ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าสามีหาเลี้ยงได้ไม่เดือดร้อน ไม่ต้องกระหมิดกระเหมี่ยน ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เอาที่เราสบายใจ ถ้าสามีต้องปากกัดตีนถีบ กว่าจะหามาได้แต่ละบาทเลี้ยงลูก 2 เมียหนึ่ง หมา 1 เงินแต่ละเดือนเหลือไม่เท่าไหร่ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ก็คงต้องคิดใหม่ ป้าเรา ลูกแฝด 4 ค่ะ มีคนโตก่อนแล้วคนนึง มีทั้งหมด 5 คน งานในบ้านหนักกว่าคุณมากนัก แต่เขาก็ทำงานนอกบ้านด้วย ในบ้านด้วย สามีก็ช่วยด้วยกันทั้งสองคน ครอบครัวมันถึงจะอยู่รอด ไม่ไปตกหนักที่ใครคนใดคนหนึ่ง ตอนนี้ลูกโตทำงานหมดแล้ว เรียนนอก 2 คน แฟนคุณจะคิดยังไงไม่รู้ แต่คุณควรคิดได้เอง เงินเข้า เงินออก คุณเห็นอยู่นะคะ ลูกยิ่งโต รายจ่ายยิ่งเยอะ เงินเดือนแต่ละปีขึ้นไม่เท่าไหร่ คิดเผื่อวันข้างหน้าว่า เมื่อไหร่ลูกเข้าอนุบาล ป 1 สามีคุณยังหาไหวไหมคนเดียว ถ้ามันจวนเจียนมากๆ คุณก็ต้องเริ่มหางานได้แล้ว เพราะต้องสะสมตังค์เอาไว้จนถึงวันที่ต้องจ่ายออก จะได้ไม่รัดตัวจนเกินไป มีเหลือเผื่อลูกป่วยไข้บ้าง จากคุณ : ดี้ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:23:57 A:171.97.173.90 X: TicketID:159640

ความคิดเห็นที่ 2 เค้าไม่รู้หรอกค่ะว่าเลี้ยงลูกมันเหนื่อยแค่ไหน เพราะว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้เลี้ยงแต่ลูกอย่างเดียวเนอะ ต้องทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเกียวกันเค้าใจเลยค่ะ หัวอกเดียวกันเลย จากคุณ : mamaida เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:25:02

ความคิดเห็นที่ 3 เชิดใส่ค่ะ อย่าใส่ใจ  เราก็เคยโดน คิดไปก็รำคาญใจ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 55 13:27:59 จากคุณ : DutchEngel เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:25:39

ความคิดเห็นที่ 4 อ่าน คห.1 แล้วมาเพิ่มเติมค่ะ ครอบครัวไม่มีปัญหาเรื่องการเงินค่ะ มีธุรกิจส่วนตัวที่กำลังไปได้ดี เราเองก็มีส่วนอยู่บ้างอาทิตย์ละวันสองวัน กระเตงลูกไปที่ร้านเพื่อบัญชีรับ-จ่าย สั่งของ เขียนเช็ค  ทางบ้านป้าเค้าเป็นข้าราชการกันหมดทุกคนค่ะ จากคุณ : nink-nund เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:29:48

ความคิดเห็นที่ 5 เจอเหมือนกันค่ะ หาว่าสบายเลยไม่ต้องทำงาน แต่ที่หนักกว่านั้นเพื่อน/น้องๆที่ทำงานเดิมดันเข้าใจว่าเรารวยแล้วเลยไม่ต้องทำงาน จากนั้นก็มีโทรศัพท์มาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบแล้วปิดท้ายด้วยการ "ยืมตังค์" !!!!! จากคุณ : ชะเอมน้อยกลอยใจ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:29:50

ความคิดเห็นที่ 6 เชื่อเถอะค่ะ การเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง เห็นการเจริญเติบโต เห็นพัฒนาการของลูก เป็นอะไรที่สุดยอดค่ะ ยิ่งถ้้าไม่เดือดร้อนเรื่องการเงิน อย่าได้แคร์ใครค่ะ คนรู้จัก ออกจากงานนางฟ้า เลี้ยงลูกเอง ดูแล รับส่ง ลูกคนแรก เป็นนักบินการบินไทย ลูกคนที่สองกำลังเรียนม.ดัง ดิฉันก็เช่นกัน ลาออกมาเป็นนางดิน ดูแลลูกอย่างเดียว มาอยู่เมืองไกลด้วยซำ้ สามีส่งเงินให้ใช้ ไม่เครียด ขำๆ happyค่ะ แต่คุณลูกซิ ไม่happy เพราะ ต้องทำอะไรเอง ไม่เป็นคุณชายเหมือนอยู่เมืองไทย ยำ้อีกที ลูกเรา เราเลี้ยงเองดีที่สุด อย่าแคร์คำคนค่ะ ขอให้มีความสุขนะคะ จากคุณ : จำปีสีม่วง (pajulito) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:34:27

ความคิดเห็นที่ 7 เราไม่จำเป็นต้องไปทำงานประจำนอกบ้านก็ได้นะคะแต่อาจจะหาอาชีพเสริมอื่นๆที่เป็นรายได้ จะได้ช่วยสามีได้ด้วยเพราะเค้าหาคนเดียวแล้วเลี้ยงหลายๆปากท้องมันเหนื่อยนะเพราะถ้าเกิดเค้าเจ็บป่วยหรือเกิดเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เค้าอาจจะหาเงินได้ลดลงแต่ในขณะที่ต้องเลี้ยงดูทุกคนเท่าๆเดิมมันจะลำบากกันไปหมดนะคะ แล้วอีกอย่างก็จะได้สร้างความมั่นคงให้ตัวเองด้วย เกิดวันนึงมีอะไรๆเปลี่ยนแปลงไปเราจะได้เอาตัวรอดได้และเลี้ยงลูกได้นะคะ การหารายได้ๆจากตัวเองกับรอจากคนอื่นมันไม่เหมือนกันค่ะ แต่ก็เข้าใจว่าการไปทำงานประจำวันจะมีเวลาน้อยลงและดูแลลูกได้น้อยลง ลองมองๆอาชีพเสริมอย่างอื่นดูเพราะถ้าอีกหน่อยถ้าลูกเราไปโรงเรียนจะให้เราไม่มีสังคมวันๆทำแต่งานบ้านอยู่กับบ้านก็ไม่ไหวนะ ^^ เราก็ยังไม่มีครอบครัวนะคะแต่คิดๆไว้ว่าจะเป็นประมาณนี้ถ้าแต่งงานมีครอบครัวไป จากคุณ : Bunny (Bunny_jaja) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:40:42

