ความคิดเห็นที่ 1 เราบริจาคกาชาดค่ะ ไม่ได้เก็บตามบริษัท เราว่าไม่จำเป็นนะค่ะ เพราะปริมาณที่เก็บได้ค่อนข้างน้อยไม่สามารถนำไปใช้ตอนโตได้ และในปัจจุบันก็นำมาใช้กะโรคได้ไม่กี่โรคค่ะ จากคุณ : emychin เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 11:36:30

ความคิดเห็นที่ 2 เราว่าถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา และจ่ายได้ก็น่าเก็บนะค่ะ เพราะเราเห็นว่าเกิดกรณีที่เป็นมะเร็จบางชนิดต้องรับสเต็มเซลล์ใหม่ก็ยังมีของตัวเองที่เก็บไว้ใช้ได้ ดูแล้วกลายเป็นโชคดีไปเลย เพราะถ้าต้องรับของคนอื่นก็ต้องรอการตรวจต่างๆ และต้องดูอีกว่ารับแล้วจะเหมาะกับตนเองหรือป่าวเยอะค่ะ ตกลงถ้ามีเงินก็ทำไว้ไม่เสียหลายหรอค่ะ ถ้าไม่ได้ใช้ก็โชคดีอีกเหมือนจ่ายประกันสุขภาพ อย่าคิดมากเลยค่ะถ้าจ่ายแล้วสบายใจ ไม่เดือดร้อน จากคุณ : kookai24 เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 11:36:39

ความคิดเห็นที่ 3 กาชาดไม่รับบริจาคแล้วคะ จากคุณ : modaey เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 11:39:22

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่มีตังส์ ตอนนี้คิดแค่เรื่องกิน เรื่องเรียน และ ข้าวของเครื่องใช้ของลูก คิดว่าคงหัดใุห้ลูกกินอาหารดีมีประโยชน์ กินปลาเป็นหลัก กินผักเป็นยา กินกล้วยน้ำว้า (จำเค้ามา) ไม่ติด หวาน มัน เค็ม โชคดีในตระกูลครอบครัวเราและสามีไม่มีใครเป็นโรคร้ายอะไรก่อนวัยอันควร มีแต่โรคไม่มีตังส์ ถ้ามีตังส์แบบชาตินี้ใช้ไม่หมด ก็เก็บค่ะ จากคุณ : LiveGoodLife เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 11:44:47

ความคิดเห็นที่ 5 เราเก็บค่ะ ทั้ง 3 คนเลย เก็บของใครของมัน เราว่ามีอะไหล่ชีวิตเอาไว้ดีกว่าไม่มีค่ะ เดี่ยวนี้เทคโนโลยีพัฒนาเร็วมาก ถึงตอนนั้นอาจรักษาได้มากโรคขึ้นกว่านี้ แต่เราย้อนเวลากลับมาเก็บไม่ได้แล้วค่ะ คิดง่ายๆเหมือนจ่ายประกันรถยนต์ซึ่งเป็นแค่สิ่งของ เรายังจ่ายได้ทุกปี แม้อุบัติเหตุไม่เกิด แต่ปีต่อๆไปก็ต้องจ่ายใหม่อยู่ดี จากคุณ : guncliu เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 12:03:29

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้ามีเงินเหลือกินเหลือใช้ไม่เดือดร้อนก็เก็บไว้ไม่เสียหาย เพิ่มรายได้ให้บริษัทรับทำประกันไปในตัวด้วย จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 12:33:27

ความคิดเห็นที่ 7 ต่างจิตต่างใจเนอะ ไม่เดือดร้อนไม่หนักหัวใคร ก็เก็บไป ประกันรถยังจ่ายได้ เพื่อลูกไม่มีปัญหา แต่ถ้ายังต้องดิ้นรน ก็คงต้องบอกว่าแค่ไหนแค่นั้น ถ้ากลัวแต่ว่าคนอื่นจะรวยก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว จากคุณ : kkinn เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 12:49:16

