ความคิดเห็นที่ 1 ชีวิตก็เป็นแบบนี้เรื่อยมาค่ะ จนตอนที่เราเริ่มท้องค่ะ ที่ตัดสินใจปล่อยให้ท้องเพราะเรา 2 คนเริ่มอายุมาก ถูกสังคมกดดัน ซึ่งบอกตรง ๆ เราเองไม่ค่อยพร้อม ด้วยนิสัยของสามีด้วย ยังไม่นับเรื่องงานบ้านที่ไม่เคยช่วยทำ กินไหนวางตรงนั้น ถอดเสื้อผ้าทิ้งทั่ว เราพยายามอดทนค่ะ ไม่ว่าอะไร เพราะถ้าพูดปุ๊บเค้าจะโกรธทันทีค่ะ ช่วงท้องก็เหมือนเดิมค่ะ ค่าหมอ ค่าอาหาร อะไรเราก็จ่ายเองหมด ยังต้องทำอาหาร ล้างจานเอง ไม่มีใครช่วย จน 9 เดือน ช่วงนี้มีเริ่มไปซื้อของให้ลูกค่ะ หมดไปหลายหมื่น ซื้อเฉพาะจำเป็นแล้วนะคะ ไปซื้อด้วยกัน แต่เราจ่ายเองค่ะ ไม่มีคำว่าจะช่วยเหลือ จนถึงตอนคลอดค่ะ เราต้องจ่ายค่าคลอดเองอีก เราก็คิดว่าอืม เดี๋ยวก็ได้เงินชดเชยจากประกันสังคม เราลางานแค่ 2 เดือนค่ะ เพราะเสียดายรายได้ และเราต้องจ่ายทุกอย่างเองหมด ช่วงที่เราลางาน เราหาแม่บ้านไปกลับมาช่วยได้คนนึงค่ะ ค่าใช้จ่ายยังไม่สูงมาก เราเลยขอให้สามี่ช่วยเดือนละ 4000 เพราะเค้าต้องจ่ายค่าไฟค่าน้ำ ก็สรุปว่าเค้ามีค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณ 7000 ตอนนี้เราหาแม่บ้านมาอยู่ประจำคนนึง ซึ่งเราจะต้องจ่ายทั้งค่าแม่บ้าน ค่าอาหารซึ่งสูงขึ้น ค่านมน้อง เพราะนมเราไม่พอค่ะ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 21:50:13 A:171.97.66.187 X: TicketID:346532

ความคิดเห็นที่ 2 เราคำนวนไปคำนวนมา ปรากฏว่า เนื่องจากตอนนี้สามีไม่ได้ผ่อนรถแล้ว หักค่าใช้จ่ายตายตัว ตอนนี้เงินเค้าเหลือเยอะกว่าเราอีกค่ะ เราเลยคุยกับเค้าว่าค่าใช้จ่ายเยอะ ช่วยออกให้เรา 6000 ต่อเดือนได้มั๊ย เค้าบอกว่าจะช่วยแค่ 5000 ค่ะ เราบอกว่าเราต้องผ่อนบ้านเงินเราเหลือน้อยกว่าเค้าอีก เค้าบอกว่า มันก็เป็นบ้านของเรา โหจุกค่ะ ความผิดของเราเหรอคะ ที่มีบ้านต้องผ่อน เราบอกว่างั้นเราให้เงินเค้าเดือนละ 10000 ให้เค้าไปบริหารเงินค่าแม่บ้านและอาหารเอาเองมั๊ย เค้าไม่ยอมค่ะ เพราะรู้ดีว่า ค่าใช้จ่ายมันตกเดือนละ 20000 อย่างต่ำ เราเริ่มเซ็งค่ะ ขอเงินแค่เดือนละ 6000 ไม่ให้ เราชักโมโหเลยบอกว่า งั้นออกคนละ 10000 เราจะทำบัญชีให้ดู ถ้าเงินเหลือเราให้เค้าเอาไปเลย ถ้าไม่พอ ก็ช่วยกันออก เค้าไม่พอใจ เงียบไปเลยค่ะ ถึงตอนนี้เรามาคำนวนค่าใช้จ่ายแล้วค่ะ เราคิดว่าเงินเดือนเราคนเดียว เราสามารถจ่ายทุกอย่างได้เองหมด แต่เงินเก็บคงจะเหลือน้อยหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าทนอยู่กับคนเห็นแก่ตัวใช่มั๊ยคะ นอกจากเรื่องเงินก็ยังมีเรื่องลูกอีกนะคะ เค้าแทบไม่เคยช่วยเลี้ยงลูกเลยค่ะ ถึงขนาดแยกห้องนอนเพราะไม่อยากได้ยินลูกร้องกลางคืน วันอาทิตย์เราต้องเลี้ยงลูกเองเหนื่อยมาก เค้าจะขลุกตัวอยู่ในห้องไม่เคยคิดจะหยิบจับอะไร กินข้าวก็ไม่เคยช่วยล้างจานชาม ขี้เกียจ ปล่อยตัวอ้วนฉุ ช่วงนี้เรากลับมาทำงานแล้ว กลับมาตอนเย็นเราเหนื่อยมาก แต่เค้าไปสังสรรค์กับที่ทำงาน กลับบ้านดึก บางทีลูกกวนหลายชั่วโมง เราก็เครียดค่ะ เราเลยขอว่า ช่วงยังไม่ได้แม่บ้านอยู่ประจำ กลับเร็วหน่อยได้มั๊ย ปรากฏว่าวันถัดมากลับช้าเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้บอกตรง ๆ เลยค่ะ เราหาข้อดีไม่เจอจริง ๆ ถ้าเจอก็น้อยมาก เช่นเราได้อาศัยนั่งรถเค้าไปซื้อของ ซึ่งจะไปไกลก็ไม่ได้ เค้าจะบ่นค่ะ ไม่อยากขับรถ บางทีก็ออกปากไล่เราไปแท๊กซี่ ทั้ง ๆ ที่ของที่ไปซื้อก็เป็นของมาทำกินในบ้านค่ะ บางทีให้พาลูกไปฉีดวัคซีนยังทำท่าไม่อยากจะไปเลยค่ะ บ่นนั่นนี่ เราก็ได้แต่อดทน แถมตัวเค้าเองอยากจะมีลูกสองคนค่ะ เราไม่อยากมีแล้วค่ะ นี่ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอเนี่ย ปล่อยชั้นจ่ายทุกอย่างเองแล้วอยากจะมีอีกคน โอ้ เถียงกันเรื่องนี้หลายรอบ เราให้ไปทำหมัน เค้าก็ไม่ยอมค่ะ สรุปว่าเห็นแก่ตัวได้ทุกเรื่องจริง ๆ สงสารก็แต่ลูกค่ะ เกิดมาได้แป๊บ ๆ ก็กำพร้าซะแล้ว บางทีเราก็คิดนะคะ เราอยากยกเค้าให้ครอบครัวที่เค้าอยากได้ลูกจริง ๆ ลูกเราจะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 21:50:35 A:171.97.66.187 X: TicketID:346532

ความคิดเห็นที่ 3 .. โถ... ใจเย็นๆ นะคะ.. ผู้ชายทุกคนเห็นแก่ตัวทั้งนั้น.. ขอบอก ถามเค้าเลยเป็นพ่อคนแล้วไม่คิดจะดูแลลูก-เมียเลยหรือไง? ถ้าจะอยู่ที่นี่บ้านต้องเช่าข้าวต้องซื้อเว้ยเฮ่ย.. จัดมาเลยค่าเช่าบ้านเดือนละ 7000 ค่ากับข้าว 3000 ค่าน้ำค่าไฟเดือนละ 1000 กินข้างนอกต่างคนต่างออก "เค็ม" เป็นคนเดียวหรือไง? ถ้าไม่ตกลงทางใครทางมัน.. .. จากคุณ : อาไน่ใจดี เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 22:19:30

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านแล้วรู้สึกเห็นใจจขกท.จริงๆค่ะ แต่ว่าอย่าเอาลูกไปยกให้คนอื่นเลยค่ะ เค้าไม่ได้อยู่กับพ่อแต่ก็ยังมีแม่ น่าจะรู้สึกดีกว่าที่จะต้องไปอยู่กับคนอื่นนะคะ อีกอย่างอ่านๆดูแล้วจขกท.ก็น่าจะสามารถเป็นซิงเกิ้ลมัมได้สบายๆอยู่แล้วหล่ะค่ะ จากคุณ : นีโมทอดกรอบ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 22:21:35