ความคิดเห็นที่ 8 ใครว่าเลี้ยงลูกอยู่บ้านสบาย เราอยู่ที่ทำงานยังแอบอู้ได้ เม้าท์ได้ ถ้าเลี้ยงลูกที่บ้านแอบอู้ก็ไม่ได้ ลูกหลับก็ต้องมาทำงานบ้านอีก จากคุณ : Hayatee06 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:45:34

ความคิดเห็นที่ 9 แสดงว่่าคนพูดไม่ได้เลี้ยงลูกเอง จากคุณ : sastress เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:48:13

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยค่ะ เลี้ยงลูกเหนื่อยกว่าทำงานอีก ทำงานเหนื่อยก็พัก เลี้ยงลูกไม่ได้พักนะถ้าเค้าไม่หลับ แต่ไม่มีใครเลี้ยงลูกได้ดีเท่าแม่หรอกค่ะ สู้ๆนะคะ ของเราสาวน้อย 1.4 ขวบ เหนื่อยสุดๆ จากคุณ : UnnaMom เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:52:17

ความคิดเห็นที่ 11 ทำงานสบายกว่าเลี้ยงลูกเย๊อะค่า  ทำงานมีช่วงพัก เม้าท์ได้ หาไรใส่ปากได้ เลี้ยงลูกผอมเอา ๆ   ทุกวันนี้เราคล้าย ๆ จขกท นะคะ ที่บ้านทำธุรกิจ ส่วนตัวแต่เรานอนที่ร้าน ก็ทำงานด้วยเลี้ยงลูกด้วย  จิง ๆ งาน แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่โต๊ะ เลี้ยงลูกไปก็ทำงานไปได้ ฉะนั้นอย่าได้ แคร์ค่ะ  รายได้เข้าแถมได้เลี้ยงลูกด้วย ไม่ได้ขอเงินคนอื่นใช้เนอะ เราว่าที่คุณป้าพูดน่าจะในกรณี จขกท เป็นพนักงานเงินเดือน ละออกจากงาน มาอันนั้นอาจจะต้องคิดเยอะหน่อย  แบบนี้เราว่า win win นะ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 55 13:54:08 จากคุณ : nuch_niki เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:52:50

ความคิดเห็นที่ 12 ปากหอยปากปู อย่าไปสนใจใครค่ะ เราลาออกมาเลี้ยงลูก เลี้ยงเอง กับ มือ แม่ผัวไม่เลี้ยงให้ สามีก็ ไม่อยากให้แม่เราเลี้ยง จะเอาไปให้คนอื่นเลี้ยง ก็ อย่างหวัง อีกทั้งสุขภาพเราก็ ตอนนั้นไม่แข็งแรง ตัดใจลาออกจากงาน ช่วงนั้นร้องไห้เป็นเผาเต่า เสียดายอนาคต(ที่ยังมองไม่เห็น)  ที่ ถ้า เทียบกับ น้องสาวแฟน ที่ให้ยายเลี้ยง คนละเรื่องเหมือนฟ้ากะเหวเลยค่ะ ยายเลี้ยงแบบตามใจมากกกก น้องสาวแฟน ก็ เลี้ยงแบบคนมีตังค์ ชดเชยด้วยเงิน ของเล่นดีๆ เสื้อผ้าแพงๆ ของกิน ประเภทดีสุดยอดที่สาวออฟฟิต เขาฮิตกัน พวกผงๆโรย สารพัดวิตามิน ลูกเขาได้ กินหมด เพราะแม่เขาทำงาน สามารถ ซื้อได้ ส่วนลูกเรา ไม่สามารถ จะซื้อของแพงๆ ของนอก ให้ค่ะ พาลูกเดินเลิน วิ่งเล่นกะดินกะทราย ระบายสีเล่น วิ่งในสวน กับข้าว ก็ ทำเอาทุกมื้อเพราะมีเวลาทำ ไม่มีเงินซื้ออะไรแพงๆ ให้ลูกกิน แบบเขา ลูกเขาได้กิน เกอเบอร์(ที่เป็นกระป๋อง) ลูกเรา ต้มข้าวใส่ผัก ใส่ปลา ใส่ไข่ ตุ่๋นไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่ขี้เกียจ และ ไม่มีกะตังค์ซื้อเท่าเขา อิอิ แต่่รวมๆ ลูกเรามีความสุขมากกว่า ค่ะ เพราะ ลูกเราได้เล่นกับดินจริง คนจริงๆ มีสังคม แต่หลานชาย ได้อยู่แต่บนหอคอย เพราะ แม่เขา กะ ยาย ไม่ให้ออกจากบ้าน กลัวลูกตัวเลอะมือเลอะ เราก็สงสารหลานนะ แต่ ทำไงได้ เขาเลี้ยงของเขามาแบบนี้ ผ่านมา 15 ปี ผลออกมา ลูกสาวผลการเรียนดี กิจกรรมดี ความประพฤติดี แต่ก็ จะมีอารมณ์วัยรุ่น เป็นปกติ ส่วนหลานชาย นี่ ตอนนี้ เกเร เข้าขั้นเลยค่ะ ตอนนั้นโคตรน้อยใจแม่ผัวเลย ไม่ยอมเลี้ยงลูกให้เรา แต่ ตอนนี้ ดีใจสุดๆ ค่ะ เพราะ ปั้้นลูกเองกะมือนี่ ภูมิใจสุดๆ   เรายอมทิ้งอนาคตตัวเอง เพื่อ ลูก โดยแท้ จากคุณ : ทุเรียนสีชมพู เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:53:32

