ความคิดเห็นที่ 1 ในวันเกิดของแม่ (ต้นเดือนสค.ที่ผ่านมา) ลูกศิษย์ของท่านจัดฉลองวันเกิดโดยเลี้ยงกันที่บ้าน ในงานเลี้ยงลูกศิษย์ของท่าน ที่เรียนจบไปนานและได้งานเป็นตำรวจแนะนำให้แม่รู้จักกับเพื่อนของเค้าคนหนึ่งซึ่งเป็นรองสารวัตร อายุ 30 ปลายๆ เป็นโสด ไม่มีลูก ไม่มีภรรยา ท่านรู้สึกปลื้มและชอบใจรองสารวัตรคนนี้มาก อยากได้เป็นลูกเขย เพราะเค้าเป็นข้าราชการเอาใจเก่งและเข้ามาในช่วงที่ท่านกำลังจะหมดอำนาจวาสนาทางหน้าที่การงาน เอาใจสารพัด (แม่เรากำลังสร้างบ้านใหม่ค่ะ สารวัตรคนนี้มาช่วยต่อเติมบ้าน หมดไป 40,000 กว่าบาทโดยที่แม่ของเราไม่ต้องจ่ายเงินสักบาทเดียว) (ตรงนี้เรามองเห็นชัดเจนว่า เป็นใครก็อยากทำดีค่ะ ครอบครัวเราลูกสาวคนเดียว บ้านหลังใหญ่ๆ 2 หลัง มีบ้านเช่าอีก 6 หลัง ที่ดินเปล่าอีกหนึ่งผืน และมีรถอีก 3 คัน ซึ่งมันอยู่ในบริเวณเดียวกันกับที่แม่จัดงานวันเกิด คนในงานเห็นกันทุกคน ซึ่งสำหรับต่างจังหวัด มันถือว่ามีฐานะระดับหนึ่งเลยล่ะ การเสียเงิน 40,000 ของรองสารวัตร ถ้าได้คืนมันคุ้มค่ามาก) แล้วแม่ก็ทำเหมือนที่เคยทำกับเราในอดีต คือ บังคับให้เราไปนั่งทานข้าว และไปไหนมาไหนกับรองสารวัตรคนนี้ แต่รอบนี้เราแข็งข้อค่ะ เพราะเรามีคนที่คบอยู่แล้ว ท่านกลับบอกเราว่า “รู้จักหลบรู้จักสับหลีกบ้างสิ อย่าไปผูกติดชีวิตกับคนๆ เดียว” แต่เราว่ามันไม่ถูกต้อง เราจึงไม่ยอมทำตามที่ท่านต้องการค่ะ วันเข้าพรรษาที่ผ่านมาจึงเป็นวันทรมานของเรา เรากลับบ้าน 5 วัน แม่คุยกันกับเราแค่วันเดียว คือวันที่แนะนำให้เรารู้จักกับรองสารวัตรคนนี้ พอเราแข็งข้อ ท่านก็ไม่ยอมคุยกับเราเลยตลอด 4 วันที่เหลือ จนเราต้องกลับต่างจังหวัดเพื่อไปทำงาน ท่านก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม วันถัดมา ท่านโทรมาคุยกับเรา ซึ่งเราฟังแล้วรู้สึกเหมือนเหตุการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น ท่านบอกว่า “แม่ไม่ได้บังคับให้แต่งงานกันนะ คบกันเป็นพี่เป็นน้องก็ได้ คนมีสีเค้าสามารถจะช่วยครอบครัวเราได้หลายเรื่อง ยังไงก็พูดกับพี่เค้าดีๆ ไม่ต้องคบกันแม่ก็ไม่ว่า” นั่นทำให้เราคิดว่า แม่ตัดใจจากความคิดเรื่องนั้นแล้ว หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไปนาน ทำให้เราคิดว่า ผู้ชายคงจะรู้ว่าเราไม่ชอบ เลยถอยหนีออกไปเอง แต่เราคิดผิดค่ะ มันไม่ใช่แบบนั้นเลย จากคุณ : นางฟ้า ซาตาน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:47:08 A:202.29.220.186 X: TicketID:372105

ความคิดเห็นที่ 2 มาตามต่อค่ะ จากคุณ : BigSom เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:56:56

