ความคิดเห็นที่ 1 เป็นเราคงเกรงใจบริษัทลาออกไปเลยหละค่ะ จากคุณ : แหวนโอปอ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:05:40

ความคิดเห็นที่ 2 ให้เขาหยุดพักผ่อนยาวเลย คลอดแล้วค่อยว่ากันว่าอยากทำงานต่อไหม ช่วงหยุดนี้ก็ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนดีไหมคะ ลองถามเขาดูว่าถ้าหยุดสองเดือนไม่ขอจ่ายเงินเดือน เพราะไม่ได้ลาคลอด ดูว่าน้องเขาโอเคไหม จากคุณ : Pimnattada เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:06:31

ความคิดเห็นที่ 3 พูดยากค่ะ ถ้าไม่ให้หยุด เกิดลูกเค้าเป็นอะไรไป ก็คงเสียใจ จากคุณ : แม่ยูอินะ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:08:02

ความคิดเห็นที่ 4 เราแพ้มากค่ะทำงานไม่ได้เลย งานเรายกของหนักซะด้วย..เราลาออกค่ะ คลอดแล้วค่อยหางานใหม่ค่ะ จากคุณ : Z-Cube เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:09:57

ความคิดเห็นที่ 5 หยุดไปเถอะค่ะ สงสารเขา...แค่ไม่จ่ายเงินเดือน กลับมาทำเมื่อไหร่ก็จ่ายใหม่ได้นิค่ะ...คือคนท้องบางคนก็เยอะนะค่ะ มีคนรู้จัก แพ้ท้องตั้งแต่เดือนแรกยันลูกออกเลยค่ะ เข้าแต่รพ. ขนาดว่าอยู่เฉยๆเลยนะ(บ้านเขารวยมาก) แต่เราท้องจะคลอดไม่เคยแพ้เลย แถมขับรถไปตจว. เองด้วย!!! มันแล้วแต่คนจริงๆค่ะ จากคุณ : Hello_love_U เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:13:53

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าเป็นเราคงให้ไปพักผ่อน แต่ไม่จ่ายเงินเดือนค่ะ บริษัทฯ มีสิทธิทำได้นะคะ เพราะว่าไม่ได้ลาคลอด แล้วถ้าคลอดจะลาอีกกี่เดือนค่ะ  (เกินกว่าที่ประสังคมกำหนดหรือเปล่าคะ??) บอกเขาไปตามตรงเลยค่ะ  ว่าให้หยุดได้ แต่ไม่จ่ายเงินเดือนในช่วงที่หยุด หรือคิดว่า ถ้าไม่พร้อมจะทำงานจริงๆ จะลาออกก็ได้นะคะ เพราะว่าในเรื่องงานจะได้ไม่มีปัญหา และเปิดโอกาสให้กับคนที่เขาว่างงานอยู่ค่ะ.. จากคุณ : แม่หญิงฟุ้งซ่าน เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:15:44

ความคิดเห็นที่ 7 ที่บริษัทเราเคยมีแบบว่า ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วมาขอลาหยุดประมาณ 1 เดือนก่อนคลอดโดยคิดเป็นลาป่วยไป มีใบรับรองแพทย์มายืนยันค่ะ จากคุณ : Ultranan เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:18:14

ความคิดเห็นที่ 8 คิดว่า ให้เค้าหยุดไปเถอะค่ะ ภาวะการตั้งครรภ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนแพ้มาก บางคนแพ้น้อย บางคนไม่แพ้ บางคนแพ้จนคลอด และบางคนไม่ความเสี่ยงในการแท้งค่างกันค่ะ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะให้น้องเค้าลาหยุด แต่ตกลงกันว่าจะไม่จ่ายเงินเดือนค่ะ หรือจ่ายครึ่งนึงของเงินเดือนค่ะ จากคุณ : หนูน้อยจมูกบาน เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:21:46

ความคิดเห็นที่ 9 เราไม่เคยแพ้ท้องก็เลยไม่รู้ว่าคนที่แพ้เค้าหนักหนาแค่ไหนเนาะ ให้หยุดไม่จ่ายเงินน่าจะดีที่สุด   ว่าแต่ลูกอึกนี่ให้น้องเค้าช่วยทำอะไรคะ จากคุณ : reunion เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:21:54

ความคิดเห็นที่ 10 เข้าใจอารมคนท้องนะคะ แถมอาการแทรกซ้อนเยอะอยู่ ดูแล้วน่าจะแท้งง่ายกว่าคนอื่นๆ(มั้ง) ถ้าแท้งมาไม่คุ้มกันเลย ถ้ามองในมุมของคนนั้น เขาคงกลัวหางานใหม่ยากค่ะ งานเดี๋ยวนี้ไม่ใช่หากันได้ง่ายๆนะ ช่วงเขาลาก็ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนให้ เพราะมันเป็นสิทธิ์ของบริษัทคุณค่ะ ช่วงที่คนนั้นลาไปนั้นลอง หาคนมาทำงานแทนเป็นสัญญาจ้างชั่วคราว เราเห็นหลายที่เขาก็ทำกันแบบนี้นะคะ ..... แม่ๆท่านอื่นจะว่ายังไงหนออออ จากคุณ : yingpoon เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:22:54

ความคิดเห็นที่ 11 เราคนนึงที่แพ้หนักหยุดงานไป 1 เดือน เพราะที่ทำงานเข้าใจคือมาทำก็เดินอ้วกไม่ได้ทำงานเลย และมดลูกเกาะต่ำด้วย เข้าโรงพยาบาลเดือนนึง 2 - 3 ครั้งเป็นอย่างต่ำ แต่พอหายแพ้ดีขึ้นก็กลับมาทำนะคะ แต่เกี่ยวกับทาลัสซีเมียไม่ทราบนะคะ ว่าต้องดูแลยังไง เพราะของเราหมออยากให้นอนอยู่บนเตียงเฉย ๆๆ  แต่เราก็มาทำค่ะ จากคุณ : keylove เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:25:27

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าน้องเค้ายังอยากกลับมาทำงานอยู่ ก็ขอใบรับรองแพทย์ + ให้ลาป่วยไม่ได้รับค่าจ้างไปอ่ะค่ะ จากคุณ : รอยยิ้มนางฟ้า เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:27:55