ความคิดเห็นที่ 13 เราก็ท้องป่องอยู่บ้านเฉย ๆ วันนึงก็มีลูกพี่ลูกน้อง มาพูดว่า หาเรื่องออกจากงาน เราเลยตอกกลับไปว่า อย่างพี่จะหาเรื่องออกจากงานเมื่อไรก็ได้ค่ะ มีเหลือกิน เหลือใช้ค่ะน้อง แต่อย่างน้องท่าจะลำบากนะคะ ก้มหน้าก้มตาทำงานเลี้ยงลูกไปเถอะค่ะ ขอบใจนะที่ห่วงใย แต่ห่วงตัวเองก่อนเถอะค่ะ หน้าซีดไร้ราศีเชียว จากคุณ : ธรรมดาไม่เป็น เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 13:59:00

ความคิดเห็นที่ 14 ใช่ค่ะเลี้ยงลูกน่ะสบาย ไม่ต้องทนเสียงเพื่อนร่วมงานนินทา ไม่ต้องเปลืองเครื่องสำอางค์ เสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋า ไม่ต้องทนเจ้านายงี่เง่า ไม่ต้องรับผิกชอบงานที่กดดัน เลี้ยงลูกสบายจะตาย นั่งคิดเมนู เตรียมของทำกับข้าว นั่งเล่นนั่งหาข้อมูลเสริมพัฒนาการ ลูกซนก็ต้องดุต้องอธิบาย อบรมสั่งสอน ใช่ค่ะสบายใจมากๆเลย สิ่งที่ได้ตอบแทนมาก็คุ้ม ไม่ใช่มีลูกแล้วโยนภาระให้คนอื่น อย่างครูหรือเนิส เวลาเด็กโตขึ้นได้ดีก็เข้าตัว เสียคนก็โทษคนเลี้ยง พ่อแม่ลอยตัวสบายไป มีลูกไม่เลี้ยงมีไปทำไม งง มากกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 14:17:33

ความคิดเห็นที่ 15 อาชีพแม่เหนื่อยกว่าทุกอาชีพค่ะ จากคุณ : สวยแล้วสวยอีก เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 14:35:10

ความคิดเห็นที่ 16 ผมแนะนำครับ จ้างป้ามาเลี้ยง...งานสบาย ๆ จากคุณ : CW Together เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 14:37:07

ความคิดเห็นที่ 17 ถูกใจความเห็น คุณ darkheart  มากค่ะ มีลูกแล้วไม่เลี้ยง อยากมีทำไม งง จริงๆ เหมือนกันค่ะ อยากมีกันใจจะขาด แต่มีแล้ว ส่งกลับบ้านนอก ฝาก ปู่ย่า ตายายเลี้ยง ปีนึงเจอ 2-3 หน มีแล้วเช้าไปส่งเข้าเนิส มืดค่ำ ถึงไปรับกลับ พัฒนาการลูกเป็นไง ต้องฟังจากครูพี่เลี้ยง เราครอบครัวก็ไม่ได้รวย แรกๆ ตอนลูกคนโต ก็ทำงานกันสองคน พอคลอดคนโตก็ลาออกมาเลี้ยงลูกเอง 1 ปีก่อน แล้วกลับไปทำงาน ฝากแม่เลี้ยง บ้านใกล้ๆ กัน พอคนเล็ก คลอด สุขภาพไม่ดี ป่วยบ่อย มีปัญหาเรื่องลางาน คิดไป คิดมา ลาออกดีกว่า ก็ออกมาเลี้ยงเอง สองคน เหนื่อยมาก หาไรทำเสริมบ้างไรบ้าง ขายของบ้าง ลำบากกว่าสมัยทำ งานประจำเยอะ แต่ภูมิใจ ได้รู้ปัญหาลูกในทุกๆ วัน เห็นพัฒนาการลูกในทุกๆ วัน ตอนนี้ สามีทำงาน ได้เงินดีขึ้น เริ่มวางแผนกันไว้ในใจ ว่าอีกซัก 2-3 ปี จะกลับไป ลงหลัก ปักฐานที่ ตจว. บ้านเกิด สามีล่ะ เพราะ ถ้าทำกิจการที่บ้าน เราก็ไม่ต้องออกไปทำงานข้างนอก ค้าขายกับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายจิปาถะของเมืองกรุง แถมพาลูกไปสู่สังคมต่างจังหวัด ที่มีครอบครัวใหญ่ มีญาติ มีวงศ์ตระกูลพี่น้อง จะได้ไม่ลืมคุณธรรมแบบดั้งเดิม เราเป็นคน กทม. ครอบครัวเหลือแค่แม่ กับน้องสาว น้องสาวก็มีครอบครัวแล้ว แม่อยู่กับน้องสาว เราเลยอยู่กันแค่ 4 คนพ่อแม่ลูก โหยหาครอบครัวใหญ่ๆ ญาติพี่น้องเยอะๆ อ่ะ จากคุณ : autoaoy เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 14:42:34

ความคิดเห็นที่ 18 ใครว่าเลี้ยงลูกงานสบายให้ลองมาเลี้ยงตลอดทั้งวันสักอาทิตย์นึงดูค่ะ ทำทุกอย่างที่คุณทำแล้ว ถามใหม่ว่า สบายไม้ =) จากคุณ : yuki-onna เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 14:44:54

ความคิดเห็นที่ 19 ความเห็นส่วนตัว : ถ้าจะต้องไปทำงานแล้วจ้างคนอื่นมาดูแลลูก, บ้าน ก็อย่าดีกว่าค่ะ เราเคยดูข่าวสัมภาษณ์คนทำงานโรงงานตอนช่วงเงินบาทแข็งค่า บอกว่าต้องเอาเงินไปจ้างคนมาดูแลลูกเดือนละ 7,000 บาท ก็รู้สึกแปลกๆ เดี๋ยวนี้ไว้ใจคนได้ยากมากๆ ถ้าจ้างมาไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า จะมีปัญหาหรือไม่ สู้เลี้ยงเองดีกว่า จากคุณ : ซุยเรน (ซุยเรน) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 14:45:51