ความคิดเห็นที่ 3 วันแม่ที่ผ่านมา รองสารวัตรคนนี้เอาดอกไม้ไปไหว้แม่ พร้อมกับนมแอนลีนกล่องใหญ่ๆ หนึ่งกล่อง ทำให้ท่านยิ่งรู้สึกชอบใจเข้าไปอีก เพราะไม่เคยมีคนมาเอาใจขนาดนี้ ส่วนลูกอย่างเราไม่ได้กลับบ้านค่ะ เพราะถ้ากลับก็จะต้องไปๆ มาๆ สองสัปดาห์ติดกัน (เราจัดฟันค่ะ คุณหมอของเรามาจาก กทม. แค่เดือนละครั้ง ถ้าพลาดก็ต้องรอเดือนถัดไปอีกรอบเลย หมอจะนัดจัดฟันทุกๆ สัปดาห์ที่ 3 ของเดือน แต่วันแม่เป็นสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน) ซึ่งเราเห็นว่ามันเปลืองค่าใช้จ่าย เราจึงตัดสินใจจะกลับไปในสัปดาห์ที่ 3 รอบเดียวเลย แต่เราก็โทรกลับไปบอกเหตุผลกับท่านนะคะ ท่านรับฟังและทำเหมือนเข้าใจ (ช่วงนี้เรายังไม่ได้เงินเดือนค่ะ คนที่ทำงานราชการจะเข้าใจว่า พนักงานราชการที่บรรจุใหม่ๆ จะยังไม่ได้เงินเดือนทันที ต้องรอให้มันตกเบิกทีเดียว ซึ่งในเวลานี้เราไม่ได้เงินเดือนมา 2 เดือนแล้ว จึงยังต้องขอเงินท่านใช้อยู่ ทำให้เราไม่อยากสิ้นเปลืองกับเรื่องการเดินทาง) พอถึงวันนัดกับหมอ เราก็กลับบ้านค่ะ กลับถึงบ้านในคืนวันศุกร์ พอเช้าวันเสาร์เราตั้งใจว่าจะอยู่บ้านในช่วงเช้า เพื่อจะได้อยู่กันพร้อมหน้า 3 คนพ่อแม่ลูก แล้วช่วงบ่ายจะเอารถออกไปทำฟัน แต่แม่เราพูดกลับต้องการใช้รถของเราค่ะ เราก็งง รถที่บ้านมีตั้ง 3 คัน (สองคันเป็นเกียร์ออโต้ ส่วนอีกหนึ่งคันเป็นเกียร์กระปุก มีพ่อคนเดียวที่ขับเป็น) ทำไมต้องมาแย่งกันใช้ ทำให้เรารู้ว่า ท่านเอารถอีกคันไปให้รองสารวัตรใช้ตั้งแต่วันพฤหัสค่ะ เราถึงกับงงว่าแม่ทำไปเพื่ออะไร ท่านให้เหตุผลว่า ให้เค้าเอาไปตามไม้ที่สั่งจากต่างจังหวัด เพราะเหมือนกับคนขายไม้เค้าจะโกง ท่านเลยเห็นว่าตำรวจน่าจะช่วยเรื่องนี้ได้ เราได้แต่เงียบ พูดอะไรไม่ออก หลังจากทราบเรื่องรถ เราตัดสินใจเอารถของเราให้ท่านใช้ค่ะ ส่วนเราคิดไว้ว่าจะให้แฟนเอารถมอไซค์มารับไปร้านทำฟัน แต่ก่อนท่านจะเอารถเราไป ท่านกลับพูดว่า “วันนี้ไม่ต้องให้....(แฟนเรา)มาหานะ แม่ขอเวลาบ้าง จะพาไปกินข้าวเย็นกับท่านรองสารวัตร” เราได้ยินแบบนั้นถึงกับอึ้งไปอีกรอบค่ะ เราไม่ตอบอะไร แต่สะบัดหน้าเดินหนีไปโดยไม่ได้พูดอะไรเลย จากนั้นเราโทรตามแฟนให้มารับที่บ้าน และไม่กลับบ้านในตอนเย็นตามที่ท่านต้องการ เราเข้าบ้านประมาณสองทุ่มหลังจากที่พากันไปทานข้าวกับแฟนเรียบร้อยแล้ว ท่านโกรธและไม่ยอมพูดกับเราเหมือนเดิม จากคุณ : นางฟ้า ซาตาน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:58:34 A:202.29.220.186 X: TicketID:372105

