ความคิดเห็นที่ 1 น่ากลัวจริง ๆ  สงสารทุกคนเลย มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ ต่างคนต่างไม่รุ้อะนะ จากคุณ : benjyja เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:11:31

ความคิดเห็นที่ 2 ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ จากคุณ : Ms...plum เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:12:27

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นเรื่องดีที่ชี้ให้เห็นถึงภัยของการไม่ปฏิบัติตามที่หมอแนะนำ แต่.....หมอที่ใหนจะมานั่งซึมเศร้าเอาตัวไปเปรียบกับฆาตกรคะ จากคุณ : แม่น้องนลิน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:14:31

ความคิดเห็นที่ 4 @ แม่น้องนลิน...หมอคงจะสะเทือนใจมากน่ะค่ะ  ซืมไปเลย  เพราะหากแค่อาการของโรคที่น้องเป็นอยู่ก็คงไม่ถึงกับเสียชีวิตน่ะค่ะ จากคุณ : occ26 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:16:56

ความคิดเห็นที่ 5 เอ...สิบขวบเหรอคะ น่าจะพูดรู้เรื่องไม่น่าร้องหิวนี่คะ แล้วที่ว่า พ่อแม่เสียใจระคนโล่งใจนี่ยังไงคะ จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:23:16

ความคิดเห็นที่ 6 งงว่าทำไมพ่อแม่โล่งใจ.. จากคุณ : arakris เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:25:36

ความคิดเห็นที่ 7 สงสารทั้งเด็กและสงสารทั้งคุณหมอนะคะ เราเคยถามน้องเราที่เป็นหมอว่า อยู่กับความเป็นความตายมาตลอด เคยไหมที่มันสะเทือนทางความรู้สึก น้องเราบอกว่า เคย โดยเฉพาะเคสที่เป็นเด็ก ที่ทำให้ซึมไปหลายวันเลย ลูกชายเราเคยเข้าผ่าตัดถุงอัณฑะตอน 1 ขวบ หมอให้งดน้ำงดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากค่ะ อยู่กับลูกตลอดเวลาและบอกลูกทุกครั้งที่ลูกเริ่มร้อง "ทนหน่อยนะลูก เดี๋ยวได้พักแล้ว หิวมากไหมลูก" ลูกเราไม่ร้องโยเยเพื่อขอกินอีกเลยค่ะ จน 10.30 น. ลูกเราซึมลงอย่างเห็นได้ชัด เราก็แจ้งคุณพยาบาล คุณพยาบาลก็พาไปให้น้ำเกลือ กว่าจะได้ผ่าจริง ๆ เที่ยงวัน ขอให้น้องไปสู่สุขคตินะคะ จากคุณ : เลขาหน้าใส เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:27:40

ความคิดเห็นที่ 8 สงสัยเหมือนกัน  โล่งใจ ยังงัยอ่ะ จากคุณ : รถถังน้อย เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:31:37

ความคิดเห็นที่ 9 น้องเป็นเด็กที่ไม่ค่อยปกติค่ะ เท่าที่ถามพี่สาวเพิ่มเติมนะคะ เห็นพี่บอกว่าน้องเป็นเด็กคล้ายๆกับช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ คล้ายๆจะเป็นดาน์วด้วย...รายละเอียดตรงนี้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ค่ะ ถามมาคร่าวๆ สั้นๆ คุยกันไม่เกินสิบนาที แต่ประเด็นคือ การที่เราสงสารเด็ก ให้เด็กกินโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์มันส่งผลให้เสียใจกันหลายๆคนทีเดียวค่ะ จากคุณ : occ26 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:32:59

ความคิดเห็นที่ 10 เด็กคงบอกว่าหิว คนข้างเตียงก็หวังดี( ไปหน่อย) หมอซวยอีก. ปล. แม่น้องอาจจะโล่งใจ ถ้าโรคที่น้องเป็นมันทรมานทั้งน้องและแม่   ลูกพี่ลูกน้องเรา ก็ สมองพิการตอนอายุ 2-3 ขวบ จนตอนนี้ มีชิวิตแต่ คนเลี้ยงเหนื่อยทั้งกายและใจ เพราะแม่เลิกกับพ่อ ให้แม่ดูแลคนเดียว แม่เลี้ยงคนเดียว เวลาไปทำธุระก็พาไปไม่ได้ ชักบ่อย ทิ้งไว้ก็ไม่ได้ ยังไม่ตายก็ต้องดูแลกันไป จากคุณ : jtsunod7 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:34:46

ความคิดเห็นที่ 11 อ้อค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:35:38

ความคิดเห็นที่ 12 ก่อนหน้าที่เราจะคุยกับพี่สาว ...เราก็มีลูกเพื่อนตัวน้อยๆที่รอคอยการผ่าตัดเหมือนกัน  เด็กงดน้ำงดนมมาตั้งแต่เที่ยงคืน(จริงๆแล้วก็สามทุ่มเพราะน้องนอนหลับไม่ยอมตื่นมากิน)  ร้องไห้งอแง หิวมาก  ตอนนั้นยังคิดเลยว่าแอบให้น้องกินนมซักนิดได้หรือเปล่า(แค่แอบคิดนะคะ ยังไม่ได้ทำจริง)... เมื่อเช้าได้ฟังพี่สาวเล่าเลยเอามาเตือนใจเพื่อนๆที่ยังไม่รู้ผลเสียของการไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่คุณหมอสั่งค่ะ ว่ามันร้ายแรงกว่าที่เราจะคาดคิดนัก จากคุณ : occ26 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:36:45

ความคิดเห็นที่ 13 ลูกเราเคยผ่าตอนห้าเดือนสิบเดือนและขวบครึ่ง การงดน้ำนมอาหารเด็กเล็กทรมานใจมากค่ะ แต่ต้องใจแข็ง ปล่อยให้ร้องไป เรื่องนี้น่าเศร้ามากๆ แต่เราว่าคนข้างเตียงก็ไม่ควรเอาอะไรให้เด็กทานอยู่ดี มันไม่เหมาะค่ะ โดยมารยาทไม่ควรมายุ่งเลย จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:53:26

ความคิดเห็นที่ 14 เอ้ เราสงสัยว่าเวลางดน้ำ งดอาหารเนียะ หมอจะมีป้ายมาติดไว้ที่เตียงใช่หรือเป่าคะ แล้วสงสัยอิกอย่าง ตึกผู้ป่วยของเด็ก อยู่ที่เดียวกับตึกของผู้ใหญ่เลยเหรอคะ คือที่เราถาม ถ้าเป็น รพ.รัฐที่ จ.เราอยู่นะคะ ตึกเด็กจะแยกกัน เด็กป่วยก็จะอยู่กับเด็กป่วย เท่านั้น เวลาญาติมาเยี่ยมญาติก็จะเดินผ่านเตียง ก็จะเห็นป้ายงดน้ำ งดอาหาร ใช่หรือเป่าคะ บางครัั้งเด็กไม่น่าต้องเสียชีวิต (ปอดฉีกเนียะเสียชีวิตเลยเหรือเป่าคะ ถ้าไม่ใช่เราขอโทษด้วยคะ)  ก็ต้องมาจากไปด้วยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากคุณ : @ แม่น้องแก้มใส (jeeranun.jun) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:53:44

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่คิดว่า จะ ร้ายแรง ขนาดนี้ ไหงได้ เมื่อเร็วๆ ที่ เกิดอุบัติเหตุ ต้องผ่าตัด หมอถึง ซักประวัติ เรื่อง อาหาร มื้อสุดท้ายอย่างละเอียด จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:54:02