ความคิดเห็นที่ 20 เราก็จะออกจากงานสิ้นเดือนนี้ไปเลี้ยงลูกค่ะ ทุกวันเราให้แม่เราเลี้ยงให้ มีวันนึงเราไม่สะบายต้องไปหาหมอ แม่ต้องเอาข้าวไปส่งพ่อที่ทุ่งนา ก็เลยเอาลูกเราฝากไว้กันน้าซึ่งเป็นน้องของแม่ น้าชอบเล่นกับลูกเราค่ะ บังเิอิืญเราอยู่บนบ้านเปิดหน้าต่างไว้ มองจากหน้าต่างลงมาจะเห็นบ้านน้า เรามองไปเห็นน้าเอามือพลักหัวลูกเรา ครั้งแรกลูกเราหน้าหงายน้าก็เอาแขน ของน้ารองไว้ไม่ไห้ถูกพื้น ลูกเรา 10 เดือนค่ะ เราก็คิดว่าน้าหยอกหลาน พอครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 หลานก็เฉยๆ เราเิริ่มใจไม่ดีแล้วน้าทำแรงไป เราลงจาก บ้านไปอุ้มลูกกลับมาบ้านเลย รอจนกว่าแม่กลับมาบอกแม่ว่าไม่ต้องเอาลูก ไปฝากใครไว้วันใหนยุ่งจะลางานมาเลี้ยงเอง เล่าเรื่องน้าพลักหน้าลูกให้ฟังด้วย แม่เราชอบเอาลูกไปเล่นแล้วปล่อยไว้กันคนโน้นคนนี่เพราะปวดเอว ปวดหลัง ลูกเรา 10 เดือน 10 กล. ตัวใหญ่หน่อย เราเลยตัดสินใจลาออกจากงานไปเลี้ยงเองค่ะ พอลูกไปโรงเรียนค่อยหาอะไรทำ ยอมเสียเวลาสักระยะนึงเพื่อลูก คุยกับสามี เข้าใจกันก็ำพอค่ะ ลูกใครใครก็รัก ลูกใครใครก็หวง ยิ่งเห็นใครมาำทำลูกเรารับไม่ได้จริงๆ ในเมื่อลูกเรายังไร้เดียงสา จากคุณ : คุณหนูใบหม่อน เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 14:55:30

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนลาคลอด บอกตรงๆโค ตร เหนื่อย แบบไม่มีเวลาหายใจหายคอ กลับมาทำงาน สบายกว่าเยอะ ทุกวันนี้ เสาร์ อาทิตย์เหนื่อยกว่าวันทำงาน แต่ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดว่าจะลาออกไปเลี้ยงลูกนะคะ อยากอะ แต่สถานการณ์ไม่อำนวยจริงๆ >_< จากคุณ : hikawa เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 14:57:21

ความคิดเห็นที่ 22 แต่ละคนแต่ละบ้านมีเหตุผลต่างกันในทุกๆเรื่องค่ะ เป็นเราเราก็ไม่ชอบเหมือนกันที่คนนอกจะเข้ามาก้าวก่ายเรื่องการตัดสินใจของเรา และถ้าคุณเลือกแล้วว่าวิธีของคุณเหมาะแล้ว ดีแล้วสำหรับครอบครัวคุณ ก็อย่าได้แคร์ค่ะ เราเห็นด้วยกับคุณค่ะว่างานบ้านและงานเลี้ยงลูกนั้นเหนื่อยกว่าทำงานข้างนอกมาก เราลูกแฝดเหมือนกันค่ะ อยากจะอยู่บ้านเลี้ยงลูกเองเหมือนกันแต่ก็เสียดายโอกาส ทางหน้าที่การงาน(เรากับแฟนเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยทั้งคู่) เลยเลือกที่จะทำงานแล้วจ้างพี่เลี้ยง2คนมาช่วยทำงานบ้านและดูลูกๆค่ะ  อยากที่อ่านกระทู้ที่ผ่านๆมาของคุณ เราว่าวิธีการเลี้ยงดูลูกๆคล้ายเรามากที่เดียวที่เน้นปฏิสัมพันธ์กับลูกๆมาก ไม่ต้องเร่งวิชาการ ไม่ต้องรีบเข้าโรงเรียน เรากะจะให้ลูกเริ่มเข้าโรงเรียนตอนอ1เลย แม่เรากลับอยากให้เด็กๆเข้าโรงเรียนเร็วๆเพราะกลัวหลานโง่ ก็ต้องบอกเหตุผลไปและต้องหนักแน่นในความคิดของเราเองถ้าคิดว่าถูกแล้วค่ะ จากคุณ : หมูทอดร้อนๆ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 15:03:01

ความคิดเห็นที่ 23 ก่อนมีลูกเราก็คิดแบบนั้นนะคะว่าคนที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกเฉยๆ  สบายจังเลย  แต่พอมามีลูกเอง  คนละเรื่องเลย  ทำงานอย่างเดียวสบายกว่าเลี้ยงลูกอีก  พอเลิกงานก็เดินช๊อปปิ้ง  วันหยุดก็นัดเจอเพื่อนไปเที่ยวตามประสาคนโสดๆ  คิดถึงวันเวลาเก่าๆมากเลย จากคุณ : PapikaS เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 15:40:58

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบอย่างภาคภูมิใจ "อาชีพหลักเป็น แม่คนค่ะ" พิจารณาองค์ประกอบหลายๆ ด้าน อย่าเอามาคิดเองเอ้อเอง ไม่แน่ใจก็ลองคุยกันในครอบครัว คนอื่นก็คือคนอื่น อาจจะหวังดี แต่เขาเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเรา ส่วนตัวเรา... เราทิ้งเงินเดือนเยอะๆ แต่ไม่มีเวลาส่วนตัวเลย เรายอมมาทำงานกับที่บ้านสามี (อึดอัดใจบ้าง ลำบากบ้าง) เพื่อสิ่งเดียวเลย โอกาสจะได้เลี้ยงลูกเอง... คิดอย่างนี้ตั้งแต่ก่อนท้อง.. จนถึงตอนนี้ท้องไม่กี่ week แต่เราก็มั่นใจว่า เรากับสามีเลือกไม่ผิด... สู้ๆ นะคะ คุณแม่มืออาชีพ ^_^V จากคุณ : meawkika เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 15:46:44

