอยากจะจบให้ ทั้งที่เค้าอยากจะโต้ในหลายๆแง่ แต่กระแสแรงๆแบบนี้ และกับบางคห.ที่วิจารณ์อย่างกับไปอยู่ในเหตุการณ์ เขียนรุนแรงแบบใส่อารมณ์ ก็ไม่รู้มีปัญหากับชีวิตจริงหรือกระไร เราเป็นจขกท.เราก็ไม่มาอธิบายให้เมื่อยหรอก เอาเวลาไปดูแลลูกดีกว่าตั้งเยอะ จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 21:41:34

ความคิดเห็นที่ 70 รู้สึกกับบางความเห็นว่า แสดงความคิด เข้าข้าง จขกท มากผิดปกติ คล้ายมีความสัมพันธ์ส่วนตัว จากคุณ : lillyjung เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 21:47:03

ความคิดเห็นที่ 71 ถ้าหมายถึงเราละก็ ตอบได้เลยว่าไม่มี สงสัยได้เราเข้าใจ แต่ก็ตอบตรงๆว่าไม่มี ในพันทิพย์รู้จักแค่สองล็อคอิน นอกนั้นไม่รู้จักใครหรอก จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 21:56:47

ความคิดเห็นที่ 72 เรื่องจบก็ดีแล้วค่ะ เรื่องนี้คงเป็นบทเรียนให้รพ และจขกท ไม่มากก็น้อย แต่เราว่าที่พยาบาลอยากลาออกก็ไม่แปลก ลองคิดว่าถ้าเป็นเราโดนเอาชื่อพร้อมที่ทำงานมาลงประจานให้คนเป็นพันอ่าน ถึงจะมาขอโทษทีหลัง แต่เราคงอับอายจนไม่อยากจะทำงานอยู่ที่เดิมหรอกค่ะ เพราะคนในวงการคงเม้าท์กันไปสนุกปากแล้ว และเชื่อได้เลยว่าต่อแต่นี้ไป คนไปหาวอร์ดเด็กที่เคยอ่านกระทู้นี้ก็จะคอยสอดส่องว่าใครนะพยาบาลคนนี้ หน้าตาแบบนี้ๆใช่ไหม(เราเองยังอยากรู้เลยค่ะ เผือกได้อีก แหะๆ) คิดดูสิคะ เธอคงกดดันน่าดูเลย เฮ้อ..สงสารค่ะ จากคุณ : Rada Nene เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:08:18

ความคิดเห็นที่ 73 หัวใจของคนเป็นแม่ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่า ลูกรักป่วยและร้องไห้และการรอคอยที่ยาวนานทุกนาที ช่างทรมารใจที่สุด เจ้าหน้าที่ก็ทุกคนมีหน้าที่ต้องทำจึงไม่สามารถยิ้มได้เหมือนอย่างนางสาวไทย ดังนั้นอย่าคิดโทษใครเลยค่ะ เพราะใจจะไม่เป็นสุขเก็บไว้เป็นบทเรียนดีกว่าค่ะ ขอให้น้องเป็นเด็กที่แข็งแรงนะค่ะ จากคุณ : memeapril เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:09:33

ความคิดเห็นที่ 74 ถึงตรงนี้แล้ว ปล.ส่วนตัวเราก็มองว่า คุณพยาบาล เราอ่านจากที่คุณหมอตอบมา ตัวพยาบาลเห็นว่า จขกท ผ่านER มาแล้ว ซึ่งถ้ามานั่งรอที่ OPD ก็น่าจะไม่ใช่เคสด่วนแล้ว เพราะว่า ถ้าด่วน หมอที่ER คงแจ้งมาวอร์ดเด็ก ตามหมอเฉพาะทางไปดูเลย หรืออีกแบบก็ มีหมอเฉพาะทางอยู่ ER อยู่แล้ว แต่ จขกท ไม่มั่นใจ เลยมารอหมอประจำตัว ซึ่งหากไม่ได้นัดไว้ แล้วแค่มาเดินถามพยาบาลว่า หมอมายัง หมอว่างยัง แล้วจะแทรกคิว ก็คงไม่เป็นธรรมกับคนที่มารอคิวเท่าไร ดีไม่ดี คนที่มารอคิวร้องเรียน ก็จะแย่ไปอีก อันนี้เรียกว่า คุณพยาบาล ซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง จากคุณ : saengchot เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:28:48

ความคิดเห็นที่ 75 ชอบคุณคุณ PantipAddict ที่มาจบเรื่องในบอร์สาธารณะไว้เพียงเท่านี้ ดิฉันอ่านกระทู้ต้นเรื่องจนหมดทุกความเห็น กระทู้ของคุณหมอที่ถูกเอ่ยถึง โดยไม่พยายามใส่ความคิดส่วนตัวลงไป ไม่อยากสรุปว่าใครถูกใครผิด แต่ขอชื่นชม ที่คุณกล้ายอมรับผิดที่นำชื่อคุณพยาบาลออกสื่อ และเอ่ยขอโทษเธอบนเวปบอร์ดแห่งนี้ ขอให้เรื่องจบลงด้วยดีทุกฝ่าย และอยากให้ทุกท่านหยุดวิพากวิจารณ์ อย่าพยายามตามหาพยาบาลท่านนั้น พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ด้วยความเคารพ จากคุณ : รังสีอำมหิต (รังสีอำมหิต) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:43:47

ความคิดเห็นที่ 76 ไม่ได้คิดว่าเป็นคุณค่ะ คุณ My Sea Lion จากคุณ : lillyjung เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:44:45

ความคิดเห็นที่ 77 จบเถ้อะพวกคู้ณ คู่กรณีเค้าไปนอกรอบกันแล้ว จะมาเถียงกันเองให้ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาอ่ะคะ? งง เรื่องของตัวรึก็ไม่ใช่? อ่านไว้เป็นตัวอย่างว่า ต่อไปก็อย่าทำแบบนี้แล้วกันจะร้องเรียนก็ร้องเรียนตรงไปที่ ผอ โรงพยาบาลเลย ไม่ต้องมาประจาน จากคุณ : แงซาย_จอม เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:45:17

ความคิดเห็นที่ 78 เอิ่ม พยาบาลคนนั้นจะลาออก แล้วเค้าจะไปทำต่อที่ไหน ใครทราบแจ้งด้วยนะคะ จากคุณ : InfernoST เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:48:39

