ความคิดเห็นที่ 1 ลูกเรียนแนวบูรณาการอยู่ค่ะ สำหรับเรา ตอนนี้ OK เลยนะคะ ลูกอยู่ อ.1 ชอบไป รร. มาก กลับมามีเรื่องเล่าให้ฟังตลอด การทำนาข้าวทำอย่างไร ขับรถเร็วจะเป็นอย่างไร เป็นต้น เค้า ค่อนข้างเชื่อมโยงเหตุการณ์ อธิบายเหตุและผลได้ก็ดีใจมากเลยค่ะ ในช่วงแรกมีกดดันบ้าง ลูกคนอื่นๆ มีการบ้านเขียนเป็นหน้า อยู่ อ.1 เหมือนกัน แต่พอดูภาพรวม พัฒนาการทางด้าน ตรรกกะ และความคิดสร้างสรรค์ ของลูกก็ถือว่า OZk (แอบดีกว่าเค้าด้วย ไม่รู้ เข้าข้างลูกตัวเองหรือเปล่า ) ก็เลยสบายใจ ตอนนี้แฮปปี้ค่ะ รู้สึกคิดไม่ผิดที่ให้ลูกเรียนแนวนี้ รอฟังเสียงท่านอื่นด้วยเพื่อช่วยสนับสนุนแนวคิด หรือ พ่อแม่ที่ให้ลูกเรียนแนววิชาการเพื่อ ดูข้อแตกต่าง ค่ะ ลองดูนะคะ จากคุณ : agalcalypso เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 15:48:18

ความคิดเห็นที่ 2 เคยถามพ่อแม่ที่มีลูกเรียนบูรณาการ เค้าก็ว่าโรงเรียนดี และจากที่สัมผัสน้องๆ เค้าก็เป็นเด็กดีจริงๆค่ะ แต่บ้านเรา ระดับมหาวิทยาลัยก็ยังต้องสอบแข่งขัน ไม่รู้ว่าน้องๆที่เรียนบูรณาการสอบได้มากน้อยเพียงไหน เท่าที่เห็นมักเรียนต่อมหาวิทยาลัยเอกชน หรือไปเรียนต่อต่างประเทศ ส่วนตัวเลยคิดว่าคงให้เรียนโรงเรียนธรรมดา เรื่องบูรณาการเราจะพยายามสอนเองค่ะ จากคุณ : Extremely Chocolate เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 15:48:55

ความคิดเห็นที่ 3 เราคิดเหมือนคห2คะ เราลองหาข้อมูลดู เด็เรียนโรงเรียนแนวบูรณาการส่วนใหญ่คุณพ่อคุณแม่มีฐานะ จบแล้วส่วนใหย่ไปเรียนมหาลัยเอกชนหรือต่อเมืองนอก แล้วส่วนใหญเรียนสายศิลป์คะ เราเลยอยากหาโรงเรียนธรรมดาแล้วบูรณาการเดี๋ยวเราจะพยายามสอนเอง จากคุณ : หนูปอม เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 15:59:40

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าให้แนะนำ เราอยากให้คุณลองนึกก่อนว่า ถ้าลูกเรียนประถมอยากให้เค้าเรียนที่ไหน ถ้าอยากให้เรียนพวกโรงเรียนเครือแคทอลิก ที่เด่นเรื่องวิชาการ ก็ควรจะให้ลูกเรียนแนววิชาการมาตั้งแต่แรกเลย หากอยากให้เรียนสาธิต หรือลูกเรียนแนวสบายๆ มีความสุข ค่อยเลือกเรียนแนวบูรณาการค่ะ ส่วนตัวแล้วเราให้ลูกเรียนแบบผสมค่ะคือมีทั้งบูรณาการ และมีวิชาการนิดๆ ลูกเราก็มีความสุขดีค่ะ จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:00:29

