ความคิดเห็นที่ 1 ไล่ไปเถอะค่ะ คนประเภทนี้อย่าได้เกรงใจ ให้สามีจัดการ จากคุณ : กิสโม่ เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 22:59:43

ความคิดเห็นที่ 2 รีบๆ ให้ไปเลยค่ะแบบนี้  ฟังแล้วเหมือนจะนิสัยมือไวใจเร็วค่ะ อีกหน่อยเงินทองหาย จับมือใครดมไม่ได้ จะมองหน้ากันไม่ติดทั้งบ้าน เปล่าๆค่ะ  แบบนี้จะกล้าเก็บเงินเก็บของมีค่าไว้ในบ้านได้ยังไง แม้แต่คนในบ้านยังดูจะไว้ใจไม่ได้ จากคุณ : Pigie เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 23:28:28

ความคิดเห็นที่ 3 อย่างนี้อยู่ด้วยกันไม่ได้ค่ะ ไม่มีมารยาทเลยอ่ะ ให้เขารีบไปเถอะค่ะ อึดอัดแทน จากคุณ : AYOI เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 23:28:37

ความคิดเห็นที่ 4 คุณไม่ผิดหรอกค่ะ น้องสาวสามีเยอะเกินไปอ่ะ จากคุณ : Wollongong เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 23:34:21

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่าเราไม่ได้โหดเกินไป ลืมบอกค่ะว่าน้องสาวสามีเป็นฝรั่ง เลยทำให้เราแอบคิดว่าหรือว่าฝรั่งเค้าเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาหรือเปล่า แต่สามีบอกว่าไม่ใช่หรอกมันขึ้นอยู่กับตัวบุคคล นึกขึ้นได้ตอนน้องมาอยู่อาทิตย์แรก โทรศัพท์สามีหายด้วยค่ะ พอดีเรากับสามีออกไปธุระ สามีเอาโทรศัพท์ไว้ที่บ้านเพราะไม่อยากเอาไปด้วย กลับมาหายคะ ตอนแรกโทรติด พอโทรสักพักปิดเครื่อง เราเลยงงว่าหายได้ยังไง อยูในบ้านแท้ๆ ถามน้องว่าพาใครมาหรือเปล่าตอนเราไม่อยู่บ้านน้องบอกเปล่า แต่วันนั้นที่เราไม่อยู่บ้านน้องอยู่บ้านทั้งวัน สามีกับเราก็ไม่อยากพูดไรมากเพราะไม่มีหลักฐาน แต่มันทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่ามันหายไปไหนแล้วบวกกับพฤติกรรมของน้องด้วยยิ่งน่าสงสัย แต่อีกใจก็คิดว่าเค้าคงไม่กล้าหรอกมั้ง แต่สามีเคยเล่าให้ฟังว่าน้องเคยโดนตำรวจจับสมัยวัยรุ่นเพราะขโมยของในร้านสะดวกซื้อ สามีชอบให้เราเก็บของมีค่าไว้ในที่ลับตา เพราะก่อนน้องมาอยู่บางที่เราก็ถอดแหวนวางไว้บนชั้น วางเงินไม่มั้งเพราะเราคิดว่าเป็นบ้านเราเองอยู่กันพ่อแม่ลูกใครจะมาเอา ตอนนี้เลยต้องล็อคห้องเลยค่ะเพื่อตัดปัญหา จากคุณ : แม่น้องEther&Ariel เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 23:40:59

ความคิดเห็นที่ 6 ออกตอนนี้ดีกว่ามีเรื่องมากกว่านี้ จะมองหน้ากันไม่ติด บ้านของตัวเองแท้ๆ ยังจะเป็นคนผิดอีก ของหายด้วย ไม่ไหวจะเคลียร์ . จากคุณ : moonface เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 23:52:37

ความคิดเห็นที่ 7 พี่สาวเขาจะทำบ้านใหม่จริง ๆ หรือไล่ไม่ได้เลยหาเรี่องทำบ้าน พี่ตัวเองยังรับนิสัยไม่ได้เลย อะไรกับเรา ลองหาข้ออ้างน่ารัก ๆ แบบพี่สามีคุณนะ จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 23:52:57

