ความคิดเห็นที่ 1 ไทซากุ คูโบะ วัย 47 ปี ได้รับเงินจากภรรยาเดือนละ 50,000 เยน (ราว 20,000 บาท) มานานกว่า 15 ปีแล้ว เขาเองเคยพยายามเจรจาขอขึ้นเงินรายเดือนมาหลายครั้ง แต่ก็ได้รับคำอธิบายจากภรรยาทุกครั้งไป ว่าเหตุใดคำร้องขอนี้จึงไม่ประสบผล  ไทซากุเผยว่า ภรรยาของเขา จะอธิบายโดยวาดชาร์ตวงกลม ถึงค่าใช้จ่ายของครอบครัวในแต่ละเดือน ซึ่งเมื่อสรุปรวมแล้ว เขาจะได้รับเงินเพียง 8.8% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่านั้น ยูริโกะ ภรรยาของเขาอธิบายว่า ค่าใช้จ่ายภายในบ้านที่มากที่สุดคือเงินผ่อนชำระค่าบ้านและภาษี แม้จะไม่มีลูก แต่เธอก็ต้องมั่นใจว่าทั้งคู่จะมีเงินพอใช้หลังเกษียณ และด้วยเหตุผลนี้ เขาจึงไม่มีข้อถกเถียงต่อการขอขึ้นเงินเดือน นี่ทำให้เขาจำเป็นต้องล้มแผนซื้อมอเตอร์ไซค์ และเลิกงานอดิเรกที่ต้องใช้เงินมากๆ แต่ถึงกระนั้น เมื่อพิจารณาตามข้อเท็จจริง เงิน 50,000 เยน ที่เขาได้รับ ก็ยังถือว่าสูงกว่า ค่าเฉลี่ยของญี่ปุ่นอยู่ดี ตามข้อมูลของธนาคารชินไซ ที่ทำการวิจัยแนวโน้มของเงินติดกระเป๋าต่อเดือน นับตั้งแต่ปี 1979 พบว่าเมื่อปีที่แล้ว ค่าเฉลี่ยของเงินติดกระเป๋าที่ชาวญี่ปุ่นได้รับอยู่ที่ 39,600 เยน เปรียบเทียบกับ 76,000 เยน ในปี 1990 ซึ่งเป็นปีที่ชาวญี่ปุ่นเข้าใจว่า นั่นคือจุดสูงสุดของการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เพียงปีเดียวหลังจากดัชนีนิกเกอิ 225 พุ่งสู่จุดสูงสุดที่ 38,916 จุด ก่อนที่จะปรับตัวลดลงเรื่อยๆ และไม่เคยเกิดเหตุการณืเช่นนั้นอีกกระทั่งปัจจุบัน และนี่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินติดกระเป๋าของบรรดาพ่อบ้านลดไปด้วย ปัจจุบัน พ่อบ้านที่ภรรยาไม่ได้ทำข้าวกล่องกลางวันให้ ต้องใช้เงินสำหรับค่าข้าวกลางวันให้พอสำหรับราคา 500 เยน หรือเท่ากับเงินเพียงเหรียญเดียว ตามเมืองส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น ค่าใช้จ่ายในการกินมักสูงต่ำไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับทำเล การตกแต่ง มาตรฐานของอาหาร และเครื่องดื่มที่มาพร้อมกับชุดอาหาร แต่ในหลายที่ เงิน 500 เยน ก็แทบจะไม่พอสำหรับราคาบะหมี่ 1 ชาม หรือเบอร์เกอร์ของแมคโดนัลด์สเพียงชิ้นเดียว ส่วนเรื่องการดื่ม โดยเฉลี่ยพวกเขาจะเสียเงินเพียงราว 2,860 เยน ในการออกไปสังสรรค์นอกบ้านในเวลากลางคืน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนที่เคยจ่ายเมื่อเพียง 3 ปีก่อน ขณะที่เบียร์อาซาฮี ขนาด 500 ซีซี ปัจจุบันราคาต่อขวดอยู่ที่ราว 700 เยน (ประมาณ 280 บาท) แล้วเหตุใดพวกเขาจึงไม่จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายต่อเดือนด้วยตนเอง? จากคุณ : Anemone2526 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 06:52:36