ความคิดเห็นที่ 5 เราจะให้ลูกเรียนบูรณาการนะ เหตุผลแรก อยากปลูกฝังจิตใจที่รักการเรียนรู้ ไม่เร่งเรียน เพราะมันมีผลในระยะยาว เหตุผลที่สอง พ่อแม่ที่ส่งลูกเรียนบูรณาการ เค้าจะให้ความสำคัญกับการที่ลูกเป็นเด็กดีมีความสุข มากกว่าที่จะเรียนเก่ง สอบได้ดี แข่งขันกับคนอื่นได้ เราว่าสังคมลูกจะเป็นแบบช่วยเหลือกันมากกว่าที่จะแข่งขันกัน แต่อย่างที่คนอื่นบอก จะให้เรียนแบบนี้ก็ต้องทำใจรับได้ถ้าลูกจะเรียนสู้คนอื่นไม่ได้ (มันมีความเสี่ยงที่จะเรียนสู้สายวิชาการไม่ได้) ต้องมีกำลังทรัพย์ส่งเอกชนถ้าลูกสอบรัฐบาลดีๆ ไม่ติด จากคุณ : แม่น้องอัณณา เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:08:20 A:203.107.217.33 X: TicketID:258399

ความคิดเห็นที่ 6 ลูกเรายังไม่เข้าโรงเรียนแต่เราก็อยากให้เรียนแบบนี้ค่ะ อยากให้เค้ามีความสุขในการเรียนค่ะ ถึงจะไม่เก่งแต่เป็นคนดี มีความสุข เอาตัวรอดได้ก็พอแล้ว จากคุณ : Z-Cube เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:11:34

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับ คห 4 ค่ะ ต้องดูเผื่ออนาคตลูกไปด้วย ลูกสาวก็กำลังจะเข้า อนุบาลปีหน้า คงเลือกเเบบผสม เพราะเหมาะกับสภาพความเป็นจริงของครอบครัวเรามากค่ะ อยากให้ลูกเรียน รร มัธยม ที่ วิชาการเเข็งๆ เเละไปสอบเข้ามหาวิทยาลัย เหมือนสมัยเราเคยทำ แต่ถ้าลูกไม่ไหวก็จะเรียนเอกชนค่ะ งัยก็ต้องดูความสามารถลูกด้วย จากคุณ : เเสนเพลิดเพลิน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:11:54

ความคิดเห็นที่ 8 น้องข้างบ้านเรา เรียนบูรณาการ ตั้งแต่อนุบาล ยัน จบม.หก เลยค่ะ เห็นน้องเคยได้ทุนไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นด้วย ละสุดท้ายก็สอบเข้า ถาปัด ลาดกระบัง ได้ จากคุณ : jaoluknok เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:21:38

ความคิดเห็นที่ 9 จะว่าไป ทางร.ร.ที่เลือก ก็คงจะเป็นแบบกึ่งๆ แต่ออกแนวกิจกรรมมากกว่า เราไม่ได้มีฐานะมากมายค่ะ เลี้ยงลูกคนเดียว อยากให้เข้าสาธิตค่ะ แต่ก็เกรงว่าถ้าลูกสอบไม่ได้ ก็คงต้องไปสอบร.ร.แนววิชาการรึเปล่า พอถึงตอนนั้น เกรงว่าลูกจะเครียดและไม่ทันค่ะ เพราะจากการเรียนแบบมีความสุข เปลี่ยนมาเป็นแบบเข้มงวดกันสุดๆ แบบคนละขั้วอะค่ะ ใจจริง ก็คงไม่ได้คาดหวังว่าต้องเรียนดีเลิศอะไร(จึงอยากให้เรียนบูรณาการ) แต่คิดว่าแม่ๆทุกคนก็คงนึกออก ว่าการเรียนในไทย การแข่งขันสูง ต้องเก่งถึงจะสอบแข่งขันกับคนที่เค้าบ่มเพาะมาแต่เล็กแต่น้อยได้ อยากให้ลูกใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะแข่งขันและต่อสู้ค่ะ จึงเกิดเป็นความกังวลค่ะ ดูเหมือนแม่จะต้องการเยอะไป 5555 จากคุณ : Miss Hope เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:26:30

