ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อมีน้ำมูก / คัดจมูก 1.ใช้หอมแดงทุบใส่น้ำอุ่นให้อาบ  บางคนบอกให้ราดหัวเลย แต่ยังไม่กล้ากลัวลูกแสบตา เสร็จแล้วก็ต้มยำได้เลยทันที ^^ แต่อันนี้ใช้กับซ่าหริ่มไม่ได้เพราะเธอกลัวค่ะ  เวลาใส่ในอ่างจะร้องบอกให้แม่เอาออก ยามนอนก็ทุบวางไว้หัวนอนให้นอนดม  วันก่อนลองทำเป็นกระโจมรมไว้แป๊บนึง ก็ดูดีนะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 12:29:47

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อมีน้ำมูก / คัดจมูก 2. วิกค่ะ  ทาอก คอ หลัง   - เคยมีคนแนะนำให้ทาฝ่าเท้าแล้วใส่ถุงเท้านอนค่ะ -ขออนุญาต อ้างอิงกระทู้แนะนำ  วิกไม่ได้มีดีแค่ทา ด้วยค่ะ http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N12442108/N12442108.html เราลองทำแบบทาถ้วยใส่น้ำร้อนแล้วทำกระโจม แต่กลิ่นมันจะอยู่ไม่นานค่ะ  แต่เราอยู่กับลูกด้วยก็หอมดีค่ะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 12:32:50

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อมีน้ำมูก / คัดจมูก 3. น้ำเกลือหยดจมูก / ล้างจมูก + ลูกยางแดง ตอนแรกเรา ใช้ไซริงค์ฉีดเข้าจมูก  แล้วเอาลูกยางดูดออกค่ะ ใช้ได้กับสาคูเท่านั้น  แต่ตอนนี้ไม่ยอมอยู่นิ่งให้ทำแล้ว ไปหาหมอก็ได้แบบหยดจมูกมาค่ะ  ดูดด้วยยางแดงก่อนเหมือนกัน ส่วนแม่ซ่าหริ่ม  มารู้จักชานเรือนตอนจะขวบแล้ว เลยไม่ได้ทำค่ะ ตอนนี้เธอก็สั่งน้ำมูกเป็นแล้วด้วย  เลยไม่ต้องใช้ค่ะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 12:38:03

ความคิดเห็นที่ 4 2. เมื่อไอ/ ระคายคอ นี่เลยค่ะ  ยากวาดค่ะ บดกับเกลือ มะนาวและน้ำผึ้งค่ะ บดแล้วใช้ช้อนป้ายให้ถูกลิ้นค่ะ  ปากดำกันไปเลย เมื่อก่อนซ่าหริ่มไม่ยอมให้ป้าย  เดี๋ยวนี้ตักกินเองเลย ยิ่งเห็นน้องกิน ยิ่งกินอวดน้องค่ะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 12:38:59

ความคิดเห็นที่ 5 3. เมื่อล้มหัวปูด หัวโน ใช้นำแข็งประคบ  และใช้ดินสอพองผสมน้ำมะนาวทาค่ะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 12:40:15

ความคิดเห็นที่ 6 4.เมื่อเป็นแผล  ใช้เบตาดีน จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 12:40:44

ความคิดเห็นที่ 7 5. น้ำร้อนลวก หรือโดนของร้อน เราใช้ล้างน้ำเย็นเยอะแล้วทาด้วยเบอร์นอล มันจะไม่พองค่ะ (อันนี้ได้มาจากที่ทำงานเพราะมันมีของร้อนๆเยอะ) จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 12:41:17

ความคิดเห็นที่ 8 6. ด่างทับทิม  เอาไว้ให้ซ่าหริ่มแช่น้ำ เพราะเดี๋ยวนี้ซนจัด  ขามีแต่แผล  และชอบเกาโน่นนี่ ก็สังเกตเอาไม่ได้อาบทุกวันค่ะ  ใส่นิดเดียวเดี๋ยวดำกว่าเดิม จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 12:42:00

ความคิดเห็นที่ 9 7. ผงฟูเอาไว้ล้างผักค่ะ  จากผลวิจัยของที่ไหนสักแห่ง ลดยาฆ่าแมลงได้มากที่สุด  หลังแช่แล้วล้างน้ำออกก่อนทำให้ลูกกินค่ะ เดี๋ยวจะปลูกผักกินเองแล้วค่ะ ขอแก้ไขอธิบายเพิ่ม จากคห.16 นะคะ ส่วนBaking soda หรือผงฟู ชื่อคือ Sodium bicarbonate ค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 55 17:32:25 แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 55 17:31:58 จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 12:44:56