ความคิดเห็นที่ 13 เราก็เป็นพาหะนะคะ แต่สามีไม่เป็น คุณหมอก็ไม่ได้ให้พักงาน หรืออะไรนะคะ ก็ทำงานได้ค่ะ คือเราไม่มีอาการแพ้ท้องแบบโอ้กอ้ากด้วยค่ะ แรกๆ จะมีเพลียๆ อยากนอนบ้างเท่านั้น อันนี้แนะนำให้เค้าลาแบบไม่รับเงินเดือนไปก่อนมั้ยคะ จากคุณ : เลนส์สีฟ้า เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:31:31

ความคิดเห็นที่ 14 มีจริงๆค่ะ พี่ที่ทำงานเราลาหยุดช่วงท้องใหม่ๆไป 2เดือนกว่าๆเพราะแพ้ท้องมาก เค้าแพ้มากจริงๆค่ะมานั่งทำงานแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำวันนึงเป็น 10ๆรอบหน้าซีดเซียว อ้วกแบบเหมือนว่าไส้จะหลุดออกมาด้วยเลยค่ะน่ากลัว ตัวก็ผอมเดินแบบเหมือนคนไม่มีแรงเลย จนหัวหน้าเค้าเห็นว่าคงไม่ไหวสงสารก็เลยบอกให้เค้าลาได้จะช่วยพูดกับนายให้แต่ว่าก็คงต้องพิจารณาหักเงินเดือนตามอัตราส่วนไปเพราะว่าเดี๋ยวลาคลอดก็จะต้องหยุดอีก สรุปว่าก็ต้องหยุดงานไปค่ะโดยที่บริษัทก็ช่วยเอาสิทธิ์วันลานู่นนี่มาหักให้รวมๆก็ได้หยุดฟรีไปเกือบๆเดือนส่วนอีกเดือนกว่าๆนั้นก็ต้องหักเงินเดือนตามอัตราส่วนค่ะ จากคุณ : Bunny (Bunny_jaja) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:33:04

ความคิดเห็นที่ 15 เราก็ทำงานจนคลอดนะคะ ไม่แพ้ แต่เคยอ่านเรื่องคนแพ้ หนักๆมาแล้ว บางคนแพ้มากจริงๆ แพ้นุ่นนี่นั่น สารพัดจะแพ้ แพ้แม้กระทั่งเสียงโทสับ เสียงคนคุย แพ้กระดาษ ปากกา แพ้น้ำลายตัวเอง จนถึงขนาดต้องบ้วนน้ำลายตลอดเวลา ถ้ากลืนไปมีอ้วก ช่วงท้องต้องนอนอย่างเดียว ไปไหนไม่ได้ ถ้าแพ้แบบนี้ก็น่าสงสารนะคะ ส่วนเรื่องพาหะธาลัสซีเมีย คนเป็นเยอะค่ะ ไม่น่ากลัว น้องแฟนก็เป็น แต่ก็ปกติดีนะคะ คือเค้าไม่ได้ทำงานอยู่แล้ว อยู่บ้านเฉยๆ แต่ไม่ได้แพ้อะไรมาก แต่เรื่องรังไข่ ไม่ทราบค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 55 14:54:39 จากคุณ : มาม๊าน้องจีด้า เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:48:38

ความคิดเห็นที่ 16 พูดยากค่ะ แต่ก่อนเราก็คิดว่า ท้องเป็นเรื่องง่ายๆ แต่พอมาเจอกับตัวเอง คนละเรื่องเลยค่ะ เราบอกหัวหน้าตอน อาทิตย์ที่ 8 หลังจากนั้นมีเลือดออกกระปริบกระปรอยก็ลางานไปสองอาทิตย์ ก็ยังไม่ดีขึ้นทำงานที่บ้านไปอีก 6 อาทิตย์ จากนั้นทุกอย่างเริ่มโอเค จนมาอาทิตย์ที่24คุณหมอพบว่าปากมดลูกเปิดแล้ว เราต้องหยุดงานนอนโรงพยาบาลอย่างเดียว ตั้งแต่ตอนนั้นจนตอนนี้ 36 อาทิตย์แล้วค่ะ ตอนเราลางานไปนอนรพ. กระทบงานเราอย่างรุนแรง โปรเจกต์ที่เราดูอยู่กำลังอยู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อและเรารู้งานอยู่คนเดียว แต่หัวหน้า และเพื่อนร่วมงาน เข้าใจและเห็นใจเรามากค่ะ เราก็ให้ความจริงใจกับเค้า คือ เราบอกเราลาไม่รับเงินนะ (แต่ HR ก็ช่วยเราสุดชีวิต วันหยุดอะไรที่มีเอามาให้เราลาหมด) แล้วงานที่ติดขัด โทรมาหาเราได้เลย เราโทรไปตามงานตลอด ทั้งๆ ที่อยู่รพ. เราขอโทษหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานที่สร้างปัญหาให้ แต่เค้าจะพูดว่า เราก็ไม่ได้อยากจะเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องขอโทษหรอก เค้าพูดเลยว่า ณ จุดนี้ ไม่ต้องห่วงงาน เราห่วงตัวเอง ลูก และครอบครัวก่อน (หัวหน้าเราเป็นเกย์นะ) สรุปคือ ทุกคนไม่เหมือนกันค่ะ บางคนท้องแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ลูกก็แข็งแรงดี บางคนต้องทะนุถนอมสุดฤทธิ์ จากคุณ : yuki-onna เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:49:38

