ความคิดเห็นที่ 1 เด็กตั้งแต่แรกเกิดด้วยใช่มั้ยคะ พอดีตอนนี้น้องเพิ่งเดือนกว่าอ่ะค่ะ กังวลว่าเต้าจะเป็นหวัด มีน้ำมูกหรือขี้มูกเหนียวในจมูกค่ะ จากคุณ : SincereMomy เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 19:12:04

ความคิดเห็นที่ 2 เด็กแรกเกิดส่วนใหญ่เสียงหายใจครืดคราดเกิดจากโพรงจมูกที่อาจบวมเล็กน้อยซึ่งเป็นธรรมดาของเด็กวัยนี้ครับอาจดีขึ้นด้วยการใช้น้ำเกลือหยอดจมูกได้ครับ จากคุณ : ๋Jagger moving (Jagger moving) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 19:21:50

ความคิดเห็นที่ 3 มีประโยชน์มากเลยคะ ชอบมาก โหวตค่ะ จากคุณ : via iPhone (ข้าวซอยพิเศษ) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 19:59:10

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากๆค่ะ :)) จากคุณ : SincereMomy เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 20:09:03

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นประโยชน์มาก ชอบค่ะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ ชอบข้อ 4 ที่สุด ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ เราไม่ให้ลูกกินยาใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ กลัวมันไปสะสมร่างกาย เมื่อใดก็ตามที่ลูกไอ ให้กินแต่น้ำค่ะ น้ำอุณหภูมิธรรมดา ไม่อุ่นไม่เย็น เปลี่ยนเมนูเป็นต้มยำต้มจืด สมุนไพรไทยกระหน่ำใส่เข้าไป ไม่นานอาการไอก็หายค่ะ ตอนเล็ก ๆ เจอหมอท่านนึง ขยันจ่ายยาให้เยอะมาก เปลี่ยนจากตัวนี้เป็นตัวนั้น กินเข้าไปเกือบหมดสองขวดก็ยังไออยู่ --- เลิกเลยค่ะ จากคุณ : Rose (scooter_s) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 20:21:12

ความคิดเห็นที่ 6 เจ้าของกระทู้เป็นหมอเด็กหรือค่ะ  ถ้าใช่ อยากถามนอกประเด็นอ่ะค่ะ เอ่อ..คือ ลูกสาวชอบนอนกัดฟัน  ดังมาก ทุกวัน ทุกคืน  แอบเป็นกังวลว่าเค้าจะมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน หรือ ปัญหาอย่างอื่นหรือเปล่าค่ะ ขอโทษนะค่ะนอกเรื่องนิดนึง จากคุณ : cdh;แก้ว เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 20:26:51

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ cdh;แก้ว แนะนำให้ไปพบทันตแพทย์นะครับเพราะอาจเกิดได้จากรูปฟัน หรือสภาพจิตใจของเด็กก็ได้ครับ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ ใส่ Spint หรือเฝือกสบฟัน เพื่อลดการสึกของฟัน ร่วมกับการลดความเครียดความกังวลก่อนนอนของลูกครับ จากคุณ : ๋Jagger moving (Jagger moving) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 20:48:24

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากๆค่ะ มีประโยชน์มากมาย จากคุณ : แม่ผึ้งกะน้องปุณณ์ (Ni-Bhun11) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 21:00:01

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อ7นี่ตรงมากค่ะ ลูกคนเล็กไม่สบายนอนโรงพยาบาล2ครั้ง ครั้งแรก ให้พยาบาลเด็กมาเจาะให้ ก่อนเจาะ เราก็บอกไปแล้วว่าน้องหาเส้นยากมากนะคะ ขอพยาบาลเก่งๆหน่อย เค้าบอกเค้าทำได้  สรุป โดนเจาะไป2รอบ น้องก็ร้องไม่หยุดเราก็สงสาร เห็นลูกเจ็บไม่ได้ จนจะเจาะอีกครั้ง เราพูดเลยค่ะ ว่าขอคนอื่นได้มั๊ยคะ น้องหาไม่เจอ2รอบ สุดท้ายยอมโทรตามหัวหน้าพยาบาลมา = = โอ้้้ๆๆๆ ทำไมไม่ให้มาตั้งแต่ครั้งแรก(อดโมโหไม่ได้) อยากจะบอกว่าเค้าเจาะรอบเดียวผ่านเลย ยังบอกเราว่าน้องเส้นหายากมากเลยนะคะคุณแม่ เราเลยเหน็บไป "บอกน้องเค้าแล้วก็ไม่ฟัง เกือบพรุนเลย" รอบ2 โชคดีว่าหน.คนเดิมอยู่ น้องเลยเจ็บแค่รอบเดียว^_^ จากคุณ : น้องจีน่า เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 21:11:47

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากค่ะ  งั้นต้องรีบไปด่วนเลยค่ะ จากคุณ : cdh;แก้ว เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 21:13:10

ความคิดเห็นที่ 11 โดนที่ข้อ 9 คะ  ลูกป่วยทีไร  แม่มันเครียดมาก  ต่อไปจะพยายามคิดบวกคะ  ขอบคุณมากคะคุณหมอ ^^ จากคุณ : เมฆหมอกบังตา เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 21:29:45

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Bubble_BG เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 22:06:39

ความคิดเห็นที่ 13 เคยเจอพยาบาลเจาะ 7 ที เกือบเขวี้ยงพยาบาล ลูกก้อร้องโหยหวน จากคุณ : ฝันราลีห์ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 22:13:23

ความคิดเห็นที่ 14 เเนะนำเหมือนหมอเราเลยค่ะ คุณหมอธีระพงษ์(เรากับน้องหาตั้งเเต่เด็ก) เพราะเวลาไม่สบายจะโทรหาคุณหมอก่อนเลย คุณหมอก็บอกตั้งเเต่เราเป็น(เเม่โทร) ยันเราโทร(ลูกเป็น) ว่าถ้าไข้ไม่ขึ้นสูงเกินไป เเละไม่มีอาการน่าเป็นห่วง อยู่บ้านดีที่สุด เพราะถ้าเป็นอะไรนิดหน่อย มาหาหมอที่โรงพยาบาลหรือคลีนิค ลูกเราอาจจะได้รับโรคอื่นเพิ่มก็เป็นได้ เพราะโรงพยาบาลนี่เเหละ สถานที่นานาเชื้อโรคเลย จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 22:21:38

ความคิดเห็นที่ 15 ถุกใจ ใช่เลยค้า (ชอบและถูกใจข้อ 7 ที่สุด จากคุณ : toppyboy เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 22:23:02

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากค่ะโดนทุกข้อเลย จากคุณ : แม่อิ๊กคิว เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 23:51:53

ความคิดเห็นที่ 17 โหวดค่ะ ขอบคุณมากค่ะ กระทู้ของคุณได้ให้ความรู้กับแม่ๆในนี้ขี้นอีกเยอะเลย มีประโยชน์มากค่ะ คุณ ฝันราลีห์ เจาะตั้ง 7 ครั้ง คุณมีความอดทนมากๆ ลูกเราโดนเจาะครั้งแรกไม่เจอเส้น พอจะจิ้มครั้งที่สองเราบอกขอเปลี่ยนพยาบาลทันทีขอที่เก่งที่สุดเพราะคุณพ่อ คุณแม่ คุณยาย คุณย่า ร้องกันระงมแล้วค่ะ จากคุณ : กุ้งแห้งค้างปี เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 00:09:13

ความคิดเห็นที่ 18 ข้ออื่นๆนี่เข้าใจค่ะ  แต่ข้อ 7 นี่ แบบ คนเป็นแม่อ่ะเนอะ เห็นลูกโดนล็อคตัว ร้องกรี๊ดๆจนไม่มีเสียง (เด็กเล็กขวบกว่า) แล้วพยาบาลก็เจาะอยู่นั่น ไม่สำเร็จซักที ใจคนเป็นแม่ แทบจะลุกเป็นไฟ  ก็เข้าใจว่าพยาบาลไม่ได้แกล้ง แต่แม่แทบขาดใจสงสารลูกค่ะ จากคุณ : Nam_kang เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 00:34:19

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณค่ะ / น่าสงสารเด็ก ๆ ที่โดนเจาะเลือดหลาย ๆ ครั้ง  เราเองเจาะตอนจะผ่าคลอดโดนพยาบาลเด็ก ๆ เจาะไป 2 ครั้งยังปวดมาก ๆ เลย  แล้วเด็กจะไม่เจ็บปวดได้อย่างไร จากคุณ : เด็กแสนงอน เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 01:42:58

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Metrue เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 03:02:18

ความคิดเห็นที่ 21 โหวตค่ะ รู้สึกว่าๆสมัยนี้เยอะค่ะ บางอย่างก็เยอะเกิน เราก็เยอะนะคะแต่เวลาลูกป่วย เราจะโทรไป รพ.ก่อนเลยขอปรึกษาหมอ ส่วนมากหมอจะแนะนำวิธีเบื้องต้นให้ ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยพาไปรพ.ส่วนมากจะดีขึ้นคะ จากคุณ : ดุ๊กดิ๊ก~ดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 03:22:42

ความคิดเห็นที่ 22 เข้าใจหมอพยาบาลมากค่ะ ลูกเราเคยผ่าตัดหลายครั้งเราเลยมองเรื่องป่วยไข้ธรรมดาเป็นเรื่องชิลล์ไปเลย ไม่เป็นไรมากเราจะไม่พาไปหาหมอค่ะ ยาใหิทานถ้าจําเป็น เวลาไปรพ.พบคุณแม่บางท่านเยอะกับหมอพยาบาลแล้วแอบเซ็งแทน ประมาณไม่เคยมีความรู้หรือสนใจจะรู้อะไรก่อนไปพบแพทย์สักเรื่องก็มีแต่จะนั่นนี่เหมือนรู้ดีกว่าหมอ จากคุณ : via iPhone (My Sea Lion) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 06:03:26

ความคิดเห็นที่ 23 ขอเพิ่มซักข้อ อย่าเลี้ยงลูกจนอ้วนมากเกินไป เพราะมันจะทำให้ทุกสิ่งยากไปหมดตั้งแต่การเจาะเลือด ให้น้ำเกลือ เส้นเลือดจะมองไม่เห็น เด็กอาจจะมีปัญหานอนกรนหรือมีภาวะหยุดหายใจร่วมได้ หรือแม้แต่ภาวะเบาหวานในเด็กตามมาได้ และเมื่อไหร่อยากจะให้น้องหยุดอ้วนตอนโตนั่นแหละเป็นสิ่งที่น่าสงสารเด็กมากที่สุดที่หิวและต้องควบคุมอาหาร แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 06:13:18 จากคุณ : I Promise เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 06:11:33

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : พระจันทร์สีหม่น เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 06:14:53

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวจะไปอ่านให้สามีฟัง ทำตามทุึกข้อเลย 555+ จากคุณ : .เชอร์รี่. เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 07:47:14