ความคิดเห็นที่ 16 อยากให้หมอหรือพยาบาล อธิบายให้ผู้ป่วย (กรณีเป็นผู้ใหญ่) และญาติผู้ป่วยกรณีเป็นเด็ก เข้าใจด้วยว่า ทำไมถึงต้องงดน้ำ งดอาหาร กรณีนี้เราก็ไม่เคยรู้เหมือนกันว่าถ้ากินน้ำหรืออาหารเข้าไปจะทำให้เกิดการสูญเสียขนาดนี้ ปล อาหารส่วนใหญ่ถ้างดคงไม่ทานกันแล้วในเวลาดึกๆ แต่น้ำเนี่ยสิ ส่วนใหญ่ (รวมถึงตัวเราด้วย) อาจจะคิดว่า แค่จิบๆ คงไม่เป็นไรมั้ง กระทู้นี้มีประโยชน์นะคะ แม้ว่าจะมีหลายคนสงสัย ถึงความเป็นไปได้ในหลายๆเรื่อง แต่ก็เป็นประโยชน์สำหรับเราแน่ๆค่ะ ขอโหวตนะคะ จากคุณ : มาศค่ะ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 11:07:38

ความคิดเห็นที่ 17 น่ากลัวมากเลย  สำลักอาหารแล้วปอดฉีกเหรอคะ เหตุเพราะกินอาหารก่อนผ่าตัด ?? เศร้าจัง  คนข้างเตียงน่าจะฉุกคิดสักนิดนะคะ  ไม่น่าเลย  ส่วนเด็กคงจะไม่ทราบว่าเหตุที่ต้องงดอาหารเพราะอะไร หรือว่า คนข้างเตียงก็เด็กเหมือนกัน  ส่วนพยาบาลน่าจะคอยสังเกตการณ์ค่ะ  หากมีการหยิบยื่นอาหารให้ผู้ป่วย ต้องเข้มงวด จะได้ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น จากคุณ : น้องชมลูกพ่อชัย เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 11:36:45

ความคิดเห็นที่ 18 เราหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องนี้และ เจอจากเวบของศิริราชนะคะ เผื่อว่าใครยังสงสัยประเด็นการงดน้ำงดอาหารอยู่ ลองอ่านดูค่ะ ************************************** เมื่อลูกน้อยต้องเข้าผ่าตัด ศ.คลินิก พญ.สุมิตรา  เชาวนโยธิน ภาควิชาวิสัญญีวิทยา Faculty of Medicine Siriraj Hospital คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล               พ่อแม่ทุกคนคงกังวลใจไม่น้อย เมื่อคุณหมอบอกว่า “ลูกของคุณต้องเข้ารับการผ่าตัด” แต่อย่าเพิ่งกังวลใจมากจนเกินไป  เพราะวิทยาการทางการแพทย์และความห่วงใยของคุณหมอ พยาบาล และผู้เกี่ยวข้องสามารถช่วยให้ลูกน้อยของคุณปลอดภัยค่ะ             ขั้นแรก เป็นการเริ่มเตรียมตัวก่อนผ่าตัด  ปกติศัลยแพทย์ (หมอผ่าตัด) จะเชิญคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองมาบอกเล่าถึงสาเหตุ ความจำเป็นในการผ่าตัด วิธีผ่าตัด พร้อมนัดวันผ่าตัด หากเป็นการผ่าตัดใหญ่ จะต้องพาลูกน้อยมานอนที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 1 วันก่อนการผ่าตัด  เพื่อให้แพทย์เตรียมความพร้อมร่างกายของลูกน้อย และเลือดสำหรับการผ่าตัด  ซึ่งจะต้องงดอาหารก่อนผ่าตัดประมาณ 6 ชั่วโมง  เพื่อไม่ให้เศษอาหารหลงเหลือในกระเพาะอาหารอันเป็นการป้องกันการขย้อนอาหารเข้าสู่ปอดและทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ ในช่วงเย็นก่อนการผ่าตัด 1 วัน วิสัญญีแพทย์ (หมอดมยา) จะเข้าไปพูดคุยสร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกับลูกน้อยของคุณ และคุณพ่อคุณแม่เพื่อบอกรายละเอียดของการรักษา วิธีดมยาสลบ และการระงับความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด ซึ่งหากมีข้อสงสัยก็สามารถซักถามได้เต็มที่ จากนั้นจะเริ่มสั่งยานอนหลับให้ลูกน้อยของคุณรับประทานก่อนนอน  เพื่อให้หลับปุ๋ยอย่างมีความสุขไปจนถึงห้องผ่าตัดในเช้าวันรุ่งขึ้น กรณีที่เข้ารับการผ่าตัดเล็ก ที่สามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจะให้ผู้ป่วยอดอาหารก่อนประมาณ 6 ชั่วโมง และจะนัดให้คุณพาลูกน้อยมาถึงห้องผ่าตัดในเช้าของวันนั้น ส่วนบรรยากาศก็สบายใจหายห่วง เพราะที่นั่นคุณจะพบกับศัลยแพทย์ วิสัญญีแพทย์ พยาบาลวิสัญญี และพยาบาลห้องผ่าตัดที่พร้อมให้การต้อนรับคุณและลูกน้อยอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง ยิ่งถ้าหากลูกน้อยของคุณเป็นเด็กอารมณ์ดี  ไม่งอแงก็จะได้เล่นของเล่นหลากชนิดในห้องพักรอการผ่าตัด  แถมบางอย่างก็ให้กลับบ้านได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีวิดีโอการ์ตูนที่กำลังนิยมเปิดให้ชมเพื่อความเพลิดเพลินและผ่อนคลาย   แต่ถ้าขี้แย หรือขี้กลัว  ไม่คุ้นเคยกับคนแปลกหน้าก็จะได้รับยานอนหลับ เพื่อจะได้หลับปุ๋ยอย่างสบายก่อนเข้าห้องผ่าตัด โดยปกติ แพทย์จะอนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าห้องผ่าตัดพร้อมลูกน้อย   โดยต้องเปลี่ยนเป็นชุดปราศจากเชื้อของห้องผ่าตัดเสียก่อน  จากนั้นวิสัญญีแพทย์ก็จะเริ่มนำยาสลบมาใช้กับลูกน้อยของคุณ ซึ่งมีอยู่ 2 วิธี คือ วิธีที่ 1   ให้สูดดมยาสลบผ่านทางหน้ากากหายใจ ซึ่งอาจชักชวนให้ลูกน้อยของคุณเล่นอุปกรณ์การดมยาในระหว่างที่อยู่ภายในห้องพักรอการผ่าตัด และเมื่อเข้าห้องผ่าตัดก็จะชักชวนให้เป่าลูกโป่งที่บรรจุยาสลบ  โดยยาสลบจะมีกลิ่นหอมหวาน   ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ และก็จะทำให้ค่อย ๆ หลับอย่างมีความสุข วิธีที่ 2   วิสัญญีแพทย์จะฉีดยาสลบเข้าหลอดเลือดดำแล้วเด็กจะหลับทันที แต่วิธีนี้จะต้องใช้กับเด็กที่ไม่กลัวการฉีดยา และพูดรู้เรื่อง หากลูกน้อยของคุณหลับแล้ว แพทย์จะให้คุณออกมารอนอกห้องผ่าตัด แต่อย่าเพิ่งเดินไปไหนไกลนะคะ เพราะทันทีที่เขาฟื้นจากยาสลบ คุณจะต้องเป็นคนแรกที่เขาเห็น  ภายหลังการผ่าตัด  ลูกน้อยของคุณจะต้องนอนพักฟื้นเพื่อสังเกตอาการประมาณ  2 – 8 ชั่วโมง ก่อนอนุญาตให้กลับบ้านได้   ส่วนเรื่องความเจ็บปวดเมื่อฟื้นก็หายห่วง เพราะในระหว่างที่เขายังไม่ฟื้น  วิสัญญีแพทย์ได้ฉีดยาชาและยาแก้ปวดที่ออกฤทธิ์ได้นานเพื่อให้ตื่นขึ้นมาอย่างมีความสุข และภายหลังที่วิสัญญีแพทย์วินิจฉัยแล้วลงความเห็นว่าอยู่ในภาวะปลอดภัย ก็จะย้ายไปยังหอพักผู้ป่วย ในกรณีที่อนุญาตให้กลับบ้าน ศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจะเป็นผู้สั่งยาให้ไปรับประทานที่บ้าน ซึ่งมักจะประกอบด้วยยาปฏิชีวนะ เพื่อลดการติดเชื้อของแผลผ่าตัด รวมถึงยาแก้ปวด โดยไม่ลืมที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวของลูกน้อยในระหว่างพักฟื้นให้คุณทราบ             เห็นมั้ยล่ะคะว่า  ไม่น่าห่วงเลย  และเรายังเปิดโอกาสให้คุณพ่อคุณแม่มีส่วนร่วมกับแพทย์ในการรักษาเกือบทุกขั้นตอน ทั้งนี้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจที่ดีแก่หนู ๆ เหล่านี้ค่ะ จากเวบ : http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=699 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 12:01:24 จากคุณ : occ26 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 11:58:51