ความคิดเห็นที่ 25 แสดงว่าป้าไม่เคยมีลูก ถึงบอกว่ามันไม่เหนื่อย ยิ่งแฝดเราว่าเหนื่อยคูณสอง จากคุณ : sabai_sabaidee เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 15:48:20

ความคิดเห็นที่ 26 อิจฉามากค่ะ อยากอยู่บ้านเลี้ยงลูกเอง จากคุณ : แม่ดิน (pumpeem) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 16:15:35

ความคิดเห็นที่ 27 ต่างคนต่างความคิดค่ะ จริงๆป้าคุณเค้าอาจจะหวังดีก็ได้ค่ะ แต่เค้าอาจจะคิดผิดไปหน่อยที่บอกว่าเลี้ยงลูกเป็นงานสบาย สำหรับเรา เรารู้ค่ะว่างานเลี้ยงลูกเป็นงานที่หนักเหนื่อย และเครียดที่สุดแล้ว คนที่ไม่มีลูก ไม่ได้เลี้ยงเองจะไม่มีทางรู้ว่าหนักจริงๆ ที่เราบอกว่าหวังดีในที่นี้ก็คือ ลูกจขกท.ก็เริ่มจะโตในระดับนึงแล้ว หากลูกไปเรียนแล้วก็จะทำให้พอมีเวลาทำงานหารายได้เพิ่มอีกทางนึงได้ แน่นอนว่าบ้านคุณจขกท.อาจจะพอมีรายได้ให้ใช้จ่ายได้สบายๆโดยไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว แต่ผู้ใหญ่บางทีเค้าก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอน การที่เรามีรายได้เป็นของตัวเอง มันก็ย่อมดีกว่าการอาศัยรายได้จากสามีคุณทางเดียวอยู่แล้ว  เค้าอาจจะไม่ทราบ ว่าคุณร่วมกันทำธุรกิจกับสามีคุณอยู่ เลยอาจจะพูดให้คุณขุ่นเคืองใจไปบ้างเท่านั้นเอง พออ่านหลายๆความเห็นในนี้มากเข้า บางคนก็กลายเป็นกระแนะกระแหน คนที่ทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วยซะอีก ไม่รู้สิ เราคิดว่าแต่ล่ะคน แต่ล่ะบ้านสถานการณ์ทางการเงินไม่เหมือนกัน บางครอบครัวแค่สามีทำงานหาเงินคนเดียวก็สามารถอยู่ได้สบายๆ อันนั้นก็ยินดีด้วยค่ะ ที่คุณแม่ๆสามารถออกจากงานมาเลี้ยงลูกแบบเต็มเวลาได้ เป็นครอบครัวที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ แต่บางครอบครัวทำแบบนั้นไม่ได้ หากครอบครัวไหนทำไม่ได้ก็ไม่สมควรมีลูกอย่างนั้นหรือคะ เป็นความคิดที่แคบไปหน่อยรึเปล่า หากเค้าพอมีพอกินกันมีใครจะไม่ออกจากงานมาเลี้ยงลูกบ้างคะ ที่เราเขียนแบบนี้เราไม่ได้แก้ต่างให้ตัวเองนะคะ เพราะเราเองเปิดร้านขายของ ไม่ได้ทำงานออฟฟิซค่ะ เราสามารถเลี้ยงลูกไปด้วยทำงานไปด้วยได้ แต่ที่เราเขียนเราก็แค่อยากจะให้ความเป็นธรรม กับคนที่มีความจำเป็นต้องทำงานนอกบ้านบ้างเท่านั้นเอง ไม่รู้สิ เราแค่คิดว่าต่างคนต่างความคิดกัน คนที่เลือกจะเป็นแม่บ้านก็ไม่ผิด คนที่เลือกจะทำงานมากกว่าอยู่บ้านเลี้ยงลูกก็ไม่ผิดอีกเช่นกัน ใครอยากจะเลือกทางเดินไหนมันก็เรื่องของเค้า ไม่มีใครถูกใครผิดหรอกค่ะ จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 16:46:47

ความคิดเห็นที่ 28 อยากอธิบายความคิดเห็นเราเพิ่มต่อจากคคห.27 อีกนิดว่า การที่ผู้หญิงเลือกจะเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก หรือเลือกที่จะทำงาน บางทีเงินก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียว มันมีการเห็นคุณค่าในตัวเอง และความชื่นชอบของตัวเองมาเกี่ยวข้องด้วย บางคนที่ชอบจะเป็นแม่บ้านแม่เรือน รู้สึกมีคุณค่าที่ได้อยู่บ้านเลี้ยงลูก มีความสุขที่ได้เลี้ยงลูกเอง ก็มักเลือกที่จะออกจากงานมาอยู่บ้านเลี้ยงลูกไป แต่กับบางคน รู้สึกมีคุณค่าเมื่อได้ออกมาทำงาน มีรายได้เป็นของตัวเอง ถามว่าคนที่ออกมาทำงานผิดไหมก็ไม่ผิดอีกเช่นกัน ในเมื่อถ้าอยู่บ้านเลี้ยงลูกแล้วไม่มีความสุข มีแต่ความเครียด ถึงได้เลี้ยงลูกเองก็ไม่มีความสุขหรอกค่ะ แม่เครียด ลูกก็เครียด สู้ออกมาทำงาน แล้วให้คนที่ชอบเลี้ยงเด็กเลี้ยงให้น่าจะดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นปู่ ย่า ตา ยาย หรือพี่เลี้ยงก็ตาม พอเลิกงานก็กลับมาเลี้ยงลูกแบบมีความสุข ลูกก็ได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่ ไม่แพ้เด็กที่แม่เลี้ยงลูกเต็มเวลาหรอกค่ะ สื่งที่เราเขียนอาจจะหลุดประเด็นของจขกท.ไปไกลนิดนึงนะคะ เพียงแต่เราอยากอธิบายอีกมุมมองนึง ของคนที่เลือกทำงาน มากกว่าอยู่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียวบ้างเท่านั้นเอง จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 17:01:30

