ความคิดเห็นที่ 1 เราก็ไม่ได้แต่งนะค่ะ  เรามองว่าสิ้นเปลืองอ่ะค่ะ  ในเมื่อสังคมรับรู้ ว่าเราเป็นแฟนกะคนนี้ ญาติพี่น้องก็ โอเค (อันนี้แล้วแต่บุคคลนะค่ะ ต้องขอบอกไว้ก่อน อยู่ที่การตัดสินใจค่ะ) เรามองว่ามันสิ้นเปลืองอ่ะค่ะ  จะมาหวังว่าจัดงานแต่งแล้วได้กำไร เหมือมสมัยก่อน สมัยนี้มันใช้ไม่ได้แล้วค่ะ  เพราะว่า ค่าครองชีพสูง ค่าจัดงานก็สูงตามไปด้วย สู้เอาเงินมาทำอย่างอื่น เก้บไว้ให้ลูก หรือมาสร้างครอบครัวเราดีกว่า ซื้อบ้าน ซื้อรถ เตรียมความพร้อมดีกว่าค่ะ เราก้อแค่ทำบุญใส่บาตร กัน 2 คน ผู้ ใหญ่ อวยพร  กินข้าวกันภายในครอบครัว คือ จบแล้วค่ะ  เราก้อยู่ด้วยกันมาได้  ตอนนี้กำลังจะคลอดน้องค่ะ ^^  ขอย้ำอีกครั้งนะค่ะ  ว่าเป้นความเห็นของแต่ละบุคคลค่ะ จากคุณ : เหยินฟ้า (เหยินฟ้า) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:26:40

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าไม่ลำบากก็จัดเถอะค่ะ เป็นการให้เกียรติพ่อแม่ด้วย จากคุณ : นู๋หนิงอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:27:15

ความคิดเห็นที่ 3 แต่งงานครั้งแรก จัดใหญ่โต หมดไปเป็นล้าน ทุกอย่างชั้นหนึ่งหมด แขกในงานบอกว่า ไม่เคยไปงานแต่งงานใครที่สวยขนาดนี้..... ไม่นานก็เลิกกัน ท่ามกลางความตกใจของหลายๆคน ปัจจุบัน ไม่ได้จัดอะไรทั้งนั้น ไหว้พ่อแม่ จดทะเบียนสมรส อยู่กันมา รักกันดี ฟันฝ่าอุปสรรคและความลำบากมาด้วยกัน จนตอนนี้ปล่อยแล้ว ลุ้นว่าจะมีลูกเมื่อไหร่ค่ะ สำหรับเรา พิสูจน์แล้วว่างานแต่งงานนั้นไม่จำเป็นเลยจริงๆค่ะ จากคุณ : smallkid เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:28:14

ความคิดเห็นที่ 4 เราว่าจัดสักหน่อยก็ดีนะคะ ไม่ต้องหรูหราเยอะแยะมากมาย แต่จัดเพื่ออย่างน้อยก็เป็นการให้เกียรติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะพ่อแม่เราเอง..ลูกสาวจะออกเรือนทั้งทีทำอะไรเพื่อท่านสักนิดก็ดีนะคะ จากคุณ : ชะเอมน้อยกลอยใจ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:30:33

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่จัด ตอนเช้าเอาปิ่นโตไปวัด ฝ่ายชายและญาติผู้ใหญ่มาขอที่บ้าน เอาสินสอดมาพอเป็นพิธี สินสอดแม่เราคืนให้หมด ครอบครัว เพื่อนสนิท กินข้าวกัน ดื่มกันคืนนั้น ไม่จดทะเบียน (เพราะขี้เกียจทำธุระกรรมต่างๆยุ่งยาก เซ็นต์สองคน) แต่พ่อแม่คุณและเค้าต้องเข้าใจ และคุณก็ต้องหนักแน่น อย่าไปสนใจคำพูดชาวบ้านมาก เราก็อยูกัยมาสี่ปี ตอนนี้ในพุงแปดเดือน อนาคตไม่รู้ แต่รักกันดี ชาวบ้านชาวช่องเพื่อนฝูงก็รู้ ผัวใครเมียใคร แต่ถ้าอยากถ่ายรูปแต่งงานให้รีบไปเลยนะคะ อย่าผลัดเหมือนเรา จนขี้เกียจไปถ่ายแล้ว แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 21:10:49 จากคุณ : LiveGoodLife เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:40:41

ความคิดเห็นที่ 6 จัดงานแต่งค่ะ เพราะพ่อแม่และแฟนเป็นคนกว้างขวาง ส่วนตัวชอบเงียบๆ แต่เป็นไปไม่ได้ค่ะ แม่ไม่ยอมค่ะ จากคุณ : Yhing95 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:42:48

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่าถ้าไม่ลำบากอะไรก็จัดเถอะครับคนเรา1ชีวิตไม่มีโอกาสมากนักครับ และก็เอาแบบง่ายง่ายครับ ผมแต่งงานไปจัดงานพิธีที่เหนือส่วนสัปดาห์ถัดมา มาจัดกินเลี้ยงง่ายง่ายที่ร้านอาหารครับ คือจัดง่ายจริงจริงเอาแค่คนที่ทำงาน และญาติญาติน่ะครับ ที่สำคัญไม่ขาดทุนด้วยครับ Happy ทุกฝ่าย ป.ล. เพื่อนเราไม่ได้จัดงานแต่ผูกข้อมือธรรมดาจนตอนนี้ก็ยังเสียดาย อยู่ครับเพราะเราจะได้มีภาพประทับใจไว้ดูครับ จากคุณ : คนวันจันทร์ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:50:25

