ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเรื่องอาหาร เราคิดว่า แม่สามีคงไม่อยากให้กินนอกบ้าน หรืออาหารถุงอะคะ คงอยากให้คุณทำให้มากกว่า ซึ่งเราคิดว่า คุณแม่สามี ที่เป็นแม่บ้านอย่างเดียว จะเป็นแบบนี้ทุกคน เรากับสามีก็ทำงาน สามีก็กลับดึก แต่เราก็ทำอาหารให้เค้าทุกวันนะคะ หลังๆน้ำหนักเราขึ้นเยอะ เพราะกินดึก เลยต้องกินก่อน ถามกันทุกเย็น "ว้นนี้กินไร" คำตอบเหมือนเดิมทุกวัน "กินไรก็ได้" สรุปกรรมตกอยู่ที่คนทำ คิด คิด คิด ไม่ออกทุกที จากคุณ : Sprite_12 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 11:39:58

ความคิดเห็นที่ 2 เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปค่ะ เรื่องเล็ก ๆ อย่าเก็บมาเป็นอารมณ์^^ แม่สามีเราก็บ่นเรื่องซื้อกิน ว่าสกปรกบ้าง ผงชูรสเยอะบ้าง เปลืองบ้าง แต่เราไม่สนใจค่ะ ยิ้ม ๆ รับฟังไป วันไหนหยุดไม่เหนื่อย ก็ทำกินกันเอง แต่อาทิตย์ไหนเพลียมาก ก็กินนอกบ้านเหมือนเดิม ชีวิตคนเมืองมันก็อย่างนี้แหละค่ะ จากคุณ : twas เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 11:49:53

ความคิดเห็นที่ 3 ธรรมดาค่ะ แม่รักลูกก็ย่อมห่วงลูกเป็นธรรมดา คุณลองคิดตามนิสัยของคนเป็นแม่ดูสิคะ ว่่าเวลาที่ฝากคนอื่นดูลูกหรือไปค้างที่อื่นไม่ว่าจะเป็นปู่ย่าตายายคุณจะห่วงอะไรบ้าง ห่วงเค้าแค่ไหน เมื่อก่อนเราก็เคยเป็นตอนอยู่กับแฟนใหม่ๆซื้อกับข้าวถุง บางเดือนกินมาม่ากันตอนสิ้นเดือนเราก็นั่งร้องไห้นะว่าอยู่กับเขาเราพาเขามาลำบากถ้าเค้าอยู่กับแม่สบายกว่านี้อีกกินข้าวอิ่มทุกมื้อไม่ต้องมากินมาม่า บลาๆ เค้าก็บอกไม่เป็นไรอยู่ด้วยกันก็ธรรมดาลำบากบ้าง มีความสุขบ้างอย่าไปคิดมากเพราะเค้ายังไม่คิดอะไรเลย เราเลยสบายใจขึ้น ต้องลองถามแฟนคุณว่าเค้าแฮปปี้หรือเปล่า อย่าไปคิดมาก จากคุณ : dekyingfon เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 11:50:18

