แม่กับลูก ... ระยะทาง 1 กิโลเมตร เดินแข่งกัน ใครจะถึงก่อนคะ...

เป็นคำถามที่ป้า ใช้ถามเพื่อนรุ่นน้อง
คำตอบก็ต้องเป็นแม่ที่เดินถึงก่อน เพราะ แม่เกิดก่อน โตก่อน
รู้แล้วว่าอะไรควร อะไรไม่ควร


แต่ลูก วัยกำลังอยากรู้อยากเห็น...
ลูกเมื่อเดินๆไป เจอบ่อน้ำแวะเล่นน้ำ
เจอคนตกปลา แวะดูคนตกปลา
เจอหมากัดกัน มันก็แวะดู

จะให้ลูกทำอะไร จะให้ได้ผล 100% อย่างใจเราคงไม่ได้
เพราะฉะนั้น เราต้องให้โอกาสเค้า

เพื่อนรุ่นน้อง เครียดเรื่องลูกชายวัยรุ่น(15-16) เธอมาระบายให้ป้าฟัง...
ป้ารับฟัง แต่เราคงไปชี้แนะอะไรเค้ามากไม่ได้

เพราะการเลี้ยงดูลูกแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน
ตอนเราบอก เธอก็รับฟัง แต่พอสักพัก เธอก็ลืม
แล้วใครมันจะขยันบอกๆๆๆ อยู่เรื่อยๆล่ะคะ

15-16 นี่ป้าคงแนะนำให้เค้าเปลี่ยนแปลงการเลี้ยงดู
การปฏิบัติตัวกับลูกไม่ได้แล้ว เด็กวัยนี้เริ่มต่อต้านแล้วค่ะ

ถ้าเราอยากให้ลูกเชื่อฟังเรา อยากให้ลูกเป็นเด็กอ่อนโยน
อยากให้ลูกพูดดี ลูกไม่ขี้โมโห ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี
อยากให้ลูกเป็นเเบบไหน...
เราต้องทำแบบนั้นกับลูกค่ะ


ถ้าคนเป็นแม่ นิสัยขี้เหวี่ยง ขี้วีน ขี้โมโห
ลูกจะอ้าปากอะไรไม่ฟัง ความคิดแม่เป็นใหญ่
เข้าบ้านมาก็มีแต่บีบบังคับ
ลูกต้องทำนั่นทำนี่ จนกว่าแม่จะพอใจ

เท่าที่รู้มามีคนเล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนที่ลูกยังเล็ก เพื่อนเป็นคนดุ
ป้อนข้าวลูก ลูกอ้าปากบอกร้อนจะคายทิ้ง เธอเงื้อมือจะตบปาก
บอกให้กลืน(คนที่เล่าให้ฟัง คงไม่มีเหตุอะไรที่จะให้ร้ายเธอ)
แต่เท่าที่ป้าคบมา7ปี เราคิดว่าเธอเลี้ยงลูกแบบบีบบังคับ

ป้าไปเที่ยวบ้านเธอ เห็นมีดค้างอยู่บนหลังคา ป้าถาม...
เพื่อนบอก ขว้างลูก

ตอนที่ลูกยังเล็ก ลูกก็ต้องทนกับพฤติกรรมของแม่
(เหมือนลูกไม่มีทางไป) แม่ยิ่งได้ใจ คิดว่าเอาลูกอยู่

แต่พอลูกโต เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เริ่มอยู่กับเพื่อนแล้วมีความสุข...พูดอะไรเพื่อนก็เข้าใจ คุยกับเพื่อนมีความสุขกว่าคุยกับแม่
คุยกับแม่มีแต่ด่าๆๆ

หลังๆมาลูกไม่กลับบ้าน แม่เค้าก็มาร้องไห้กับป้า
ป้าบอกเค้าว่าควรจะทำตัวอย่างไรถึงจะได้ใจลูก
แต่เค้าทำตามที่ป้าบอกได้ ไม่กี่วัน นิสัยเดิมๆก็กลับมา

จนลูกเค้ายังเคยแซวแม่เค้าว่า "แม่ฮา บ่อได้อู้กับป้ามิ้มหลายวันละ"