ความคิดเห็นที่ 19 ลูกเรา3เดือนผ่าตัด อดน้า-นมตั้งแต่6โมงเช้า กว่าจะได้ผ่าบ่าย2 พยาบาลเข้มงวดมากค่ะ เพราะเขาได้อภิบายถึงเรื่องการสำลักเวลาใส่เครื่องช่วยหายด้วยค่ะ เวลานั้นลูกก็ร้อง แต่ก็อุ้มไว้ตลอดค่ะ วางไม่ได้เลย แต่คนเป็นแม่ สู้อยู่แล้วค่ะ จากคุณ : Imphamog เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 12:13:39

ความคิดเห็นที่ 20 ลูกสาวตอนอายุ1ขวบ7เดือนก็เคยผ่าตัดใหญ่เหมือนกันค่ะ หมอเค้าจะให้งดน้ำงดอาหาร ก่อนผ่าตัดประมาณ6ชั่วโมง สงสารลูกมากๆเลยค่ะร้องจะกินน้ำให้ได้แต่เราก็ใจแข็ง ไม่ยอมให้ลูกกินค่ะตอนนั้นก็ยังไม่รู้หรอกนะค่ะว่าถ้าเราให้ลูกกินแล้วจะเป็นอะไร ร้ายแรงขนาดนี้รู้แต่ว่าหมอให้งดก็คืองด สงสารลูกแต่ก็ต้องอดเอาค่ะการผ่าตัดใหญ่ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี หมอสมัยนี้เก่งๆเยอะมากค่ะ คนข้างเตียงก็ไม่น่าเลยเค้าจะรู้ไหมน่ะ ว่าอาหารที่เค้าให้น้องคนนั้นกินจะไปทำให้น้องเสียชีวิต เศร้าแทนครอบครัวน้องจริงๆ จากคุณ : คุณแม่ยังสาว (bewtyalon) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 12:14:27

ความคิดเห็นที่ 21 เข้าใจว่าลูกร้องหิวมันทรมานขนาดไหน ลูกเราก็เพิ่งผ่าตัดมาประมาณ 2 อาทิตย์ มันเป็น 7 ชั่วโมงที่ทรมานที่สุดในโลกจริงๆ เจ็บกว่าตอนเกิดลูกอีก จากคุณ : baanping-an เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 12:40:11

ความคิดเห็นที่ 22 ข้างเตียงอาจจะเป็นญาติคนไข้ก็ได้ สาระแนเรื่องชาวบ้าน ส่วนมากมักชอบนัก แต่เอาเถอะ อาจจะเป็นคราวของน้อง คงถึงเวลาหมดกรรม หมอสู้ๆค่ะ จากคุณ : นนนี่จ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 12:55:09

ความคิดเห็นที่ 23 แล้วในกรณีที่คนไข้ต้องได้รับการผ่าตัดแบบเร่งด่วน คุณหมอมีวิธีจัดการยังไงกับคนไข้อย่างนี้ อาจจะประสบอุบัติเหตุมา หรือจะไม่ว่าด้วยกรณีใดๆ แต่คนไข้คนนั้นไม่ได้งดอาหารมา เพราะเหตุจำเป็นซึ่งหน้าแล้ว ในกรณีนี้คุณหมอมีวิธีจัดการยังไงคะ เพราะคนไข้ไม่ได้งดอาหารมาไม่รู้ว่ามื้อล่าสุดที่คนไข้กินเข้าไปกี่โมง คุณหมอจะจัดการยังไงคะ จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 13:31:54

ความคิดเห็นที่ 24 เราเคยผ่าตัดใส่ติ่งด่วนค่ะ เค้าใช้สายยางสอดทางจมูกลงไปดูดอาหารออกจากกระเพาะค่ะ ทรมานมาก จากคุณ : เต่าพันปี เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 13:44:25

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณคะที่นำมาเล่าให้ฟัง ดีมากเลยเรื่องนี้ จากคุณ : i love iris เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 14:02:34

ความคิดเห็นที่ 26 จริงๆเวลาคนไข้รอผ่าตัด ข้าวเตียงต้องมีป้ายงดน้ำงดอาหารนี่คะ ถ้าเป็นแบบนั้นคนข้างเตียวนั่นแหละฆาตกรเลย เพราะความหวังดีแต่ไม่รู้หรือจะอะไรก็แล้วแต่... จากคุณ : fern-eva เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 14:04:16

ความคิดเห็นที่ 27 ประเด็นที่คุณแม่น้องเบนส์คอมเม้นท์ไว้ก็น่าสนใจนะคะ  เราไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่าเค้าทำยังไง แล้วเราจะหาคำตอบให้นะคะ จากคุณ : occ26 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 14:33:47

ความคิดเห็นที่ 28 โอ้ยย ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆที่สุดเลยค่ะ ลูกจะเข้ารับการผ่าตัดไส้เลื่อนเดือนหน้า แต่เค้ายังเล็ก หมอให้งดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืน แม่อย่างเรายังคิด จะผ่านไปได้ยังไง เด้กกินนมทุก 3 ชม. แล้วจะมาให้งดนาน 6-9 ชม. แบบนั้น ยอมรับว่า แอบคิดถ้าให้น้องกินนิ๊ดดเดียวว คงไม่เป็นไรมั้ย แต่มาอ่านทู้นี้แล้ว ... ระหว่างปลอบลูกให้เค้าทนหิว กับเค้าต้องจากเราไป เราเลือกอย่างแรกค่ะ ขอบคุณอีกครั้งจริงๆค่ะ ปล. ขอให้น้องคนที่เสียชีวิต ไปสู่สุขคตินะคะ จากคุณ : wanakamol เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 14:38:17

ความคิดเห็นที่ 29 ปกติเค้าจะมีป้ายติดที่เตียงนะคะ ไม่เคยคิดว่าจะร้ายแรงขนาดนี้ ของลูกสาวเคยโดนเลื่อนการผ่าตัด หมอเลยบอกว่าให้กินอาหารเที่ยงก่อน พอได้คิวผ่าก้อคือสามชั่วโมงต่อมา โชคดีไม่เป็นไร ปกติไม่ให้กินอาหารกินน้ำ แต่เด็กจะได้รับน้ำเกลือตลอดเวลาค่ะ เพราะฉะนั้นคงจะไม่หิวช่วงนั้น แต่เด็กโตยากหน่อย เพราะห้ามปากไม่ค่อยได้ จากคุณ : ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 14:59:36

ความคิดเห็นที่ 30 ขอให้น้องไปสู่สุคตินะคะ... เราเองก็ผ่าคลอดแบบฉุกเฉินซึ่งก่อนหน้าที่จะผ่าเพิ่งดื่มนมไป แต่คุณหมอก็ตัดสินใจผ่าเพราะถ้ารอเวลาจะอันตรายกว่า... ที่ รพ.รัฐ ใกล้ๆ ที่เราอยู่ก็เคยเกิดเหตุแบบนี้ค่ะ แต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต พ่อของพนักงานที่ร้านไปผ่าตัดที่รพ.แห่งนี้ วันรุ่งขึ้นก็ให้ทานอาหารอ่อน ขณะเดียวกันเตียงข้างๆ ต้องผ่าตัดตอนเย็นวันนั้น พยาบาลแขวนป้ายสลับเตียงกันค่ะ พ่อของพนักงานเราแขวน "งดน้ำและอาหาร" ส่วนเตียงข้างๆที่จะผ่าตัดแขวน "อาหารอ่อน" ทราบว่าขณะผ่ามีการสำลักแต่คุณหมอช่วยไว้ได้ค่ะ... เป็นอุทธาหรณ์จริงๆ ค่ะ ขอบคุณนะคะที่นำมาแชร์. จากคุณ : nink-nund เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 15:00:35