ความคิดเห็นที่ 2 ทาคาโอะ มาเอะกาวา จากบริษัทที่ปรึกษาด้านงาน"ฟรีเวิร์คส" กล่าวว่า ผู้ชายมีนิสัยที่ไม่ชอบจัดการอะไรจุกจิกนัก แต่คิดว่าการหาเงินให้แก่ครอบครัวเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แม้ว่านั่นจะทำให้พวกเขาต้องเหนี่อยแทบสาหัสมากก็ตาม ตามธรรมเนียมแล้ว สังคมญี่ปุ่นประกอบด้วยสองส่วนหลัก สิ่งแรกก็คือฝ่ายชายที่ทำหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัวด้วยการทำงาน ที่ถูกเรียกว่า "นักธุรกิจเสื้อเชิ้ตขาว" และฝ่ายแม่บ้านที่มีหน้าที่จัดการเรื่องต่างๆในบ้านให้เรียบร้อย ทั้งสองฝ่ายต่างคอยโอบอุ้มเศรษฐกิจของประเทศให้เดินต่อไปได้หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มาซามิ โนซาวา กล่าวว่า สามีของเธอเคยพยายามจัดการเรื่องเงินในบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เขาก็ทำงานจนแทบไม่มีเวลา และจำเป็นต้องส่งต่อให้เธอจัดการ โยชิฮิโรเห็นด้วยว่า เขามีรายได้เท่าใด และรู้ดีว่าเป็นเรื่องยากเพียงใดในการจัดสรรเงินให้ลงตัว และแม้ว่าเงินเดือนจะขึ้น เขาเองก็คงไม่หวังมากว่าจะได้รับเงินติดกระป๋าเพิ่ม ตอนนี้ ทั้งโยชิฮิโรและไทซากุ ต่างก็ต้องหาที่ดื่มสังสรรค์ที่มีราคาถูกลง ที่ซึ่งพวกเขาสามารถดื่มได้โดยไม่เผาผลาญเงินรายเดือนไปจนหมดกระเป๋าภายในคราวเดียว จากคุณ : Anemone2526 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 06:53:45

ความคิดเห็นที่ 3 ลองมาเป็นเมืองไทย  ชายไทยคงไม่ยอมมั้งแบบนี้ อาจจะมียอมบ้าง  แต่น้อย บางคนขนาดเงืนเดือนมาก  ยังไม่ช่วยภรรยาออกค่าใช้จ่ายเลย  สงสารผู้ชายญี่ปุ่นเหมือนกันนะเข้าใจภรรยาหวังดีแต่ตึงเกินไป จากคุณ : ปูน้อยขาโก่ง~* เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 07:31:39

ความคิดเห็นที่ 4 หาเงินเอง แต่ได้ใช้ 10% ของเงินเดือน เป็นคุณสามีคงโวยตาย ทุกวันนี้ งานอดิเรกท่านแต่ละเดือน พอกับค่าน้ำมันรถเลย จากคุณ : Green Lime เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 08:30:27

ความคิดเห็นที่ 5 หาได สองแสน ได้ ใช้ สองหมื่น บ้านเขานี่ มีเรื่อง ใช้จ่ายน่ากลัวจริงๆ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 09:12:06