ความคิดเห็นที่ 10 8. เมื่อท้องเสีย ใช้เกลือแร่ผสมน้ำให้กิน  ถ้าไม่อาเจียน แต่ถ้าอาเจียนต้องมียาแก้อาเจียนด้วยค่ะ กินอะไรไม่ได้ก็ต้มข้าวต้มข้นๆใส่เกลือให้กินค่ะ ของเด็กเล็กเป็น ORS 50 ค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 55 12:52:08 จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 12:47:01

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณค่ะ เก็บเป็นความรู้เลยค่ะ จากคุณ : BBfamily เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 12:53:11

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณที่ช่วยแชร์ข้อมูลดีๆแบบนี้ค่ะ จากคุณ : Sunflowerkeng เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 13:31:39

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์มากเลย จากคุณ : kiss*sa น่ารัก เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 13:35:49

ความคิดเห็นที่ 14 ยากวาด ผสมเกลือ มะนาว น้ำผึ้ง ดีจริง ๆ ค่ะ ลูกไอมีเสลด หาหมอกินยาเกือบเดือนไม่หาย คุณยายให้ใช้อันนี้แหล่ะ 2 วันหายค่ะ ของไทยๆ หลายอย่างมันดีกว่ายาสมัยปัจจุบัน ^^ จากคุณ : phearphoto.com (Momลูกแพร์) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 14:45:36

ความคิดเห็นที่ 15 ขอแนะนำเพิ่มเตินนิดนึงนะครับ การทำแผลในปัจจุบัน(แนวใหม่) จะไม่ใช้เบตาดีนแล้วครับ เพราะเบตาดีนจะทำให้แผลหายช้าลง  ใช้เพียงน้ำเกลือ (ตามรูปคห.3) ล้างแผลให้สะอาดแล้วปิดด้วยวัสดุปิดแผล จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 16:35:36

ความคิดเห็นที่ 16 เพิ่มเติมนะคะ คัดจมูก =บางคนแพ้หอมแดงค่ะ แสบตา น้ำตาใหลพรากๆ ส่วนตัวชอบ น้ำมันยูคาลิปตัส หรือยี่ห้อที่ใช้ Vapex ค่ะ หยดตรงเสื้อหน้าอกลูกให้สูดดม แต่ระวังอย่าให้หกโดนผิวหนังลูกนะคะ จะไหม้เป็นรอยแดงค่ะ ______________________ หัวปูด หัวโน ฟกช้ำ ที่ไม่มีแผลเปิด =ทันทีที่โดนอุบัติเหตุ (ทันที-24ชม.)ให้ประคบด้วความเย็น เช่น น้ำแข็ง หรือเจลแช่แข็ง  =หลัง 24ชม.ไปแล้ว ให้ใช้ความร้อน หรือเจลร้อน(เจลแช่ในน้ำร้อน) จะช่วยให้รอยกระแทรก ไม่บวมค่ะ คือยุบบวมเร็วค่ะ ส่วนยาอื่นๆ ยังไม่จำเป็น จะใช้ก็ควรใช้หลังประคบเย็นก่อนค่ะ ___________________________ น้ำร้อนลวก โดนของร้อนจัด เย็นจัด =แนะนำยาอีกตัวที่ได้ผลดีมากๆ แพทย์ด้านศัลยกรรม Burn แนะนำมาค่ะคือ  ครีมบัวหิมะของจีน 100% (Bao  Zu Ling)ที่กระปุกสีขาว ฝาปิดสีฟ้านะ เราเจอกับตัวเองค่ะ มือโดนความเย็นจัด ติดในช่องฟรีซ จนผิวหนังตายเป็นบางส่วน รีบเอามืออกมาแช่น้ำอุ่น และทาครีมบัวหิมะ และไปโรงพยาบาลด่วน ตามแพทย์ด้าน Burn. โดยเฉพาะมาดูมือให้ หมอพอกครีมของโรงพยาบาลให้ หนาเตอะเหมือนทาหน้าขนมเค้ก พอเราบอกว่า ก่อนมาทาครีมบัวหิมะมา หมอบอกว่า ดีเลย ครีมตัวนี้ดีมากๆ ดีกว่าครีมของหมออีก พอครั้งต่อไปทำแผล ก็เอาครีมตัวนี้ไปด้วย หมอก็ใช้ตัวนี้แทนค่ะ ใช้เวลาปิดแผลประมาณ 1สัปดาห์ ผิวหนังที่ตายลอกหมด ก่อนหน้ามีแผลพุพองเป็นถุงน้ำ หมอต้องเจาะถุงน้ำออกหมด ป้องกันการติดเชื้อ พอหนังตายลอกหมด ผิวเนื้อใหม่ที่ขึ้นมาเป็นผิวอ่อนๆสีชมพู เหมือนผิวทารกเลย แต่เมื่อหายดีแล้ว ไม่มีแผลเป็นหลงเหลือเลยค่ะ _______________________ 7.อันในรูปคือผงโซดา หรือผงโซดาไฟค่ะ ไม่ใช่ผงฟู (Backing Powder) ผงฟูจะมีผงโซดาเป็นส่วนประกอบค่ะ ผงโซดาใช้แช่ผัก ผลไม้ ช่วยชะล้างสารเคมีตกค้างต่างๆได้แก่ ยาฆ่าแมลง  สารเคมีอื่นๆที่ใช้ในการเกษตรได้ดีกว่า อันอื่นค่ะ(น้ำส้มสายชู ด่างทับทิม เกลือ น้ำยาแช่ผักที่ขายตามตลาด) จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 16:47:23