ความคิดเห็นที่ 4 เช้าวันอาทิตย์เราต้องกลับมาทำงานที่ขอนแก่นโดยคุณพ่อมาด้วย (ทางเดียวกันไปด้วยกัน ส่งเราลงขอนแก่น พ่อขับรถต่อไปเยี่ยมย่าที่อุดร) แฟนเราจึงมาหาเราในตอนเช้า เพื่อจะรอส่งเราเดินทางกลับ พอแม่เห็น ท่านโกรธแฟนเราค่ะ เดินผ่านไปผ่านมาเหมือนกับแฟนเราไม่มีตัวตน พอเห็นเราไปอาบน้ำก็แอบว่าแฟนเรา เราอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ แต่แอบได้ยินท่านพูดประมาณว่า “แม่ว่าจะไม่พูดแล้วนะ แต่แม่ทนไม่ไหว เป็นแค่เพื่อนกัน มานั่งเฝ้าอะไรกันนักหนา เอาเวลาไปอ่านหนังสือสอบดีกว่ามั้ย เมื่อวันเสาร์ก็เอา...(เรา) ไปทั้งวันแล้ว วันนี้ยังมานั่งเฝ้านั่งรออีก งานการก็ไม่มีทำ (แม่เราไม่นับว่าการเป็นทนายถือว่ามีงานทำค่ะ เพราะมีรายได้ไม่แน่นอน) แล้วจะมีปัญญาเลี้ยงลูกสาวแม่เหรอ ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จะมาตามลูกสาวแม่นะ และหวังว่าจะไม่ตามไปขอนแก่นด้วย” แฟนเราได้แต่นั่งเงียบไม่พูดไม่เถียงอะไรสักคำ เราสงสารแฟน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่โทรกลับไปขอโทษแฟนทีหลังกับการกระทำของแม่ แฟนเราก็ดีค่ะ เข้าใจเราทุกอย่าง ไม่โกรธไม่แค้นอะไรแม่เลย คอยโทรปลอบใจเราตลอดด้วยซ้ำ พอมาถึงขอนแก่น เราเป็นห่วงแม่ที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว เราจึงโทรไปหาในตอนเย็น แต่ปรากฏว่า ท่านอยู่กับรองสารวัตรคนนั้นค่ะ ท่านเรียกเค้าให้เอารถของบ้านเรามาคอยขับรถรับส่ง (รถของบ้านเราอยู่กับรองสารวัตรสัปดาห์กว่าๆแล้วค่ะ) โดยแม่ใช้เหตุผลว่า ปวดขา ขับรถเองไม่ได้ แต่เราพอจะรู้เหตุผลว่าท่านทำแบบนั้นทำไม เพราะท่านต้องการบังคับให้เราคบกับรองสารวัตรคนนี้ แต่เราไม่ยอมเปิดใจ ไม่ยอมไปเจอเลย ซึ่งปกติของผู้ชาย ถ้าเค้ารู้ว่าผู้หญิงไม่เล่นด้วย ย่อมหมดความพยายามและหนีไปเอง แม่เราจึงหาเงื่อนไขให้รองสารวัตรคนนี้ต้องไปมาหาสู่บ้านเราตลอด เค้าจะได้ไม่หายไปจากชีวิตท่าน และรอโอกาสที่จะบังคับให้เราต้องไปใกล้ชิดสนิทสนมกัน โดยการให้รถเค้าไปใช้ และคอยโทรตามให้ไปรับไปส่งท่านเสมอ แต่เราก็แปลกใจ ตลอดเวลาเกือบ 1 เดือน ถ้ารองสารวัตรสนใจเราจริง ก็ต้องหาทางใกล้ชิดกับเรา หรือโทรมาคุยกับเราบ้าง ไม่ใช่เข้าไปเอาอกเอาใจแม่อย่างเดียว เราจึงมองว่าเค้ามีเจตนาไม่ค่อยดี เราเป็นห่วงจึงเตือนท่านว่า “รถยนต์ทั้งคันเอาไปให้คนอื่นใช้ได้ยังไง ไว้ใจเค้าขนาดไหน ถึงกล้ายื่นกุญแจให้เค้า ถ้าเค้าเอารถไปส่งไปขายที่กัมพูชา จะไปตามหาได้ยังไง พยานก็ไม่มี รถก็ให้เค้าไปเอง” ท่านเถียงว่า “ตำรวจไม่ทำแบบนั้นหรอกลูก” แล้วก็ตั้งท่าวางสายหนีจากเราอย่างเดียว เพราะตอนนั้นรองสารวัตรก็อยู่ข้างๆ เราได้แต่วางสายไป และคิดว่าไว้ใจได้ยังไง ตำรวจก็มีทั้งดีและไม่ดี เกิดอยู่ๆเค้าทำจริง เราคงได้แต่มานั่งเสียใจที่ไว้ใจคนอื่นมากไป แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จากคุณ : นางฟ้า ซาตาน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:00:55 A:202.29.220.186 X: TicketID:372105

ความคิดเห็นที่ 5 เหมือนกรณีเราเลยค่ะ แต่ของเราเปลี่ยนจากแม่เป็นย่าอ่ะ เราแอบไปจดทะเบียนกับสุดที่รักซะเลย... เล่าต่อค่ะ...รอๆ จากคุณ : แม่หญิงฟุ้งซ่าน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:05:14

ความคิดเห็นที่ 6 มารอฟังจ้า จากคุณ : urassaya เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:09:45

ความคิดเห็นที่ 7 จนเมื่อวานนี้มีคนที่ทำงานเก่าของเราโทรมาบอกว่า ท่านสารวัตรเอารถไปใช้อีกแล้ว เราจึงรู้ว่าแม่ยังไม่เอารถกลับมาคืน เราจนปัญญาจะแก้ปัญหา จึงโทรไปปรึกษาพี่ชายที่เป็นญาติกัน เค้าแนะนำว่า ให้โทรไปบอกลุงให้ไปเตือนสติแม่ เพราะลุงเป็นพี่ชายน่าจะพอเตือนได้ เพราะเรากับพ่อเคยเตือนแล้วแต่ท่านก็ไม่ยอมฟัง โดยประเด็นที่เราพูดกับลุงก็แค่ให้เตือนว่าอย่าเอารถไปให้คนไม่รู้จักใช้ เพราะเราไม่ไว้ใจ เราไม่ได้พูดเรื่องแม่บังคับให้เราคบกับรองสารวัตรคนนั้น ปรากฏว่าแม่โกรธเรามาก และด่าเราว่า “รถก็รถชั้น เงินก็เงินชั้น ชั้นจะทำอะไรกับรถก็ได้ คนมันปวดขาก็ต้องให้เค้ามาขับรถรับส่ง ชั้นไม่ได้บังคับให้เธอไปแต่งงาน ถ้าคิดว่าจะมีชีวิตอยู่โดยไม่ใช้เงินได้ก็ให้ไอ้แฟนคนปัจจุบันมาขอมาแต่งกันซะเลยสิ” แล้วก็พูดประมาณว่า อายที่เราคบกับแฟนคนปัจจุบัน เพราะแฟนเราไม่ใช่ข้าราชการ ไม่สามารถทำให้ท่านมีหน้ามีตาในสังคมได้ แม่พูดเยอะกว่านี้มากค่ะ แต่เราไม่อยากเล่าจนหมด เพราะมันจะกลายเป็นบาปไป เราได้แต่ร้องไห้ พูดอะไรไม่ออกสักคำ แม่หลงคนๆ หนึ่งจนกระทั่งทำร้ายจิตใจลูกคนได้มากขนาดนี้เลย เมื่อก่อนแม่โทรหาเราทุกวัน แต่ ปัจจุบันไม่เคยโทรหาเราเลย ถึงเราโทรหา แม่ไม่ยอมรับสาย ท่านตัดแม่ตัดลูกกับเราค่ะ เพียงเพราะต้องการให้เราคบหาและตกลงปลงใจแต่งงานกับรองสารวัตรคนนี้ ตอนนี้เราทำได้แค่หนี ตัดสินใจไม่กลับบ้าน จนกว่าผู้ชายคนนั้นจะหายไปจากชีวิตของครอบครัวเรา เพราะถ้ากลับไปเราก็โดนบังคับคลุมถุงชนเหมือนเดิม วันไหนที่แม่นึกได้ว่าควรจะเอาเราที่เป็นลูกไว้เราค่อยกลับไป ถึงแม้จะเหมือนว่าเอาตัวรอดแค่คนเดียว แต่เราพยายามเอาแม่กลับมาด้วยทุกวิธีแล้ว แต่ท่านรัก(แบบอยากได้มาเป็นลูกเขย) และหลงรองสารวัตรคนนี้จนใครเตือนอะไรก็ไม่ฟังทั้งนั้น มีแต่ด่าว่าเราไปยุยงคนอื่นให้ไปตำหนิท่านเพียงเพราะเราไม่ต้องการคบกับผู้ชายคนนี้ ท่านปิดหูปิดตา และไม่เปิดใจรับคำเตือนอะไรเลย แถมยังพูดจาและพยายามทำทุกอย่างให้เราเสียใจได้ตลอดเวลา เรารู้ว่าท่านหวังดี อยากให้เราได้คนที่มีฐานะหน้าที่การงานมั่นคงมาเป็นคู่ครอง แต่เรื่องของชีวิตคู่ ถ้ามาบังคับกัน ในอนาคตก็ไปกันไม่รอดอยู่ดี ตอนนี้เราอึดอัดใจมาก ไม่รู้จะระบายออกทางไหน ปรึกษาใครก็ไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องภายในครอบครัว ไม่มีคนอยากยุ่ง จากคุณ : นางฟ้า ซาตาน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:11:26 A:203.172.182.90 X: TicketID:372105