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นบริษัทขนาดเล็ก ขาดคนทำงานไปแล้วลำบากมากมั้ยคะ ถ้าไม่ถึงขนาดต้องหาคนมาแทนที่ ลองคุยกับเขาว่า ให้หยุดได้แบบไม่จ่ายเงินเดือนค่ะ ถือว่า ช่วยๆ กัน  แต่ถ้าเขาขาดงานแล้วเราลำบาก มีผลกระทบกับคนอื่นในบริษัท ก็คงต้องบอกเขาถึงผลกระทบและขอให้เขาลาออกค่ะ ส่วนเรื่องแพ้ท้อง พูดยากค่ะ ส่วนใหญ่แล้ว คนท้องไม่ใช่คนป่วยค่ะ สามารถปฏิบัติงานต่างๆได้เกือบเท่าคนปกติ เพียงแต่ระวังมากหน่อย แต่...บางคน ท้องแล้วเหมือนป่วยเลยค่ะ มันเป็นที่สภาพร่างกาย นี่พูดถึงคนปกติ สุขภาพโดยปกติก่อนท้องก็สมบูรณ์แข็งแรงนะคะ แต่พอตั้งท้อง แหม..บรรยายไม่ถูก ในชีวิตนี้ เจอมา 2 คน คนแรก น้าสาวเราเอง ท้องแล้วอาเจียนทั้งวัน หน้ามืดวิงเวียน แพ้หนักมาก เรียว่าไปฉีดยาแก้แพ้กันทุกอาทิตย์เลย แล้วแพ้กันจนคลอดลูก  อีกคนเป็นคนที่ทำงาน รายนี้ก็แพ้หนักมาก มาทำงานนี่ ใช้เวลากว่าครึ่งอยู่ในห้องน้ำ เธออาเจียนทั้งวัน กว่าจะคลอดเนี่ย ดูแย่มากๆ เลย แต่ก็ต้องทนมาทำงาน เพราะเธอกลัวตกงาน แต่บอกได้เลย ช่วงเธอท้องนี่ มีแต่ต้องช่วยเธอทำงานซะมากกว่า ส่วนเรื่องคนที่มีปัญหาในการตั้งท้องจริงๆ ก็มีค่ะ บางคนรกเกาะต่ำ มดลูกมีปัญหา พวกนี้หมอก็จะให้พักมากๆ แทบไม่กล้าขยับตัวกันเลยเชียว มีรายหนึ่งตั้งท้องแฝดสาม ท้องใหญ่มาก ตั้งแต่ท้องได้ 5 เดือน เธอใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนเตียงค่ะ กลัวลูกหลุด พอครบกำหนดก็ไปผ่าคลอด จากคุณ : Green Lime เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:51:43

ความคิดเห็นที่ 18 บริษัทเก่าเรา พี่ที่แพ้มากๆ เค้าอนุญาตให้ leave without pay ส่วนตัวเรา สามีให้เลิกทำงานค่ะ จากคุณ : meawkika เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:56:43

ความคิดเห็นที่ 19 เรามีภาวะแท้งคุกคามและแพ้หนักมากคะ หมอให้นอนพักอย่างเดียว เพราะเลือดออก ส่วนอาการแพ้ก็หนักหนามากคะ ทำไรไม่ได้เลยนอนอย่างเดียว กินน้ำเปล่ายังไม่ได้ ถ้าหัวหน้าไม่เข้าใจ เค้าจะยิ่งเครียดนะคะเหมือนเราก็เครียด ให้เค้าลาแบบไม่ต้องจ่ายเงินเดือนก็ได้คะ อย่าไล่ออกเลย เค้าก็คงเครียดนะคะ เราว่า ช่วยๆกันไปคะ เราเข้าใจเค้าเลยคะ จากคุณ : the_best_mum เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:57:50

ความคิดเห็นที่ 20 ขอแชร์ประสบการณ์ตัวให้ให้ จขกท.นะคะ ตอนเราท้องลูกคนแรก แพ้ท้องหนักมาก แบบกินอะไรไม่ได้เลย กิน- อ้วก กิน -อ้วก ชีวิตวนเวียนแบบนี้ จนเป็นลมคาอ่างอ้วก มาทำงานทุกวัน แต่นั่งซึมเป็นผีตาโบ๋ คือไม่ไหวจริงๆ แฟนก็มาส่ง เอาใจใส่ค่ะ ต่อมาดันท้องคนที่ 2 ( ไม่คิดว่าจะท้องอีก แค่คนแรกก็เข็ดแล้ว)แพ้หนักกว่าท้องแรกอีก แพ้จนอาเจียนออกมาเป็นเลือด ต้องแอดมิทไป 7 วัน (แฟนไม่สนใจเลย โทรหาก็บอกว่า โทรหาพ่อแม่เธอสิ โอ้ว...) พอออก รพ.มาได้หมอให้พักเลยค่ะ เขียนใบรับรองแพทย์มาเลยว่า สั่งพัก พอไปทำงานได้ ก็ตะกายไปค่ะ ช่วงนั้นมีปัญหากับสามี โดนกดดันให้ลาออกจากงาน ด่าๆๆๆทุกวัน อะไรก็ไม่รู้ ไหนจะลูกคนโตที่ต้องดูแล และยังแพ้ท้องอยู่ อ้วกตลอด กินไม่ได้ ไปทำงานก็เหมือนซากศพ เครียดมากช่วงนั้น  ทนอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์มั้ง ไม่ไหว โทรไปหาเจ้านาย บอกพี่คะ หนูขอลาออกค่ะ เจ้านายมาคุยด้วย เราเล่าให้ฟังหมดทุกอย่างที่คิด ทุกปัญหา เจ้านายบอกเลยว่า เออ...พี่เข้าใจว่าช่วงนี้แพ้ท้อง หยุดไปเลย พี่ให้หยุด 1 เดือน หยุดพักไปเลย เงินเดือนจ่ายตามปกติ หรือถ้ามีงานด่วนก็ทำจากที่บ้านแล้วส่งเมล์มา  เจ้านายเราผู้ชายนะคะ สิ่งที่เราอยากบอก จขกท. ก็คือ อย่าเอาตัวเองหรือคนที่เราเคยเห็นเป็นบรรทัดฐานว่า ท้องแล้วต้องหยุดงานเลยหรอ   คนอื่นๆเค้าก็ท้อง  และเป็นพาหะเหมือนกัน แพ้เหมือนกัน  เค้ายังอดทนทำงานได้จนคลอดเลย ก็คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน สภาพร่างกาย - จิตใจ ไม่เหมือนกันนะคะ บางคนท้อง ก็ดีใจ ฉันจะมีลูก บางคนไม่ใช่นะคะ เราว่าคุณควรจะเห็นใจเค้ามากกว่า ไม่ควรคิดว่า แค่ท้องถึงขนาดต้องหยุดงานเลยหรอ... เรื่องพาหะธาลัสซีเมีย เราก็เป็นค่ะ สามีเราก็เป็น แต่เรื่องมีรังไข่ข้างเดียวนี่ เราไม่รู้ว่าถึงขั้นหมอให้หยุดพักหรือป่าวนะคะ อาจจะให้พักช่วงท้องอุ่อนๆ เพราะจะมีโอกาสหลุดง่ายหรือป่าว เราว่าถ้าพ้นช่วงแพ้หนักไปแล้ว น้องเค้าอาจจะกลับมาทำงานด้วยความสบายใจก็ได้ค่ะ จากคุณ : chompoomameaw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 15:00:31