ความคิดเห็นที่ 6 สังคมญี่ปุ่น ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจะต้องลาออกจากงานมาอยู่บ้านตลอดชีวิต ผู้ชายเป็นคนหาเงินเดือนเข้าบ้าน แบ่งหน้าที่กันชัดเจน จะเห็นได้ว่าเวลาผู้ชายเลิกงานกลับมาบ้าน เรื่องในบ้าน เค้าจะไม่แตะต้องเลยแม้แต่อย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นการ ล้างจาน ซักผ้า ถูบ้าน ซื้ออาหาร ทำอาหาร ฯลฯ เพราะนั่นคือหน้าที่ผู้หญิง 100% ผู้หญิงที่จะทำงานก็คือผู้หญิงที่หน้าที่การงานระดับสูง หรือ หย่าร้างกับสามี เท่านั้น หรือ ยังไม่มีลูก เงินเดือนวิศวกรญี่ปุ่น ได้เดือนละประมาณ 3.5 แสนเยน (126,000 บาท) คนขับแท๊กซี่ได้เดือนละประมาณ 2 แสนเยน(72,000 บาท) ค่าอาหารนอกบ้านร้านปรกติตอนเที่ยงอยู่ราวๆชุดละ 500 - 1000 เยน(180 - 360 บาท) ถ้าเป็นอาหารจานเดียวจบ เช่น ข้าวหน้าเนื้อ อุด้ง ราเมน โซบะ ก็ไม่เกิน 300 เยน( 100 บาท) นายต้นกระทู้ ได้ใช้วันละ พันเยน นั่นก็เพียงพอสำหรับการกินอาหารเที่ยง แล้ว เพราะ บ้านญี่ปุ่น ราคาแพงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : กบกินกะลา เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 09:53:15

ความคิดเห็นที่ 7 ที่บ้านก็เป็นเหมือนกัน เงินเดือนสามีดิฉันควบคุมดูเเล ให้เป็นค่าข้าวมื้อเที่ยงวันละ1พันเยน เดือนหนึ่งทำงาน25-26วัน ก็ตกเดือนละ25000-26000เยน เหตุผลคล้ายข้างบน ต้องจ่ายค่าเล่าเรียนของลูกโดยเฉพาะค่าเรียนพิเศษ ทำมา16ปีกว่าๆเเล้ว เเต่พ่อบ้านก็ไม่บ่นสักคำนะ^_^ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 55 10:12:07 จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 10:11:30

ความคิดเห็นที่ 8 . . . ช่างตรงกันข้ามกับไทย  บางครอบครัวไม่เพียงแยกกระเป๋า ผู้ชายบางคนยังไม่ แม้แต่จะจ่ายค่าใช้จ่ายในบ้าน ปล่อยให้ฝ่ายหญิงทำงานหาเงินเข้าบ้าน งานบ้าน ก็ต้องทำเองหมด เหมือนเลี้ยงกาฝากในบ้านก็มี  ในไทยหายากมาก ที่ฝ่ายชาย จะให้เงินเดือนฝ่ายหญิงทั้งหมดนะ แบบหมดทั้งเงินเดือนเลยน่ะ ถึงมีก็น้อย ส่วนใหญ่ผู้ชายเป็นคนบริหารเงินมากกว่า สงสัยจริง ๆ ผู้หญิงญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่อง สามีทิ้งมากน้อยแค่ไหน แบบให้เงินสามีใช้ บริหารเงิน จัดค่าใช้จ่ายในบ้าน จนสามีเอือม ไปหานอกบ้านอะไรงี้ แต่อย่างน้อยผู้หญิงญี่ปุ่นก็ยังโชคดีกว่าผู้หญิงไทยหลายคน ที่สามีไม่เคยให้เงินด้วยซ้ำ อย่่างเก่งก็จ่ายค่าใช้จ่ายเล็กน้อยในบ้าน เงินที่หามาได้ ถือว่าเป็นเงินของเขา ไม่คิดให้ภรรยา พอเบื่อภรรยาก็ไปหาเมียน้อย ไปหาชู้  แล้วภรรยาก็ต้องแบกกระเป๋า ออกจากบ้าน เพราะทั้งชื่อบ้าน ทั้งทรัพย์ในบ้านเป็นชื่อสามีหมด . . . จากคุณ : ผักบุ้งตาสวย เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 10:36:05

ความคิดเห็นที่ 9 อิจฉาภรรยาของหนุ่มๆพวกนี้ค่ะ บ้านนี้ขนาดเสนอให้ใช้วันละ 3,000 เยน พ่อบ้านยังไม่ยอมให้ดิฉันดูแลค่าใช้จ่ายเลย เธอว่ากลัวหมดอิสระในการใช้เงินทั้งๆที่เป็นคนหาเงินเอง ภรรยาหลายบ้านที่เป็นคนดูแลรายรับรายจ่ายของครอบครัว กลางวันคุณเธอนัดทานข้าวนอกบ้าน เม้าท์มอยกับเพื่อนๆสนุกแค่ไหน บางคนอุตส่าห์เม้มเงินค่ากับข้าวแอบซื้อของแบรนด์เนมได้อีกต่างหาก ^^ จากคุณ : via iPhone (fudge-a-mania) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 11:19:17