ความคิดเห็นที่ 8 อยากบอกว่าเปนเหมือนกันพอบอกสามี กลับบอกเราว่าเราเก็บของไม่ดีเองน้องเขาเลยเอาไปได้เอาไปแม้กระทั่งชุดชั้นใน ล่าสุดเอาเสื้อผ้าเราไปพอถามกลับบอกว่าเห็นแต่หาไม่เจอ สามีได้แต่ขอโทษแทนเฮ้อออออออออ จากคุณ : jo_oy เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 55 23:54:47

ความคิดเห็นที่ 9 คิดเหมือนคุณมนชิจังเลยค่ะ เพราะน้องออกมาจากบ้านพี่สาวได้สักพักแล้ว บ้านพี่สาวก็ยังอยู่เหมือนเดิมเลย ไม่เห็นทำอะไรใหม่ เวลาเราบ่นกับสามี สามีก็จะทำหน้าเศร้าๆ เพราะเค้ารักน้องมากค่ะ เป็นห่วงน้องกลัวน้องจะเสียคน เราก็อดสงสารไม่สามีไม่ได้ เลยพยายามอดทนเอาแต่มันชักเริ่มไม่ไหวคะ สามีก็เริ่มเห็นด้วยเพราะพูดหลายครั้งแต่ก็ไม่มีการปรับปรุงตัว จากคุณ : แม่น้องEther&Ariel เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 00:01:26

ความคิดเห็นที่ 10 ไล่ไปเถอะค่ะ  อ่านแล้วเพลีย เราเอง เดี๋ยวต้องคอยล็อคห้อง  แต่ของเราเนี่ย พี่สะใภ้อยู่บ้านเดียวกัน  แยกไม่ได้ เมื่อก่อนอยู่กันแค่ เรา พ่อ-แม่สามี พี่ชายแฟน  ไม่เคยมีอะไร หลังๆ เงินหาย  ห้องมีคนเข้ามา  ตู้ถูกรื้อ คือจับมือใครดมไม่ได้  แต่ว่า เมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามา แล้วเป็นแบบนี้ ก็ต้องคิดใช่ไหมค่ะ เวลาจะไปนอกบ้าน  ต้องคอยดูว่าล็อคห้องหรือยัง  ยังดีว่าเดี๋ยวนี้เค้าออกไปทำงานนอกบ้าน กลางวันเลยสบายหน่อยค่ะ จากคุณ : แค่คนๆหนึ่ง เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 00:05:50

ความคิดเห็นที่ 11 โห อ่านแล้วปรี๊ดแทนมากๆค่ะ เค้าเป็นโรคจิตประเภทหนึ่งป่าวคะเนี่ย ได้ใช้ของคนอื่นโดยไม่ขอแล้วมีความสุข โอ๊ย อ่านแล้วประสาทกิน สู้ๆนะคะ รีบๆให้ออกไปเลยค่ะ จากคุณ : I really have no idea เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 02:14:58

ความคิดเห็นที่ 12 ฝรั่งนี่เค้ายิ่งถือเรื่องการหยิบของของคนอื่นมาใช้นะคะ ขนาดเราไปบ้าน in-law เรา ก่อนเปิดตู้เย็นเรายังขอเค้าก่อนเลย เวลาเค้ามาบ้านเราก็เหมือนกัน จะไม่เดินไปเดินมาหยิบของคนอื่นมาใช้โดนไม่ขออนุญาตก่อน สามีคุณรักน้องก็ต้องใจแข็งแล้วบอกเค้าไปเลยว่าถ้าเป็นอย่างนี้ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ไม่งั้นน้องเค้าก็จะเป็นอย่างนี้ไปอีกนาน จากคุณ : junnn เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 02:18:29