ความคิดเห็นที่ 17 ขอแก้ชื่อ ครีมบัวหิมะนะคะ เป็น Bao Fu Ling ค่ะ(ไม่ใช่ Bao zu Ling)จำผิดค่ะ ใช้ทายุงกัด แมลงกัดก็ได้ผลดีมากค่ะ ลองเสริชดูรูปเอานะคะ เราแปะรูปไม่ได้ค่ะ ______________________ เบตาดีนใช้ในแผลเล็กๆพอได้ค่ะ แผลเปิดใหญ่ทางโรงพยาบาลไม่ใช้ตัวนี้อยู่แล้ว (โรงพยาบาลไม่เคยใช้ เบตาดีนล้างแผล) จะทำให้เนื้อเยื่อช้ำ ตาย ใช้น้ำเกลือล้างแผลทั่วๆไป แผลเล็กๆเช่น แผลมีดบาด ของมีคมบาดยังใช้ได้ แผลถลอก ลอก ก็ล้างด้วยน้ำสบู่ให้เศษหิน ฝุ่นออกก่อน ถ้ามีน้ำเกลือก็ใช้น้ำเกลือล้างอีกทีค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 55 16:59:21 จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 16:53:24

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณที่แนะนะค่ะ @Momลูกแพร์ -  ใช่ค่ะ พอยาผ่านคอไปสักพักเค้าจะเหมือนไอเอาเสมหะออกมาค่ะ  บางทีก็เป็นเหมือนน้ำลายเหนียวๆค่ะ @ซาตานกลับใจ - เราใช้สำหรับแผลหกล้มเล็กๆน้อยๆเองค่ะ @Phu-nera - ครีมบัวหิมะ ครั้งแรกที่ได้ยินตอนม.4 เพื่อนใช้ทาแก้รอยแผลเป็นค่ะ แต่เรายังไม่เคยใช้เลย ส่วนBaking soda หรือผงฟู ชื่อคือ Sodium bicarbonate ค่ะ ถ้าเป็นโซดาไป ชื่อคือ Sodium hydroxide ค่ะ ผงฟูจะเป็นผงละเอียดคล้ายเกลือ ถ้าโซดาไฟจะเป็นเกล็ดใหญ่กว่าค่ะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 17:31:07

ความคิดเห็นที่ 19 อย่าลืม มหาหิงค์ ด้วยนะคะ ทาท้อง จะได้ไม่ปวดท้องค่ะ จากคุณ : ผงถั่วดำ เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 55 18:23:56