ความคิดเห็นที่ 26 สนับสนุนคุณหมอทุกข้อเลยค่ะ👍 เห็นหลายคน หลายกระทู้มาก  แสบคอก็แนะนำซื้อยาแก้ไอเสบกินเอง บอกชื่อยาไว้ด้วย👎 เป็นหวัด แรกๆ คอแห้ง ไวรัสเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว บางคนก็เป็นจนท.ทางการแพทย์ซะเองที่แนะนำ เห็นใช้ยาปฏิชีวนะกันเยอะมาก ลูกชายคนโต 13ปี เคยป่วยไปหาหมอ 2ครั้ง เพราะไข้ไม่ลด 3วัน เท่าที่จำได้ เคยกินยาปฏิชีวนะ 2-3ครั้งเอง ลูกสาวคนเล็ก 3.10ปี ยังไม่เคยป่วยต้องไปหาหมอ นอกจากไข้หวัดธรรมดา แม่ดูแลเอง ยังไม่เคยกินยาปฏิชีวนะเลย บางอย่าง เราสามารถดูแลเบื้องต้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปเสียค่ารักษาแพงๆ คุณพ่อ คุณแม่บางคนไปหาหมอ ได้ยาธรรมดาน้อยๆ ไม่ค่อยพอใจ บางกระทู้ มีคห.ที่รับข้อมูลมาผิด เข้าใจเอง แต่เข้าใจไม่ถูกต้อง เข้าตอบแบบผิดๆอีกต่างหาก คันไม้ คันมือ อยากเข้าไปสะกิดมาก 😱 ขอบคุณ คุณหมอมากที่ตั้งกระทู้บอกข้อมูลที่เป็นประโยชณ์ และถูกต้อง เพื่อที่ลูกน้อยของพ่อ แม่ อีกหลายๆคน จะไม่ต้องได้รับยามากเกินไป และจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่ารักษาโดยไม่จำเป็น โหวตให้ค่ะ 👍👍👍 จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 08:50:34

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับความรู้อันเป็นประโยชน์ค่ะ เราขอแชร์ในอีกมุมหนึ่ง เข้าใจว่า แม่ๆ หลายๆ ท่านก็คงเป็นเช่นนี้เหมือนกัน หลายๆ ครั้งที่เวลาตัวเราเองเจ็บคอ น้ำมูกไหล เป็นไข้ ก็ไม่ได้หาหยูกยามากิน เพราะรู้ว่า เดี๋ยวก็หายเอง แต่สำหรับ กับลูกสุดที่รักของเรา แค่ยุงกัดเล็กๆ น้อยๆ ผู้เป็นแม่ย่อมกังวล ว่ามันบวม มันแดง มันเป็นรอยนาน จนต้องขวนขวายหาแผ่นแปะอะไรมากมายมาใช้กับเด็ก ลูกสำคัญที่สุดในชีวิต และคนเป็นแม่ ก็แค่เอาใจใส่เค้ามากที่สุดในชีวิต เท่านั้นเอง จากคุณ : kee20th เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 09:55:03

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบเป็นไข้กลางคืนค่ะ ปกติไหมคะ 38+  รอจนเป็นไข้ทุกคืนติดกัน เพราะกลางวันไม่มีไข้ ตรวจเลือด ตรวจปอดปกติหมด นี้รอบที่ 3 แล้วค่ะ เป็นไข้ 38+ มา 2 คืนแล้ว ToT แต่างวันปกติดี สงสารเวลาไปนอนหาสาเหตุ แอดมิท ครั้งแรกไข้ 7 วัน แอดมิท ครั้งที่สอง ไข้ 10 กว่าวัน คัดจมูก ไอ อ้วก แอดมิท ครั้งนี้จะไข้กี่วัน จากคุณ : ตัวปลอม (พ่อศรีเรือนคับผม) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 10:11:40

ความคิดเห็นที่ 29 ถูกทุกข้อจริงๆ ค่ะ จากคุณ : kansakx_aj5 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 10:55:19

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากค่ะ  ... จากคุณ : เธอคือของขวัญ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 11:37:37

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบข้อนี้มาก  จริงๆพยาบาลไม่ค่อยอยากไปเจาะเลือดเด็กหรอกค่ะ ไหนจะพ่อแม่ พี่ป้า น้าอา มือสั่นค่ะเกร็งมีแต่คนมอง ทางที่ดีที่สุดอย่าไปกดดัน แล้วอีกอย่างหัวหน้าพยาบาลไม่ได้มีหน้าที่มาเจาะเลือด แจกยา เค้าจัดการเรื่องงานเอกสาร  ตามหมอตรวจบ้าง ถ้าคนไข้เด็กมีสิบเคส หัวหน้าต้องมาเจาะเจาะทั้งสิบเคสเลยก็ไม่ใช่  ถ้ารอบเดียวไม่ไดด้ก็ขอเปลี่ยนเลยค่ะ  อย่ารีรอค่ะ 7. อย่าโกรธคุณพยาบาลเลยครับที่ต้องเจาะเลือดเด็กหลายครั้ง เพราะเส้นเลือดเด็กเล็กมากๆๆๆ จริงๆ ทุกรพ.พยายามจะให้คุณพยาบาลที่เจาะเลือดเก่งที่สุดของเวรนั้นเป็นคนเจาะเลือดลูกของคุณอยู่แล้ว จากคุณ : MamyPunboon เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 12:18:57

ความคิดเห็นที่ 32 พี่สาวที่เป็นหัวหน้า OPD เด็กก็บอกเหมือนกันค่ะว่าไม่มีพยาบาลในโรงพยาบาลวอร์ดไหนจะเจาะเลือดเด็กเก่งกว่า OPD เด็กอีกแล้ว   และหากพ่อแม่เข้ามาดูด้วย พยาบาลจะเครียดมากๆค่ะ  ทางที่ดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพยาบาลแล้วรอข้างนอกดีกว่าค่ะ จากคุณ : occ26 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 13:20:39

ความคิดเห็นที่ 33 อยากบอกว่าการที่ไล่พ่อเเม่ออกจาห้องเจาะเลือดไร้สาระมากๆ คุณต้องดูสิว่าพ่อเเม่เเละเด็กเเต่ละคนไม่เหมือนกัทุกคู่ ของดิฉันบอกพยาบาลตรงๆว่าไม่เป็นไรดูลูกเจ็บได้เเต่เด็กต้องการให้เเม่อยู่ด้วยเพื่อความสบายใจของเด็ก คิดบ้างไหมว่ามันจะเป็นอย่างไรโดนเอาผ้ามาพันรอบๆ เป็นมัมมี่ตัวกันเด็กดิ้น โผล่เเค่เเขน อยู่กับคนแปลกหน้า 2-3 คน ที่กำลังทำตัวเองเจ็บ เด็กคือเด็กไม่ทราบหรอกว่านั่นกำลังช่วย เเถมยังรัดข้อมือหาเส้นเลือดด้วย ยิ่งเจ็บอีก เเล้ว ก็กำเหนื่อยำลังป่วย   เเต่สำหรับครอบครัวดิฉัน จะดีกว่ามากมาย ถ้าอยู่เเล้วเด็กจะยังอุ่นใจถึงเเม้ว่าจะเจ็บเต่พ่อเเม่ยังอยู่ กับเขา ส่วนเรื่องหมอเก่งยังไงก็จำเป็น จำจนตาย เราก็เห็นเเล้วว่าลูกออก สุกใส หมอประจำไม่อยู่ เจอหมอเด็กๆ บอกว่าลูกเป็นผื่น เอ็กซิม่า ธรรมดาๆ ให้อริสโตคอท เเย่มากๆ ถ้าได้ยาฉีด ป่านนี้ลูกอาจจะไม่มีเเผลเป็นมากเท่านี้ บอกก็ไม่ยอมฟัง ตอนนั้น กว่าจะเจอหมอประจำก็ออกทั้งตัวจนสายเกินที่จะฉีดยาเเล้ว (เสียดายมากๆสมัน17ปีที่เเล้ว ไอ้คนโตของเราเเค่อีก 6เดือนยาฉีด สุกใสก็เข้าไทยเเล้ว ทำไมต้องมาเป็นก่อนนั่งลุ้นว่าเข้าไทยยังๆ สุดท้ายไม่ทัน) จากคุณ : doong เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 13:53:51

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆมีประโยชน์ค่ะ ^^ จากคุณ : คุณแม่น้องวัคซีน (pooja sadanan) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 14:19:36

ความคิดเห็นที่ 35 คห.33คะ ลูกชายดิฉันเป็นสุกใสเมื่ิอ10ปีก่อน ตอนอ.2 ดิฉันไม่เห็นต้องไปให้หมอฉีดยาเลยค่ะ รักษาตามอาการ ไม่ได้ไปหาหมอ ไข้ ก็เช็ดตัว กินน้ำ กินไอศครีมแท่ง กินยาลดไข้ และยา แก้คัน CPM ลูกก็ยังสดใสร่าเริงทั้งๆที่ตัวเต็มไปด้วยตุ่ม แต่ถ้าเป็นในผู้ใหญ่ มักจะมีอาการรุนแรง มีร่องรอยแผลเป็น ถ้าเริ่มมีตุ่ม ก็มียาฉีดลดรอยแผลเป็น (มีเพื่อนเป็นตอนเกือบ30) ลูกชายตอนนี้ 12-13ปี ไม่มีร่องรอยแผลเป็นให้เห็นเลย จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 14:41:14

ความคิดเห็นที่ 36 คห.28 น้องอายุเท่าไหร่คะ ฟันกำลังขึ้นหรือป่าว ลูกเรามักมีไข้เวลาฟันจะขึ้นค่ะ จากคุณ : marisa_atth เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 15:03:49

ความคิดเห็นที่ 37 ข้อ 6 แม่เราเคยบอก แต่เราเถียงคอเป็นเอ็นเลยค่า แต่ว่าต้องดูองค์ประกอบอื่นร่วมด้วยใช่ไหมคะคุณหมอ ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์มากๆ ^_____^ จากคุณ : oops_lunla เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 15:43:26

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณค่ะ คุณหมอ นี่เพิ่งรู้เรื่องแผ่นเจลแปะลดไข้ ^^" จากคุณ : pearphoto.com (Momลูกแพร์) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 16:02:59

ความคิดเห็นที่ 39 souce เอามาจากไหนเหรอ  อย่างน้อยก็ควรให้เครดิตคนเขียนด้วยนะครับ       อย่างข้อ 2 ผมว่า case by case นะ ญาติแฟนกินพาราฯเอาไม่อยู่ครับ ... จากคุณ : ริมน้ำคาน เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 16:21:03

ความคิดเห็นที่ 40 เหมือนที่เราเชื่อมาตลอดเลยค่ะและพยายามทำให้ที่บ้านเชื่อเหมือนเราค่ะ จากคุณ : peangneng (peangneng) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:17:46

ความคิดเห็นที่ 41 เด็กป่วย เค้าพร้อมที่จะหาย ไม่ใชพร้อมที่จะตาย ทำใจให้สบายๆ เค้าสู้อยู่พร้อมที่จะหายอยู่เคียงข้างคุณอยู่แล้วครับ จากคุณ : dupdanup (ดูบดานูป) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:01:47

ความคิดเห็นที่ 42 จะบอกว่า ข้อเจาะเลือดนี่ ...... ลูกเราตอนขวบพอดี โดนเจาะเพื่อใส่น้ำเกลือ ไป4 หน ก่อนเจาะพยาบาลก็พูดว่า โห เส้นเลือดหายากจัง แล้วคุยกับพยาบาลอีกคน เชิงปรึกษา แล้วก็บอก เอาเส้นนี้แหละ ดูเหมือนจะชัดสุด ...เจาะเสร็จ เส้นแตก พยาบาลก็ชอนไชเข็มไปๆมาก ลูกเราก็ร้องเหมือนจะตายให้ได้ รอบแรกไม่ผ่าน รอบ2ต่อ ในแขนอีกข้าง แล้วก็ 3 -4ตรงข้อเท้า เราแทบจะขาดใจ ลูกเราเหมือนจะร้องจนจะหมดลมอ่ะ เราต้องขอพยาบาลว่า ช่วยหยุดที เราทนไม่ได้แล้ว ... .....(แต่ในใจ อยากโดดถีบขาคู่พยาบาล 2 คนนั้นมากๆ แค้นโว้ยยยยยยยยยยยยย) จนในที่สุดก็ไม่ได้เจาะ ไปเจาะอีกทีเช้าอีกวัน โดยพยาบาลอีกคนที่ดูเชี่ยวชาญกว่า และ เจาะครั้งเดียวผ่าน คือ จะบอกว่า .... ทำม้ายยยย ส่งพยาบาลฝึกหัดมาเจาะลูกตรูเนี่ยยยย โกรธเว้ยเฮ้ยยยย จากคุณ : powder_MAMA เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:42:24

