พาลูกไปสแกนลายนิ้วมือมา ขอเล่า
|
 |
เราพาลูกไปทำมาค่ะ รู้สึกพอใจมากๆ ตอนแรกศึกษาเจ้าที่มีโฆษณาอยู่ในท้องตลาดก็ไม่ได้เชื่อมั่นอะไร แค่อยากลองดูซิว่าจะตรงกับที่เรารู้สึกไหม แต่พอลองไปคุยกับเจ้าหน้าที่แล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยน่าเชื่อถือ (จากลักษณะการอธิบาย) ก็เลยคิดว่าไม่ทำละเสียดายตังค์ จนมีแม่ๆที่โรงเรียนลูกแนะนำอีกที่ที่เค้าทำให้กับองค์กรตัวเองอยู่แล้วและรับทำให้คนนอกด้วย แต่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเพราะไม่ได้ทำการตลาดเยอะเหมือนเจ้าอื่นก็เลยลองโทรไปคุยดูก็รู้สึกว่าเค้าฟังดูน่าเชื่อถือดีก้เลยลองไปทำดู (ไม่ได้คาดหวังไรมากนัก) ปรากฎว่าประทับใจทุกขั้นตอนเลยการพิมพ์ลายนิ้วมือก็ทำอย่างละเอียดคนนึงปั๊มอีกเจ้าหน้าที่ตรวจดูว่าได้ลายเส้นครบรึยัง การให้ข้อมูล ดูโปรมากมาย จนพอฟังผลวิเคราะห์นักวิเคราะห์ก็อธิบายดีมากๆ (เห็นว่าคัดจากหลายร้อยคนเหลือไม่ถึง10คนและต้องมีปริญญาด้านจิตวิทยาด้วย) ไม่ใช่การพูดกั๊กให้ฟังได้หลายทางเหมือนหมอดูแต่เค้าพูดเจาะไปเลย ซึ่งเคสเรามันตรงหมดทุกอย่างทั้งๆที่ลูกเราไม่ค่อยเหมือนเด็กอื่น คือไม่ใช่ว่าจะมาพูดมั่วๆ ว่าซน มีนิสัยดื้อไรงี้เพราะคงจะตรงกับเด็กในวัยนี้ไม่มากก็น้อย (3.6ขวบ) ลูกเราสามขวบกว่าแต่เป็นเด็กเรียบร้อย มีหลักการมาก (เหมือนพ่อเค้า) กินข้าวเสร็จเก็บจานชามเอง ดูทีวีถ้าบอกว่าให้ดู 15 นาทีเอานาฬิกาตั้งให้เค้า พอถึงเลขที่กำหนดเค้าเดินไปปิดทีวีเอง แล้วเดินมาบอกแม่ว่าให้พาเค้าไปอาบน้ำนอนหน่อยถึงเวลานอนแล้ว ไม่ดิ้อไม่ซนฯลฯ เค้าก็วิเคราะห์ออกมาตรงมากโดยไม่ได้ให้เราเล่าอะไรเกี่ยวกับลูกเลย ว่าลูกเรามีบุคคลิกแบบห่านป่า เจ้าระเบียบ มีวินัยฯลฯ ซึ่งมันตรงอย่างกับรู้จักลูกเราจริงๆ ส่วนที่ชอบคือมันตอบคำถามที่เรายังไม่ได้คำตอบ ลูกเราเป็นคนไม่ค่อยชอบขีดเขียนอะไร ไม่ชอบวาดรูปเหมือนเด็กคนอื่น คนอื่นวาดเป็นรูปกันแล้วแต่ลูกเราเวลาส่งดินสอให้จะทำหน้าเบื่อๆแล้วขีดๆๆๆๆให้มันจบๆไป พอถามว่านี่เป็นรูปนู่นนี่นั่นใช่ไหม ลูกเราก็บอกว่ามันก็เป็นแค่เส้นๆนะคุณแม่ อันนี้นักวิเคราะห์บอกว่า (เค้าพูดเองโดยเราไม่ได้เล่าอะไรเลย) ว่าลูกคุณแม่มีความสามารถแฝงทางด้านศิลปะและดนตรีที่สูงมากๆนะคะ สูงขนาดที่เรียกว่าเป็นพรสวรรค์ แต่เนื่องจากโดยรวมแล้วเป็นเด็กประเภทสมองซีกซ้ายสุดเลย ดังนั้นเขาจะใช้เหตุผลมาเป็นตัวกำกับมากกว่าจิตใจ ดังนั้นหากลูกคุณแม่คิดว่าการวาดรูปไม่เป็นประโยชน์ไม่น่าทำ เขาก็จะตัดสินใจไม่ทำ (หากลูกคุณแม่มีทักษะสูงแบบนี้และเป็นเด็กสมองซีกขวาเขาก็จะเป็นแนวติสต์แตกไปเลย) กลับมาบ้านเราเลยลองเอาเพลงคลาสสิคมาเปิดให้ลูกฟัง (ที่ผ่านมาไม่เคยเปิดเพลงคลาสสิค จะเปิดแต่เพลงกล่อมนอนธรรมดา) ปรากฎว่าลูกชอบมาก ถึงกับทิ้งของเล่นไปนั่งฟังอยู่หน้าเครื่องเล่นซีดี แล้วซักพักก็น้ำตาไหลออกมา(แม่ตกใจมากว่าลูกเว่อร์ได้ถึงเพียงนี้) เค้าก็ร้องไห้แล้วก็ถามแม่ว่าเค้าร้องไห้ทำไมๆๆๆ อันนี้เรางงมากมาย จากนั้นเค้าก็ร่ำร้องให้เปิดเพลงพวกนี้ให้เค้าฟังตลอดทั้งตอนไปโรงเรียน