ความคิดเห็นที่ 79 ถึง คห. ต่างๆที่ว่าหมอไม่มีจรรยาบรรณ. เอาประวัติคนไข้มาเปิดเผย เราอยากจะถามนักว่าไม่มีจรรยาบรรณตรงไหน. เค้าเอ่ยชื่อเด็กเคราะห์ร้ายผู้นี่เหรอ. เค้าเอ่ยชื่อ จขกท (ผู้เป็นแม่ซึ่งเรื่องเยอะ. อวดรู้(ทั้งที่ไม่รู้). รู้ดีกว่าหมอ  คิดไปเอง(ปากมีไม่ถาม) ปั้นเรื่อง. หมกเม็ด บิดเบือน สร้างกระแส(แค่ชื่อกระทู้ก็รู้แล้วว่าจะมาม่าหรือไมฺ่). แล้วใครที่เอาชื่อคนอื่นไม่รู้กี่คนต่อกี่คนมาอ้างถึง. พอคนที่เค้ามาชี้แจงส่วนที่เกี่ยวข้อง. บางคนมาว่าไม่มีจรรยาบรรณ. ซะงั้น แล้วไอ้คนที่เอาชื่อผู้อื่นมาเอ่ยนาม(ประจาน)ในที่สาธารณะเค้าเรียกอะไร.,?()?$$! แล้วคนผู้นั้นเปิดเผยนามตนเองบ้างหรือไม่ ถึง. คห. ที่บอกว่าไปขอโทษหมอแต่ไม่ต้องไปขอโทษพยาบาลเพราะพยาบาลทำผิดอยู่แล้ว ท่านผู้นี้เค้าไม่แจ้งในเรื่องการสื่อสารด้วยอีกคนรึป่าว. ที่บอกให้ไปขอโทษนี่คือไปขอโทษที่มา จ่อหัวกระทู้ว่า ลูกเกือบตายเพราะความไม่ช่วยเหลือของพยาบาล opd  เด็ก  BNH ที่ชื่อคุณxxx. (ไม่ทราบประโยคที่. จขกท โพสนี่มันจริงตรงไหนไม่ทราบ และไม่แรงใช่ไหมค่ะ. ต้องไปขอโทษเค้าในกรณีนี้ค่ะ) ส่วนที่พยาบาลพูดไม่ดีที่เค้าพูดว่า ให้ จขกท รอพบหมอสุธีราดีกว่าไหมค่ะ จะได้ไม่ต้องมาโรงพยาบาลบ่อย. >>> อันนี้ไปร้องเรียนกันที่โรงพยาบาลค่ะ. หรือโพสในลักษณะที่ว่าเค้าพูดจาไม่ดีก็ได้นี่ค่ะ. ไม่ใช่มาว่าเค้าเกือบทำใครตายแบบนี้ค่ะ!!!!! >>>>มันสมควรแล้วกระนั้นหรือค่ะ. หัวกระทู้ประจานแบบนี้. คนที่อ่านแค่ที่ จขกท มาโพสเนื้อหา(ไม่ครบ)และไม่ได้ติดตามมา 3 กระทู้   เค้าจะเอาไปพูดต่อหรือมีความเห็นไปในด้านไหนหล่ะค่ะ ถึง. คห. ที่บอกว่าเข้าใจต่างๆนานาเพราะเป็นแม่คน. เวลาลูกไม่สบายทำอะไรไม่ถูกนั้น ดิฉันเห็นว่า. จขกท เค้าไม่ได้ทำอะไรไม่ถูกค่ะ. เค้ายึดมั่นในความคิดของตนเองมากกว่าค่ะ. ขนาดไม่ได้เป็นหมอยังรู้ดีกว่าหมอ. แต่แค่เรื่องล้างก้นลูกให้สะอาดยังทำไม่เป็น. เข้าใจนะค่ะว่าพอมีความรู้ขนาดพิมพ์ยังพิมพ์ไทยปนอังกฤษ ไม่รู้จะสื่ออะไร. ลูกครึ่งรึป่าว(อันนี้พูดเอาฮาค่ะ) ถึง คห ที่ว่าเค้าประชดใครหรือไรจะลาออกทำไม คุณคิดว่าตอนนี้พยาบาลคนนี้เค้าโดนเพ่งเล็งจากใครบ้างหล่ะค่ะ  โรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชน. ลูกค้าร้องเรียนอะไรไป(แม้จะเป็นเรื่องงี่เง่าแค่ไหนก็ตามเราคิดว่าเค้าไม่ละเลยหรอกค่ะ) ถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐเรื่องแบบนี้เค้าไม่สนกันหรอกแต่แค่ที่นี่มันโรงพยาบาลเอกชน. เค้าแคร์ชื่อเสียงเค้าอยู่แล้วค่ะ ไหนจะคำนินทาจากเพื่อนร่วมงาน. ผู้ที่มาใช้บริการ(สาวกชานเรือนหรือผู้ที่ได้รับการเล่าขานมาอีกที). รวมถึงดิฉันผู้เผือกยังอยากเห็นเลยค่ะ (แม้จะอยู่ไกลก็ตามที) เพราะ จขกท บอกชื่อเสียงเรียงนาม แผนกที่ทำ โรงพยาบาลที่ทำงาน. รูปพรรณสันฐาน(จาก คห อื่นช่วยกันบอกเล่าอีกที) เป็นใครมันจะทนทายาดขนาดนั้น เค้าก็น่าจะอับอายมากนะค่ะ และขอให้นู้น้อยผู้นี้หายป่วยโดยไว(ประโยคนี้จากใจจริง). Ps.ไม่ได้ต้องการมาสู้รบปรบมือกับใครนะค่ะ แต่แบบว่ากระทู้ของพันทิพมันไม่มีให้อ้างอิงถึง หรือเม้นใต้ข้อความเก่าได้เลยเม้นแบบนี้ จากคุณ : atta (sharnack) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:51:47

ความคิดเห็นที่ 80 เป็นจขกท.ที่คุณหมอออกมาอธิบายนะคะ ไม่ได้อ่านความเห็นทั้งหมดของทั้งสามกระทู้ที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าอยากอ่านมากเพราะไม่มีเวลา เมื่อวานกว่าจะโพสต์ก็ดึกแล้ว จะมาแสดงความเห็นก็ง่วงเสียก่อน เห็นใจจขกท.ต้นเรื่อง ที่ลูกไม่สบาย อาจจะตั้งตัวไม่ติด จับต้นชนปลายไม่ถูก (คิดว่าแม่ทุกคนก็คงเคยตัดสินใจอะไรผิดพลาดกันมาบ้าง) แต่คุณหมอสุธีราก็เป็นคุณหมอที่เคารพรัก แม้ว่าเนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้พูดถึงคุณหมอโดยตรง แต่คุณหมอต้องถูกพาดพิงไม่มากก็น้อย ก็เลยอยากให้มีพื้นที่สำหรับคุณหมอในการอธิบายด้วย การที่คุณแม่ออกมาขอโทษนี้ก็สปิริตมากแล้วค่ะ เคยพบกับความรู้สึกแบบนี้มาก่อน เป็นบทเรียนนะคะ จะโพสต์อะไรต้องระวังค่ะ หวังว่าน้องจะหายวันหายคืน และกลับมากินนมแม่ได้ มีปัญหาเรื่องนมแม่ ปรึกษาในเพจนมแม่ได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 22:55:30 จากคุณ : joymacy (joymacy) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:53:28

ความคิดเห็นที่ 81 ขอชื่นชมจขกท.ครับ ผมเชื่อว่าคุณยังมีอะไรที่อยากจะพูดอีกมาก แต่คุณก็ตัดสินใจที่จะจบมันบนบอร์ดนี้ ขอให้น้องหายไวๆครับ จากคุณ : อวิรุืทธ์ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:57:55