ความคิดเห็นที่ 13 เพิ่งโทรคุยกับพี่สาวสามี อยากให้เค้าช่วยพูดกับน้องให้หน่อยเพื่อจะพูดกันรู้เรื่องมากกว่าแบบภาษาพี่น้อง แต่พี่สาวกลับมาอกเราว่าต้องเขาใจนะว่าน้องไม่มีงานทำ ไม่มีเงินซื้ออาหารเค้าก็ต้องกินอาหารเราอยู่แล้ว แอบว่าประมาณว่าทำไมเราใจร้ายจัง เรื่องแค่หยิบอาหารไม่บอกทำไมต้องโกรธถึงขั้นให้อยู่ด้วยไม่ได้ ปรี๊ดหนักกว่าเดิมกะว่าจะให้ช่วย โทรไปให้เค้าด่าซะงั้น เมื่อวันก่อนเราก็บอกสามีให้คุยกับพ่อให้หน่อย พอสามีกลับมาเราถามเป็นไงมั้ง พ่อพูดไรมั้ง เค้าก็ไม่ค่อยกล้าบอกเราเท่าไหร่แต่เราก็บังคับให้บอกเพราะเราอยากรู้ เค้าบอกว่าพ่อบอกว่ามันบาปนะถ้าคนเค้าหิวแต่เราไม่ให้เค้ากินอ่ะ เรางงเลยค่ะ เราบอกตั้งแต่แรกแล้วว่ากินได้ไม่ได้งก เราคงไม่ปล่อยให้หิวตายหรอกค่ะ แต่จุดประสงค์คือกรุณาบอกก่อนไม่ใช่อยากหยิบก็หยิบ มันแค่เป็นเรื่องง่ายๆ ที่เราขอให้เค้าทำซึ่งจริง ๆ แล้วเรื่องมารยาทแบบนี้มันน่าจะมีอยู่แล้วอายุ 23  กว่าไม่เด็กแล้วนะคะขนาดน้องคนเล็กของสามีมาเล่นที่บ้านเราอายุ 12 เวลาเค้าจะกินน้ำหรือขนมเค้ายังขอเราทุกครั้งแล้วเราก็ไม่เคยไม่ให้นะคะ สรุปทั้งครอบครัวสามีตอนนี้คงเห็นเราเป็นนางมารร้ายไปแล้ว แต่น้องสาวทุกคนกลับมองว่าน่าสงสาร มีก็แต่สามีที่เข้าใจเราอยู่ข้างเราตลอดเซ็งจริง ๆค่ะ จากคุณ : แม่น้องEther&Ariel เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 02:30:06

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องอาหารเราคงไม่โมโหค่ะ แต่เรื่องมาเอาของส่วนตัวเราไปใช้เนี่ยรับไม่ได้ จากคุณ : หัวแห้ว เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 03:34:10

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องอาหารนี่อาจจะซื้อเผื่อเค้าด้วยเลยค่ะ ถามเค้าว่าอยากกินอะไรเป็นพิเศษ หรือถ้าจะซื้ออะไรเข้าบ้านก็ซื้อเยอะหน่อย จากคุณ : Mimi LovePeace เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 03:49:39

ความคิดเห็นที่ 16 อยากซื้ออาหารเพื่ออยู่ค่ะ แต่ตอนนี้สถานการณ์การเงินไม่เอื้ออำนวยค่ะ เพราะสามีไม่สบายต้องออกจากงานที่เก่า ตอนนี้ทำงานที่ใหม่ แต่รายได้ลดไปเกือบครึ่ง แต่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม แถมเพิ่มขึ้นด้วยเพราะน้องมาอยู่ด้วย เราเลยช่วยเท่าที่ช่วยได้ค่ะ แต่ถ้าให้ช่วยถึงต้องซื้ออาหาร มาให้คงไม่ไหวอ่ะคะเพราะตอนนี้ทำอะไรต้องประหยัดสามีทำงานคนเดียวมาตลอด ตอนนี้เราต้องออกไปช่วยทำงานตอนเย็นเพื่อจะพอกับค่าใช้จ่าย จากคุณ : แม่น้องEther&Ariel เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 05:03:05