ความคิดเห็นที่ 4 เหมือนแม่สามีเราเป๊ะเลย แม่สามีเรายังทำทุกอย่างให้ลูกชายอยู่เลย หุงหาอาหารให้ทำกับข้าวประเคนให้ถึงปากดีนะไม่เคี้ยวให้ด้วย เสร็จแล้วเก็บจานให้ล้างให้เรียบร้อนลูกชายนั่งกระดิกเท้าเฉยๆ ผ้าผ่อนแม่จัดให้รีดให้ซักให้เสร็จ(ของสามีคนเดียวนะ) จนเราสงสารอ่ะแก่แล้วยังต้องมาทำก็เลยเอามาทำเองก็บอกว่าเรารีดไม่เรียบเอากลับไปรีดเองเหมือนเดิม สามีเราจะเอาอะไรได้ทุกอย่างจะออกไปไหนไม่ต้องห่วงเดี๋ยวแม่ดูลูกให้ ไปให้เต็มที่ สามีเราต้องมาเลี้ยงลูกผลัดกับเราแม่บอกไม่ต้องเดี๋ยวแม่ทำเองไปนอนเถอะ..สามีเรานอนกินบ้านกินเมืองมากค่ะตื่นเกือบเที่ยงในวันหยุดและตื่น 9 โมงวันไปทำงาน สามีเราป่วยเป็นไข้ ไอ เจ็บคอ เราเป็นพยาบาล..แต่ไม่ต้องค่ะคุณแม่จัดยาให้เรียบร้อย ทำน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้งให้สามีจิบ..เราสบาย 555 อย่าไปซีเรียสเลยค่ะ..คิดเสียว่าดีซะอีกเราไม่ต้องไปเตือนไม่ต้องไปเหนื่อย เรานะสบายเลยไม่ต้องไปใส่ใจสามีเลยเค้ามีแม่คอยดูแลอยู่แล้วเราก็ดูแลแค่ลูกเราพอ ช๊อบชอบ 555 ปล.ทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ใช่เราไม่อยากทำแต่แม่เค้าทำแล้วมีความสุขที่ได้เห็นสามีเป็นเด็กตัวน้อยๆของเค้าอีกครั้งนึง สามียังขี้อ้อนแม่เหมือนเด็ก 3 ขวบค่ะ..ตอนแต่งงานมาถึงได้รู้ว่าเป็นขนาดนี้ = =' แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 12:46:15 จากคุณ : Z-Cube เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 11:55:16

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านที่คุณเขียนแล้ว ก็รู้สึกว่า น่าห่วงอาหารการกินของสามีคุณ(จะรวมคุณด้วยหรือเปล่า ไม่แน่ใจนะคะ).....คุณรู้ไหมว่า คนเราสมัยนี้ เป็นโรค เพราะอาหารการกินกันไม่น้อยเลย ยิ่งกินอาหารนอกบ้านยิ่งน่าห่วง จขกท ต้องลองกลับมาคิดดูแล้วนะคะว่า ความเป็นอยู่ของคุณมันน่าห่วงไหม ทั้งเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย ผู้ใหญ่นะ เขาคิดถึงเรื่องสุขภาพกันมากพอสมควร ถ้าเขาเห็นคุณใช้ชีวิตแบบมีความเสี่ยง เขาเตือน แล้วทำไมคุณถึงได้ไม่อยากรับฟังละคะ แล้ว ทางบ้านสามีคุณเขามีความเสี่ยงจากพวกโรคเบาหวานกันไหมคะ เพราะถ้ามีแล้วคุณไม่รู้ ไม่ระมัดระวังเรื่องการกินอยู่กัน คุณว่าแม่สามีคุณเขาจะไม่ห่วงหรือ อย่าไปคิดว่าแม่สามีตำหนิเลยค่ะ ใช้โอกาสนี้แหละ คุยกัน แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 12:20:13 จากคุณ : ทะเลสวย น้ำใส เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:19:23

ความคิดเห็นที่ 6 ทำไมเราคิดว่าดีหล่ะคะ ถ้าแม่เค้าห่วงลูกก็ไม่เห็นแปลก เป็นเราเราจะซื้อของสดไปไว้ให้แม่ทุกวัน ให้ท่านช่วยทำกับข้าว(ถ้าท่านไม่ว่าอะไรนะ) เย็นมาก็ทานกันได้เลย สะอาดและอร่อยกว่าข้างนอก หรือไม่ จขกทก็ทำอะไรติดตู้ไว้ตอนเย็น สามีคุณกลับดึกก็ให้เค้าอุ่นทานได้ แต่ถ้าคุณเหนื่อยก็ลองเสนอให้คุณแม่เค้าทำให้ทานดู ท่านคงเต็มใจทำให้ลูกอยู่แล้วแหละ เราว่าแม่เค้าห่วงก็ไม่แปลกหรอก ว่าแต่จขกททำอะไรให้คุณสามีทานอ่ะคะ แม่เค้าถึงบ่น จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:19:32