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่จัดค่ะ ...ไม่ชอบอะไรวุ่นวาย เหนื่อยและเปลืองเงินด้วยค่ะ ในเมื่อพ่อแม่ และ เพื่อนทุกคนรับรู้ว่าอยู่ด้วยกันก็ไม่รู้จะจัดไปทำไม สู้เก็บเงินไว้ดีกว่าค่ะ โดยส่วนตัวคุณพ่อเราเป็นคนไม่ชอบงานเอิกเริก ก็เลยไม่รู้จะจัดเพื่ออะไรค่ะ สุดท้ายมันก็เหมืือนตำน้ำพริกละลายแม่้น้ำค่ะ จากคุณ : somsakul (somsakul) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:56:28

ความคิดเห็นที่ 9 คห 5  เหมือนกันเลยค่ะ ^^  สะดวกและประหยัดค่ะ แต่เราจดทะเบียนนะค่ะ  แฟนขอให้ไปจด จะได้ใช้นามสกุลเขา เขาอยากให้เราเป็นคนในครอบครัวเขาเต็มตัวอ่ะค่ะ อิอิ  เราก็มีเจ้าตัวเล็ก 8 เดือนในพุง อยุ่ด้วยกันมา 3 ปีแล้งค่ะ happy ดี รูปถ่ายเรากะว่าจะไปถ่ายตอนลูกได้ 2 ขวบค่ะ  อิอิ   ทีเดียวคุ้ม 3 คน พ่อ แม่ ลูก  กลายเป็นรูปครอบครัวเลยค่ะ อนาคตเราไม่รุ้ว่าจะเป็นอย่างไร  แต่ตอนนี้ครอบครัวเรา happy ดี ก็ โอเค  แล้วค่ะ จากคุณ : เหยินฟ้า (เหยินฟ้า) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:00:19

ความคิดเห็นที่ 10 เราจัดงานแต่งงานค่ะ สำหรับเรา ถ้าไม่ได้จัดคงเสียใจและเสียดาย เพราะแขกที่มาสนุกสนานกันดี ทุกคนมาร่วมอวยพร ร่วมยินดี บางคนไม่ได้เจอกันนานก็อุตส่าห์มาร่วมงานด้วย (เชื่อได้ว่าไม่ได้ มา เพราะเกรงใจ) มันมีอีกหลายความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการจัดงานแต่ง แล้วจริงๆงานแต่งก็ไม่ได้เหนื่อยหนักหนาอะไร เราไม่ได้จ้างwedding plannerด้วยนะคะ มีแต่เพื่อนๆขันอาสามาช่วยงาน ; ) ถ้่าไม่หนักหนาอะไร จัดซักหน่อยก็ดีค่ะ จากคุณ : Extremely chocolate (Extremely Chocolate) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:00:30

ความคิดเห็นที่ 11 จำเป็นหรือไม่จำเป็น   เราว่าอยากให้ขึ้นอยู่กับ "พ่อ แม่ ฝ่ายหญิง" เป็นหลักอ่ะค่ะ เพราะการจัดงานแต่งงาน   เป็นการแสดงถึงการให้เกียรติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง แต่เราไม่ได้หมายถึงว่าต้องจัดใหญ่โต  มีโต๊ะเป็นร้อย มีแขกเป็นพันนะค่ะ จัดให้เหมาะสมกับความพร้อมที่มี   และอย่าต้องเป็นหนี้เพราะงานแต่งงาน   แต่ก็อย่าหวังเรื่องกำไร เอาตามที่เราสะดวกและผู้ใหญ่เห็นว่าเหมาะสมก็พอแล้วค่ะ ในความเห็นส่วนตัว   เราก็ว่างานแต่งงานไม่จำเป็น    เพราะมันไม่ได้การันตีว่าจะมีความสุข แต่ที่จัดก็เพราะเป็นการให้เกียรติ พ่อ-แม่ ของตัวเองค่ะ กว่าจะเลี้ยงเราโตมาขนาดนี้ท่านหมดเปลืองไปเท่าไหร่ แค่จัดงานเพื่อเป็นการให้เกียรติท่าน (ตามสมควร)   เราคงไม่เรียกว่าสิ้นเปลือง จากคุณ : Hades - N70 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:00:37

ความคิดเห็นที่ 12 เราก็จัดเฉพาะญาติจ้า สักครั้งในชีวิตค่ะ เข้าใจค่ะว่าไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ แต่ว่าขอให้เป็นไปตามประเพณี ความสุขค่ะ ลองตัดสินใจดูนะคะ จากคุณ : poompinky เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:03:57