ความคิดเห็นที่ 10 จะบอกว่า สำหรับสังคมไทย  ทำไมไม่ชอบทำกันนะ เราในฐานะภรรยาที่ดูแลเงินเอง   แต่เราทำงานเป็นเจ้าของกิจการกันเอง  อยู่ด้วยกันตลอด  เลยไม่ต้องให้เงินเดือนสามี เวลาไปไหนๆ ซื้อของ ทานข้าว เราจะต้องเป็นคนจ่าย เพราะสามีไม่ได้ถือเงิน   บางคนก็มองแปลกๆ  คงคิดว่าทำไมให้ผู้กหญิงจ่าย (ก็เงินอยู่ที่เรานี่นา โฮ๊ะ ๆ ๆ ๆ) จนบางที  เวลไปทานข้าวกับเพื่อนๆ  จะเอาเงินให้สามีติดตัวไว้ สัก 2-3 พัน  เค้าจะได้จ่ายเองได้  เดี๋ยยวกลับบ้านค่อยเก็บส่วนที่เหลือ  555 ข้อดีคือ  เงินไม่ไปไหน  ไม่มีการช๊อต  หุหุ แต่ ข้อเสียก็มีนะ  เพราะสามีไม่มีตังค์  ซื้ออะไรเซอร์ไพร์เราไม่ได้  แห่ะๆ ปล. เราคนไทยนะ  อิอิ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 55 11:37:11 จากคุณ : nongnew2000 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 11:36:11

ความคิดเห็นที่ 11 เพื่อนเราเคยท่องให้ฟังว่า เงินเมียของเมีย เงินผัวของเมีย แล้วเขาก็ทำได้จริง ๆ สามีกดเอทีเอ็มเองไม่เป็น ให้เมียพกแทน แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 55 12:16:42 จากคุณ : Ms...plum เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 11:47:28

ความคิดเห็นที่ 12 เพื่อนเพิ่งบ่นว่า ที่บ้านเค้าแม่เป็นแม่บ้านเหมือนกัน เวลาจะใช้เงินต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะพ่อให้จำักัด แต่เวลาพ่อจะซื้ออะไร พ่อซื้อเลย บอกว่าเงินเค้า เค้าเป็นคนหามา จะใช้ยังไงก็ได้ จากคุณ : love2loveU เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 12:06:09

ความคิดเห็นที่ 13 เรากำลังเริ่มต้นครอบครัวกับสามีคนญี่ปุ่นคะ เราคุยกันไว้ว่าจะให้สามีใช้เงินเขาเต็มที่ โดยแบ่งค่า บ้าน ค่ารถ ค่าโทรศัพท์ จิปาถะอีกต้องจ่าย แต่เขาขอให้เราดูแลค่าใช้จ่ายให้เขาทั้งหมด โดยขอค่าขนมนิดหน่อยติดตัวพอ เราทำงานมีเงินใช้เองตลอด ต่อไปต้องใช้เงินเขา เขินๆไม่กล้าใช้ บอกเขาไปว่า มันคือ เงินเขาทำงานมาเหนื่อย ใช้ให้เต็มที่ แต่งงานกับคนไทยการใช้ชีวิตไม่จำเป็นต้องเป็นแบบญี่ปุ่น100%ก็ได้  ผสมกันไป แต่เขาบอกว่า มันไม่ใช่แค่เงินผม มันคือ เงินเรา 5555+ เสร็จโจรแล้วล่ะ  คุณชาย จากคุณ : harusame เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 12:16:31

