ความคิดเห็นที่ 1 เราก็คิดมาสักพัก แต่ในที่สุดก็สมัครค่ะ เผื่อเหลือเผื่อขาด เกิดจำเป็นจริงๆ ก้จะได้ใช้ค่ะ เหมือนซื้อประกันชีวิตค่ะ จากคุณ : La Mesa เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 17:47:40

ความคิดเห็นที่ 2 ศึกษามาเหมือนกันค่ะ มันเอามาใช้ได้จริง แต่ตอนนี้ในไทยสามารถใช้ได้จริงไม่กี่โรค (จำไม่ได้แล้วค่ะ หาข้อมูลเยอะมากตอนท้องอ่อนๆ พอตัดสินใจว่าจะไม่เก็บก็เลยลบลิงค์ ไปหมดแล้วค่ะ) น่าจะ 1-2 โรค การวิจัยเรื่องนี้ก็ใช้ต้นทุนสูง เทคโนโลยีหลายๆ อย่างยังไป ไม่ถึง แล้วค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดก็สูงมากๆ ประวัติพื้นฐานทางครอบครัวเรากับของพ่อน้อง ไม่ค่อยมีปัญหา สุขภาพก็แข็งแรงกันดี เราเลยตัดสินใจกันว่าจะบริจาคเพื่อให้ใช้ในการวิจัย ต่อไปค่ะถือเป็นการทำบุญครั้งแรกของลูกค่ะ (แต่ไม่รู้ว่ารพ.ที่เราไปเค้ารับบริจาครึเปล่า อันนี้ยังไม่ได้ถามคุณหมอค่ะ) จากคุณ : สตอร์เบอร์รี่ราดครีม เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 18:06:57

ความคิดเห็นที่ 3 เคยมีน้องส่งเรื่องการบริจาคเสต็มเซลล์มาให้ ถ้าหากสองจิตสองใจ อยากประหยัดแต่อยากเผื่อไว้ก็ใช้วิธีบริจาคก็ได้นะคะ ในกรณีที่มีคนมีความต้องการใช้และเสต็มเซลล์ของเราไปแมชกับเค้าได้ เค้าก็จะใช้ไป แต่ถ้าหากไม่มีใครแมชแล้วเราเกิดมีความจำเป็นต้องใช้ก็มีโอกาสได้สูงอยู่ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะแมชได้กับเสต็มเซลล์ของใครก็ได้ อย่างน้อยก็เป็นการทำกุศลให้ลูกเรา เค้าและเราไม่ได้เจ็บตัวเพิ่ม แค่ติดต่อสภากาชาด แล้วเค้ามีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ 5 ร.พ. ใหญ่ ๑) รามา ๒) พระมงกุฎ ๓) ศิริราช ๔) จุฬา ๕) บำรุงราษฎร์ สามารถเก็บเสต็มเซลล์ให้กับคุณแม่ที่คลอดที่นั่นได้เลย ไม่น่าจะยุ่งยากอะไร เราก็ว่าจะบริจาคเสต็มเซลล์ของลูกน้อยเหมือนกันล่ะ จากคุณ : antanoy เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 19:00:17

ความคิดเห็นที่ 4 เราบริจาคให้กาชาดค่ะ :) จากคุณ : น้องโอเล่ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 22:43:15

