PANTIP.COM : N12407480 **เพลียกับแม่สามี+น้ำหมักป้าเช็ง** []

ความคิดเห็นที่ 12

เมื่อกี้พิมพ์มาทั้งหมดหายไปเลย เหตุเกิดจากสะเพร่าไม่ได้ดูว่าแบตใกล้หมด

เอาใหม่เลยนะคะ ... เราล็อคอินมาเพื่อตอบกระทู้นี้โดยเฉพาะเลย ปกติอ่านบ้าง ตอบบ้าง

ตอนแรกที่เห็นหัวกระทู้ยังนั่งขำเลย ยังคิดว่าเครียดมากจนละเมอมาตั้งเองรึเปล่าเนี่ย

คือเราไปเข้าคลังกระทู้ของตัวเอง จะเอาลิงค์ที่เราเคยถามถึงเรื่องนี้ในหว้ากอมาแปะ

แต่กระทู้เก่าๆเราหายไปหมดเลย ซึ่งที่เราไปถามมา มีทั้งบอกว่า เค้าใช้กันแล้วดี หรือ เรื่องแบบนี้

ต้องทดลองเอง ไปฟังเค้าพูดมาไม่รู้เท่าทำเองอะไรทำนองนี้ กับอีกแบบนี้ หมักเอง กินเอง ใช้เอง ตายเอง

รู้สึกแย่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ไปตอบอะไร เพราะเราไม้ได้มีความรู้จากเรื่องนี้จริงๆ ที่ไปตั้งที่หว้ากอ

เมื่อหลายเดือนก่อนถึงจุดเดือด ที่ว่าจะต้องหาข้อมูลทางวิชาการมาให้แม่สามีได้รู้บ้างเถอะ

ด้วยตัวเราเองคิดว่าน้ำพวกนี้ควรใช้กับต้นไม้ จึงคิดที่จะหาข้อมูลทางด้านอื่นว่าใช้แบบที่แม่สามีเราทำได้จริงหรือ

... ขอพักตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวจะกลับมาแก้ไข

ต่อค่ะ เราไปหากระทู้นั้นยังไงก็ไม่เจอ ใครทำเป็นช่วยบอกเราหน่อยน้า คือ แรกๆไม่เท่าไหร่ค่ะ เรายังพอรับได้

เค้าชมป้าคนนี้ เก่งอย่างนู้น อย่างนี้ เมื่อก่อนเป็นขาใหญ่ๆ แถวๆ ภาคตะวันออก ซื้อที่เยอะแยะ ทำน้ำหมักนี้

ดังมาตั้งนานจนรวยขนาดนี้ เราถามแม่สามีไปคำนึงว่า น้ำหมักแบบนี้เชืื้อโรคล่ะค่ะ? เค้าตอบเราว่า ป้าคนนี้

เคยบอกในช่องเคเบิลว่า เชื้อโรคหมักเป็นเวลานาน 10-20 ปีก็ตายไปหมดแล้ว ... เราได้แต่อึ้ง อึ้งมากถึงมากที่สุด

จนคิดว่าแบบนี้น้ำตรงไหนเน่าปล่อยไว้ตรงนั้นซัก 20 ปี เดี๋ยวเชื้อโรคก็ตายไปเอง เชื้อโรคนี้เก่งจัง ... แสดงว่า

เรื่องนี้เค้าบอกว่านักวิทยาศาสตร์ที่ไปขุดกษัตริย์ฟาโรห์ที่เค้าตายเพราะเชื้อโรคในนั้นนี่ต้องเป็นเรื่องโกหกแน่

เพราะขนาดเวลาหลายพันปี เชื้อโรคต้องตายหมด(แต่ไม่ได้พูดค่ะ พูดไปจะหาว่าเราปากร้ายอีก) คือทัศนคติไม่

ค่อยตรงกันเท่าไหร่ เค้าชอบหาว่าเราบ้า เรามั่ว เช่น เรื่องสายจูงเด็ก เราเห็นด้วยกับเด็กบ้านตรงข้ามที่เค้าใช้

แต่เราโดนว่าบ้า เรื่องกินข้าวให้ลูกเน้นกินกับมากกว่าข้าว โดนหาว่าจะขาดแป้ง เมื่อก่อนจะป้อนกล้วยตั้งแต่