ความคิดเห็นที่ 21 น้องบอกว่า  อาการคือ  เพลียอยากนอน  และก็มีอาเจียนตอนเช้าเวลาแปรงฟันค่ะ  ซึ่งเรามองว่าเป็นอาการปกติของคนท้องทั่วไป  เราก็สอนน้องว่า  ให้ฝืนลุกค่ะ  ไม่งั้นได้นอนทั้งวันแน่ๆ  น้องยังตอบเราว่า  ขนาดตอนยังไม่ท้องยังขี้เกียจตื่นเลย   พอท้องเลยตื่นไมไหวค่ะ   คือตอนเราท้องก็เพลียมาก  และอาเจียนเช้ากลางวันเย็น+ เวียนหัวจนคลอดเหมือนกัน  เรายังทำงานได้  งานก็ไม่ได้หนักอะไร  ถ้าไม่มีลูกค้าก็นั่งดูทีวีทั้งวันค่ะ  เหมือนน้องเค้าทนกับความง่วงไม่ไหวค่ะ  นี่แค่เพิ่งท้องนะคะยังทนความง่วงไม่ไหว  ถ้ายิ่งท้องแก่จะง่วงมากกว่านี้หลายเท่าเลยค่ะ ขนาดเราทนๆยังจะหลับคาโต๊ะทำงานเลยค่ะ  (ที่บอกว่าเราทน  คือเราทำงานตั้งแต่อายุ 15 ค่ะ  ทำงานหลังเลิกเรียนค่ะ  ปิดเทอมก็ไม่มีเที่ยวเล่นนะคะ  ทำงานตลอด) น้องเรียนจบแค่ม.3  จนตอนนี้อายุ 27 เพิ่งมาทำงานที่บ.เราเป็นที่แรก  และทำได้แค่ 6 เดือนเองค่ะก็ท้อง (จริงๆไม่ใช่น้องหรอกค่ะ  แก่กว่าเราอีก  แต่เราเรียกว่าน้อง)  ส่วน 10 กว่าปีที่ผ่านมาก็อยู่บ้านเฉยๆ  สามีน้องก็เป็นเหมือนน้องเลยค่ะ  อยู่บ้านเฉยๆขอตังค์พ่อแม่ไปวันๆ   เราแค่ห่วงอนาคตน้องว่าจะเป็นยังไงต่อไป  แค่นี้ไม่อดทนพอมีลูกจะทำยังไง  ยังจำวันที่น้องมาสมัครงานได้  แม่น้องพามา  และแม่น้องก็ดูดีใจที่น้องเริ่มทำงานแล้ว(ถึงจะยังขอเงินแม่ทุกเดือนก็ตาม)  แต่พอแม่น้องรู้ว่าน้องท้อง  แม่น้องก็ไม่ค่อยพอใจค่ะ  และพูดกับน้องว่า  คิดยังไงถึงปล่อยให้มี  ตัวเองยังเลี้ยงไม่ได้เลย  และแม่ก็จะไม่เลี้ยงลูกให้นะ(น้องเล่าให้ฟังค่ะ)  เราเเค่เป็นห่วงน้องเฉยๆค่ะ  แต่สามีเราก็บอกให้น้องพร้อมแล้วค่อยกลับมาทำงานก็ได้ จากคุณ : จขกท. (PapikaS) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 15:08:06

ความคิดเห็นที่ 22 เราว่า 2 เดือนเยอะไป ถ้าเป็นที่เราทำนะให้ออกแน่ๆ เพราะมีพี่ที่ทำงานเค้าแพ้ท้องมากๆ อ้วกตลอด กินน้ำยังไม่ได้ อ้วกออก ต้องแอดมิท รพ. ให้น้ำเกลือ เพราะกินไรไม่ได้ ยังต้องมาทำงานเลยค่ะ ,, เจ้านายที่นี่โหดมากขอบอกกกกก จากคุณ : gayko เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 15:09:57

ความคิดเห็นที่ 23 จ้า...เราเข้าใจค่ะว่าบางคนเป็นหนักจริงๆ  เช่น  มดลูกเกาะต่ำ  อาเจียนทั้งวัน  เลือดออก  หรือแพ้หนักๆ   แต่น้องไม่ได้เป็นไรเลยค่ะ  แค่ง่วงนอนเฉยๆ  กับอาเจียนตอนเช้า   ถ้าน้องมีอาการแบบที่เรากล่าวไปข้างต้นอ่ะ  ทุกคนในบ.คงเข้าใจ  แต่นี้มันไม่ใช่ค่ะ จากคุณ : PapikaS เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 15:24:45

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องส่วนตัวเค้าในประเด็นอื่นๆก็ช่างเค้าเถอะค่ะ จบระดับไหน อายุเท่าไร มันไม่ใช่ประเด็นเลยค่ะ เราว่ามันคือเรื่องส่วนตัวของเค้าค่ะ อย่าอาตัวเองไปเปรียบว่าเราทนได้ เค้าต้องทนได้ คนเราไม่เหมือนกันนะคะ อย่างเรา ไปเดินห้างไม่ใส่เสื้อแขนยาวไป เราเป็นหวัดแล้วค่ะ   เดินเข้าร้านเสื้อผ้า บางทีเืลือกเสื้ออยู่ดีๆ เราเป็นหวัดแล้วค่ะ เพราะเส้นใยผ้ามันเข้าจมูกเรา กวาดบ้าน เราไม่กวาด เราใช้เครื่องดูดฝุ่น บางคนหาว่าเราเว่อร์ จะใช้ทำไมเปลืองไฟ ทำไมใช้ไม้กวาดไม่ได้ แต่เราใช้ไม่ได้  ฝุ่นเข้าจมูกเรา เราก็เป็นหวัดอีก บางคนหาว่าเราสำออย ทำเป็นคนสะอาด กระหม่อมบาง  เราก็ไม่ได้อยากจะเป็นนะ  แต่มันเป็นแบบนี้จะให้ทำยังไง ร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน ชีวิตคนเราไม่เหมือนกันค่ะ โฟกัสเฉพาะเรื่องเ้ค้าขอลา 2 เดือนก็พอแล้วค่ะ 6 เดือนที่ทำงานร่วมกันมา เค้าก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้นี่นา เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวว่าเค้าไม่เคยทำงาน หรือเค้าจบอะไรมาเลยค่ะ ถ้าเค้าอยากลา ก็ให้ลาไป แต่ไม่ให้เงินเดือน บอกไปเลยว่าโหวตจากหุ้นส่วนคนอื่นๆแล้ว ว่าจะเอาเงินส่วนนี้ไปจ้างคนอื่นมาทำแทนไปก่อน  เพราะคนที่เหลือก็มีงาน มาทำแทนตรงส่วนของน้องไม่ไหว ให้น้องลาได้ แต่ไม่ได้เงินเดือน จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 15:28:35