ความคิดเห็นที่ 13 คนที่คุณควรถามความเห็นจริงๆคือพ่อแม่คุณต่างหากค่ะ ว่าท่านคิดยังไงหากคุณจะไม่จัดงาน การที่คนในนี้บอกว่าไม่จัดงานก็อยู่กันยืดได้ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่จัดบ้างก็ได้ หากท่านอยากให้จัด คุณก็ควรจะต้องจัด การจัดงานแต่งงานไม่เห็นจำเป็นต้องจัดใหญ่โต แค่จัดงานเลี้ยงพระที่บ้าน ทำพิธีให้ถูกต้องแบบเล็กๆก็ได้ มันก็คงไม่สิ้นเปลืองอะไรมากนักหรอกค่ะ ส่วนตัวเราเลือกจัดงานค่ะ เพราะเราเป็นลูกสาวคนโตของบ้าน เราต้องการจัดเพื่อให้เกียรติพ่อแม่ ว่าบ้านนี้แต่งลูกสาว ไม่ได้ไปอยู่ด้วยกันเฉยๆ เราเองก็ไม่ได้จัดใหญ่โตอะไร ใช้เงินตัวเองไม่ได้รบกวนเงินพ่อแม่ทั้ง 2 ฝ่าย จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:07:15

ความคิดเห็นที่ 14 แม่เราบอกว่า ขอให้เลี้ยงเราและลูก (ติด) เรา ให้ดี เรื่องงานแต่งแม่อย่างไงก็ได้ เราก็เลยไม่จัด แต่ยกเงินให้แม่ไปดาวน์รถคันใหม่ป้ายแดง ไม่มีพิธีอะไร แต่อยู่ยืนกว่าเพื่อนที่จัดงานใหญ่โต ยืนไม่ยืน ก็ผ่านมา 13 ปี เข้าปีที่ 14 ลูกสอง แบบไม่มีงานแต่งงานซักนิดค่ะ อยู่ที่ความรักของเราสองคนล้วนๆ เรื่องได้หน้า ได้ตา หรือว่า เรื่องอื่น ไม่สนใจค่ะ ชิว ชิว....^^ จากคุณ : PHaTthiTA เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:07:55

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าไม่ลำบากแล้วพ่อแม่อยากให้มีงานก็จัดพอเป็นพิธีก็ได้ค่ะ ถึงมันจะไม่ได้เป็นเครื่องพิสูจน์อะไรทั้งสิ้นแต่ก็ถือว่าทำตามประเพณีให้เกียรติพ่อแม่ค่ะ จากคุณ : ETHNOMUSIC เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:09:42

ความคิดเห็นที่ 16 คห9 คะ เราก็กะว่าตอนแก่คงไปอยู่จังหวัดบ้านสามี ตอนนั้นจะจดทะเบียน เพราะคงไม่มีธุรกิจธุรกรรมอะไรเยอะแล้ว ใช้นามสกุลเค้าก็ได้รู้ว่าเราเป็นคนบ้านไหน กะว่าจะไปถ่ายรูปครอบครัวเหมือนกัน ตอนที่ลูกชายได้ซักขวบสองขวบ เราคล้ายกันมากเลยนะ คลอดใกล้กันด้วย ... ขอให้แม่ลูกคลอดปลอดภัย สมบูรณ์แข็งแรงนะคะ จากคุณ : LiveGoodLife เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:22:39

ความคิดเห็นที่ 17 เราเคยคิดจะไม่จัด ทั้งที่ใจจริงอยากจัด แต่พอตัดสินใจแล้วก็นึกเสียใจอยู่ตลอดเวลาว่าเราจะไม่ได้ใส่ชุดเจ้าสาว เดินผ่านร้านชุดวิวาห์ทีไรน้ำตาจะไหล ทั้งที่ว่าที่เจ้าบ่าวก็เอาของหมั้นทั้งเงิน ทองและเครื่องประดับทุกอย่างตาม ธรรมเนียมมาให้เราแล้ว เรารู้ดีว่ามูลค่าของเหล่านี้มากกว่าค่าใช้จ่ายในการจัดงานแบบไม่รับซอง แต่ด้วยเหตุจำเป็นบางประการเราก็บอกว่าที่เจ้าบ่าวว่าไม่จัด จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนมาบอกกับเราว่า ในฐานะที่เธอเป็นแม่และมีลูกสาว เธอปรารถนาที่จะเห็นลูกสาวแต่งงานอย่างมีหน้ามีตา ไม่จำเป็นต้องเป็นงาน ใหญ่ แต่ขอให้มีพิธีที่สมเกียรติและสมฐานะ นาทีนั้นเราคิดถึงแม่ขึ้นมาทันที ตอนที่เราบอกแม่ว่าจะไม่จัดงานแล้ว หน้าแม่หมองลง แม่โทรศัพท์มาหาเราอีก 2-3 ครั้ง เพื่อถามว่าจะไม่จัดแน่นอนใช่มั้ย แม่จะได้ยกเลิกสิ่งต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ เราก็ยืนยันหนักแน่นว่าไม่จัดแน่นอน แต่คำพูดของเธอคนนั้นทำให้เราเปลี่ยนใจ ตอนที่เราโทรศัพท์ไปบอกแม่ว่าจะจัดงาน แม่ทำเสียงแปลกใจ เรามาทราบตอนหลังว่าแม่ไปตัดชุดเตรียมไว้นานแล้ว ในวันงานแม่ดูมีความสุข แขกของแม่เยอะกว่าของเรา และเจ้าบ่าวรวมกันซะอีก ตอนเราได้รับรูปวันงาน เราเห็นประกายของดวงดาวในแววตาของแม่ ทั้งหมดที่เราเล่ามาเป็นเพียงประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ จากคุณ : Tj เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:33:36 A:49.230.33.45 X: TicketID:351500