ความคิดเห็นที่ 8 เท่าที่ศึกษามา ในเมืองไทย ตอนนี้มีใช้รักษาอยู่แค่กลุ่มโรคทางเลือด เช่น ทาลัสซีเมีย เป็นต้น ส่วนโรคอื่นๆ ยังไม่เป็นที่นิมยม และมีการศึกษากันอย่างแพร่หลาย หรือได้รับการยอมรับ อีกทั้ง หากจำเป็นต้องนำ stem cell ที่เก็บไว้มาใช้รักษาโรค ในเมืองไทยก็ยังไม่สามารถทำได้ค่ะ จะต้องไปรักษาที่ต่างประเทศเท่านั้น ดังนั้น การที่เราจะเก็บ stem cell นอกจากต้องมีเงินที่ใช้ในการเก็บแล้ว ก็ต้องมีเงินที่จะไว้สำหรับรักษา กรณีที่ต้องการนำ stem cell มาใช้ค่ะ ซึ่งตอนนี้อย่างที่บอก ต้องไปรักษาที่ต่างประเทศเท่านั้นค่ะ ถ้าที่ไทย รักษาได้ ก็โรคทางกลุ่มเลือดเท่านั้น ตัวเอง ก็ทำงานในสายวิชาชีพทางการแพทย์ค่ะ ศึกษามาพอสมควรเลย เพราะก็สนใจอยู่ที่จะเก็บ แต่พอศึกษาอย่างจริงจัง โอกาสนำมาใช้ในเมืองไทย ยังน้อยเกินไปค่ะ แต่ถ้าบุคคลในครอบครัว มีโรคทางเลือด หรือโรคที่สามารถนำ stem cell มารักษาได้ และครอบครัวไม่ติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย การเก็บ stem cell ก็ถือเป็นทางเลือก ที่สามารถเพิ่มโอกาสในการรักษาทางอนาคตได้ค่ะ จากคุณ : วายฟาย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 13:23:49

ความคิดเห็นที่ 9 ยืนยันตามคห.8 คุณวายฟาย ในประเทศไทยการนำ stem cell มาใช้ทำได้แค่เรื่องการปลูกถ่ายไขกระดูกเท่านั้น  กรณีอื่นๆ ไม่สามารถทำได้ เป็นเรื่องผิดกฏหมาย  ถ้าหมอคนไหนจะใช้ stem cell ในการรักษานอกเหนือจากการปลูกถ่ายไขกระดูก จะต้องทำเรื่องผ่านแพทย์สภาเพื่อให้พิจารณา  ซึ่งไม่มีหมอคนไหนมาเสี่ยงกับเรื่องนี้แน่ๆ การรักษาต้องไปรักษาที่ต่างประเทศเท่านั้นและไม่ใช่เรื่องง่าย ค่าใช้จ่ายก็หลายล้าน  ถ้าค่าเก็บรักษา stem cell ไม่ใช่เศษเงินของคุณ  ค่ารักษาคงไม่ต้องพูดถึง เรื่องซื้อประกันความเสี่ยง เป็นแค่คำพูดของบริษัทที่ไว้หลอกล่อคนเท่านั้น เป็นแค่การเล่นกับอารมณ์ของคน  ลองไปถามเซลล์ที่ขายดูซิว่า ถ้าต้องใช้ขึ้นมา ประเทศไหน หมอชื่ออะไร ดูซิว่าเค้ารู้หรือเปล่า หรือรู้แค่วิธีขายอย่างเดียว  และในหลายประเทศที่มีการรักษาก็เป็นการแอบรักษา โดยการรักษาจะให้คุณเอกสารยินยอม หากมีข้อผิดพลาดจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิน คนที่เก็บไปแล้วก็คงได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้ใช้ เพราะถึงเวลาใช้จริงมันไม่ง่ายเหมือนตอนเก็บแน่  ส่วนคนที่ยังไม่เก็บอยู่ในช่วงหาข้อมูล ก็เอาข้อมูลนี้ไปประกอบการตัดสินใจดูครับ จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 13:46:53

ความคิดเห็นที่ 10 มี รพ. ไหนเก็บสเต็มเซลล์บ้างคะ เอกชลหรือรัฐบาลก็ได้คะ จากคุณ : ii jubu เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 17:11:51

ความคิดเห็นที่ 11 มายกมือว่าเราเก็บให้ลูกทั้งสองคน จากคุณ : Khukhan เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 19:58:04