ความคิดเห็นที่ 5 เราว่าเรื่องเงินเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนควรคุยกันให้รู้เรื่องและถ้าตัดสินใจจะอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วต้องมองว่าเป็นเรื่องของคนสองคน ตอนเราจะแต่งงานเราถามสามีก่อนเลยนะว่าใครจะบริหารเงินของครอบครัว ซึ่งเค้าก็แต่งตั้งเราให้เป็นผู้จัดการ (อิๆ ตำแหน่งใหญ่โต) โดยยกเงินเดือนให้เราเกือบทั้งหมด (เค้าใช้เงินที่ได้จากโอที) ในส่วนของเราถ้ามีปัญหาก็ต้องบอกให้เขารับรู้ปรึกษากันหาทางแก้ไข มีหนี้เท่าไหร่ เหลือเก็บเท่าไหร่ เขาต้องรับรู้ด้วย มีอะไรเราไม่เคยเก็บไว้คนเดียว (เก็บไว้คนเดียวปวดขมอง) เราอยากให้ จขกท เปิดใจคุยกันใหม่ เราเชื่อว่าสามีคุณต้องรักคุณมากแต่อาจไม่ทราบว่าคุณอึดอัดเรื่องนี้ จากคุณ : Love CS เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 22:25:50

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกะ #4 นะคะ เราว่าคุณสามารถเป็น Single Mom ที่สุดยอดได้แน่นอนค่ะ เอาใจช่วยให้แก้ปัญหาตรงนี้ได้ไวๆนะคะ จากคุณ : nattabe เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 22:27:19

ความคิดเห็นที่ 7 คห3 ผู้ชายเห็นแก่ตัวทั้งนั้น โห เกินไปมั้ยอ่ะแม่คุ๊ณณ จากคุณ : Fraudster เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 22:30:09

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นใจ จขกท จริงๆเลยค่ะ ลองพูดคุยถึงปัญหาและตกลงกันอีกที  ถ้าตกลงกันไม่ได้   ก็ค่อยคิดว่าจะเดินหน้ายังไงต่อ   ไม่ว่าจะลำบากท้อใจขนาดไหนยังไง  อย่าทิ้งลูกนะคะ  เพราะลูกอยู่กับแม่ดีที่สุดค่ะ ตอนนี้ จขกท ทั้งเหนื่อยและ เครียด ชีวิตเลยดูแย่ไปซะทุกเรื่อง เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : พิกุลเหล็ก เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 22:35:40

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : pannui เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 22:39:34

ความคิดเห็นที่ 10 ใจเย็น ๆ ค่ะ จะบอกว่า เราเข้าใจคุณมาก เราเล่าเรื่องของเราให้ฟังนะคะ อดีตสามีเรามีงานประจำที่มั่นคงกว่าเราเงินดีกว่า ส่วนเราได้งานแบบไม่ต้องจบสูงก็ทำได้ เราเปลี่ยนงานบ่อย แต่ก่อนทำงานได้เงินเยอะกว่าเค้า พอหลัง ๆ เงินเดือนเค้าขึ้น เราก็ได้เงินน้อยกว่าเค้า จนเกือบครึ่งนึงเลยค่ะ แต่ก่อนก็แยกบัญชีกัน แบ่งค่าใช้จ่าย ค่าห้องจ่ายคนละครึ่ง ค่าอาหารเค้าออก ค่ารถเราผ่อน พอแต่งงานกัน ก็ไปเปิดบัญชีร่วมกัน แต่ก็ยังเก็บบัญชีส่วนตัวเอาไว้ บัญชีร่วมได้ดอกเบี้ย บัญชีส่วนตัวไม่มีนะคะ เรากับสามีคบกันมานาน ไม่เคยทะเลาะกัน แต่ที่ทะเลาะกันบ่อยที่สุดก็คือเรื่องเงินนี่แหละค่ะ ยกแรก พอเอาบัญชีร่วมกัน เราก็ควบคุมการเงิน ทำงานเอาเงินใส่บัญชีร่วม ค่าใช้จ่ายมาเราก็จ่ายเช็คออกไป เราก็คอยหมุนเงินให้ ค่าใช้จ่ายบางตัวของเรา มันจะมาตัดออโต้ที่บัญชีส่วนตัว เราก็จะมีย้ายจากบัญชีร่วมไปบัญชีส่วนตัวบ้าง สามีหาว่าเราโกงเงินค่ะ เราโกรธมาก เราเอาบัญชีมากางทั้ง 2 บัญชี แล้วให้เค้าชี้มาว่าตัวไหนโกง อย่ามาหาเรื่องกันนะ เค้าดูแล้วก็เงียบไป แล้วก็ไม่เคยมีคำขอโทษเลยค่ะ เราร้องไห้ เสียใจมาก เราอยากเลิกกับเค้ามากเลย ต่อมาเค้าก็เริ่มบ่นค่ะว่าเค้าทำงานได้เงินมากกว่า ทั้ง ๆ ที่เราทำงานหนัก หาเงินเต็มที่ บางทีทำงานเช้า เย็น ค่ำ ทำ 7 วัน ไม่มีวันหยุด เพื่อเก็บเงิน จากแต่ก่อนมีเงินเก็บแค่ $2000 แต่ก็เริ่มเก็บมาเรื่อย ๆ จนได้ $3หมื่นจะ 4หมื่น พอเริ่มซื้อบ้านก็ใช้เครดิตของเราทั้งคู่ แน่นอนว่าเค้าเครดิตดีกว่า เพราะมีงานประจำที่มั่นคง แต่เราก็ทำงาน หาเงินเพื่อไม่ให้เค้าหาว่าเอาเปรียบเค้า ทำงานเสร็จก็ต้องมาดูแลบ้าน ดูแลเรืื่องกับข้าว เราก็เหนื่อยนะคะ แต่เพราะรัก เราทำ บ้านเรา ผ้าม่านแต่ละบ้าน เราก็ติด ตกแต่ง หาเฟอร์นิเจอร์เอง เลือกเองอะไรเองหมด พอเศรษฐกิจตก มนุษย์แรงงานอย่างเราก็ตกงานเป็นคนแรก เราตกงาน เราก็ไม่นิ่งนอนใจ ออกไปหางาน ไปทำงานไกลแค่ไหนก็ไป โดนเค้ากดขี่ก็ยอม ก้มหน้าทำไป จนมันเครียด ก็ออกไปหางานใหม่อีก 2-3 งาน ก็เริ่มมีปัญหาเรื่องเงินกันมากขึ้น แม้เงินเก็บจะมีเหลือเก็บตลอดก็ตาม เราจะซื้อของฝากไปให้พ่อแม่เรา เค้าก็ไม่ยอม คือเอาง่าย ๆ เราจะใช้จ่ายอะไรนอกเหนือจากค่าใช้จ่ายปกติ เราต้องขออนุญาตเค้าก่อน แต่เค้าสามารถใช้ได้เลยทันที ไม่ต้องปรึกษาเราเพราะเค้าหาเงินได้มากกว่า ความอึดอัดมันมี แต่เราก็ไม่พูดอะไร จนเรามีลูก ไม่ได้ทำงาน ออกจากงานมาดูแลตัวเองที่บ้าน เค้าก็ถือว่า เค้าหาเงินคนเดียว ยึดหมดทุกอย่าง จนมีปัญหากันสุดท้าย แม่สามีมาไล่เราออกจากบ้าน เพราะเค้าถือว่า เป็นของลูกชายเค้าคนเดียว ทั้ง ๆ ที่เป็นชื่อเรากับเค้า แม้เราไม่ได้ทำงาน แต่นี่เราก็ทำงานผ่อนมาตลอด แถมเงินในบัญชีก็ยึดไปหมดเลย ปิดทิ้งไม่ให้เรา เราก็เลยเอาวะ ทำใจ แล้วก็เลิกกัน สำหรับเรา เรามองว่าเค้าเห็นแก่ตัว ก็เห็นแก่ตัว เค้ามองว่าเราเห็นแก่ตัว ก็เห็นแก่ตัวเหมือนกัน เรื่องเงินนี่ ทะเลาะกันหมดค่ะ ไม่ว่าจะพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูงหรือสามี เป็นปัญหาโลกแตก อยู่ที่ตกลงกันให้ดี ๆ ถ้าไม่ออกค่าใช้จ่ายใด ๆ ในบ้าน หรือช่วยเหลือเหมือนที่อาศัยอยู่ เราเห็นสมควรว่า ควรเป็นเพียงผู้อาศัย ต้องเรียกให้ออกค่าใช้จ่ายบ้างค่ะ ตามสมควร แต่ไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจใด ๆ หรือไม่มีสิทธิ์ในบ้านเลยค่ะ ส่วนเรื่องเลี้ยงลูก เหมือนจะเป็นสานดานของผู้ชายน่ะค่ะ เพราะตอนเราคลอดใหม่ ๆ ก็ต้องแยกห้องนอนเหมือนกัน ตอนหิ้วลูกไปหาหมอ เรายังถือของหนักไม่ได้ เค้าก็ไม่ยอมช่วยพาไป เราก็กระเตงลูกไปเอง คาร์ซีทหนักค่ะ เรื่องแบบนี้เป็นมานานแล้วค่ะ สมัยเราไม่สบายนอนซมไข้ แค่ให้ไปต้มน้ำร้อนให้ ก็ยังลีลาเลยค่ะ แต่พอตัวเองแค่เป็นหวัด เดินเหินได้สบาย อยากให้เราอยู่หายาให้กิน ไม่งั้นไม่กิน ถ้ารักกันก็สู้กันต่อไปเพื่อลูกนะคะ คิดให้ดี ๆ แต่ถ้าอยู่กันแล้วต้องทะเลาะกันเรื่องนี้ต่อไปให้ลูกเห็นเป็นปัญหา ก็ตัดสินใจดี ๆ ค่ะ ส่วนเรา เลิกค่ะ คำสั่งผู้ใหญ่ เค้าขัดไม่ได้ ก็ต้องเลิกค่ะ เลิกแล้ว มีความสุขขึ้นเยอะค่ะเรา จริงๆ อยากเล่าเรื่องของพี่อีกคนนึงให้ฟังในความสามารถของสามีเค้ามากเลยค่ะ แต่ท่าจะยาวไว้คราวหน้าค่ะ จากคุณ : ~amily~ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 22:40:56