ความคิดเห็นที่ 43 ^ l l ปล..   อันนี้โรงบาลเอกชนแสนแพงด้วยนะเนี่ย ครือว่า ทำไมไม่เชี่ยวชาญด้านการเจาะเลือดเด็ก แล้วยังส่งมาให้เจาะอีกเนี่ย ...โกรธๆๆๆๆ จากคุณ : powder_MAMA เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:44:19

ความคิดเห็นที่ 44 คุณริมน้ำคานครับ คือ... ผมเขียนเองครับ เลยไม่ได้ใส่ที่มา จากคุณ : Jagger moving (Jagger moving) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 20:28:28

ความคิดเห็นที่ 45 เอ่อ เคยอ่านมาว่าเด็กเล็กยังไม่ควรกินน้ำผึ้งจริงไม่ม่ั้ยคะ ถ้ากินได้ตั้งแต่อายุเท่าไรคะ จากคุณ : น้องBM เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 20:31:07

ความคิดเห็นที่ 46 เด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี ไม่ควรกินอะไรที่มีรถหวานเพราะจะติดความหวานครับโดยเฉพาะถ้าเติมในนมด้วยแล้วห้ามเด็กขาดครับ (สังเกตว่าตอนนี้ไม่มีนมที่เติมน้ำผึ้งวางขายในตลาดแล้ว) นอกจากนั้นยังเสี่ยงกับการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดในน้ำผึ้งด้วยครับ ดังนั้นน้อยกว่า 1 ขวบไม่ควรกินครับผม จากคุณ : Jagger moving เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 20:37:17

ความคิดเห็นที่ 47 ชอบข้อ 4 มากเลยค่ะ ไม่จำเป็นเราจะไม่ให้ลูกกินยาอะไรเลย จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 21:49:15

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ : Phu-nera  ตอนนั้นพี่สาวเป็นตอนเป็นผู้ใหญ่ หมอมียาฉีดไม่ให้มันออกตุ่มเยอะค่ะ เเต่ราคาสูงพอควร ลูกเราคนดต บนหน้ายังมีแผลเป็นเลยค่ะ เป็นตอน2 ขวบกว่า ตั้ง2-3จุดค่ะ จากคุณ : doong เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 22:00:27

ความคิดเห็นที่ 49 ไม่พยาบาลที่ไหนอยากเจาะเลือดเด็กหลายรอบหรอก  หากทำได้ก็คงอยากจะหนีไปไกลๆด้วยซ้ำ แต่พยาบาลต้องทำเพราะเป็นหน้าที่ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องโกรธขนาดอยากจะถีบกันด้วย จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 22:30:16

ความคิดเห็นที่ 50 ลูกหนึ่งขวบยี่สิบวันค่ะ เมื่อวานกับวันนี้ 3 มื้อ ให้เด็กลองกินนมวัว ลูกไม่ยอมกินไทยเดนมาร์กรสจืดและรสหวานเลยเอาโอวัลตินผสม กินมื้อสุดท้ายตอนเที่ยงครึ่ง จู่ๆ บ่ายสามลูกบอกหม่ำๆ แล้วคว้าขวดนมไปกินเอง แต่พอกินปุ๊บก็อาเจียนออกมาเลย ในอาเจียนมีแต่นมสีน้ำตาลเหมือนไม่ย่อย เป็นเพราะอะไรคะ สรุปว่าเด็กหนึ่งขวบกว่ากินนมกล่องได้หรือยังคะ จากคุณ : jedi2543 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 23:12:14

ความคิดเห็นที่ 51 เป็นหวัดไม่ต้องทานยาก็หายได้เองค่ะ (ในกรณีที่ไม่มีไข้นะคะ) ดื่มน้ำมากๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนเยอะๆ เคลื่อนไหวร่างกายเยอะค่ะ จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 23:19:29

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณค่ะมีประโยชน์มากๆเลย เคยมีประสบการณ์เรื่องลูกมีไข้ การเช็ดตัวเปิดรูขุมขนที่พยาบาลแนะนำ ช่วยได้มากเลยค่ะ แผ่นแปะลดไข้แทบไม่ได้ใช้เลย เรื่องการพักผ่อน กินอาหารมีประโยชน์ เห็นด้วยค่ะ^O^ ถ้าคราวหน้ามีอะไรดีๆมีประโยชน์ แชร์อีกนะคะ จากคุณ : benjy_bio เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 23:29:47

ความคิดเห็นที่ 53 สำหรับประสบการณ์จากการเลี้ยงลูกแฝด และพบคุณหมอที่เนเธอร์แลนด์มานั้น ทุกๆข้อคุณหมอที่นี่ใช้หมดเลยค่ะ ที่นี่จะไม่ให้ยาเด็กพร่ำเพรื่อ เวลาเป็นไข้ อย่างเดียวคือยาพาราฯ ค่ะ อย่าพวกอักเสบทั้งหลายนี่คุณหมอจะไม่จ่ายง่ายๆ ดิฉันเห็นที่เมืองไทยหาซื้อยาสาระพัดให้เด็กเล็กทาน ยังรู้สึกกลัวแทนเลยค่ะ อย่างลูกเป็นหวัดนี่เรื่องธรรมดามาก ไม่เคยหาหมอ เป็นเรื่องปกติของที่นี่เพราะอากาศส่วนใหญ๋จะเย็น เวลาเห็นน้ำมูกเขียวคือกำลังจะหายจริงๆค่ะ จากคุณ : schatje เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 23:42:39

ความคิดเห็นที่ 54 ตอบ คห. 49 ค่ะ ที่โกรธพยาบาล ไม่ได้โกรธเพราะเค้าไม่เก่งนะคะ โกรธ เพราะ เค้านอกจากไม่เก่งแล้วยังไม่รู้ตัวว่าไม่เก่ง   ....เราบอกเค้าตั้งแต่เจาะรอบแรกแล้วไม่สำเร็จว่า... ถ้าหาเส้นเลือดน้องไม่เจอ แล้วไม่ลองเรียกพยาบาลท่านอื่นมาลองหาเส้นก่อนเจาะหรอคะ (พูดสุภาพมาก)  พยาบาลกลับตอบแบบมั่นใจในตัวเองว่า ขอลองก่อนค่ะ คิดว่าตัวเค้าเองเจาะได้ ประมาณว่า อีโก้สูงมากว่าไม่ต้องเรียกพยาบาลคนอื่นช่วย... แล้วเราก็ได้เห็นลูกตัวเองเจ็บปวด กรีดร้อง+หวาดกลัว ต่อหน้าต่อตา กับเข็มที่จิ้มเพิ่มไปอีก 3 รอบแล้วไม่สำเร็จ จนในที่สุด เค้าถึงจะเรียกพยาบาลเก่งมาช่วยเจาะ รอบเดียวผ่าน.... ยังงี้ มันอดทนไม่ไหวที่จะโกรธมากๆอ่ะค่ะ จากคุณ : powder_MAMA เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 00:08:22

ความคิดเห็นที่ 55 งูกินหางค่ะ เรื่องยาในเด็กเนี่ย ในฐานะที่เป็นหมอสูติแต่ต้องตรวจเด็กในบางครั้ง จะรู้สึกเครียดมาก ถ้าจ่ายแต่พาราอย่างเดียว แม่จะออกอาการงง และมักจะถามหายาตัวอื่นๆเพิ่ม ซึ่งเราเองไม่ใช่หมอเด็ก เทคนิคต่างๆในการดูแลเด็กก็มีไม่มากและไม่สามารถสอนได้ด้วยความมั่นใจจริงๆ เมื่อแม่รับรู้ได้ว่าหมอไม่มั่นใจ แม่ก็ไม่สบายใจ นะ เข้าใจค่ะ เช่น จะสอนเค้าล้างจมูก ก็ไม่กล้า (เคยแต่เรียน เกิดมาไม่เคยทำ กลัวลูกเค้าสำลักน้ำอีก) ต้องให้ยาลดน้ำมูกไปอยู่ดี หรือถ้าเด็กเล็กๆก็สอนให้เอาลูกยางแดงดูดออก ไอแล้วอ้วก กินไม่ได้เลย ทำไง??? โห จะช่วยไงเนี่ย สุดท้ายได้ยาแก้อ้วกกับแก้ไอ ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ช่วยอะไรมาก ก็เด็กเค้าคันคอง่ะ อย่างหมอจขกท.ว่าแหละ แต่จะบอกแม่ว่าไงดี ดื่มน้ำบ่อยๆ กินน้อยๆบ่อยๆครั้ง ถ้ากินไม่ได้เลย ซึมมากค่อยมาให้น้ำเกลือนะคะ แม่ก็จะบอกว่า เนี่ยค่ะ กินไม่ด๊าย ไม่ได้จริงๆค่ะหมอ ขอให้น้ำเกลือนะคะ จะได้มีแรงหน่อย ซึมมากเลย แล้วลูกก็ร้องจ๊ากๆๆๆ แม่โกรธพยาบาลหาเส้นไม่เก่งอีก ก็นะ ถ้าอดทนนิดนึง อยู่บ้าน เช็ดตัว กินน้ำกินนมไปเรื่อยๆ ก็ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องงอนพยาบาลด้วย คือถ้าติดเชื้อรุนแรงต้องฉีดยาฆ่าเชื้อ ก็โอเคนะ หรือ ท้องเสีย ถ่ายมาก ขาดน้ำ ก็โอเคนะที่จะนอนรพ.ให้น้ำเกลือ ฉีดยากันไป แต่บางราย ลูกกินไม่ได้วันเดียว แม่ก็ทนไม่ได้แล้ว ยืนยันยังไงก็กินไม่ได้ๆ ขอให้น้ำเกลือค่ะ อันนี้ จะเจ็บก็เพราะแม่ไม่อดทนหละ อย่าโทษพยาบาลเลย เคยเจอคุณย่าคนนึง พาหลานมาตรวจเพราะมีไข้ วันเดียวเอง เด็กดูซึมๆนิดหน่อย พลิกดูประวัติ นอนรพ.บ่อยมาก ทุกครั้งหมอจะเขียนไว้ว่า "ญาติกังวล ขอนอน" แล้วทุกครั้ง นอนคืนเดียว พอเราขอตรวจคอ เด็กร้องไห้มากๆๆๆ แบบกลัวมากๆๆๆ เลยบอกย่าไปตรงๆว่าทุกครั้งที่นอนรพ.เด็กไม่ได้เป็นไรมากเลย เป็นหวัดธรรมดา คุณย่าเองทำใจให้สบายก่อนนะ หลานไม่เป็นไรมาก แล้วดูสิ กลัวหมอจะตายอยู่แล้ว อย่าให้แกนอนรพ.อีกเลย ตอนนี้กลับบ้านไปกินยาเถอะ ยังดีที่คุณย่ายอมเข้าใจ ปล.เราก็มีลูกเล็ก และป่วยแบบไอๆอ้วกๆ กินอ้วกๆ เหมือนกัน เข้าใจความเครียดนะคะ แต่ถ้าดูแล้วเด็กไม่ได้ไข้สูง ไม่ได้อ่อนเพลียมาก เป็นหวัดธรรมดา ซึมนิดๆหน่อยๆ ถ้าสงสารลูกจริงๆ ไม่อยากให้เจ็บตัว ลองพยายามให้เค้ากินเองก่อนเถอะค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 01:08:00 จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 00:54:52