ความคิดเห็นที่ 12 เก็บค่ะ โลกหมุนไปไวจะตาย กับยุคสมัยที่เปลียนไปทุกๆวัน อะไรก็เปึนไปได้ วันนี้ใช้ไม่ได้ แพทย์ยังไม่ถึงขั้น กฏหมายยังไม่รองรับฯลฯ แล้วอีก5ปี10ปีล่ะ รับประกันได้ไหมว่าจะได้ไม่ได้ใครจะรู้ พอดีไม่มีปัญหาตรงนี้ก็เก็บค่ะ ใครไม่เก็บก็แล้วแต่จะมองว่าสิ่งไหนสําคัญ ไม่ผิดแต่อย่างใด บางบ้านว่า5-70000แพงเว่อ เราเฉยๆค่ะ หารรายปีสักสิบปี อย่างอื่นยังจ่ายกันได้ ไอโฟนไอแพดงี้ กะสเคมเซลล์ไม่คิดมากเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 55 20:41:09 จากคุณ : via iPhone (My Sea Lion) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 20:37:52

ความคิดเห็นที่ 13 เก็บถ้ามีเงิน จากคุณ : credor เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 22:07:08

ความคิดเห็นที่ 14 เก็บค่ะ ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้นกับลูก ไม่อยากมานั่งเสียใจทีหลัง จากคุณ : แม็ก-ท่าพระ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 23:22:31

ความคิดเห็นที่ 15 คห.12  คุณจะใส่อารมณ์ไปเพื่ออะไร  คนอื่นเอาเหตุผลความเป็นจริงมาบอกเพื่อให้พิจารณา  เพราะผมเองทำงานติดต่อกับแพทย์ ผมจึงแบ่งปันข้อมูล ข้อเท็จจริงให้ได้ทราบกัน และที่คุณถามว่าอีก 5-10ปี กฏหมายอาจจะรองรับ  อันนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ  แต่ถึงเวลานั้นการเก็บ stem cell จากทารกก็หมดความหมายแล้ว เพราะตอนนี้มีทีมแพทย์ไทยและอีกหลายประเทศ กำลังวิจัยการผลิต stem cell จากเลือดคนปกติอยู่  กว่าจะถึงเวลานั้น งานวิจัยก็คงเสร็จสมบูรณ์แล้ว  และขั้นตอนการวิจัยตอนนี้ก็เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 23:29:13

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่เก็บคะ เราอ่านเรื่องนี้มาเยอะมาก ตอนแรกก็ตั้งใจจะเก็บ แต่พอศึกษาไปลึกๆแล้ว ไม่เก็บคะ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่า Stem Cell จะเสื่อมหรือเปล่าถ้าเก็บไปนานแล้ว เห็นว่านานที่สุดที่เคยเอากลับมาใช้ก็คือสิบปี ผลยังดีอยู่ แต่ว่าถ้าเป็นยี่สิบปีสามสิบปีละ มันจะยังดีอยู่หรือเปล่า อันนี้ไม่มีใครบอกได้ ถ้าจะเก็บ ต้องมีเหตุผลทางการแพทย์คะ หรือไม่ก็มีพ่อแม่พี่หรือญาติที่เป็นโรคที่รักษาด้วย Stem Cell ได้ อันนี้หมอก็จะแนะนำให้เก็บคะ เคยอ่านเจอเรื่องหนึ่งที่ว่า เด็กคนหนึ่งไม่สบาย พ่อแม่ตัดสินใจมีลูกคนที่สองเพื่อตั้งใจจะเอา Stem Cell มารักษาลูกคนแรก อันนี้ก็เสี่ยงเหมือนกัน เพราะก็ไม่แน่ว่า Stem Cell ลูกคนที่สองจะเข้ากับลูกคนแรก เรื่องนี้ก็สิบกว่าปีมาแล้ว ตอนนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเกี่ยวกับจริยธรรมด้วย ตอนนี้เด็กทั้งสองก็โตแล้ว น้องบอกดีใจที่ได้ช่วยพี่ พี่บอกดีใจที่มีน้อง จบแบบแฮบปี้ทุกคน จากคุณ : Freedom and Justice เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 10:03:40

ความคิดเห็นที่ 17 ตังไม่เหลือเลยไม่เก็บ และตามที่คหอื่นว่า มันใช้ได้น้อยมากในไทย รู้สึกว่าไม่คุ้ม ที่สำคัญถ้าลูกเราเจอโรคแปลกที่ต้องใช้เสต็มเซลล์รักษาอย่างเดียว เราคงปล่อยให้แล้วเเต่เวรกรรมล่ะค่ะ มีญาติที่ไม่สบาย เสียค่ารักษาหลายล้าน ที่สุดก็ตาย ส่วนคนหาเงินมารักษา เดือดร้อนไปตามๆกัน คุ้มหรือเปล่าล่ะงั้น จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 12:25:09