ความคิดเห็นที่ 7 เหมือนน้องสะใภ้เราค่ะ เธอไม่ทำกับข้าวไม่ว่ามื้อใหน ตอนเช้าสามีเธอกับลูกเธอจะมาทานที่บ้านแม่เรา(แม่เราอายุเกือบ 80 แล้ว ต้องมาทำอาหารให้ลูกหลาน เพราะสะใภ้ไม่ยอมทำ) ตอนเย็นเธอกับสามีจะไปทานข้างนอก ส่วนลูกเธอแม่เราก็ต้องทำให้ ถามว่าบกพร่องมั้ย เราตอบตรงๆว่าบกพร่องนิดหน่อยนะ เพราะแต่งงานกันไปแล้ว ก็ควรเตรียมอาหารให้แฟนกับลูกเอง ถ้าทำไม่เป็นก็หาซื้ออาหารถุงเก็บไว้ พอแฟนมาก็อุ่นให้ทานก็ได้ค่ะ ส่วนเราแฟนกลับมาค่ำเหมือนกัน เราต้องเตรียมกับข้าวให้ แล้วทานก่อนเลยเพราะไม่อยากกินดึกๆ พอเค้ากลับมาก็จัดโต๊ะ แล้วนั่งเป็นเพื่อนเค้าค่ะ จากคุณ : พิกพูห์ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:27:52

ความคิดเห็นที่ 8 เข้าใจว่าคุณคงอึดอัด และอยากเป็นส่วยนตัวมากกว่านี้นะคะ แต่การที่คุณอยากบอกว่าให้แม่สามีเอาลูกชายตัวเอง(คือสามีคุณ)กลับไปดูแลเองเลยไหม เป็นความคิดที่ไม่น่ารักเอาซะเลยค่ะ ดังนั้นขอตอบคำถามจากหัวข้อกระทู้คุณนะคะ เราเป็นสะใภ้ที่ไม่ดีใช่ไหม กระทู้น้อยใจ  >>>ไม่ใช่ลูกสะใภ้ที่ไม่ดีค่ะ แต่เป็นลูกสะใภ้ที่ไม่น่ารัก ไม่เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ อาจเป็นเพราะคุณยังไม่มีลูก วันที่คุณมีลูกคงจะเข้าใจความรู้สึกของแม่สามีได้มากกว่านี้ วันนั่นน้ำตาคุณอาจตกในก็ได้ค่ะ และความจริงคนทีี่ควรน้อยใจไม่ใช่คุณนะคะ น่าจะเป็นแม่สามีที่น่าจะน้ิอยใจมากกว่าค่ะ ถ้าเค้ารู้ว่าคุณคิดแบบนี้ จากคุณ : candy_pinkmie!! เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:39:16

ความคิดเห็นที่ 9 ปกติจะทำกินกันวันหยุดค่ะ วันธรรมดาก็นาน ๆ ที ส่วนใหญ่จะซื้อกิน ไม่ก็กินข้างนอก แล้วแต่โอกาส เราไม่ไ้ด้เป็นแม่บ้านอยู่ทำอาหารทุกวัน ถ้าวันไหนมีเวลาเราก็จะซื้อมาทำ เราิคิดว่าเราก็ดูแลในระดับหนึ่ง แต่เราไม่ได้ดูแลตลอดวันไง เวลาทำงานเราเห็นว่าเค้าโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ ไม่ถึงขนาดต้องโทรไปย้ำๆๆ ว่ากินข้าวด้วยนะ ซึ่งเราเห็นแล้วว่า ย้ำไปก็เท่านั้น จะกินหรือไม่เป็นที่ตัวเค้าเอง จะให้เราวิ่งไปดูหรือโทรไปบอกทุกวันมันไม่ใช่แล้วไง ถ้าเรามีลูก เราคงไม่โทรไปบอกให้ลูกกินข้าวทุกมื้อหรอก เราห่วงน่ะใช่ แต่ถ้าลูกเราโตแล้ว ต้องแบ่งด้วยว่าเค้าควรดูแลตัวเองได้แล้ว ไม่ใช่คอยห่วงไปซะทุกเรื่อง แล้วเมื่อไหร่คุณแม่จะเรียกว่าหมดห่วงได้คะ จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:45:33 A:101.109.59.133 X: TicketID:373660