ความคิดเห็นที่ 11 คุยกันก่อนค่ะ  ตกลงว่าสามีต้องช่วยค่าใช้จ่ายในบ้าน  เรื่องลูกอย่างน้อยก็ครึ่ง ๆ  ไม่อย่างนั้นก็ทางใครทางมัน  ลูกคนเดียวเลี้ยงเองได้อยู่แล้ว ตาย แค่มีงูเขียวตัวเดียวทำใหญ่โตไม่ช่วยงานบ้านบ้าง  เลี้ยงลูกจากผลผลิตตัวเอง ไม่ช่วยรับภาระค่าใช้จ่ายให้สมนำ้สมเนื้อ  เป็นป้าเฉดหัวออกจากบ้านแล้วค่ะ หนูยอมมีลูกกับคนเห็นแก่ตัวอย่างนี้ได้ไง แต่ก็เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : คนแม่กลอง เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 22:49:34

ความคิดเห็นที่ 12 อืม.......น่าเห็็นใจคะ ตอนพ่อกับแม่เราเลิกกัน เราบอกว่า"ม๊า ถ้าม๊าคิดว่าทำอะไรแล้วมีความสุขม๊าก็ทำไปเหอะ เพราะเรารู้ว่าม๊าอดทนถึงที่สุดแล้ว เราไม่ว่าหรอก" จากคุณ : cindychu เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 22:54:42

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านเรื่องของคุณยังกับเรื่องของตัวเอง เข้าใจสุดๆ ว่าการต้องทนอยู่กับความรู้สึกโดนเอาเปรียบเป็นยังไง ของเราสถานการ์ณเหมือนคุณมาก ออกเองเกือบหมด ผ่อนบ้านเอง แฟนให้เดือนละ 6-7 พัน มันพอที่ไหน เค้าก็อ้างว่า เค้ามีหนี้มีภาระ แล้วเราไม่มีเหรอ ทุกวันนี้ ชั่งใจเหมือนเด็ดดอกไม้ รักไม่รัก ฟิวส์จะขาดหลายทีแล้ว เพราะคิดว่า อยู่คนเดียวแม้จะจ่ายหมด แต่ไม่รู้สึกโดนเอาเปรียบ ติดที่ว่ามี ลูก สองคน ก็กลัว ลูกมีปัญหา แต่ก็คิดว่า ถ้าแยกกันแต่ยังทำหน้าที่พ่อแม่ก็โอเค เห็นสามีคนอื่น แบกภาระ ออกทุกอย่าง ภรรยา ไม่ต้องออก และ ผู้หญิงรอบตัวก็มีมาตรฐานแบบนี้ คือ ผู้ชายควรจะออกเกือบหมด เมียแค่เลี้ยงลูก ทำหน้าที่เมียก็เหนื่อยแล้ว เพราะทุกวันนี้เราก็เหนื่อยมาก หาเงิน เลี้ยงลูก แฟนเราค่อนข้างลอยตัว ชั่งใจอยู่เหมือนกันค่ะ โดนคนมองว่าโง่ก็หลายที ลึกๆ อายเหมือนกัน จากคุณ : Shorty and The Freaky Dogs เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 22:54:49

ความคิดเห็นที่ 14 เราเคยเจอปัญหาแบบนี้เหมือนกันคะ จ่ายคนเดียวไม่พอ ยังมีญาติมาให้เลี้ยงมาเป็นภาระเราอีก เคยมาปรึกษากับแม่ๆ ในนี้ ก็ได้ไปหลายๆ คำตอบ เคยคิดจะแยกตัว ก็หลายครั้ง แต่ตอนนี้ก็ยังอยู่ด้วยกันคะ เพราะมันมีช่วงนี้ที่เจ็บหนักๆ ถึงขั้นสุดๆ แล้ว เราชาคะ เลยกลายเป็นแค่คนรู้จัก จะทำไรเราไม่สน ไม่แคร์คะ หากินเอาเอง เราก็ยุ่งเหมือนกัน เหนื่อยเหมือนกัน ทำมึนไม่สนคะ อยากไปไหนก็ไป อยากกินไร ใช้ไร เราก็ซื้อแต่ของเรากับลูกคะ อยากกินไรดีๆหน่อย ก็พาลูกไปนั่งกินกันสองแม่ลูก จนเค้ารู้สึกได้อะ เราก็ทำแบบนั้นเรื่อยมา เพราะไม่มีกะใจจะเจอหน้า อยู่กันสองแม่ลูกแฮปปี้กว่า จนถึงตอนนี้เค้าก็ดีขึ้นคะ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างหารครึ่ง อยากได้ไร ให้หัดเก็บเงินเอง ถ้าเค้าเริ่มทำมึน เราก็อึนเหมือนกันคะ ทุกวันนี้ก็ดีในระดับนึงคะ เพราะลูกติดพ่อมาก ร้องหาตลอดถ้าไม่เจอ หรือหายไปไม่บอก เราสงสารลูกคะ เค้าปรับปรุงได้ เราก็ดีใจคะ ที่ลูกจะมีความสุข และความทรงจำดีๆ ในวัยเด็กคะ จากคุณ : แม่น้องมิวคะ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 23:05:45

ความคิดเห็นที่ 15 แปลกใจว่าเอาคนแบบนี้ทำสามีได้ไง หรือลายพึ่งออกค่ะ แล้วก่อนแต่งงานไม่มีตกลงอะไรกันเลยหรือค่ะ อย่างเราตอนเค้าบอกให้ออกจากงานก่อนแต่งงานมาเพื่อทำงานบ้านเลี้ยงลูก เราบอกว่าได้ แต่เราต้องได้เงินทุกบาททุกสตางค์ของเขา เขาก็ยินยอมโดยดีจนทุกวันนี้ค่ะ เรารู้สึกว่าสามีคุณทำไมมันเห็นแก่ตัวจังค่ะ เหมือนพวกคุณใช้ชีวิตแบบแฟน มากกว่าการเป็นสามีภรรยา(คนๆเดียวกัน) ต่างคนต่างอยู่ สมบัติใครสมบัติมัน แบบนี้จะมาอยู่กันให้อีรุงตุงนังทำไม สงสารคุณนะค่ะเลี้ยงลูกอีก ทำงานอีก ภาระหลายอย่าง สามีห่วย ยังไงตัดสินใจดีๆนะค่ะ จากคุณ : atta (sharnack) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 23:12:36

ความคิดเห็นที่ 16 ผู้ชาย คือ เด็กในร่างผู้ใหญ่ครับ ต่อให้โตยังไง นิสัยแบบเด็กๆก็ยังอยู่................... จากคุณ : pixx666 เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 23:24:36

ความคิดเห็นที่ 17 รู้ไหมคะว่าการให้เงินหมายถึงอะไร หมายความว่ารักค่ะ เพราะกว่าจะได้เงินมาต้องทำงาน ซึ่งหมายถึง ใช้สมอง ใช้แรงงาน ใช้เวลา การที่เราจะเสียเงินให้กับสิ่งใดเราต้องคิดแล้วว่าคุ้ม เราถึงจะจ่าย ในเรื่องนี้การที่ผู้ชายไม่ยอมจ่ายหรือจ่ายน้อยกว่า เพราะเขารักผู้หญิงคนนี้น้อยกว่าตัวเขาเอง พูดง่ายๆคือ ผู้หญิงคนนี้ไม่คุ้มกับที่เขาจะจ่าย ถ้าผู้ชายคนไหนคิดกับเราแบบนี้ก็คิดเอาเองนะคะว่าจะอยู่กับเขาดีหรือไม่ คุ้มไหมที่จะอยู่กับคนแบบนี้ จากคุณ : neat-neat 17 เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 23:25:16

