Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เลี้ยงลูกอย่างไรให้ฉลาด .. ม้าตีนปลาย ติดต่อทีมงาน

เราชอบตอนนี้ที่คุณหมอเขียนมากเลย ประทับใจที่คุณหมอพิสูจน์ให้เห็นว่า การที่เรารู้จักลูกเราดี เชื่อมั่นในตัวเค้า ไม่ไปกดดันจนเกินไป เป็นสิ่งที่ดีที่ควรทำ

http://guru.truelife.com/issue/content/view/67779

จากตอนที่แล้วหมอได้ทิ้งท้ายไว้เกี่ยวกับระบบการศึกษาของบ้านเรา เมื่อเปรียบเทียบกับของประเทศที่พัฒนาแล้วยังมีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีกมากมาย ตอนนี้หมอจะเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ของหมอและลูกหมอเองให้ฟังเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อคิดกับผู้อ่านทุกท่าน ถ้าเป็นกรณีลูกของคุณ คุณจะทำอย่างไร?

เริ่มจากลูกชายคนโต หมอได้ส่งลูกไปโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งเป็นโรงเรียนที่เน้นการเลี้ยงดูเด็ก สอนเด็กให้ช่วยเหลือตัวเองเข้าสังคมเล่นกับเพื่อน แต่ไม่เน้นการเรียนการสอนหนังสือให้อ่านออกเขียนได้หรือแม้กระทั่งการบวกเลข ไม่ว่าจะเป็นเลขหนึ่งหลักหรือสองหลักก็ทำไม่ได้ครับ เพราะฉะนั้นเมื่อลูกหมอเริ่มเข้าโรงเรียนชั้นประถม 1 จะอ่านหนังสือเป็นคำๆไม่ได้เลย อ่านวันที่ที่ครูจดบนกระดานไม่ได้ อ่านได้แต่ ก .. ไก่ ข.. ไข่ ค... ควาย หรือคำง่ายๆ เช่น กา ขา เป็นต้น ในขณะที่เด็กคนอื่นส่วนมากอ่านออกและบวกเลขได้แล้ว ถ้าคุณเป็นตัวหมอคุณคิดว่าคุณควรทำอย่างไร 1)จ้างครูมาสอนพิเศษตัวต่อตัว หรือ 2)ส่งลูกไปเรียนพิเศษ และทำการบ้านเพิ่มเติม หรือ 3) ติวและสอนหนังสือลูกด้วยตัวเองอย่างเข้มข้นเพื่อให้ลูกเรียนทันเพื่อน

ถ้าคุณตอบข้อ 1, 2 หรือ 3 ข้อใดข้อหนึ่งคุณคิด ........ผิดครับ

เพราะหมอแน่ใจในตัวลูกหมอว่าไม่โง่แน่นอน (ถ้าคุณผู้อ่านยังจำได้ คนเราจะฉลาดหรือไม่ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมครับ) หมอจึงปล่อยให้ลูกเรียนอย่างสบายตามปกติ ไม่มีการติวหรือเรียนพิเศษ เพียงแต่ให้ทำการบ้านตามที่คุณครูสั่ง แล้วหมอมีหน้าที่ตรวจว่าลูกทำการบ้านครบและถูกต้องเพียงเท่านั้น เสาร์อาทิตย์ก็พาไปเที่ยวเขาดินแทบทุกอาทิตย์ ถือว่าเป็นวันครอบครัว เป็นวันพักผ่อน ไม่มีการส่งลูกไปเรียนพิเศษตั้งแต่เช้าจรดเย็นอย่างที่หลายๆ คนทำกันอยู่

ถึงเวลาสอบเทอมแรกลูกหมอยังอ่านหนังสือไม่คล่อง เวลาสอบลูกเล่าว่าต้องให้คุณครูยืนอยู่ข้างๆ อ่านโจทย์ให้ฟังแล้วให้ลูกหมอเลือกคำตอบเอง ผลการสอบเทอมแรกลูกหมอได้ที่ 29 จาก 30 คน อ่านไม่ผิดหรอกครับ ได้ที่ 2 จากท้ายห้อง น่าตกใจไหมครับ? ถึงตอนนี้ถ้าคุณเป็นตัวหมอ คุณจะทำอย่างไร? 1)จ้างครูมาสอนพิเศษตัวต่อตัว หรือ 2) ส่งลูกไปเรียนพิเศษและทำการบ้านเพิ่มเติม หรือ 3) สอนหนังสือลูกด้วยตัวเองอย่างเข้มข้นเพื่อให้ลูกสอบดีขึ้น

