ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเป็นลูกเรา ป้าคงไม่ทันสอนค่ะ เราจัดหนักไปแล้ว ไม่นอนให้ลูกเอาเท้าชี้หน้าแน่นอนค่ะ... จากคุณ : เทียนสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 16:48:45

ความคิดเห็นที่ 2 สอนสิ สอนไปเลย คนครอบครัวเดียวกัน ก็ต้องช่วยกันดูแลสั่งสอนกัน การที่แม่เด็กวางเฉย ก็เป็นเรื่องที่ดี เท่ากับเปิดพื้นที่ให้คุณได้สื่อสารกับหลานเต็มที่ ถ้าแม่เด็กเออออด้วยตอนนั้น เด็กอาจรู้สึกเหมือนเขาโดนรุม จะพาลดื้อต่อต้านคนทั้งบ้าน จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 17:03:40

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นอีกคน ที่เห็นเด็ก ไม่ว่าจะเป็นลูก หลานหรือลูกเพื่อน ทำไม่ถูกต้องเราจะบอกจะสอน ทันที   โดยไม่กลัวแม่เค้าจะโกรธ แต่การบอกการสอน ก็ต้องพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลนะคะ ไม่ดุ ไม่ตะคอก และต้องไม่พูดซ้ำซาก ซ่ำแซะ และไม่กลัวแม่ๆเค้าโกรธด้วย ถ้าเราบอกเราสอนด้วยสิ่งที่ถูกต้อง แล้วแม่เค้าโกรธ ก็ไม่ต้องแคร์ค่ะ คุณ จขกท ทำถูกแล้วที่สอนหลาน และการที่น้องสะใภ้นิ่ง ถือว่าเป็นการดีนะ เหมือน คห บนๆบอกไว้ ถ้าทุกคนดุหมดเค้าคงเหมือนโดนรุม จากคุณ : 18 นะไม่ใช่อายุแต่เป็นมงกุฏ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 17:22:33

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนจะสอนก็ต้องดูว่าสอนใครลูกสอนหลานใคร พื้นเพพื้นฐานพ่อแม่ของน้องเป็นอย่างไร และเราสนิทด้วยในชั้นไหนค่ะ หากจะออกปากสั่งสอนน้องคนไหน ก็คงพูดด้วยน้ำเสียงและถ้อยคำที่นุ่มนวลที่สุด พูดครั้งเดียวจบค่ะ  ไม่คาดคั้น คาดหวังอะไร  เพราะได้ทำตามสมควรไปแล้วค่ะ "ติเตียนแล้วจะเป็นโทษหรือมีประโยชน์นั้นมันก็สุดแล้วแต่ละกรณีไป หากติเตียนด้วยใจอคติ มุ่งแต่ชี้โทษของการกระทำ เขาเรียกว่า "จ้องจับผิด" ส่วนการติเตียนด้วยใจสุจริต เมตตารักใคร่นั้น แม้จะดี แต่ก็ควรกระทำให้เหมาะสมกับปัจจัย คือ บุคคล กาลเวลา และสถานที่ ในสถานะของบุคคล ก็ต้องระมัดระวังวาจา ว่าใช้กับใคร เป็นผู้ใหญ่ ผู้น้อย หรือเพื่อนฝูง กาลเทศะก็ต้องดูให้เหมาะให้ควร การแสดงความชื่นชมยินดีนั้นเขาให้ทำในที่แจ้ง แต่การติติง ตักเตือนใครสักคนนั้น ควรทำในที่ลับ อย่าเพ่งโทษให้ร้ายใครต่อหน้าคนอื่น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความจริงก็ตาม ในกรณีที่เราเข้าไปเกี่ยวข้องในความถูกความผิดอันนั้นด้วย โบราณอาจารย์ ท่านสอนสืบต่อมาไว้ว่า "สเจรูปํ อุปาทิยติ น ภูมิยํ สุขํ คเวเสนโต" " ถ้าโทษคน ไม่โทษใจตน จะเป็นคนหาแผ่นดินอยู่เป็นสุข มิได้ " หากมันจำเป็นต้องแก้ไข ถ้าแก้ที่ตัวเราเองได้ ก็จงกระทำเสียก่อน ก่อนที่จะไปแก้ไขคนอื่น" จากคุณ : จ้อย..ยย เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 17:36:43