ความคิดเห็นที่ 20 มีคนหนึ่งเคยเอามาลงไว้ค่ะ ก็อปมาลงให้ดูค่ะ และตอนเราทำขนมอบ จะใช้ไม่เหมือนกันค่ะ(แทนกันแล้วผิดสูตร) ผงฟู ผงฟู หรือ ผงฟูสำเร็จรูป เป็นสารที่ช่วยทำให้ขนมขึ้นฟู เป็นส่วนผสมของโซเดียมไบคาร์บอเนตกับสารเคมีที่ทำหน้าที่เป็นกรด และแป้งข้าวโพดเพื่อป้องกันไม่ให้สารทั้งสองสัมผัสกันโดยตรง ผงฟูมี 2 ชนิด คือ 1. ผงฟูกำลังหนึ่ง(Single Acting Baking Powder) ประกอบด้วยเบคกิ้งโซดา แป้งข้าวโพด และกรดเพียง 1 ตัว พวกนี้จะทำปฏิกิริยาให้ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2) เพียงครั้งเดียวคือ เมื่อได้รับความชื้นหรือเมื่อได้รับความร้อนอย่างใดอย่างหนึ่ง ..........1.1. ผงฟูชนิดฟอสเฟส สารที่เป็นกรดที่ใช้ผสม คือ แคลเซียมไฮโดรเจนฟอสเฟส ผงฟูตัวนี้จะเกิดปฏิกิริยาเร็วมากเพียงแค่ได้รับความชื้นก็จะผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2) ออกมาเป็นจำนวนมากโดยที่ยังไม่ต้องได้รับความร้อน ..........1.2. ผงฟูชนิดทาร์เทต ผงฟูชนิดนี้ใช้กรด ครีมออฟทาร์ทาร์ หรือ ทาร์ทาริคแอซิด ปกกิริยาการทำงานเหมือนผงฟูชนิดฟอสเฟส มักใช้เติมในการตีไข่ขาว เพื่อช่วยให้ฟองไข่อยู่ตัวมากขึ้น ..........1.3. ผงฟูชนิดซัลเฟต ประกอบด้วยสารที่เป็นกรด คือ โซเดียมอะลูมินัมซัลเฟต หรือ อาลัม ผงฟูชนิดนี้จะเกิดปฏิกิริยาช้าที่สุดแม้จะได้รับความชื้นก็จะยังไม่ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2) จนกว่าจะได้รับความร้อน 2. ผงฟูกำลังสอง(Double Acting Baking Powder) เป็นผงฟูชนิดที่ประกอบไปด้วย เบคกิ้งโซดา แป้งข้าวโพดและกรด 2 ชนิด หรือมากกว่านั้น โดยกรดตัวที่หนึ่งจะให้ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขณะผสม และอีกตัวหนึ่งจะให้เมื่อได้รับความร้อนขณะอบ วิธีทดสอบคุณภาพ ใส่ผงฟู 1 ช้อนชา ลงในน้ำร้อน ถ้ามีฟองอากาศปุดขึ้นมาอย่างเร็วแล้วค่อย ๆ ช้าลงจนหมด แสดงว่าผงฟูนั้นยังมีคุณภาพดีอยู่ การเลือกซื้อ เลือกชนิดที่เป็นผงละเอียด บรรจะในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด การเก็บรักษา เก็บในภาชนะที่มีฝาปิดแน่นสนิท ห่างจากความร้อนและชื้นใช้แล้วปิดฝาทุกครั้ง เบคกิ้งโซดา โซดา หรือ เบคกิ้งโซดา มีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต มีฤทธิ์เป็นด่าง นิยมใส่ในสูตรที่มีกรดธรรมชาติอยู่ เช่น น้ำผึ้ง น้ำตาลทรายแดง โกโก้ ฯลฯ จะสลายตัวเมื่อได้รับความร้อน คือ เบคกิ้งโซดาจะทำปฏิกิริยาให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อได้รับความร้อนเท่านั้น มีผลเสียคือมักจะมีสารตกค้าง ซึ่งถ้าใช้เกินจะทำให้เกิดรสเฝื่อน เพื่อทำให้สารตกค้างหมดไปสามารถปรับได้โดยการเติมกรดอาหารลงไป เช่น นมเปรี้ยว หรือ ใช้กับขนมที่มีส่วนผสมบางตัวเป็นกรด การเลือกซื้อ ควรซื้อจากแหล่งที่ขายของสำหรับทำขนมอบ หรือแหล่งที่เชื่อถือได้และมีการบรรจุกล่องอย่างมิดชิด การเก็บรักษา ควรเก็บรักษาในที่ที่มีความชื้นต่ำ บรรจุหีบห่อเรียบร้อย จากคุณ : มะซาง - [ 10 พ.ค. 46 19:25:48 A:203.149.33.154 X: ] ส่วนผงโซดาไฟนะ เราเขียนผิดค่ะ จะเขียนว่าผงโซดาเฉยๆ จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 01:36:40

ความคิดเห็นที่ 21 @ Phu-nera  ตามคห.20   ใช่ค่ะ  ตัวผงฟูจะมีส่วนประกอบของbicarbonate ไม่ใช่ตัวมันเพียวๆ ตอนเรียกเราก็เรียกชื่อที่คิดว่าคนจะรู้จักง่ายค่ะ  ไม่ทันคิดไป เราใช้ตัว Sodium  bicarbonate เลยค่ะ อันนี้เป็นข้อมูลจากอีกที่นึงเค้าใช้คำว่า โซเดียมไบคาร์บอเนตหรือผงฟู ค่ะ http://www.ocpb.go.th/show_news.asp?id=1496 จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 08:24:12

ความคิดเห็นที่ 22 โอววว ยาเยอะดีจริง จะบอกว่าบ้านเรา ลูกสองขวบ ไม่มียาอะไรเลยซักอย่าง (อ้อ มียาแก้ไข ที่หมอจ่ายให้ ตอนไปฉีดวัคซีน) คงเป็นเพราะน้องไม่ค่อยป่วย หรือเพราะแม่ไม่ค่อยใส่ใจ 555+ ยุงกัดมดกันนี่ ไม่มีทาหรอก คิดว่าเดี๋ยวก็หาย แต่คงต้องหาเตรียมไว้บ้างละ เด็กน้อยเริ่มซน เจอโลกภายนอกเยอะขึ้น เดี๋ยวก็คงเริ่มป่วยละ ขอบคุณนะค้า... จากคุณ : wongrawee เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 10:31:04