ความคิดเห็นที่ 10 น้องสาวญาติๆกันที่แยกไปมีครอบครัว...ชีวิตเหมือนดูดี กึ่งๆไฮโซ รสนิยมสูง แต่พอไปเห็นโภชนาการของเธอแล้วอ่อนใจเลย แล้วลูกตัวเล็กๆมันจะมีอะไรไปบำรุงสมองร่างกาย ทอดไข่ก็แทบไม่เป็น ตุ๋นไข่พอเป็น มาม่าทั้งปี....เราเป็นคนทำอาหารคุณภาพดีๆเป็นประจำ พอครอบครัวเธอมาบ้านเราบอกลูกไม่กินผักน้ะ เห็นลูกเรากินชีสก็โกยเอาๆแต่สุดท้ายก็คายทิ้ง พาไปกินแต่อาหารจานด่วนแป้งๆหมูๆมันๆ ชอบที่ลูกอ้วน!!! โถ...บางอย่างโดยเฉพาะความเข้าใจในโภชนาการในสุขภาพนี่ก็ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจนะครับ แต่ก็ป่วยการสำหรับบางคน คนเราพื้นฐานการเอาใจใส่ ประสบการณ์ สภาพแวดล้อมในครอบครัวเดิมอาจจะต่างกันได้ แต่เหตุผลทางวิทยาศาสตร์และภูมิปัญญานั้นหาเวลาคุยและปรับกันได้ครับ สาว-หนุ่มบางคนเอาง่ายเข้าว่า แต่บาคนถึงเอาง่ายแต่ก็ฉลาดกิน คนแก่บางท่านทำเพราะแค่เคยชินและ"เชื่อว่า" ...หากได้ศึกษากันและกันเอาแค่พอประมาณก็น่าจะเป็นที่เข้าใจกันไม่ยาก จะได้ง่าย ได้สะดวก ได้สุขภาพกันดีทั้งครอบครัวครับ จากคุณ : ฮ5555 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:51:29 A:203.131.212.123 X: TicketID:071933

ความคิดเห็นที่ 11 สรุปว่า คุณแม่สามีเค้าห่วงที่สามีทานของไม่มีประโยชน์หรือว่าทานข้าวไม่ตรงเวลาคะ อ่านตอนแรกคิดว่าเรื่องหารที่กิน  พออ่านคห.9เหมือนว่าไม่ยอมทานข้าวให้ตรงเวลา จขกท อย่าไปโกรธแม่เค้าเลย ถ้าเราไม่มีเวลาดูแลหรือดูแลเค้าได้ไม่ดีจริงๆ บางทีมันก็ต้องยอมรับนะ ให้แม่เค้าช่วยจัดการสิคะ แม่เค้าคงเต็มใจทำให้ลูกชายอยู่แล้วแหละ คุณเองก็ไม่ต้องเหนื่อยแล้วก็หัวเสียฟังคำแม่เค้าบ่นด้วย อยากฝากจขกทไว้นิดนึงนะ อย่าพยายามเอาเรื่องแบบนี้เก็บมาคิด เพราะวันนึงเมื่อเก็บเล็กเก็บน้อยไปเรื่อยๆ มันก็จะเข้าสเตปแม่ผัวลูกสะใภ้โลกแตก เดาว่าคุณคงแต่งได้ไม่นาน พยายามเปิดใจนิดนึง มันไม่ถูกใจเราแต่ถ้ามันเป็นความหวังดีและคนที่ได้ประโยชน์ก็คือสามีคุณเอง คุณน่าจะเปิดใจรับดู อย่าเอาความไม่ชอบของเราเป็นที่ตั้งอย่างเดียว แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 13:21:34 จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:54:47

ความคิดเห็นที่ 12 ก็เป็นแบบนี้เกือบทุกบ้านแหละครับ จากคุณ : ริมน้ำคาน เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 13:09:17