ความคิดเห็นที่ 82 คห 70 และ 76 คิดว่าเป็นเราเป็น ญาติ หรือคนรู้จัก ของ จขกท  หรือเปล่าคะ เพราะเราดูช่วยเธอมากเกิน เราบอกได้เลยว่าไม่ใช่นะคะ เรานิยม ใช้บริการสมิติเวช สุขุมวิท ค่ะ และถ้ามีญาติ เพื่อน คนรู้จัก เราจะแนะนำหมอต่อๆมาค่ะ สมิติเวช สุขุมวิท only ค่ะ ไม่นิยมที่อื่น ยกเว้นเคสฉุกเฉิน และด่วน เท่านั้น ..  ย้ำชัดนะเค้อะ เหอๆๆ อ้อ และไม่ได้มีปม กับหมอหรือพยาบาล ด้วยนะเค้อ มีพี่สาวเป็นพยาบาล มีอดีต กิ๊กเป็นหมอ แต่ไม่ได้เจ็บแค้นนะเค้อ เพราะเรา กลายเป็นพี่น้อง แทนนะเค้อ .. เลยไม่ได้มีปมอะไร.. อย่าหน้าแหก คิดเอามากกว่านี้เลยนะเค้อ เยอะ เยอะ.. แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 01:15:11 จากคุณ : omelet-t เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:19:58

ความคิดเห็นที่ 83 พูดตามตรงสงสารโรงพยาบาลกับคุณพยาบาลมากๆ ส่วนเรื่องที่บอกว่าอยากจะจบจะมาขอโทษ ประโยคที่ว่าในเท็จมีจริงในจริงมีเท็จนั่น คุณจะสื่อว่าอะไรเหรอครับ ฟังหูไว้หู คิดก่อนเชื่อ หรือคุณหมอท่านโกหก คนเราก่อนพูดเราเป็นนายครับพอพูดออกไปแล้วคำพูดจะเป็นนายแทนเราทันที ควร จากคุณ : <Twilight_Prince> เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:49:48

ความคิดเห็นที่ 84 คิดให้ดีก่อนจะออกมาพูดอะไรแรงๆ เป็นผมผมฟ้องแหลกราญเลยครับ จากคุณ : <Twilight_Prince> เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:50:48

ความคิดเห็นที่ 85 ถ้าพยาบาลผิดจริง มีบทลงโทษก็สมควร แต่สิ่งที่ได้รับตอนนี้เราคิดว่ามันรุนแรงเกินไปสำหรับคนๆนึง แม้ว่าหลายคนคงสะใจ เพราะอาจเคยมี"ปม"กับหมอหรือพยาบาลมาก่อน แต่ถ้าอยากให้เขาให้เกียรติคุณ คุณก็จงให้เกียรติเขา ถ้าเขาไม่ดีคุณก็ว่าไปตรงๆ รพ.เค้าพึ่งเงินคุณก็จริง แต่ไม่มีคุณสักคน ถ้าเขาดีเขาก็อยู่ได้ แต่ถ้าคุณไม่รักษาคุณอยู่ไม่ได้ เงินของคุณไม่ได้ซื้อได้ทุกอย่างค่ะ จำไว้ ถึงวันนี้อายบ้างมั้ยคะ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 01:21:00 จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:31:00

ความคิดเห็นที่ 86 ดิฉันขอเรียนว่าดิฉันได้ปฏิบัิติวิธีล้างก้นที่คุณหมอสอนซึ่งไม่ตรงกับที่พยาบาลแนะนำ ตั้งแต่นำลูกออกจาก รพ. ตั้งแต่แรกคลอดแล้วค่ะ You blame someone else AGAIN! BTW, Is it really hard to wash a baby butt? I have no baby, but I figure it should be the same as washing your own, right? จากคุณ : It is a life เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:42:36

ความคิดเห็นที่ 87 เห็นด้วยกับ คห.56อย่างมาก.... คนทั่วไปรู้แค่  จขกท.ผู้มี EGO สูงจนทำให้ลูกเกือบตาย  ชื่อว่า "pantip addict"  แต่ไม่มีใครรู้จักตัวจริง แต่คุณได้ประจาน "คุณพยาบาลท่านนั้น"  และจริงๆแล้ว คุณก็ได้ด่า "โรงพยาบาล"นั่นออกสื่อ ....และคุณก็ไม่รู้ว่า แพร่ไปถึงไหนแล้ว แถมคำขอโทษ อันไม่จริงใจนัก  ยังมีคำว่า "วิธีล้างก้นที่คุณหมอสอน ซึ่งไม่ตรงกับที่พยาบาลแนะนำ" เราว่า  คุณไปกราบขอโทษกับเจ้าตัว  ยังไม่เพียงพอเลยค่ะ คำว่า "แม่"  ไม่ได้ให้สิทธิ์ที่คุณจะไปทำละเมิดสิทธิ์ "คนอื่นๆ" ได้นะคะ ....อย่าอ้างสิทธิ์ว่า "รักลูก..ทำได้ทุกอย่าง" (ปล. เราคงโดนประนาม  เพราะห้องนี้คือห้องชานเรือน...ที่ลูกเป็นอันดับแรก  ) จากคุณ : บ้านดอกชวนชมสารพัดสี เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 01:22:07

ความคิดเห็นที่ 88 คห.87 คะ มีคนทันเห็นเธอแน่นอนค่ะ เพราะเธอเคยไปโพสต์ไว้หน้าเพจ BNH ซึ่งพอเรื่องพลิกขึ้นมา เธอก็รีบลบโพสต์ตัวเองอย่างเร็วไว จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 01:29:38

ความคิดเห็นที่ 89 เราเห็นใจคุณแม่นะคะ ตามเหตุการณ์ก็เป็นไปได้ ว่าพยาบาลอาจจะบกพร่อง ในหน้าที่ เป็นพยาบาลต้องมีจิตเมตตา เห็นเด็กตัวบวม จะแย่อยู่แล้ว ปล่อยตามมีตามเกิด ทำไมไม่ช่วยเร่ง รัดคิว อะไรก็ได้ล่ะ ขนาดถ้าเป็นเราเหอะ เราเห็นมีคนป่วยหนักๆแล้วพยาบาลไม่เหลียวแล ยังอยากช่วยเลย ช่วยทำอะไรก็ได้ ซักอย่าง ให้เค้่้าได้ถึงมือหมอให้เร็วที่สุด กรณ๊บอกว่า คุณแม่ดื้อ ไม่ฟังคุณหมอ ไม่ฟังคุณพยาบาล อะไรก็แล้วแต่ เข้าใจค่ะ แต่ก็นั่นล่ะ ถ้าคุณเป็นพยาบาลที่ดีจริงๆ ทะเลาะกับจขกท ก็ต้องทำค่ะ เพื่อรักษาชีวิตเด็กไว้ จริงไม๊คะ แต่คุณพยาบาลกลับปล่อย ไม่สน ชั่งเหอะ จขกท พูดแล้วฟังไม่รู้เรื่อง งั้นน้องจะเป็นไรก็แล้วแต่ละกัน งั้นหรอ?????? ถ้าเป็นลูกคุณพยาบาลเอง จะทำแบบนี้ไม๊ถามหน่อย เห็นด้วย ในเท็จมีจริง ในจริงมีเท็จ แต่เราเห็นใจจขกทค่ะ เป็นเรา ย้ายรพ.ดีกว่า เกิดเรื่องขนาดนี้ เป็นเรา เราไม่สบายใจให้ลูกเราไปรับการรักษาจากรพ.นี้ค่ะ รพ.อื่นๆใช่ว่าจะเลวร้าย ดีๆก็มี ถือเปนบทเรียนราคาแพงแล้วกันนะคะ ขออภัย ถ้าความเห็นไม่ถูกใจใครค่ะ จากคุณ : usagimom เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 01:38:03