ความคิดเห็นที่ 23 เสริชในอากู๋ ทำไมไม่รู้ว่า บางคนก็เรียกผงฟู ผงโซดา คือ โซเดียมไบคาร์บอเนต ที่บ้านเรามี 2 ชนิดเลยค่ะ ไม่เหมือนกัน ผงฟูที่ใช้ใส่ในขนม ทำให้ขนมฟู คือ Backing Powder  มีแป้งผสม เป็นขวดเล็กๆ ราคาจะแพงกว่า Backing Soda หลายสิบบาท ซึ่งผงโซดา หรือ โซเดียมไบคาร์บอเนต ถุงจะใหญ่ ราคาแค่ถุงละ สิบกว่าบาทเอง แต่ตอนอยู่อเมริกา ในห้างเขาจะแบ่งเป็น 2อย่างค่ะ ถ้า Backing Powder จะวางอยู่แถวๆพวกทำขนม ส่วน โซเดี่ยมไบคาร์บอเนต จะวางอยู่แถวพวกน้ำยาล้างจาน น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ อันนี้เอาใช้ทำความสะอาด หมักเนื้อให้นุ่ม เปื่อย แต่ที่ไทยไม่รู้ เขาวางแถวๆที่ทำขนมทั้งสองชนิดเลย ต้องรอให้ผู้รู้จริงด้านสารเคมีมาอธิบายแหละ เราก็รู้ตามที่เราเคยใช้งาน และเอามาแทนกันก็ทำขนมผิดสูตรค่ะ จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 10:40:20

ความคิดเห็นที่ 24 คุณแม่ยายซ่าหริ่มคะ เมื่อกี้โทรฯไปถามน้องที่เขาจบด้านวิทยาศาตร์อาหารมาค่ะ และน้องเขาเคยทำงานบริษัท S&P ทำขนมมาก่อนด้วยค่ะ น้องบอกว่า ผงฟู เป็นคนละตัวกับผงโซดาตามที่เราได้บอกไปนะคะ ผงฟู ( Backing Powder)มีส่วนผสมเป็นตัวโซเดียมไบคาร์บอเนต แป้งข้าวโพด กรด ใช้ในการทำขนมต่างๆ ผงโซดา (Backing soda หรือโซเดี่ยมไบคาร์บอเนต)ใช้เกี่ยวการล้าง ทำความสะอาด และหมักเนื้อให้นุ่ม ตัวนี้จะช่วยในการย่อยโปรตีนค่ะ ตัวข้างบน ผงฟูจะมีราคาแพงกว่าผงโซดา สูตาทำขนมบางสูตร จะใช้ทั้งสองชนิดผสม แต่ส่วนมากตัวผงโซดาจะมีสูตรที่ใช้น้อยกว่า พี่เคยอ่านตำราทำขนมของต่างประเทศ เขาก็ใช้คำว่า Backing Powder คือผงฟูค่ะ น้องเขาฝากบอกมาว่า อย่าสับสนนะคะ จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 12:48:01

ความคิดเห็นที่ 25 ตัวอย่างสูตรการทำผงฟูเอง http://frugalliving.about.com/od/condimentsandspices/r/Baking_Powder.htm แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 55 12:57:39 จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 12:57:04

ความคิดเห็นที่ 26 Backing Powder &Backing Soda http://www.joyofbaking.com/bakingsoda.html จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 13:00:51

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณนะคะที่นำมาแชร์ ลูกเรา 2.2 ขวบแล้ว ในบ้านไม่มียาที่กล่าวมาซักอย่าง ต้องเตรียมบ้างแล้ว อ้อ! มีนิดนึงเวลาหัวโน เราใช้ก่อนน้ำแข็งหุ้มด้วยผ้าประคบเลยค่ะ เด็กนี่หายไวจริงๆ และเป็นแผลเราก็ใช้ยาม่วงทา แผลแห้งและไม่ติดเชื้อ แต่ถ้าแผลเล็กน้อยเราก็ปล่อยหายเองเลย เห็นคุณแม่แต่ละท่านดูแลเรื่องยาของลูกแล้วอายจัง ต่อไปต้องใส่ใจลูกมากกว่านี้แล้วล่ะค่ะ จากคุณ : nink-nund เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 14:09:13

ความคิดเห็นที่ 28 คะณ Phu-nera คะ จากความเห็นที่ 16 ที่คุณบอกว่า ----------------------------------------- 7.อันในรูปคือผงโซดา หรือผงโซดาไฟ ---------------------------------------- โซเดียมไบคาร์บอเนต ไม่ใช่โซดาไฟนะคะ คนละตัวกัน อันตรายมากเลย โซดาไฟ คือ โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH)  เอามาแช่ผักไม่ได้ค่ะ มันเป็นด่างแก่ มีฤิทธ์กัดกร่อนสูง ตัวอย่างการใช้งานคือ เป็นส่วนผสมหลักในพวกผงที่ใช้เทลงไปในท่ออุดตัน นอกจากนี้ก็ใช้ในการต้มเยื่อกระดาษ เราไม่แน่ใจว่าตัวไหนเป็นตัวไหน และภาษาไทยเรียกว่าอะไรนะคะ แต่ภาษาอังกฤษ สะกดอย่างนี้ค่ะ baking powder และ baking soda จากคุณ : cognac & tobacco เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 14:25:16