ความคิดเห็นที่ 13 แต่งงานมา 9 ปี ก็เหมือนเจ้าของกระทู้ทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลง แต่งงานแรกๆ ก็น้อยใจมากๆ น้อยใจเรื่อยๆ จนมาปีนี้ 9 ปี อิชั้นเถียงแล้วคะ เถียงต่อหน้าสามีด้วย ไม่ไหวจะทน พ่อแม่เราก็ไม่ใช่ ความอดทนหมดไปแล้วคะ จากคุณ : +สาวสวย+ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 13:10:40

ความคิดเห็นที่ 14 อย่าน้อยใจเลยค่ะ บ้านเราก็เป็นเหมือนคุณ ทำเฉยๆซะก็สิ้นเรื่องค่ะ คิดซะว่า "เพราะเรารักผู้ชายคนเดียวกัน" แล้วมันจะผ่านไปและชินเองค่ะ ^_^ จากคุณ : ชื่อนี้แหล่ะดีแล้ว เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 13:39:15 A:58.97.99.178 X: TicketID:345963

ความคิดเห็นที่ 15 อย่าไปใส่ใจเลยค่ะ  เรามันคนทำงาน  ไม่ใช่คนว่างงาน  ที่จะมีเวลามาปรนนิบัติสามีตลอดเวลา จากคุณ : PapikaS เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 14:05:10

ความคิดเห็นที่ 16 เราอยากให้แม่สบายใจน่ะค่ะ อยากได้ยินว่า แต่งงานไปแล้วแม่ก็หมดห่วง เห็นอย่างนี้แล้วก็หมดห่วง ฯลฯ เพราะหนูก็ดูแลเค้าได้ ฮือๆๆๆ เรื่องโภชนาการ เราไม่บกพร่องขนาดให้กินแต่ไข่หรือมาม่าหรอก อาหารก็ปกตินี่แหละค่ะ เมนูธรรมดา ไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็ไม่ได้น้อยจนเกินไป เราไม่เข้าใจว่าต้องขนาดไหนถึงจะเรียกว่าอาหารดี ๆ ของคุณแม่อ่ะ ฮือ น้ำตาซึม จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 14:14:18 A:101.109.59.133 X: TicketID:373660

ความคิดเห็นที่ 17 สามีภรรยาต้องดูแลกันและกันค่ะ จะมาให้สามีดูแลอยู่ฝ่ายเดียว หรือภรรยาดูแลอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ได้ แต่งงานมาเป็นคู่ชีวิต ไม่ใช่แต่งงานเพื่อมามีลูกวัยแก่ อีกอย่างเรื่องกินข้าวหรือโภชนาการ แม้เเต่เวลากินข้าว ไม่ทราบว่าสามี จขกท อายุเท่าไหร่ ที่เราเคยเรียนมาตั้งเเต่ป.5นะ รู้ว่าต้องกินอะไรเท่าไหร่ยังไง ถ้าไม่รู้ก็เสิร์จกูเกิลมีหมดนั่นแหละ คือโตๆกันแล้ว เรื่องปัจจัย4 มันไม่สมควรให้พ่อแม่หรือแม้แต่ภรรยาสามีดูแลอีกฝ่ายนึงหรอก แม่เราทำอาหารไม่เป็น ถึงทำก็ไม่มีใคร แม้แต่ตัวเอง ก็ยังกินไม่ลง บ้านเราก็ซื้อเอาเป็นเรื่องปกติ จะทำก็มีพวกผักนึ่ง หรือหมูที่เขาหมักมาแล้ว พ่อแม่เราก็อยู่กันมาได้จนมีหลาน บ้านพ่อเราก็ไม่เคยมาอะไรเรื่องนี้ เมื่อก่อนแม่ทำงาน แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำ ก็ยังไม่ทำอาหารอยู่ดี ปกติเราเองก็ไม่ทำ พอมามีลูกถึงทำให้ลูกกินคนเดียว เพราะตัวเองก็ขี้เกียจทำเองเหมือนกัน มื้อไหนขยันก็มาม่าใส่ผักใส่โปรตีน ผงชูรสไม่ต้องใส่ มันก็โอเค ถ้าถามถึงเรื่อง จขกท เราว่าเเม่สามีคุณเยอะเกิน ลูกชายไม่ใช่ 4-5 ขวบ ต้องมาหาอาหารนู่นนี่ให้กิน คือโตแล้ว มีวุฒิภาวะ หาเงิน ทำงานเองได้แล้ว แค่เรื่องกินต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าไม่มีเมีย อยู่คอนโดคนเดียวไม่อดตายเลยเหรอ เว่อร์ไปมากกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:13:13