ความคิดเห็นที่ 25 ก็น่าเห็นใจนะคะ ตอนเราท้องก็แพ้มากแต่ไม่รู้เรียกหนักหรือเปล่า ก็ฝืนไปทำงานนะคะ เกรงใจเจ้านาย แล้วเพื่อนที่ต้องทำแทน ก็มีพัก แบบงีบที่ทำงานบ้าง ก็ยังดีกว่าไม่ไปเลยเพราะงานเราก็เป็นแบบ งานออฟฟิสไม่ได้ยกของอะไร ก็ทำไป อาเจียรไป เราาว่าความอดทนของแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ บางคนแค่นี้เรียกมาก อีกคนบอกยังไหว จริงจริง แล้วก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็น ตอนนั้นเราอดทนเพราะเราจะเก็บวันลาไว้ตอนคลอดน้องแล้วจะได้ ลาได้นานนานค่ะ ตอนท้องก็ไปทำงานเหมือนซากศพ แต่เห็นหลายคนเค้าก็ทำกันได้นะ จากคุณ : นู่นนี่ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 16:04:13

ความคิดเห็นที่ 26 ต้องเข้าใจนิดนึงค่ะ ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอกค่ะว่าถ้าแพ้ท้องมาก มันแบบไม่ไหวเลย โทรมสุดๆ ทำกับข้าวยังไม่ไหวเลย เราแพ้มาก ขนาดคนเรายังได้กลิ่นตัวของทุกคนอ่ะค่ะ กลิ่นมันตีกันไปหมดสรุปอ้วกแตกทุกรอบ กินก็ออกหมด ไปไหนก็แทบไม่ได้ กว่าเราจะดีขึ้นก็ช่วง5เดือน แต่อาการอ้วกนี่ถึง8เดือนเลยค่ะ ก็ให้เค้าลาแต่ไม่ต้องจ่ายเงินแบบที่คนอื่นๆบอก จากคุณ : Nan (Can't forget you) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 16:04:43

ความคิดเห็นที่ 27 ค่ะ   คุณเทมปุระ  เราก็เข้าใจค่ะ   แต่เราคงเอาความสนิทกับน้องมาตัดสินด้วยมั้ง  เพราะรู้ว่าเค้าเป็นคนยังไง  และคนทั้งบ. 5-6 คน  ก็มีความเห็นตรงกันค่ะ  แต่ก็ไม่มีใครว่าน้องนะคะ  แต่พี่อีกคนบอกไปว่า  แค่นี้ยังง่วง  ต่อไปจะง่วงกว่านี้อีก  พี่เค้าลูก 2 แล้วค่ะ  ทั้งสามี+พี่เค้าก็เป็นพาหะทั้งคู่เลย  หรือว่าเราจะฟังคนในบ.มากไปหว่า(พี่ผู้หญิงมี 2 คนก็พูดเหมือนๆกัน  เราก็เลยเคลิ้มไปเลย) อาจผิดที่เราด้วย  ที่เราไม่ได้กล่าวถึงนิสัยส่วนตัวน้องตั้งแรก  และอาการน้องด้วย  ที่ไม่มีอาการรุนแรงใดๆค่ะ จากคุณ : PapikaS เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 16:05:16

ความคิดเห็นที่ 28 ก็ให้พักแต่ไม่จ่ายเงินเดือนค่ะ หายแพ้แล้วค่อยมาทำงาน จากคุณ : mama_jaijai (MAMAJAIJAI) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 16:05:54

ความคิดเห็นที่ 29 ตาม คห. 2 ส่วนตัวเราท้อง 3 เดือนแรก แพ้ท้องก็ทำงานนะ (ราชการ)ไม่ได้แพ้ทั้งวันนี่ มันจะเป็นช่วงๆ ตอนพักเที่ยงก็นอนพักผ่อนสักครึ่ง ชม. ถ้าขอลาหยุด 2 เดือนเพราะแพ้ โดนไล่ออกแน่ เหตุผลไม่พอ นี่น้องเค้าขอลา 2 เดือน ก็ต้องไม่จ่ายเงินเดือนซิ แต่คุยกันให้เข้าใจก่อน จากคุณ : เหลียน เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 16:06:40

ความคิดเห็นที่ 30 ลาหยุดแบบนี้ ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนค่ะ แค่เก็บตำแหน่งไว้ให้ก็พอ ไม่ต้องไปคิดว่าใครเป็นยังไงหรอกค่ะ ถ้าอยากหยุด หยุดไปเลย แต่ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนนะคะ ที่อื่นเค้าให้ออกอยู่แล้วค่ะ จากคุณ : smallkid เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 16:19:19

ความคิดเห็นที่ 31 เท่าที่ทราบเนี่ยะ อาการแพ้ท้อง นี่ทรมานนะคะ กินไม่ได้ เดินไม่ไหว อ้วก หน้ามืด หน้ามืด อ้วก ต่อ เนี่ยะจะต้องมาทำงานโดยใช้สมาธิ ยื่งถ้าใช้แรงด้วยนี่ น่าจะหนักค่ะ ถือว่าสงสารเค้าเถอะค่ะ เรียกมาคุย ตกลงกันให้เข้าใจ ว่าลา 1 เดือน นี่จะได้รับเงินหรือ ไม่ ลองคุยดู ถือว่าเห็นใจแม่ ๆ ด้วยกันนะคะ จากคุณ : JULIUS IN LOVE เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 16:32:57