ความคิดเห็นที่ 29 ตาม คห 4 น่ะค่ะ ยากวาดคอ +มะนาว +น้ำผึ้ง เกลือเราไม่ใส่ค่ะ พึงรู้่นะว่าต้องใส่เกลือด้วย มาคอนเฟริมมสส์์...ว่า..ได้ผลดีมากค่ะ ลูกสาวเราเป็นเสมหะบ่อยมาก เวลาเป็นจะอ๊วกหลังกินนมตลอดเลย ไปหาหมอได้แต่ยาละลายเสมหะมากินเป็นอาทิตย์ไม่เคยหาย แม่เราเลยใช้วิธีโบราณแบบนี้ กวาดคอเลย ทีแรกมันดูน่ากลัวมาก ลูกก็ร้องดิ้นพล่านๆๆ แต่ตอนนี้2ขวบแล้วค่ะ นั้งจิ้มกินเองเลย แล้วบอกว่า "อาย๋อยย" จากคุณ : hasballa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 15:42:32

ความคิดเห็นที่ 30 กลับมาอีกทีเป็นกระทู้แนะนำแล้ว ขอบคุณที่โหวตให้นะคะ  หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นๆบ้าง เพราะเราเองก็รวบรวมมาจากชานเรือนด้วยค่ะ เรื่องผงฟู ต้องขอโทษด้วยค่ะที่ทำให้สับสน   จริงๆเราใช้โซเดียมไบคาร์บอเนตค่ะ ยากวาด + เกลือ + มะนาว + น้ำผึ้ง  กวาดตอนท้องว่างๆนะคะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 17:17:24

ความคิดเห็นที่ 31 ที่บ้านน่าจะมีปรอทไว้สักอันนะคะ  เราใช้ปรอทแก้วอันละไม่กี่สิบบาทค่ะ เที่ยงตรงมาก และยาลดไข้ค่ะ ตอนเด็กเป็นยาน้ำ  ตอนนี้กินยาเม็ดได้แล้ว ก็เป็นยาเม็ดพาราเซตามอล จากคุณ : loginของแฟน (kkk-srinakarin) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 17:59:45

ความคิดเห็นที่ 32 คห.28เราแก้กระทู้ข้างล่างแล้วค่ะว่า(คห.20) ผงโซดา ไม่ใช่ ผงโซดาไฟเขียนผิดค่ะ ดูบรรทัดสุดท้าย ที่ไม่ได้เข้าไปลบในคห.นั้นเลยเพราะว่า พิมพ์จากไอแพดค่ะ พอจะเข้าไปแก้ไข มันจะออกมาเป็นตัวหนังสือแปลกๆค่ะ เลยต้องเขียนคห.ใหม่เพิ่ม จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 18:45:11

ความคิดเห็นที่ 33 เรพาริลเจล อีกอันนึงที่ขอแนะนำ เวลาหกล้ม กระแทก  ทาทันทีเลย ลดอาการบวมได้ จากคุณ : คุณพ่อน้องปั้น เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 19:49:09

ความคิดเห็นที่ 34 เพิ่มเติมค่ะ เวลาโดนยุง แมลงกัดใช้ Fenistil gel ค่ะ สามารถใช้กับทารกได้ แต้มเล็กน้อย หายเร็วไม่เป็นรอยค่ะ จากคุณ : แองจี้น่ารัก เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 21:41:12

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาจด ขอบคุณค่ะ จากคุณ : RioMommy เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 55 22:39:54

ความคิดเห็นที่ 36 มีประโยชน์มากๆๆ  ทั้ง จขกท. และผู้ร่วมรายการ หุ หุ อย่างนี้ต้อง SAVE จากคุณ : kansakx_aj5 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 00:10:03

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณค่ะที่แชร์ จากคุณ : benjy_bio เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 01:32:04

ความคิดเห็นที่ 38 ที่บ้านเราก็มียาทา ยาทานติดบ้านเหมือนกันแต่จะเป็นขนาดเล็กสุด ต้องระวังยาทานบางตัว เปิดไว้แล้วต้องจดเวลาที่เปิดใช้ นานมากก็ทิ้งนะคะ อย่าเก็ยไว้ใช้ต่อนานๆ ยาอาจหมดอายุได้ น้ำเกลือล้างแผลก็เหมือนกัน เปิดใช้แล้วต้องจดไว้ นานเกินเดือนก็ไม่ควรใช้อีก ยาทานหลายๆชนิด เปิดแล้วต้องกินให้หมด (เช่นแก้อักเสบผงผสมน้ำ) หรือเก็บนานไม่ได้ค่ะ จากคุณ : taklomklom เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 08:26:12