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องมองยาวถึงอนาคตที่คุณอยากให้ลูกเดินค่ะ อยากให้ลูกเรียนประถมที่ไหน มัธยมที่ไหน มหาวิทยาลัยที่ไหน  ตอนนี้คุณต้องเป็นคนวางแนวทางให้ลูกค่ะ จนกว่าเขาจะโตพอเลือกทางเองได้ บางคนรู้เร็ว ประถมก็รู้แล้วว่าอยากเรียนอะไร มีแนวโน้มยังไง บางคนจนจบมหาวิทยาลัย ยังไม่รู้เลยว่ามาถูกทางหรือเปล่า บูรณาการ ส่วนใหญ่เด็กเรียนแล้วมีความสุขค่ะ แต่ถ้าคุณจะให้ลูกไปสอบแข่งขันเข้าเรียนโรงเรียนที่มีคนสอบเยอะๆ ใครจะติวคะ ถ้าคุณแม่พร้อม เรียนได้เลยค่ะ แล้วติวเอง แถมเรายังปรับหลักสูตรได้ตรงกับลูกที่สุดด้วย แต่ถ้าติวไม่เป็น ไม่ใจเย็นพอ คงต้องให้คุณครูช่วย ก็ต้องเลือกอนุบาลแบบวิชาการหน่อย เด็กที่เรียนแนวบูรณาการ แล้วเขาชอบวิชาการ เขาจะขวนขวายเองค่ะ แค่ผู้ปกครองสนับสนุน จะไปฉิวเลย เพราะเขาจะมีความคิดเปิดกว้าง ไม่จำกัดกับการท่องจำ แต่ถ้าเขาไม่ชอบ ไม่ได้ถูกฝึกมาแต่เล็ก เด็กกลุ่มนี้จะเบื่อหน่ายการเรียนแนววิชาการแบบประเทศไทยมาก ส่วนตัวเลย เคยอยากให้ลูกเข้าโรงเรียนรุ่งอรุณ (ขออนุญาตเอ่ยชื่อ เพราะไม่ได้จะว่าให้เสียหาย) พ่อก็ชอบ แม่ก็ชอบ แต่ต้านกระแสซักถามจากคนรอบข้างไม่ไหว กลัวเรียนไปแล้ว เขาจะตามวิชาการของโรงเรียนอื่นๆ ไม่ทัน แล้วเราไม่ได้มีธุรกิจรองรับอนาคตของลูก ถ้าลูกต้องไปสอบแข่งขันตามค่านิยมการเอนทรานซ์ ลูกจะไหวหรือ จนสุดท้ายให้เขาเรียนแนวบูรณาการใกล้บ้าน ซึ่งเสริมวิชาการ แต่ตอนลูกอยู่ อ2 ก็มีผู้ปกครองมาต่อว่าโรงเรียนอีกว่าไม่สอนวิชาการเยอะหน่อย แล้วลูกเขาจะไปเรียนต่อ ป1 ที่ไหน สุดท้ายโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อให้อยู่รอด เลยต้องเป็นแนวบูรณาการแบบเสริมวิชาการมากขึ้น แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 55 22:26:02 จากคุณ : Green Lime เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:32:54

ความคิดเห็นที่ 11 ของเราเลือกแบบผสมค่ะ เพราะเล่นมากไป เด๋วสอบเข้า รร ที่เน้นวิชาการไม่ได้ เผื่อเหลือดีกว่าขาด แล้วอีกอย่างเราอยากให้ลูกรู้ว่าการไปโรงเรียนไม่ได้ไปสนุกอะค่ะ ไม่รู้เราโหดไปหรือป่าวนะ เราอยากให้เค้ารู้ว่าไปโรงเรียนก็ไปเรียนหนังสือ หาความรู้อะค่ะ เวลาเห็นลูกอ่านออกเขียนได้ มันคนละ feeling กะการที่ลูกเอาสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้มาอวดจริงๆ เลย เราอาจจะคิดคงละแนวกับคุณแม่หลายท่านๆ แต่เราคิดงี้จริงๆ ^^ จากคุณ : pinkybird เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:33:11