ความคิดเห็นที่ 8 ณ เวลานี้เรารับรู้แล้วว่า เราได้สูญเสียแม่คนเดิมที่เคยรักเราที่สุด ให้กับคนอื่นไปแบบไม่สามารถดึงกลับมาได้ เราได้แต่กระซิบบอกพ่อเบาๆ ว่า “ลูกจะไม่กลับบ้าน พ่อรู้อยู่แล้วว่าลูกอยู่ตรงไหน ถ้าพ่อคิดถึงก็มาหาลูกนะ ลูกอยู่ขอนแก่น ทำงานหาเงิน ไม่ได้เกเรอะไร เพียงแต่ถ้ากลับไปบ้านลูกไม่มีความสุข ลูกถึงต้องทำอย่างนี้” ตอนนี้เราก็ยังแก้ปัญหากับเหตุการณ์นี้ไม่ได้ แต่เราคิดไว้ตลอดเวลาว่า ถ้าวันหนึ่งเรากลายเป็นแม่คน เราจะไม่มีวันหยิบยื่นความหวังดีแบบนี้ให้กับลูกแบบที่แม่ของเราทำ เรามองเห็นแค่พื้นที่ตรงนี้เท่านั้นที่จะทำให้เราสบายใจขึ้น และอาจจะได้คำแนะนำที่ดีในการแก้ปัญหาก็ได้ ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาเข้ามาอ่านเรื่องของเรานะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : นางฟ้า ซาตาน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:18:31 A:202.29.220.186 X: TicketID:372105

ความคิดเห็นที่ 9 เตือนคุณแม่เรื่องรถเป็นสิ่งถูกต้องค่ะ ส่วนเรื่องคู่ชีิวิต เห็นด้วยว่าควรเลือกด้วยตัวเอง ถ้าเกิดมีปัญหาก็ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง และคนที่จะอยู่กับเรา หลังจากที่ิสิ้นพ่อกับแม่ไป คือคู่ชีิวิตนะคะ จากคุณ : แม่หญิงฟุ้งซ่าน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:26:02

ความคิดเห็นที่ 10 เรามองเห็นเจตนาไม่ดีจากรองสารวัตรคนนี้ค่ะ เค้าเคยพบเราแค่ครั้งเดียว ไม่เกิน 15 นาที หลังจากนั้นทำเหมือนชอบ เหมือนหลงเรา ตามเทคแคร์แม่เราตลอด แต่ในความเป็นจริง ถ้าเค้าต้องการจะคบหาเราจริงๆ เค้าต้องพยายามเข้าใกล้ชิดที่ตัวเราไม่ใช่เหรอคะ แต่นี่เค้าไม่เคยโทรหาเราเลย ไม่เคยติดต่อเราแม้แต่ครั้งเดียวตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา แต่เข้าใกล้ชิดแค่แม่ของเราคนเดียว มันน่าแปลกมั้ยคะ แล้ววันที่เค้าเอารถไปที่ทำงานเก่าของเรา พี่เราออกมาถามว่า "รถคุ้นๆ ใช่รถของน้อง...(เรา)รึเปล่า" ท่านรองสารวัตรกลับทำท่ากวนๆ แล้วตอบกลับมาว่า "ไม่ใช่มั้ง" แล้วเดินหนีไป จริงๆ ควรจะตอบว่า "รถ....(คุณแม่เรา)" ไม่ใช่เหรอคะ หรือเราคิดมากเกินไป??? จากคุณ : นางฟ้า ซาตาน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:34:44 A:202.29.220.186 X: TicketID:372105