ลูกเราได้ 7 วัน พอเราบอกว่าโรงพยาบาลบอกตอนออกมาว่าต้องหลัง 6 เดือน เพราะเกี่ยวกับระบบการย่อย

ของอาหารเด็ก เค้าก็ตอบว่า เค้าเลี้ยงลูกมาตั้งสามคนก็โต ไม่เห็นตายเลย มีอยู่ครั้งหนึ่ง แฟนเราอยู่ด้วยเลยตอบ

แม่ตัวเองไปว่า ก็เพราะแบบนั้นผมุึงโง่มาจนถึงทุกวันนี้ แม่เค้าก็เงียบไป ห้ามเราอาบน้ำสระผมให้ลูกตอนเย็น

เพราะเดี๋ยวจะไม่สบาย แต่หลายๆครั้งเราอาบนะถ้สลูกไม่ง่วงมาก คือเราคิดว่า สะอาดดีกว่าสกปรก

ช่วงเดือนที่แล้วลูกเราเป็นมือเท้าปาก ลูกอาการทรงๆ มีวันนึงเราอาบน้ำให้ลูก เพราะลูกไม่ได้อาบน้ำสระผมมาห้าวันแล้ว

พอรุ่งเช้าโดนว่าว่าเ_อกไม่เข้าเรื่องเด็กมันจะหายแล้วเชียว ลูกเราท้องเสีย หาว่าเราเอาน้ำแข็งให้ลูกกิน เยอะแยะค่ะ

นอกเรื่องไปแล้ว เอาเรื่องน้ำหมักนี้ต่อค่ะ คือเราไม่ได้ต่อต้านน้ำหมัก แต่เราคิดว่าน้ำหมักสมควรไปใช้กับต้นไม้

กับบำบัดน้ำเสียท่าทางจะเข้าท่ากว่าเอามาทดลองใช้กับมนุษย์โดยไม่ได้รับการทดลอง มี อย. ก่อน

เราถามไปได้ความว่า แม่สามีเราอ้างว่า ไหนมีคดีอะไร ป้าแกไม่เห็นโดนจับ ทุกวันนี้ยังออกเคเบิลอยู่เลย

คนที่ไปหาแกมีแต่ตำรวจ ทหาร ยศใหญ่ๆทั้งนั้น เชื่อสิไม่มีใครกล้าจับแกหรอก ... แล้วหลวงพ่อชื่อดัง ก็เอาไป

รักษาคนหายมานักต่อนักแล้ว ตอนนี้มีฝรั่งมาขอซื้อลิขสิทธิ์บ่อๆนึงเป็นหลักล้าน แต่ป้าแกไม่ขาย

ตอนนี้ อย. ไทยไม่ให้ แต่ฝรั่งกำลังเิาไปจดให้ ... สมัยก่อนหมักนอกบ้าน ตอนนี้เก็บในบ้าน ขอบอกได้กลิ่น

ทีแรกแสบจมูก คิดว่าเป็นพวกยาย้อมผมด้วยซ้ำ สุดท้ายเป็นน้ำหมักพวกนี้เอง ชอบพาลูกเราเข้าไป

แถมเปิดฝาถังหมักให้ดมแล้วบอกว่าหอมเนอะ ... แต่เค้ามาว่าเราว่า เสื้อผ้าที่ใส่แล้วใส่ไว้ในตะกร้าในห้องเหม็นเน่่า

อากาศไม่ดี สงสารลูกเรา เราบอกว่าดมมากไม่ดี เค้าบอกว่าหอมจะตาย น้ำพวกนี้มีโอโซน!!!!!!! อยากกรี๊ดมากกก

อยากบอกไปว่า แม่รู้มั๊ยคะภาวะโลกร้อนเกิดจากโอโซนในชั้นบรรยากาศถูกทำลาย ถ้าแบบนี้ทำไมไม่ไปบอกฝรั่งให้

ทดลองแล้วให้คนทั้งโลกทำทุกบ้าน จะได้เป็นการเร่งผลิตโอโซนให้ลอยขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ..... จะได้เลิกลดโลกร้อนซะที