ความคิดเห็นที่ 12 เราเป็นคนหนึ่งที่จะให้ลูกเข้าโรงเรียนทางเลือก เราไป open house มา เราและลูกชอบมาก  เราเองก็กังวลเรื่องการสอบเข้าโรงเรียนแนววิชาการเหมือนกัน แต่ครูใหญ่แกบอกว่า ทางโรงเรียนมีวิธีที่ทำให้เด็กสอบเข้าได้ ซึ่งดูจากรายงานผลการสอบที่ผ่านมาหลายปี ทำให้เราคลายกังวลลงนิดหน่อย แต่ส่วนตัวเราก็จะให้เสริมวิชาการต่างหากด้วย โดยเฉพาะภาษาอังกฤษค่ะ จากคุณ : น้องถั่ว เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:49:00

ความคิดเห็นที่ 13 ลูกยังไม่เข้าโรงเรียนค่ะ ยังไม่รู้จะไปทางไหน อิอิ ไปไม่เป็นเหมือนกัน ก็กำลังเก็บข้อมูลอยู่ค่ะ นักคณิตศาสตร์ใช้สมองด้านซ้าย ส่วนจิตรกรหรือนักศิลปะใช้สมองด้านขวา บุคคลที่ใช้ชื่อว่าเป็น “อัจฉริยะ” รู้วิธีใช้สมองทั้งสองซีกให้ผสมผสานกันได้อย่างสมดุล จากคุณ : แม่น้องพรีเมี่ยม (แม่น้องพรีเมี่ยม) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:58:51

ความคิดเห็นที่ 14 เราแอบคิดกลับกันกับคห.ต้นๆ อะค่ะ เราอยากให้ลูกเรียนบูรณาการแล้วเรา สอนวิชาการน่าจะง่ายกว่า การสอนบูรณาการ เราว่าน่าจะมีความซับซ้อนของการสอดแทรกการเล่น และการเรียนรู้ให้ผสานกัน มันน่าจะยากกว่าการสอนวิชาการ (มั๊ย) มีครอบครัวไหนที่ลองไอเดียนี้มาบ้างไหมคะ มาขอเก็บข้อมูลด้วยคนค่ะ จากคุณ : สตอร์เบอร์รี่ราดครีม เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 18:03:42

ความคิดเห็นที่ 15 เราอยากให้ลูกเรียนแนวบูรณาการค่ะ เพราะอยากให้เป็นคนมีความคิด อยากให้รู้ว่าตนเองต้องการอะไรในชีวิต จะได้เดินไปถูกทาง (ถ้าพ่อแม่มันส่งใหว 555) เรารู้สึกว่าถ้าจะให้ลูกเรียนแนววิชาการแล้วไม่ได้ เก่งเจ๋งจริง มันก็แค่เรียนไปงั้นๆแหละ เขาเห่อติวกันก็ติว จะสอบเข้าก็ดูตามคณะที่พอเป็นไปได้ ไม่เห็นได้รู้ความต้องการจริงในชีวิตเลย เหมือนพ่อแม่มันที่เขาให้เรียนก็เรียน เคร่งมันไปทุกวิชาเลขก็ต้องดี ภาษาก็ต้องได้สุดท้ายไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ถนัดอะไร ก็จบออกมาเป็นคนกลางๆที่หางานทำไปตามที่จบมา ซึ่งเราก็ว่าเหมือนเด็กที่เรียนมัธยม มหาลัยกันอยู่ตอนนี้แหละ ยกเว้นแต่เด็กคนที่เขาชอบวิชาการจริงๆแล้วไปได้ดี เรียนเก่งจริงๆไปเลย ซึ่งเราก็ไม่ได้คาดหวังว่าลูกจะเก่งได้ขนาดนั้น ซึ่งถ้าต้องเป็นการเรียนมันไปตามหน้าที่ ที่ต้องเรียนให้ดีอย่างนั้นละก็ เราก็อยากให้ลูกได้รู้จักความชอบ ความสุขในชีวิตตนเองว่าอยู่ตรงใหนมากกว่า อันนี้ที่คิดไว้นะค่ะ จากคุณ : แม่หนูพลอย เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 18:05:14