ความคิดเห็นที่ 56 เรื่องยาแก้อักเสบนี่ผู้ใหญ่ก็ใช้ได้ผลค่ะ เมื่อก่อนเราิกินแต่ยาแก้อักเสบ สองอาทิตย์ก็ยังไม่หาย เลยหยุดกินยาแล้วลางาน 2 วันนอนทั้งวันเลย กินน้ำอุ่น กินผักเยอะๆ วันเดียวดีขึ้นเลยค่ะ นับแต่นั้นมาเราก็ไม่กินยาล่ะ นอนเยอะๆ กินน้ำอุ่นๆเอา :D จากคุณ : Chunsa เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 08:31:37

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณมากค่ะที่ให้ข้อมูลดีๆ อยากจะถามคุณหมอค่ะ อาการแบบไหนที่เป็นแค่วันเดียวควรไปหาหมอเลย มีมั้ยคะ จากคุณ : goodi poo เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 08:40:59

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณครับคุณหมอ คุณหมอลูกชายก็จะแนะนำแบบนี้ แอบดีใจที่ห้องนี้มีหมอเด็กเข้ามาแล้วว่างๆก็มาให้ความรู้อีกนะครับ จากคุณ : nonsaint เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 09:12:31

ความคิดเห็นที่ 59 ลูกเราส่วนมากป่วยแล้วหายเองค่ะ  ไปรับยามาแต่กินไม่ได้สักที เค้าพยายามขย้อนมาจนหมด เลยไม่ป้อน  แต่ทุกครั้งไปหาหมอเพื่อความสบายใจ ยิ่งตอนมือเท้าปากเปื่อยนี่ต้องไปเพราะกลัวทิ้งไว้นานจะไม่ดี อยากสอบถามคุณจขกท.ค่ะ ถ้าเด็กๆ คอแดงหรือระคายคอ ต้องรักษายังงัยคะ  ขอบคุณล่วงหน้านะคะ จากคุณ : ohioh เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 09:17:55

ความคิดเห็นที่ 60 ลูกเราเป็นหวัด เราแทบไม่เคยให้กินยาเลยค่ะ มีแต่กินน้ำ กินนม ทาวิก ดมหัวหอมตอนนอน แค่นั้นเอง ^^ มากสุดก็ที่โรงเรียน วิ่งมากจนไข้ขึ้น คุณครูให้ยาลดไข้ (น่าจะพารา) พอไปรับ วิ่งซนเหมือนเดิม อืม จากคุณ : แม่น้องบูม เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 09:24:58

ความคิดเห็นที่ 61 เห็นด้วยที่สุดเลยค่ะ ลูกเราไม่เคยต้องกินยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอเลย  ตอนนี้ อายุ 2 ขวบแล้ว ถามว่าเคยมีน้ำมูกมั๊ย .... มีค่ะ เวลาอากาศเปลี่ยน ก็มีน้ำมูกบ้าง ประปราย แต่เป็นน้ำมูกใสๆ แล้วทำไง ? ...... เน้นกิน ค่ะ ใส่หอมใหญ่ในอาหาร ปอกฝรั่งสด ไว้ในตู้เย็นให้หยิบกินเรื่อยๆ กลางคืนทาวิค ที่เสื้อ วันรุ่งขึ้นก้อหายแล้วค่ะ จากคุณ : sakurasato เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 09:40:43

ความคิดเห็นที่ 62 เราเองก็ไม่อยากให้ลูกกินยามาก ๆ เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่จำเป็นเราจะไม่ให้กินยาเลย แต่น้องสามีเรานี่ถึงกับเอายาที่ได้จากโรงพยาบาลไปเป็นตัวอย่างแล้วซื้อมาเก็บไว้ พอลูกมีอาการอะไรก็จัดยาให้ลูกเองเลย ทุกวันนี้หลานเรากินยาวันละ 4 อย่าง ตั้งแต่แก้อักเสป ลดน้ำุมูก แก้อาเจียน ลดไข้ ทุกมื้อ เราเองอยากจะบอกเค้าว่า ลูกเค้ากินยาเยอะเกินไปรึเปล่า แต่ก็ไม่กล้า เฮ้อ สงสารเด็ก จากคุณ : dareem เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 09:42:56

ความคิดเห็นที่ 63 เป็นสิ่งสำคัยพื้นฐานที่เราคนเป็รนแม่ต้องรู้จริงๆ จากคุณ : ฮัลโลตอบหน่อย เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:14:30

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณที่สุดเลยค่ะ ขออนุญาตแชร์ไปไว้หน้าเฟซบุ๊คเราหน่อยน๊า จากคุณ : janeko เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:19:17

ความคิดเห็นที่ 65 รถถังน้อย เคยโดนเจาะน้ำเกลือ 5 ครั้ง พรุนไปหมด 4 ครั้งตรงแขนและข้อมือ ครั้งที่ 5 ตรงเท้า ลูกร้องดังลั่นเค้าให้พ่อแม่รออยู่นอกห้องหัตถการ เราใจไม่ดี รอนานเกินไม่เสร็จซะที เลยเคาะประตูดังๆ เลย แบบว่าไม่พอใจแล้ว พอเข้าไปกะลังแปะสก็อตเทปตรงเท้า เราบอกแล้วจะเดินยังงัย เด็กเดินได้แล้ว (2.7 ปีตอนนั้น) เค้าเลยโทรตามพยาบาลอีกคน พอคนนั้นมา เจาะทีเดียวได้เลย แทบจะกราบพยาบาลคนนั้น คิดในใจทำไมไม่ตามพยาบาลที่เจาะเป็นมาแต่แรก จากคุณ : รถถังน้อย เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:21:31

ความคิดเห็นที่ 66 แต่ถ้าลูกเราเป็นหวัดคงรีบพาไปหาหมอ เพราะกลัวว่าอาการจะหนักกว่าเก่า คนเป็นพ่อแม่ ลูกเป็นดั่งดวงใจหากไม่สบาย คงใจคอไม่ดี จะให้รอซักพักก็ใช่ที่ ยอมรับจะรีบพาไปหาหมอ ถึงแม้ว่าบางทีเชื้อโรคจะเยอะ แต่จะให้ทำอย่างไร รักษากันเอง???  ก็ใช่ที่ เกิดเป็นไวรัสที่ร้ายแรงแฝงมาด้วย   เห็นด้วยบางข้อค่ะ  เพราะบางข้อที่กล่าวมา บางทีอาจจะเป็นจุดเ้ริ่มต้นของไวรัสที่เกี่ยวกับสมองในเด็กค่ะ แค่ คหสต. จากคุณ : แม่หญิงฟุ้งซ่าน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:23:24

ความคิดเห็นที่ 67 ข้อนี้เถียงคะ 9. อย่าเครียดหรือกังวลกับการเป็นหวัดบ่อยๆของลูกมากเกินไปเพราะมันก็เป็นเพียงการสร้างภูมิคุ้มกันแก่เด็กอย่างหนึ่ง (ได้รับวัคซีนโดยไม่ต้องเสียตังค์ไม่ดีเหรอครับ) - ลูกไม่สบายเป็นหวัดเป็นไข้หาหมอทีแพงกว่าค่าวัคซีนอีกคะ อิอิ แซวเล่นๆ นะคะ ขอบคุณมากคะ ได้ประโยชน์จริงๆ คะ และได้ข้อคิดเตือนใจด้วย :) จากคุณ : On Cloud Nine เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:23:45

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ขออนุญาตส่งพ่อให้เพื่อนๆ นะคะ จากคุณ : เลนส์สีฟ้า เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:28:29

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณมากๆสำหรับความรู้ดีๆค่ะ จากคุณ : sriwaroon (sriwaroon) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:51:37

ความคิดเห็นที่ 70 อ่านกระทู้นี้แล้วยิ้มออกเลย เราขี้กังวลมากกกเรื่องลูกป่วย อ่านแล้วสบายใขขึ้นเยอะมากกกก จากคุณ : อาหมวยน้อยมีมี่ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 11:10:01

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณมากจริงๆค่ะ จากคุณ : mokkara's mom เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 11:13:42

ความคิดเห็นที่ 72 พูดถึงเรื่องเจาะเลือด เล่าประสบการณ์หน่อยก็แล้วกันนะคะ เคยเจอเจาะเลือดครบห้านิ้่ว เพราะพยาบาลบอก น้องดิ้น ลมเข้าใช้ไม่ได้ ต้องเจาะใหม่เรื่อๆ จนกว่าจะได้ ตอนนั้น น้องเพิ่ง9 เดือน...เป็นช่วงที่ทรมานหัวใจคนเป็นแม่สุดๆ น้องร้องจนเสียงแห้ง มองหน้าแม่ด้วยสายตาตัดพ้อตลอดเวลา (คงคิด หนูเจ็บ ทำไมแม่ปล่อยให้เขาทำหนู ทำไมไม่ห้ามเขา)...ตั้่งแต่นั้นมา น้องกลัวพยาบาล กลัวหมอมากๆ เห็นใครใส่ชุดสีขาวไม่ได้เลย...ขนาดพาไปตัดผม ช่างใส่เสื้อคลุมสีขาวมีผ้าปิดปากน้องยังกลัวเลย...ร้องไห้กอดแม่ตลอด ไม่ยอมให้ตัดแต่โดยดี มันฝั่งใจเขามากๆ ตอนนี้ 5 ขวบแหละ อาการกลัวชุดขาวดีขึ้น แต่ยังมีหลอนๆมาให้เห็นเป็นระยะๆค่ะ... เวลาเจอคุณหมอ หรือพยาบาลใส่เครื่องแบบครบชุด... แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 11:47:09 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 11:46:12 จากคุณ : kumlala เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 11:45:09

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณมากเลยค่ะ กับข้อมูลที่เอามาแบ่งปันกันค่ะ เราเองเจอกับตัวเลย เพราะลูกคนเล็กเป็นหวัดบ่อยมาก ไปหาหมอเด็กที่คลีนิคแถวบ้าน หมอให้ยาเยอะมาก แถมให้ยาฆ่าเชื้อมาอีกตั้งหาก เป็นมาอาทิตย์นึงไม่หาย เราต้องพาไปหมออีกทีนึง ซึ่งที่นี่เค้าจะไม่ให้ยาฆ่าเชื้อ และรักษาตามอาการของเด็ก ให้กินน้ำอุ่น กินน้ำผลไม้ เยอะๆ เพราะจะทำให้น้องหายไอได้ เนื่องจากในคอ เค้ามีตุ่มขึ้นที่คอหอย เลยทำให้ไอเวลากินนม และ ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ ไม่ค่อยไอแล้ว ไข้ก็ไม่มีแล้วค่ะแต่ จะไอตอนกลางคืนอันนี้ไม่รู้จะทำไงแล้วค่ะ เพราะทาวิค ทีตัว และใส่น้ำมันยูคาริปตัสที่เสื้อ ไม่เปิดพัดลม เปิดแอร์ แค่ 25 องศา ไม่ได้นอนอยู่ในห้อง แต่นอนนอกห้องที่ แอร์ออกไปถึงได้ แต่แทบจะไม่มีความเย็นออกไปเลยอ่ะ แต่ทำไมยังไอไม่รู้ ตอนเช้า กลางวันหลับดีมาก ใครรู้ช่วย หน่อยค่ะ จากคุณ : อาร์ทจังชั้นรักเธอ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 11:58:07