ความคิดเห็นที่ 17 คิดว่าคุณเป็นคุณแม่ที่มีลูก 2 คนแล้วนะคะ (เดาจากชื่อ login) และสามีคุณก็ต้องออกจากงานเก่าและงานใหม่ก็ทำให้รายได้ลดลงไปเกือบครึ่ง คุณเองยังต้องออกมาทำงานพิเศษ เพื่อให้มีรายได้อีกทาง ก็แสดงว่า คุณไม่ได้มีเงินเหลือเผื่อน้องสาวของสามีคุณเลยค่ะ ขอแนะนำแบบเพื่อน พี่สาวนะคะ ว่า เราคงต้องคุยกันตรงๆกับสามีถึง สถานะทางการเงินของครอบครัวเราแล้วค่ะ และ ถ้าจะให้ช่วยเหลือน้องสาวแบบ ให้จ่ายค่าอาหารให้ นอกจากอยู่ฟรีแล้ว จะกระทบอะไรกับครอบครัวเราโดยตรงบ้าง ตกลงกันถึง สิ่งที่เราจะเต็มใจช่วย และ ระยะเวลาที่จะช่วยด้วยค่ะ ขอแนะนำว่า ให้มีกำหนด ว่าจะช่วยได้ถึงเมื่อไหร่ และถ้าถึงกำหนดแล้วน้องสาวก็ต้องออกไปค่ะ พ่อกับแม่ กับพี่ๆคนอื่นๆ ดูแล้วเหมือนจะให้ท้ายน้องสาวคนนี้ เราก็ต้องนึกถึงครอบครัวเราเองก่อนด้วยนะคะ ค่าใช้จ่ายของที่บ้านเรา ของสามีและลูก แค่ให้อยู่ฟรีๆนี้ก็ ถือ ว่า ให้ความช่วยเหลือเยอะมากๆแล้วนะคะ ในสังคมต่างประเทศ จะให้จ่ายค่าอาหารด้วยนี้ ถือ ว่า ขอไปมากๆเลยค่ะ คุยกันกับสามีแล้ว ก็คงต้องคุยกับพ่อกับแม่ของสามีด้วยค่ะ ถ้าเขาบอกว่า ต้องให้อาหารคนหิว เราก็ให้ได้ แต่ไม่ทุกมื้อ เพราะเราก็ยังรับผิดชอบชีวิตเราเอง ชีวิตของลูกๆครอบครัวเรา น้องสาวนี้อายุ ไม่น้อยแล้วนะคะ ถ้าคนอื่นๆในครอบครัวบอกว่า เราใจร้าย เราก็ต้องอธิบายถึงสถานะทางการเงินของครอบครัวเรา ให้เขาเข้าใจ ว่า เราจะมาเลี้ยงน้องสาวเขา เลี้ยงลูกสาวเขา อายุ 23-24 ปีไม่ได้แล้วค่ะ ถ้าอย่างงี้ ก็ให้ลูกสาวเขากลับไปอยู่กับพ่อกับแม่เขาเองซิค่ะ ไม่ใช่เรื่องที่คุณกับสามี ต้องมารับผิดชอบเรื่องของเธอ ปล คุณต้องให้สามีคน สนับสนุนคุณด้วยนะคะ และสามีคุณต้อง ยอมรับว่า น้องสาวเป็นภาระด้วยค่ะ จะฝรั่ง จะไทย กาละเทศะ กับ มารยาท ก็เหมือนกันแหละค่ะ คนที่จะ เกรงใจ คนอื่นก็ไม่ทำแบบนี้หรอกค่ะ consideration, respect & courtesy ไม่มีในพจนานุกรม ของน้องสาว สามีคนเลยค่ะ เสียใจด้วยนะคะ ที่ต้องมาเจอกับ คนประเภทนี้ค่ะ ไร้ความรับผิดชอบ ไม่งั้น จากคุณ : thaiivy เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 05:37:22

ความคิดเห็นที่ 18 น้องเค้าดูประหลาดนะคะ โตแล้วทำไมไม่ทำงาน งานอะไรก็ได้ที่สุจริตก็ต้องทำอ่ะ จะมาให้คนอื่นเลี้ยงแบบนี้ได้ไง จากคุณ : Bingster เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 07:04:35

ความคิดเห็นที่ 19 เฮ้อ ไม่รู้พ่อแม่เคยสั่งสอนบ้างหรือเปล่า จากคุณ : fornatcha เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 08:34:49

ความคิดเห็นที่ 20 แปลกค่ะเท่าที่เจอมาฝรั่งส่วนใหญ่ถือเรื่องนี้มากกว่าคนไทยเสียอีก บ้านเพื่อนเราเมืองนอกเขาแปะชื่อกันบนกล่องนมกล่องอาหารเลย ด้วยซ้ำ เราเจอยังอะไรจะขนาดนี้ฟระแต่เขาไม่ได้หวง คือถ้าจะเอาอะไร ก็บอกก่อนเป็นมารยาทมากกว่านะ จากคุณ : oclock12 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 09:05:47

ความคิดเห็นที่ 21 โชคดีที่หนูยังกีดกันว่าที่พี่สะใภ้ไม่ให้แต่งงานเข้าบ้านได้อยู่ ไม่อย่างนั้นคงอึดอัดตาย จากคุณ : นู๋บอมน้อย เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 09:10:46