ความคิดเห็นที่ 18 พอได้เป็นแม่คน อยากเห็นลูกสาวใส่ชุดเจ้าสาวอ่ะ จากคุณ : นนนี่จ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:53:34

ความคิดเห็นที่ 19 จัดตามธรรมเนียม ประเพณี เท่านั้นก็ได้นะคะ ไม่ต้องใหญ่โต ให้มีความทรงจำดีๆ ครั้งหนึ่งในชีวิต ไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง จากคุณ : cocomaw เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 22:07:04

ความคิดเห็นที่ 20 จัดคะ. ลึก ๆแล้วเรารู้สึกดี. ที่ได้มีงานแต่งงานคะ ความเห็นส่วนตัว จากคุณ : สายหนึ่งอยุธยา เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 22:13:19

ความคิดเห็นที่ 21 จัดเถอะค่ะ ไม่ต้องจัดใหญ่มาก พยายามคุมงบ เป็นเกียรติให้พ่อแม่ค่ะ จากคุณ : chamai021 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 22:15:12

ความคิดเห็นที่ 22 เราว่าก็แล้วแต่นะคะ อย่างเพื่อนเรา ก็จัดงานเล็กๆที่บ้าน เชิญเฉพาะครอบครัว ญาติสนิท และเพื่อนสนิทเล็กน้อย ถ่ายรูปเฮฮากันไป แล้วก็ถ่ายรูปงาน ทำเป็นการ์ด แล้วส่งไปให้ญาติๆ เพื่อนๆ คนอื่นๆรับรู้แทนค่ะ แบบว่าเป็นการ์ดรูปเฮฮาในงาน แล้วก็เขียนว่า "พวกเราแต่งงานกันแล้วนะคะ" ประหยัดงบ อบอุ่น แล้วก็ได้ถ่ายรูปในชุดแต่งงานด้วยค่ะ จากคุณ : Trijack เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 22:17:07

ความคิดเห็นที่ 23 แล้วแต่เงินในกระเป๋าเลยคะ แต่สำหรับเราตอนนั้นเรื่องเงินยังไม่พร้อมจนมาถึงตอนนี้พร้อมทุกอย่างทั้งเงินทองและครอบครัว(มีลูก2คน) เลยจัดงานแต่งเล็กๆคะแขกประมาณ70คนเราว่าน่ารักดีเหมือนกันมีลูกอีก2คนเป็นสักขีพยานเวลาถ่ายรูปก้อได้ถ่ายหมดทั้งครอบครัวพ่อ+แม่+ลูกๆ จากคุณ : แม่ลูก2 เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 22:44:15 A:27.55.2.59 X: TicketID:365312

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ได้จัดใหญ่โตนะคะ แค่โทรเชิญญาติผู้ใหญ่มารับประทานอาหารด้วยกันในห้องร้านอาหาร จัดเป็นโต๊ะจีน 4 โต๊ะเองค่ะ เพราะเราทั้งสองคนลงความเห็นว่าสิ้นเปลืองค่ะ เราเสียดายเงินด้วยค่ะ เราเก็บไว้ใช้ยามมีลูกดีกว่าแล้วพอเวลาล่วงเลยมาจนมีลูกรู้สึกดีใจยังไงไม่รู้ค่ะ เราได้เอาเงินมาใช้ในการคลอดลูก เลี้ยงดูลูก คุ้มค่ากว่านะ(คห.ส่วนตัวนะคะ) จากคุณ : ออยล์ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 22:50:18

ความคิดเห็นที่ 25 งานแต่งงานไม่มีผลกับการใช้ชีวิตคู่ว่าจะอยู่กันรอดหรือไม่ค่ะ แต่การจัดงานแต่งงานเป็นการให้เกียรติครอบครัว ให้เกียติพ่อแม่โดยเฉพาะฝ่ายหญิง ถ้าไม่อยากสิ้นเปลืองก็จัดงานเล็กๆเชิญเฉพาะญาติและเพื่อนสนิทก็ได้ค่ะ แต่ถ้าครอบครัวทั้ง 2 ฝ่ายไม่ว่าอะไรจะไม่จัดงาน ก็แล้วแต่คุณจขกทและสามีค่ะ เราเองให้ความสำคัญกับการจัดงานแต่งงาน เพราะพ่อแม่เราถือเรื่องนี้มากกกกถึงมากที่สุด แต่ก็จัดงานแบบประหยัด หลังงานได้เงินช่วยใส่ซองมาจ่ายค่าจัดงานยังมีงานเหลืออีกประมาณหนึ่ง ยังไงซะ พิธีแต่งงานก็มีความศักดิ์สิทธิ์นะคะ ตอนที่พ่อแม่รดน้ำสังข์อวยพร และตอนส่งตัวก็มีการอวยพร ส่วนเรื่องจัดงานฉลองแต่งงาน (ปาร์ตี้เลี้ยงข้าวแขกที่ใครๆคิดว่านั้นคือการแต่งงาน แต่จริงๆมันไม่ใช่ค่ะ) มันอยู่ที่เราจะจัดงานยังไง ประหยัดงบ หรือเลี้ยงอลังการใหญ่โต จากคุณ : BiglittleBird เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 23:20:31

ความคิดเห็นที่ 26 ควรจัดค่ะ งานจะเล็กหรือใหญ่ไม่เกี่ยว แต่เป็นการให้เกียรติพ่อแม่ของทั้ง2ฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่าย ญ จากคุณ : พระจันทร์เสี้ยว เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 23:31:27 A:124.121.1.56 X: TicketID:364700