ความคิดเห็นที่ 29 เราว่าเลี้ยงลูกหนักกว่านะ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 17:52:58

ความคิดเห็นที่ 30 เลี้ยงลูกเหนื่อยมากกว่าอีก ไหนจะงานบ้าน ซักผ้า วลาจะกินยังไม่ค่อยมี ลูกหลับแทนที่จะได้พักได้งีบต้องทำงานบ้านสารพัด ทำงานยังอู้ได้ เหนื่อยนักก็พักร้อนลาป่วยลากิจ ว่ากันไป เลี้ยงลูกนี่ตีตั๋วทำไปตลอดชีวิต ลาไม่ได้ ตายได้อย่างเดียวเลย จากคุณ : ยิ้มร่า (ยิ้มร่า) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 18:51:49

ความคิดเห็นที่ 31 เราเลือกที่จะทำงานแล้วเลี้ยงลูกไปด้วยค่ะ ตอนนี้เราจะคลอดแล้วขนาดแค่อยู่บ้านเพื่อรอคลอด เราลองหยุดวันนึงแทบบ้า มันเหงาวังเวง รู้สึกไร้สังคมมาก เอางานมานั่งทำก็ไม่หายเบื่อ เราได้เตรียมการหลังคลอดไว้แล้วว่า ช่วงกลางวันคุณน้าเราที่เป็นครูอนุบาลเก่าจะมาดูแลลูก เค้าจะจิตใจอ่อนโยนเข้าใจเด็ก ส่วนเราก็กะว่าจะเข้าร้านเวลาเที่ยงไปดูแลร้าน(มีกิจการส่วนตัว) เมาท์มอย ชอปปิ้งใช้เวลาส่วนตัวบ้างซัก3-4 ชม. จากนั้นก็กลับบ้านมาดูแลลูกน้อยต่อ คือต้องเอาตัวเองออกมาเจอโลกบ้าง ในความคิดส่วนตัวแม่มีหลายแบบ ใครแฮปปี้แบบไหนก็อย่าได้แคร์ ชอบเลี้ยงคนเดียวงานไม่ทำก็เลี้ยง ใครอยากทำงานแล้วมีผู้ช่วยช่วยเลี้ยงก็ตามสบาย อย่าตัดสินคนอื่นเพราะไม่เหมือนตัวเอง แค่นั้นพอ จากคุณ : แบมบี้ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 19:52:27 A:183.88.85.226 X: TicketID:163166

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ จขกท. คุณรู้หรือไม่คะ ว่าดิฉันอิจฉาและอยากเป็นแบบคุณมาก ดิฉันกำลังแพลนจะมีลูก แต่สิ่งที่อยากทำมากที่สุดคือการลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกด้วยตัวดิฉันเอง โดยเฉพาะ แรกเกิดถึง 5 ขวบ คงไม่มีเวลามีค่าเท่ากับการได้เลี้ยงลูกให้เติบโตมาด้วยมือเราหรอกค่ะ แต่ถ้าจังหวะและโอกาสหรือปัจจัยต่างๆ ไม่เอื้ออำนวยดิฉันก็จะเลี้ยงเค้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ อย่าได้แคร์ว่าใครจะว่ายังไงเลยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : Kiwi since2009 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 20:45:53

ความคิดเห็นที่ 33 สามีเลยค่ะเป็นคนถาม ว่าอยู่บ้านเป็นคุณนายสบายมั๊ย จริงใจนะคะ คิดว่าเราสบายค่ะ เค้าคิดแบบนั้นจริง ๆ แต่เราก็คนตรงๆ เลยค่ะ ตอบแบบที่ตัวเองคิด และรู้สึก ว่าแค่ไม่ได้ต้องเหนื่อยกับการเดินทางเท่านั้น แต่ไม่ได้รู้สึกว่าสบายแล้วเป็นคุณนาย เพราะเราเลี้ยงลูกเอง ทำกับข้าวเองทำงานบ้านด้วย แล้วก็ทำงานธุรกิจส่วนตัวของเรากับเค้า เค้าขาย เราทำบัญชี ภาษี รับเช็ควางบิล พิมพ์จม ไปส่งจม ไปแบงค์ เป็นบริษัทที่ดิฉันทำทุกตำแหน่ง ตั้งแต่กรรมการยันแม่บ้าน พอลูกเข้ารร ไปเรึยนขับรถ งานนี้ต้องไปหาลูกค้าเองด้วย ตอนนี้กำลังท้องคนที่สอง ต้องร้องหาคนช่วยแล้วค่ะ จากคุณ : torajung เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 20:48:40

ความคิดเห็นที่ 34 ลาออกมาเลี้ยงลูกเองเหมือนกันคะ จะบอกว่าเหนื่อยมากคะ จากคุณ : one girl show เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 21:27:14

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านแล้วคล้ายเราเลยคะ เวลาเราเจอเพื่อน เราจะหลบเลยคะ เพราะเราเบื่อคำทักของเพื่อนคะ  จนตอนนี้เราไม่เหลือใครแล้วคะ ทำนองว่า เพื่อน--------- เฮ้ยแกทำงานอะไร เรา---------- ตอนนี้ไม่ไ่ด้ทำ อยู่บ้านเลี้ยงลูก เพื่อน------- โหน่าอิจฉาวะ อยู่บ้านเฉยๆสบายเลยน้อ เรา----------------อืมสบายมากๆเลยแหละ  โคตรสบายเลย ลองดูมั้ยหละ  (ข้างในนี่แบบ ทักแบบนี้อีกแล้ว อยากจะร้องไห้  นี่ชั้นไม่มีค่าเลยหรอ ค่าของคนวัดกันที่การได้ทำงานหรอ) จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 21:48:09

