Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
หลากหลายชีวิตมนุษย์ ติดต่อทีมงาน

ไปอ่านเจอมาค่ะ  เลยเอามาแชร์ให้แม่ๆในชานเรือน


มื่อประมาณต้นๆ ปีเราได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่มาขอความช่วยเหลือที่บ้านพักฉุกเฉินพร้อมลูกที่อายุ 6 เดือนด้วยปัญหาดังกล่าว ในที่นี้เราจะขอเรียกเธอว่า "ออม"

ออมอยู่กินโดยจดทะเบียนสมรสกับสามีคนปัจจุบัน และใช้ชีวิตครอบครัวด้วยกันมาทั้งหมด 3 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน... เมื่อพบคำว่าสามีคนปัจจุบันนั่นก็แสดงว่า ออมต้องเคยมีสามีหรือแฟนมาก่อนสามีคนปัจจุบันอย่างแน่นอน...

         ออมได้เล่าถึงอดีตสามีคนแรกว่า ตอนออมอายุได้ 21 ปี ได้คบหากับเขาแบบเป็นแฟน และมีเพศสัมพันธ์กันโดยที่ไม่ได้ป้องกัน และเมื่อเกิดท้องขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แฟนจึงพาไปทำแท้งที่คลินิกแห่งหนึ่ง

แต่เมื่อไปถึงที่คลินิกแล้ว ออม เกิดอาการกลัวจึงไม่ยอมทำ หลังจากนั้นออมจึงตัดสินใจเลิกกับแฟนคนนี้อย่างเด็ดขาด ส่วนลูกออมก็คิดว่าเธอจะเลี้ยงดูด้วยตนเอง หลังจากแยกทางกัน แฟนของออมก็ไปบวชพระ

เมื่อออมท้องได้ 8 เดือน เขาสึกจากพระและกลับมารับออมไปหาครอบครัวของเขา ออมอดทนอยู่กับครอบครัวแฟนจนลูกอายุได้ 8 เดือน ที่ต้องใช้คำว่าอดทนก็เนื่องมาจาก ทั้งแฟนและครอบครัวของเขาไม่ได้เห็นออมเป็นคนในครอบครัว ต่างปฏิบัติต่อออมเหมือนพี่เลี้ยงเด็กที่จ้างมาเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานของตนเองเท่านั้น

จนวันหนึ่งแฟนได้พาผู้หญิงอื่นเข้ามาในบ้านเพื่อมาเป็นภรรยาแทนออม นั่นคือจุดสิ้นสุดของชีวิตครอบครัวครั้งแรกของออม... ออมต้องออกจากบ้านหลังนั้นมาโดยที่ไม่สามารถเอาลูกออกมาด้วยได้ เพราะตอนนั้นออมไม่เหลืออะไรเลย… การถูกเลือกปฏิบัติหรือการไม่ได้รับการยอมรับจากคนในครอบครัวก็ถือเป็นความรุนแรงชนิดหนึ่งเช่นกัน

         หลังจากทิ้งอดีตทุกอย่างไว้เบื้องหลัง ออม ก็ได้มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอมาทำงานโรงงานและเช่าห้องอยู่เพียงลำพัง ที่นี่ทำให้ออมได้พบกับผู้ชายคนใหม่ที่เข้ามาในชีวิตของเธอ เขาเป็นคนกรงเทพฯ มีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัวและเป็นนักมวย ฐานะของเขาก็ค่อนข้างดี ออมใช้เวลาในการศึกษาดูใจกับเขาอยู่เป็นเวลา 5 เดือน

เขาดีกับออมทุกอย่างจนออมเชื่อใจและตกลงที่จะสร้างครอบครัวใหม่อีกครั้ง ออมตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับผู้ชายคนนี้ ในช่วงหนึ่งปีแรกเขาดีกับออมมาก มีปัญหาอะไรก็จะคุยกันด้วยเหตุด้วยผล แต่พอหลังจากหนึ่งปีผ่านไปสามีที่แสนดีคนเดิมก็หายไป

กลายเป็นใครก็ไม่รู้ที่ออกไปดื่มเหล้าข้างนอกและเมากลับมาแล้วก็จะต้องกลับมาปลุกออมในตอนตี 3 ตี 4 แทบทุกวัน ก็เลยทะเลาะกันบ่อยมากขึ้น หลังจากนั้นเขาก็เริ่มใช้ความรุนแรงแทบทุกครั้งที่เขาเมา ซึ่งเขาก็เมาแทบทุกวันและเริ่มจะมากขึ้นๆ แม้แต่เรื่องโทรศัพท์ก็ไม่อยากให้คุยกับใคร อยากให้ถอดซิมทิ้งไปเลย คนอื่นจะได้โทรหาออมไม่ได้ แม้แต่คุยกับแม่เขาก็ไม่พอใจ

พอไม่ทำตามที่เขาสั่งก็จะถูกตบตี บางทีก็มีเตะ จนมีรอยเขียวช้ำตามร่างกาย หลังจากหายเมาแล้วเขาก็จะรู้สึกผิดและมาขอโทษ ก็อภัยให้ทุกครั้ง แต่หลังจากนั้นก็มีการใช้ความรุนแรงต่อมาอีกเรื่อยๆ รวมทั้งการควบคุมการใช้ชีวิตของออมก็มากขึ้น