ความคิดเห็นที่ 31 กระทู้นี้มีประโยชน์มากทีเดียวค่ะ เพราะคงมีหลายคนที่ยังไม่เข้าใจในเรื่องนี้รวมทั้งแม่น้องเบนส์ด้วย ขอบคุณ จขกท ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง โหวตให้อีกคนค่ะ  จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 15:16:18

ความคิดเห็นที่ 32 คนข้างเตียงก็นะ หวังดีไม่เข้าเรื่องเลยอ่ะ ขอให้น้องคนนั้นไปสู่สุขติด้วยนะคะ ส่วนตัวเคยได้ยินมาว่าที่ให้งดน้ำ-งดอาหารเพราะกลัวจะสำลักอาหารตอนให้ยาสลบแต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ แมวเราก็เคยผ่าตัดงดน้ำงดอาหาร6ชั่วโมงสงสารเหมือนกันเค้าหิวมากเลย แต่ก็เชื่อหมอ ต้องใจแข็ง จากคุณ : hamstersom เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 15:51:23

ความคิดเห็นที่ 33 ของเราเคยเจอผ่าตัดด่วน หมอหรือพยาบาลไม่แน่ใจ รู้แต่ว่า เอาสายยางแหย่เข้าไปทางจมูกดูดอาหารออกมา จำได้ว่า เจ็บคอไปหลายวันเลยคะ จากคุณ : nanoSmile เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 16:05:58

ความคิดเห็นที่ 34 เราเคยผ่าตัดนะ สักป.๔มั้ง ก็ไม่รู้สึกว่าหิวจนต้องร้องนะคะ แต่ถ้าเป็นเด็กดาวน์ก็พอจะเข้าใจค่ะ จากคุณ : on Xperia P (Animator's ART) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 17:59:42

ความคิดเห็นที่ 35 น่าสงสารเด็กนะครับ แต่..อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะครับ เหตุการณ์นี้เกิดที่ โรงพยาบาลเอกชน หรือ  โรงพยาบาลรัฐบาล ครับ อ่านแล้วงงครับ จากคุณ : ไม่หวั่นแม้วันมามาก เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 19:23:35

ความคิดเห็นที่ 36 ตอบความเห็นที่ 23 กรณีผ่าตัดฉุกเฉินที่ ไม่สามารถงดน้ำงดอาหารได้ครบตามเวลาที่กำหนด หรือ ไม่ทราบเวลาที่แน่นอนของอาหาร /น้ำมื้อสุดท้าย หรือ งดน้ำและอาหารแล้ว แต่ผู้ป่วยมีการย่อยอาหารที่ผิดปกติ เสี่ยงต่อการคงค้างของอาหารในกระเพาะ เช่น ภาวะไส้ติ่งอักเสบ ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร หรือแม้แต่... การตั้งครรภ์ หากไม่มีข้อห้ามในการทำการบล๊อกหลัง วิสัญญีแพทย์อาจพิจารณาให้ผู้ป่วยรับการบล๊อกไขสันหลังแทน วิธีนี้ผู้ป่วยไม่หลับ ยังคงมีการทำงานของระบบทางเดินหายใจปกติ (protective airway reflex) แต่...การบล๊อกหลังไม่สามารถใช้ได้กับการผ่าตัดทุกชนิดค่ะ ดังนั้นหากจำเป็นต้องดมยาสลบ วิสัญญีแพทย์จะใช้วิธีนำสลบและใส่ท่อช่วยหายใจด้วยวิธี Rapid Sequence Induction (ขออภัยจริงๆ ค่ะ เราไม่แน่ใจเรื่องคำแปลภาษาไทย) ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันการสำลักเศษอาหารลงปอด หากแต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100% นะคะ จากคุณ : coffeelover เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 20:31:23

ความคิดเห็นที่ 37 นานๆ จะได้ตอบกระทู้เรื่องที่ตรงกับสายอาชีพสักที ขอเพิ่มเติมเผื่อมีใครผ่านมาอ่านนะคะ สำหรับเด็กเล็กๆ การงดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัด ขึ้นอยู่กับ 1. อายุของผู้ป่วย 2. ชนิดของอาหาร เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน งดน้ำอย่างน้อย 2 ชั่วโมง งดนมอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ก่อนผ่าตัด เด็กอายุ 6-36 เดือน    งดน้ำอย่างน้อย 3 ชั่วโมง งดนม/อาหารอื่นๆ อย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด เด็กอายุมากกว่า 36 เดือนขึ้นไป งดน้ำอย่างน้อย 3 ชั่วโมง งดนม/อาหารอื่นๆ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด ดังนั้นวิสัญญีแพทย์อาจอนุญาตให้เด็กดื่มน้ำปริมาณเล็กน้อย (ไม่เกิน 5 ซีซีต่อน้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม) ก่อนผ่าตัด ภายในเวลาที่กำหนด   ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เด็กอยู่ในภาวะขาดน้ำ และช่วยให้ไม่งอแงมากนักด้วยค่ะ จากคุณ : coffeelover เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 20:38:55

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณคุณ :coffeelove มากๆที่มาให้ความรู้ค่ะ จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 22:16:16

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณ คุณ coffeelover ด้วยค่ะ ที่มาช่วยตอบคำถาม   ว่าแต่ว่าคุณ coffeelover เป็นวิสัญญีแพทย์หรือกุมารแพทย์คะ ตอบ..คุณไม่หวั่นแม้วันมามาก ...เหตุการณ์กรณีผ่าตัดเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลรัฐค่ะ  ส่วนสถานการณ์ที่การสนทนาระหว่างคุณหมอกับผู้ช่วยแพทย์ประจำห้องตรวจ OPD เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลเอกชนช่วงที่คุณหมอมาออกตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนค่ะ จากคุณ : occ26 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 22:18:33

ความคิดเห็นที่ 40 น่าสงสารน้องจังค่ะ คาดว่าที่เตียงคงมีป้ายติดไว้ แต่เราเข้าใจว่า ผู้ป่วยข้างเตียงที่ให้อาหารน้อง อาจเป็นเด็ก ที่ไม่สามารถเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ค่ะ ขอบคุณที่มาแชร์ค่ะ เตือนใจดีมากเลยค่ะ จากคุณ : .เชอร์รี่. เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 22:41:19

ความคิดเห็นที่ 41 เคยได้ยินไหมครับ พอคนไข้หายดี มักจะบอกว่า คุณพระคุณเจ้าช่วยแท้ๆ พอคนไข้เสียชีวิต มักจะบอกว่า หมอเฮงซวย หมอไม่ได้เรื่อง หมอทำคนไข้ตาย จะฟ้องนู่นนี่นั่น ไม่มองย้อนกลับไปล่ะครับ ว่าคนที่เป้นต้นเหตุ คือใคร อย่างกระทู้นี้ ก็บอกได้ว่า ไม่ใช่ความผิดหมอ แต่เป้นเพราะคนข้างเตียงที่หวังดี จนเกินไป ให้กำลังใจ คุณหมอที่เป็นหมอที่ดีครับ จากคุณ : Lusif (Lusif) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 22:51:46

ความคิดเห็นที่ 42 ขอให้น้องไปสู่สุคติค่ะ ส่วนคนข้างเตียง ขอด่าเถอะว่า เผือก มากๆ ปกติเราไม่ชอบพวกคนที่หยิบยื่นของกินให้ลูกคนอื่นอยู่แล้ว ไม่รู้เมื่อไหร่คนพวกนี้จะหมดไปซะทีค่ะ จากคุณ : ChAoBu เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 23:20:42

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดเห็นที่ 39 เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ไม่หวั่นแม้วันมามาก เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 23:22:38

ความคิดเห็นที่ 44 จะมีสักกี่คน ที่รู้ ถึงความสำคัญ ของการงดอาหาร ก่อนการผ่าตัด ได้อธิบายก่อนให้แม่เด็กทราบก่อนหรือไม่ ลูกผมเคยต้องงด น้ำ งดนม ก่อนผ่าตัด และ Scan Nuclear ที่ตับ ในช่วงอายุ 2-3 เดือน เผอิญผมและภรรยาถาม จึงทราบและให้ความสำคัญกับตรงนี้ แล้วถ้าคนที่ไม่ถามล่ะ จากคุณ : พลาดที่ระบบหรือปล่าว (แม่ลูกหมู) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 09:12:04