ความคิดเห็นที่ 90 จากที่นั่งอ่านมาทั้งหมดคำพูดของพยาบาลเป็นคำพูดที่ไม่สมควรเอ่ยออกมาในฐานะผู้ให้บริการ แต่เค้าไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ตัวเล็กเกือบตาย กระทู้นี้จบแบบสวยงามก็จริง แต่ชีวิตของพยาบาลที่ถูกเอ่ยชื่อถึงคงกลายเป็นหมีแพนด้าในสวนสัตว์ที่ใครๆก็อยากเห็นหน้า เพราะสังคมอินเตอร์เน็ตแพร่กระจายไปทั่วโลก ไม่ว่าคนไข้จะเยอะแค่ไหนก็ต้องทำให้เต็มที่ตามหน้าที่ของตัวเองเพราะเค้าจ่ายแพงคาดหวังสูง ทั้งการดูแล คำพูดกิริยาและความชำนาญการในการประเมินผู้ป่วยไม่ว่าจะหมอหรือพยาบาลถูกต้องคะทั้งของรัฐและเอกชน อย่างน้อยๆกระทู้นี้ก็สอนหลายๆอย่างให้กับหลายๆคน ก็ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยคะ ไม่มีใครรู้ว่าคุณเป็นใครแต่พยาบาลคนนั้น....คงเป็นAF ไปอีกนาน จากคุณ : เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 02:14:44

ความคิดเห็นที่ 91 ว่าจะบอกให้จบเหอะ แต่ตัวเรายังเผือกเข้ามาอัพเดตตลอด เลยเริ่มสงสารพยาบาลจริงๆ -"- คือ เราว่า จขกท เขามีสปิริตเหมือนกันนะที่เขาขอโทษ ถึงแม้เราอ่านดูก็ยังงงๆ เพราะเราเห็นก็หลายเคสเลยที่เวลาโดนต้อนมากๆ หายไปเลยดีกว่า ยังไงก็ตามก็ถือว่า ขอให้พยาบาลได้ปรับปรุงตัวดีกว่า เพราะก็มีหลายคน (รวมเรา) บ่นเรื่องบริการจริงๆ จากคุณ : hikawa เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 02:29:49

ความคิดเห็นที่ 92 ความคิดเห็นที่ 78     เอิ่ม พยาบาลคนนั้นจะลาออก แล้วเค้าจะไปทำต่อที่ไหน ใครทราบแจ้งด้วยนะคะ จากคุณ : InfernoST V V คุณจะทราบไปทำไมกัน จะตามไปดูหน้าเค้าเหรอ ?!? ปล. อยากให้ give ความคิดเห็นที่ 79 สักพันครั้ง  คุณเขียนได้แบบที่ดิฉันคิดเลยค่ะ จขกท.บอกว่า .. ดิฉันได้ monitor อาการของลูกมาตั้งแต่เกิดความผิดปรกติแรกๆ และดิฉันมั่นใจว่า หากลูกได้รับการ facilitate จากพยาบาลที่ more attentive ต่อคนไข้มากกว่านี้ อาการเค้าคงไม่ทรุดขนาดเป็นตายเท่ากัีน  .. ขนาดนั้นเลยเหรอ  ? เท่าที่อ่านเจอคำพูดพยาบาล 2 ประโยค  "ไม่ได้นัดไว้ใช่มั้ยคะ"  จริงๆพยาบาลคงอยากจะบอกว่า ไม่ได้นัดไว้ต้องรอตามคิวเพราะผ่านมือหมอ ER มา OPD ได้แสดงว่าไม่หนักหนาอะไร (แม้แต่คนไข้นัดยังต้องรอคิวเลย เพราะวันนึงหมอนัดคนไข้ตั้งมากมาย) แต่ไม่กล้าบอกตามตรง คำถามนี้ดิฉันก็ถูกถามเวลาพาลูกไปตรวจแต่ไม่ได้คิดอะไรมาก "คุณแม่รอเจอหมอสุธีราดีกว่าค่ะ จะได้ไม่ต้องพามา รพ. บ่อยๆ" พยาบาลคงคิดว่าอยากให้เจอหมอประจำตัวเลยดีกว่า จะได้ตรงกับความต้องการของคุณ แต่คุณบอกว่าเป็นการตอบจากใจที่หยาบ และดูถูกคนเป็นพ่อเป็นแม่มาก ..  ?!? .. ดิฉันอ่านครบทุกกระทู้ เห็นว่าพยาบาลมีความผิดแค่ พูดจาไม่ถูกใจ แถมยังไม่ยอมลัดคิวให้คุณอีก และอาจจะขาดการประเมินอาการเด็ก เพราะคิดเอาเองว่าผ่าน ER มาแล้ว ไม่น่าเป็นอะไรมาก ซึ่งอันนี้ไม่รู้ว่าประเมินต่อจาก ER หรือไม่ เพราะคุณไม่ได้ให้ข้อมูล ว่าก่อนไปนั่งรอตรวจ พยาบาลประเมินเด็กหรือไม่  แต่ค่อนข้างมั่นใจว่ามีการประเมินเบื้องต้นก่อนให้ไปนั่งรอ  และที่แน่ๆพยาบาล OPD ยังไม่ได้ทำการพยาบาลใดๆกับเด็กเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นสาเหตุที่ทำให้เด็กติดเชื้อจนเกือบตายคงไม่เกี่ยวกับเธอ เฮ้ออออ .. แค่คำพูดสองประโยคนี้ของพยาบาล  ทำให้เธอต้องเสียใจ เสียความรู้สึกแทบตาย เพราะถูกหลายๆคนรุมว่า    ต่อไปใครอยากจะลัดคิว ก็ทำให้เค้าไปเถอะน้องเอ๊ย (ถึงแม้ว่าจะถูกคนไข้คนอื่นด่าก็ตาม - -'')   ป.ลิง  ไม่ได้รู้จักกับคุณพยาบาลและคุณหมอท่านใดที่ BNH ค่ะ  เพราะรพ.นี้ไม่ได้อยู่ใกล้บ้าน ปกติจะพาลูกไปรพ.ใกล้บ้าน และไม่มีหมอประจำตัว หมอเด็กทุกคนตรวจได้หมด ดิฉันค่อนข้างเชื่อหมอมากกว่าเชื่อตัวเองค่ะ จากคุณ : random-4 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 02:34:52

ความคิดเห็นที่ 93 เพิ่มเติมว่า ใครเป็นหมอเด็ก พยาบาลตึกเด็ก - OPD เด็ก นี้สุดแสนจะเหนื่อยใจ เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย บางคนน่ารักมาก ว่าง่าย มีความอดทนสูง ทั้งที่ป่วยหนัก บางคนเป็นแผลนิดนึงร้องแทบเป็นแทบตาย  วีนเหวี่ยงไม่ยอมทำแผล ไม่ยอมกินยา นอกจากเด็กจะมีหลายบุคลิกลักษณะแล้ว บรรดาพ่อแม่เด็กก็เช่นกัน บางคนดื้อและดันทุรัง สอนยากยิ่งกว่าเด็กซะอีก  - -'' " สู้รบปรบมือกับเด็กแล้วยังต้องรบเอ๊ยย ทำความเข้าใจกับพ่อแม่ปู่ย่าตายายที่รักลูกหลานอีก เจอสองด่านเลย " มีน้องพยาบาลที่รู้จักกันเค้าบ่นให้ฟังแบบนี้อ่ะ จากคุณ : random-4 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 02:56:15

