มีประเด็นเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว (ที่ยังไม่พร้อม) มาถามครับ
|
|
ผมทำผู้หญิงที่คบกันได้ไม่นานท้องครับ เราไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่ผมจดทะเบียนสมรสให้เธอได้ เพราะผมมั่นใจว่าเราไปกันได้ (ถึงต่อให้ไปกันไมได้อย่างน้อยๆผมก็ทำเพื่อลูกและเพื่อรักษาหน้าครอบครัวเธอ) แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาครับ แต่ไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้สำหรับตัวผมที่จะมอบให้เธอ เธอต้องการให้ผมรับผิดชอบด้วยการจัดงานแต่ง แต่ว่าผมยังเป็นแค่ นักศึกษา ที่ยังไม่มีเงินก้อน ไม่มีเงินสักแดงเดียวที่จะจัดงานแต่งให้เธอได้เลย ช่วงแรกที่ตกลงกันผมสัญญาว่าจะจัดงานแต่งให้ได้ แต่ขอปรึกษาแม่ก่อน (อันที่จริงรับปากชุ่ยๆเลยครับว่าแต่งได้) แต่ปรากฏว่าแม่ผมไม่ยอมให่แต่ง ผมค่อนข้างจะยังเป็นเด็กเลยเถียงกับแม่ผมอยู๋สักพีกนึง ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้แต่งงานกัน หลังจากที่จดทะเบียสมรสแล้ว ผมก็ออกหางานทำ ซึ่งสายอาชีพที่ผมศึกษาอยู่ หางานทำได้ไม่ยากเท่าไหร่ จึงไม่ค่อยเดือดร้อนในส่วนนี้นัก แต่สิ่งที่มากวนใจผมตลอดเวลาคือความสัมพันธ์ระหว่างเรา ทุกๆครั้งที่เราคุยกัน ไม่ว่าจะเรื่องอะไร เวลาเธอหงุดหงิดขึ้นมา (อันเนื่องมาจากฮอร์โมนในการตั้งครรภ์ ส่วนนึง) เธอจะลากเข้าหาประเด็นที่ว่า บ้านผมไม่ยอมรับผิดชอบอะไรเลย ซึ่งแรกๆผมทนไหว แต่หลังๆผมเริ่มเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ จนล่าสุดเราไม่ได้คุยกันแล้วครับ อันเนื่องมาจากความผิดของผมเองที่พูดอะไรแรงๆออกไป โดยไม่คำนึงถึงลูก หรือชีวิตครอบครัว จนทำให้เราไม่ได้คุยกันแล้วครับ ซึ่งเธอได้ส่งข้อความมา แล้วยื่นคำขาดว่า "ถ้าอยากรับผิดชอบแค่ลูก ก็ต้องแฟร์ ทุกอย่างนอกเหนือจากเงินหมื่นที่ตกลงกัน จะต้องหารครึ่งเเบ่งจ่าย เพราะมันเป็นส่วนเพิ่มเติม เช่นพวกค่าวัคซีน ค่าเนิสเซอรี่ ค่าของใช้อื่นๆที่นอกเหนือจากค่านม ค่าผ้าอ้อม (รถเข็น ที่นอนเสื้อผ้า) ไม่มีการมาบอกว่าไม่มี คิดถึงคนอื่นเค้าด้วยอย่าเอาเปรียบ เด็กจะอยู่ที่เค้า ถ้าอยากเจอต้องมาพบเองบอกล่วงหน้าด้วย แล้วจะให้พี่เลี้ยงพาไปเจอ จะไม่มีการฟ้องอะไรทั้งนั้น เพื่อชื่อเสียงสองฝ่าย ถ้าไม่ถูกบีบ ไม่อยากทำด้วย เงินหมื่นโอนทุกสิ้นเดือน.