ความคิดเห็นที่ 18 ผู้ชายคนนั้น   คงไม่มีศักยภาพพอ ที่ จะ เลี้ยง หมาสักตัว หรือปลูกต้นไม้ ให้เห็นดอก ออกผลเลย ครับ   ผมเชื่ิอ  ตั้งแต่อ่านถึง ย้ายห้องนอน  เพราะ ลูกร้องตอนกลางคืนแล้ว เวรจริงๆ จากคุณ : otto เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 23:41:08

ความคิดเห็นที่ 19 นั่งอ่านนานมากทีละบรรทัด หาข้อดีไม่เจอเลย อยู่ไปรังแต่จะพาเหนื่อยใจเปล่าๆ เอาเวลาที่ต้องเหนื่อยใจกับสามีเห็นแก่ตัว ไปทุ่มเทให้ลูกดีกว่าค่ะ เราก็ทิ้งสามีเก่าตั้งแต่ลูกอายุห่างกับลูกคุณเดือนเดียวเอง ( ตอน 3 เดือน ) สรุป ชีวิต ณ ตอนนี้ ศิวิไล จริงๆ คิดไม่ผิดที่ทิ้ง ( มัน ) มา .... เหอๆ 13 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา ไม่เคยได้ร้องไห้ หรือ ปวดหัว เหมือนก่อนอีกเลยค่ะ ฟ้าหลังฝน ย่อม สดใสเสมอ ^_^ จากคุณ : PHaTthiTA เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 23:52:53

ความคิดเห็นที่ 20 รับไม่ได้คะกับลูกร้องย้ายห้องหนี ไม่ช่วยไม่หยิบจับ  คุณเป็นซิงเกิ้ลมัม ที่สุดยอดนะ   เขาเองไม่ได้ช่วยค่าใช้จ่ายคุณมากมายคุณจัดการเองเลยคะ บ่าน นี่วื้อใช่ไหมคะแต่ผ่อน เป็นชื่อคุรคุณผ่อนต่อเลยคะ ไล่เขาไปที่อื่นเลย จะได้ไม่ต้องมีภาระเพ่ิมเรากิน ใช้ตนเดียว ไม่มากเท่าไห่หรอกคะ จากคุณ : มุกกิ มุกกิ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 00:10:17

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านแต่ละความเห็นเรื่องผู้ชาย ที่ว่าต้องเห็นแก่ตัวแบบนั้นกันหมดทุกคน อืม สงสัยจะมีปม และยังไม่เจอดีๆ ทุกคนมีดีมีเลว แต่อ่านของ จขกท แล้วงง คือแบบว่า สำนึกของความเป็นคนหนะมีมั๊ย ชายคนนั้นอะ หรือผมเป็นผู้ชายที่ผิดปกติ ลูกติดพ่อมากกว่าแม่อีก และค่าใช้จ่ายของลูกก็ออกเกือบทั้งหมดเพราะบางครั้งเค้าบอกเค้าจะออกเอง(อ่านกระทู้อื่น ฝ่ายชายก็เป็นฝ่ายรับผิดชอบการเงินของลูกเหมือนๆกับผมนี่แหละ) จากคุณ : ส่งจากแท๊บเล็ท (neonicus) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 00:19:25

ความคิดเห็นที่ 22 ลองคุยกันดูแล้วให้โอกาสอีกครั้งถ้าไม่เปลี่ยน เลิกเถอะครับ ขนาดผมเป็น ผช อ่านแล้วยังรับไม่ได้เลยโดยเฉพาะการที่คนเป็นพ่อไม่ทำหน้าที่ของพ่อ ส่วนเรื่องหน้าที่ของสามีก็อีกเรื่อง ออกแนวเฮงซวยครับแบบนี้ จากคุณ : เต้าหยินไม้แห้ง เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 00:40:21

ความคิดเห็นที่ 23 โห...  อ่านแล้วเห็นใจ จขกท. จริงๆค่ะ แต่อยากบอกว่า อะไรๆ ก็อย่าโทษลูกเลยค่ะ เราเข้าใจนะ ว่าเหนื่อย และเครียดกับงาน และยังลูกอีก มันเหนื่อยใจ..และท้อกาย จริงๆ ค่ะ เราเลี้ยงลูก2คน บางครั้งอยากให้สามีกลับมาเร็วๆ บ้าง ให้ช่วยเลี้ยง เพราะคนเล็กจะป่วยบ่อย อ้วกตลอด แต่ก็เหมือนแกล้ง ถ้าได้โทรไปบอกให้กลับเร็ว จะกลับช้าทันที... แต่งงานกันมานานแล้ว ก็อยากจะพูดดีๆ กลัวลูกจะเอาไปพูดบ้าง แต่มันเหลืออดจริงๆ ระยะหลังปีสองปีมานี่ มันสุดทน ((เห้ย วะ โว้ย )) ให้ไปเรียบร้อยล่ะ แต่เค้าก็ยังดี หัวเราะขำที่เราด่าซะงั้น.... ถ้าเค้ารักเรา เค้าคงไม่ทำแบบนี้หรอกค่ะ แค่เค้ารักคุณและลูกไม่มากพอ เลยไม่คิดจะทำอะไรเพื่อคุณเลย ถ้าเป็นเรา เราจะไม่ให้ลูกมีพ่อแบบนี้จะดีกว่า..   มีแต่แม่ทำไมจะมีความสุขไม่ได้ จากคุณ : kansakx_aj5 (kansakx_aj5) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 01:14:30

ความคิดเห็นที่ 24 ดีใจด้วยนะคะ ที่สลัดผู้ชายเห็นแก่ตัวออกไปได้ จากคุณ : เด็กเก็บศพ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 01:17:35

ความคิดเห็นที่ 25 เฮ้อ ...ไม่อยากพูดคำนี้เลย แต่ไม่ไหวค่ะ คุยเปิดอกซะเถอะค่ะ ถ้าเค้ายังไม่เปลี่ยนก็เลิกเหอะ ผู้ชายอะไรเห็นแก่ตัวแบบนี้อ่าน แล้วเพลีย เป็นพ่อและสามีที่ใช้ไม่ได้เลย เรื่องเงินทองเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่เราว่า ส่วนมากสามีควรต้องรับผิดชอบนะ อย่างของเราสามีออกทุกอย่างค่ะ เงินเก็บจะอยู่ กับเรา ใช้จ่ายอะไรไปก็ลงบัญชีไว้ค่ะ จากคุณ : aya BGIRL เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 01:38:27

ความคิดเห็นที่ 26 คิดเเล้วว่าจะอยู่กันต่อ ก็ใช้กระเป๋าเดียวกันซะ เงินเดือนของสองคนมาเข้าบัญชีเดียวกัน ค่าทุกอย่างก็ใช้บัญชีนี้ เก็บซัก 60% ที่เหลือก็ใช้กันไป จะได้ไม่มีปัญหานี่เงินฉันนี่เงินเธอ เรื่องเเยกห้องนอน ก็ตามไปนอนด้วยซิค่ะ เอาลูกไปนอนด้วย เวลาทำทำด้วยกัน เวลาเลี้ยงจะมาเกี่ยง ไม่เเมนเลยนะ ถ้าไม่ใช้งานที่ต้องใช้เวลาพักผ่อนเยอะๆ อย่าเอาเรื่องนี้มาอ้าง หมอศัลที่เรารู้จัก มีลูก 4 คน ทำงานรพ.รัฐ เปิดคลีนิคตอนเย็น ตอนกลางคืนก็ผลัดกันกับเเฟนเขาดูลูก เขายังทำได้เลย เรื่องผ่อนบ้านผ่อนรถ บ้านเขาอยู่ไหม รถเขาใช้ไหม อะไรที่มันใช้ร่วมกันไม่ว่าจะชื่อใคร ถ้าเป็นผู้ชายเเละยังมีศักดิศรีก็ต้องออกนะ บ้านเราชื่อเเม่เรา เเต่พ่อจ่ายทุกบาท ไม่มางี่เง่าเรื่องพวกนี้หรอก พ่อบอกเเต่งงานกันเเล้วรวมกระเป๋าน่ะดีที่สุด เพราะชีวิตคู่มันไม่ใช่เรื่อง ของฉันของเธอ เเต่มันเป็นเรื่อง ของเรา ต่างหาก พ่อเราจ่ายทุกอย่าง ตั้งเเต่ตอนเเม่ทำงาน เงินเดือนเเม่ เเม่จะซื้ออะไรส่วนตัวก็ซื้อไป เพราะค่าบ้านค่าทุกอย่างพ่อเราจ่าย ทั้งที่เงินเดือนห่างกันไม่มากเลย เเม่ก็เอามาซื้อของให้เราให้น้อง เเต่ถ้าพ่อไปด้วย พ่อก็จ่ายให้อีกนั่นเเหละ ผู้ชาย เเค่เรื่องเงิน ถ้าทำเพื่อลูกเพื่อเมียไม่ได้ เเต่งงานทำไม มีลูกทำไม อยู่คนเดียวฟันกะหรี่ไปวันๆไม่ดีกว่าเหรอ จ่ายเเค่รายครั้ง ไม่ต้องดูเเลใคร สนเเต่ตัวเอง อยู่เเต่กับตัวเองก็พอ สุดท้าย เราอยากให้หย่า(เรานี่บ้าเนอะ ชอบให้คนเลิกกัน) เราถือวิสาสะคิดเเทน จขกท ว่าถ้าเราเป็นคุณ เราจะอยู่ต่อไปไหม คำตอบคือไม่ ผู้ชายอะไรทำตัวเยี่ยงปลิง เเถมอยู่เป็นคู่ชีวิตก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เป็นตัวถ่วงความเจริญชัดๆ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 01:51:10