ความคิดเห็นที่ 45 งดน้ำและอาหาร  ปรากฏคนไข้นั่งดูดนมเฉยเลย จากคุณ : Anonym เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 09:46:56

ความคิดเห็นที่ 46 ตอนหลานเราผ่าตัด หมอจะถามย้ำก่อนเข้าห้องผ่าตัด ว่าหนูงดน้ำ อาหาร ตามที่หมอสั่งใช่ไหม ไม่ใช่ว่า เช้ามาจับคนไข้ขึ้นเตียงผ่าตัดเลยนะคะ หมอควรรอบคอบ ถามย้ำอีกครั้งด้วยค่ะ และต้องอธิบายให้พ่อแม่ เด็ก คนไข้ ทราบถึงเหตุผลและอันตรายของมันด้วย ไม่ใช่ สั่งให้งดเฉยๆ จากคุณ : น้องสาวพ่อมด เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 10:58:07

ความคิดเห็นที่ 47 พี่ที่ทำงานก็เป็นค่ะ พี่เค้าถูกรถชนอาการค่อนข้างสาหัสโดยเฉพาะช่องท้องและช่วงล่าง เลยต้องไปรักษาตัวที่ทำงานค่อนข้างสาหัสเหมือนกัน แต่ไม่กี่วันพี่ก็ถูกย้ายมานอนห้องรวมได้แล้ว แต่ทีนี้พี่แกค่อนข้างเป็นคนดื้อ หมอสั่งห้ามดื่มห้ามกินทุกอย่าง แกคิดว่าแกไม่เป็นไรแล้ว แกก็ดื้อไปกินนมโดยบังคับให้น้องสาวที่เป็นคนเฝ้าเอามาให้กิน น้องสาวก็ไม่กล้าขัดใจ พอจากนั้นไม่นานแกก็เสียชีวิตซึ่งเป็นเพราะขัดคำสั่งหมอเหมือนกัน เลยเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่รับทราบว่าอย่าไปฝืนคำสั่งหมอ หรือถ้ามีอะไรข้องใจเกี่ยวกับอาการให้ถามหมอ พยาบาล เพราะเค้าคงรู้เรื่องมากกว่าเราที่เป็นแค่คนไข้ T T จากคุณ : Littipho (Littipho) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 10:58:23

ความคิดเห็นที่ 48 คนไทยชอบเผือกเรื่องชาวบ้าน เป็นมากกว่านิสัยที่แก้ไม่หาย ที่สำคัญการเผือกไม่เคยมาพร้อมกับความรับผิดชอบ จากคุณ : บรรเจิดจิต เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 11:49:12

ความคิดเห็นที่ 49 หลายคนในที่นี้มีความเห็นว่า กรณีที่หมอห้าม แต่ไม่บอกว่าทำไมห้าม แปลว่าหมอผิดที่ไม่บอกว่าทำไมห้าม คนฝ่าฝืนข้อห้ามไม่รู้ เลยไม่ผิด เราว่าตรรกะนี้ ใช้ไม่ได้ค่ะ เหมือนเวลามีไฟแดง รถต้องหยุด ถ้ามีคนฝ่าไฟแดง แล้วขับรถชนใครตาย คนฝ่าคือคนผิด จะอ้างว่าเพราะไม่รู้ว่าทำไมห้ามฝ่า ไม่เห็นมีใครบอกว่าทำไม มันฟังไม่ขึ้น ยิ่งในกรณีนี้ที่เกี่ยวข้องกับชีวิต เจ้าของชีวิต ต้องใช้ความพยายามของตัวเองในการปกป้องดูแลรักษา ชีวิตและสุขภาพของตัวเอง ไม่ใช่ยกภาระทุกอย่างให้หมอ ถ้าสงสัยว่าทำไมถึงห้าม และอยากได้รับการยกเว้น น่าจะถามค่ะ ไม่ใช่แอบทำ จากคุณ : ผ่านมาแล้วจี๊ด (แม่ของคนเอเต้) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 12:51:14

ความคิดเห็นที่ 50 งดน้ำอาหาร แต่เค้าจะต้องให้น้ำเกลือก่อนนินา เด็กไม่น่าหิว สงสัยเรื่องพ่อแม่โล่งใจเหมือนกัน   แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 55 13:02:32 จากคุณ : น้องเหมียวสีสวาด เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 12:57:11

ความคิดเห็นที่ 51 ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ ของเราตอนนั้นลูก เกือบ 4 ขวบ แต่ด้วยเพราะความที่ลูกไม่ได้อยู่กับเรา ยังกินนมกลางคืนอยู่  ปู่ย่าไม่หย่านม ตอนเราลูกเรามาดมยาสลบ แยงท่อน้ำตา เราพาลูกมาเองไม่มีย่ามาด้วย   เราก็กลัวว่าลูกเราจะร้องหิวนมกลางคืน เราใช้สารพัดวิธีหลอกล่อให้ลูกกินเยอะๆ ในตอนเย็นอัดเข้าไปให้เต็มที่  เพราะหลังเที่ยงคืนกินอะไรไม่ได้แล้ว โชคดีที่ลูกเราคงอิ่มจริงๆ  ไม่ร้องหิวตอนกลางคืนเลย   ไม่ตื่นมาด้วย   เคสนี้สงสารพ่อแม่  และสงสารน้องมากๆ จากคุณ : Rarin-รริญ เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 13:15:29

ความคิดเห็นที่ 52 เราอยากให้ทางคุณหมอ ช่วยอธิบายคนไข้ให้เข้าใจว่าที่ต้องงดน้ำ งดอาหาร เพราะอะไรด้วยคะ เพราะ ส่วนใหญ่คนไข้และญาติ จะไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าจะต้องงดไปทำไม คะ จากคุณ : msh เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 13:27:31

ความคิดเห็นที่ 53 ความมีน้ำใจของคนข้างเตียง ทำให้เด็กตายโดยไม่เจตนา   สาเหตุเพราะโรงพยาบาลไม่มีป้ายบอก  เราว่าโรงพยาบาลผิด พูดออกมาได้ยังไง ลูกชาวบ้านตายแล้วคิดว่าพ่อแม่โล่งใจ จากคุณ : Sonatina in G เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 14:41:23

ความคิดเห็นที่ 54 เอ เรากลับคิดว่า ทำไมพ่อแม่ไม่เฝ้าเด็ก จนทำให้คนเตียงข้างๆแบ่งน้ำ แบ่งอาหารให้ เรื่องที่ต้องงดน้ำงดอาหาร คุณหมอสั่งชัดเจน ลูกเป็นเด็กพิเศษ ก็น่าจะดูแลใกล้ชิดกว่านี้นะคะ เพราะเป็นเด็กพิเศษ เขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่นได้กินทำไมเขาไม่ได้กิน แต่อย่างว่า คุณพ่อคุณแม่คงมีความจำเป็นทำให้ไม่สามารถเฝ้าลูกตลอดเวลาได้ อีกอย่าง เราพยายามอ่าน เราอ่านไม่เจอนะคะว่าตรงไหนที่บอกว่าโรงพยาบาลไม่มีป้ายบอก แต่ถึงจะมีป้ายติด คนเตียงข้างๆ ก็อาจจะมองไม่เห็นป้ายหรือสังเกตไม่เห็นอยู่ดี ส่วนพยาบาลหรือหมอ ก็คงไม่ทันคิดว่าจะมีแบบเตียงข้างๆแบ่งอาหารให้ด้วย ส่วนเตียงข้างๆเขาก็ใจดี เขาไม่รู้ว่าจะผ่าตัด ต้องงดน้ำงดอาหาร -- เรื่องนี้เป็นอุทรหรณ์จริงๆค่ะ ขอให้น้องไปสู่สุคติ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 15:02:05