ความคิดเห็นที่ 5 ขอ Update ข้อมูลการบริจาค Stem Cell ให้กับสภากาชาดนะคะ เกริ่นก่อนว่าตอนลูกเกิด เราก็บริจาค Stem Cell ให้กับสภากาชาด พอพี่ที่ทำงานที่ท้องมาปรึกษาว่าจะเก็บดีหรือเปล่า เราเลยให้พี่เค้าลองหาข้อมูลใหม่ (ของเราเกือบ 2 ปีแล้ว เผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลง) แล้วเปรียบเทียบดูว่า - มีโรคอะไรที่รักษาได้ด้วย Stem Cell บ้าง - ครอบครัวมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้หรือไม่ - ในประเทศไทย มีสถิติในการรักษาด้วย Stem Cell สำเร็จกี่ราย โรคอะไรบ้าง - ใช้กับใครได้บ้าง - ถ้าเก็บจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ - เก็บได้นานแค่ไหน - ฯลฯ สุดท้ายพี่เค้าตัดสินใจจะบริจาคเหมือนกัน แต่พอติดต่อเจ้าหน้าที่ที่เคยมาเก็บ Stem Cell ของลูกเรา ทางนั้นแจ้งว่า สภากาชาดงดรับบริจาค Stem Cell ที่ได้จากรกอย่างไม่มีกำหนด เราเลยโทร.หาเพื่อนที่ทำงานอยู่สภากาชาด เพื่อนก็ยืนยันว่าที่ประชุมตกลงกันเช่นนั้น เนื่องจากปัจจุบัน Stem Cell ที่ได้จากรกยังใช้รักษาโรคไม่ดีเท่ากับที่ได้จากส่วนอื่น (Stem Cell สามารถเก็บได้จากที่อื่นๆ อีก เช่นกระดูก เลือด) และหมอในเมืองไทยไม่นิยมใช้กัน ส่วนใหญ่ผู้ที่ขอรับบริจาคจะเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งการเก็บ Stem Cell มีค่าใช้จ่ายสูง และในเมื่อไม่ได้ใช้งบประมาณในการเก็บส่วนนี้ให้เป็นประโยชน์กับคนไทย ทางสภากาชาดเลยงดรับบริจาค จนกว่าจะมีการคิดค้นทดลองว่า Stem Cell จากรก ใช้รักษาโรคได้ผลดีจริงๆ จึงจะเปิดรับบริจาคใหม่ค่ะ จากคุณ : LittleCactus2009 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 01:32:38

ความคิดเห็นที่ 6 เราเคยคิดจะเก็บ สุดท้ายไปถามหมอโรคเลือดที่เป็นเพื่อนกันว่า ถ้าเป็นลูกเธอ เธอเก็บมั๊ย เค้าไม่เก็บค่ะ เราหาข้อมูลต่อจากในเว็ปก็ตัดสินใจไม่เก็บเหมือนกัน แต่ข้อมูลมันค่อนข้างประปรายเลยเอามาเล่าต่อยาก แต่วันก่อนเมื่อซัก 2 เดือนที่แล้ว ได้ดูรายการอะไรซักอย่างทางช่อง 5 มั๊ง มีคุณหมอจากรพ.รามามาอธิบายให้ฟัง ขอสรุปตามที่เข้าใจเองว่า.. การเก็บ Stem Cell จากรกเนี่ย ตอนนี้ เอาไปใช้รักษาโรคเลือดได้ เช่ยมะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่เจ้าของ (ลูกเรา) จะไม่สามารถเอาไปใช้ได้ เพราะถ้าลูกเกิดเป็นโรคเลือดขึ้นมา ก็แสดงว่าใน Stem Cell ของเค้าก็จะมีความบกพร่องนี้อยู่เช่นกัน คือคุณหมอบอกว่า มันมีข้อมูลพิสูจน์แล้ว ว่า มันจะบกพร่องตั้งแต่ตอนอยู่ในรกแล้ว ในกรณีที่พี่น้องเค้าเป็นโรดเลือด ก็จะสามารถเอาไปใช้ได้ เนื่องจากเซลล์มันคล้ายกัน ก็จะไม่ต่อต้าน reject กัน แต่โอกาสที่พี่น้องจะเป็นโรคเลือดเดียวกันนั้น น้อยมากประมาณ 1 ในแสนค่ะ อีกวิธีที่คุณหมอแนะนำและตปทใช้กันก็คือการไปบริจาค stem cell ของตัวเราเองให้ที่สภากาชาด (รู้สึกจะเป็นที่กาชาดนะคะ) คือเค้าจะเจาะเลือดเราไป เพื่อเก็บข้อมูล stem cell แต่จะยังไม่ขอรับบริจาด Stem CEll จนกว่าจะมีคนมาขอรับบริจาค สมมติว่า เราเป็นโรคอะไรซักอย่างแล้วคุณหมอมีความเห็นว่า ต้องใช้ Stem CEll ในการรักษา ก็สามารถส่งข้อมูลไปขอ matching กับที่คลังข้อมูลแห่งนี้ และเมื่อเจอแหล่ง Stem Cell ที่ตรงกันที่ Mr. A (โอกาส 1 ใน 50,000 ที่คนไม่ได้เป็นญาติกันจะตรงกัน) ทางกาชาด (สมมติว่าใช่กาชาดจริงๆนะคะ) ก็จะติดต่อไปยัง Mr. A ให้กลับเข้ามาบริจาค Stem Cell ค่ะ (คุณหมอไม่ได้พูดนะคะ แต่เราเข้าใจเองว่า ตอนนี้คือต้องเก็บจากไขสันหลังค่ะั) วิธีนี้ จะไม่ต้องเสียค่าจัดเก็บ Stem CEll แพงๆไว้เพื่อรอใช้ เก็บแต่ข้อมูลพอ ยิ่งคลังนี้ใหญ่ขึ้นเท่าไหร่ ก็จะเป็นประโยชน์กับทุกคนมากขึ้นเท่านั้นค่ะ เอามาแชร์ให้ฟังค่ะ ผิดถูกอย่างไร เพิ่มเติมกันได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 55 09:00:45 จากคุณ : angelberry (bobbydiver) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 08:57:50