เพราะสามีไม่อยากให้ออมออกไปข้างนอกบ้าน หรือไม่ให้ไปไกลบ้าน ไม่ให้คุยกับคนอื่น เพราะความหึงหวง จนครั้งล่าสุดที่ออมต้องหนีออกมาเพราะว่าสามีโกรธที่ออมเล่นเฟสบุ๊ค (facebook) และมีคนมาขอเป็นเพื่อนในนั้น เมื่อสามีมาเปิดเจอเขาโกรธมากเลยตบหน้าออมอย่างแรงจนโหนกแก้มเขียว

ออมทั้งโกรธและเสียใจอย่างมาก จึงพาลูกหนีออกมาและไปขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิแห่งหนึ่งที่ช่วยเรื่องปัญหากฏหมายกับผู้หญิง ซึ่งมูลนิธิดังกล่าวได้พาออมไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ และได้พามาขอรับความช่วยเหลือด้านที่พักชั่วคราวที่บ้านพักฉุกเฉิน

         หลังจากเข้ามาอยู่ที่บ้านพักฉุกเฉินได้ไม่นาน สามีก็ติดต่อมาและพยายามที่จะเข้ามาง้อและขอรับตัวออมและลูกกลับบ้าน สามีมาเยี่ยมและมาอ้อนวอนทุกวันจนออมเกิดความสงสาร แต่ออมก็ยังไม่มั่นใจว่าถ้าออมใจอ่อนและกลับไปอยู่กับเขาอีกเธอจะต้องพบเจอกับเหตุการณ์เดิมๆอีกหรือเปล่า ดังนั้นออมจึงได้ร่วมวางแผนกับนักสังคมสงเคราะห์ว่า

ถ้าออมต้องการให้อภัยและลองกลับไปอยู่กับเขาอีกครั้งเธอจะต้องเตรียมความพร้อม และหากเกิดกรณีปัญหาเช่นเดิมออมจะมีวิธีช่วยเหลือตนเองได้อย่างไรบ้าง สถานที่ๆออมสามารถขอความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีคือที่ไหนบ้าง

และขั้นตอนต่อไปคือนักสังคมสงเคราะห์ได้นัดพูดคุยไกล่เกลี่ย ทำข้อตกลงกับสามีของออม จนในที่สุดออมตัดสินใจที่จะให้โอกาสสามีอีกครั้ง แต่ออมมีเงื่อนไขว่าในระยะแรกที่สามีกำลังพยายามปรับปรุงตัวออมจะขอไปอยู่บ้านพ่อแม่ของตนเองก่อน จะอยู่กับสามีแบบไปกลับเพื่อรอดูความประพฤติของเขา

ออมได้บอกกับเราก่อนกลับออกไปกับสามีว่า "มาอยู่ที่นี่ก็ได้อะไรเยอะได้รู้สิทธิของเรา... รู้เรื่องกฏหมายมากขึ้น ซึ่งแต่ก่อนหนูก็กลัวว่าตำรวจจะว่าเรื่องผัวเมีย... แจ้งความไปก็เท่านั้น... แต่ตอนนี้หนูรู้มากขึ้นแล้วหนูก็รู้แล้วว่าถ้าแฟนหนูไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้หนูจะไปขอความช่วยเหลือที่ใครได้... ที่ออกไปนี่หนูก็ไม่ได้มั่นใจในตัวเขาเต็มร้อยแต่ก็จะลองให้โอกาสเขาเพราะเขาก็เป็นพ่อของลูก แต่ถ้าเขาเปลี่ยนแปลงไม่ได้หนูก็คงจะกลับไปอยู่กับพ่อกับแม่ของหนู"

         นี่คือเรื่องราวชีวิตครอบครัวของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา ซึ่ง ไม่ว่าจะถูกตบตีและถูกทำร้ายร่างกายจากสามี แต่ก็ยังคงไม่ได้มีความต้องการให้สามีติดคุก ยังคงให้โอกาสกับสามีครั้งแล้วครั้งเล่า... พวกเธอเหล่านั้นไม่ได้อยากได้สามีใหม่เธอยังอยากได้สามีคนเดิมที่ในช่วงแรกๆของการคบกัน เขาเป็นคนดี มีเหตุมีผล มีความรับผิดชอบ จนเธอไว้วางใจที่จะแต่งงาน ใช้ชีวิตครอบครัวด้วยกันนั้นกลับคืนมา

         หากผู้หญิงและเด็ก ท่านใดประสบปัญหาในชีวิต เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ท้องไม่พร้อม ถูกข่มขืน หรือติดเชื้อ เอช ไอ วี สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน 501/1 ซ.เดชะตุงคะ 1 ถ.เดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 02-929-2222 ตลอด 24 ชม E-mail:knitnaree@hotmail.com

         และในกรณีที่ท่านต้องการช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กในบ้านพักฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และหาทุน สมาคมฯ โทร.0-2929-2301-5 ต่อ 109,113 E-mail:pr_apsw@hotmail.com หรือสามารถดูข้อมูลรายละเอียดผ่านทางเว็บไซด์สมาคม www.apsw-thailand.org

จากคุณ : แม่หญิงฟุ้งซ่าน
เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 55 16:46:16




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com