ความคิดเห็นที่ 39 ของเรามีเพิ่มอีกสามอย่างอ่ะ 1. ยาขับลมแก้ท้องอืด ไกร์ฟ วอเตอร์  เอาไว้เวลาท้องอืดท้องเฟ้อ โยเย 2. เจนเชี่ยนไวโอเลต ทาแผลในปาก แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปใช้อีกอย่างแล้ว ขวดเท่ากันแต่น้ำใสๆ จำชื่อไม่ได้แฮะ..อะไรบอแรกซ์ๆนีี่ละ เพราะทาอันเดิมแล้วปากดำ อิอิ 3. ขมิ้นสด  เอาไว้ทายุง มด แมลงกัดต่อย ดีนักแล จากคุณ : mickymackynetty เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 09:17:19

ความคิดเห็นที่ 40 ข้อความซ้ำ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 55 09:18:43 แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 55 09:18:43 จากคุณ : mickymackynetty เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 09:18:03

ความคิดเห็นที่ 41 ขอเพิ่มอีกหน่อยค่ะ ถ้าเป็นปรอทวัดไข้  เมื่อก่อนเราใช้แบบสเกลแล้วแม่ตัวดีดิ้นไปมา พอเอาออกจากรักแร้  ก็อ่านได้ไม่แน่ใจว่าเท่าไร หลังจากที่เข้าร.พ.เป็นว่าเล่นตอน 1 ขวบ ก็เลยซื้อแบบดิจิตอลมาค่ะ  ให้หนีบไว้อย่างนั้นแหละ พอมันดังติ๊ดๆ ค่อยเอาออกค่ะ @taklomklom – น้ำเกลือเราซื้อขวดเล็กสุดค่ะ  จดวันที่ไว้ 1 เดือนทิ้งค่ะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 09:45:40

ความคิดเห็นที่ 42 ผักที่ตั้งใจว่าจะปลูก  จะได้ไว้ใช้กับลูก ตอนนี้หาขอเค้ากับซื้อเอาค่ะ กระเพราแดง  ไว้ทาท้อง ไล่ลมเด็กน้อย ใช้ขยี้ๆๆ ทาท้องค่ะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 09:46:19

ความคิดเห็นที่ 43 ผักที่ตั้งใจว่าจะปลูก  จะได้ไว้ใช้กับลูก สะระเหน่   บดกับยากวาดกับน้ำผึ้งค่ะ  ใช้ไล่ลมเหมือนกัน ให้สาคูกิน ตดปุ๋งๆ เลย จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 09:46:50

ความคิดเห็นที่ 44 พืชที่ตั้งใจว่าจะปลูก  จะได้ไว้ใช้กับลูก ว่านหางจระเข้  ไว้ทาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก อย่าลืมล้างยางออกก่อนนะคะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 09:47:28

ความคิดเห็นที่ 45 โอเคนะคะ เรามีเกือบ หมด ยกเว้น ยากวาด/ผงฟู/ด่างทับทิบ ต้องลองยากวาด บ้าง เห็นยายใช้แต่ มะนาว เกลือ น้ำผึ้ง ^^ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 55 11:34:18 จากคุณ : oops_lunla เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 11:33:19

ความคิดเห็นที่ 46 เรื่อง "คัดจมูก"  เคยใช้ทั้งวิคส์ น้ำมันยูคาลิปตัส หอมแดง เพื่อให้ลูกหลับสบาย ไม่คัดจมูกเวลามีน้ำมูมากๆ แต่คุณหมอที่ศิริราชห้ามไม่ให้ใช้  บอกว่าพวกนี้พอสูดดมเข้าไปเยอะๆ น้ำมูกน้องจะเหนียว ยิ่งทำให้หายยากเข้าไปใหญ่  อาจจะช่วยให้หายใจโล่งขึ้นนั้นจริงอยู่  แต่หากมองระยะยาวกว่าจะหายจะนาน  เพราะพอสูดดมเข้าไปน้ำมูกใสๆ จะเหนียว  น้ำมูกตามปกติพอมีเยอะก็จะลงไปที่คอ  จะสังเกตได้ว่าพอมีน้ำมูกสักพักก็จะมีอาการไอตามมา  หากน้ำมูกเหนียวมากเพราะสูดดมของพวกนี้เข้าไป  จะกลายเป็นเสมหะที่คอและมีความเหนียว การที่จะหลุดกลืนลงสู่กระเพาะและขับถ่ายออกมานั้นจะยิ่งยาก คุณหมอแนะนำให้หยอดน้ำเกลืออย่างเดียวค่ะ  เด็กแรกเกิด - 1 ขวบก็หยอดแบบเป็นหยด  พอ 1 ขวบ - 3 ขวบก็ใช้แบบสเปรย์  พอ 3 ขวบขึ้นก็ใช้น้ำเกลือล้างจมูกแบบสวนจะได้ผลดีกว่าการใช้น้ำมันหอมระเหยต่างๆ ค่ะ เราเองตอนแรกก็ไม่เชื่อ เพราะใช้ตลอดค่ะ  แต่พอคุณหมออธิบายให้ฟังแล้วดูมีเหตุผลมาก  ประกอบกับทดลองไม่ใช้ตอนน้องเป็นหวัด สังเกตดูว่าน้ำมูกน้องไม่เหนียวเท่าตอนที่ใช้ค่ะ  และจะน้ำมูกหายไวกว่าจริงๆ  เพียงแต่เวลาน้องคัดจมูกมากๆ คนเป็นแม่จะลำบากหน่อย เพราะน้องจะหายใจไม่สะดวก  เราก็อาศัยนอนหมอนสูงค่ะ จากคุณ : กิ่งทองใบหยก เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 14:49:26