ความคิดเห็นที่ 32 อันนี้ตอบจากประสบการณ์นะคะ ช่วงที่เราก่อนทราบว่าตั้งครรภ์ แรกๆ แพ้มาก ขนาดลุกไม่ได้เลย ต้องนอนราบอย่างเดียว พอทราบว่า ตั้งครรภ์ ได้แค่เพียง 1.5 เดือน ปรากฏว่า รกเกาะต่ำ เสี่ยงต่อภาวะแท้งคุกคาม คุณหมอ ขอให้หยุดงาน 1 เดือน เราก็ยังไปทำงานบ้าง หยุดบ้าง แต่มีใบรับรองแพทย์ ทีนี้นายเห็นว่า หยุดนานเป็นเดือน เลยขอคุยว่า ทางบริษัทฯ ให้เราสามารถหยุดงานได้ เต็มที่ 30 วันลาป่วย ตามกฏหมายแรงงาน ซึ่งเราก็ตกลง และใช้สอยวันหยุดอย่างประหยัด (ต้องใช้คำนี้เลยค่ะ) เพราะเราแพ้มากขนาด 1 สัปดาห์ นอนรพ. ถึง 2 ครั้ง ติดๆ กันเป็น เดือนๆ ค่ะ เข้า admid วันนี้ พรุ่งนี้ออก ตลอดระยเวลาจนถึง 7 เดือน พอเดือนที่ 8 เราเกิดมดลูกหดตัว เจ็บท้องจะคลอดก่อนกำหนด ซึ่งคุณหมอก็ช่วยทั้งยาฉีด ยากิน และขอร้องให้เราหยุดเคลื่อนไหวจริงๆ เพื่อยื้อเวลาตอ่ไป ให้ครบ 38 สัปดาห์ พอคุณหมอบอกแบบนั้น เขาไปบอกกับเจ้านายเลยว่าขอลาออก เพราะเราเห็นแล้วว่า มันเกิน วันลา 30 วันตามที่กฏหมายกำหนดแน่ๆ สรุป ลาออก และตลอดระยะเวลาที่เราลาป่วย เราได้เงินเดือนทุกเดือน รวมถึง นายจ้างยังใจดี ให้เราลาคลอด ก่อน แล้วค่อยลาออก เพื่อเราจะได้เงินเดือนตอนลาคลอดด้วยค่ะ อย่างแรก ลองคุยกับน้องเขาดูนะคะ ว่าเขาลาออก คลอดลูกเรียบร้อยแล้วกลับมาทำงานใหม่ หรือ จะให้เขาลาพัก แต่ไม่ต้องจ่ายเงินดือน คนเราไม่เหมือนกันค่ะ เอาใจช่วยนะคะ ลองถามเขาด้วย ว่าตัวเขามีภาระ อะไรไหมด้วย เผื่อถ้าเขาไม่ได้เงินเดือน เขาจะได้หาทางหนี ทีไล่ได้ค่ะ จากคุณ : สักวัน ความดีต้องปรากฏ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 16:51:43

ความคิดเห็นที่ 33 กําลัง งง จขกท. คือถ้าผู้หญิงแต่งงานแล้วจะไม่รับเข้าทํางานหรอคะ?? จากคุณ : เขียนบน iPhone (Frabe) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 19:55:31

ความคิดเห็นที่ 34 ก็รัค่ะ  เพราะรับมาแล้วมักทำงานด่วนไม่ได้ เลยต้องสมัรหาคนใหม่อีก  คนเก่าที่มีครอบครัวเค้าก็จะทำงานแต่ในเวลาเท่านั้น  ซึ่งเราอยากรับคนใหม่ที่สามารถที่งานนอกเวลาได้บ้าง  ให้เงินพิเศษด้วยค่ะ  ตอนนั้นน้องก็ตกลงทำ  แต่มาท้องก่อนค่ะ  พี่ๆคนอื่นก็ลูก1ลูก2ไม่สามารถทำได้ค่ะ  เหมือนตกลงกันแต่แรกแล้ว  แล้วมารู้ทีหลังว่าแต่งงาน  ต่อมาก็ท้องอีกค่ะ  เลยเกิดปัญหาขึ้นมาค่ะ   การเป็นลูกจ้างคงไม่ต้องมาปวดหัวกับเรื่องแบบนี้    คงไม่เข้าใจว่าการหาลูกจ้างที่พร้อมจะทำงานมันยากขนาดไหน  บ.เล็กๆต่างคนก็ต่างมีหน้าที่  ถ้าใครหายไปสักคนก็ต้องมีคนเข้ามาแทนที่  จะรอไม่ได้ค่ะ  แต่ตอนนี้หน้าที่น้องก็มีเราและพี่อีกคนทำแทนไปก่อนชั่วคราว  ต้องรอดูน้องอีก  2  เดือนว่าจะกลับมาหรือเปล่าค่ะ จากคุณ : PapikaS เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 20:35:16

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบอกว่า ตอนเรารู้ว่าท้อง เราลาออกเลย เพราะว่า เราเป็นคนมีลูกยาก แล้วงานที่ทำ เดินมาก ยกของหนัก บ้างก็วิ่ง แถมต้องวุ่นวายกับสารเคมีอีก พอออกมาค่อยแพ้ท้อง ได้กลิ่นอาหารไม่ได้เลย เวียนหัว เพลีย ง่วงตลอด พอคลอดได้สักพัก เราก็กลับไปทำงานกับเค้าใหม่ค่ะ ขอจุดนี้นิดนึง ส่วนที่น้องเค้าบอกว่า โกหกว่าโสดเพราะอยากได้งาน ก็แสดงให้เห็นว่า การจ้างงานของไทย มีการแบ่งแยก (Discrimination) มาก ที่ ๆ เราอยู่เค้าจะบอกเลยว่า บริษัทเค้า equal opportunity หรือหมายความว่า ให้โอกาสทุกคนเท่ากัน ไม่ว่าคนนั้นจะผิวสีอะไร อายุเท่าไหร่ แต่งงานหรือไม่ เค้าพิจารณาจากความรู้ ความสามารถและประสบการณ์เป็นหลักค่ะ ถ้าการที่คุณเลือกว่า ถ้ารู้ว่าน้องแต่งงานแล้วจะไม่จ้าง ก็น่าสงสารน้องเค้านะคะ แต่งงานแล้วผิดตรงไหน ทำงานไม่ได้ตรงไหน ท้องก็ลาให้ถูกต้องได้ ลาออกไป คลอดแล้วจะกลับมาทำอีก ก็มาสมัครใหม่ คุณจะรับไม่รับก็เรื่องของคุณแล้ว จากคุณ : ~amily~ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 20:51:10