ความคิดเห็นที่ 55 ที่บอกว่าโล่งใจอาจเป็นเพราะเด็กป่วยหนักมาก อาการแย่แล้วมั้งครับ (คิดในแง่ดี)  อยู่ก็ทรมาน เหมือนตอนที่ผมรู้ว่ายายผมเสีย ผมก็รู้สึกโล่งใจนะ เพราะแกไม่ต้องมานอนทรมานอีกแล้ว จากคุณ : มดปลวกติดปีก เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 15:15:49

ความคิดเห็นที่ 56 แม้แต่ผู้ใหญ่ก็อันตรายค่ะ เคยต้องผ่าตัดไซนัสแบบส่องกล้อง แล้วตัวเองเป็นคนดื่มน้ำเยอะมากถึงมากที่สุด ตอนไปโรงพยาบาลเพื่อแอดมิทตอนบ่าย ผ่าตอนสามทุ่ม เหนื่อยมาก อากาศร้อน ไปขอคุณพี่พยาบาลว่าพี่คะหนูขออมน้ำแข็งเกล็ดได้มั้ยคะ คุณพี่พยาบาลเสียงเข้มกลับมาเลยทีเดียว "ไม่ได้ค่ะ อดทนนะคะ" -.- จากคุณ : -jj- (ruchirote) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 16:24:38

ความคิดเห็นที่ 57 ตกลง "คนข้างเตียง" นี่ใครล่ะคะ แล้วเขารู้ไหมว่าการกระทำของ"เขา"ทำให้เด็กเสียชีวิตน่ะ จากคุณ : i-tim เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 20:28:37

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านหัวข้อ คิดไปเองว่า  บางทีการผ่าตัดไม่ต้องงดก็ได้นึกว่าคนไข้หิวจนเป็นลมไม่มีแรงแล้วไม่ฟื้นอ่ะ  ที่ไหนได้  เฮ้ออ น่างสารจัง จากคุณ : sweety galz เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 22:21:24

ความคิดเห็นที่ 59 ลูกชายเคยต้องดมยาสลบตอน 1ขวบ ก็งดน้ำและอาหาร  6ชม   งอแงมากคะ แต่พอดีเราศึกษาเรื่องดมยาสลบ  เรื่องผ่าตัดมาเนอะเลยรู้เรื่องนี้อยุ่แล้วคะ ต้องแข็งใจ   สงสารลูกนะคะ  แต่ต้องทนคะ จากคุณ : niruvana เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 22:30:32

ความคิดเห็นที่ 60 แปลกจัง ปกติเค้าจะมีป้ายแขวนบอกนิ ว่าเตียงนี้ต้องงดน้ำงดอาหาร และก็ต้องมีคนแจ้งผู้ปกครองเด็กแล้วด้วยว่าให้งด แสดงว่าเอาให้ตอนผู้ปกครองไม่ได้อยู่ด้วย และเตียงข้างๆ มองไม่เห็นป้าย พลาดแบบไม่น่าพลาดเลยจริงๆ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 23:58:27

ความคิดเห็นที่ 61 ปล.เคยได้ยินกรณีน้องหมาเป็นลำไส้อักเสบค่ะ หมอสั่งงดอาหาร เจ้าของพากลับไปบ้านฝากให้แม่เลี้ยง แต่แม่ก็เป็นคนแก่อยู่บ้านคงเหงา และไม่ค่อยยอมฟังอยู่แล้วด้วย เอาลูกชิ้นให้หมากิน ผลคือหมาตายค่ะ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 23:59:48

ความคิดเห็นที่ 62 สำหรับกรณีที่เด็กหิวจนซึมจริง ๆ เราคิดว่าคุณหมอจะแจ้งให้พยาบาลให้น้ำเกลือนะคะ อย่างที่เราแจ้งไปตอนต้น ลูกเราหิวจนซึมไม่ร้องโยเย เราก็รีบแจ้งพยาบาล เพราะผ่าตัดเด็กเล็กจะต้องเริ่มจากเด็กคนที่อายุน้อยที่สุดก่อน คุณพยาบาลก็โทรถามคุณหมอค่ะว่า จะสามารถทำอะไรได้บ้างไหม คุณหมอแจ้งว่าให้น้ำเกลือเด็กได้เลย เค้ามีป้ายบอกไว้ชัดเจน ให้ลูกเราใส่เสื้อคลุมสีม่วง ๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเด็กงดน้ำและอาหารอยู่ คุณพยาบาลจะหมั่นมาถามและให้กำลังใจลูกเราตลอด " อดทนนะลูก ดื่มน้ำและทานอาหารไม่ได้นะครับ" จนถึงเวลาที่เอาเข้าห้องผ่าตัด จากคุณ : เลขาหน้าใส เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 08:53:57

ความคิดเห็นที่ 63 เคยโดนหมอสั่งงดน้ำงดอาหารสองวันเต็มๆค่ะ เพราะกลัวฉุกเฉินได้ผ่าตัดแบบเร่งด่วน เราเกิดอุบัติเหตุรถชนค่ะ อาการโคม่า ตอนนั้นหิวมาก ทรมานมาก คอแห้ง ปากแห้งไปหมด เจ็บคอมากเพราะสายยางที่แหย่ลงไปในช่องท้อง ไหนจะเครื่องช่วยหายใจ สายอะไรมากมายระโยงระยางเต็มไปหมด ทั้งเจ็บทั้งหิว ทรมานจริงๆค่ะ จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 11:48:01

ความคิดเห็นที่ 64 อืม แล้ว....พยาบาลไปไหน แล้วทำไมหมอไม่บอกพ่อแม่น้องให้ละเอียดกว่านี้ เข้าใจว่าหลายๆ คนก็เพิ่งรู้จากกระทู้นี้แหละ อย่าให้น้องทานอาหารหรือน้ำนะครับ งดไปก่อนนะครับ หมอสั่งพยาบาลไว้แล้ว ถ้าทานไปจะมีผลเสียตอนผ่าตัดได้ คือ 1...... 2...... 3..... 4..... อะไรก็ว่าไป โศกนาฏกรรมแบบนี้ก็จะได้ไม่เกิดขึ้นอีก หรือเกิดขึ้นได้โดยเหตุสุดวิสัยจริงๆ กรณีนี้  ไม่ถือเป็นเหตุสุดวิสัยนะครับ เพราะมันคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ว่า ทุกโรงพยาบาลน่าจะมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นได้ จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 18:07:25

ความคิดเห็นที่ 65 ปกติแล้วเรื่องงดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัดนั้น คนไข้อาจจะรับสารมาแค่ว่าต้องงดน้ำ งดอาหาร แต่ไม่ทราบว่ามันอันตรายถ้ายังทานอาหารหรือน้ำอยู่รึเปล่าคะ เพราะเราผ่าตัดเมื่อ 10 ปีที่แล้วไม่รวมผ่าคลอด  หมอก็บอกเราว่างดน้ำ-งดอาหาร แต่เราก็ไม่รู้ว่างดไปทำไม ไม่คาดคิดว่ามันอันตรายถึงชีวิต   จนมาผ่าคลอด  หมอทำคลอดอธิบายให้ฟังค่ะ ฟังแล้วก็คิดถึงตอนผ่าตัดตอนนั้น  ที่เราไม่ดื้อแอบกินข้าว ขอให้น้องไปสู่สุขคตินะคะ จากคุณ : pimluck เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 18:57:05

ความคิดเห็นที่ 66 มาช่วยตอบให้ คห. 50 นะคะ ปกติเด็กเล็ก ให้งดอาหารหลังเที่ยงคืนก็จริง แต่มักมาให้น้ำเกลือตอนเช้าก่อนเข้าห้องผ่าตัดค่ะ เพราะตอนกลางคืนปกติเราก็ไม่ได้กินอะไรอยู่แล้ว และบางทีไปให้น้ำเกลือเลย ตอนกลางคืนไม่มีญาติเฝ้า+เด็กไม่เข้าใจ ดึงสายน้ำเกลือออกเองอีก ทีนี้ต้องมาวุ่นวายเจาะสายน้ำเกลือใหม่อีกค่ะ ส่วนว่าให้น้ำเกลือแล้วไม่หิวเนี่ยก็ไม่เชิงซะทีเดียว เพราะอาหารไม่ได้ลงท้อง น้ำย่อยในกระเพาะก็ยังทำงานตามปกติ ยังสามารถหิวได้ เพียงแต่ร่างกายจะไม่อ่อนเพลียเพราะขาดสารอาหารค่ะ จากคุณ : triyapa เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 19:37:37