ความคิดเห็นที่ 22 ครอบครัวสามีคุณเค้าไม่เข้าใจสถานการณ์การเงินของบ้านคุณรึเปล่าคะ เพราะตอนมาอยู่แม้ปากจะบอกว่าจะดูแลตัวเอง แต่จริงๆคงจะมาอยู่แบบเหมือนอยู่บ้านตัวเอง ครอบครัวสามีคุณก็คงคิดว่าแค่ซื้ออาหารเพิ่มนิดหน่อยจะลำบากอะไร จากคุณ : pencilcase เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 10:13:58

ความคิดเห็นที่ 23 ฝรั่งยิ่งถือค่ะ ยิ่งไม่ให้มาอยู่บ้านกันนานด้วย เเยกครอบครัวกันเด็ดขาดเลยล่ะค่ะ   บิ่งของส่วนตัว ยิ่งถือค่ะ จากคุณ : doong เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 10:32:18

ความคิดเห็นที่ 24 ฝรั่ง สิคะยิ่งถือเรื่องส่วนตัว พี่สาวสามี จะมาเยี่ยมลูกชายเรายังโทรบอกล่วงหน้าเลยว่ามาได้เปล่า จากคุณ : pallavi เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 11:05:56

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ อย่างน้อยก็มีคนเค้าใจเรา:) สรุปว่าน้องสาวจะย้ายไปอยู่บ้านพ่อวันอาทิตย์แล้วค่ะโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก จากคุณ : แม่น้องEther&Ariel เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 11:17:45

ความคิดเห็นที่ 26 โล่งใจด้วยอีกคนค่ะ...เข้าใจหัวอกเจ้าของบ้านเลยค่ะ การเอาญาติมาอยู่นี่...ลำบากนะคะ  ยังไงก็เลี้ยงดูกันมาไม่เหมือนกัน  มีปัญหากันอยู่แล้ว  ปสก ตรงสามสี่ครั้งค่ะ   หนักสุดก็หลานสามีมาอยู่บ้านเดิมเรา อันนั้นทุกข์ที่สุดค่ะ  เพราะพ่อแม่ (พี่ชายพี่สะใภ้) เค้าดีกับเรามาก  แต่พูดตรงๆ ว่าสอนลูกมาไม่ได้เรื่อง หรือลูกเค้าสอนไม่ฟังไม่รู้  บ้านเราเน่าสนิทค่ะ  หม้อไหอะไรที่เราล้างเก็บก็ควักมาใช้แต่ไม่ล้าง เน่าคาหม้อคาจาน จานไม่ล้าง ขวดเบียร์กระจาย  ขี้บุหรี่เต็มบ้าน  เอาหนังสือเราที่รอขนย้ายมาอ่าน ค่าเช่าไม่เอาไม่พอ  ค่าน้ำค่าไฟก็ไม่จ่าย  เอาแฟนมาอยู่ด้วยอีก...บอกจะย้ายออกแต่ก็ไม่ไปซะที (ทีแรกพี่สะใภ้พูดเหมือนจะซื้อ  ตอนหลังบอกกู้ก็คงไม่ผ่าน ? ส่วนลูกบอกว่าราคาขนาดนี้ไปซื้อบ้านเดี่ยวดีกว่า...แพงอย่างงั้น ไม่ดีอย่างงี้...แล้วอยู่เพื่อ??) สุดท้ายใช้มุกเดียวกันว่าจะทำสีบ้าน  ให้เก็บของออกด่วน ช่างจะเข้า  พร้อมยกโต๊ะตู้ที่เหลือในบ้านให้  ยังมาบ่นว่าไม่มีที่อยู่ ต้องไปอาศัยบ้านเช่าของเพื่อนเพราะห้องที่ว่าจะไปอยู่น่ะคนอื่นเสียบไปแล้ว (ตกลงถ้าไม่ไล่กะอยู่ไปเรื่อยๆ??)   พอออกไปได้....บอกตรงๆ ว่าโล่งมว๊ากกกกกกกก  (แม้จะเสียค่าทำสีอีกหลายตังค์ก็ตาม) จากคุณ : แม่นาล่าจัง เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 11:41:28