ความคิดเห็นที่ 47 @ กิ่งทองใบหยก -ขอบคุณค่ะ เราไม่ทันสังเกตเหมือนกันค่ะว่าตอนที่ใช้แล้วเป็นมั๊ย? เพราะวิค นี่ใช้มาตลอดเหมือนกัน แต่สาคูใช้น้ำเกลือล้างด้วย เพิ่งจะไปขอแบบหยดจากหมอมาเมื่อตอนไปรับวัคซีน 9 เดือนค่ะ ไว้จะลองสังเกตดูค่ะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 14:57:32

ความคิดเห็นที่ 48 ยากวาด ผสมเกลือ มะนาว น้ำผึ้ง ในคห. 4 ใช้ได้ตั้งเเต่เด็กอายุเท่าไรคะ ตอนนี้น้องอายุเกือบ 7 เดือนเเล้ว ไอมา 2 อาทิตย์ทั้งพ่นยา เคาะปอด ดูดเสมหะ ก็ยังไม่หายดีสักทีค่ะ อยากลองบ้างค่ะ จากคุณ : เรียมเจ้าขา เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 21:17:24

ความคิดเห็นที่ 49 คห.39 กลีเซอรีน บอแรกซ์ค่ะ ปรอทดิจิตอล และพวกวัดค่าต่างๆแบบดิจิตอลใส่ถ่านหรือแบตเตอรี่ ต้องคอยระวังอย่าให้ถ่านอ่อนนะคะ(Low battery)ค่ามันจะรวนไม่แน่นอนค่ะ แบบใช้วิธีอ่านเองดีที่สุดค่ะ ค่าแม่นยำกว่า จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 23:10:56

ความคิดเห็นที่ 50 รบกวนถามหน่อยคะ แล้ว ถ้าลูกขา เป็นรอยดำจ้ำๆ จากการเป็นแผลยุงกัด แล้วเกา นี่ ทาอะไรดีคะ จากคุณ : tj_otto เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 08:46:00

ความคิดเห็นที่ 51 เพิ่มค่ะ น้ำเกลือ ยี่ห้ออะไรก็ได้ ที่นิยมคือ Normal Saline .. สารพัดประโยชน์ ล้างแผล ล้างจมูก เช็ดหน้าแม่แทนโทนเนอร์ เจลประคบเย็น-ร้อน .. ถุงเจลสีฟ้าๆ แข่ตู้เย็นไว้ กระแทก ล้ม บวม หัวโน ปากเจอ ก็คว้ามาโปะค่ะ Reparil Gel ... ทาฟกช้ำดำเขียวปูดโน จากการวิ่งซนกระแทกโน่นนี่ Systral Cream ... ทาเมื่อโดนยุงกัด มดกัด โดนอะไรไม่รู้กัด (ดีกว่ายาหม่องกับแซมบัค) ผื่นคัน แพ้ คัน โดนอะไรไม่รู้รู้แต่ว่าคัน โดนแดดเผาแสบ สารเคมีกัด สารพัดประโยชน์ และเทพมากๆค่ะ จากคุณ : ปานิปานิ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 10:45:37

ความคิดเห็นที่ 52 แผลรอยดำจากยุงกัดในเด็กเห็นว่ามียี่ห้อ Scargel Kids นะคะ สำหรับเด็กโดยเฉพาะ เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่แน่ใจว่าใช้ได้กับเด็กอายุเท่าไหร่ขึ้นไป ลองเสริชดูนะคะ ขึ้นมาเยอะค่ะ แต่ยังไม่เคยใช้จนหายนะคะ เพราะลูกที่บ้านรอยแผลไม่ดำค่ะ จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 11:20:55