ความคิดเห็นที่ 94 ถึงคห.ที่ 79  คุณหมายถึงดิฉันเหรอคะ ดิฉันจบนิเทศศาสตร์ เข้าใจการสื่อสารดีค่ะ ดิฉันเห็นว่าจขกท.ได้ทำการเขียนจม.ขอโทษในบอร์ดสาธารณะแห่งนี้แล้ว หากกลับกัน..จขกท.มาบอกว่าได้ไปทำการขอโทษคุณพยาบาลเป็นการส่นตัวแล้วในกระทู้เดิม คุณจะพอใจมั้ยคะ จะเรียกร้องอีกหรือไม่ว่า มาประจานเขาในที่สาธารณะ แล้วไปงุบงิบขอโทษเองลับๆหรือเปล่า ต้องมาตั้งกระทู้ขอโทษสิ จะเป็นแบบนั้นหรือเปล่าคะ ดิฉันว่าจขกท.มีสปิริตออกมาขอโทษที่นี่ จนยอมถูกคุณ และอีกหลายๆท่านตำหนิเช่นกัน  ซึ่งจริงๆแล้วเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์คงไม่รู้อะไรอีกหลายๆอย่างที่เป็นปัจจัยแวดล้อมที่ทำให้จขกท.ฝังใจขนาดเรื่องผ่านมาหลายเดือนแล้วเพิ่งจะมาร้องเรียน ดิฉันไม่ได้เข้าข้างจขกท. แต่คิดว่าถ้าเป็นตัวเองเจอเหตุการณ์แบบนี้ (ตัดเรื่องที่คุณว่าเขาว่า อวดดีอวดรู้เก่งกว่าหมอไป่ก่อนนะคะ ) จขกท.เค้าก็บอกแล้วว่าเค้าไปรอเป็นคนแรก ไปERมาแล้ว (ตัดเรื่องที่ไม่เชื่อหมอก่อน แต่ช่วงนี้ก็เห็นว่าหมอ ERให้ไปรอ OPDได้) มารอที่OPD เป็นคนแรก ทำไมทางรพ.ไม่มีการประสานงานเคสที่ถึงขั้นออกปากว่าต้องแอดมิทกันหรือ และพยาบาลทำไมไม่ใส่ใจคนไข้หรือ จขกท.ก็บอกไว้ว่า ถ้าใครเห็นก็เป็นภาพที่น่าเวทนา แต่ทำไมคุณพยาบาลไม่เวทนา หรือจขกท.อวดรู้เรื่องมาก จนคุณพยาบาลรำคาญ จึงบอกว่า รอพบคุณหมอที่ต้องการ จะได้ไม่ต้องพาลูกมาบ่อยๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดดิฉันต้องการที่จะบอกว่า เราไม่ได้เป็นบุคคลทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เราไม่ได้เป็นเขา เราตอบข้อสงสัยทุกข้อแทนเขาไม่ได้ทั้งหมดหรอกค่ะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็น่าจะทำให้ทุกฝ่ายกลับมาดูใจตนเอง ว่าที่จริงแล้วเป็นอย่างไร ตัวเองเท่านั้นที่รู้อยู่แก่ใจทั้งหมดว่ามันคืออะไร ทั้งตัวจขกท.เอง และบุคคลากรของรพ.ค่ะ ปล.หรือคุณเป็นบุคคลากร หรือญาติ หรืออะไรเกี่ยวกับการแพทย์คะ  (เหมือนกับที่บางท่านสงสัยบางคห.ว่าเป็นอะไรกับจขกท.น่ะค่ะ อันนี้ไม่ได้ถามแบบติดใจนะคะ เห็นคห.หลังๆมีถามกัน ส่วนตัวคิดว่าเหรียญมีสองด้านเสมอ จึงไม่ได้ติดใจอะไรคะ) ดิฉันเองถ้าจะเขียนด้วยอารมณ์แบบสะใจก็เขียนได้นะคะ แต่มันไม่มีประโยชน์ค่ะ อักษรกรรมทั้งนั้น บางท่านอาจจะคิดว่า เป็นตัวเองคงจะไม่ทำเหมือนจขกท. ถ้าไม่เจอกับตัวอย่าเพิ่งคิดตำหนิค่ะ ดิฉันเห็นบ่อยๆกระทู้ในห้องชานเรือนที่ว่า ไม่คิดเลยว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง  (เอ๊ะ.. ดิฉันพลั้งพลาดอะไรไปหรือเปล่าคะ มาออกคห.กระทู้นี้ พักหลังไม่ค่อยได้โพสต์อ่านอย่างเดียวเลย) จากคุณ : lovers เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 03:19:01

ความคิดเห็นที่ 95 เอ้อ สงสารพยาบาล สงสารหมอ สงสารเด็ก ที่มีแม่อีโก้สูง จากคุณ : total99total เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 06:08:15

ความคิดเห็นที่ 96 คห. 88 รู้สึกคุณ smiling moon จะย้ำเหลือเกินนะคะว่า จขกท. เคยไปโพสใส่หน้าเพจโรงพยาบาล เราก็เห็นโพสเค้านะ แต่เค้าโพสขออิเมลล์ที่เค้าจะสามารถส่งจดหมายตำหนิติชมไม่ใช่หรอ แล้วเค้าก็คงได้อิเมลล์ไปแล้วไง เพราะเค้าก็บอกเองว่าได้ส่งแล้ว และตอนแรกก็ได้เมล์ตอบกลับ ต่อมาก็ได้โทรศัพท์จากโรงพยาบาล ก็เลยมาลบทิ้ง ก็ถูกแล้วนิ ก็ให้เกียรติโรงพยาบาลดี คนอื่นจะได้ไม่ต้องเห็น แล้วมันผิดตรงไหนเนี่ยที่เอาโพสออก เค้าก็แมนดี ที่จบประเด็นแล้วก็ไม่ต่อความยาวสาวความยืด ไม่ได้เข้าข้างใครนะ แต่ก็รู้สึกคุณก็เยอะนะ เห็นตามจิกเค้าตั้งแต่แรก เป็นอะไรกับหมอหรือพยาบาลหรือเปล่าคะ จากคุณ : หลับปุ๋ย เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 07:13:20 A:115.87.161.7 X: TicketID:357580

ความคิดเห็นที่ 97 ให้กำลังใจ จขกท ค่ะ เข้าใจหัวอกแม่ค่ะ บางทีการตัดสินใจผิดพลาดเกิดขึ้นได้ในภาวะกดดันขนาดนั้น ออกมาขอโทษดีแล้วค่ะ ส่วนพยาบาล ยังไงก็ต้องถูกตักเตือนแน่นอน ในการบริหารขององค์กรให้บริการ ต้องถือว่าการทำให้ลูกค้าไม่พอใจ(ไม่ว่าใครจะผิด) ถือเป็นข้อบกพร่องค่ะ จะบกพร่องมากหรือน้อยแล้วแต่กรณีๆไป จากคุณ : บงบุษบา (บงบุษบา) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 08:34:57

ความคิดเห็นที่ 98 BNH คือ รพ.เอกชนค่ะ ไม่ใช่รัฐบาล เอกชน ก็ต้องเน้นบริการ ความสะดวก สบาย ใช่มั้ยคะ ไม่อย่างนั้นไปรัฐดีกว่า จะจ่ายแพงทำไม จากคุณ : goodi poo เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 08:51:36