ความคิดเห็นที่ 27 มีเพื่อนแบบน้องสาวสามีเจ้าของกระทู้ค่ะ เท่าที่รู้จักกันมาก็เป็นแบบนี้มาตลอดเลยค่ะ (ลูกครึ่งนะคะ) คือ เค้าจะเป็นคนไม่เกรงใจใครค่ะ เวลาเพื่อนๆนัดเจอกันที่บ้านของเพื่อนคนใดคนนึง เราจะหาอาหารเข้าไปทานกันคนละอย่างสองอย่าง ก็โทรเช็คๆ กันไปค่ะว่าใครจะเอาอะไรไปบ้าง แต่เพื่อนคนนี้ไม่ยอมเอาอะไรไปเลยค่ะ มาแต่ตัวล้วนๆ แล้วพอมาทานของคนอื่นก็มีวิจารณ์ของคนอื่นด้วย ว่าซื้อมาไม่อร่อยบ้าง น้อยเกินไปบ้าง ล่าสุดเด็ดจริงๆ เพื่อนคนนึงในกลุ่ม ซื้อขนมมาจสกต่างประเทศก็ติดมือมาให้ด้วย ทุกคนก็กินกันคุยกันไป พอคนนี้มาแทบวงแตก เพราะเค้าถามขึ้นมาว่า นี่ไปทำอะไรให้เพื่อนๆในกลุ่มไม่พอใจหรอ ถึงต้องซื้อของดีดีมาเอาใจขนาดนี้ ปกติไม่เห็นจะซื้อของดีดีมาให้กิน เรียกว่าคนซื้อมางง ไปเลยค่ะ พฤติกรรมอีกอย่างคือ ชอบค้นกระเป๋าเพื่อนค่ะ แบบว่าวางกองๆ รวมกันไว้ มาถึงใบไหนใกล้มือรื้อเลยค่ะ แล้วถ้าในกระเป๋าใบนั้นมีอะไรใหม่ๆ จะหยิบมาถามราคาเลย นิสัยน่ารังเกียจมาก ตอนหลังนัดเจอกันไม่บอกเค้าเลยค่ะรับนิสัยไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าที่เมืองนอกเค้าเป็นแบบนี้กัน หรือพ่อแม่ไม่สั่งสอน นิสัยเหลือขอมาก อีกอย่างชอบดูถูกเพื่อนที่ทำงานบริษัทค่ะ (ตัวเค้าทำงานส่วนตัว) บอกว่าเป็น( ^o^ )คนอื่นค่ะ พวกเพื่อนๆ เราไม่มีใครพูดกับเค้าตรงๆหรอกนะคะ แต่เราบอยคอตเอาค่ะ จากคุณ : Sonia เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 13:21:11 A:27.130.162.97 X: TicketID:368151

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องอาหารยังพอทน แต่เรื่องเอาของส่วนตัวไปใช้นี่สิ เกลียดมาก ไม่ชอบ จากคุณ : นุช เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 14:31:07 A:58.9.195.12 X: TicketID:375222

ความคิดเห็นที่ 29 เรื่องอาหารนี้ รับได้น่ะเค้ามาอยู่ด้วยแสดงว่าต้องการที่พึ่ง..หยิบกินบ้างถ้าเป็นเราไม่ถือเพราะเรื่องกินเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ของใช้ส่วนตัวกับค้นของนี้รับไม่ได้ เพราะคนเราควรเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน ถ้า จขท.ทนไม่ได้ควรยื่นคำขาดไปเลยว่าต้องไม่เกิดขึ้นอีก จากคุณ : เขียนบน iPhone (ไวน์ขาวองุ่นเขียว) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 17:28:25