ค่าใช้จ่ายช่วงตรวจก่อนคลอดที่เหลือแม่เค้าจะช่วยออก ค่าคลอดเดี๋ยวจะส่งบิลไปให้ ดีเอ็นเอ อยากรู้มาตรวจเอง ไม่ออกให้ มาเซ็นรับรองบุตรด้วย จะบอกล่วงหน้าว่าจะต้องใช้เอกสารอะไรมั่ง ไม่ได้กดดันอะไรทั้งนั้น ขอเเค่ความยุติธรรม กับหน้าที่ความรับผิดชอบ. เรื่องอื่นเค้าไม่สน เธอเองก็ต้องเรียนให้จบ. รีบทำงานและทำตามหน้าที่นี้ก็พอ. เค้าไม่มีกำลังพอจะทำทุกอย่างคนเดียว ตราบใดที่เรื่องยังไม่เคลียร์ ไม่มีการเเต่งงานหรือการขอขมา หรือตกลงอื่นๆ ให้มันถูกต้อง เราไม่ควรเจอกันเพื่อเลี่ยงการทะเลาะ. ต่างคนต่างเหนื่อย" ในส่วนนี้ผมต้องยอมรับว่า ค่าเลี้ยงดูผมให้ได้ เพราะผมมีงานทำแล้วส่งเสียเงินเดือนส่วนนี้มาช่วยเธอ (ตอนนี้พึ่งเข้าสู่เดือนที่3) แต่ว่าอาจมีค่าวัคซิน หรือค่าจ้างพี่เลี้ยงที่ผมคงแบกรับไม่ไหว (หลังจากคลอดเสร็จแฟนผมตั้งใจจะหางาน จึงทำให้ไกลจากบ้าน จึงจำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยง) ต่อมาประเด็นที่ว่าตรวจ DNA ผมเผลอพูดไป ผมยอมรับว่าแม่ผมอยากรู้ เพื่อให้ผมเลิกทึกทักเกี่ยวกับเรื่องลูกของผม ให้ผมตาสว่างสักที ซึ่งหลังจากที่ผมถามเธอไปแล้วแฟนผมบอกว่า ตรวจได้ สำหรับผม แค่นี้ผมก็ไม่ต้องการตรวจแล้วครับ ซึ่งประเด็นในส่วนนี้ผมขอข้ามเลยดีกว่า ส่วนเรื่องขอขมา ผมยอมรับว่าผมพลาด นาทีแรกที่ผมเข้าไปหาท่าน ผมพูดแต่เรื่องที่ว่าจะหาทางออกให้กับชีวิตของเราสองคนอย่างไร โดยลืมประเด็นไปว่าจริงๆแล้วผมควรจะทำอะไรก่อน ซึ่งจนแล้วจนรอดก็ยังไมไ่ด้ขอขมาสักที ถึงแม้ว่าหลังจากนั้น ท่านจะไม่พูดอะไร แต่ในใจก็คงติดใจอยู่เหมือนกัน ส่วนประเด็นแต่งงาน ผมยอมรับว่าที่เราไม่ได้แต่งกันเพราะแม่ผมไม่มั่นใจ ว่าผมทำเค้าท้องแล้วเป็นหลานของเค้าจริงรึเปล่า แล้วก็ท่านก็อายคนอื่นเหมือนกัน ผมจึงอยากถามความเห็นของสมาชิกในบอร์ดพันทิพว่าคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวๆนึง ที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งที่ผมโพสต์มานี้เพื่ออยากรู้ว่า ในมุมมองของสมาชิกในบอร์ด มองเรื่องนี้เป็นปัญหารึเปล่า แล้วถ้าเป็นท่าน ท่ายจะมีทางออกอย่างไร ปล โพสต์ได้ตามสบายครับ ไม่ต้องรักษาน้ำใจครับ
จากคุณ |
:
เพราะทุกข์จึงถาม
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ก.ย. 55 21:21:03
A:180.183.127.120 X: TicketID:375986
|
|
|
|