ความคิดเห็นที่ 27 เข้าใจ จขกท เลยค่ะ เพราะเคยเจอคนแบบนี้ แฟนเก่าเราเอง พอวางแผนจะสร้างครอบครัว เราก็ซื้อบ้าน เป็นชื่อเรา แต่แฟนเป็นคนอยู่ดูแลบ้่าน เฟอร์นิเจอร์ ทุกอย่างเราเป็นคนซื้อ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เราเป็นคนออก วันหยุดเราต้องมาดูแลบ้าน ทำสวน เค้าไม่เคยทำเลย เรียกว่าอยู่ฟรี กินฟรี รถเค้าเป็นชื่อเรา เราผ่อน รายได้ของเค้ามีไว้เที่ยวกลางคืนกับกินเหล้ากับเพื่อน ทนได้ 3 ปี ก็เลิกค่ะ ผู้ชายอะไรเห็นแก่ตัว ตอนเลิกเราให้เค้าออกจากบ้านเพราะเราจะขายบ้าน เค้ายอมออก แต่ด่าเราว่า เค้าไปแต่ตัว ไม่มีสมบัติเลย รถเค้าเอาไปด้วย เราไปปิดบัญชีแล้วบังคับ ให้เค้ากู้เอง ถ้าไม่ยอมเราจะยึด เค้าเลยยอม แต่ด่าว่าเราเห็นแก่ตัว เค้าไม่เคยคิดว่าตัวเองผิด ตอนนี้เราแต่งงานแล้ว สามีดีมาก คือนิสัยตรงข้ามแฟนเก่าเราเลยค่ะ แฟนเก่าเรายังตื้อเราทุกวัน เพราะพอไม่มีเรา เค้าแย่ไงคะ เรายังดีที่คิดได้ก่อนแต่งงาน แต่ก็เสียเงินไปเกือบ2 แสนเพราะเค้ายืมไป แต่ไม่ยอมคืน เราเลยเข้าใจ จขกท เลยค่ะ จากคุณ : ต้าถุง เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 01:55:41

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านมาได้ 25 ความเห็น มีอย่าง คห 3 บอกว่า ผู้ชายก็เห็นแก่ตัวทุกคน สงสัยจะเพี้ยน รู้จักผมรึยัง อยู่ ๆ มาสรุปรวม ผู้ชายเห็นแก่ตัวก็คงมี แต่ไม่ได้ทุกคนแน่ ๆ ผู้หญิงเห็นแก่ตัวก็มี คนมีเลวดี ปะปนกันไป คนเคยเลวก็ดีได้ คนเคยดีก็เลวเป็น บาง คห บอก ผู้ชายมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวทุกคน ทำไมต้องใช้คำว่าทุกคน ไม่เข้าใจ แต่อ่าน หขกท ของ จขกท แล้ว ก็ให้งงว่า สามีนิสัยอย่างนี้ แต่งกันไปได้ยังไง ไม่รู้นิสัยใจคอกันมาก่อนเลยรึ อะไรจะแจ็คพอทขนาดนี้ หลายครอบครัวก็ภรรยาออกค่าใช้จ่ายมากกว่า แต่บางทีอาจเพราะสามีรายได้น้อย หรือมีปัญหาการเงิน แต่ของ จขกท ก็ไม่ใช่อีก เฮ้อ มีลูกแล้ว ก็มีเพื่อนแล้ว นึกซะว่าเขามาช่วยทำลูกให้ละกัน จขกท ไปเลี้ยงเองเฮอะ จะได้ไม่ต้องทนทุกข์รำคาญ (น่าเบื่อกว่าทนทุกข์ทรมาน น่ะ) จากคุณ : LUCKPOWERRICH เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 02:03:33

ความคิดเห็นที่ 29 อย่าไม่ยอมให้เขาเห็นแก่ตัวกับเรา     ถ้ายังเป็นแฟน ยังไม่ได้แต่งงาน ก็ต้องทดสอบกันสุด ๆ เรื่องนี้สำคัญ ไปกินข้าวกัน เขาออกหรือเปล่า หรือนั่งเฉยรอเราจ่ายอย่างเดียว มารับมาส่งบ้างไม๊ ยืมตังค์เราตลอดหรือเปล่า      พอแต่งงานแล้ว มันแก้ยาก นิสัยเขาเป็นอย่างนั้นมาค่อนชีวิต อ่านเรื่อง จขกท ก็อยากบอกว่าทำใจให้เลิกไปเถอะ ท่าทางอาการเยียวยาลำบาก ผู้หญิงเก่งอย่าง จขกท เดี๋ยวต้องได้เจอคนดี ๆ แน่นอน ปล. นึกซะว่าได้สเปริมมาทำลูกฟรี ๆ ส่วนพ่อ ปล่อยไปเถอะ จากคุณ : Pidchayut เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 04:43:06

ความคิดเห็นที่ 30 เขาเป็นภาระมากกวาเป็นที่พึ่ง แม้กระทั่ง เดินเคียงบ่า เีคียงไหล่ ยังทำไม่ได้เลย ยิ่งเขางอมือ งอเท้าเท่าไร ภาระทั้งการเงิน และหน้าที่ในครอบครัว ก็ยิ่งตกหนักอยู่บนบ่าของคุณ ้้ ถ้าคุณไม่มีลูก คงบอกให้คุณเลิก แตพอมีลูก มันยากขึ้นอีกระัดับหนึ่ง ถ้าลูกยังต้องการพ่อ ผู้หญิงส่วนหนึง ก็ยอมเลี้ยงพ่อของลูก (ไว้เป็นภาระ) เหมือนมีลูกอีกคน  เหนื่อยหนักกกกกกกกก แต่อยานึกว่า จะดี   พ่อเป็นอยางไร  ลูกชายก็จะเป็นอย่างนั้น ถ้าลูกสาว เห็นพ่อเป็นแบบไร ก็จะชิน โตขึ้น ก็จะไปคว้าคนแบบนั้น กรรมของพ่อ ตกสู่ลูกเห็น ๆ อีกทาง  คือ เลิกกันไป  ลูกจะขาดพ่อ ผู้หญิงก็ต้องเหนื่อยหนัก ที่จะซ่อมแซมแก้ไขใจลูก สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ด้วยตัวคนเดียว ต้องแกร่ง รอบรู้ ไม่เหงา ไม่หวั่นไหว ไมว่าทางไหน เหนื่อยทั้งนั้น วิเคราะห์มามากมาย  คือ ครอบครัวเราเอง เราเลือกทางแรก  แต่ทำให้เหนื่อยยิ่งไปกวานั้น คือ พยายามทำใ้ห้สามีดีขึ้นให้ได้ โน้มน้าวให้เขาเห็นว่า ทั้งหมดทีอยากให้เขาทำ ไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง แต่เพื่อให้ลูกเคารพพ่อได้  รักพ่อ ภูมิใจในตัวพ่อได้ ถ้าพ่อเอาแต่งอมืองอเท้า วันหนึ่งลูกสาวที่เขาว่า รักหนักหนา  โตขึ้น ก็จะรับผู้ชายที่เป็นภาระมาเลี้ยงดู เพราะเขาชินว่า พ่อก็เป็นแบบนี้ แม่ยังทนได้ ถึงวันนั้น คนที่อกแตก ก็คือ ทั้งพ่อและแม่ ชีวิตคนมันยาวนะคุณ ทุกอย่าง เป็นเรื่องกฎแห่งกรรมทั้งนั้น ถ้าคุณยอมก้มหัวให้ความไม่ถูกต้องสักครั้ง มันจะตามมาแว้งกัดคุณในที่สุด แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 55 06:01:47 จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 06:00:22