ความคิดเห็นที่ 36 และกลับมาแล้วจะทำงานได้มั๊ย  หน้าที่น้องคือ  เป็นตัวเสริมในการขาย  เวลาขายได้ต้องออกไปทำสัญญานอกสถานที่  บางวันต้องกลับ2-3ทุ่ม  เพราะบ้านลูกค้าอยู่ไกล  เลยทำให้หน้าที่นี้ไม่เหมาะกับคนมีครอบครัวค่ะ  โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องดูแลลูก  ทางบ.อยากได้คนโสดค่ะ ที่พร้อมทำงาน  เฮ้อ...คิดแล้วปวดหัว  เราพลาดเองแหละค่ะ  ถูกหลอกเลยต้องมานั่งปวดหัวจนทุกวันนี้  ออกนอกเรื่องมาเยอะแหละ  เหมือนมาระบายให้แม่ๆฟังเลย  เรารู้แล้วว่า  คนที่แพ้หนักๆ  ลาหยุด 2-3เดือนก็ได้  แต่ไม่ต้องให้เงินเดือน    เคสของน้องถ้ากลับมาทำงาน  คงไม่ได้ออกนอกสถานที่แล้ว  คงให้พี่ๆผู้หญิงทำแทนไปก่อน  ไม่รู้พี่เค้าจะยอมหรือเปล่า  ต้องเรียกมาคุยอีกทีค่ะ  คงต้องมีงอนกันบ้างแหละ  ดูท่าพี่ๆไม่อยากออกนอกสถานที่ค่ะ  ปวดหมองๆ จากคุณ : PapikaS เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 20:57:32

ความคิดเห็นที่ 37 ให้พักยาวไปเลยค่ะ ทำงานระยะสั้นแค่นี้ ไม่มีพันธะผูกพันกับบริษัท หาคนมาแทนใหม่ ไม่รับเขากลับทำงานแล้วนะคะ... ต้องหนักแน่นและไม่ไปเกรงใจ... เขาโกหกตั้ง แต่เริ่มสมัครงาน แต่คราวนี้รับคนใหม่... ให้มีใบตรวจสุขภาพจากแพทย์ว่าไม่ท้องจริงๆ จะได้ไม่มีการโกหกมดเท็จซ้ำรอย เคยอ่านกระทู้ทำนองนี้แต่กลับกันตรงที่คนท้องต้องการทำงานและโกหกว่าไม่ท้องเพื่อจะได้สวัดิการจากบริษัท ในกรณีของจขกท. สามีเป็นหุ้นส่วน ใช่ว่าจะร่ำรวย ไม่งั้นคุณก็จะไม่ต้องำทงานช่วยสามีแบบนี้ ทุกคนต้องทำมาหหากินเหมือนกัน... คำนึงถึงผลเสียของบริษัทด้วย ไม่ใช่คนงานคนหนึ่งโกหกเพื่อ ผลประโยชน์ของตัวเอง ตอนสมัครงานว่าไม่ท้องและมารู้ว่าท้องภายในสามเดือน ให้เขาหยุดงานยาวไปเลยแบบไม่มีกำหนดเรียกกลับ ...ต้องหนักแน่นบอกเขาด้วยว่าอย่าคาดหวังว่าจะได้กลับไปทำงาน ให้เขามีความสุขกับการมีครรภ์นี้ไปจนถึงคลอดลุกและลเี้ยงดูลุกไปเถอะ พร้อมเมื่อไร ให้เขาไปหางานใหม่ ทางคุณคนงานใหม่ที่สามารถช่วยทำงานได้ตลอดต่อเนื่อง แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 55 21:40:17 จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 21:38:41

ความคิดเห็นที่ 38 ดูจากหน้าที่งานที่ต้องทำเหมาะกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงนะคะ จากคุณ : Pink Martini เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 22:11:43

ความคิดเห็นที่ 39 เราว่า จขกท ทำตามความจำเป็นของบริษัทเถอะค่ะ เพราะจริงๆแล้วการลาหยุดยาวเนื่องจากแพ้ท้อง มันไม่ได้กำหนดไว้ว่าต้องให้นะคะ. ไม่เหมือนการลาคลอด  เรามีลูกแล้ว และตอนนี้ก็ท้องคนที่สองอยู่ กำลังอยู่ในช่วงแพ้ท้องเหมือนกันค่ะ เราเข้าใจว่าคนแพ้หนักๆทรมานแค่ไหน. แต่บางทีถึงเราจะเข้าใจ แต่เราก็ไม่สามารถจะช่วยคนอื่นได้ไปทุกสิ่งทุกอย่าง คือเราก็ต้องดูความสามารถหรือสถานภาพตัวเองด้วยค่ะ ถ้าเราไม่สะดวกที่จะช่วยทั้งหมด เราก็ช่วยระดับนึงที่เราคิดว่าเหมาะสมก็น่าจะโอเคนะคะ อย่างกรณีนี้เราคิดว่าให้เค้าหยุดไป10วันก็ใจดีระดับนึงแล้วนะคะ. ถ้าเค้าสามารถทำงานต่อ พอคลอดก็ให้ลาคลอดตามสมควร(แต่ไม่น้อยกว่ากม กำหนด) ก็ถือว่าโอเคค่ะ. การอนุญาตให้ลา2เดือนจากการแพ้ท้อง โดยเก็บตำแหน่งให้ก็เกินปกติไปหน่อยซึ่งจะให้หรือไม่ให้ ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการทำงานของบริษัทค่ะ ว่าสามารถให้ได้หรือไม่ จากคุณ : Happy Alice เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 23:02:09

ความคิดเห็นที่ 40 คนแพ้ท้องจนทำงานไม่ไหวเป็นเรื่องปกติค่ะ คนไม่แพ้ไม่เข้าใจหรอกว่ามันหนักหนาแค่ไหน ตอนเราเข้าทำงานที่ใหม่ เราก็บอกเขาว่าจะไม่มีลูก แล้วยังไงไม่รู้สามเดือนกว่าดันท้อง แค่เดือนแรกก็เหนื่อยหมดสภาพ มันหมดแรงทำงานจริงๆ แล้วเราก็อาเจียนหนักจนจะคลอดนั่นแหละ เราตัดสินใจออกจากงานเลยค่ะ บริษัทคงรอเราไม่ได้ 9 เดือนหรอก.. จากคุณ : Rada Nene เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 23:09:27

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าแพ้ท้องหนักแบบว่าต้องนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล หรือมีอาการแท้งคุกคามหมอห้ามเดิน ให้นอนเฉยๆบนเตียงก็น่าเห็นใจค่ะ สวัสดิการประเทศที่ดิฉันทำงานอยู่ สามารถใช้สิทธิ์ลาป่วยได้สูงสุด 3 เดือนค่ะ แล้วได้รับเงินเดือนตามปกติ แต่ถ้าในกรณีลางานเพราะแพ้ท้องนานๆนี่ ทางบริษัทไม่น่าจะต้องจ่ายเงินนะคะ มันไม่เหมือนกับการลาป่วยด้วยโรคค่ะ จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 23:36:23