ความคิดเห็นที่ 67 โห้ เพิ่งรู้เหมือนกันนะเนี้ย อันตรายขนาดนี้เลย เมื่อ 2 เดือนผมเพิ่งผ่าตัดด่วนมา ผมกินข้าวตอน 1 ทุ่มที่บ้าน ไปหาหมอตอน 3 ทุ่ม หมอบอกจะต้องผ่าตัดด่วน หมอก็ถามว่ากินข้าวตอนกี่โมงแต่ด้วยความไม่รู้ผมบอกหมอว่ากินตอน 5 โมงเย็น หมอก็เลยเอาเข้าห้องผ่าตัดตอน 5 ทุ่ม แสดงว่าผมเฉียดตายด้วยความไม่รู้นะเนี้ย จากคุณ : อย่ายุ่งกับผม ผมไม่สนโลก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 19:49:40

ความคิดเห็นที่ 68 เราเอง กินเคยผ่าตัดคลอดน้องแต่แอบหมอทานน้ำ ขนาดแค่จิบๆๆ ตอนคลอดก้ลำลัก และอ้วกออกมา เกือบหายใจไม่ออก จากคุณ : เย็นตาโฟพิเศษ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 22:24:04

ความคิดเห็นที่ 69 จริงๆแล้ว ในการห้ามสิ่งต่างๆ หมอก็ควรบอกด้วยว่าเหตุผลคืออะไรที่ห้าม และถ้าไม่ทำตามข้อเสียคืออะไรนะคะ อย่างในกรณีนี้ผลที่ตามมารุนแรงมากถึงกับเสียชีวิต ป้ายที่ติดไว้ว่างดน้ำงดอาหารก็ควรมีวงเล็บไว้ด้านล่างด้วยว่าหากไม่งดจะสำลักถึงขั้นเสียชีวิตได้ เราเองยังเพิ่งรู้เลยว่าซีเรียสขนาดนี้ จากคุณ : tanspice เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 14:32:20

ความคิดเห็นที่ 70 กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพือมาบอกถึงผลเสียที่ร้ายแรงของความไม่รู้กรณีการงดน้ำงดอาหาร  เพื่อบอกเพื่อนๆที่ยังไม่ทราบว่ามันอันตรายได้ถึงชีวิต(เหมือนกันเราที่เราก็เพิ่งรู้เช่นกัน) หลายๆความเห็นที่สงสัยว่าพยาบาลหายไปไหน ...ตอบได้เลยว่า..ไม่ทราบค่ะ และเราก็ไม่ได้ไปสอบถามเพิ่มเติมถึงสาเหตุการเสียชีวิต เราก็มีคำถามคล้ายๆกับที่ทุกคนถามนั่นแหละค่ะ แต่ไม่ได้ไปสอบถามเพิ่มเติม  แต่เท่าที่รู้และเท่าที่คลุกคลีอยู่แถวๆนี้  โรงพยาบาลที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่  ปกติแล้วเค้าดูแลคนไข้ในวอร์ดรวมเอง  และจะไม่ให้ญาติเฝ้าในตอนกลางคืนด้วย แต่กลางวันเยี่ยมได้ตามเวลาที่กำหนด   ปกติแล้วพยาบาลจะดูแลเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพยาบาลจะดูแลอยู่ตลอดเวลา ส่วนที่บางคนสงสัยว่าหมอไม่ได้อธิบายรายละเอียดให้คนไข้ หรือ ญาติของคนไข้รับทราบหรืออย่างไร...เรามั่นใจนะว่าหมอต้องแจ้งอยู่แล้วล่ะ ว่าให้งดน้ำงดอาหารกี่ชั่วโมงก่อนเข้ารับการผ่าตัด  แต่ในเรื่องที่ว่าจะบอกถึงอันตรายว่าหากไม่งดแล้วจะถึงขั้นเสียชีวิตหรือไม่นั้น..ไม่มั่นใจว่าได้อธิบายหรือไม่  แต่โดยทั่วไปแล้ว การงดน้ำงดอาหารเค้าก็จะสั่งการไว้พร้อมทั้งติดป้ายที่หัวเตียงด้วยเสมอ มีเหมือนกันนะคะที่ผู้ป่วยเสียชีวิตเนื่องจากญาติที่เฝ้าไข้ให้ทานอาหารทั้งๆที่มีป้ายแขวนไว้ชัดเจน  เหตุผลง่ายๆคือ ญาติที่เฝ้าไข้อ่านหนังสือไม่ออก T_T   (แถวนี้บ้านนอกค่ะ คนที่ไม่รู้หนังสือยังมีอยู่)   แต่ที่ยกตัวอย่างในประโยคนี้ไม่ได้เป็นเคสนี้นะคะ เป็นไปได้หลายๆสาเหตุค่ะ   เราไม่ได้เข้ามาตอบทุกคำถามต้องขออภัยทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ ป.ล.ที่บางท่านถามว่าทำไมพ่อแม่เค้าโล่งใจ...แนะนำกลับไปอ่านความเห็นบนๆใหม่ซ้ำอีกครั้งนะคะ เราได้ตอบไว้แล้วค่ะ จากคุณ : occ26 เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 14:46:34

ความคิดเห็นที่ 71 ไม่ได้ว่านะคะ ตามประสบการณ์ (อาจจะไม่เคยเจอที่อธิบายดีๆ) หมอหรือพยาบาลเค้ารู้เหตุผลว่าการผ่าตัดทำไมให้งดน้ำงดอาหาร แต่คนไข้หรือญาติจะไม่รู้ ส่วนมากก็บอกแค่ "จะผ่าพรุ่งนี้ ให้งดน้ำงดอาหาร x ชม.นะคะ" แต่ไม่อธิบายเหตุและผล  อาจจะทำให้คนไม่มีความรู้ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่คิดว่าหากทำไปจะมีผลร้ายแรงตามมา เราไม่ชอบตรงนี้ค่ะ ขอนอกเรื่องนิดหน่อย ล่าสุดพาแฟนไปหาหมอฟัน ที่แถวสาธุประดิษฐ์ คุณหมอน่ารักมาก ก่อนทำฟันจะอธิบายก่อนว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง ใช้อุปกรณ์ตัวนี้ อาจจะสะเทอน อาจจะเจ็บ บอกได้ ขั้นตอนเป็นแบบนี้ๆ หลังทำแล้วควรปฏิบัติ แบบนี้ ไม่งั้นจะเกิดผลตามมาแบบนี้ เรานั่งฟังด้วย รู้สึกคุณหมออธิบาย และใส่ใจดีมาก เลยกลายเป็นลูกค้าประจำแล้วค่ะ  :) * แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 55 15:20:01 จากคุณ : extraordinary love เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 15:18:51

ความคิดเห็นที่ 72 ไม่รู้มาก่อนเลยคะว่ามีผลร้ายแรงขนาดนี้ แต่ตอนนี้รู้แล้วคะ ต้องขอขอบคุณด้วยที่ทำให้ได้ความรู้เพิ่ม และก็ขอแสดงความเสียใจกับทั้งสองฝ่ายด้วย และขอให้คุณหมออย่าหมดความมั่นใจในตัวเอง จากคุณ : i love iris เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 21:04:26

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณค่ะที่แชร์ เป็นอุทาหรณ์เตือนจริงๆ จากคุณ : benjy_bio เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 01:26:28