ถ้าคุณตอบข้อ 1 , 2 หรือ 3 ข้อใดข้อหนึ่ง คุณตอบ........ผิดครับ

ปิดเทอมหมอส่งลูกไปอยู่กับอาม่า(แม่ของหมอ)ที่กาญจนบุรี ไปใช้ชีวิตเรียนรู้ธรรมชาติต่างจังหวัด จนกระทั่งเปิดเทอมจึงไปรับกลับมาเรียนตามปกติ โดยไม่มีการสอนหรือเรียนพิเศษเพิ่มเติมเหมือนเทอมแรก ผลการสอบเทอมปลาย ลูกหมอเริ่มจะอ่านหนังสือได้คล่อง สอบได้ที่ประมาณ 22 – 23 ของห้อง ปิดเทอมใหญ่ก็ไปอยู่กับอาม่าที่ต่างจังหวัดเหมือนเคยจนกระทั่งเปิดเทอม

กลับมาเรียน ป.2 ลูกไปเรียนตามปกติ หมอเพียงตรวจการบ้านว่าทำครบและถูกต้อง ทุกอย่างยังทำเหมือนเดิม แต่ผลการสอบปรากฏว่าลูกหมอค่อยๆ ดีขึ้นจนประมาณ ป . 3 ก็เริ่มเห็นว่าลูกทันเพื่อนในชั้นแล้ว แต่เกรดการสอบก็อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยปานกลางของห้อง จะมาเริ่มเห็นว่าลูกเริ่มเก่งประมาณ ม. 1 พอถึง ม. 3 หมอก็แน่ใจว่าลูกเก่งพอสมควร สอบได้เกรด 3 กว่า พอ ม. 4 – ม. 6 ผลการสอบก็ดีขึ้นตามลำดับ จนสามารถสอบเข้าเรียนแพทย์ได้

จากเด็กที่อ่านหนังสือไม่ออก สอบได้ที่ท้ายสุดของห้อง ปัจจุบันเรียนจบเป็นหมอด้านอายุรกรรมโรคหัวใจแล้วครับ ส่วนลูกคนที่ 2 ก็เข้าอีหรอบเดิม ตอนเข้าเรียนชั้นประถม 1 ก็อ่านไม่ออก เขียนเป็นคำไม่ได้ ปรากฏว่าทางโรงเรียนมีโครงการทดลองจับเด็กเรียนอ่อนทั้งหมดประมาณ 40 กว่าคนมารวมอยู่ห้องเดียวกัน แล้วให้ครูประจำชั้น 2 คนดูแล มีการจัดสอนติวพิเศษตอนเย็นทุกวัน ครูสั่งทำการบ้านเยอะแยะไปหมด เช่นเลข 10 ข้อ แต่ละข้อจะมี 10 ข้อย่อย รวมเป็น 100 ข้อต่อครั้ง

ตอนเย็นพ่อแม่จะต้องมานั่งรอกันเต็มหน้าห้องทุกวัน หลายคนเป็นทุกข์กังวลใจมากและนั่งคุยปรับทุกข์กันเอง ส่วนหมอนั้นชินเสียแล้ว เพราะประสบการณ์จากลูกคนแรกสอนว่าถ้าลูกเรานั้นใช้ได้ เริ่มต้นถึงจะช้ากว่า แต่ท้ายที่สุดก็จะสามารถทันเพื่อนได้โดยตัวเขาเอง โดยไม่ต้องเร่งเรียนพิเศษ

ผลการสอนปรากฏว่ามีอยู่เย็นวันหนึ่ง หมอไปถึงหน้าห้อง เห็นห้องปิดหมดทั้งประตูและหน้าต่าง ปิดไฟมืดและเงียบ พ่อแม่นั่งรอคอยกันเต็มหน้าห้องเหมือนทุกวัน สอบถามได้ความว่าคุณครูทนไม่ไหว ในความเป็นเด็กอ่อนของนักเรียนทั้งห้อง ซนมาก ไม่สนใจเรียน ไม่ยอมนั่งเรียน เดิน วิ่งไม่ฟังครู จนครูทนไม่ไหว ร้องไห้ ปิดประตูหน้าต่างรวมทั้งไฟและพัดลม ปล่อยให้เด็กนั่งนิ่งเงียบอยู่ในห้อง เป็นการทำโทษ สักพักจึงปล่อยกลับบ้าน ทำเอาพ่อแม่ใจเสียกันแทบทุกคน ยกเว้นหมอคนเดียวที่มีประสบการณ์มาแล้ว จึงรู้สึกเฉยๆ เพราะสังเกตเห็นและคิดว่าลูกเรานั้นใช้ได้ พอโดขึ้นก็จะเก่งและดีขึ้นได้โดยตัวเขาเองเหมือนพี่ของเขาเช่นเดียวกัน