ความคิดเห็นที่ 18 เคยเจอ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยแล้วค่ะ เพราะเราใช้วิธีพูดและทำต่อหน้าแม่เค้าเลย ว่าเราคอยดูอาหารการกิน อะไรมันๆ งด อะไรอ้วนๆ งด บางทีแม่สามีให้ลูกชายกินเยอะ เราก็ห้ามต่อหน้าเลย ว่าพอแล้วเดี๋ยวอ้วน บลาๆ เดี๋ยวนี้แม่สามีไม่ค่อยยุ่งเรื่องนี้เลย ไม่ค่อยห่วงด้วย เพราะเราทำแต่ของมีปย. แล้วก็ให้สามีรู้จักพูดให้แม่เค้ารับรู้ด้วย ซึ่งก็ได้ผล เพราะพูดออกจากปากลูกชาย แม่ก็เชื่อไปโดยปริยาย :) จากคุณ : พ่อเจ้าประคุณรุนช่อง เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 19:42:24

ความคิดเห็นที่ 19 แม่สามีเราก็เป็นค่ะ ชอบทำกับข้าวอร่อยๆให้ทาน แต่เค้าไม่เคยว่าเราดูแลลูกเค้าไม่ดีนะคะ ดูเค้ามีความสุขที่ได้ทำให้ลูกเค้า ที่สำคัญคือเผื่อแผ่มาถึงเราด้วย รู้ว่าเราชอบอะไรก็ทำให้ อยากบอกว่าแม่เรายังไม่เอาใจเราขนาดนี้เลย เสียดายแม่มาแค่เดือนละครั้ง จากคุณ : ไอกะจัง เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 20:29:43

ความคิดเห็นที่ 20 ความสุขของคนเป็นแม่คะ คนเป็นแม่ไม่ว่าลูกจะโตเท่าไหนแต่ความรู้สึก และเป็นห่วงไม่เคยลดลงคะอย่าเก็บ มาเป็นอารมย์ดีเสียอีก จะได้มีอาหารรับประทาน จะน้อยใจทำไมเค้ารักเราก็ดีแล้ว เค้าไม่ได้รังเกลียดซะหน่อย ถ้าเค้ากระทำ ว่า หรือด่า แสดงกิริยาไม่ดีใส่เราค่อยเก็บมาคิด เค้าอาจะเห็นว่าคุณทำงานเหนื่อยแล้ว เค้าก็เลยอยากทำให้ อยากแบ่งเบา อย่าไปแปลความรักความหวังดีของแม่เป็นอย่างอื่นสิคะ  ไม่ดีคะ จากคุณ : cindychu เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 22:04:15