ความคิดเห็นที่ 36 มาขยายความอีกนิด เพื่อเวิร์คกิ้งมัมจะน้อยใจ ว่าทำไมเข้าข้างเเต่เเม่เต็มเวลา ที่เราออกเเนวเเขวะ นั่นคือเราเเขวะพวกพ่อเเม่ที่โยนภาระให้พี่เลี้ยง ให้ย่ายายเลี้ยง โดยที่ตัวเองทำงานได้เงิน เเล้วถือว่าโอเค หน้าที่ฉันหาเงินเเล้ว คนที่เราจ้างมาก็เลี้ยงลูกเราไปสิ ไม่สนใจจะอบรมสั่งสอนลูกตัวเอง ให้ย่ายายหรือเเม้เเต่พี่เลี้ยงสั่งสอน เพราะเราสังเกตว่า เออ คนเเบบนี้มีเยอะนะ ที่โยนเเทปเล็ตให้ลูกเเล้วก็จบ พ่อเเม่ที่เเบบมีตัง เเต่ลูกไร้มารยาท ไร้การอบรม มันเยอะมากค่ะ ตอนนี้ไม่เเน่ใจว่าจะเยอะพอๆกับลูกเเว๊นซ์ลูกสก๊อยรึเปล่า นิสัยเด็กพวกนี้คงไม่ต่างกัน ต่างกันก็เเค่มีเงินกับไม่มีเงินนั่นเเหละ เด็กที่โตมากับพี่เลี้ยง เพราะพ่อเเม่ต้องทำงาน เเละไม่อบรมสั่งสอน นิสัยที่เขาได้มาก็คือนิสัยที่โดนสปอยล์ เพราะเอาจริงๆ พี่เลี้ยงน้อยคนนะคะ ที่จะมาสั่งสอน อะไรดีไม่ดี อะไรผิดไม่ผิด โตขึ้นมาเด็กก็เสียนิสัย เเต่ก็ยังมีพ่อแม่ที่ควบคุมการทำงานเเละการเลี้ยงลูกไปพร้อมกันได้ คนพวกนี้น่าอิจฉาค่ะ ที่เราไม่พูดถึง เพราะรู้ๆกันอยู่ว่า มีประสิทธิภาพเพียงพอ เเละเก่งมากๆ ไม่เหนื่อยกันบ้างรึไงเนอะ ^^ ที่จริงพ่อแม่ที่ทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วย (ไม่ได้ผลักลูกให้คนอื่น) ก็เหมือนพ่อแม่ฟูลไทม์นั่นเเหละ ต่างกันก็เเค่เวลาที่อาจจะน้อยลงไปหน่อย เเต่ไม่ได้หมายความว่าจะ เป็นเวลาที่มีคุณค่าไม่ได้นี่นา อันนี้เคลียร์เนอะ ถ้าความเห็นของเราก่อนหน้านี้สร้างความขุ่นเคืองให้ใคร ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ไม่มีเจตนาค่ะ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 22:00:11

ความคิดเห็นที่ 37 จขกท. ค่ะ มีเวลาเข้ามาอ่านอีกที โอ้โหความเห็นเพียบเลย ดีใจมากมาย ทุกความเห็นมันทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยขึ้นมาอีกครั้งค่ะ ขอบพระคุณจริงๆ จากคุณ : nink-nund เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 22:09:51

ความคิดเห็นที่ 38 คนที่ชอบพูดทำนองนี้ คือ คนที่ไม่มีลูก หรือไม่ก็ มีลูกแต่ไม่ได้เลี้ยงเอง เลี้ยงลูกเองมันเหนื่อยมาก แต่มันก็เหนื่อยแบบมีความสุขค่ะ จากคุณ : WIN Ville เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 22:12:54

ความคิดเห็นที่ 39 อาชีพที่ลาหยุดไม่ได้ ไม่มีวันหยุด ห้ามป่วย ห้ามตาย จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 22:22:07

ความคิดเห็นที่ 40 อยากลาออกมาเลี้ยงลูกเองเหมือนกันนะคะ เพราะว่าจะสามารถเลี้ยงเค้าได้อย่างที่เราต้องการ ดูแลเอาใจใส่แบบทีเราตั้งใจไว้ เห็นพัฒนาการของเค้าทุกช่วงเวลา แต่คุณสามีของเราแกชิลล์ๆ (พูดตรงๆว่าเฉื่อย หรือ สมถะเกิน) คือทำงานอยู่แค่ไหนแค่นั้น ไม่อยากเป็นหัวหน้า ไม่อยากหารายได้เพิ่ม เป็นสาเหตุที่เราลาออกไม่ได้ ทั้งๆที่ เราอยากอยู่กับลูกตลอดเวลา ตอนนี้ เลยเล็ง หารายได้แหล่งอื่นเสริม เพื่อสร้างกิจการของตัวเอง จะได้เอาลูกไปเลี้ยงได้ด้วย จากคุณ : evilhana เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 22:40:26

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่ชอบความเห็นคุณdark heart ค่ะ แล้วจะไม่งงมากถ้ารู้จักมองต่่างมุม และเปิดใจบ้าง จากคุณ : JusTT เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 22:58:57

ความคิดเห็นที่ 42 ส่งอันนี้ไปให้อ่านเลยค่ะ...จบ จากคุณ : Vanecia (Ai's MaMa) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 23:50:19

ความคิดเห็นที่ 43 คุณ JusTT  ไม่เป็นไรค่ะ น้อมรับค่ะ เราเเค่เเสดงความเห็นของเราเฉยๆค่ะ ส่วนใครจะเลี้ยงลูกเขาเเบบไหน บอกตรงๆ ว่าเราไม่สนใจค่ะ ลูกเขาค่ะ ไม่ใช่ลูกเรา อีกอย่าง เรายึดคติที่ว่า ทำทุกวันนี้ให้มีความสุข คนเราชีวิตไม่เเน่นอน ตายวันตายพรุ่ง ไม่รู้หรอก จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 00:00:19