ความคิดเห็นที่ 99 เรื่องมันจบไปแล้ว ขอให้จบกันเถอะค่ะ แม่น้องก็เสียใจในส่วนของลูกที่ยังอาการไม่ปกติอยู่ เสียใจในสิ่งที่โพสต์ออกไป น้องพยาบาลก็คงเสียใจ และคงต้องเข้มแข็งให้ได้ และอยู่ให้ได้ในวิชาชีพนี้ ยังต้องเจออะไรอีกเยอะ ย้ำว่าเยอะ ถือซะว่าเป็นประสบการณ์เป็นบทเรียนสอน ไม่อยากให้มีการฟ้องร้องระหว่างกันทั้งสิ้น ทั้งสองฝ่ายต่างเจ็บพอกัน อยากให้เลิกแล้วต่อกันค่ะ แค่การสื่อสารที่ไม่ดี  และคนละมุมมองเท่านั้น เราผู้อ่านขอจบเถอะค่ะ จากคุณ : CutieVicki เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 09:09:03

ความคิดเห็นที่ 100 ถึงคุณ lover คห 94 คุณค่ะไม่ต้องเอานิเทศศาสตร์มาอ้างหรอกค่ะ. เพราะดูเหมือนคุณจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปขอโทษ เพราะถ้าเป็นดิฉันจะฟ้องให้สบายไปเลยค่ะ ถูกค่ะที่เค้าเอาชื่อมาประจานในบอร์ดสาธารณะ. แต่จะให้ขอโทษแค่ในบอร์ดสาธารณะแห่งนี้ก็ใช่ที่ค่ะ เพราะตัว จขกท นั้นแทบจะไม่มีใครรู้จักค่ะ(ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงเรียงนาม อาชีพ สถานที่ทำงาน) . แต่พยาบาลคนนั้นดังในทางที่เสียไปแล้ว (ระบุชื่อ แผนก สถานที่) แม้ว่าตัวพยาบาลผู้นั้นจะกระทำกิริยาอย่างไรให้หลายคนๆไม่พอใจ(จาก คห อื่นๆที่เข้ามาบอกเล่า) แต่ดิฉันไม่เห็นว่ามันจะมีส่วนเกี่ยวกับที่โดนจ่อหัวว่าเกือบทำใครตายค่ะ (คนละเรื่องช่วยแยกด้วยว่าควรไปขอโทษในประเด็นไหน และต่อว่าเขาในประเด็นไหน) อ่ออีกอย่างที่คุณสมมติว่าถ้าเป็นดิฉัน. คุณก็จำลองตัวเองลงไปในเหตุการณ์ไม่ใช่เหรอค่ะ. แล้วคุณจะตัดอากัปกิริยาของ จขกท ออกทำไมค่ะในเมื่อมันเป็นส่วนนึงของเหตุการณ์ และเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกๆเรื่องมันตามมา (แล้วทำไมคุณไม่สมมติบ้างว่าถ้าคุณเป็นพยาบาลคนนั้นที่ถูกจ่อหัวกระทู้แบบนี้. จะโดนสายตาแบบไหนบ้าง. จะอึดอัดใจอย่างไรบ้าง. ถ้าคิดจะยุติธรรมจริงลองทำดูบ้างนะค่ะ) ส่วนในเรื่องที่คุณบอกให้ไปขอโทษคุณหมอ นี่ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรือค่ะเพราะจากที่อ่านมา จขกท อ้างอิงถึงคุณหมอแต่ไม่ได้ประจานว่าคุณหมอเกือบทำใครตายค่ะ ตอบในข้อสงสัยนะค่ะว่าเป็นคุณแม่(full time) ไม่ได้เป็นญาติโกโหติกาอะไรเค้าหรอกค่ะ (แต่ใช่ว่าจะไม่มีการศึกษาซึ่งอาจจะสูงกว่าปริญญาตรีนิเทศศาตร์ด้วยซ้ำไปค่ะ)ขอโทษที่ต้องเอามาอ้างทั้งที่ไม่เกี่ยว แต่เห็นบางท่านยกมาอ้าง และการที่เป็นคุณแม่ เมื่อทำอะไรผิดพลาดด้วยตนเอง. ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาอ้างความเห็นใจค่ะ. เป็นแม่คนยิ่งต้องเป็นคนที่ดีกว่าเดิมค่ะ. ไม่ใช่คิดจะมาจ่อหัวประจานใครตามอารมณ์อย่างใจเมื่อไหร่ก็ได้. จะโกหก บิดเบือน ตั้งใจให้ผู้อื่นได้รับความอับอายในสังคมมันไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งค่ะ. พอรู้ตัว(กลัวถูกฟ้อง)สติกลับมาค่อยมาลง จม ขอโทษแล้วจบกันไป. ง่ายไปอะค่ะ เพราะเจ้าตัวนั้นบอกแล้วว่าไม่มีใครรุ้จัก แม้อยากจะเห็นหน้าก็ไม่รู้จะหาข้อมูลจากไหน(เพราะหมอพยาบาลเค้าไม่เอามาลง). แต่กับอีกฝ่ายไม่ต้องอยู่แถวนั้นก็จำได้ขึ้นใจแล้วว่าชื่อ xxx อยู่ OPDแผนกเด็ก รพxxx ถูกไหมค่ะ แก้ไขเพิ่มเติมในส่วนนี้. ที่บอกหงายเงิบ นี่คือตั้งแต่แรกที่ จขกท เล่าไม่หมดค่ะแต่บางคนด่าพยาบาลซะเล๊ะไปก่อนแล้ว พอความจริงออกมาเรื่อยๆ บางคห ถึงออกมาลบ แก้ไข หรือขอโทษที่ต่อว่าพยาบาลไปก่่อนค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 09:36:30 จากคุณ : atta (sharnack) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 09:24:32

ความคิดเห็นที่ 101 บางความเห็น "ชม จขกท. ที่กล้าโพสขอโทษ" ผมไม่เห็นมันจะเป็นการ "กล้า" ตรงใหนนี่ครับ? การโพสบน internet ก็คือการ "ถือโทรโช่ง" ด่าชาวบ้านปาวๆปาวๆปาวๆ แต่ต่างจากการด่าที่ "มันถูกบันทึกไว้เป็นข้อความ" สามารถทำความเสียหายได้ยาวนานกว่า ดังนั้นการที่คุณจขกท. จงใจต่อว่าพยาบาลโดยระบุชื่อ ว่า "ทำให้ลูกเกือบตาย" ทั้งๆที่คุณได้ปิดบังข้อเท็จจริงไว้มากกกกกก มายยยย (เอาง่ายๆแค่หมอ 2 ท่านแนะนำคุณยังไม่เชื่อ แล้วคุณคาดหวังว่าจะให้พยาบาลเค้าแนะนำอะไรอีก) การต่อว่าของคุณทำให้เค้าเสียชื่อเสียง เค้าไม่ฟ้องคุณก็บุญแล้วครับ เวลาต่อว่า ต่อว่าได้ง่ายๆทางที่สาธารณะแต่เวลา "ขอโทษพยาบาล" กลับ "ต้องฝากผู้บริหาร" ไปอีกที ผมว่า .. เป็นการไม่ยุติธรรมต่อคุณพยาบาลมากๆครับ จากคุณ : Top27 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 09:55:01