ความคิดเห็นที่ 7 เราเก็บค่ะ คิดซะว่าเหมือนเป็นการซื้อประกันให้ลูก และไม่แน่ว่าในอนาคต ความก้าวหน้าทางการแพทย์มีมากขึ้น อาจจะนำมารักษาได้หลายโรคจริงๆก็ได้  และหมอผู้เชี่ยวชาญก็น่าจะมีมากขึ้น เทคโนโลยีก็คงดีขึ้น จากคุณ : แม่น้องกอหญ้า (คำข้าว) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 10:53:45

ความคิดเห็นที่ 8 ในบรรดาหมอและเพื่อนๆหมอที่รู้จักกัน ไม่มีใครสนใจเก็บซักคนค่ะ หมอสูติฯที่ทำคลอดเรา เป็นเพื่อนร่วมงานกับสามี ยังไม่แนะนำให้เก็บเลยค่ะ เราคลอดที่โรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ค่ะ โดยพวกหมอๆแต่ละคนก็ให้เหตุผลว่า ยังนำไปใช้น้อยมาก ไม่ค่อยคุ้มกับค่าใช้จ่ายที่แพง คำพูดเหล่านี้ เหมือนกับที่สามีเราบอกเราค่ะ ปล.เราคลอดลูกคนสุดท้อง 3.8ปีแล้วค่ะ ไม่ได้ติดตามต่อว่า เดี๋ยวนี้ ไปถึงไหนแล้ว แต่ถ้าเหมือนคห.6ก็น่าจะดีกว่า ส่วนเก็บรกไว้ใช้นำไปทดลองหรือสะกัดอะไรบ้างก็จำไม่ได้แล้ว เมื่อสมัยก่อนกว่า 15ปีที่แล้ว เราเห็นเคสคลอดทุกเคส โรงพยาบาลรัฐบาลจะเก็บรกไว้แช่แข็ง แล้วมีบริษัท(ไม่แน่ใจ จำไม่ได้แล้ว)มารับไปทีจำนวนมากๆ ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ ยังมีการเก็บแช่แข็ง เหมือนเดิม หรือทำลายทิ้ง จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 17:18:33

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนแรกว่าจะเก็บค่ะแต่ศึกษาแล้วกฎหมายไทยไม่เปิดกว้างในการใช้ค่ะถึงจะเป็นเจ้าของสเต็มเซลล์ใช้เองก็อนุญาตแค่ไม่กี่โรคค่ะ เปอร์เซ็นที่จะได้ใช้เลยยิ่งน้อยมากๆๆ จึงไม่เก็บค่า เพราะเอาค่าเก็บไปซื้อประกันคุ้มกว่ากันเยอะค่ะ จากคุณ : Somnarak เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:13:15 A:110.171.155.159 X: TicketID:362873