 |
ชีวิตคุณคล้ายๆ กับเราเลยค่ะ แตกต่างกันนิดหน่อย ตรงที่เราอยู่กับพ่อแม่มาตลอด แต่ฐานะที่บ้านเราไม่ดีค่ะ พ่อแม่ผลัดกันตกงาน เราก็ต้องทำงานพิเศษ เป็นพนักงาน ห้างบ้าง ยืนตั้งแต่ห้างเปิด ยันห้างปิด ห่อของขวัญ ขายของตลาดนัด ฯลฯ เรียกได้ ว่ามีงานอะไรถ้าสุจริตและได้เงินดีเราเอาหมด
เราสอบติดมหาวิทยาลัยรัฐ 2 ที่ แต่ต้องสละสิทธิ์ เพราะไม่มีเงินเรียน ต้องออกมา ทำงานตอนอายุ 19 ปี หาเลี้ยงอีก 4 ชีวิตในครอบครัว รวมตัวเองด้วยเป็น 5 คน ทำงานร้านอาหารเข้างาน 10.30-23.00 น. หยุด 1 วัน ตอนหลังมาได้งานกลางวัน มีรุ่นพี่ฝากงานให้ เลยกลับไปสอบมหาวิทยาลัยเดิมที่เคยสละสิทธิ์ ปรากฎว่าสอบติด ทำงาน 8.30-17.30 น. โหนรถเมล์ไปเรียนต่อถึง 3 ทุ่ม กลับถึงบ้าน 4 ทุ่มทุกวัน
เราเองก็ส่งเสียที่บ้าน หลังปี 2540 ที่บ้านมีหนี้สินเป็นแสนบาท เงินเดือนเราแค่ 9,000 บาท แต่ก็หมุน ส่งเสียที่บ้าน ใช้หนี้จนหมดได้ เราคิดว่าเงินทองของนอกกาย พ่อแม่คือ คนที่สำคัญที่สุดของเราค่ะ
เราไม่เคยคิดน้อยใจในโชคชะตา เพราะเราเชื่อว่าผลบุญกุศลที่เราได้เลี้ยงดูพ่อแม่ ทำให้เราสบายในวันนี้ มีสามีที่ดี มีลูกดี ทำกิจการส่วนตัวก็มีแต่คนดีมาอุปถัมภ์ เราขอให้กำลังใจคุณนะ เพราะชีวิตเราก็เคยลำบากเหมือนกันค่ะ
สำหรับเรื่องน้องชาย กลับกันที่เรามีน้องสาว น้องเราก็ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย ทุกวันนี้เราส่งเงินให้แม่เดือนละ 10,000 บาท น้องสาวเรา 5,000 บาท กว่าจะได้ ก็ต้องทวง เราบอกแม่ว่า เราให้ได้แค่นี้เพราะเราต้องมีชีวิตของเรา มีครอบครัว ที่ต้องดูแล เราพูดตรงๆ แบบนี้แหละค่ะ ทำ...เท่าที่จะทำได้ ถ้าคุณจะแบกรับภาระทั้งหมดคนเดียว มันไม่ไหวหรอกค่ะ ถ้าน้องชายจะขอลดเงินเพื่อซื้อรถป้าย แดง คุณก็ต้องบอกทั้งสองคนว่า คุณสามารถให้ได้เท่าเดิม เพราะกำลังจะมีลูก เหมือนกันค่ะ เป็นกำลังใจใ้ห้นะค่ะ ^^
จากคุณ |
:
สกุลลัน (สกุลลัน)
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ก.ย. 55 21:14:25
|
|
|
|
 |