ความคิดเห็นที่ 5 แต่เราไม่ได้ดุหลานนะคะ เป็นการสอนจริงๆ แค่อยากให้แม่เด็กเออออด้วยว่ามันไม่ดีจริงๆ นะ ให้เชื่อเราด้วย วันหลังอย่าทำอีก แค่นั้นล่ะค่ะที่เราต้องการ เพราะกับน้องชายเราเอง (พ่อหลาน) เวลาเราสอนอะไรหลานแล้วเค้าอยู่ด้วย เค้าก็จะเออออ ช่วยสอน หลานก็พยักหน้ารับ แค่นี้เราก็พอใจแล้ว แต่การทำเฉยของน้องสะใภ้เรากลับมองว่าเค้าไม่พอใจ และไม่เห็นด้วยที่เราไปสอนลูกเค้า อะไรทำนองนี้ค่ะ จากคุณ : da เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 17:37:25 A:171.99.233.60 X: TicketID:330373

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบไปแล้วเพิ่งเ็ห็นคห.ของคุณจ้อย..ยย หลายๆ ครั้งเราหงุดหงิดใจกับน้องสะใภ้มาก (ในหลายๆ กรณีรวมถึงเรื่องนี้) จนเรารู้สึกทุกข์ใจไปเอง เพราะแก้ไขอะไรเธอไม่ได้จริงๆ ทั้งที่บอกแล้ว คุยกันตรงๆ แล้ว คงต้องแก้ที่ตัวเราเองจริงๆ ล่ะมั้ง จึงจะอยู่ได้อย่างเป็นสุข จากคุณ : da เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 17:44:00 A:171.99.233.60 X: TicketID:330373

ความคิดเห็นที่ 7 เราว่าคนเป็นแม่ถ้าช่วยพูดเสริม จะทำให้เด็กรู้ว่าไม่ควรทำจริงๆ การที่แม่นิ่ง ไม่ตอบอะไร ปล่อยให้ลูกซุกตัว อาจจะทำให้เด็กคิดว่า "ทำไมป้าต้องมาว่า แม่ยังไม่ว่าไรเลย" จากคุณ : Extremely Chocolate เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 17:57:53

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ Extremely Chocolate คะ โดนใจจริงๆ เพราะเรารู้สึกว่าหลานคิดอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ แต่ตอนตั้งกระทู้เราบรรยายไม่ถูก จากคุณ : da เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 18:03:00 A:171.99.233.60 X: TicketID:330373