ความคิดเห็นที่ 74 ลูกเราตกโต๊ะริมฝีปากฉีก หมอให้งด น้ำ อาหาร ก่อน8 ชม.เราก็ทำตามอย่างเคร่งครัด นับเวลาดู 6 ชม.พยาบาลมาพาลูกไป เราก็ถามเค้าว่า ไหนบอกว่า 8 ชม. เค้าว่า 6 ชม.ก็ได้ พอเย็บปากเสร็จ ฟื้นขึ้นมา ลูกเราอ๊วกตลอด ต้องดูดสเลด จนตัวเค้าขึ้นเป็นฝื่นแดงทั้งตัว พยาบาลบอกว่าเส้นเลือดฝอยแตก ตอนนั้นเราตกใจมาก ลูกเราอาการหนักมาก ใครที่ลูกต้องผ่าตัดต้องเคร่งครัดเรื่องนี้จริงๆ จากคุณ : ... (fearfive) เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 10:33:05

ความคิดเห็นที่ 75 เป็นเหตุที่เราให้ลูกอยู่ห้องเดี่ยว  จากคุณ : แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 15:22:17

ความคิดเห็นที่ 76 ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่จริงๆมันยิ่งใหญ่มาก คนไทยชอบคิดแบบนี้แหละ "ไม่เป็นไร" จากคุณ : ชินาม่อนงาหม่อน เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 21:45:15

ความคิดเห็นที่ 77 เรื่องงดน้ำ - งดอาหารเป็นเรื่องที่สำคัญมากเป็นอันดับแรกๆของการวางยาสลบ ถ้าเป็นเป็นได้  หมอดมยาอยากจะให้คนไข้งดน้ำ - งดอาหารทุกรายก่อนการผ่าตัด   และจะงดนานแค่ไหน  ขึ้นอยู่กับอายุและอาหารที่ผู้ป่วยกินเข้าไปครั้งหลังสุดด้วยค่ะ แต่ถ้าเป็นกรณีฉุกเฉิน  ก็ต้องใช้วิธีวางยาสลบตาม คห.ที่ 37 ค่ะ ป.ล. เราเคยดมยาสลบคนไข้ผ่าตัดไส้ติ่ง  ตอน 4 ทุ่ม คนไข้กินข้าวมาตอน 6 โมงเย็น   ตอนเริ่มวางยาสลบราบรื่นดี แต่พอหมอผ่าตัดเรียบร้อย  คนไข้ตื่นดี  หายใจเองได้ดี   เราถอดท่อช่วยหายใจให้   สักแป๊บคนไข้อ้วกออกมาเป็นชุด ชุดใหญ่มากกกกกกกกกกก  จำได้ติดตาเลยว่าเป็นแกงขนุน  :) รายนี้ถึงกับต้องจับคนไข้สระผม เช็ดตัวหลังผ่าตัดเลยทีเดียว   :) เพิ่มเติม   ยังดีที่คนไข้เคสนี้ไม่สำลักอาหารเข้าปอด   ต้องตามดูคนไข้อีก 2 -3 วันค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 22:22:01 จากคุณ : nunow_maeew เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 22:19:21

ความคิดเห็นที่ 78 อืมมม เพิ่งรู้นะเนี่ย ไม่เคยนอน รพ.ด้วย แต่เป็นไปได้ว่า คนที่นอนเตียงข้างๆ เค้าคงไม่ได้ลุกมาอ่านป้ายฯหรอก น้องที่เป็นเด็กดาว์วฯอาจจะงอแง มาขอของกินเองก็ได้ หรือแอบหยิบไปกินตอนที่คนอื่นหลับอยู่ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น (เตียงมีแค่โต๊ะเล็กๆกั้นเอง เอื้อมมือไปถึงง่ายๆ) เก็บไว้เป็นบทเรียน และบอกต่อละกันค่ะ จากคุณ : มินเอง เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 23:21:11

ความคิดเห็นที่ 79 เคยเข้ารับการผ่าตัดตอนเด็กค่ะ ตอนนั้นอยู่อนุบาล หมอให้งดอาหารค่ะ แต่เพราะป่วยก็เลยไม่หิวไม่อยากกิน มีพยาบาลมาตรวจเช็คตอนกลางคืนและย้ำไม่ให้กินอะไรด้วยค่ะ ตอนผ่าตัดเข้าห้องผ่าตัดพร้อมเด็กอีกคนนึง พ่อกับแม่รออยู่หน้าห้องค่ะ พร้อมกับญาติเด็กที่เข้าไปพร้อมกัน พอผ่าตัดเสร็จมีหมออกมาบอกว่ามีเด็กเสียชีวิตค่ะ ตอนแรกแม่เราตกใจ แต่ไม่ใช่เราค่ะ เป็นเด็กอีกคนนึง เพราะยายเค้าแอบเอานมให้กินค่ะ ส่วนเราพอตื่นมาพยาบาลก็เรียกแม่มาหาค่ะ แม่ร้องไห้มาเลย คงเพราะดีใจที่เราปลอดภัย ส่วนเรามึนๆ ค่ะ ไม่รู้เรื่องอะไร จากคุณ : CloverFerrisWheel เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 12:40:15

ความคิดเห็นที่ 80 ถึงหมอจะแขวนป้ายแต่คนบางประเภทที่มักคิดว่า นิดเดียวคงไม่เป็นไรไง... จากคุณ : กรุณาอย่าเพิกเฉย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 12:57:46

ความคิดเห็นที่ 81 อ่านบาง คคห แล้วทำให้เราได้รู้ว่า คนบางคน ถึงหมอจะสั่งห้ามแล้ว ก็ไม่ได้จะทำตามหมอสั่งหรอก เว้นแต่หมอจะบอกว่า ถ้าไม่ทำตาม ถึงตายได้เลยนะ -_- จากคุณ : winki (Winki) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 14:30:58

ความคิดเห็นที่ 82 คนเราต่างจิตต่างใจ คิดต่างกัน รู้ต่างกัน อยากให้หมอหรือพยาบาลบอกว่าถ้าแอบเอาอะไรให้กินจะเป็นยังไง เสียเวลาอธิบายไม่ถึงนาที แต่รักษาชีวิตเด็กไว้ได้ คุ้มค่ามากมาย จากคุณ : cognac & tobacco เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 00:21:30

ความคิดเห็นที่ 83 ดีใจที่คลิกเอามาอ่าน ไม่งั้นคงไม่ตะหนักว่ามันสำคัญเเละร้ายเเรงขนาดไหน ท้งๆที่ตัวเองก็เคยผ่านการผ่าตัดเเบบวางยาสลบมาเเล้ว ขอบคุณที่นำเรื่องมนี้มาเเชร์ค่ะ จากคุณ : bad weather เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 10:37:25

ความคิดเห็นที่ 84 เราเคยผ่าตัดตอนอายุ20 อดข้าวอดน้ำตั้งแต่เที่ยงวัน ตอนหกโมงเย็นต้องไปสวนก้นให้เราถ่ายออกอีก ทรมานมากๆพอรุ่งเช้าพยาบาลก็พาไปสวนก้นให้ถ่ายอีกรอบสายๆเข้าห้องผ่าตัด ถูกถอดเสื้อผ้า มัดมือมัดเท้าวิสัญญีแพทย์บอกท้องแห้งดีจัง   แถมผ่าตัดเสร็จก็ยังต้องอดต่อไปอีก ข้าวไม่ให้กินไม่ว่า แต่น้ำนี่สิ ดีที่ใด้น้ำเกลือช่วยพอวันที่สองหลังผ่าตัด หมอให้กินน้ำใด้แต่ให้ใส่หลอดแล้วแตะๆที่ลิ้น ทรมานสุดๆ จากคุณ : รักแมวที่สุดเลย เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 21:16:43

ความคิดเห็นที่ 85 อ่านแล้วน่ากลัวมากเลยอ่ะ จากคุณ : nowan เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 23:43:45

ความคิดเห็นที่ 86 ส่วนใหญ่สิ่งที่หมอและเจ้าหน้าที่ "ห้ามทำ" มักจะเพื่อประโยชน์ของคนไข้ทั้งนั้นแหละครับ แต่เราอาจอยู่ในสังคมที่ทำในสิ่งต้องห้ามกันจนชินมั้งครับ เลยเข้าใจคำว่า "ห้าม" ยาก นี่ถ้าเหตุผลของการห้ามไม่ถูกใจก็จะไม่ทำตามที่เจ้าหน้าที่หรือหมอห้ามกันเลยใช่ไหมนี่? จากคุณ : น้องเอยแก้มอ้วน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 01:42:20