ความคิดเห็นที่ 74 กับลูกคนแรก จะกังวลมากทุกครั้งที่ลูกไม่สบาย เป็นอะไรนิดอะไรหน่อยก็พาไปหาหมอแล้ว เสียตังค์ไปเยอะมาก พอคนที่ 2-3 ไม่กังวลเลย เพราะมีประสบการณ์จากลูกคนแรกแล้ว เวลาไม่สบายก็รักษาตามอาการ เป็นไข้ก็เช็ดตัว กินยาลดไข้เด็ก ถ้า 3 วันไม่หายค่อยพาไปหาหมอ เพราะเคยทราบว่าเด็กป่วยไม่มากเป็นไข้ไม่เกิน 3 วัน ถ้าเกินนั้นคือต้องมีอะไรและ เช่นไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ (แล้วส่วนใหญ่ลูกก็จะหายภายใน 3 วัน) แต่ถ้ามีอาการอื่นที่นอกเหนือจากที่เราคุ้นเคยก็ต้องพาไปหาหมอล่ะค่ะ เห็นด้วยกับคุณหมอ จขกท ทุกข้อเลยค่ะ แล้วเวลาลูกโดนเจาะเลือดหาเส้นไม่ได้ก็ไม่โกรธพยาบาลด้วย เพราะรู้ว่าเค้าก็พยายามที่สุดแล้ว (ตอนนั้นลูกไข้สูงมากจนเส้นหลบหายหมด ต้องรอจนไข้ลดถึงได้เจาะใหม่) จากคุณ : bet bec ben (bet bec ben) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 12:02:53

ความคิดเห็นที่ 75 แต่เราสงสัยว่า  ทุกครั้งที่ไปหาหมอแล้วคอแดง คุณหมอจะจัดยาแก้อักเสบให้ทันทีเลยค่ะ ไม่ว่าจะหมอคลินิคหรือหมอ รพ. ลูกเรากินยาแก้อักเสบมากกว่า 5 ครั้งในเวลา 1 เทอม (เพิ่งเข้าเรียนเมื่อซัมเมอร์  กำลังจะปิดเทอมแล้วค่ะ) เมื่อตอนลูกเล็ก ๆ เราพาลูกหาหมอท่านนึง  ออกแนวธรรมชาติบำบัด แกแทบไม่จ่ายยาอะไรให้เลย  ตัวร้อน  ถ้าไม่ถึง 38 ไม่ต้องให้กินพารา เป็นหวัด  ไม่เป็นไร  หยดยูคาลิปใกล้ ๆ เอา  ไอ  ไม่เป็นไร  กินน้ำเยอะ ๆ แต่ตอนนี้หมอท่านนี้ย้ายไปจังหวัดอื่นแล้ว  เลยได้เปลี่ยนหมอ หมอท่านต่อมา  จ่ายยาเยอะมากกกกกกกกกกกกก ป่วยทีจ่ายยา 4-5 ขวด  ลูกเราก็กินยาย๊ากยาก  T_T ตอนนี้เปลี่ยนมาหาหมอคนใหม่อีก คนนี้คุยดี  แนะนำดี  จ่ายยาตามอาการ ถ้าอาการไม่มากแกก็บอกว่าไม่ต้องกินยา แต่คอแดงทีไรแกก็จ่ายแก้อักเสบให้ทุกทีสิน่า  ^^" จากคุณ : . . ห ม่ า มี้ บั ว ' พู . . (cotton_ud) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 12:29:47

ความคิดเห็นที่ 76 เห็นด้วยกับคำแนะนำของคุณหมอทุกประการนะคะ แต่บางครั้งก็ก่ำกึ่งน่ะค่ะคุณหมอ ล่าสุด ลูกไอทีละน้อย ค่อยๆ รักษาเอง จนไอมากขึ้น ๆ ไอเสียงลึก ๆ มาจากปอด เสียงโขลก ๆ ไม่ได้ไอโล่ง ๆ จนถึงจุดนึงที่ต้องพาไปหาหมอคือ หิวข้าว แต่กินอะไรก็อ้วกออกมาหมด หมอเลยให้ Admit และก็รักษาตามสเตปน่ะค่ะ เจาะน้ำเกลือ ให้ยาฆ่าเชื้อ ให้ยาลดไข้ ล้างจมูก ฯลฯ คือถ้าเราใจเย็นคิดว่าให้กินทีละน้อย ๆ จะได้ไม่อ้วก รักษาเองอยู่ที่บ้าน กับการมานอนรพ. ภายหลังถึงได้รู้ว่า น้องเป็น RSV ถ้าเคสแบบนี้ รักษาเองอยู่บ้านหายหรือไม่คะ?  โชคดีที่ครั้งนี้คิดว่าตัดสินใจถูกที่ นอนรพ. เพราะเขาเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว กับเสียงไอที่เราฟังว่าไอจาก ลึก ๆ ในปอด และโขลก ๆ เลยไปหาหมอไว อาการก็ดีขึ้นเร็ว นอนรพ. 4 วัน เราจะ Balance ยังไงดีคะ กับอาการแค่นี้ไม่ต้องหาหมอหรอก รักษา เองที่บ้านก็หาย หรือ อาการแบบนี้ ควรไปหาหมอได้แล้ว คือกลัวจะกลาย เป็นเรื่องชะล่าใจ หรือ รู้เท่าไม่ถึงการณ์น่ะค่ะ เลยขอใกล้หมอไว้ก่อน รบกวนแนะนำเพิ่มเติมด้วยนะคะ จากคุณ : NongNuDaddy เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 12:32:39

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณมากค่ะ มันโดนใจจังอ่ะ จากคุณ : หมูส้ม เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 12:43:05

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ตามที่เจ้าของกระทู้ว่า เราเองเห็นใจแม่ๆบางคนค่ะ กังวล วิตก สารพัด เราเจอมาเองเพราะว่า ของเราพึ่งออกจากโรงพยาบาล มีพยาบาลบ่นว่าแม่ห้องนั้นนะไม่เข้าใจเลย กลัวไปหมด แต่เรานะบอกได้เลยว่าเข้าใจพยาบาล และหมอดีค่ะ เจ้าตัวน้อยของเราก่อนไปโรงพยาบาล ไข้อ่อนๆ 3 วัน ไข้สูง 1 วัน ไปเสียงแหบ (พึ่งจะเคยได้ยินลูกเสียงแหบ ไม่มีเสียงคราวนี้) กินข้าวเสร็จ กินนมเสร็จก็อาเจียน ไอแล้วอาเจียน(อันนี้เราชอบเพราะสเลดออกมาด้วย) เลยตัดสินใจไปหาหมอ คุณหมอเลยให้นอนค่ะ จับเจาะเลือด ตรวจโน่นนี่ ตอนเจาะเลือดนี่สิ บังคับไม่ให้แม่อยู่ด้วย เราว่าไม่เป็นไร เราอยู่ได้(กลัวลูกหาว่าแม่ทิ้ง)ก็ไม่ยอมให้อยู่เราก็หัวเสียค่ะ    เลยจะพาลเอาเสียแล้ว ที่ผ่านมาเวลาลูกเจาะเลือด สวนสายปัสสะวะ เราอยู่ด้วยทุกครั้งเลย แต่ไหงที่นี่เป็นแบบนี้ อยากจะบอกสุดๆว่าแม่อย่างฉั้นนะเข้าใจนะ อดทนได้ คุณทำงานไปเถอะ แต่ก็ได้แต่อดทนไว้ ลูกเราวันแรกไม่ได้ให้น้ำเกลือดแต่พบว่าขาดน้ำ จากที่เลือดน้องข้นมากเลย ต้องให้น้ำเกลือ แต่พอพบว่าน้องสบายตัวขึ้นหยุดที่ขวดกว่าๆเองค่ะ ส่วนยาแก้อักเสบมาจัดเอาวันที่ 2 เหมือนกันเพราะว่าถ้าน้องไม่มีอะไรมากไม่ต้องเผอิญว่าหายใจครืดคราด สเลดเยอะมาก ต้องช่วยโดยการฉีดยาให้เชื้อโรคเบาบาง(คุณหมอบอก) กลับบ้านมาให้พักผ่อนอย่างเดียวสงสัยต้องงดโรงเรียนก่อนจะกว่าน้ำมูกจะหมดตามที่เจ้าของกระทู้ว่านั่นแหละค่ะ จากคุณ : ชินตัวน้อย (phatteera) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 13:03:59

ความคิดเห็นที่ 79 ลูกชาย 3.2 ขวบ ประวัติแอ็ดมิท 3 ครั้ง คือ ครั้งแรกหลังคลอดได้ 9 วัน นอน รพ. 7 คืน/ครั้งที่ 2  ตอนขวบกว่า ไวรัสลงกระเพาะ ไม่มีเรี่ยวแรง อาเจียนตลอด/ครั้งที่ 3 สองขวบกว่า ท้องเสีย ไข้ ชัก เจ็บป่วยอื่นๆ ก็มีเรื่องเป็นหวัดแต่ละรอบก็เป็นนานเหมือนกันค่ะ ทานยาที่บ้าน  เมื่อสองวันก่อนพาไปเจาะเลือด น้องไม่ร้องไห้เลย พยาบาลชวนคุย ชื่อน้องอะไร โรงเรียนอะไร เพื่อนชื่ออะไร น้องก็คุยตอบเบาๆ ส่วนเราก็คุยกับลูกทุกครั้งว่าเจ็บนิดนึง เดี๋ยวก็หายแล้ว คุณพี่พยาบาลช่วยหนู เค้ารักหนู คุณหมอก็รักหนู เวลาไปรับวัคซีน พอน้องรู้ดีใจยังกะจะไปเที่ยว ไป รพ. ของหนูหรอแม่ คุณหมอเค้ารักหนู มีอยู่ครั้งนึงเอาน้ำหอมของแม่ขวดจิ๋ว ยัดใส่กระเป๋ากางเกง บอกว่าจะเอาไปฝากคุณหมอของหนู บางครั้งที่เราฉีดน้ำเกลือล้างจมูกเค้า เค้าก็พูดว่า ฉีดจมูกแล้วหายหรอแม่ แล้วเอาไซริ้งน้ำเกลือฉีดจมูกตัวเอง พอสำลักก็หัวเราะคิกๆๆ "แม่มันเค็ม" เราต้องคอยย้ำเค้าว่าคุณหมอรัก คุณหมอช่วย เผื่อว่าตอนที่เค้าผ่าตัดจะได้ให้ความร่วมมือดี (ทั้งที่ตัวเราเองกลัวมากๆ) ...อาจไม่เกี่ยวกับเนื้อหาของ จขกท. แค่อยากแชร์ เพราะเพิ่งผ่านความรู้สึกลูกไข้สูงหลายวันในสัปดาห์ที่ผ่านมาค่ะ... จากคุณ : วุ้นผลไม้ลอยแก้ว เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 13:21:41

ความคิดเห็นที่ 80 อยากให้คุณคนนั้นกระโดดถีบพยาบาลจังค่ะ เพราะพยาบาลเขาก็มีติน คุณก็คงโดนถีบกลับด้วย 555 จากคุณ : ม่องเท่ง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 13:38:58