ความคิดเห็นที่ 11 >>>คุณแม่หญิงฟุ้งซ่าน เราไม่กล้าแอบไปจดทะเบียนค่ะ เรากลัวท่านตรอมใจ ท่านเคยยืนร้องไห้หน้าห้องนอนเราเป็นชั่วโมงๆ เพียงเพราะเราบอกว่า เราจะไปทำงานที่ชลบุรี จนเรายอมแพ้ ต้องทำงานอยู่ที่บ้านตามใจท่านค่ะ จากคุณ : นางฟ้า ซาตาน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:37:09 A:202.29.220.186 X: TicketID:372105

ความคิดเห็นที่ 12 พ่อ จขกท. ไม่มีบทบาทอะไรเลยเหรอคะ หรือว่าเห็นด้วยทุกอย่างกับสิ่งที่แม่คุณทำ เลยไม่มีปากเสียงอะไร   อ่านๆ ไปเหมือนอ่านเรื่องตัวเองเมื่อสิบกว่าปีก่อน...ทั้งพ่อและแม่เห็นดีเห็นงามกับผู้ชายที่มาจากไหนก็ไม่รุ้ จะเอามาเป็นลูกเขยซะให้ได้... ขนาดไอ้นั่นจะทำอะไรไม่ดี พอไปบอกพ่อกับแม่ นึกว่ายังไงซะต้องเข้าข้างเราที่เป็นลูก ที่ไหนได้.. ด่าเราซะไม่มีดี  นึกขึ้นมาแล้วอยากร้องไห้เหมือนกัน... เจ็บจากคนอื่นยังเอาคืนได้ แต่เจ็บจากพ่อกับแม่ที่ทำแบบนี้กับเรา  มันก็ได้แต่เจ็บแล้วเก็บไว้คนเดียว. ลองคุยกับคุณพ่อดูแล้วให้ท่านช่วยเตือนสติแม่คุณบ้างสิคะ ท่านคงเห็นใจคุณบ้าง จากคุณ : Nafiead เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:55:07

ความคิดเห็นที่ 13 อืม ลองไปกินข้าวกับสารวัตรอะไรนั่นก็ไม่เสียหายนะ เผื่อจะได้รู้จริงจริงว่าเค้านิสัยอย่างไร คบเป็นเพื่อนได้หรือไม่ จะได้เล่าให้แม่ฟังได้เหมือนกับว่าช่วยแม่ กรองคนไม่ดีน่ะค่ะ เพราะตอนนี้แม่คุณเห็นเค้าดีทุกอย่าง ประมาณเหมือนคนตาบอด เพราะเอ็นดู อยากได้เป็นลูกเขย จขกท. ก็ลองคบเค้าแบบเพื่อนกันก็ได้นี่นา แม่ไม่ได้บังคับ ให้เป็นแฟนกันนะคะ เผื่อจะรู้ธาตุแท้ของคน จากคุณ : นู่นนี่ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:11:14

ความคิดเห็นที่ 14 >>>>Nafiead บ้านเรามีแม่เป็นเหมือนหัวหน้าครอบครัว ส่วนพ่อเราเป็นเหมือนแม่บ้านค่ะ พ่อเราก็มองว่าผู้ชายคนนี้ดีค่ะ เพราะเค้ามีหน้าที่การงานมั่นคง ท่านก็อยากให้เราลองคบหาดู แต่ท่านไม่ได้บังคับค่ะ ถ้าเราไม่ทำท่านก็ไม่ว่าอะไร แต่ท่านก็ไม่เห็นด้วยเรื่องรถค่ะ ทั้งเราและพ่อเตือนไปแล้ว แต่แม่เราหัวดื้อ ด้วยความที่เป็นนายคนมาตลอด เลยเป็นประเภทที่ไม่ยอมใคร เวลาที่พ่อพูดอะไรขัดใจ แม่จะดุจะว่าจนพ่อไม่อยากเข้าใกล้ ต้องยอมเงียบไปเอง แม่เคยบังคับให้เราไปดูตัวกับคนรู้จักแล้วรอบหนึ่งนะคะ เราไม่ยอมไปแต่ก็หว่านล้อมให้เราไปจนได้ สุดท้ายเราไม่ชอบ เลยไม่ยอมติดต่อฝ่ายชาย ไม่รับโทรศัพท์ ไม่คุย ไม่เจรจา ฝ่ายชายถึงกับวิ่งไปฟ้องพ่อแม่ของตัวเอง แต่เคสนี้พ่อแม่ของผู้ชายวุ่นวายมากเกินไปค่ะ นอกจากโทรมาตำหนิเราแล้ว ยังโทรไปตำหนิแม่ด้วย ทำให้ท่านไม่พอใจ เราเลยรอดตัวไปในครั้งนั้นค่ะ ตอนนี้เหมือนแม่อยากเอาชนะเรามากกว่าค่ะ เราที่เคยอยู่ในคอนโทรลมาตลอดกลับไม่ยอม ท่่านเหมือนอย่างเคย เลยพยายามบีบเราทุกๆ ทางค่ะ คงคิดว่า สุดท้ายเราจะยอมเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา จากคุณ : นางฟ้า ซาตาน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:20:30 A:202.29.220.186 X: TicketID:372105