ความคิดเห็นที่ 30 เราเคยมีรูมเมทคล้ายๆ น้องสาวสามีจขกท. วันแรกที่เค้าย้ายเข้ามาเราบอกเค้าว่า ของในตู้เย็น หยิบกินได้เลย ปกติเรากับรูมเมทอีกคน (อยู่สามคน) จะผลัดกันซื้อของกินเข้ามา นม ขนมปัง น้ำ มีติดตู้เย็นตลอด ปัญหามันมีอยู่ตรงที่ว่า เค้ามากินของเราสองคนตลอด แต่ไม่เคยซื้อมาเติมเลย นานๆ เข้าเราก็เซ็งอ่ะ ทั้งๆ ที่เค้าก็ไม่ได้จนเลยนะ ฐานะทางบ้านดีกว่าเราซะด้วยซ้ำ ของกินแค่นี้ซื้อได้ แต่มันรู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบตลอดเวลา แล้วก็มีเรื่องของหาย จับมือใครดมก็ไม่ได้ รุนแรงถึงขั้นสร้อยทองหาย จะไล่เค้าออกไปก็ไม่ได้ เพราะถ้าไล่ก็คือว่าความเป็นเพื่อนจบกัน ก็ได้แต่เก็บไว้ในใจ อึดอัดมากๆ เลยค่ะ นี่ยังแค่เพื่อนนะ ถ้าถึงกับญาติสามีเราคงอกแตกตาย ดีใจด้วยนะคะที่น้องจะย้ายออกไปแล้ว อย่าให้ถึงกับมองหน้ากันไม่ติดเลยนะ จากคุณ : mkjap เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 55 20:33:15

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดีค่ะ เราก็มีปัญหาเกี่ยวกับน้องสามีเหมือนกันค่ะ ขอเล่าท้าวความก่อนนะค่ะ น้องสาวแฟนคนนี้เคยมีสามีมาแล้วไม่ต่ำำกว่า 3 คนแล้วล่ะค่ะ อันนี้แค่เรานับตั้งแต่ที่เราคบกับสามีเรามา 6 ปีนะค่ะ นิสัยปากจัด ขี้อิจฉาในความรักของฉันและสามีค่ะ ที่รู้ว่าอิจฉาก็เพราะ เวลาไปไหนด้วยกัน 3 คน มีเรา แฟนเราและน้องสามี เวลาเราเดินจูงมือกับสามีนะค่ะ น้องสาวคนนี้เป็นต้องมาแทรกระหว่างกันเสมอๆ และทำแบบนี้ทุกครั้งเวลาไปไหนด้วยกันค่ะ และชอบเยาะเย้ยเราเช่น เราซื้อของแพงไป เมื่อไปเจออีกร้านที่ถูกกว่า มันจะพูดเยาะเย้ยตลอดและบ่อย ขอเล่าเลยนะค่ะ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราได้โพสเกี่ยวกับเรื่องราวของเราและสามีลงเฟสบุ๊คค่ะ น้องสาวแฟนเรามันเม้นต่อเราเลยว่า แหวะ อีกสักพักมันก็เม้นอีกว่าเรา แหล ค่ะ ไอ่เราก็ทนไม่ได้แล้วค่ะ เลยโทรไปหานังน้องสาวแฟนเลยค่ะ ว่าก่อนที่จะว่าคนอื่นนะ มองดูตัวเองแล้วหรอว่าดีกว่าตรงไหน มันก็ด่าว่าเรา เสียหายต่างๆนาๆ มันบอกว่ามันเสียดายที่มันได้ไปงานแต่งของเราค่ะ ไอ่เราก็โต้ไปว่า เราไม่ได้ขอไม่ได้เชิญให้มันไปงานแต่งเราสักหน่อย อีกอย่างถ้ามันไม่ไป งานแต่งงานก็มีอยู่ดี แต่ไอ้ที่เจ็บใจที่สุดเลย มันจึ๊ดดสุดๆ มันด่าว่าถึงบุพการีเราน่ะว่า ...แหล มันด่าทั้งตระกูลเราเลยค่ะ ตรงนี้แหละมันจี๊ดมาก ไอ้เราก็อยากตอบโ้ต้ถึง บุพการีและตระกูลมันเช่นกันค่ะ แต่เรา ว่าไม่ได้ค่ะ เพราะว่าทางพ่อแม่เค้าดีหมดค่ะ ตอนนี้เรารู้สึกทนไม่ไหวกับน้องสามีมากๆ เราก็อยากให้สามี ติเตียน สอนน้องแกหน่อย ไอ้เราก็สงสารสามีเหมือนกันนะค่ะ ก็ไม่อยากจะพูดไปซ้ำเติมสามี แต่มันก็คาใจอ่ะ เราอยากให้เพื่อนๆช่วยแนะนำคำพูดว่า เราจะบอกกับสามีในลักษณะไหนดีค่ะ ที่จะให้สามีเราได้โทรไปว่ากล่าวสั่งสอนติเตียนน้องสาวแกน่ะค่ะ จากคุณ : .... เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 55 12:58:38 A:118.172.253.123 X: TicketID:379222