ความคิดเห็นที่ 9 จขกท ย้ำหลายทีไปนะคะเราว่า   ที่ จขกท ทำน่ะ ไม่ผิดหรอกค่ะ  เราไม่รู้ว่าปกติน้องสะใภ้เค้าพูดเก่งไหม หรือเป็นคนเงียบ ถ้าเค้าเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูด ตอนนี้ก็เงียบ เราว่าเค้าคงไม่ได้คิดอะไรค่ะ แต่ถ้าปกติก็พูดพอสมควร พอ จขกท สอนลูกเค้า แล้วเค้าเงียบ อาจมีแอบเคืองนิดหน่อยละมั๊ง แต่เค้าก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมานี่คะ อารมณ์คนเรามันห้ามกันไม่ได้ค่ะ แต่ห้ามการกระทำได้  การที่แม่จะรู้สึกแทนลูกไม่ใช่เรื่องผิด   เค้าก็รู้ว่า จขกท ทำถูกแล้วเลยไม่ได้เถียงอะไร แต่รู้สึกแทนลูก แล้วแสดงสีหน้าท่าทางเอาเรื่อง อันนี้ถึงจะผิด น้องเค้าไม่ได้เถียง ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรใส่ จขกท   ก็อย่าคิดมากเลยค่ะ ที่เค้าไม่แสดงอาการไม่ดีใส่ จขกท เพราะเค้ายังเคารพและเกรงใจ จขกท ไงคะ  รู้เท่านี้พอแล้วค่ะ บางบ้านก็ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องท่าทาง การแสดงออกของเด็ก  เค้าเลยคิดว่ามันเป็นเรื่องเฉยๆ บ้านแฟนเรา หลายเถียงปู่ฉอดๆๆ เราเห็นแล้วอึ้ง เป็นบ้านเราโดนตบปากไปแล้ว ผู้ใหญ่คุยกัน เด็กวิ่งกระโดโลดเต้น สนุกสนาน วิ่งข้ามไปข้ามมา  เค้าก็คุยกันปกติ เป็นบ้านเรานะ โดนดุตาเขม็งแ้ล้วค่ะ เดินผ่านผู้ใหญ่ ไม่มีก้ม ไม่มีค้อมตัวลง เดินกันโทงๆค้ำหัวไปอย่างนั้น  เราเห็นก็งง เค้าไม่ถือกันเลยเหรอ ปู่ย่านั่งอยู่กับพื้น หลายสูง 160+ เดินผ่านระยะประชิด ไม่มีก้มไม่ค้อมตัว แทนจะเหยียบหัวกันเลยทีเดียว บ้านแฟนไม่มีใครสนใจ เรางงมาก  สงสัยธรรมเนียมปฏิบัติไม่เหมือนกันละมั๊ง พยายามไม่คิดมาก (แต่ก็แอบขัดใจ) จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 18:15:33

ความคิดเห็นที่ 10 คุณเทมปุระ ปกติน้องสะใภ้เป็นคนพูดเก่งมากค่ะ และเรื่องนี้เราก็รู้ตัวว่าย้ำหลายที แต่สาเหตุคือย้ำเพื่อให้น้องสะใภ้ช่วย เพราะคิดว่าแล้วหลานจะเชื่อมั๊ยเนี่ย แม่ไม่เห็นพูดอะไรเลย จริงๆ ก็รู้นะคะว่าเวลาหลานอยู่ที่บ้านตัวเอง เค้าก็ชอบนอนกลับหัวกลับหางผิดทิศอย่างนี้ประจำ (น้องสะใภ้เคยเล่าให้ฟัง) แต่พอดีอยู่ที่นี่มีย่าอยู่ด้วยก็เลยต้องสอนกันหน่อย ที่ไม่พอใจมาก คงเป็นเพราะสะสมรวมกันมาหลายครั้งอ่ะค่ะ ไม่ว่าจะสอนเรื่องอะไร เธอไม่เคยช่วยเออออกับเราเลย การที่เรามาเล่าในนี้ก็เหมือนเป็นการระบายอย่างนึง และขอขอบคุณทุกคห. รวมถึงคห.บนๆ ที่เราไม่ได้เอ่ยชื่อด้วยนะคะ มันเป็นการช่วยให้เรามองได้หลายๆ มุม เพื่อเราเองจะได้สบายใจมากขึ้น ปล่อยวางได้มากขึ้นค่ะ จากคุณ : da เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 18:47:00 A:171.99.233.60 X: TicketID:330373

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นเราก็คงพูดต่อว่า แม่ก็ต้องสอนด้วย_จบค่ะ จากคุณ : kansakx_aj5 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 18:47:07

ความคิดเห็นที่ 12 เราคงพูดนิ่มๆและยิ้มไปด้วยว่า  หนูหันขามาทางนี้ลูกเดี๋ยวโดนคุณแม่นะครับเอาหัวที่หนุนที่หมอนจะได้ไม่เมื่อคอน๊า  และก็คงไม่พูดอะไรอีกอ่ะ เพราะแม่เค้าก็ได้ยินแล้วก็คงคิดอะไรได้หน่ะค่ะเป็นแม่คนแล้ว จากคุณ : maysurly เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 18:55:52