ความคิดเห็นที่ 31 ขกท นะคะ ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ บางครั้งการได้พิมพ์ ได้อ่านกระทู้ก็ทำให้เรามีสติ ไตร่ตรองนะคะ เรื่องที่มีคนสงสัย เราไม่เคยตกลงกันเรื่องเงินก่อนแต่งงานเลยค่ะ ปัญหาคือเรามีเงินเดือนเยอะกว่ามากนี่แหละค่ะ เค้าก็จะคิดแต่ว่าเราเงินเดือนเยอะมากกกก ไม่ได้หักค่าใช้จ่ายไงคะ ตอนคบกันเวลาไปทานข้าวหรืออะไรก็จะออกแนวแชร์ค่ะ เค้าเลี้ยงบ้าง เราเลี้ยงบ้าง พอดีเราเป็นคนมีน้ำใจ แล้วชอบเห็นใจคนอื่นจนเกินไปไงคะ บ้านเรากับเค้าไกลกันมาก มาหาเราทีหมดค่าแท๊กซี่หลายร้อยเลยค่ะ เราเห็นใจ เราเลยจะเลี้ยงข้าวเค้าบ่อยหน่อย อันนี้คงสร้างนิสัยไม่ดีให้เค้าค่ะ เราไม่รู้ว่าเค้ารักเราหรือปล่าวนะคะ แต่เราไม่ได้รักเค้าค่ะ ตอนเราคบกัน เราก็ไม่เคยคิดจริงจังกับเค้าเลยนะคะ แบบหาเพื่อนดูหนัง กินข้าว แค่นั้น ตอนนั้นเราอกหักค่ะ แบบว่ารักแฟนเก่ามาก ทำใจไม่ได้ แฟนเก่าเราสปอร์ตค่ะ จ่ายทุกอย่างให้ แต่ว่าเจ้าชู้ ท้ายที่สุดเลยทิ้งเราไปมีคนอื่น พอเรามีแฟนใหม่เลยออกแนว ขอให้ไม่มีเรื่องผู้หญิง เรื่องอื่นเป็นเรื่องรอง จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 07:08:58 A:171.97.66.187 X: TicketID:346532

ความคิดเห็นที่ 32 กับคนนี้เราแต่งงานแบบจำยอมค่ะ คือ ตอนเราคบกันเราก็แอบปิดแม่นะคะ กับเพื่อนเราก็ไม่เคยเปิดตัวเลยค่ะ เราไม่คิดว่ามันจะยืนยาวค่ะ เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ได้ดูเค้าให้ดีค่ะ ที่สุดแม่จับได้ว่ามีแฟน ทีนี้แหละค่ะ กดดันให้แต่งงานทันที แม่เรากลัวเราขึ้นคานค่ะ ตอนนั้นเราแค่ 31 ค่ะ ตัวเราไม่กลัวขึ้นคานและไม่คิดว่าตัวเองแก่นะคะ เค้าเลยให้พ่อแม่มาสู่ขอ ตอนนั้นเลยตั้งเวลาเตรียมงานปีนึงค่ะ ระหว่างช่วงปีนั้นเราทุกข์ใจมากค่ะ เพราะเราไม่อยากแต่งงานค่ะ เราเองก็รู้สึกว่าเรายังดูผู้ชายคนนี้ไม่ดีพอ ยังมีอะไรที่เราไม่ถูกใจอีกเยอะ เราก็พยายามประวิงเวลานะคะ ขอผู้ใหญ่เลื่อนบ้าง ขอเลิกงานแต่งกับเค้าบ้าง เวลามันเดินไปเรื่อยๆ จนแจกการ์ดนะคะ ถึงตอนนั้นเราก็ยังคิดอยากจะเลิกงานอยู่ค่ะ แต่มันกระทบกับผู้ใหญ่หลาย ๆ คนจริง ๆ ค่ะ เราเองก็ใจไม่เข้มแข็งพอ พอแต่งงานแม่เราหอบสินสอดไปอีก แบบว่ามันเงินเก็บเค้าตั้งแต่ทำงานมาค่ะ ไม่เยอะมากแต่มันก็เงินเก็บของคน ๆ นึงนะ กว่าจะหามาได้ เราค่อนข้างเสียใจเรื่องนี้เหมือนกันนะคะ ว่าทำใมแม่ทำให้เค้าดูถูกเราได้ ตอนนี้แม่ใช้เงินนั้นหมดไปแล้วค่ะ ถ้าย้อนเวลาได้ เราคงจะไม่แต่งงานกับคน ๆ นี้หรอกค่ะ เสียดายทั้งตัวทั้งเวลาจริง ๆ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 07:09:24 A:171.97.66.187 X: TicketID:346532

ความคิดเห็นที่ 33 ทำใมไม่เอาเงินมารวมกัน อันนี้เราทำไม่ได้จริง ๆ ค่ะ เราเองก็ออกแนวฟุ่มเฟือยเหมือนกันนะคะ แบบว่าหาเงินได้เยอะ บางทีอยากซื้อกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอางค์แพง ๆ บ้าง เราไม่อยากให้เค้ามาว่าเราเวลาใช้เงินฟุ่มเฟือย เราเลยไม่ก้าวก่ายเงินเค้าค่ะ ตัวเค้าเองใช้จ่ายประหยัดค่ะ เสื้อผ้าอะไรก็ไม่ค่อยได้ซื้อ เราก็ชอบไปคิดแทนเค้าอีกค่ะ ว่าเออเค้าทำงานมายากลำบาก เงินทองก็ไม่ได้ใช้ แล้วเราจะไปเอาเงินเค้ามาใช้เหรอ ในเมื่อดูตัวเราซิ บางทีก็ใช้ไร้สาระ เราเลยไม่เคยขอเงินเค้าเลยค่ะ ค่าใช้จ่ายตอนท้อง เราไม่รู้ว่ามันความผิดเราเองหรือปล่าวนะคะ เราไม่เคยขอให้เค้าช่วย แล้วเค้าเองก็ไม่เคยถาม เราเลยออกเอง เราออกแนวปากหนักนะคะ คือเราคิดว่าคนเราควรจะมีสามัญสำนึกนะ ทำใมเราต้องถามหาความช่วยเหลือด้วย จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 07:10:07 A:171.97.66.187 X: TicketID:346532

ความคิดเห็นที่ 34 ทำใมปล่อยให้มีลูก ภายนอกครอบครัวเราดูสมบูรณ์นะคะ ทั้งคู่หาเงินได้เยอะ มีบ้าน มีรถ อายุทั้งคู่ก็เริ่มเยอะ เราเองก็แต่งงานมาหลายปี เราไม่ยอมปล่อยให้มีลูก เพราะเราเองก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเค้าเท่าไหร่ แต่คงเป็นเพราะอายุเยอะแหละค่ะ เราเห็นข่าววิลลี่ เยนหลี ต้องจ่ายเงินกันหลายเพื่อจะมีลูกซักคน เราเลยกลัวว่า ถ้าเราเปลี่ยนใจ อยากมีขึ้นมา เราจะมียาก ปรากฏว่าเราดันมีลูกง่ายค่ะ งานเราเองค่อนข้างดีมากค่ะ นอกจากเงินเดือนเราดีแล้วโบนัสเราก็ดีอีกค่ะ ทำให้เรามีเงินเก็บเยอะ ส่วนสามีเงินเดือนน้อยกว่า แถมโบนัสบางทีไม่ได้เลยก็มี เงินเก็บเค้าจะน้อยกว่า เค้าเองก็กดดันว่าตัวเองไม่มีเงินเก็บค่ะ ตอนนี้เค้าเร่งเก็บเงินเพื่อจะเอาไปลงหุ้นกับบริษัทเค้าค่ะ เราไม่ทราบว่านี่เป็นเหตุผลว่าเค้าเลยไม่อยากรับภาระค่าใช้จ่ายในบ้านเยอะหรือปล่าว เราเองพยายามเข้าใจ และคิดแก้แทนค่ะ แต่ที่ปรี๊ดคือ ขอ 6000 ไม่ยอมให้ ทั้ง ๆ ที่รายจ่ายจริงเราจ่ายมากกว่านั้น ตอนนี้เรายังไม่ได้คุยกับเค้าค่ะ ตั้งแต่เมื่อวานซืนหลังคุยเรื่องเงิน เราก็ไม่คุยกับเค้าอีกเลย เราตั้งใจว่า เราคงจะไม่คุยแล้วค่ะ เราตัดใจแล้ว เราได้ชี้แจงในส่วนของเราแล้ว เราจะไม่ไปพิรี้พิไรเซ้าซี้เอาเงินอีกค่ะ ถ้าคิดไม่ได้เอง ก็เป็นบุญของเราค่ะ หมดกรรมกันไป เราจะคิดว่าเค้าเป็นคนมาเช่าบ้านค่ะ ยังไงก็แยกห้องกันอยู่แล้ว เรื่องจะไปไหนมาไหนด้วยกัน เราคงจะไม่ไปด้วย แล้วเรื่องอาหารก็ปล่อยเค้าไปหากินเอง เงินเล็กเงินน้อยที่เค้าให้มา เราก็จะเก็บไว้ให้ลูกค่ะ ว่าจะเอาไปฝากธนาคารแยกต่างหากไว้เลย จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 07:11:02 A:171.97.66.187 X: TicketID:346532

ความคิดเห็นที่ 35 อ่าทำไมเราเงินเดือน 50000 มันหมดไปกับค่า รถ บ้าน น้ำมัน นมลูกหมดเลยไม่เหลือเก็บหว่า จากคุณ : ไชโป๊ผัดไข่ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 07:40:37