ความคิดเห็นที่ 27 เรื่องอย่างนี้มันอยู่ที่เราค่ะ  ถ้าอยากจัดก็จัดไป ถ้าไม่อยากก็ไม่ต้องจัด รักกันอยู่ด้วยกันพ่อแม่รับรู้ไม่ได้ทำอะไรผิด จบค่ะ จากคุณ : Jpum เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 23:48:36

ความคิดเห็นที่ 28 แต่เพราะอยากให้ญาติๆ เพื่อนๆ มารวมตัว แต่งตัวสวยๆ กินเลี้ยงสนุกสนาน ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก (ค่าซองพอดีค่างานเลยค่ะ) จากคุณ : saengchot เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 00:11:26

ความคิดเห็นที่ 29 เราจัดค่ะ เราว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เสียสละตัวเองมากที่ไม่แต่งงานผู้ชายนี่ยิ้มเลยนะ ชอบเลย ไม่แต่งไปจดเฉยๆก็ดี ผู้ชายบางคนก็ไม่ชอบออกงาน แต่งเมียไปทำไมเอาคุ้มหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ เราคิดว่าการแต่งงานบ่งบอกว่าผู้ชายคนนั้นให้เกียรติเรามั๊ย งานเช้าเล็กๆน้อยเลี้ยงเที่ยงก็ยังดี เรื่องแค่นี้ยังไม่ให้เกียรติเรา ก็ไม่ควรมาเป็นสามีอ่ะค่ะ เราเองไม่มีพ่อมีแม่แล้วนะคะ แต่ยังยืนยันว่าการแต่งงานเป็นการให้เกียรติตัวเราเองด้วยว่ายิ่งเราไม่มีพ่อมีแม่เค้ายังให้เกียรติเราหรือเปล่า ปล.อันนี้ความคิดส่วนตัวเรานะ จากคุณ : เบบี้ดอลล์ เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 00:33:35

ความคิดเห็นที่ 30 เราเองก็ไม่ได้จัดค่ะ จดทะเบียนสมรสแล้วกินข้าวกับครอบครัวฝ่ายพ่อสามี (ข้างแม่สามีไม่มา ส่วนครอบครัวเราอยู่เมืองไทย) แล้วกะว่าเดี๋ยวค่อยจัดอีกที แต่ดันมีลูกมาซะก่อน ก็เลยไม่ได้จัดอีก เพราะเสียดายเงินค่ะ เอาไว้เลี้ยงลูกดีกว่า ได้แต่ไปถ่ายภาพ wedding เอาแปะฝาบ้าน ว่าอย่างน้อยครั้งนึงได้แต่งชุดสวยๆกับเขาบ้าง แต่ถ้าย้อนเวลาได้ ก็อยากจัดค่ะ จัดเล็กๆตามประเพณี ไม่รู้นะคะ ครั้งนึงในชีวิต ไม่ได้จัด มันรู้สึกยังไงๆไม่รู้ จากคุณ : ตุ๊กตาดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 01:15:13

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าไม่ติดขัดเรื่องอะไร จัดพอเป็นพิธีภายในก็ดีนะคะ เชิญแค่ญาติพี่น้องที่เคารพนับถือ ทำตามประเพณี อย่างน้อยเพื่อเป็นการบอกกล่าวว่ากำลังจะเริ่มต้น ชีวิตครอบครัวแล้วนะ จากคุณ : Vanila Creamy เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 01:40:46

ความคิดเห็นที่ 32 ตอนแรกๆก็คิดว่าจะจัดแต่ขอเก็บเงินก่อนเลยจดทะเบียนไปก่อน พอมีเงินแล้วเกิดอาการเสียดายตังค์อีกอย่างญาติพี่น้องเรามีหน้ามีตาแต่ไม่ซีเรียสเรื่องนี้กันเลยเราเลยไม่จัดซะเลย แต่แพลนว่าจะไปใส่ชุดแต่งงานถ่ายรูปที่มัลดีฟตอนครบ10ปี หลายคู่แต่งใหญ่โตใช้เงินเก็บที่อุตส่าห์เก็บมาแต่แต่งได้ไม่นานก็เลิก บางคู่ไม่ได้แต่งไม่มีแม้ใบทะเบียนแต่อยูกันยันแก่ ถ้าสะดวกอยากจัดก็จัดถ้าลำบากใจก็ไม่ต้องจัด จากคุณ : Mona...Da Vinci เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 02:26:08