ความคิดเห็นที่ 15 วัฒนธรรมมันต่างกันอะค่ะ ประเทศไทยแม้จะทำเหมือนผู้ชายช้างเท้าหน้า แต่แท้จริงผู้ชายส่วนใหญ่มีนิสัยลูกแหง่ที่พ่อแม่ตามใจกันหมดแต่เด็ก ผิดกับผู้หญิงไทยที่มีความเป็นผู้ใหญ่ มีความอดทน จัดระเบียบชีวิตได้ดีกว่า เอาง่ายๆในออฟฟิศแหล่งธุรกิจ เราเห็นผู้หญิงทำงานเยอะมาก ในส่วนแผนกระดับสูงๆก็ผู้หญิงทั้งนั้น ไปเดินสีลมพักเที่ยงสิ มีแต่เวิร์คกิ้งวูแมน ทำงานเก่ง ดูแลลุกก็เก่ง ไม่ได้ดูถูกชายไทยนะ แต่เท่าที่เห็นจากแฟนเก่าๆ คนรอบตัว หรือกระทั่งน้องชายตัวเองก็เถอะ ลูกแหง่ซะเยอะ นิสัยเป็นเด็ก มาถึงเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ไม่มีความเป็นผู้นำพอ ไปใช้กับการสังสรรค์ งานอดิเรก ของเล่น หรือผู้หญิงอื่น เอ้อ เราพูดตามความเห็นส่วนตัวเรานะ ผู้ชายไทยที่ไม่เป็นก็คงมีเยอะค่ะ แต่เทียบส่วนสัดแล้ว ก็ยังน้อยอยู่ดี ขออภัยที่คห.ดูจะตำหนิชายไทยไปหน่อย ปกติเราจะชาตินิยมนะ แต่เรื่องนี้ขอถ้าเลือกได้ไม่อยากมีสามีคนไทยน่ะ รู้สึกงี้มาสิบปีแล้ว จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 12:42:44

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าให้เมียถือเงินปัญหาเมียน้อยจะลดลงเยอะ ไม่มีปัญญาหาเงินไปปรนเปรอเมียน้อย จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 13:25:50

ความคิดเห็นที่ 17 ตายแล้ว  นึกว่าเอาเรื่องของดิชั้นมาเขียน ....  แต่สามีของดิชั้น น่าสงสารกว่านะ เพราะได้เงินใช้แค่เดือนละ 20000 เยน  เพราะเบนโตะทำให้ทุกวัน  น้ำชากรอกใส่กระติกให้ทุกวัน  น้ำมันรถใช้เครดิตคาร์ด   เสาร์อาทิตย์ออกไปไหนก็ภรรยาจ่ายหมด ทั้งนี้ แบบนี้เก็บเงินได้เป็นระบบค่ะ เพราะกลับมาทุกคืน เราต้องเอาใบเสร็จมาลงคอม เพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายต่อเดือน   แม่บ้านญี่ปุ่นของแท้ จดรายรับจ่ายบ้านทุกเดือนค่ะ  ถ้าเงินน้อยก็เจียดใช้กันแล้วทีนี้ ให้ถึงสิ้นเดือนกันค่ะ   เล่าแล้วยาวววว จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 19:36:50

ความคิดเห็นที่ 18 ของผมเอง นี่ เก็บในกระเป๋าตังผมครับ แต่ผมเป็นคนดูแลแบ่งสัดส่วนชัดเจนแน่นอน เพราะรายได้น้อย รายจ่ายเยอะจึงต้องแบ่งอย่างชัดเจน แฟนผมคำนวณไม่ค่อยคล่อง เลยเป็นหน้าที่ผม ผมว่ามันเป็นการจัดการภายในครอบครัวที่ดี และมีเงินเก็บ แม้ว่าจะเงินเดือนที่น้อย การมีเงินในกระเป๋าตั้งแต่ ต้นเดือนจำกัด ทำให้เราปรัหยัด และคิดก่อนจ่ายเสมอครับ ถ้าใช้เท่าที่มี คงไม่เหลือเงินเก็บ ผมว่าภาระของคนญี่ปุ่นคงเยอะความรับผิดชอบเค้าสูงครับเลยต้องทำอย่างนั้น ทำงานมาเหนื่อยๆ ให้มายุ่งเรื่องรายรับรายจ่าย ปวดหัวอีก^^ จากคุณ : เด็กอมมือ (rucasBay) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 19:37:21