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นเราจะเดินเข้าไปพูดกับตารองสารวัตรนั่นตรงๆ ว่าเราไม่พอใจที่เค้าทำอะไรยังไงบ้าง ส่วนคุณแม่คุณ คงต้องปล่อยให้เจอกับตัวเองค่ะ เพราะสุดๆแล้วเตือนก็ไม่ฟัง อาจจะต้องกระซิบให้คุณพ่อควบคุมเรื่องทรัพย์สินเงินทอง รั้งไว้บ้าง เผื่อเค้าหวังทรัพย์สินจริง จะได้ไม่เสียอะไรมากเท่าไหร่ เพราะคุณพ่อต้องยินยอม จากคุณ : ครอบครัวตัวกลม เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:26:33

ความคิดเห็นที่ 16 >>>>นู่นนี่ เราเคยคิดจะไปนะคะ แต่เค้าเอาบ้านเราไปพูดกับคนรู้จักของเราว่า แม่อยากไ้ด้เค้าไปเป็นลูกเขยมากกกกกกกกก ถึงแม่เราจะแสดงอาการที่ชัดเจนจริงๆ เค้าก็ไม่ควรเอาไปพูดแบบนั้นค่ะ เราเลยมองว่า เค้าคงไม่ได้มองครอบครัวเราในแง่ดีสักเท่าไหร่ แล้วถ้าเราเริ่มทำตามที่แม่ต้องการ แม่จะบีบเราต่อไปเป็นขั้นๆ ค่ะ สุดท้ายจะลงล็อคแบบที่แม่ต้องการเลย แม่เราจะทำทุกวิธีการเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ท่านต้องการค่ะ แฟนเก่าเรากระเจิง หายไปจากชีวิตเราเลยก็เพราะท่านนี่แหล่ะค่ะ T^T จากคุณ : นางฟ้า ซาตาน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:26:53 A:202.29.220.186 X: TicketID:372105

ความคิดเห็นที่ 17 >>> นางฟ้า ซาตาน "....เค้าเอาบ้านเราไปพูดกับคนรู้จักของเราว่า แม่อยากได้เค้าไปเป็นลูกเขยมากกกกกกกกก...." กินในที่ลับ..ไขในที่แจ้ง  คำนี้ไม่รู้ใช้ได้รึป่าว  แต่... ถึงเขาจะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าแม่คุณอยากได้เขา เขาก็ไม่สมควรโพทะนาแบบนั้น ... ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน.... ดีชั่วรู้อยู่แก่ใจ ทำดี เป็นคนดี มีคนอยากได้เป็นลูกเขย ก็แค่เก็บความดีไว้ภูมิใจก็น่าจะพอ แต่สิ่งที่เขาไปป่าวประกาศ เพื่อ???  มันเหมือนแสดง สันดานบางอย่างของเขาออกมายังไงไม่รู้ จากคุณ : Nafiead เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:34:53

ความคิดเห็นที่ 18 เราไม่คิดว่าการเอารถคนอื่นมาใช้เป็นเรื่องปกติ หน้าที่การงานไม่ได้การันตีคนๆนั้นได้ อีกทั้งคนทั่วไป คงไม่มีใครอยากยุ่งกับคนที่เค้ามีแฟนแล้ว  เรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติค่ะ  (เราเคยเจอคนแบบนี้ค่ะ น่ากลัวที่สุด) จากคุณ : cheva8126 เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:53:04

ความคิดเห็นที่ 19 >>>>ครอบครัวตัวกลม อยากทำแบบที่คุณแนะนำจังค่ะ แต่เรากลัวว่าตารองสารวัตรนั่นจะไ่ม่พอใจ แล้วไปเป่าหูอะไรแม่เราอีก แม่กำลังหลงแบบไม่ลืมหูลืมตา กลัวจะแย่กว่าเดิมน่ะค่ะ ทรัพย์สินของบ้านเราเป็นชื่อแม่หมดเลยค่ะ แย่จังเนาะ T^T >>>>cheva8126 เราก็คิดเหมือนกันเลยค่ะ เค้าเข้าใกล้แม่เรา มากกว่าจะพยายามเข้าหาเราซะอีก จากคุณ : นางฟ้า ซาตาน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 17:07:47 A:202.29.220.186 X: TicketID:372105

ความคิดเห็นที่ 20 ถึงทรัพย์สินจะเป็นชื่อคุณแม่หมด แต่ถ้าคุณแม่กับคุณพ่อจดทะเบียนสมรส คุณแม่จะทำนิติกรรมอะไร คุณพ่อต้องเซ็นยินยอมนะคะ อย่าให้คุณแม่บังคับคุณพ่อได้อีกคนแล้วกัน จากคุณ : ครอบครัวตัวกลม เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 17:18:15

ความคิดเห็นที่ 21 กรณีนี้น่ากลัวจริงๆนะคะ เพราะท่าทางแม่ของคุณ จขกท จะชอบตำรวจคนนี้ฝังจิตฝังใจตอนนี้แค่รถ อีกหน่อยให้ระวังทรัพย์สินเงินทอง ค่อยๆหาทางป้องกันไว้ดีกว่าค่ะ เรื่องลองคบกับเค้า บอกตรงๆว่าไม่น่าไว้ใจ ไปกินข้าวด้วยมันจะวางยาเอารึเปล่าไม่รู้การที่เอารถคนอื่นไปใช้หน้า ไม่อายได้ ก็แสดงตัวตนอย่างนึงแล้ว รับมือด้วยสติคุณรักแม่ห่วงแม่เข้าใจค่ะ แต่ต้องแก้ปัญหาด้วยสติ แฟนคุณเป็นทนายน่าจะรู้จักพวกนักสืบ หรือการเชคประวัติอยู่บ้าง ลองใช้บริการดูนะคะ คนเก่งมากๆ มั่นใจมากๆ ไ่ม่ฟังใครค่ะต้องให้เจ็บเองรู้สึกเอง เราทำได้แค่ป้องกันอย่าให้มัน มีเหตุร้ายๆมากๆ เท่านั้นเองเอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : Loma บ้าชอปป์ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 17:22:34