ความคิดเห็นที่ 33 ดิฉันกับสามี เราจดทะเบียนสมรสกันที่อเมริกาค่ะ ในฐานะนักท่องเที่ยวทั้งคู่ ดิฉันไม่เคยคิดที่จะจัดงานแต่งงานเลยค่ะ จดทะเบียนกันได้เกือบจะปี แต่เราสองคนยังไม่ได้อยู่ด้วยกันหลังจดทะเบียนนะคะ แล้วดิฉันต้องกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่ไทย โดยพาสามีไปเปิดตัว ที่บ้านไม่มีใครรู้จักและเคยเจอสามีเลยค่ะ คุณแม่ขอให้จัดงานแต่งงานเล็กๆก่อนจะหอบผ้าหนีตามสามีไป ด้วยคุณแม่กลัวคำครหาของชาวบ้านค่ะ แค่เรื่องนี้จริงๆ ที่ทำให้ดิฉันยอมจัดงานแต่งงานตัวเอง แต่ก็เป็นงานแต่งงานแบบเรียบง่ายนะคะ แค่มีเลี้ยงพระเพล มีขนมไหว้แต่ไม่มีขันหมาก   ไหว้ผ้าญาติผู้ใหญ่ ญาติๆผูกข้อมืออวยพรให้ ไม่มีรดน้ำสังข์ค่ะ จัดโต๊ะจีนหน้าบ้านแค่ 15 โต๊ะ เลี้ยงเฉพาะญาติๆและเพื่อนสนิทค่ะ แต่เรื่องเหล้า เบียร์ ฯลฯ เรามีทุกอย่างค่ะ ไม่ได้เก็บซอง ไม่รับของขวัญค่ะ (แต่บางคนมีมาให้ก็ยินดีรับค่ะ) งานเลี้ยงจบ เราสองคนสามีภรรยาก็ช่วยกันเก็บกวาดหน้าบ้าน เรื่องสินสอด ดิฉันก็เรียกสามีไปเองให้พอเหมาะสมกับฐานะตัวเองค่ะ หมดค่าจัดงานไม่มาก แต่มีความสุขทุกฝ่ายค่ะ คุณเจ้าของกระทู้จะเอาไปเป็นไอเดียก็ได้นะคะ ปัจจุบันดิฉันกับสามีเรายังไม่มีลูกด้วยกันค่ะ แต่แต่งงานมา 6 ปีแล้วค่ะ ดิฉันไม่คิดว่าการจัดงานแต่งใหญ่โตจะเป็นเครื่องการันตีชีวิตสมรสที่ยั่งยืนค่ะ และถึงไม่ได้จัดงานแต่งงานเลย แต่คนสองคนก็สามารถอยู่ด้วยกันได้จนตายกันไปข้างหนึ่งค่ะ ดิฉันเห็นตัวอย่างคุณตาคุณยายในประเทศที่ดิฉันอยู่ค่ะ โชคดีกับชีวิตคู่นะคะ มีความสุขมากๆค่ะ มีเจ้าตัวเล็กไวๆค่ะ ^__^ จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 03:51:09

ความคิดเห็นที่ 34 ตามนั้น เหมือน คห.11 ค่ะ เรากะจะไม่จัดตอนแรก เพราะไม่อยากเอาเงินไปเสียตรงนั้น แต่เราเห็นใจพ่อแม่ ท่านอยากให้จัด เราจัดแบบเล้กๆ เชิญแขกมาไม่มาก มากินเลี้ยง ผูกแขน แค่ัน้นจริงๆ แป็ปเดียวเสร็จค่ะ พ่อแม่มีความสุขเราก็มีความสุขมากด้วย เราดีใจที่ตัดสินใจจัดนะ เป็นงานเล้กๆ แขกเข้ามาอวยพรเรา ผูกแขนเราและเจ้าบ่าว(อเมริกัน) เราเห็นรอยยิ้มของพ่อแม่ น้องๆ เรามีความสุขมากที่ทำให้ท่านยิ้มได้แบบนั้น จากนั้นก็บินกลับบ้านพร้อมสามีเลยค่ะ รอวันกลับไทยเยี่ยมพ่อแม่อย่างเดียวเลย คิดถึงท่านมาก รอคลอดลูกอยุ่ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 55 04:03:36 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 55 04:03:33 จากคุณ : MajestyLove เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 04:00:54

ความคิดเห็นที่ 35 จัดเล็กๆก็ได้ค่ะ เอาแค่เฉพาะญาติจะได้ไม่สิ้นเปลือง รูปแต่งงานก็ไปถ่ายเก็บไว้เปนที่ระลึกถ่ายที่สตูดิโอสวยๆก็ดี จากคุณ : aomjai (aomjai_ka) เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 08:32:02

ความคิดเห็นที่ 36 ขึ้นอยู่กับพ่อ แม่ และก็ฝ่ายหญิงค่ะ เราไม่ได้จัดงาน แค่ทานข้าวในครอบครัวให้รับรู้แค่นั้นค่ะ ครอบครัวเราเข้าใจ เพราะพี่ชาย แต่งงานจัดงานใหญ่ทั้งสองคน ญาติๆเหนื่อยเตรียมงาน งานขาดทุนเยอะ กลายเป็นภาระบ่าวสาวอีก ทางญาติพี่น้องเราเลยเข้าใจค่ะ จากคุณ : ต้าถุง เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 09:55:18

ความคิดเห็นที่ 37 จัดเพื่อความสบายใจของพ่อแม่ทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ แต่ถ้าพ่อแม่เห็นว่าไม่ต้องจัดก็ไม่ต้องจัดค่ะ จากคุณ : panda#80.6 เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 10:16:10