ความคิดเห็นที่ 19 ผิดกับเราเลย เงินเค้าคือของเค้า เงินเราใช้ทั้งบ้าน นานๆ จะได้อนุเคราะห์ แต่ให้มาที โม้ไปทั่วว่าที่หาๆ มาเนี๊ยะ ก็จุนเจือในบ้าน...อืมช่างกล้า จากคุณ : แม่น้องมิวคะ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 21:14:19

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นภาพเลย ตัวผมเองก็มีเงินใช้จ่ายส่วนตัวน้อยกว่า 10% ของที่ตัวเองหาได้ แต่ดูแฟนใช้แล้ว ก็บ่นไม่ออก เพราะน้อยกว่าเราอีก จริงๆก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมดูคนอื่นใช้เงินกันเป็นว่าเล่น หรือว่าเรางก คิดดูจริงๆก็ไม่นะ เพราะถ้ามองไปถึงตอนเกษียณ ไม่เก็บขนาดนี้เนี่ยะ ถ้าจะลำบาก จากคุณ : อวิรุืทธ์ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 23:38:56

ความคิดเห็นที่ 21 บ้านเราเราถือเงินค่ะ  ตกลงกันก่อนแต่งเลยว่าแต่งกับเราต้องเป็นอย่างนี้  เพราะเราไม่อยากให้มีปัญหาเรื่องเงินกันทีหลัง  เราทำงานนอกบ้านแต่รายได้น้อยกว่าเค้า   เราบอกเค้าตามจริงหมดทุกอย่าง  ให้เค้าตัดสินใจก่อนว่าจะยอมรับเงื่อนไขได้มั้ย   สุดท้ายเค้ายอมค่ะ  ^__^ จริงๆการจัดสรรเงินภายในบ้านมันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ  เราเป็นคนจัดการทุกอย่าง  ถึงวันจ่ายบัตรนั้น  บัตรนี้  จ่ายค่าประกันรถ  ประกันชีวิต  เราเป็นคนจำเป็นคนจัดการทั้งสิ้น   กับข้าวของสด  ของใช้ในครัวเรือนเราเป็นคนจัดการหาซื้อ   สามีเราเดี่ยวนี้แทบไม่ต้องไปกดเงิน   เธอจะใช้เท่าไหร่ก็หยิบเอาจากกระเป๋าเรา  เราไม่หวงห้ามขอให้บอกว่าหยิบไปเท่าไหร่   หมดแล้วมาเอาใหม่ไม่ว่ากัน  ไปทานอาหารนอกบ้านหรือใช้จ่ายอะไรก็ตามเค้าอยู่นิ่งๆเราจ่าย   ถึงฤดูเสียภาษีเราจะคิดคำนวณว่ามีทางลดหย่อนภาษีอะไรตรงไหน    ซื้อของชนิดนี้ซื้อที่ไหนยังไงจึงจะราคาถูก   เพราะเราถือคติว่าเพิ่มเงินในกระเป๋าโดยการลดค่าใช้จ่าย   ดีกว่าตะเกียกตะกายหางานทำเพื่อให้ได้เงินเพิ่มค่ะ สรุปคือคุณสามีไม่ต้องทำอะไรเลย  ทำงานไปอย่างเดียวที่เหลือเราจัดการเอง 5555  ก็เหนื่อย(มาก)นะคะ   แต่ก็รู้สึกว่าได้ดั่งใจเราค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 55 16:15:23 จากคุณ : SWEET TOFFY เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 16:14:31

ความคิดเห็นที่ 22 สังคมญี่ปุ่นเขาแบ่งหน้าที่กันชัดเจนค่ะ ผู้ชายมีหน้าที่ทำงานนอกบ้าน ผู้หญิงมีหน้าที่ทำงานในบ้าน ดังนั้นเรื่องต่างๆภายในบ้าน ผู้หญิงจะเป็นคนดูแล รวมทั้งเรื่องเงืนด้วย จากคุณ : เจ๊ว่าแล้ว เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 22:40:29