ความคิดเห็นที่ 81 6. น้ำมูกเขียวไม่ได้หมายถึงการติดเชื้อแบคทีเรียหรืออาการหวัดที่เป็นมากขึ้นของเด็ก แต่หลายๆครั้งมันแค่หมายถึงอาการหวัดของเด็กใกล้หายแล้วต่างหาก โดยเฉพาะหากมีน้ำมูกเขียวตอนไข้ลดลง หรือเด็กสดชื่นขึ้นแล้ว ดีใจที่เห็นหมอเขียนข้อนี้ค่ะ จะได้ถามข้อข้องใจที่มีอยู่ เพราะจากประสบการณ์ตัวเองที่เคยเป็นเด็กที่ป่วยบ่อย จำได้ว่าถ้าตัวเองน้ำมูกเขียวจะเป็นช่วงที่รู้สึกดีขึ้น ใกล้หายแล้ว แต่หมอของลูกชายสองคนบอกว่าน้ำมูกเขียวเป็นช่วงที่ติดเชื้อแบคทีเรีย  เป็นช่วงที่ควรให้ยาแก้อักเสบ  และหมอจะไม่ให้ยาแก้อักเสบตอนที่น้ำมูกยังใสๆ  เพราะเป็นช่วงที่ติดเชื้อไวรัส  ดิฉันพิจารณาดูก็เห็นว่ามีเหตุผลและทำตามนั้นมาตลอดแต่มันขัดกับสิ่งที่ตัวเองเคยรู้สึกสัมผัสด้วยตัวเอง (ลูกเป็นภูมิแพ้ หมอไม่อยากให้ปล่อยให้เป็นนานๆ โดยไม่ให้ยา เคยรอให้หายเองแล้วลูกหายเองก็มี  อาการแย่ลงก็มี  คุณหมอสนับสนุนให้รอสักระยะ แต่ไม่ให้นานเกินไป)   คุณหมอช่วยอธิบายกลไกหน่อยได้ไหมคะ ว่าทำไม -บางครั้ง- น้ำมูกเขียวถึงได้หมายถึงอาการใกล้หายแล้ว แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 13:51:03 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 13:50:02 จากคุณ : กรรมใดใครก่อ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 13:48:10

ความคิดเห็นที่ 82 ของเราเคยเจอการรักษาของโรงพยาบาลรัฐ กับเอกชน ความรู้สึกเรา ถ้าไปโรงพยาบาลเอกชน ลูกเราจะดูป่วยเยอะมาก ต้องรีบแอดมินทันที ส่วนโรงพยาบาลรัฐ ให้ยากับไปรักษาเองที่บ้าน เพราะเตียงไม่พอ ลูกเราเป็นพวก ติดเชื้อในลำไส้ อาการก็ปกติของโรค โรงพยาบาลรัฐ ให้ยาแก้อาเจียน ยาฆ่าเชื้อ ให้นมสำหรับเด็กท้องเสีย เอกชน ให้เหมือนกันทุกอย่าง แต่ให้นอนโรงพยาบาลให้น้ำเกลือ  หมดไปครึ่งแสน โรงพยาบาลรัฐ ไม่เกินสามร้อย จากคุณ : เจ้าปังย่ากะท๊อฟฟี่ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 13:54:57

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณมากเลยค่ะ ล่าสุด งงๆ กับอาการกัดฟันของลูก สงสัยจะเครียดจริงๆ ด้วย คงเป็นเพราะเราพยายามให้เค้านอน เดี๋ยวต้องค่อยๆ หาสาเหตุ ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : @nicemode เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 14:16:48

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณครับ   จากคุณ : Draught Beer เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 15:01:49

ความคิดเห็นที่ 85 ก็จริงของคุณหมอทุกข้อนะ แต่สมัยก่อน แม่ผมโหดกว่าหมอเยอะ ผมไม่สบาย ไอไม่หยุด เจอแม่ผม เอายาหม่องกวาดคอ อ๊วกแตกไป 2 รอบ แต่หลังจากนั้น หายสนิท (และก็โดนทำแบบนี้ประจำเวลาไอหนักๆ - -") จากคุณ : TVIC_1408 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 15:02:56

ความคิดเห็นที่ 86 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองกับลูก ก็ทำให้ค่อนข้างสับสนเหมือนกันว่า ตกลงเราควรรักษาโดยไม่กินยา ปล่อยให้หายเอง หรือควรไปหาหมอแต่เนิ่นๆ ลูกสาวคนโตกินนมแม่จนถึง 1 ขวบค่อนข้างแข็งแรง แทบไม่เคยเป็นหวัดเลยจนถึง 2 ขวบ แต่พอเริ่มไปโรงเรียนก็เป็นหวัดบ่อยมาก แม่ก็ไม่ค่อยได้พาไปหาหมอ ให้ยาตามอาการ ไข้ขึ้นก็พารา ไอมากก็แก้ไอ มีน้ำมูกก็ลดน้ำมูก แต่พอเราทำแบบนีแทนที่จะดีขึ้นมันกลายเป็็นแย่ลง ไม่หาย ไอหนักขึ้น มีน้ำมูกเป็นอาทิตย์ สุดท้ายก็ต้องจบลงที่ไปหาหมอเพื่อกินยาแก้อักเสบ พอปิดเทอมก็หาย เปิดเทอมก็ป่วยอีก พอ 3 ขวบเป็นหวัดทีเป็นเดือนไม่หาย ไปหาหมอเอ็กซเรย์ถึงได้รู้ว่าลูกเป็นไซนัสอักเสบ เนื่องจากปล่อยให้เป็นหวัดนานเรื้อรังเกินไปจนไซนัสอักเสบ โดนกินยาแก้อักเสบที 3 อาทิตย์ทั้งกินทั้งพ่นยา ล้างจมูกทุกวัน พอหายก็เลิกหา พอเป็นหวัดไม่ไปหาหมอ กินยาตามอาการ อาการไซนัสกลับมาอีกแล้ว T_T ก็ต้องเริ่มรักษาแบบเดิม เห็นลูกกินยาแก้อักเสบเยอะมากแล้วสงสาร ไม่ให้กินก็ไม่หาย ถามว่าควรทำอย่างไรคะ เราถามหมอ หมอบอกว่าหากเป็นหวัดต้องรีบรักษาให้หายภายใน 3 วัน ถ้ามากกว่านั้นจะเรื้อรังเพราะคนเคยเป็นไซนัส มันก็มีโอกาสเป็นซ้ำอีก กลายเป็นว่า พอลูกเป็นหวัด เราก็ต้องรีบพาไปหมอ เพราะไม่อยากให้ลูกกินยาแก้อักเสบที 3 อาทิตย์เพื่อรักษาไซนัสอีก กิน 1 ขวดก็ดีกว่ากิน 3 ขวดติดกัน ในกรณีแบบนี้คุณหมอจขกท.จะพอแนะนำได้ไหมคะว่า เราควรทำอย่างไร ปล่อยให้หายเองหรือกืนยา บางความเห็นบอกว่าลูกรักษาเองมาตลอดไม่เคยกินยาแก้อักเสบ บอกตรงๆว่าอ่านแล้วอิจฉาที่ลูกแข็งแรง ไม่ต้องกินยาแก้อักเสบ ดูแลรักษาตามอาหารทั่วไปก็หายได้ หากเราทำแบบนั้นได้บ้างก็คงดี แต่ในเมื่อลูกเราเป็นแบบนี้ จะปล่อยให้หายเองโดยไม่กินยาแก้อักเสบได้รึเปล่า เราสงสัยจริงๆนะคะ จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 16:47:35

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ ที่บอกมาทุกข้อจริงหมดเลยค่ะ แต่ก็อย่างว่า หัวอกคนเป็นแม่ลุกเป็น นิดเดียว ก็ว่าเป็น เยอะ แล้วละ เหอๆๆ ลูกเราก็เพิ่้งหายจากอาการไข้หวัดที่มีไข้สูง ถึง 39-40 องศา ค่ะ เป็นอยู่ เกือบ 10 วันได้ เหอๆๆ ตอนนี้ก็ยังมีอาการไอ มากอยู่ กินยาแก้ไอก็ไม่หาย แต่พอไอมากๆๆจนอ้วกออกมาก็หายค่ะ เหมือนเด้กๆยังคายเสมหะออกมาเองไม่ได้ พอได้อ้วกก็หายเลย ส่วนเรื่องแผ่นแปะลดไข้ที่เห็นด้วย ล้าน% เลยค่ะ เพราะลูก เรา ไข้ขึ้น 40 ต้องเช็ดตัวเท่านั้นจิงๆ ลูกเราไม่เคยชัก จากไข้สูงเลยเพราะเช็ดตัวให้ตลอดๆๆ เป็นกำลังให้คุณแม่ทุกคนที่ลูกกำลังป่วยค่ะ ช่วงนี้อากาศ แปรปรวนเหลือเกิน เฮ้ยยย แล้วยิ่งช่วงนี้เด็กส่วนใหญ่สอบกันด้วย สู้ๆทั้งคุณแม่และคุณลูกนะค่ะ ^_^ จากคุณ : ตาโต1966 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 17:51:08

ความคิดเห็นที่ 88 เรื่องเจาะเลือด เราว่าต้องโหดๆ ดุๆ แบบเมืองนอกที่เข็นเตียงลูกไปเจาะที่ห้องปฏิบัติการเลย พ่อแม่ห้ามเข้า พยาบาลไม่เครียดด้วย เจาะหนเดียวได้เลย ถ้าพ่อแม่อยู่ลุ้น ทำหน้าเจ็บแทนลูกอยู่นั่นแหละ เราว่านั่นเป็นสาเหตุหลักที่พยาบาลเจาะผิดเจาะถูกมากกว่านะ และเราว่าที่เด็กร้องตอนโดนเจาะเลือด ส่วนใหญ่ไม่ได้เจ็บมากมายหรอก แต่เป็นเพราะโดนล็อคตัวมากกว่าค่ะ จากคุณ : NSY เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 18:31:50

ความคิดเห็นที่ 89 ผมโชคดีสิเนี่ย ลูกผมเจาะครั้งเดียวผ่านอายุแค่ 1 เดือน แถมเป็นพยาบาลเวร ตอนเที่ยงคืน ^^ จากคุณ : เขียนบน iPad (โกลเด้นแมน) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 20:05:25

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณ คุณหมอค่ะ จากคุณ : missusnow เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 20:25:05

ความคิดเห็นที่ 91 โดนส่วนตัวชอบมีแผ่นแปะหัวติดบ้านค่ะ โดนหมอบ่นบ่อยว่าจะแปะทำไม สวยค่ะหมอ 555 เอาจริงคือไม่ได้เพื่อลดไข้ (เพราะทานพาราและเช็ดตัวอยู่แล้ว) แต่ที่แปะเพราะตัวเองเคยไข้สูง แผ่นแปะหัวช่วยลดความทรมานได้ดีค่ะ มันสบายขึ้นจริงๆนะคะ ^^" จากคุณ : ปานิปานิ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 20:31:15

ความคิดเห็นที่ 92 ลูกเจ็บ แม่เจ็บกว่าเนอะ รอบนี้ ไหว้พระไหว้เจ้า กินยาฆ่าเชื้อ  ให้หายเร็วๆ เฮ้อ.. จากคุณ : ตัวปลอม (พ่อศรีเรือนคับผม) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 22:50:12

ความคิดเห็นที่ 93 คล้าย ๆ คคห.86 ไม่เคยซื้อยาให้ลูกเอง แต่ไม่สบายพาไปหาหมอที่ไร คุณหมอจัดยาแก้อักเสบ+แก้แพ้ให้ทุกครั้ง ให้เหตุผลว่าไม่ควรปล่อยให้เป็นนาน ควรรีบรักษา ถ้า 3 วันไม่ดีขึ้น ต้องพ่นยา ลูกมีอาการทอนซิลโต+กรนหนัก ร่วมด้วย ... ลองเปลี่ยนหมอแล้ว คุณหมอก็ยังพูดเหมือนกัน และจ่ายยากลุ่มเดียวกัน แต่ก็ยังไม่เคยเป็นถึงขนาดต้องนอน รพ. จากคุณ : ระแนงไม้ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 23:06:44