ความคิดเห็นที่ 22 เสาร์นี้กลับบ้าน ไปหาแม่ บอกแม่ว่า หากแม่ชอบก็ตกลงเลย แต่งเลย ..........แต่งกะแม่ (เดี๋ยวหนูจะพูดกับพ่อเอง) จากคุณ : . (ลุงเท่ง) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 18:35:50

ความคิดเห็นที่ 23 ปริ๊นกระทู้นี้ฝากไปให้คุณแม่อ่านค่ะ แล้วบอกแม่ลองทบทวนดู ความสุขกับความรู้สึกของหนู แม่คิดถึงบ้างมั๊ย จากคุณ : อั้มขาว เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 20:18:47

ความคิดเห็นที่ 24 ตาสารวัตรนั่น เดาทางที่บ้านคุณออกค่ะ เขามาเเผนสูงไง เขาต้องการเป็นลูกเขย ยิ่งเห็นคุณหัวอ่อนทำตามที่เเม่สั่ง เขาก็ยิ่งเข้าทางเเม่ มันง่ายกว่าเข้าทางคุณที่มีเเฟนเเล้ว เราไม่รู้ว่าคุณจะทำยังไงต่อ เเต่ถ้าเป็นเรา เราขอเเรงทีเดียวเเล้วจบเลย นัดไปกินข้าว พ่อแม่คุณ คุณกับเเฟน เเละตาสารวัตรนั่น บอกไปเลยว่าจะเเต่งงานกับเขา เเต่ทรัพย์สินของพ่อแม่ทุกอย่างต้องเป็นชื่อคุณก่อนเเต่งงาน เเละคุณจะไม่เลิกกับเเฟนเด็ดขาด เเละจะไม่มีทางร่วมเตียงหรือร่วมบ้านกับเขาด้วย ถ้าจะมีลูก ก็ต้องมีกับเเฟนคุณคนเดียวเท่านั้น ถ้าเขาจะเเต่งกับคุณ เขาจะมีชื่อในทะเบียบสมรสเท่านั้น เเละจะไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรจากคุณเเละเเฟนคุณเลย ถ้าทำได้ ก็เเต่งสิ ทีเดียวจบค่ะ รับรู้กันทุกคน จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 21:42:12

ความคิดเห็นที่ 25 คห.24 แรงสมชื่อล็อกอิน...และ อยากแนะนำให้ จขกท ลองไปปรับใช้ดูค่ะ จากคุณ : พาระวี เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 22:24:42

ความคิดเห็นที่ 26 ช่างเป็นผู้ชายที่น่ากลัว หวังทรัพย์สินเงินทองชัวร์ค่ะ เตือนว่าอย่าไปกับเขาสองต่อสองนะคะ แม้คุณแม่จะบังคับก็ตาม กลัวเขาวางยา ทีนี้แหละจะดิ้นไม่หลุด จากคุณ : อิมาอิซัง เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 22:39:15

ความคิดเห็นที่ 27 คห.24 แรงถูกใจ แม่เราก็เป็นคล้ายๆจขกท. ไม่ค่อยจะยอมเข้าใจใคร เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ขี้น้อยใจ ชอบพูดว่าเราไม่รักเค้าเลยไม่ทำอย่างเค้าพูด หรือเราเห็นคนอื่น(สามี) ดีกว่าเค้าเลยไม่ฟังเค้าแล้ว แก้ปัญหาไม่ตกเหมือนกันค่ะ จากคุณ : หวานขมอมเปรี้ยว เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 23:10:27

ความคิดเห็นที่ 28 มองกลางๆ แบบไม่ซับซ้อนเลยนะคะ ตำรวจอะไร เอารถคนอื่นไปใช้ ตัวเองเป็นข้าราชการ ต้องรู้ระเบียบวินัย  ถึงแม่คุณจะให้ไปรับไปส่ง ถ้าเค้ารู้จักทำอะไรให้เหมาะสมนะ เค้าควรจะเอารถตัวเอง มาจอดไว้บ้านคุณ และค่อยขับรถแม่คุณบริการท่าน  นี่ก็ประเด็นนึง   อีกอย่าง อยากจะเป็นแฟนลูกสาวเขา เข้าทางแม่นั้นก็พอเข้าใจอยู่ แต่ระยะหลัง ไม่คิดจะคุยกับลูกสาวโดยตรงบ้างหรือ พิลึกนัก ขอให้เจ้าของกระทู้ระวังด้วยนะคะ เราว่าเข้าไม่ใช่คนที่ดีนัก (ความเห็นเรานะ) จากคุณ : หมู1 เรียก หมู2 เปลี่ยน เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 00:38:28

ความคิดเห็นที่ 29 อยากสืบประวัติตำรวจนายนี้จัง จากคุณ : นาย (สรพงษ์อยากสวยเหมือนจารุณี) เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 01:21:39