ความคิดเห็นที่ 13 ขอโทษนะคะ แต่เราว่าคุณคิดเยอะไป แม่เค้านิ่งแล้วมีท่าทีไม่พอใจหรือเปล่าคะ หรือดูดูอะไรอยู่ เค้าอาจไม่ได้ฟังที่คุณสอนลูกเค้าก็ได้ หรือไม่ก็เห็นว่าคุณเลี้ยงอยู่ทุกเย็น คงสอนกันอยู่ประจำ เออ แต่ถ้าเค้าสวนคำพูดคุณตรงๆสิ ค่อยเก็บเอามาคิด จากคุณ : อดีตอันหอมหวาน เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 19:21:25

ความคิดเห็นที่ 14 อืมมมม เราอ่านดูเเล้ว จขกท คาดคั้นไปนิดนะคะ เข้าใจว่า คิดว่าเด็ก เลยต้องถามหลายๆรอบ เเต่เราว่าถามเขารอบเดียวพอเเล้ว เเล้วก็บอกต่อไปว่าถ้าทำอย่างนั้น เดี๋ยวเผลอถีบ โอนเเม่ เเม่เจ็บร้องไห้นะ อะไรก็ว่าไป เราว่า จขกท สั่งสอน เเล้วเเม่เขาเงียบ ดีกว่า เเม่เขาเถียงเเทนลูกนะคะ เงียบก็คือเปิดโอกาสเเล้วเเหละ หลังจากนั้นเขาอาจจะสอนน้องอีกทีก็ได้ ใครจะไปรู้ เห็นด้วยกับคุณเทมปุระ เมื่อก่อนเราเดินผ่านผู้ใหญ่เราค้อมตัวตลอดค่ะ จากหลานเกือบ 20 คน มีเราทำคนเดียว พ่อแม่โดนชมนะ ว่าเรามารยาทดี หน้าบานกันใหญ่ 555 หลังๆไม่ทำเเล้ว มันติดพุง เมื่อก่อน 50-60 โล มันค้อมง่ายนิ ตอนนี้ติดพุงอะ ไม่ไหว -*- จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 19:22:41

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่แน่ใจว่าคุณ จขกท. มีลูกด้วยรึเปล่า? ถ้ามีคนมาสอนลูกคุณ หากคุณไม่ได้รู้สึกว่าลูกทำอะไรผิด แล้วคุณจะสำทับอีกหรือคะ? เราว่าตามหลักความเป็นจริง ในสถานการณ์ที่มีใครมาสอนหรือดุลูกเราโดยที่เราอยู่ด้วยนั้น อาจแปลว่าเหตุการณ์ที่ลูกเราทำ เราไม่ได้ถือสา หรือต้องการดุ ไม่งั้นเราคงดุไปก่อนแล้วไม่ถึงมือคนอื่นได้มาสอนหรอก คุณต้องเข้าใจนะคะว่าทุกคนมีบรรทัดฐานที่ไม่เหมือนกัน (ปกติจะดุในกรณีที่คิดว่าเขาทำผิด) ในกรณีนี้ก็เช่นกัน แม่เด็กอาจไม่ถือสาสิ่งที่ลูกทำ เมื่อลูกโดนดุ หรือโดนสอนแล้วก็เลยนิ่ง ๆ   เราว่ามันจะโหดร้ายเกินไปนะคะ ถ้าจะไปบังคับให้เขาเห็นด้วยกับคุณแล้วมา ดุลูกตัวเองอีก ที่เขาทำำนิ่ง ๆ เท่ากับเขายอมรับให้คุณสอนหลานได้แล้ว เราว่าถ้าเป็นตัวเราเองก็คงทำแบบนี้เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ลูกทำนั้น มันผิดอะไรร้ายแรง คนอื่นสอนก็สอนได้ แต่ถ้าจะให้เราสำทับด้วย เราไม่ทำแน่นอนค่ะ จากคุณ : ท่าตลาด เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:06:41