ความคิดเห็นที่ 94 เข้ามาเพิ่มความเห็นเรื่องแผ่นเจล เราเหมือนคุณคคห.91 เลยค่ะ รู้ว่าแผ่นเจลไม่ได้ช่วยลดไข้ เราเช็ดตัวเค้าตลอดอยู่แล้ว แต่แปะไว้กันเหนียวเวลาเค้านอนหลับ ยืนยันว่าแปะแผ่นเจลนี้แล้วหลับสบาย มันทำให้เรารู้สึกเย็นขึ้นจริงๆนะคะ เพราะเราเคยมีไข้สูง 39 องศา เช็ดตัวกินยาลดไข้แล้ว ก็ยังซมๆอยู่ สามีไปซื้อแผ่นคูลเจลมาแปะให้ รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยค่ะ มันจะทำให้หัวเราเย็นๆและรู้สึกสบายตัวขึ้น หลับสบายถึงเช้าเลยค่ะ จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 23:48:39

ความคิดเห็นที่ 95 ขอแจมด้วยคนคะ ปรกติแลัว หมอมักจะไม่สั่งยาให้เด็กเล็ก (โดยเฉพาะที่เด็กกว่าหนึ่งขวบ) ถ้าไม่จำเป็น หมอเด็กของลูกเราจะเน้นย้ำเสมอว่า การที่เด็กไม่สบาย เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการเด็ก เด็กต้องไม่สบายคะ ถ้าเด็กไม่สบาย 5-10 ครั้งต่อปี ถือเป็นปรกติ ถ้าเด็กตัวร้อน พ่อแม่ควรสนใจให้ลูกสบายตัวมากกว่าสนใจให้ไข้ลูกลด (ส่วนตัวแล้ว มันทำยากคะ) แต่ถ้าจำเป็นต้องให้ยาจริงๆ ควรปรึกษาหมอเด็ก เราเห็นเพื่อนหลายคนพาลูกไปหมอสูติบ้าง หมออยุรกรรมบ้าง หาหมอเด็กดีกว่าคะ หรือไม่ก็ family medicine เด็กไม่เหมือนผู้ใหญ่ โรคก็ไม่เหมือนกันทีเดียว ยาก็ไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้ หาหมอเด็กไปเลยดีกว่าคะ แต่เราว่า คนไทยมีโรคจิตอยู่อย่าง คือไม่สบายต้องไปหาหมอและจะต้องได้ยามากินด้วย ถ้าไม่ได้ยามากินจะโวยวาย เรามีเพื่อนเป็นหมอหลายคน บ่นให้เราฟังเป็นประจำ ความรู้สาธารณสุขพื้นฐานคนไทยแย่จริงๆหรือ อีกอย่าง อย่าให้ลูกกินหวานมากนะคะ โรคอ้วนให้เด็กเล็กกำลังมาแรง ระวังไว้ก็ดีคะ ต่อให้เป็นเด็ก ก็กินอาหารเน้นสุขภาพได้คะ สองส่วนเป็นผักกับผลไม้ หนึ่งส่วนโปรตีน หนึ่งส่วนแป้งคะ จากคุณ : Freedom and Justice เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 05:36:54

ความคิดเห็นที่ 96 เห็นแล้วอดไม่ได้ เพลียกับความคิดเห็นของแม่บางคน ถึงขนาดต้องโดดถีบพยาบาลเลยเหรอ เค้าก็คน เราก็คน หรือว่าพอไป รพ เอกชนจ่ายเงินหน่อย นึกว่าตัวเองกลายเป็นเทวดาไปจะถีบใครก็ได้ จากคุณ : DutchEngel เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 06:48:22

ความคิดเห็นที่ 97 ปกติเวลาเจาะเลือดเด็กในทีมจะให้พยาบาลที่มือฉมังที่สุดไปเจาะอยู่แล้วคะนอกจากพยาบาลคนนั้นติดคนไข้อื่นอยู่ก็ต้องให้มือรองไป เพราะถ้าไม่ไปก็เจาะเลือดให้น้ำเกลือช้าไปอีก ส่วนการทำหัตถการที่ไม่ให้ญาติหรือพ่อแม่อยู่ด้วยก็เข้าใจว่าแม่ไม่อยากให้ลูกเครียดแต่การที่ญาติอยู่ด้วยเพิ่มความเครียดให้พยาบาลมากๆคะจากที่น่าจะได้เข็มแรกเลยอาจจะไม่ได้ เพราะเด็กที่อ้วน เนื้อแน่นหาเส้นยากแล้วดิ้นแรง เลยต้องใช้ผ้าห่อตัวมัดช่วย นี่เป็นอีกมุมจากใจของพยาบาลด้วยคะ เราเป็นพยาบาลหอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิดที่ใส่เครื่ิองช่วยหายใจ อ่านแล้วก็เห็นใจพยาบาลตึกเด็กเหมือนกัน เพราะเวลาลูกของน้องๆที่ทำงานป่วยก็ไม่มีใครยอมเจาะเลือดลูกตัวเองจะอุ้มมาให้เพื่อนร่วมงานเจาะให้ เข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่คะถึงแม้จะเป็นพยาบาลเจาะเลือดคนอื่นทุกวันแต่จะไม่กล้ากับลูกตัวเอง แต่บางเคสก็ให้แม่อุ้มแล้วเราก็ค่อยๆหาเส้นที่มือไปมันก็จะช่วยลด painได้ เชื่อเถอะคะใครๆก็อยากแทงให้ได้เข็มแรกเพราะเราก็สงสารเด็กเหมือนกัน บางทีห้องlab หรือตึกพิเศษเจาะไม่ได้เค้่ก็จะให้พ่อแม่อุ้มเด็กลงมาที่ward ก็ต้องวางมือจากงานที่ทำมาเจาะเลือดให้เคสจากที่อื่น ถ้าเจาะได้เลยตั้งแต่เข็มแรกเราก็ดีใจก่อนพ่อแม่แหล่ะคะ. นะคะเห็นใจพยาบาลนิ๊ดดดดนึง ขอบคุณคะ จากคุณ : เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 09:26:30

ความคิดเห็นที่ 98 ชอบมากคะ ได้ความรู้เพิ่ม ขอบคุณคะ จากคุณ : i love iris เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 10:12:36

ความคิดเห็นที่ 100 แล้วหลอดลมอักเสบ จากการเป็นหวัด ในเด็ก 4 เดือนหล่ะค่ะ ควรนอนแอดมิทเพื่อพ่นยา หรือกินยาขยายหลอดลมก็พอ ตอนนี้ลูกไปพ่นมาวันศุกร์ หมอให้กลับมาพักผ่อนสั่งยามาให้ แต่ตอนนี้ ไข้ลดแล้วเหลือแค่อาการหายใจที่ยังดูหอบอยู่ เราควรไปหาหมอเพื่อพ่นยาซ้ํา หรือ กินยาต่อไปดีคะ เพิ่มเติมว่า ตรวจเลือดและเอกซเรย์ปอดแล้ว หมอแจ้งว่าเป็นไวรัสทั่วไปยังไม่ถึงปอดค่ะ จากคุณ : i_muay เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 10:22:28

ความคิดเห็นที่ 101   เดี๋ยวจะ copy ไปให้พ่อบ้านอ่านดูบ้าง อะไรๆก็จะไปหาหมออย่างเดียวเลย จากคุณ : mominam เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 10:50:14

ความคิดเห็นที่ 102 มันก็ไม่แน่เสมอไปนะ ลูกเราเพิ่งไปโรงพยาบาลมาเมื่อกี้ อาการคือมีน้ำมูกใสๆ มีไข้ต่ำๆ4-5 วัน เราก็ไม่ได้ให้กินยา ทานยาลดไข้บ้างบางมื้อ พอเมื่อวานเริ่มท้องเสีย ถ่ายเหลว หมออธิบายว่าอาจจะมีเชื้อไวรัสลงกระเพาะ ถ้าเป็นหวัด 4-5วันไม่หาย ต้องพบหมอ และกินยา ปล่อยนานไปอาจทำให้เป็นไซนัสได้ จากคุณ : หัวใจอยู่ใกล้แม่ เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 15:36:33

ความคิดเห็นที่ 103 หมอที่อังกฤษก็ไม่จ่ายยาเหมือนกันค่ะกรณีที่เป็น viral infection วิธีรักษาก็แค่ให้เด็กดื่มน้ำมากๆ ถ้าเด็กไม่ทานอะไรเลยก็ไม่เป็นไร ขอแค่อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ สังเกตุว่าลูกฉี่เป็นปกติหรือป่าว ถ้ามีไข้ก็ให้ยาลดไข้ อาการจะดีขึ้นเองภายในหนึ่งสัปดาห์ถ้า ไม่หายก็มาหาหมอใหม่. จากคุณ : ผ่านมา (numberjack_2005) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 16:18:32

ความคิดเห็นที่ 104 ขอบคุณมากค่ะ ข้อมูลมีประโยชน์จริงๆ จากคุณ : เวลาไม่เคยหยุด เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 16:40:01

ความคิดเห็นที่ 105 แหม !! น่ารักจิง ๆ คุณหมอ ที่มาบอกกัน ขอบคุณมากนะค่ะ  รักหมดใจ อิ อิ !! จากคุณ : อิชั้นคนบ้านๆ เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 17:09:50

ความคิดเห็นที่ 106 คุณหมอน่ารักจัง ถูกใจข้อ 7 อิอิ ผันตัวเองจากพยาบาลมาเป็นแม่ ครั้งที่ลูกเข้า รพ. ตอนขวบเศษ ลูกต้องให้น้ำเกลือ เราก็หนีเข้าไปหลบในห้องพักเลย ไม่ดู ไม่รอ รอให้เค้าพาลูกมาส่งที่ห้องอย่างเดียว (ตอนนั้นลูกท้องเสีย ยาไม่กิน ข้าว น้ำ นมไม่แตะสามวัน ทนไม่ไหว กลัวลูกช็อก) เพราะรู้ว่า ลูกต้องดิ้นแน่ ลูกเราตัวใหญ่ แรงเยอะ คาดการณ์ถูก กลับมาลูกมีแต่พลาสเตอร์แปะหลายรอย สองแขนเลย ผู้ช่วยพยาบาลแอบมาบอก ช่วยกันจับ 4 คน พยาบาลเลยทำงานอย่างอื่นช้ากันไปหมด เพราะตัวแสบมาป่วนวอร์ด อิอิ สมัยที่เป็นพยาบาล เคยได้มีโอกาสอยู่วอร์ดเด็กพักหนึ่ง จะบอกว่า ชอบเด็กที่ผอมๆหน่อยมาก เพราะจับง่าย หาเส้นง่าย แป๊บเดียวก็เสร็จ แต่ถ้ามาแบบอวบๆ  แก้มยุ้ยๆ แขนอวบๆ ต้นขาตันๆ เครียดรอเลย เพราะหาเส้นยากมาก บางทียังไม่ทันหา เด็กแค่ตกใจไม่เจอแม่ เจอแต่ใครก็ไม่รู้มารุม ก็ดิ้นรอไว้ก่อนแล้ว เคยโดนเด็กเตะจนแว่นหลุด โอ้ว ขอบอกว่า สถานการณ์ตีงเครียดมาก หุหุ (แต่เค้าไม่ได้ทำไรเด็กนะ เค้าใจดี เอิ้ก) แล้วถ้าพยาบาลดั้งหัก จะไปเรียกร้องจากครายดีเนี่ย (แหะๆ ขำๆค่ะ) จากคุณ : shai339 เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 19:21:44