ความคิดเห็นที่ 102 ด้วยความเคารพ ดิฉันรู้สึกเห็นใจคุณพยาบาล คุณหมอ และโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก แต่คนที่ดิฉันเห็นใจที่สุดในกรณีนี้คือ "ลูก" ของ จขกท ค่ะ เด็กเปรียบเสมือนผ้าขาว การอบรมเลี้ยงดู รวมถึงลักษณะนิสัยและแนวคิดต่างๆของพ่อแม่ ย่อมส่งผลถึงลักษณะนิสัยและแนวคิดของลูกได้โดยตรง จขกท ลองเปิดใจให้กว้างดูนะคะ สิ่งใดผิด สิ่งใดถูก สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ ขณะนี้ น้องยังเด็ก ยังไม่เข้าใจ และแยกแยะอะไรไม่ได้ อย่าปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ไม่เหมาะสมให้น้อง ด้วยการแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างเลยค่ะ จากคุณ : John&Savannah เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:20:54

ความคิดเห็นที่ 103  ความคิดเห็นที่ 89    กรณ๊บอกว่า คุณแม่ดื้อ ไม่ฟังคุณหมอ ไม่ฟังคุณพยาบาล อะไรก็แล้วแต่ เข้าใจค่ะ แต่ก็นั่นล่ะ ถ้าคุณเป็นพยาบาลที่ดีจริงๆ ทะเลาะกับจขกท ก็ต้องทำค่ะ เพื่อรักษาชีวิตเด็กไว้ จริงไม๊คะ แต่คุณพยาบาลกลับปล่อย ไม่สน ชั่งเหอะ จขกท พูดแล้วฟังไม่รู้เรื่อง งั้นน้องจะเป็นไรก็แล้วแต่ละกัน งั้นหรอ?????? จากคุณ : usagimom    =========================================   เอ่อ.. ขอประทานโทษนะคะ ในเมื่อคนไข้ไม่ยินยอมให้รักษา "ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์รักษา" ค่ะ  ไม่ได้เกี่ยวว่าเป็นพยาบาลที่ดีหรือไม่ดีเลยค่ะ มันเป็นหลักกฎหมายด้วยซ้ำว่า คนไข้มีสิทธิ์ปฏิเสธการรักษา และทุกคนต้องถือการตัดสินใจของคนไข้เป็นหลักค่ะ    จากคุณ : แมงป่องหางด้วน เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:30:55

ความคิดเห็นที่ 104 ดิฉันว่าปัญหามันอยู่ที่หัวข้อกระทู้ต้นเรื่องนะคะ คือพยาบาลอาจจะบกพร่อง หน้าหงิกงอ พูดจาไม่ดีหรืออะไรก็แล้วแต่  แต่ตามที่คุณหมอกรุณาชี้แจง  พยาบาลไม่ได้ทำให้น้องเกือบตายนะ.... ในความรู้สึกของดิฉันที่ไม่เคยเจอพยาบาลท่านนี้หรือรับบริการจากโรงพยาบาลนี้เป็นประจำ  (เคยคลอดลูกคนเล็กที่นี่เมื่อปี 2006 และไม่เคยใช้บริการอีกเลยเพราะไกลบ้าน)  จากที่ตามอ่านในกระทู้อย่างเดียวดิฉันรู้สึกว่าพยาบาลท่านนี้อาจจะเข้าใจว่าเป็นเคสไม่ฉุกเฉิน  เพราะ จขกท. ลงไปห้องฉุกเฉินแล้วก็ไม่แอทมิด แต่จะรอคุณหมอประจำตัวเท่านั้น  พยาบาลเลยแนะนำว่าให้รอคุณหมอให้เจอเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องตรวจซ้ำไปมา  เพราะหมอท่านอื่นตรวจ จขกท. ก็ยังจะกลับมาหาหมอประจำตัวอยู่ดี  และที่ไม่ลัดคิวหมอประจำตัวให้ก็อาจจะรอผลแล็บ และเข้าใจว่าไม่ฉุกเฉิน ดิฉันให้กำลังใจ จขกท. นะคะ ยังจำได้ตอนดิฉันเองเป็นคุณแม่มือใหม่ มีภาวะ baby blue อยู่นาน  และยังสับสนงงงวยไปหมด กับระบบต่างๆ  บางครั้งก็ตัดสินใจผิดพลาดบ้าง ถือเป็นบทเรียน คราวหน้าตั้งสติให้ดี ขอให้น้องหายป่วยไวๆ สุขภาพแข็งแรงค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 11:39:01 จากคุณ : กรรมใดใครก่อ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:37:05

ความคิดเห็นที่ 105 การขอโทษในเวบบอร์ดเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะการเขียนบิดเบือน ประจานชื่อเค้าก็ลงในเวบบอร์ดเช่นกัน ทำให้เค้าถูกด่า เสียชื่อ เสียใจ เสียความรู้สึก และน่าจะหมดกำลังใจในการทำงานไปไม่น้อย  ถ้าไปขอโทษส่วนตัวคนอื่นคงไม่รู้อ่ะค่ะ สำหรับคนที่เข้าข้างคนเป็นแม่  อยากถามว่าแล้วน้องพยาบาลคนนี้ไม่มีแม่ที่รักและห่วงเค้าหรือ ? แจ้งอีกครั้งว่าไม่เคยรู้จักพยาบาลคนนี้ แต่รู้สึกเห็นใจเธอ  เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^ และด้วยความจริงใจ ขอให้ลูกคุณจขกท. กลับมากินนมแม่ได้เหมือนเดิมในเร็ววัน  ดิฉันว่า ณ ตอนนี้จากการอ่านความคิดเห็นในหลายๆด้าน คุณเองก็คงคิดทบทวนและเสียใจอยู่ไม่น้อยกับเรื่องที่เกิดขึ้น จากคุณ : random-4 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:40:01

ความคิดเห็นที่ 106 ห้องชานเรือนจริงๆเป็นห้องที่รุนแรงสุดแล้วมั้ง สังเกตจากกระทู้ดราม่าทั้งหลาย กระทู้ทั่วไปขอคําแนะนํขอความช่วยเหลือไม่ค่อยจะไปช่วยตอบหรอก กระทู้ร่วมด้วยช่วยด่าล็อคอินแปลกๆทั้งนั้น พิมพ์ด่ากันมายาว ปกติอ่านอย่างเดี๋ยวหรือคงมาจากห้องอื่น ก็แปลกดีค่ะ แล้วบางคนนะไม่ต้องไปหวังดีเป็นห่วงลูกเค้าจะนิสัยเสียหรอก มันเยอะไปไหมถามตัวเองหรือดูตัวเองก่อน แยกย้ายแล้วไปทําไรที่มีประโยช์กว่านี้เถอะ ถ้าเห็นใจน้องพยาบาลช่วยกันเขียนจดหมายหรือตั้งกระทู้ให้กําลังใจก็ว่าไป ชื่นชอบรพ.ไปอุดหนุน จดหมายชมเชยบุคลากร แพทย์ ก็เท่านี้ที่คุณทําได้ อยากถามว่าแล้วคาดหวังอะไร หรือแค่ได้เขียนอะไรแรงๆก็พอใจแล้วคืนนี้นอนหลับฝันดี ปล่อยวางกันซะบ้าง อย่างไรเราๆคุณๆก็คนนอก นอกเรื่อง และนอกเหตุการณ์ จากคุณ : via iPhone (My Sea Lion) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:43:10