ลูกเพื่อน เข้าๆออกๆ บ้านหลายครั้ง
พอลูกออกบ้านแม่ไปเอาอกเอาใจกลับมา
ลูกอยู่ได้ไม่กี่วัน แม่ทำนิสัยเดิมๆ
ลูกก็ออกบ้านไปอีก
จนครั้งที่สาม คราวนี้ พาสาวน้อยวัยเดียวกันเข้ามาอยู่บ้านด้วย
(แปลกค่ะ พ่อแม่ผู้หญิงไม่ตาม ทุกวันนี้(5-6เดือน) เพื่อนก็ยังไม่เคยเห็นหน้าตาของพ่อแม่ฝ่ายหญิง)

เธอถามความเห็นป้าว่าจะทำยังไง ป้าบอก
ถึงขนาดนี้แล้วคงต้องยอม... แต่ขอให้พากันเรียนหนังสือ(ปวช 1)

ลูกเมื่อเห็นแม่ยอมก็เรียกร้อง ขอรถมอเตอร์ไซด์ใหม่
มีคันเก่าอยู่แล้วแต่ไม่พอใจ

เธอมาปรึกษาป้า
ป้าบอกเธอว่า ทุกวันนี้ขนาดมอเตอร์ไซด์เก่า ยังพากันตะลอน ๆๆ
กลับดึก กลับดื่น ถ้ามีรถใหม่ คงต้องมีภาระเพิ่มขึ้น ค่างวด
ค่าน้ำมัน ค่าแต่งรถ คิดเองละกัน...
สรุปเธอบอกให้ลูกใช้คันเก่า
ลูกก็ฮึดฮัด ไม่พอใจ ไม่กี่วันต่อมา มีมอเตอร์ไซด์คันใหม่ขี่มาโชว์แม่
ถามได้ความว่า แม่ผู้หญิงซื้อให้

อ้อ กลับมาคราวนี้ ขโมยเงิน ขโมยของในบ้าน (ติดบุหรีทั้งคู่)
เงินที่ให้ในแต่ละวันไม่พอใช้(เพื่อนเป็นแม่ค้าค่ะ)
และเมื่อเร็วๆนี้ งัดกระจกรถยนต์ จนกระจกรถแตก...

ลูกบอกว่า ไม่ได้เป็นคนทำ แต่ ใครล่ะ เพราะบ้านรั้วรอบขอบชิด
ลูกทำเป็นโมโหและพากันออกจากบ้านไป ส่ง sms มาต่อว่าแม่เป็นระยะๆ ว่า ไม่ต้องง้อ ไม่ต้องโทรตาม เพื่อนก็มาปรึกษาป้าว่าจะทำยังไง
ป้าไม่รู้จะบอกยังไง

นอกจากบอกให้เธอทำใจ...และบอกเพื่อนว่า
ที่ผ่านๆมา เราปฏิบัติตัวแบบไหนกับลูก ...
(ป้าอธิบายให้เธอฟังว่า ลูกถอดแบบแม่มาแบบไหน)
เพื่อนก็ได้คิดว่า สิ่งที่เธอเคยปฏิบัติกับลูกมันผิด
ที่ผ่านมารู้ว่าผิดมาตลอด แต่ตอนนี้ปรับตัวแล้ว ทำไมลูกไม่คิดปรับตัวเข้าหาแม่(เธอคร่ำครวญ)

ถึงตอนนี้ จะให้ได้ใจลูกในเวลาแค่วัน สองวันคงเป็นไปไม่ได้ คงต้องรอให้ลูกคิดได้เองแต่มันต้องใช้เวลาค่ะ


อ่านแล้วเหนื่อยกันมั้ยคะ...

แต่ป้าเชื่อว่า  ถ้าเราเริ่มต้นดี คงไม่เหนื่อยขนาดนี้

ปล เธอเป็นคนปากเร็ว ป้าเคยบอกเธอว่า พูดแล้วทำไม่ได้ ไม่ต้องพูด
เช่น เดี๋ยวจะแทงให้ใส้ไหล เดี๋ยวจะเอามีดปาดคอเลย

ป้าชอบต่อว่าเธอ ...พูดแล้วทำไม่ได้ ไม่ต้องพูด



.

แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 55 09:24:14

จากคุณ	: 18 นะไม่ใช่อายุแต่เป็นมงกุฏ
เขียนเมื่อ	: 7 ก.ย. 55 09:00:46