ความคิดเห็นที่ 16 เรามีหลานสองคนเรียนแนวบูรณาการตั้งแต่อนุบาลจนตอนนี้คนโต ป.หก คนเล็ก ป.สาม แล้ว เราเห็นว่าหลานค่อนข้างเป็นเด็กที่มีเหตุมีผลมาก คิดเป็นระบบ ซึ่งคิดว่ามาจากวิธีการสอน ส่วนตัวคิดว่าดีนะคะ เพราะการมี logic ที่ดีทำให้คิดอย่างเป็นระบบซึ่งมันจำเป็นมากในการใช้ชีวิตในอนาคต ส่วนเริ่งอจริยธรรมดีนะคะ เพราะโรงเรียนเน้นเรื่องนี้มาก เรื่องวิชาการหลานทั้งสองก็ใช้ได้ โดยเฉพาะภาษาเราว่าเค้าเก่งมาก (อาจเป็นเพราะที่บ้านส่งเสริมเรื่องนี้อยู่แล้ว) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับพ่อแม่ว่าอยากให้ลูกเป็นแบบไหน ของพี่ชายเราเค้าคิดว่าอยากให้ลูกรู้จักตัวเองให้มากที่สุดว่าต้องการอะไรในอนาคตไม่เน้นว่าต้องวิชาการจ๋า เพราะพี่เรากับแฟนสอนเองได้ที่บ้าน ส่วนเรื่องต่อมหาลัยเค้าสามารถส่งนอกได้ถ้าไม่มีสาขาที่เค้าอยากเรียน ส่วนตัวชอบโรงเรียนแนวนี้มาก จากคุณ : Mononoke เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 19:16:26

ความคิดเห็นที่ 17 เรียนได้ค่ะ เป็นเรื่องดี ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เด็ก แต่อยู่ที่พ่อแม่มากกว่า ว่าจะหวั่นไหวและเปลี่ยนแนวเอาทีหลังไหม นั่นล่ะที่จะสร้างปัญหาให้เด็ก ถ้าเลือกแล้วอย่าเปลี่ยนใจไปมา ขอให้มั่นคงค่ะ จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 21:33:23

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนตัวมองว่าเด็กยังเล็กมากค่ะถ้าเราเลือกให้เด็กเรียนแบบไหน เขาก็จะซึมซับแบบนั้นมาและมีความสุขกับการเรียนแบบนั้นได้ ถ้าเด็กวิชาการได้ไปเรียนแนวบูรณาการทีหลังก็คงมีความสุขได้เพราะเรียนสบายกว่า แต่ถ้าลูกเรียนแนวบูรณาการมาและต้องเปลี่ยนไปเรียนแนววิชาการทีหลัง ลูกก็คงต้องปรับตัวไม่น้อย ดังนั้นหากอยากให้ลูกเรียนระดับประถมที่ไหน ก็ควรจะปูทางตั้งแต่ชั้นอนุบาลค่ะเด็กจะได้ไม่ต้องปรับตัวมาก จากคุณ : เทียนสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 21:54:15