ความคิดเห็นที่ 16 ของเรา เราก็ไม่ยุ่งนะคะ ถ้ามีใครมาสอน ก็ปล่อยเขาสอนไป เหมือนเวลาที่เราดุลูก  เราก็ไม่ชอบให้สามีมายืนดู แล้วก้เออ ใช่ ถูกต้องกับเรา    ถ้าจะมาเสริมตอนที่เราอบรมลูกอยู่  เราก็ดุสามีแทนเลยค่ะ หงุดหงิดมาก เพราะเราเหมือนว่า  เราและสามีกำลังรุมลูกชายอยู่  เพราะถ้าถึงคราวสามีสอนลูก เราจะไปอีกห้อง ไม่ยุ่ง ไม่ซ้ำ ไม่เสริมค่ะ จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:35:37

ความคิดเห็นที่ 17 ความจริงหลานทำตามก็ดีแล้วค่ะ เค้าไม่ได้เถียงหรือมีทีท่าไม่พอใจ พอคุณพูดเค้าก็ทำตาม แต่เราว่าคุณคาดคั้นจากเด็กมากๆ เค้าไม่ได้ทำผิดอะไรร้ายแรง แม่เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร คงเปิดโอกาสให้คุณสอนแล้ว อย่าคิดมากเลยค่ะ จากคุณ : Nan (Can't forget you) เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:39:44

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณทุกความเห็นเลยค่ะ มองต่างมุมกันจริงๆ เราก็ไม่รู้ว่าน้องสะใภ้เราคิดอะไรอยู่ แต่ขอตอบคุณ kansakx_aj5 นะคะ ว่าเราพูดไปแล้วค่ะ เธอชวนลูกกลับบ้านเลย เราถามตามหลังว่าไม่พอใจเหรอ เธอปฏิเสธ กะว่าเดี๋ยวได้จังหวะเหมาะๆ จะขอเคลียร์ใหม่ แต่ไม่รู้ว่าเธอจะกล้าพอที่จะพูดความรู้สึกหรือความคิดตรงๆ ออกมาไหม จากคุณ : da เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:53:56 A:171.99.233.60 X: TicketID:330373

ความคิดเห็นที่ 19 ขอต่ออีกนิดค่ะ มันค้างคาในความรู้สึก (สงสัยเป็นเอามาก กำลังคิดว่าจะไปตั้งกระทู้ในสวนลุมเรื่องสุขภาพจิตดีมั๊ย?) กระทู้นี้มันเกิดมาจากการที่เราคิดว่าน้องสะใภ้เรามักจะไม่สอนในสิ่งที่ควรสอน เช่น หลานทำน้ำหก เราก็บอกดีๆ ว่าทำน้ำหกต้องเช็ดด้วย ใครทำคนนั้นต้องเช็ด แต่น้องสะใภ้เรากลับลุกไปเช็ดให้ โดยไม่บอกหลานสักคำว่าให้หลานไปเช็ดเอง อ้าวแล้วที่เราสอนหลานล่ะ มันคืออะไร อันนี้แค่ตัวอย่างค่ะ แต่มันมีอีกเยอะจริงๆ ที่ให้เล่าทั้งวันก็อาจจะยังไม่หมด ซึ่งเราก็กลัวว่าหลานเราจะโตมาแบบพ่อแม่รังแกฉัน (แต่ก็ทำอะไรไ่ม่ได้ ลูกเค้าไม่ใช่ลูกเรา) จากคุณ : da เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 23:12:06 A:171.99.233.60 X: TicketID:330373