ความคิดเห็นที่ 38 สำหรับเราหลังจากจัดงานแต่งงาน แล้ว ก็รู้สึกค่ะ ว่าเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำมาก แต่ถามความรู้สึกตอนนี้ ก็ยังคิดว่าถ้าไม่ลำบากอะไรนัก จัดงานแต่งได้ ก็จะจัดค่ะ   เพราะการแต่งงาน ถือว่าเป็นการจัดให้พ่อแม่ค่ะ ของเราจัดทั้ง 2 ที่ ทั้งที่บ้านเรา และบ้านสามี  ทั้ง 2 บ้าน ร้องขอให้สมน้ำสมเนื้อทั้งคู่ จัดฝั่งเรา พ่อแม่เราก็หน้าบานเป็นจานเชิง พอจัดฝั่งสามี พ่อแม่สามีก็ยิ้มไม่หุบ ส่วนตัวบ่าวสาว หน้าเหี่ยวเอา ๆ เพราะถือคติกันทั้งคู่ ว่างานแต่ง ควรที่รับผิดชอบเงินเอง ไม่ควรเอาเงินพ่อแม่ ยิ่งเห็นแขกที่เชิญ หกร้อยกว่าคน ทั้ง 2 งาน ก็กลัวค่าใช้จ่ายจะปานปลาย โชคดีเงินใส่ซอง เสมอตัวทั้ง 2 งาน โล่งอกไปค่ะ จากคุณ : Punn_piglet เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 10:20:27

ความคิดเห็นที่ 39 เราจัดเล้กๆที่บ้านเลี้ยงเฉพาะญาติสนิทชวนเพื่อนสนิทมาฝ่ายละคน จากคุณ : liverlila เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 11:55:07

ความคิดเห็นที่ 40 จัดค่ะ   ตอนแรกเป็นคนเลี้ยงตัวเองไม่แคร์ใคร  ไม่อยากจัดเหมือนกันนะ   พอคุยกับแม่   อยากให้แม่มีความสุขให้เกียรติญาติทั้งสองฝ่าย  ก็เลยตัดสินใจ  จัดงานแต่ง   ไม่ผิดหวัง  พ่อแม่เรา  พ่อแม่ฝ่ายชาย  มีความสุขในวันแต่งงานของลูก  จะมีสักกี่ครั้งที่เราก้มลงกราบเท้าญาติทุกฝ่ายพร้อมๆ กัน เวลาผ่านไป  11 ปี  เมื่อวานเก็บบ้าน  เบื่อกับสามีทำบ้านรก  เบื่อกับคำพูดแย่ๆ   เซ็งจนไม่พูดกัน   เก็บบ้านไปมาเจอ  อัลบั้มรูปงานแต่งงาน   เอามาเช็ดฝุ่น  แล้วนึกถึงวันที่เราเดินจูงมือกันรับแขก   เค้าเป็นห่วง  ดูแลเราดีมาก  ถึงได้มีวันแต่งงานขึ้น   ยังดีใจที่ได้จัดงานแต่ง   อนาคตไม่รู้ล่ะ  จะดีร้ายไม่รู้     แต่ที่ผ่านมา  ห้วงนั้นเรามีสิ่งดีๆ ร่วมกันในเวลานั้นๆ   ก็โอเคแล้ว จากคุณ : น้องหญิงอนัตตา เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 14:03:47

ความคิดเห็นที่ 41 เราว่าการไม่จัดงานแต่งงาน คือ ข้อแก้ตัวค่ะ  แก้ตัวให้ตัวเอง หรืออาจจะแก้ตัวให้สามี สำหรับเรา งานเล็ก งานใหญ่ ไม่สำคัญ   สำคัญที่มันคือประเพณีที่ให้เกียรติพ่อแม่และเจ้าสาวค่ะ งานแต่งที่จัดเลี้ยงกันเอง  เสื้อผ้าใหม่คนละชุด มีแขก 5 โต๊ะ 10 โต๊ะ ทำกับข้าวกันเองมันจะซักกี่บาทเชียว  ถ้าไม่อยากสิ้นเปลืองก็แค่ไม่ต้องโชว์สินสอดก็เท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 55 14:21:22 จากคุณ : ink (siam) เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 14:20:51

ความคิดเห็นที่ 42 จัดค่ะ ... ตอนแรกคิดว่าจะไม่จัดเหมือนกัน เพราะรู้สึกว่ามันสิ้นเปลือง แต่คุณสามีอยากจะให้จัด เนื่องจากเขาให้เหตุผลว่าถ้าไม่จัดงานแต่งงาน อีกหน่อยเราไปงานเพื่อนๆ ก็คงรู้สึกเสียใจที่ไม่มีงานเหมือนคนอื่น เพื่อป้องกันปัญหานี้ในอนาคตก็เลยจัดมันซะเลย ทำแบบสมัยนิยมที่ทำๆ กัน แน่นอนว่าต้องใช้เงินพอสมควรแต่ก็คิดซะว่าเงินทองหาใหม่ได้ มีเวลาหาอีกทั้งชีวิต แต่ว่าเวลาหนุ่มสาวแบบนี้มันไม่หวนคืนแล้ว เหตุใดเราจะพลาดเสต็ปชีวิตนี้ไปเพราะเรื่องนี้ ซึ่งก็จริงดังคาด หลังจากนั้นพอเราไปงานแต่งงานเพื่อนๆ คนอื่น เห็นเค้าแต่งตัวสวยๆ ตัดเค้กกัน รินแชมเปญกัน เราก็อดยิ้มไม่ได้ว่า เออฉันก็เคยอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน ฉันเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว แอบภูมิใจเล็กๆ  ^^ แต่ที่ดิฉันว่าคุ้มจริงในการจัดงานแต่งงาน คือการที่เราได้รู้ว่าใครที่รักและหวังดีต่อเรา... และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พ่อแม่ของเราค่ะ ถ้าไม่จัดงานคงไม่รู้ว่าวันนั้นท่านมีความสุขมากขนาดนี้เชียวนะ เราว่าถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงมากก็จัดเถอะค่ะ งานไม่ต้องใหญ่ก็ได้ หมดเปลืองไม่มากหรอกค่ะ แต่มันจะเป็นความทรงจำที่ดีมากครั้งหนึ่งของชีวิตเลยล่ะ :-) จากคุณ : ไม้ไต่คู้ เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 14:28:45

