ยืนยันค่ะ อนุบาลที่จะเหมาะเข้าสาธิตไม่ใช่แนววิชาการ เพราะรร.สาธิตไม่ใช่แนวของรร.วิชาการ แถมความเชื่อตรงกันข้าม ส่วนข้อสอบ ที่อาจจะดูยากสำหรับผู้ใหญ่ จริงๆสำหรับเด็กถ้าเค้าคุ้นเคย ฝึกทำมาบ้าง จริงๆไม่ยาก แต่ส่วนใหญ่ข้อสอบที่คุณแม่เห็น(เชาวน์) ที่จริงแล้ว ไม่ใช่ข้อสอบจริงนะคะ เป็นแค่ (แนว ) ที่ รร.รับติวทั้งหลาย เดาตามๆกัน ให้ดูยากๆ เพื่อรับสอนพิเศษ ทำให้รร.เหล่านี้มีรายได้ และ กลายเป็นธุรกิจที่มูลค่ามหาศาล ถ้ามาถามครูในรร.สาธิตต่างๆ จะมีแต่คนบอกว่าไม่จำเป็นต้องไปเรียนติว ถ้าผู้ปกครองมีเวลาใกล้ชิด และ มีแบบฝึกทั่วๆไปให้ลูกลองทำด้วยกันสม่ำเสมอ เพราะข้อสอบเข้าจริงๆไม่ได้ยาก ที่ยากเพราะจำนวนผู้อยากเรียนเยอะกว่าจำนวนที่รับได้มาก เหมือน demand เยอะกว่า supply ง่ายก็กลายเป็นยากไป ดังนั้น ประเด็นหลัก คะแนนจึงตัดกันที่สมาธิ ทั้งการฟัง การตอบ เรียกว่าใครมีสมาธิมากกว่ากัน ไม่ร้องไห้ ไม่งอแง ไม่ง่วง ไม่เหม่อ ก็จะมีลุ้น ถ้าไม่เชื่อ ลองถามเด็กหลังการสอบดูว่าออกอะไรบ้าง ทำได้กี่ข้อ มียากเหมือนที่ติวกันมามั้ย และผู้ปกครองจะทราบว่าจริงๆข้อสอบส่วนใหญ่มุ่งวัดความพร้อมของเด็กมากกว่าแต่แนวของแต่ละสาธิต อาจมีจุดเน้นที่ต่างกันบ้าง ดังนั้น ต้องมีข้อมูลและรู้จัก รร.ที่อยากเข้าพอสมควร ว่าสัดส่วนข้อสอบ เน้นแนวไหนมากน้อยกว่ากัน ส่วนเด็กที่เรียนก่อนเกณฑ์ บางส่วนจะมีโอกาสสอบ 2 รอบ คือ อ.2 และ อ.3 ถ้าอ.2 ไม่ได้ก็เรียนอ.3 ต่อไปก่อน น้องที่ตัดสินใจเรียนอ.3 ซ้ำเพราะกลัวไปต่อเข้าป.1 แนววิชาการไม่ได้ (กรณีไม่ติดสาธิต) ไม่ค่อยมีนะคะ สุดท้าย เด็กแม้จะเรียนแนวเตรียมความพร้อมมาก็สามารถเรียนแนววิชาการได้อยู่ดี ถึงแม้ดูเหมือนจะต้องปรับตัวในช่วง ป.1 มากกว่า มองในแง่ดี ก็ต้องถือว่าอย่างน้อยในช่วงอนุบาลก็ยังเป็นช่วงเวลาที่เค้าได้เรียนอย่างมีความสุข และไม่กดดัน
จากคุณ |
:
Life is beautiful
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.ย. 55 00:16:10
A:115.87.71.225 X: TicketID:280568
|
|
|
|