ความคิดเห็นที่ 20 จขกท ค่ะ  ปลงนะคะ หายใจเข้าลึกๆค่ะ อ่านดูความเห็นหลังๆ เราว่าน้องสะใภ้คงโตมาแบบบ้านแฟนเราแน่ๆเลยค่ะ ลูกทำอะไรเปื้อน ทำอะไรเลอะ กินข้าวแล้วไม่เก็บ พ่อแม่เก็บตามค่ะ แฟนเราตื่นนอน ยังไม่เก็บที่นอน ไม่พับผ้าห่มด้วยซ้ำ   เพราะพ่อแม่เค้าตามใจ ไม่สอน ลูกไม่เก็บพ่อแม่ก็ตามเก็บ บางทีเราก็คันปากนะ บ่นแฟนต่อหน้าพ่อแม่เค้าเลย ไม่ได้จะประชดแต่ว่าเราเผลอปาก เช่น กินแล้วไม่เก็บ บางทีเราพูดเลย กินเองทำไมไม่เก็บเอง ล้างก็ไม่ได้ล้าง อย่างน้อยก็ถือไปเก็บให้หน่อยได้ไหม หรือ ทิ้งไว้ตรงนี้อีกแล้ว ทำไมไม่เก็บให้เรียบร้อย ใครจะตามเก็บให้ได้ทั้งวันล่ะนี่ เมื่อก่อนเราไม่เข้าใจว่าทำไมแฟนเราเป็นคนแบบนั้น พอได้ใกล้ชิดกับที่บ้านเค้า เลยกระจ่างแจ้ง เพราะที่บ้านเค้าเป็นแบบนั้น เลี้ยงให้เป็นแบบนั้น ไม่บอกไม่สอน โตมาก็เลยเป็นแบบนี้ จขกท อย่าไปเคลียร์อะไรกับน้องสะใภ้เลยค่ะ  เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร จขกท นี่คะ เธอคงจะชินซะมากกว่า เราคาดเอาว่าที่บ้านเธอคงเป็นแบบนี้(เหมือนบ้านแฟนเรา)  พ่อแม่คอยตามเก็บให้ลูก จขกท ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ใกล้ชิดหลาน จะได้คอยสอนคอยบอกในสิ่งดีๆปลูกฝังนิสัยดีๆให้หลานดีกว่านะคะ อย่าไปหาเรื่องให้ผิดใจกับแม่เค้าเลย  การเลี้ยงดูไม่เหมือนกัน พูดให้ปากฉีกเค้าก็ไม่เข้าใจเราหรอกค่ะ  จะหาว่าเราเรื่องมากเข้าซะอีก จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 00:21:14