ความคิดเห็นที่ 107 ความเห็นที่ 79 โดนใจสุด สุด ค่ะ  !!!! จากคุณ : Ianimae เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:46:15

ความคิดเห็นที่ 108 คห.96 ดิฉันไม่ได้รู้จักเกี่ยวข้องกับทั้งสองฝ่ายแน่นอนค่ะ ที่พูดเพราะดิฉันคิดว่ามันไม่ยุติธรรมกับอีกฝ่าย การที่เค้าลบโพสต์ในเพจรพ.ดิฉันไม่เห็นว่าเป็นการให้เกียรติรพ.เลยค่ะ เราว่ากลัวเรื่องถึงตัวเองซะมากกว่า หากเค้าบริสุทธิ์ใจจริง เป็นผู้ถูกกระทำ ไม่มีความจำเป็นจะต้องลบเลยค่ะ และถ้าเค้าอยากจะให้เกียรติรพ.จริงๆเค้าคงติดต่อรพ.แต่แรกแล้วมั้งคะ คงไม่มาตั้งกระทู้ในห้องนี้หรอก ว่าแต่คุณเป็นใครคะ ไม่มีล็อกอินหรือ จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:49:19

ความคิดเห็นที่ 109 ว่าจะไม่โพสต์ แต่อดไม่ได้ อยากถาม จขกท ว่า ที่ขอโทษเนี่ยจริงใจแล้วใช่ไหมคะ อ่านแล้วเหมือนเหน็บๆ อย่างไง ไม่รู้ซิ ส่วนรายละเอียดอื่นที่ จขกท อยากรู้ ไปถามคุณหมอเป็นการส่วนตัวดีไหมคะ เพราะเดี๋ยวเป็นเรื่องอีก ปล1 คราวต่อไป ถ้าลูกป่วยหนักขึ้นมาอีก ไม่ว่าไป รพ. ไหน จขกท อย่ารอ อย่าใจเย็น โวยได้ ตามได้ ทำไปเถอะค่ะ  ไม่มีใครว่าหรือจะแกล้งลูกคุณหรอกคะ ปล2 เวลาลูกป่วย ถ้าดิฉันรอนาน ก็เดินไปตามตลอด บางทีไปฉีดวัคซีน พยาบาลเห็นรอนานยังเดินมาถามเลย   ปล3 ไม่เข้าใจ เวลาแอดมิด หมอตรวจแล้วไม่ค่อยอธิบายอาการให้คนไข้รู้เลย แถมจะเจอหมอยังยากอีก อันนี้ไม่ได้หมายถึง รพ. ใด รพ. หนึ่งนะคะ เพราะเป็นหลาย รพ. เลย จากคุณ : แม่เจ้าอ้วน เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 11:49:42

ความคิดเห็นที่ 110 ผมว่าไม่ต้องเถียงกันใครผิดใครถูก คนที่รักหมอรักพยาบาล ก็เชียร์ข้างหมอข้างพยาบาล คนที่เคยเจอบริการแย่ๆของโรงพยาบาลก็เชียร์ข้าง จขกท แต่เท่าที่จับประเด็นได้คือ 1. การบริการของโรงพยาบาล ยังไม่ดีพอสมกับที่เป็น โรงพยาบาลเอกชนราคาแพง 2. พยาบาล ขาดการบริการที่ดีพอ 3. จขกท ผิดที่เอาชื่อ บุคคลมาลง โดยที่บอกไม่ละเอียดพอ 4. จขกท น่าจะรีบ admit ลูกตั้งแต่หมอบอกให้ admit อยากฝากให้โรงพยาบาลเอกชนทุกที่ ปรับปรุงการให้บริการ ให้สมกับราคาที่แสนแพงของคุณ แล้วก็ฝึกหรือเทรน ให้พยาบาล หรือผู้ช่วยพยาบาล มีมารยาทและบริการที่ดีกว่านี้ จากคุณ : credor เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 12:08:23

ความคิดเห็นที่ 111 ถูกใจ 56 กะ 79 อย่างแรงง เป็นเราลูกป่วยขนาดนั้น เอาเข้าฉุกเฉินก่อนดีกว่่า ยังไง คนในนั้นเค้าก็เป็น "หมอ" ถ้าเกินความสามารถเขา คงต้องไปตาม อจ หมอ หรือ เลหมอเฉพาะทางมาเองแหละ จากคุณ : Badgirl_no.1 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 13:07:26

ความคิดเห็นที่ 112 สงสารและเห็นใจทุกท่านที่ถูกเอ่ยชื่อมา ณ ที่นี้คะ จากคุณ : นู๋เตยใสปิ๊ง เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 13:52:03

ความคิดเห็นที่ 113 ถึง คห.ที่ 100 (เลขสวยๆ)คุณatta (sharnack) ดิฉันจะไม่ขอตอบโต้อะไรที่คุณเขียนมานะคะ เพราะจริงๆก็ไม่ใช่เรื่องของดิฉันเอง และมันจะยืดยาวค่ะ แต่จากที่อ่านมาข้อความของคุณทั้งหมดใจความมีอยู่ว่า 1. ต้องกู้ชื่อเสียงให้คุณพยาบาล โดยการไปขอโทษด้วยตัวเอง ถ้าไม่ไปขอโทษต้องทำการฟ้องร้อง (อันนี้ต้องไปบอกรพ. แต่รู้สึกเรื่องนี้เค้าจะจบลงด้วยขอโทษกันและกันไปแล้ว) 2. จขกท.ต้องออกมาประจานตัวตนให้ผู้คนได้รับรู้ตามที่ได้ประจานคนอื่นไว้เช่นกัน (ไม่แน่ใจว่าจะหมายถึง ถ่ายรูปหมู่พร้อมยื่นกระเช้าให้แล้วเอามาลงที่นี่หรือเปล่า หรือแค่เอารูปครอบครัวมาลง พร้อมบอกชื่อที่อยู่) ดิฉันไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกมั้ย ดังนั้นรบกวนบอกความต้องการสั้นๆด้วยค่ะ จขกท.จะได้รับทราบ ไม่งั้นคุณก็ต้องมาตามตอบโต้ทุกคนที่มาแสดงคห.ที่ดูเหมือนจะเข้าข้างจขกท. หรือคห.ที่เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่  หรือคห.ที่ไม่ตรงกับความต้องการของคุณ ดิฉันเป็นบุคคลอื่นขอไม่ตอบโต้ใดๆแล้วนะคะ จากคุณ : lovers เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 14:50:20

ความคิดเห็นที่ 114 คุณแม่ไม่ต้องเสียกำลัีงใจไปนะคะ สู้ๆ ค่ะ เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ตอนนี้ขอให้คุณแม่และน้องแข็งแรงมากๆ นะคะ ดูแลซึ่งกันและกันค่ะ จากคุณ : แม่ไอเดีย-ไอคิว (skw_dy) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 15:25:39

ความคิดเห็นที่ 115 กลายเป็นกระทู้ดราม่าไปเสียแล้ว เฮ้อออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ แม่ได้เกี่ยวกับตัวเอง แต่ก็เถียงกันอยู่นั่น จากคุณ : nongmalee เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 15:28:16