ความคิดเห็นที่ 36 ผู้ชายดีๆก็มีอีกเยอะนะ สามีเราเป็นแฟนกันตอนเราเรียนปริญญาโท ก็ช่วยแม่เราส่งเสียเรา ตอนเราทำงานใหม่ๆ ได้เงินเดือนแค่ 20,000 บาท เค้าก็ให้เงินเราอีก 30,000 บาท เพื่อให้เรามีเงินใช้จ่ายในบ้าน แล้วเค้าผ่อนรถทั้ง 2 คัน บ้านอีก 1 หลัง ลูก 2 คน ทุกวัันนี้เราเงินเดือน 100,000บาท แล้วเราเลยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านคนเดียวทั้งหมด ให้เค้าออกเฉพาะค่าผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโด ผ่อนรถ 2 คัน กับค่าเรียนลูก เราว่าคนร่วมชื่อชีวิตกันมีภาระร่วมกันแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายต้องไม่คิดจุกจิกเรื่องเงิน เราทำงานการเงิน เป็นคนละเอียดเรื่องเงินมาก แต่สามีซื้อใจเราได้ ยามที่เราลำบากเค้าเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่าง แต่พอเราสบาย เราบอกกับเค้าเองว่าไม่ต้องให้เราแล้ว เราจะช่วยเค้าเอง เค้าจะได้ไม่หนักมาก อยู่กันมา 10 ปีเค้าออกซะ 8 ปี เราเพิ่งมาออก 2 ปีหลังนี้เอง จากคุณ : Bonus&bogie (Bonus&Bogie) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 07:51:40

ความคิดเห็นที่ 37 คห3มองโลกแง่ร้ายจัง คนดีๆไม่เอาเปรียบผู้หญิงก็มีแหละ สามีเราไม่เห็นเคยให้เราออกอะไรเองเลยสักบาท ไม่รู้สิ เป็นเราๆก็เลิกนะ ทำตัวไร้ประโยชน์ อย่่างกับมาอาศัยอยู่เฉยๆแค่ช่วยค่าน้ำไฟ ลูกก็ทำมาด้วยกัน ไหงไม่ช่วยกันเรื่องค่าใช้จ่าย พอจขกทบอกว่าค่าหมอค่าคลอดยังต้อจ่ายเอง โหย........... สุดยอดของคนเห็นแก่ตัวเลย แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 55 09:15:49 จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 09:15:20

ความคิดเห็นที่ 38 นึกว่าอ่านเรื่องของตัวเอง ต่างกันตรงที่ว่าเงินเดือนหลายหมื่น เราหักรายจ่ายและหนี้แล้วเหลือแค่หลักพันเอง พ่อเจ้าประคุณยังมาตอดเงินเก็บของลูกอยู่เนืองๆ ขอแยกทางหลายครั้งแล้ว ไม่ยอมไป แม่เค้าบอกให้ผ่อนรถหมดก่อน (รถชื่อเค้า) เป็นเหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูก จากคุณ : เด็กหญิงรองเท้าแก้ว เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 09:21:45

ความคิดเห็นที่ 39 ที่เค้าว่าได้สามีดีเหมือนถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่ 1 มันเป็นอย่างงี้นี่เอง สู้ ๆนะคะ จขกท. เราว่าคุณน่าจะมีคำตอบให้ตัวเองอยู่ในใจแล้วหละคะ จากคุณ : Tommy's Galz เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 09:35:41

ความคิดเห็นที่ 40 สู้ๆ นะคะ ลูกคุณต้องมีครอบครัวสมบูรณ์แน่นอนคะ หากจะไม่มีพ่อก็ตาม เพราะคุณเป็นซิงเกิลมัม ที่เก่งที่สุด ที่เคยเห็นมาคะ (อ่านแล้วปรี๊ดแทนเลยคะ ขนาดสามีเราไม่ค่อยอุ้มลูกช่วยเรายังเคืองเลย ตั้งใจปลั้ม/ทำมาด้วยกันนะเฟ้ยยยย ต้องช่วยกันดูแลดิ) เป็นกำลังใจให้คะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (คุณแม่ไฮเทค สู้เพื่อลูก) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 09:50:30

ความคิดเห็นที่ 41 ดิฉันก็มีชีวิตคล้ายๆคุณนี่แหละค่ะ เลยตัดสินใจเลิกดีกว่า เลิกแล้วตัวเราเองมีความสุขขึ้นเยอะ ถึงจะเหนื่อยแต่มีความสุข ถ้าคิดว่าเค้าหาข้อดีไม่ได้เลย ก็ต่างคนต่างอยู่น่าจะดีกว่า ตัวเราเองจะได้ไม่เครียดไปมากกว่านี้ เพราะลำพังแค่เลี้ยงลูกด้วยทำงานด้วยก็เหนื่อยมากพอแล้ว อย่าให้ต้องเหนื่อยใจเพิ่มขึ้นอีก เพราะยังไงเค้าก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้น มีแต่จะแย่ลงไปเรื่อยๆ จากคุณ : ญาณทัศน์ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 10:44:55

ความคิดเห็นที่ 42 คุยกันเลยค่ะว่าคุณคิดยังไง และอยากให้เค้าทำยังไง ถ้าเค้าทำไม่ได้ จะได้คิดต่อว่าจะทนต่อไปหรือไม่ทน อ่านแล้วสามีเราเป็นเทวดาเลยนะเนี่ย ทำงานหนักแต่กลับมาก็ช่วยเลี้ยงลูก ทำกับข้าวให้ด้วยถ้าเราไม่สบายหรือไม่อยากทำ เงินก็ใช้กระเป๋าเดียวกัน  อีกคนนึงซื้ออะไรไม่เคยมาถามรายละเอียด ก่อนแต่งไม่ได้ใช้กระเป๋าเดียวกัน ไม่ได้ทำแบบว่าไปไหนมาไหนแบ่งกันจ่ายครึ่งๆ เป๊ะๆ ใครจ่ายก็จ่ายไปไม่ได้จำ ที่ไม่มีปัญหาคงเพราะไม่ใช่คนเอาเปรียบกัน เลยไม่มีอะไรมาสะกิดใจ จากคุณ : cognac & tobacco เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 11:21:03

ความคิดเห็นที่ 43 เหนื่อยแทนค่ะ ไม่ทำอะไรช่วยเราพอทนได้ ไม่ทำให้ลูกบ้างเลย ไม่อยากทนเหมือนค่ะ แต่ขอเคลียร์ด่อนนะคะ ก่อนจะจาก จากคุณ : แดงกันจัง เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 11:40:17

ความคิดเห็นที่ 44 ขอค้าน คห ที่3 ครับ ผมคนหนึ่งละที่ไม่เป็นอย่างที่บอก ทุกวันนี้ผมมีลูกสาว 1คน ค่าแรงพี่เลี้ยง 7 พัน /เดือน ผมเป็นคนจ่ายกับค่าใช้จ่ายในบ้านอีกเป็นหมื่น เงินที่ต้องให้แม่ผมอีกต่างหาก ส่วนเรื่องงานบ้านไม่ต้องพูดถึง งานประจำครับถ้าวันหยุด ตื่นเช้ามาเอาผ้าเข้าเครื่อง, ตากผ้า, ล้างพัดลม, ดูดฝุ่น ถูบ้าน ถ้าวันไหนลูกอ้วกผมนี้ประจำ 555 จากคุณ : สุดท้ายคือความว่างเปล่า เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 11:56:05

ความคิดเห็นที่ 45 คห.3อย่าเอาความคิดของตัวเองมาเหมารวมกับผู้ชายทั้งโลกสิครับ จากคุณ : jray เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 12:11:02

ความคิดเห็นที่ 46 ผู้ชายอย่างนี้ปล่อยเขาไปเถอะ อยู่ไปก็มีแต่ทุกข์ใจเปล่า ยิ่งไม่ยินดียินร้ายกับเรื่องลูกแล้ว ยิ่งเหนื่อยใจ ถ้าเจอสามีเห็นแก่ตัว ขี้เกี้ยจ ขนาดนี้แค่มอง ก็อารมณ์เสียแล้ว จากคุณ : bell-ban เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 12:20:14

ความคิดเห็นที่ 47 เห็นด้วยกับ คห3 ในเรื่องเก็บค่าเช่า ค่ากินอยู่เลยค่ะ 5555 ขำดี เค็มมาเค็มกลับเลยค่ะ ปอลอ แต่แฟนเรามะเห็นแก่ตัวนะคะ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 55 12:47:53 จากคุณ : aingy เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 12:46:48