แม่เราเป็นมะเร็งไทรอยด์ ซึ่งตอนนี้อยู่ในระยะติดตามผลการรักษา คือ ตรวจซ้ำทุก 3-6 เดือนตามหมอนัด

ซึ่งเราไม่แน่ใจ บางทีแม่ก็มาติดๆกัน แม่สามีบอกให้เอาน้ำนี้ไปให้แม่กิน มีคนเคยหายมาแล้ว คนข้างบ้าน

เป็นมะเร็งผมร่วงหมดแล้ว ตอนนี้สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งเราบอกเค้าไปเลยว่า แม่เราเป็นพยาบาล เรียนทางด้านนี้มา

ฉะนั้น เค้าจะเชื่อทางวิทยาศาสตร์ซะมากกว่า เราไปเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกคนแถวบ้านตาบอด หรือแผลอักเสบ

เพราะใช้น้ำนี้หยดเข้าไปก็มีมาแล้ว เราเล่าให้แม่ฟังเรื่องที่แม่สามีเล่าว่าคนข้างบ้านเป็นมะเร็ง แต่กลับยังไม่ตาย

แม่เราตอบมาว่า .. "คนทำคีโมก็ผมร่วงเป็นธรรมดา ที่ผมร่วงไม่ใช่แย่ แต่เหมือนเป็นอาการข้างเคียงจากการทำคีโม

แล้วที่ว่าดีขึ้น อาจจะเป็นเพราะปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น ได้รับการรักษามาก่อนหน้านี้ " ตอนนี้เริ่มหนักมาก

ประหยัดทุกเรื่องเช่น ไม่เปิดไฟในบ้านแม้แต่ดวงเดียว นั่งดูทีวีมืดๆ กับลูกเรา พัดลมไม่เปิด ยุงก็เยอะ

บอกลดโลกร้อน ประหยัด แต่กลับลงทุนไปซื้อผลไม้กับน้ำตาลทรายเป็นกระสอบมาทำน้ำหมักใช้ ..

แม่สามีมีโรคประจำตัวเป็นความดัน โรคหัวใจเต้นผิดปกติ ก่อนไปตรวจล่าสุดบอกกับเราว่า จะดูซิ ที่คนอื่น

ว่าไม่ดีๆเนี่ย คราวนี้จะเป็นยังไง? สรุปผลตรวจมีแนวโน้มเป็นเบาหวาน แต่พ่อสามีบอกว่าเกิดจากการ

ที่แม่สามีชอบกินหวาน? คือ ไปเรื่อยค่ะ บ้านนี้ไม่มีใครกินหวาน กินเปรี้ยวกันหมด ขนาดน้ำพริกอ่อง

บีบมะนาวใส่จนเปรี้ยว จนทีแกคิดว่าบูด พอถามจึงรู้ว่าเปรี้ยวเพราะมะนาว เกิดมาเพิ่งเคยกินน้ำพริกอ่องเปรี้ยว

เปรี้ยวจริงๆ เปรี้ยวเทียบแหนมได้ เราพยายามจะเข้าใจเค้าทั้งคู่ว่า เป็นธรรมดาที่เราดูโฆษณาแล้วต้องหลงเชื่อ

เพราะการโฆษณาก็คือการชวนเชื่อให้รู้สึกคล้อยตามไปกับสินค้าจริงๆ เกิดมายังไม่เคยเห็นสินค้าไหนพูดว่า

ของเราไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ สู้แบรนด์นั้นแบรนด์นี้ไม่ได้ คนใช้แล้วเกิดผลเสียกันมากกว่าผลดี... แต่หลังๆเราเริ่ม

รู้สึกแย่ เราเคยเห็นแม่สามีเล็บเหมือนเป็นเชื้อรา เพาะมันเหมือนกุดๆ เราถาม เค้าตอบว่า เค้าเป็นประจำ

ตั้งแต่เมื่อก่อน นี่ก็เป็นเพราะเค้าล้างจาน .... เราอยากบอกว่า เราล้างนาน และมากกว่าแม่ ไหนจะขวดนมลูก

จานขามอีก ปกติเราล้างให้แม่สามีด้วย...

แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 55 14:41:26

จากคุณ : แพทศรี

เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 14:03:39