ความคิดเห็นที่ 21 อย่าน้อยใจไปเลยนะคะ มาค่ะ เราจะเล่าชีวิตรันทดกว่าของเราให้ฟัง เราทำงานออฟฟิศที่เมืองนอกนะคะ ขอแนะเรื่องอาหารการกินแล้วกัน ตัวเราเองทำงานนอกบ้านก็กลับมาทำกับข้าวมื้อเย็นที่บ้านทุกวันค่ะ ทำง่ายๆ เช่นสเต็ก เปลี่ยนเนื้อสัตว์ไปเรื่อยๆ เช่น หมู ไก่ เนื้อ ปลาแซลมอน ส่วนสเต็กก็เปลี่ยนรสชาติได้ เราทำสเต็กแบบฝรั่งบ้าง แบบญี่ปุ่น เกาหลีบ้าง และตบท้ายด้วยสลัดเสมอซึ่งเราก็ซื้อผักเองเป็นหัวๆ นะคะ แล้วมาเด็ดเอง ไม่ซื้อแบบที่เขาเด็ดมาแล้วตามสลัดบาร์นะคะ ซื้อเป็นหัวเลยถูกกว่า น้ำสลัดก็ทำเองค่ะทำทีเป็นขวดๆ เลยแล้วแช่เย็นไว้ มีน้ำสลัดบัลซามิกแบบฝรั่ง น้ำสลัดงาแบบญี่ปุ่น เวลาจะทานก็เขย่าๆ ราดผัก ง่ายค่ะ  คือเรื่องเมนูเราจะคิดไว้เลยตั้งแต่เช้า วันไหนทำพวกสเต็กนี่ง่ายเลยค่ะ หมักเนื้อแต่เช้าก่อนไปทำงาน แล้วกลับมาก็แค่เอาไปจี่ๆ บนเตา ระหว่างรอสุกก็ปรุงสลัดด้วย ไม่ถึง ๑๕ นาที ได้ทาน ถ้าไม่งั้นระหว่างทางกลับบ้านเราก็คิดไปด้วยว่าเราจะทานอะไรดีเย็นนี้ ง่ายกว่านี้อีกก็พาสต้าเลยค่ะ ต้มเส้นราดซอส จบ ระหว่างรอต้มเส้นก็ไปล้างเครื่องสำอาง เป็นไงคะ ชีวิตสาวออฟฟิศที่เมืองนอกไม่สบายเลยใช่ไหมคะ วันไหนเบื่อสเต็กก็ทำพวกผัดต่าง ๆ แกงต่างๆ ก็ง่ายค่ะ ทำเยอะก็ฟรีซไว้ทานที่ทำงานได้อีก ไม่งั้นก็ทำ Quiche แล้วเก็บแช่เย็นไว้ อุ่นกินได้ ๒ วัน สบายๆ พวกเนื้อตุ๋นเราทำบ่อยค่ะ ทำไว้เป็นหม้อใหญ่วันอาทิตย์ อุ่นทานได้อีก ๒ วัน ทานกับข้าวก็ได้ไม่ก็ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวซะก็เป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น บางวันแฟนเราเบื่อข้าว ก็ผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จะเน้นทานอาหารให้หลากหลาย พวกเนื้อสัตว์นี่ ๑ สัปดาห์จะพยายามหมุนเวียนไปไม่ให้ซ้ำค่ะ ที่บ้านเราเป็นคนจ่ายกับข้าวเอง และพยายามหลีกเลี่ยงพวกอาหารแปรรูปเช่น ไส้กรอก ของพวกนี้นานๆ ทานทีค่ะ กินดีอยู่ดี สุขภาพดีมีแรงทำงานนะคะ อาหารดีๆ ของเราคือแบบนี้แหละค่ะ เลือกเนื้อสัตว์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ ผักก็ต้องเลือกเอง มีที่มาที่ไปเราทราบว่ามาจากแหล่งไหน พยายามหลีกเลี่ยงของแปรรูป อาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง ของเค็มจัด มันจัด หวานจัด อ่านฉลากส่วนผสมทุกครั้งก่อนซื้อจะได้รู้ว่าเราจะเอาอะไรเข้าร่างกายบ้าง ที่สำคัญปรุงเองเรารู้ทุกขั้นตอนว่าใส่อะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้เราไม่ได้เหนื่อยเลย เรากลับคิดว่าเราทำเวลาของเราให้มีค่ามากขึ้นต่างหาก เพราะเรากำลังทำ "อาหาร" ให้คนที่เรารักเชียวนะคะ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 55 00:20:59 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 55 00:04:52 จากคุณ : ##TUKTA## เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 23:54:15

ความคิดเห็นที่ 22 เราว่าลองโทรไปหาแม่สามี แล้วบอกว่า วันก่อนสามีเล่าให้ฟังว่าแม่เคยทำ.....ให้กินตอนเด็กๆแล้วติดใจมากเลย หนูขอสูตรได้มั๊ยคะ? เดี๋ยวจะจดไปทำเย็นนี้บ้างค่ะ จากคุณ : ph-su เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 14:41:59