ความคิดเห็นที่ 19 ลูกสาวเข้าเรียนครั้งแรกตอนอนุบาล 3 แนวบูรณาการ เตรียมความพร้อม สนุกมากทุกวัน ไม่เคยเบื่อที่จะไปโรงเรียน พอขึ้นชั้นประถม 1 จะดูด้อยกว่าคนที่เรียนแบบปกติทั่วไป แค่เทอมเดียวค่ะ หลังจากนั้นไปฉิวเลย อ่านเก่ง คุยเก่ง ถามเก่ง กิจกรรมได้ ปัจจุบันเรียน ม.5 โรงเรียนดังแห่งหนึ่ง เตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว บางอย่าง บางวิชา จะดูเก่งกว่าด้วยซ้ำไป สำคัญที่พ่อแม่ต้องหนักแน่น ทนฟังคำพูดของคนอื่นที่จะคอยถามว่าลุกท่องก-ฮได้ยัง เขียนหนังสือได้ยัง อ่านหนังสือได้ยัง   เด็กเป็นเด็กได้แป๊บเดียว โตแล้วจะกลับไปเล่นแบบเด็กๆก็ไม่ได้นะคะ ปล่อยให้เค้าได้เล่นให้เต็มที่ดีกว่าค่ะ จากคุณ : jjiab.pa เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 22:29:16

ความคิดเห็นที่ 20 เราคิดเหมือน คห 14 เลยค่ะ แต่เรายังไม่มีลูกเลยนะ คิดไปไกลและ 5555 เราอยากให้ลูกเรียนแบบบูรณาการ มีกิจกรรมต่างๆให้เล่นให้ทำ เพราะเรื่องพวกนี้ เราว่าเราสร้างเองได้ยาก แล้วเราค่อยมาติววิชาการกับลูกเอง น่าจะง่ายกว่า เพื่อนของหลานเรา เรียนอนุบาล ประถม โรงเรียนเดิม ยังปรับตัวกับการเรียนของประถมไม่ได้เลยค่ะ จากที่ไม่เคยร้องไห้เวลาไปโรงเรียน กลับร้องไห้ทุกวัน เรื่องปรับตัวเราว่าอยู่ที่เด็กค่ะ อาจจะมีพ่อแม่คอยช่วยแก้ปัญหาว่าลูกไม่อยากไปเพราะอะไร จากคุณ : Gingerging เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 22:34:13

ความคิดเห็นที่ 21 ลูกสาวเรียนแนวบูรณาการค่ะ  ตอนแรกเค้าติดไม่มาก  ร้องไห้ไม่ยอมไปรร.เลย  พอผ่านซัมเมอร์1เดือนและเปิดเทอมผ่านไปประมาณ2 าทิตย์  รู้สึกได้ว่าเค้าเป็นเด็กที่มีความสุขไม่เครียดจากการไปรร. รับรู้ได้เลยค่ะตอรกยังคุยกะครูเลยค่ะ สงสัยจะต้องใช้เวลาปรับตัวเป็นปีแน่ๆ  แต่ผิดคาดค่ะแค่2เดือนเค้าก็มีความสุขจากการไปรร.แล้วค่ะ  เรากะให้ลูกเรียนพิเศษเสริมเอาค่ะ  ไม่อยากให้เค้าเครียดจากการไปเรียน  เค้าเข้าเรียนเตรียมอนุบาล2.6ปีค่ะ จากคุณ : ยิงประตูสู่ฝัน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 22:41:38

ความคิดเห็นที่ 22 เราเืลือกแบบผสมผสานค่ะ ไม่บูรณาการสุดโต่ง จนเกินไป มีขีดเขียนผสมด้วย หากต้องเปลี่ยนแนวตอนประถมจะได้ไม่เหนื่อยมากค่ะ จากคุณ : veryveron เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 10:08:33

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ เราว่าร.ร.ที่เลือกให้ลูกเรา ก็คงไม่ได้บูรณาการจ๋าเลยซะทีเดียว คิดว่าร.ร.เค้าก็มีการปรับเปลี่ยนบ้างเหมือนกัน เผื่อเด็กๆจะต้องเปลี่ยนแนวอะคะ เราอยากให้ลูกเรียนและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข คิดเป็นอย่างมีเหตุมีผล รู้จักตัวเอง และเข้าใจความต้องการของตัวเองค่ะ งั้นเราคงมาถูกทางละ สำคัญ อย่าเปลี่ยนใจกลางทาง หรือเปลี่ยนไปเปลี่ยนมารึเปล่า^^ จากคุณ : Miss Hope เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 11:06:05