ความคิดเห็นที่ 42 แพ้หนักขนาดมาทำงานไม่ได้ มีใบรับรองแพทย์ไหมคะว่าเคย admit. เข้า รพ.  เรากำลังอยู่ เราแพ้น้อยมากแต่เราเข้าใจว่า มันคงมาทำงานลำบากอ่ะ ถ้าแพ้หนัก ทว่าท่ีทำงานเราคงไม่ให้ลางาน 2 เดือนโดยไม่มีใบรับรองแพทย์หรอกค่ะ ตอนเราเป็นแท้งคุกคามหมอออกใบรับรองให้หยุดนะ การเป็นเจ้าของกิจการ ต้องปกครองคนลำบากหน่อยนะคะ ยังไงก็อย่าช่วยมากจนทำให้เสียการปกครองล่ะ จากคุณ : Ninie เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 07:52:00

ความคิดเห็นที่ 43 ตอนท้อง2เราแพ้หนักมากๆ ยังคิดเลยว่าถ้าทำงานอยู่คงโดนไล่ออกแน่ๆเลย แพ้ชนิดที่ว่าทำอะไรไม่ได้เลยต้องนอนอย่างเดียว ผิดกะท้องแรกทำงานยันคลอดเลยหลังจากนั้นก็ลาออกเป็นแม่บ้าน จากคุณ : =Le 29 juin= เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 08:07:46

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านดูแล้ว ใจคุณอยากให้น้องเค้าลาออกไปเลยใช่รึเปล่าคะ? เพราะอ่านจากหลายๆ เหตุผลที่บอกว่า บางคนแพ้ท้องแล้วทำงานไม่ไหวมีจริงๆ แต่คุณก็ยังหาข้อแก้ต่างในใจคุณว่า น้องเค้าอย่างนั้นอย่างนี้ คนนั้นอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าอย่างนั้นก็บอกให้น้องเค้าลาออกไปเลยดีกว่าค่ะ ไม่อย่างนั้น ขืนมาทำงานต่อหลังจากลาไป 2 เดือน ความรู้สึกที่คุณมีให้น้องเค้ามันไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะ มันจะอึดอัดกันนะคะ เพราะคุณคิด ลบ กับเค้าไปแล้ว สงสารน้องเค้าซะเปล่าค่ะ อีกอย่าง ถ้าถามตัวเรา เรามองว่าบริษัทคุณมีพนักงานน้อย คุณคงลำบากใจ ถ้าต้องหาคนมาทำงานแทนช่วงเวลาแค่ 2 เดือน พอครบ 2 เดือน เกิดคนที่มาใหม่ทำงานได้ดีกว่าคนเดิม จะจ้างไว้ทั้งสองคน เราก็ไม่รู้ว่าบริษัทคุณจะลำบากรึเปล่า ขอโทษที่เราพูดตรงๆ นะคะ เพราะเราอ่านจากที่คุณเข้ามาตอบกระทู้แล้ว เหมือนคุณแค่อยากเอาน้องเค้ามาให้คนอื่นตำหนิ แล้วเข้าข้างคุณซะมากกว่า แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 55 09:04:55 จากคุณ : ซุปกระดูกหมู เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 08:30:06

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่เคยท้องนะคะ แต่มีคนรอบตัวท้องหลายคน แต่ละคนอาการก็ไม่เหมือนกัน บางคนแพ้แบบเดินไม่ไหว เดินยังไม่ไหว ไม่ต้องคิดเลยว่าจะห้อยโหนรถเมล์ไปทำงานไหวมั้ย พูดยากค่ะ ถ้าไม่ให้ลาเลย แล้วลูกเค้าเป็นอะไรไป บาปกรรมจะติดในใจคุณนะคะ ส่วนเค้าโกหกว่าไม่ได้แต่งงาน เคสนี้เจอบ่อยค่ะ คนอยากได้งานนะคะ ก็ปกติ ของการเอาตัวรอด ถ้าเค้าทำงานดีก็หรี่ตาซะข้างเถอะค่ะ ลองเดินสายกลางดูนะคะ ให้เค้าลาไปก่อนโดยไม่ต้องจ่ายเงินเดืิน ถ้าพร้อมก็ค่อยมาทำงาน วิธีนี้คุณก็ไม่ได้เสียผลประโยชน์อะไรมากมายนะคะ แต่ถ้าคุณไม่สบายใจเพราะไม่มีคนช่วยงาน 2 เดือน ก็คุยกับเค้าตรงๆ ให้เค้าลาออกเพราะคุณเองไม่มีคนช่วยงาน 2 เดือน คุณต้องหาคนใหม่ แต่ถ้ารับคนใหม่มา พอเค้ากลับมา ก็ดูคนจะเยอะกว่างานค่ะ จากคุณ : ต้าถุง เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 09:50:20

ความคิดเห็นที่ 46 เข้าใจจขกทค่ะ อย่าไปคิดมากกับบางคห.ที่เอาแต่วิจารณ์แต่ไม่ได้มาเดือดร้อนกับคุณเลยค่ะ แนะนำว่าปิดกระทู้ไปเถอะ อย่าเปลืองสมอง หาพนักงานใหม่มาทำไปก่อน ส่วนน้องก็ลาไปตามต้องการไม่ต้องจ่ายเงินเดือน ครอบสองเดือนไม่กลับมาทำก็ถือว่าลาออก เราไม่คิดว่าคุณทำอะไรผิดค่ะ เราเห็นใจคนอื่นได้ สงสารช่วยเหลือได้เท่าที่เราจะช่วยได้ แต่ถ้าลำบากตัวเราหรือไม่สบายใจ อย่าทำค่ะ เราช่วยคนทั้งโลกไม่ได้ค่ะ มันเป็นสัจจธรรม อย่าไปคิดมากค่ะ หากคุณแสดงน้ำใจเต็มที่ให้แล้ว ใครไม่รู้ ตัวคุณรู้ค่ะ จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 09:28:11

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้าน้องเป็นเซล ก็ลองให้เค้าleave without pay แต่จ่ายเป็นค่าคอมมั้ยคะ ให้น้องเค้าทำงานประสานงานอยู่บ้านแล้ว แบ่งค่าคอมให้เค้าดูนะ เป็นเรา เราไม่ไปทำงาน แต่ขอแค่ค่าคอม+ค่าโทรศัพท์พอคะ จากคุณ : fifhai เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 12:09:24