ความคิดเห็นที่ 43 ของเราก็จัดเล็ก ๆ มีแต่ญาติพี่น้อง  คนนอกมีไม่ถึง 10 คนเลย  เป็นการผูกข้อไม้ข้อมือ ให้ทั้งสองฝ่ายรับรู้เท่านั้น จากคุณ : benjyja เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 15:50:20

ความคิดเห็นที่ 44 จัดค่ะ หลักๆเลยเพื่อพ่อกับแม่ค่ะ เพราะเสร็จงานแล้วรู้เลยว่าพ่อกับแม่มีความสุขมาก หน้าบานมาก ยิ่งใครชมว่าอาหารอร่อยงานดียังงั้นยังงี้ยิ่งสุขมากๆ แม้ว่ามันจะไม่เหมือนงานแต่งในฝันของเราอย่างสิ้นเชิง(งานเล็กๆอบอุ่นมีแต่ญาติมิตรสนิทๆเท่านั้นพอ) ก็รู้สึกว่าดีใจที่ทำให้พ่อกับแม่มีความสุขค่ะ จากคุณ : GTE happily ever after เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 17:11:04

ความคิดเห็นที่ 45 เออ..อีกประเด็น  ภาพความทรงจำในวันแต่งงาน  จะเป็นภาพติดตา   นานเท่านาน  อยากมีภาพแบบนั้น  ก็ต้องจัดจึงจะมี  หลับตายังมองเห็น วันนี้  อ่านกระทู้ ก็ยังมองเห็นภาพนั้น  จัดเล็กๆก็ได้ค่ะ  ถ่ายรูปไว้  ความรู้สึกมันบอกไม่ถูกน่ะ จากคุณ : น้องหญิงอนัตตา เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 17:47:01

ความคิดเห็นที่ 46 สำหรับเรายังไงก็จัดค่ะ ถึงใครแม้การแต่งงานจะไม่ใช่สิ่งการันตีว่าเราจะมีชีวิตคู่ที่ดี แต่เรามองว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่จะมีโอกาสทำได้บ่อยๆอ่ะค่ะ เราว่ายังไงผู้หญิงทุกคนก็คงหวังจะมีการแต่งงานครั้งเดียวในชีวิตอยู่แล้ว การแต่งงานเลยเป็นเหมือนอะไรที่มีโอกาสครั้งเดียวในชีวิตสำหรับเรา แต่ถ้าเงินมีไม่มาก ก็จัดแบบเล็กๆแบบพอกำลังทรัพย์เราก็ได้นี้ค่ะ จากคุณ : Sassy Mink * เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 19:07:16

ความคิดเห็นที่ 47 จัดเถอะค่ะ  เป็นเกียรติกับทางบ้านฝ่ายหญิง  เพื่อแม่ อย่างน้อยถ้ามีลูกจะได้เล่าให้ลูกฟังได้   อีกอย่างถ้าลูกสาวทำแบบเราบ้างจะรับได้มั้ย จากคุณ : Tubtimjung เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 21:24:29

ความคิดเห็นที่ 48 ตอนแรกเราก็กะว่าจะไม่จัดค่ะ พ่อกับแม่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่อยากให้จัดกลัวลูกสิ้นเปลือง แต่ในที่สุดเรากับแฟนก็ตัดสินใจจัดค่ะ รวบงานเดียวเลย ขึ้นบ้านใหม่+แต่งงาน แต่คงไม่เอาสินสอดอะไรมากองมากมาย เพราะไม่อยากเป็นหนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำใหญ่โตอะไร ผูกข้อไม้ข้อมือเฉย ๆ เราว่าถ้าเจ้าของกระทู้ไม่ลำบากอะไร เราก็อยากให้จัดแค่พอเป้นพิธีเอาเฉพาะญาติและเพื่อสนิทก็พอ จากคุณ : โมเม (momay_nueng) เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 21:48:03

ความคิดเห็นที่ 49 ถ้าพ่อแม่เรามีคนรู้จักเยอะ มีผู้หลักผู้ใหญ่รู้จักมักคุ้นมากมาย มีลูกน้องบริวารหรือครูบาอาจารย์ ควรจะจัดค่ะ เป็นการให้เกียรติท่าน ที่ท่านเลี้ยงดูเรามา ส่วนการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันเป็นเรื่องของเราสองคนค่ะ ที่จะพาไปได้ตลอดรอดฝั่งแค่ไหน งานแต่งงานไม่ใช่ประเด็นในการใช้ชีวิตคู่เลยค่ะ อันนี้ความคิดเรานะ ปล. เราแต่งแล้วเมื่อกลางปี ทำให้พ่อแม่ยิ้มได้ เรามีความสุขค่ะ จากคุณ : พี่หมีขาว เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 12:10:57

ความคิดเห็นที่ 50 เป็นการให้เกียรติพ่อแม่ค่ะ จากคุณ : ป (prettypukky) เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 55 17:23:11