ความคิดเห็นที่ 44 สบายค่ะสบายมาก ลาออกจากงาน อยู่บ้านเลี้ยงลูก ให้สามีหาเงินคนเดียว ออกมาตั้งแต่ลูกคนโต ยันคนเล็กอีก รวมเกือบ 13ปีแล้ว ขอบอกว่า เหนื่อยมากกก เครียดมากกกกกก เพราะเลี้ยงคนเดียว ทำงานบ้านด้วย เคยมีหมด แม่บ้านและพี่เลี้ยงลูก แต่เจอปัญหาสาระพัด ทั้งๆที่เราอยู่บ้านด้วย แม่บ้าน 18มงกุฏก็เจอ เลยยอมทำเองดีกว่า เหตุที่ต้องลาออกมาเลี้ยงเอง เพราะไม่อยากให้ลูกเราเป็นลูกคนอื่น เพราะทั้งพ่อและแม่จะมีเวลาน้อยมากที่จะอยู่กับลูก(เพราะอาชีพเราทั้งคู่) เลยเลือกที่ทิ้งสังคม เพื่อนฝูง มาเป็นคุณนาย(แจ๋ว) ตอนนี้ลูกคนเล็กก็โตเข้ารร.แล้ว แต่ก็ไม่สามารถกลับไปทำงานได้ เพราะต้องคอยรับส่งลูกทั้งสองคน และวิ่งงานบ้าน งานทุกอย่างแทนสามี ที่หน้าที่การงานรัดตัวมาก จนเหมือนเราแทบจะเป็น ซิงเกิลมัมแล้ว เวลาเหนื่อย เครียดมากๆ บอกสามีว่า อยากขอเวลาพักร้อนบ้าง สามีก็ได้แต่หัวเราะ ฮึฮึ จะได้เร้อ เพราะลูกเราทั้งสองคนจะเอาแต่แม่ เราว่าแต่ละคนก็มีเหตุผล และความจำเป็นของตนต่างๆกัน บางคนเขาถนัดเป็น Working  woman มากกว่าที่จะมาเป็นแม่บ้าน บางคนก็มีความสามารถได้ทั้งสองแบบในเวลาเดียวกัน แต่บางคนรักและชอบที่จะเป็น แม่บ้านมากกว่าทำงานนอกบ้าน ถ้าเขาทำแล้วมีความสุข ไม่เดือดร้อนใคร ทำได้ดีมีคุณภาพ ก็โชคดีไป จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 00:04:45

ความคิดเห็นที่ 45 เลี้ยงลูกเองดีค่ะ ในกรณีที่สามีเข้าใจและรับหน้าที่ด้านการเงินไปโดยเต็มใจ แต่เท่าที่เจอ และโดนมากับตัว คือ พอสามีได้มีหน้าที่หลักในด้านการเงิน เค้าจะกดภรรยา ทำอะไรก็ได้ ไม่แคร์ เพราะถือว่าเป็นเสาหลัก ความคิดของสามีแบบนี้ทำให้คุณแม่เลี้ยงลูกเองหลายคนต้องกลายเป็น Single Mum จากคุณ : แสงตะวัน ณ ยามเช้า เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 09:31:15

ความคิดเห็นที่ 46 ง่ะ เราวางแผนว่าถ้าเรามีลูก เราก็จะลาออกจากงาน มาเลี้ยงอย่างเดียวค่ะ ตั้งใจอย่างตั้งมั่นจริงๆ (ก็หวั่นๆนะคะ คงมีคนนินทาอะไรบ้างแหล่ะ) แต่อยากเลี้ยงเองจริงๆ  และคิดว่าถ้าโต เราก็ให้ลูกไปโรงเรียน เราก็ไปทำงาน แยกย้ายจ้า จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 09:47:22

ความคิดเห็นที่ 47 คุณสามีเราก็เลี้ยงลูกอยู่บ้านค่ะ เค้าจะบ่นตลอดว่าเค้าทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากเลี้ยงลูก หลังจากส่งซ่าหริ่มไปโรงเรียนก็เว้นไป 7 เดือน ก็เลี้ยงสาคูต่อ เค้าบอกว่าเค้ารู้สึกไร้ค่า เมื่อไม่ได้หารายได้ให้เยอะๆ แต่จะบอกว่าที่ทำอยู่ก็เยอะมากแล้วค่ะ ทั้งทำงานบ้าน  ดูลูก  จัดของ คุมลูกจ้างทำไอติมด้วยค่ะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 12:45:40

ความคิดเห็นที่ 48 http://www.youtube.com/watch?v=AvAq4tb9aY0&feature=youtube_gdata_player ฟังเพลงนี้นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ทำใจสบายๆ เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร อย่าโกรธน้าเลยนะคะ ท่านอาจพูดถูกก็ได้เพียงแต่ไม่ใช่เวลานี้ของคุณเท่านั้นเอง วันนี้เราตัดสินใจแบบนี้ เพราะเหตุผลของเราครอบครัวเรา วันหน้าเราอาจทำอีกแบบที่ต่างจากวันนี้ มันก็เป็นเรื่องของหลายๆเหตุผลประกอบกันที่แตกต่างกันไปแต่ละช่วงเวลา และโอกาสของแต่ละคน แต่ละครอบครัว จากคุณ : madamepen เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 14:23:53

ความคิดเห็นที่ 49 วันนี้เห็นข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมเด็กแล้วก็คิดว่า เลี้ยงลูกเองดีที่สุดค่ะ เพราะถ้าส่งเข้าเนิร์สฯ คงเลี้ยงได้แต่ตัว คงยากที่จะมาอบรมบ่มนิสัยเด็ก งานของคนเป็นแม่ ถือว่าเป็นงานระดับชาตินะคะ เพราะต้องเลี้ยงดูและอบรมลูกให้เป็นคนดีด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 55 15:03:16 จากคุณ : ซุยเรน (ซุยเรน) เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 15:02:18