ก่อนนอน เราก็เลยไปซื้อซีดีออเคสตร้ามาให้ดู เค้าก็นั่งดูนิ่งๆ นานๆยังกะชมโอเปร่าในโรงละคร อันนี้เราทึ่งผลการวิเคราะห์มาก ถ้าไม่งั้นเราคงไม่รู้และส่งเสริมแน่นอนเพราะเราไม่มีหัวดนตรี แฟนเราก็ไม่มีคิดว่าลูกก็คงไม่มีแน่ๆแต่ดันผิดคาด เค้าวิเคราะห์ว่าลูกเราเป็นคนชอบข้อมูล ต้องให้ข้อมูลเค้าในการตัดสินใจ ไม่ใช่เด็กที่หลอกหรือบังคับได้ (ถ้าทำก็จะได้ผลแค่ครั้งแรกที่ทำเท่านั้น) ซึ่งเราคิดว่าจริง เพราะอย่างพาไปหาหมอฟันครั้งแรก เราอธิบายลูกเป็นขั้นตอนๆๆๆว่าเดินเข้าไปแล้วจะเจออะไร เก้าอี้จะเอนลงไปแบบไหน จะมีเครื่องมือเข้าปากยังไง จะเจ็บนิดหน่อยตอนไหน ปรากฎว่าลูกเราไปหาหมอฟันไม่ร้องเลย ตอนนั้นอายุแค่ 2.3 ขวบเอง คือขอให้เค้าแค่รู้ตัวก่อนว่าข้างหน้าจะเจออะไร และอีกมากมาย ไม่รู้สิเราว่าเราดีใจจังที่ได้ไปทำ หลายอย่างเราก็รู้อยู่แล้วในฐานะแม่ที่ใกล้ชิดลูก ส่วนนี้มันก็เป็นการคอนเฟิมสิ่งที่เรารู้สึก และมันก็มีอีกส่วนหนึ่งที่มาอธิบายสิ่งที่เราไม่เข้าใจลูกว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้แบบนั้น และในฐานะนักจิตวิทยาเค้าก็จะแนะนำแนวทางในการเข้าถึงลูกในจุดที่เป็นปัญหาซึ่งเราก็สามารถรับมาพิจารณาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เรารู้สึกว่ามันทำให้เราเข้าใจได้ว่าคนเราช่างแตกต่างกัน หลายอย่างถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่เกิดให้มีลักษณะนิสัยอย่างหนึ่งๆ บางอย่างกระทั่งเรื่องของความรู้สึกผิดชอบชั่วดียังถูกกำหนดมาแล้ว (ลูกเรามีsense ของการแยกแยะในเรื่องนี้สูง--เหมือนพ่อเค้าอีกแล้ว) เค้าถึงเอาจุดนี้ไปดูแนวโน้มของคนที่เป็นฆาตกรได้(อันนั้นดูจากสมองโดยตรงแต่เนื่องจากเส้นลายผิวสะท้อนการทำงานของสมอง มันจึงบอกได้เช่นกัน) เอาเป็นว่าแฮปปี้มากๆจึงมาเล่าให้ฟัง รู้แหละว่าหลายคนไม่เห็นด้วย ซึ่งก็เหมือนเราตอนแรกๆที่เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่พอลองทำแล้วรู้สึกดีใจมากที่ตัดสินใจทำ แต่ขอบอกย้ำว่าต้องเป็นเจ้าที่เค้าเป็นมืออาชีพจริงๆด้วยนะ เอามาฝากจ้า
ปล. ถ้าลูกมีความผิดปกติควรแจ้งเขานะคะเพราะเค้าจะจัดทำรายงานแบบพิเศษให้ (Sensory Integration report) ปล. เนื่องจากมีคนสอบถามมามากเหลือเกิน เราพยามตอบหลังไมค์ให้ทุกคนนะคะ แต่เราต้องไปต่างประเทศ3-4 วัน สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้รับคำตอบไว้เด๋วเรากลับมาจะตอบให้นะคะ ---------------------------------------- ปล. นักวิเคราะห์ที่แนะนำไปเป็นคนที่เราใช้บริการแล้วประทับใจนะคะ แต่ถ้าทุกคนจองตัวพี่เค้าคนเดียวคงรอคิวนานแน่ๆ ลองนักวิเคราะห์ท่านอื่นๆ บ้างก็ได้นะคะ น่าจะมีคุณภาพทุกคน
แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 21:07:38
แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 17:09:57
แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 15:18:50
จากคุณ |
:
นูนิ
|
เขียนเมื่อ |
:
29 มิ.ย. 55 11:45:34
|
|
|
|