ความคิดเห็นที่ 21 เราเห็นด้วยที่ จขกท พยายามจะสอนสิ่งดีๆให้หลาน แต่เรื่องบางเรื่อง มันไม่มีถูกหรือผิด อย่างที่ คห.บนๆ บอกว่า บางบ้านซีเรียสกับบางเรื่อง ในขณะที่บางบ้่านไม่.. พี่สาวเราก้อเป็นอย่าง จขกท แหละ ชอบช่วยอบรมหลาน เค้่แต่งงานแล้ว ไม่อยากมีลูกเท่าไหร่ เราอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีพ่อเรา พี่สาว+สามี และน้องสาว (+เรา สามี ลูก 2 ขวบ) พี่สาวเราชอบอบรมลูกเราในเรื่องที่เราคิดว่าไม่จำเป็น เช่น ลูกเราชอบไปนั่งให้อาหารปลาในบ้าน ตักอาหารปลาออกมา บางที่โยนให้ปลาแล้วบางเม็ดไม่ลงบ่อ ลูกก้อก้มลงจะเก็บ ทำให้ถ้วยอาหารปลาที่เหลือหก ป้าก้อมาดุ ว่าทำเลอะ หรือให้อาหารปลาบ่อยไป ก้อมาดุ เราก้อจะนิ่งๆ ขี้เกียจไปขัดต่อหน้าลูกให้เค้าสับสน เพราะเรามองว่า เด็กมีจิตใจอารีต่อสัตว์นั้นเป็นเรื่องดี แล้วลูกยังไม่เข้าใจหรอกว่า 1 วัน มีเวลาเท่าไหร่ เค้าผ่านมาทีไร ก้ออยากให้ทุกที หลังๆมานี้ ทุกครั้งที่ลูกเดินผ่่นกล่องอาหารปลา ก้อจะชี้บอกว่า ให้ไม่ได้ ป้าดุ แต่เราจะบอกว่า ถ้าหนูไม่ทำหก ป้าก้อไม่ดุหรอกครับ แล้ว ตักให้เค้าให้ หรือวันนี้ ลูกเรา ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้ววางแรงเกิน ป้าก้อตั้งท่าจะดุอีกแล้ว พ่อเราเลยเบรคว่าเด็กเค้ากะน้ำหนักไม่ถูกหรอก ไม่ต้องดุหลาน เพราะปกติลูกเราจะไม่กระแทกของอยู่แล้ว เราว่าการที่จะเข้าใจพฤติกรรมของเด็กแต่ละคน ต้องอยู่กับเค้าเยอะๆ จะได้เข้าใจว่า การกระทำของเด็กที่คุณเห็นว่าไม่เหมาะ (เอาแบบเรื่องที่ไม่ชัด้จนนะ ไม่ใช่เคสขว้างของ หรือตีคนอื่นน่ะ) เค้าทำไปโดยตั้งใจหรือไม่ ไม่ใช่เห็นขัดตาครั้งเดียวแล้วก้อดุเลยแบบพี่สาวเราน่ะ หรือบางที ลูกผิดจริงๆ เช่นพยายามจะหยิบกรรไกรไปเล่น อันนี้ป้าก้อดุ อธิบายไปยืดยาว หลายประโยคมากๆ แต่เรามองว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องดุเพราะเด็กไม่รู้หรอกว่า กรรไกรมันอันตราย ผู้ใหญ่ควรอธิบายว่าของมันคม เล่นไม่ได้ เล่นแล้วเจ็บ สั้นๆได้ใจความมากกว่า แต่ก้อนะ ป้าเค้าก้อหวังดีแหละ แต่วิธีอาจจะไม่เหมาะกับการสื่อสารกับเด็ก จากคุณ : angelberry (angelberry) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 00:46:15

ความคิดเห็นที่ 22 ความเห็นส่วนตัวนะคะ เราว่าเจ้าของกระทู้คิดมากไปนิดค่ะ ส่วนเรื่องนอนแล้วเท้าชี้ใส่หน้าคนอื่น สำหรับเรารู้สึกเฉยๆค่ะ (ตัวเองอาจจะไม่มีมารยาทมั้งคะ) จากคุณ : Mononoke (Mononoke) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 02:30:15

ความคิดเห็นที่ 23 บางทีอาจต้องคุยกับน้องสะใภ้ไปเลยดีกว่าค่ะ ดูแล้วเหมือนสะสม ทีนี้เดี๋ยวมากๆเข้าจะกลายเป็นอคติไปนะคะ คุยกันเลยค่ะยังไงก็ครอบครัวเดียวกันแล้วยังต้องอยูกันไปอีกนาน จากคุณ : walnutkitten เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 03:53:39

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณคุณเทมปุระอีกครั้งค่ะ "การเลี้ยงดูไม่เหมือนกัน พูดให้ปากฉีกเค้าก็ไม่เข้าใจเราหรอกค่ะ" อันนี้สงสัยจะจริงค่ะ เพราะพูดอยู่เรื่อยๆ และก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเค้าอาจจะบ่นว่าเราอยู่ในใจ แต่เหมือนมันอดไม่ได้น่ะค่ะ สำหรับคุณ angelberry เราว่าเราไม่เหมือนพี่สาวคุณนะ :-) เราอ่านดูแล้วเราว่าพี่สาวคุณดุและเฮี้ยบกว่าเราน่ะ ส่วนใหญ่เราจะสอนมากกว่าแต่ถ้าดื้อจริงๆ จะกลายเป็นดุค่ะ สำหรับคุณ Mononoke และคุณ walnutkitten ที่มาช่วยแชร์ความเห็นก็ขอขอบคุณด้วยค่ะ จากคุณ : da เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 13:54:54 A:171.99.233.60 X: TicketID:330373