ช่วงเสาร์อาทิตย์ก็เป็นวันครอบครัว เราพาลูกไปเที่ยวเล่นตามประสาเด็กส่วนใหญ่ ก็เขาดินเหมือนเดิม จนเดี๋ยวนี้ลูกทั้ง 2 คน ถึงแม้จะโตจนทำงาน ชีวิตเขาจะผูกพันกับเขาดินและต่างจังหวัดมากพอสมควร โดยเฉพาะลุกชายคนโตชอบไปงานวัด ยิงปืน ปาลูกโป่ง ปาเป้า นั่งชิงช้าสรรค์ เห็นงานวัดเป็นไม่ได้ ต้องขอไปทุกทีแม้ว่าจะเป็นหมอแล้วก็ตาม ช่วงปิดเทอมลูกคนเล็กก็ไปอยู่กับอาม่าพร้อมพี่ชาย

ส่วนผลการสอบของลูกคนเล็กก็เป็นไปตามคาด ปีแรกๆก็คล้ายพี่ชาย แต่ผลการเรียนก็ดีขึ้นตามลำดับ พอถึง ม.3 ก็เห็นชัดว่าเขาเรียนใช้ได้ สอบเอนทรานซ์ได้เรียนคณะวิศวะจุฬาฯ ปัจจุบันจบทำงานมาแล้ว 3 ปี กำลังเรียนต่อปริญญาโทบริหารธุรกิจ ( MBA ) ที่ประเทศสหรัฐอมริกา โดยสอบได้รับทุนการศึกษาจากธนาคารแห่งหนึ่งของประเทศไทย

จากประสบการณ์ที่ได้จากลูกทั้ง2คนที่ผ่านมา หมอจึงไม่แน่ใจว่าการเรียนพิเศษ การติวนั้นจะช่วยให้ลูกเรียนเก่งขึ้น ฉลาดขึ้นในระยะยาวได้จริงอย่างที่หลายคนตั้งความหวังไว้หรือไม่? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหมอส่งลูกไปเรียนพิเศษ ติวอย่างเข้มข้น ลูกจะเรียนเก่งสอบเอนทรานซ์ได้ดีกว่านี้หรือไม่?

แต่หมอแน่ใจอยู่เรื่องหนึ่งว่า การเคี่ยวเข็นให้เด็กเรียนหนักทั้งที่เด็กไม่พร้อม ศักยภาพไม่เพียงพอ แทนที่จะช่วยส่งเสริมเด็ก หมอคิดว่ากลับจะทำให้เด็กเหนื่อยเกินไป รู้สึกล้าและเบื่อการเรียน จนโตขึ้นเป็นคนที่ไม่อยากเรียนรู้ ไม่สนใจเรียนเพิ่มเติม ไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เรียนได้แต่ในห้อง ค้นคว้าเรียนเองไม่ได้ คิดเองไม่เป็นและทำงานไม่เป็น

การยัดเยียดให้เด็กเรียนจนเต็มสมอง จนสมองไม่มีที่ว่างพอที่จะเติมหรือใส่อะไรลงไปได้อีกเมื่อโตขึ้นไม่น่าจะเป็นผลดีต่อตัวเด็ก ถ้าเปรียบเหมือนม้าแข่ง การเฆี่ยนม้าให้วิ่งเต็มที่อยู่ตลอดเวลา โดยที่โค๊ชไม่รู้จัก ไม่เข้าใจสภาพและศักยภาพของม้า ไม่มีผ่อนหนัก ผ่อนเบา จนม้าหมดแรง หมดสภาพ ก็มีแต่จะพ่ายแพ้ เหมือนม้าตีนต้น สู้รู้จักผ่อนหนัก ผ่อนเบา ถนอมม้า แล้วเร่งเมื่อถึงเวลา ก็จะเข้าสู่เส้นชัย เปรียบเหมือนม้าตีนปลายน่าจะได้ผลดีกว่า


ขอให้มีความสุข และสนุกกับการเลี้ยงลูกนะครับ

จากคุณ : แม่น้องอัณณา
เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 23:35:59 A:180.180.191.64 X: TicketID:258399




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com