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นเรานะ ดราม่าใส่แม่ค่ะ ร้องไห้ เอาผ้าโยงขื่อที่บ้าน แม่ฟังความต้องการหนูบ้างสิคะ หนูไม่ได้เกลียดเค้า แต่แม่นี่แหละที่ทำให้หนูเกลียดเค้า แม่ด่าคนที่หนูรัก หนูไม่ได้รักเค้ามากมาย แต่ที่แม่ร้ายใส่เค้า มันยิ่งทำให้หนูสงสารเค้า ยิ่งเห็นใจเค้า ว่าเค้าอดทนเพื่อหนู....ถึงแม้ว่าแม่จะเหยียบย่ำเค้าแค่ไหน แม่รักหนูจริงๆเหรอ แล้วทำไมแม่ยิ่งผลักหนูให้ไปผูกพัน เห็นใจกับเค้าล่ะคะ หนูอยากให้มันมีทางออกที่ทุกคนพอใจ แต่หนูว่า หนูตายไปดีกว่า เราจะได้ไม่ต้องทุกข์ใจกันอย่างงี้ ..... คัตตตตตตตตตต!!! จากคุณ : เสาไฟมุมถนน เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 02:40:52

ความคิดเห็นที่ 31 ---------- ไม่ว่าแม่จะผิดจะถูก เค้าคือแม่ของเรา  ----------- บางคนอาจจะแนะนำให้ทำตัว แรง ๆ ใส่ แม่...แต่เราไม่ทำ บาป*นะคะ เราเคยเจอเหตุการณ์แนว ๆ นี้... แต่ เราอดทน ใช้เวลาค่ะ กว่าเรื่องจะดีขึ้น ---------- เราพาแม่ไปวัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ไป ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ไปปฏิบัติธรรม ชุดขาวทางวัดมีให้ยืม อาหารฟรี แต่ต้องอดทน เพราะคนเยอะ... การใช้ชีวิตอยู่กับคนหมู่มาก ที่ต่างสังคม เป็นธรรมตาที่ต้องปรับตัว ----------- แม่... ค่อย ๆ เบาลง... การพาแม่เข้าหาทางธรรมถือเป็นการกตัญญูท่านนะคะ บางทีท่านอาจจะชอบ แม่เราก็ชอบแล้วเปลี่ยนไป จากไม่เคยธรรมมะธรรมโมอะไร แต่ชอบทำบุญ ** เปลี่ยนทัศนคติ อะไรหลาย ๆ อย่าง เรารู้สึกได้ ** + เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา และต้องอดทนค่ะ + สู้ ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ + สามารถเข้าไปที่เว็ปไซด์วัดอัมพวัน http://www.jarun.org/ มีอะไรที่พอจะช่วยได้ ** สอบถามเพิ่มเติมได้ แต่หลังไมค์มาได้ นะคะ เป็นห่วง ** แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 55 06:41:25 จากคุณ : yoshimi เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 06:35:14

ความคิดเห็นที่ 32 อีตาตำรวจนี่ ไม่ได้มีเมียซุกไว้ที่ไหนเหรอ พอจะสืบได้ไหมคะ จากคุณ : Accurus เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 12:02:39

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าเป็นเสือน้อยนะคะจะขอนัดเจอตาสารวัตร แล้วพูดกันชัดๆตรงประเด็นไปเลยค่ะว่า "เลิกยุ่งเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวของฉันสักที ตั้งแต่คุณเข้ามามันทำให้ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวของฉันต้องมีปัญหา เพราะฉะนั้นช่วยกรุณาออกไปจากชีวิตครอบครัวฉัน และหากแม่ฉันยังพยายามยุ่งเกี่ยวกับคุณ ก็ต้องขอความร่วมมือคุณอย่าติดต่อท่านอีก จะเป็นพระคุณอย่างสูง อีตาสารวัตรจอมจุ้น" อันนี้ออกแนวตามความคิดเสือน้อยเองนะคะ อารมณ์หมั่นไส้ผู้ชายประเภทนี้ (ปล. หวังอะไรกันแน่ค่ะ คุณสารวัตร) จากคุณ : เสือน้อยหน้าบาน เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 14:10:30

ความคิดเห็นที่ 34 เดี๋ยวนี้ตำรวจปลอมเยอะนะ คนมีเมียแล้ว แต่บอกว่ายังโสดก็เยอะ จากคุณ : ดินสอปากกา เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 55 23:10:18

ความคิดเห็นที่ 35 จบทนายมาแต่ไม่มีปัญญาสอบเป็นอัยการรึครับ คนแบบนี้เหรอที่คุณจะเามาเป็นสามี ผมว่าคุณใช้ตรรกะความคิดผิดๆอยู่นะครับ หลงผู้ชายจนลืมหน้าที่ ของความเป็นลูก แบบนี้เรียก อกตัญญู ครับ คนเป็นตำรวจ ระดับรองสารวัตนี่ ระดับพันตำรวจตรี-โท อาชีพเป็นหลักเป็นแหล่งครับ มีโอกาสและความก้าวหน้าพอสมควร สืบประวัตได้ไม่ยาก ทำไมไม่ลองเปิดใจกับคนที่แม่เลือกให้ล่ะครับ คนเป็นผู้ใหญ่ ผ่านประสปการณ์มาก็ไม่ใช่น้อย แถมยังเป็นแม่ของคุณอีก ส่วนแฟนคุณ พิสูจน์ตัวเองแค่ไหน ว่าเค้าสามารถให้ความมั่นคงกับคุณได้ แค่เรื่องบนเตียง เรื่องเอาใจผู้หญิง ใครมันก็ทำได้ แต่การเอาชนะใจแม่ยายน่ะ แฟนคุณมีคุณสมบัติรึปล่าว ผมไม่ได้เข้าข้างตำรวจนะ แต่จากที่เล่ามา ผมว่าคุณหลงผู้ชาย เอามากๆ ครับ จากคุณ : . (ปันโนคุง) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 17:13:03