 |
จะคลอดเอง หรือผ่าคลอด มีความเสี่ยงพอกันค่ะ
ของเราก็ตั้งใจจะคลอดเอง เพราะเห็นว่าฟื้นตัวเร็วกว่าผ่าคลอด แต่พอสุดท้ายก็คลอดเองไม่ได้ เพราะตอนใกล้คลอด คุณหมอประเมินการคลอดว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด โดยดูหลายๆ อย่างเป็นองค์ประกอบ เช่น น้ำหนักเด็ก, รูปร่างของคุณแม่ เช่น เชิงกราน, อายุคุณแม่, ความแข็งแรงของคุณแม่, โรคประจำตัวคุณแม่ และน้องในครรภ์มีอะไรผิดปกติไม๊
ของเราติดตรงที่ลูกตัวใหญ่ และเราตัวเล็กค่ะ เชิงกรานเราค่อนข้างเล็กเกินกว่าที่ไหล่เค้าจะออกมาได้ คุณหมอแนะนำว่าให้ผ่าคลอด เราก็ไปปรึกษาที่บ้าน สรุปก็ผ่าคลอดเพราะคุณแม่เราไม่อยากให้เราเจ็บหลายที ประมาณว่าคลอดเองไม่ได้ก็เจ็บแล้ว และต้องไปผ่าลอดเจ็บอีกที ก็เลยให้เราเชื่อหมอดีกว่าเพราะท่านมีประสบการณ์การทำคลอดมามาก
คุณหมอที่เราฝากครรภ์บอกเลยว่าการคลอดมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะคลอดธรรมชาติ หรือผ่าคลอดค่ะ เพียงแต่ผ่าคลอดมันควบคุมได้ เช่น เรื่องระยะเวลาเจ็บครรภ์ คลอดธรรมชาติต้องรอจนปากมดลูกเปิด 10 ซม. และแม่แต่ละคนก็มีระยะเวลาที่ปากมดลูกจะเปิดไม่เท่ากัน บางคน 3 ชม. ก็คลอดได้แล้ว แต่บางคนก็ 10 กว่า ชม. ก็มี เรื่องการเบ่งก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่แน่นอน แม่บางคนยังสาว สุขภาพแข็งแรงก็อาจจะเบ่งปุ๊ปออกปั๊ป แต่ก็ไม่ทุกคนไปนะคะ แม่บางคนสาวจริง แต่พอเจ็บท้องมากๆ สติแตก กว่าจะเบ่งออกก็ใช้เวลานานค่ะ
ดังนั้นเราว่าจะผ่าคลอด หรือคลอดธรรมชาติ ลองปรึกษาคุณหมอดูก่อนจะดีที่สุดค่ะ เพราะคุณหมอจะรู้ดีที่สุดเลย ของเราผ่าคลอด ทุกอย่างมันควบคุมได้ เช่น ผ่าคลอดปกติก็จะไม่เกิน 1 ชม. ก็เสร็จแล้ว อันนี้รวมถึงขั้นตอนตั้งแต่บล็อคหลังไปจนถึงเย็บแผลนะคะ มันคำนวณเวลาได้ว่าเข้าห้องผ่าคลอดไปกี่โมง แล้วจะออกมากี่โมง ทุกอย่างไปตาม step ของมัน กรีดแผลที่หน้าท้องแล้วเด็กตัวใหญ่ไปก็กรีดแผลเพิ่มอะไรประมาณนั้นค่ะ
แต่ข้อเสียก็คือเจ็บนานกว่า ฟื้นตัวช้ากว่าคลอดเอง มี คชจ. ที่แพงกว่าค่ะ
| จากคุณ |
:
กิ่งทองใบหยก  
|
| เขียนเมื่อ |
:
27 ส.ค. 55 16:48:46
|
|
|
|
|
ช่วยด้วยค่ะ.....ใกล้คลอดแล้ว เดือน ก.ย แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าผ่าคลอด หรือ คลอดธรรมชาติดี T T