ความคิดเห็นที่ 107 9. อย่าเครียดหรือกังวลกับการเป็นหวัดบ่อยๆของลูกมากเกินไปเพราะมันก็เป็นเพียงการสร้างภูมิคุ้มกันแก่เด็กอย่างหนึ่ง (ได้รับวัคซีนโดยไม่ต้องเสียตังค์ไม่ดีเหรอครับ) อย่างงี้ถ้าลูกไม่ค่อยป่วยเลยอย่างงี้ร่างกายก็ไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันอ่อคะ พอดีลูกชายขวบกว่า เคยไม่สบาย 2 ครั้ง เป็นไข้ 1 ครั้ง มีน้ำมูกอีก1ครั้ง งี้ร่างกายเค้าจะมีภูมิคุ้มกันเท่าเด็กที่ป่วยบ่อยๆมั้ยคะ จากคุณ : crushiie เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 21:24:04

ความคิดเห็นที่ 108 ดีมากเลยค่ะคุณหมอ ตรงทุกข้อเลยค่ะ ขอแชร์นะคะ ^^ จากคุณ : -+-miwchan-+- เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 22:06:59

ความคิดเห็นที่ 109 อยากจะบอกว่า พยาบาลเด็กอย่างดิฉัน เครียดสุด ๆ เวลาเจาะเลือดแทงน้ำเกลือเด็ก เจาะได้ก็เครียด  เจาะไม่ได้ก็เครียด เพราะยังไง ก็ทำให้เด็ก ๆ เจ็บตัวเหมือนกันทั้งสิ้น แถมยังต้องเครียดกับสายตาญาติ ๆ เด็กอีก ขณะเจาะเลือดเด็กน้อย แล้วมีญาติ ๆ น้ำตาไหลพราก ๆ เนี่ย ลงเวรไป กว่าจะหายเครียด อยู่ ward เด็ก 4 ปี  ward มะเร็งเด็กอีกต่างหาก  ยิ่งเครียด ...บังเอิญ มีโอกาสได้ย้ายงาน มาอยู่อีกที่ Ward ที่ขออันดับหนึ่งคือ ขออยู่ห่าง ๆ เด็ก (เพราะสงสารเด็กน้อย)   สบายใจขึ้นมากกกกก ...อ่านบางความเห็นแล้วรู้สึกเสียใจจัง พยาบาลที่ดูโหดร้ายในสายตาคุณ ก็มีหัวใจนะคะ จากคุณ : โกโก้เย็นหวานน้อย เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 22:40:31

ความคิดเห็นที่ 110 จากที่อ่านดูหลายๆท่านไม่พอใจประเด็นพยาบาลเจาะเลือดเด็กหลายครั้ง บางท่านบอกว่าทำไมส่งพยาบาลเจาะเลือดไม่เป็นมาเจาะลูกฉัน. อยากเรียนให้ท่านทราบค่ะว่าคนที่จบพยาบาลมาสามารถเจาะเลือดได้ และเจาะเลือดเป็นทุกคน แต่จะเจาะได้หรือไม่ได้ในครั้งแรกที่เจาะนั้น มันขึ้นอยู่กับตัวผู้ที่ถูกเจาะค่ะ มันมีปัจจัยหลายอย่าง anatomy ตำแหน่งเส้นเลือดก็ไม่ได้อยู่ตำแหน่งเดียวกันทุกคน ความยืดหยุ่นเส้นเลือดก็ไม่เท่ากัน  การที่พยาบาลต้องเจาะหลายครั้ง ไม่มีใครอยากทำหรอกค่ะ เราก็สงสารเด็ก และมันก็เสียเวลาที่จะให้บริการผู้ป่วยท่านอื่น งานเอกสารก็ยังต้องทำ ถึงจะส่งพยาบาลที่มือฉมังสุดๆไปเจาะก็ใช่ว่าเขาจะไม่มีงานอื่นต้องทำ ไหนจะฉีดยา แจกยารับประทาน ให้น้ำเกลือ อาบน้ำผู้ป่วย ตามแพทย์ตรวจเยี่ยมอาการ และแม้จะเจาะเก่งที่สุดในวอร์ดแล้วบางครั้งก็เจาะไม่ได้เลือดเหมือนกันค่ะ อยากให้คุณแม่ๆเข้าใจพยาบาลด้วยค่ะ จากคุณ : turkish delight เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 22:59:51

ความคิดเห็นที่ 111 เห็นด้วยกับ คห.110 ค่ะ ในฐานะคนเจาะเลือด และ ก็มีลูกเป็นเด็กน้อยเหมือนกันนะคะ อยากจะบอกว่าไม่ว่าจะเป็นพยาบาล หรือ คนเจาะเลือดแบบดิฉัน ไม่มีใครอยากจะเจาะเลือดเด็กหลายๆครั้งเลยนะคะ อยากให้แม่ๆเข้าใจพวกเราบ้างนะคะ ลูกเราเองยังเจาะ 2 ครั้งเลยค่ะ เพราะเขาหาเส้นยากมากค่ะ อย่าโกรธพวกเราเลยนะคะ เราไม่อยากเจาะหลายๆครั้งจริง เหมือนที่คุณ คห.110 ว่าคนที่เก่งที่สุดอาจจะเจาะไม่ได้ทุกคนก็ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับเส้นเลือดของเด็กด้วย แล้วยิ่งเด็กเล็กด้วย เส้นเลือดเขาเล็กมาก บางคนเนื้อเยอะก็ยิ่งหายากเข้าไปอีก เห็นใจพวกเราด้วยนะคะ เราไม่ได้อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลยจริงๆค่ะ จากคุณ : คนเจาะเลือดค่ะ (AmmAmmMekkrajai) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 23:45:55

ความคิดเห็นที่ 112 คิดเหมือนความเห็น 86 คุณ Trippy ไม่ได้อยากให้ลูกกินยาเยอะเหมือนกันค่ะ ตอนยังเด็กยังไม่ได้เข้าโรงเรียน+ยังกินนมแม่ ก็ไม่ค่อยเป็นหวัด แข็งแรงดีมาก พอเข้าโรงเรียนเลยเป็นหวัดบ่อยมาก เป็นทีไรก็หูแดงหูอักเสบเกือบทุกครั้ง ทำให้ต้องทานยาฆ่าเชื้ออย่างน้อย 2 อาทิตย์ แล้วเป็นหวัดเดือนละครั้งได้ ทำให้ทานยาฆ่าเชื้อบ่อยมาก นี่คือหาหมอที่ไม่เน้นทานยาแล้วนะคะ หมอก็จะบอกเสมอว่าถ้าไม่มีอาการ ให้หยุดยา (ยกเว้นยาฆ่าเชื้อที่ต้องทานให้ครบโดส) เพราะยาทานมากๆไม่ดีหรอก ยังไงมันก็คือสารเคมี ไม่รู้ว่าทำแบบไหนดีกว่าเหมือนกันค่ะ จากคุณ : OM เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 23:59:59

ความคิดเห็นที่ 113 ของเรา เจ็บคอ กวาดยา น้ำมูก ใช้น้ำเกลือล้าง ตัวร้อน กินยาพาราลดไข้ จากคุณ : ปุ๊กกี้ด็อก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 09:26:40

ความคิดเห็นที่ 114 ลูกเราตอนแปดเดือน โดนเจาะน้ำเกลือเกือบ 10 ครั้ง เราสงสารลูกมาก แต่ไม่เคยเหวี่ยงกับพยาบาล ไม่มีใครอยากให้เด็กเจ็บหรอกค่ะ เราเข้าใแจแบบนั้นนะ แต่เด็กเล็กหาเส้นยากมากจริงๆ แถมบางครั้งเราเข้าใจว่าพ่อแม่ยืนอยู่ด้วยมันเหมือนกดดันเค้าอยู่ เห็นใจพยาบาลค่ะ จากคุณ : ระบุชื่อแล้ว เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 13:15:49 A:58.137.117.194 X: TicketID:368721

ความคิดเห็นที่ 115 พาลูกหาหมอน้อยมาก อาการหนักจริงๆแบบไข้ไม่ลดจึงค่อยพาไป ไม่ชอบให้หมอจัดยาเยอะ เพราะไม่ชอบให้แกกินยาเยอะ กินสองสามตัว พักผ่อนเยอะๆ ก็หายไว  ทุกวันนี้แข็งแรงดี โตแล้วสิบขวบ ปีที่แล้วทั้งปีไม่เคยหยุดเรียน  เราอาศัยให้ลูกอยู่ในที่โปร่ง โล่ง ไม่แออัด ลูกก็จะแข็งแรงค่ะ จากคุณ : ปกติสุข เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 21:09:11

ความคิดเห็นที่ 116 คุณพยาบาลเคยขอให้ออกไปนอกห้องตอนจะเจาะเลือดและแทงน้ำเกลือ รวมทั้งเช็ดตัวลดไข้ "ถ้าคุณแม่ไม่อยู่ น้องจะเก่งมาก และไม่งอแงเลยค่ะ" .... คุณพยาบาลบอก ^ ^ จริงดังว่า รอหน้าห้อง ลูกไม่ร้อง ดีดดิ้นเหมือนเคย จากคุณ : ป้าจี่ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 00:42:05

ความคิดเห็นที่ 117 ขอบคุณมากค่ะ ข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆ จากคุณ : tavirut เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 11:26:00

ความคิดเห็นที่ 118 ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์มากเลย โหวตจ้า จากคุณ : urassaya เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 12:46:40

ความคิดเห็นที่ 119 ขออนุญาตจขกท. เพิ่มข้อที่ 11 ได้มั้ยครับ 11.เลิกขู่ลูกว่าอย่าดื้อนะ เดี๋ยวหมอตี อย่าดื้อนะ เดี๋ยวหมอฉีดยา เพราะจะทำให้เด็กกลัวหมอ กลัวพยาบาล กลัวการมารพ. เห็นหน้าหมอยังไม่ทันทำอะไรก็งอแง ตรวจยาก วินิจฉัยอาการยาก พยาบาลจะมาฉีดยา เจาะเลือด แทงเส้นให้น้ำเกลือก็ลำบาก เรื่อยไปจนถึงเด็กจะกินยายาก สุดท้ายคนที่ลำบากทั้งร่างกายและจิตใจก็เป็นพ่อแม่ของเด็กเองนั่นล่ะครับ จากคุณ : percent เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 20:08:42

ความคิดเห็นที่ 120 อุ๊ย กะจะมาขอเพิ่มเหมือน คคห ที่ 119 พอดีเลยค่ะ ...กำลังจะตรวจละ น้องเริ่มทำหน้ากลัว แม่รีบบอกเลย อย่าร้องนะ เดี๋ยวหมอจับฉีดยา ป๊าดดดด จากตอนแรกเด็กแค่ทำหน้าแหยงๆ ทีนี้ร้องไห้ ดิ้นพราดๆเลยค่าาา เราอยากจะบอกแม่เลยนะว่า แม่คะ อย่าขู่น้องอย่างนี้ แค่มาโรงบาล สถานที่แปลกใหม่ มีแต่เด็กท่าทางป่วยๆ น้องก็เครียดพอละ มาขู่งี้อีก เค้าก็จะจำเลยว่า มาที่นี่ ต้องโดนฉีดยา ต้องโดนทำอะไรเจ็บๆ ส่วนหมอ ก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แสนน่ากลัว ไม่พอใจเด็กคนไหน จับฉีดๆๆๆยาให้หมด!  ซึ่งมันไม่จริงงงงง จากคุณ : Winki เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 20:32:58