ความคิดเห็นที่ 48 ถ้าคิดว่าอยู่ด้วยแล้วมีความสุขก็อยู่ต่อ แต่อยู่แล้วมีแต่ความทุกข์ก็เลิกเถอะค่ะ เด็กที่เติบโตมากับครอบครัวที่มีปัญหา ไม่มีความสุขหรอกค่ะ เสียสุขภาพจิตด้วย พอลูกคุณโตขึ้นรู้ความ เขาเห็นแม่มีแต่ความทุกข์ เขาจะมีความสุขหรือคะ เผลอๆถ้าเป็นเด็กผู้ชาย เขาอาจจะเห็นการที่พ่อเอารัดเอาเปรียบแม่เป็นเรื่องปกติ พอโตเป็นผู้ใหญ่เอาไปใช้เป็นแบบอย่าง กับครอบครัวตัวเองในอนาคตมันจะแย่เอานะคะ จากคุณ : ละครซอ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 14:14:12

ความคิดเห็นที่ 49 ผมมีรายได้จากภรรยาให้ครับ มีเท่าไรให้เธอเก็บหมด อยากได้อะไรก็ไปเบิก(ขอ) สังเกตว่าผู้หญิงเวลาเก็บเงินเอง จะมีความสุขครับ จากคุณ : มือเก่า เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 14:46:55

ความคิดเห็นที่ 50 สามีคุณจขกท ยังกล้าคิดจะมีลูกสองคนอีกเนอะ แค่คนแรกก็ซึ้งแล้วนะนี่ แต่ขอชม จขกทค่ะ เด็ดขาดดีมาก เรามั่นใจว่าคุณน่าจะเลี้ยงลูกคนเดียวได้ดี จากคุณ : peipeithered เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 15:09:44

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าทนไม่ไหว ก็ไม่ต้องทนค่ะ เดี๋ยวเครียด ไม่มีความสุข จะส่งผลถึงลูกนะคะ จากคุณ : blue tank เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 15:22:31

ความคิดเห็นที่ 52 #49 เหมือนสามีเราเลยค่ะ ซองเงินเดือนสามีเราเป็นคนรับ และสามีก็มาเบิกเราอีกทีค่ะเวลาจะใช้อะไร น่ารักมากค่ะ อิอิ จากคุณ : เด็กเก็บศพ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 22:03:47

ความคิดเห็นที่ 53 เลี้ยงลูกคนเดียวดีกว่า อย่าเอาผู้ชายมาเป็นภาระเลย เราว่าเลิกกัน ยังจะได้ค่าเลี้ยงดูมากกว่าทุกวันนี้ซะอีก แถมไม่มีตัวกวนอีกต่างหาก จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 22:20:40

ความคิดเห็นที่ 54 เราว่า จขกท เลือกแล้วนะ เราก็ไม่รู้จะยินดีหรือเสียใจด้วย แต่สำหรับเรา แท้งลูกไป 3 คน ทุกวันนี้ก็มีลูกยากไปแล้ว อย่ายกลูกให้คนอื่นเลยคะ ส่วนเรื่องเห็นแก่ตัวมันมีทุกคนคะ แต่จะมากน้อยเท่านั้น เราว่า จขกท ต้องเลี้ยงลูกได้ดีแน่คะ จากคุณ : มารร้ายแอนด์สาวแก่ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 23:09:13

ความคิดเห็นที่ 55 อ่านเเล้วงงค่ะ มีลูกเพราะสังคมกดดัน มีลูกเพราะว่าเราอยากมีถึงจะถูกนะคะ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 55 08:20:26 จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 08:19:53

ความคิดเห็นที่ 56 เห็นใจจขกทพออ่านคำอธิบายเข้าใจ มากขึ้นไม่มีข้อแนะนำค่ะ คิดเยอะๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ คิดเยอะเยอะหมายถึงคิดรอบคอบกว้างๆน่ะค่ะ ไม่ใช่คิดวนวนแค่ว่า ทำไมโน่นทำไมนี่ แต่คิดว่าจะกระเทือนต่อลูกรึป่าว ที่จริงใช้วิธีแบบไม่ต้องแยกกันอยู่ก็ดีน่ะค่ะ คิดค่าเช่าบ้านนำ้ไฟ ค่ารายจ่ายลูกท่่ีตายตัวให้เค้ารับผิดชอบ ลองพูดดูว่าเค้าว่าไงอย่างน้อยเห็นแก่ลูกถ้าโตก็ไม่ต้องตอบคำถามสังคมเรื่องพ่อ จากคุณ : orange coral เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:14:34

ความคิดเห็นที่ 57 อืมมมม แรกๆอ่านแล้วปรี้ดผู้ชายอะไรเห็นแก่ตัวสุดๆ เลื่อนลงมาความเห็นที่จขกท บอกเพิ่ม จึงเข้าใจว่า จขกทสร้างความเคยชินให้เค้าเองจนก่อตัวเปนนิสัยแก้ไม่ได้แล้วค่ะ ขอโทษนะคะ ที่เห็นต่าง จากคุณ : สวยจนคนเมิน เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 01:02:51

ความคิดเห็นที่ 58 คห ที่ 3 ไม่จริงนะคะ อย่างน้อยก็แฟนเราคนหนึ่งค่ะ ดุแลเราทุกอย่าง ตอนนี้เราเหมือนแม่บ้านญี่ปุ่นเลย แฟนดูแลเรื่องเงินทุกอย่าง ส่วนเรื่องในบ้านเราจะเป็นคนทำค่ะ ส่วนเรื่องของเจ้าของกระทู้ เราเป็นกำลังใจให้นะคะ ผู้ชายเห็นแก่ตัว มันเหมือนเป็นสันดานติดตัวค่ะ ถ้าจะแก้ปัญหาต้องแก้ที่ตัวเรา เราเห็นด้วยนะคะเรื่องที่จะหย่ากะสามี จริงๆเราไม่ได้อยากยุให้แตกแยกกันนะคะ แต่ปัญหาที่เกิด มันก็เกินไปจริงๆค่ะ อยากมีลูกแต่ไม่เลี้ยงลูก ไม่ดูแลเมีย เจ็บแทนค่ะ ยังไงก็ขอให้ผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้นะคะ เข้มแข็งไว้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 55 05:21:05 จากคุณ : แมวเก้าหาง เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 05:18:27

ความคิดเห็นที่ 59 เคืองตรงย้ายห้องนอนหนีเสียงลูกร้องตอนกลางคืนนี่อ่ะค่ะ ไม่รักเราไม่ว่าไม่รักลูกนี่มันเกินจะทน แล้วงกขนาดนี้คงอยู่ด้วยกันไม่ได้อ่ะค่ะ จากคุณ : My_little_bonnie เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 14:27:05

ความคิดเห็นที่ 60 ขอ 3  คำ        เลิก  เถอะ   ค่ะ   // จากคุณ : อิชั้นคนบ้านๆ เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 23:14:51

ความคิดเห็นที่ 61 เป็นที่คนครับ ผมเองกับแฟนพึ่งจะมีลูกหมดไปหลายแสนอยู่รายได้ก่อนมีลูก ผมจะหาได้หลายแสน แฟนผมมีเงินเดือน+เก็บค่าเช่าตึก+ดอกเบี้ยไม่เกิน70,000 บาท หลังมีลูกผมไม่ได้ออกไปหาเงินนอกจากลงทุนในหุ้น กับทอง พอได้ค่านมกับค่าน้ำไฟ ตอนนี้ใช้เงินเก่าที่เก็บมาเยอะอยู่เลยไม่มีปัญหา จริงอยู่เรื่องเงินสำคัญแต่ผมว่าความพอดีสำคัญกว่าลองจูนหรือปรับความเข้าใจกันใหม่ตอนนี้ผมรับหน้าที่ ล้างขวดนม ซักผ้า ตากผ้า ส่วนแฟนทำกับข้าวบ้าง แค่นี้ผมว่าก็มีความสุขได้ครับ ผมคุยกับแฟนเลยว่าจะให้ไปหางานหรืออยู่แบบนี้เข้าบอกแบบนี้แหละอบอุ่นไม่ได้เดือดร้อนมีเงินเก็บแล้ว บ้าน ที่ดิน ท อง ตึกแถวก็พอมี ของเก่าให้อยู่ครบ ของใหม่ได้มาก็บริการใช้จ่ายไปครับ เลิกกันเร็วสงสารลูกครับ /ลองดููครับเอาใจช่วยเจ้าของกระทู้ จากคุณ : TOKTOON เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 05:04:07

ความคิดเห็นที่ 62 แม่เคยสอนไว้ว่า ถ้าสามีมันไม่ดีก้อย่าเลี้ยงมันให้เปลือง สู้เลี้ยงลูกดีกว่า อย่างน้อยวันข้างหน้าเค้ายังตอบแทนบุญคุณเรา ดีกว่าเลี้ยงคนที่ไม่มีประโยชน์ค่ะ จากคุณ : Pichu เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 21:24:40 A:110.171.172.186 X: TicketID:368659

ความคิดเห็นที่ 63 สรุปเลิกเพราะเรื่องเงิน เลิกเพราะสามีไม่ได้ช่วยเรื่องเงิน อือ จากคุณ : NAN_KUNG เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 08:04:39