ความคิดเห็นที่ 1 จะรู้ได้ยังไงว่า แม่กับพี่จะเลี้ยงหลานอย่างจริงที่พูด  น่าน้อยใจแทนคะ จากคุณ : คาร่าลิลลี่ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 07:27:44

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วตกลง บ้านที่คุณซื้อเป็นชื่อสามีคนเดียวรึป่าวคะ? ทีหลังตอบทางบ้านไปนะคะ ว่าไม่ได้หรอก เพราะเงินหนูซื้อ จะใส่ชื่อสามีได้ไง หนูกินข้าวไม่ได้กินหญ้านะคะ!! (อ่านแล้วปรี๊ดแทนจขกทค่ะ) ส่วนเงินประกันที่คุณจะทำ คุณจขกททำงานมีรายได้เองรึป่าวคะ? ถ้าใช่ ทำไปเลยค่ะ อย่าได้แคร์ ทำไมทีสามีทำไม่มาปรึกษา แต่พอเราจะทำ ทำไมต้องขออนุญาตด้้วย? ไม่แฟร์นี่นา แต่ถ้าเป็นแม่บ้าน ไม่มีรายได้ ก็เก็บเงินเอาค่ะ จากที่เค้าให้ใช้ส่วนตัวนั่นแหล่ะ ถึงเวลาก็ทำ ไม่ต้องไปบอกเค้าค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (แอร์เก๋า) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 07:36:22

ความคิดเห็นที่ 3 อ่านแล้วปรี๊ดแตก... ถ้าเกิดสามีคุณตายแล้วพี่สาวไม่มาเลี้ยงหลานอย่างที่พูดล่ะ คุณก็เหลือแต่ชีวิตกับลมหายใจละซิ.....มันน่าโมโหมั้ยล่ะ ในบางเรื่องไม่ต้องบอกสามีหมดก็ได้ ถ้าเรามีงานทำของเราเองก็แอบทำไปไม่ต้องบอก บางครั้งสามีไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องหรอก เดี๋ยวทะเลาะกัน เมื่อแฟนเราเริ่มมีกิ๊ก เราเปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์ทั้งหมดเป็นพี่สาวเรา เพราะถ้าเราเป็นอะไรไป แฟนเราคงผลาญเงินประกันเราหมด เพราะเขาใช้เงินเก่ง แต่เราแน่ใจว่าพี่สาวเรา เขี้ยวพอที่จะดูแลหลานจนเรียนจบได้ ทุกวันนี้แฟนเรายังไม่รู้เลย  ถ้าทำตัวดี ๆ ก็อยู่ด้วยกันไปจนตายนั่นแหละ ถ้าไม่ก็ไปแต่ตัวแล้วกัน เราเลี้ยงลูกเอง จากคุณ : Flying frog เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 08:07:21

ความคิดเห็นที่ 4 เราอ่านแล้วก็ปี๊ดค่ะ อึ้ง พูดไม่ออก จากคุณ : พี่โซนิค กะ น้องซีเนม เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 08:09:47

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นเราคงจะขอบคุณสามีที่แสนหวังดีเกินเหตุ และบอกว่าถึงคุณจะตายเราก็ไม่ยกลุกให้ใครเลี้ยง เพราะเค้าเป็นลุกเรา ถึงไม่มีเงินผลประโยชน์เราก็เลี้ยงเองได้ และถ้าเราจะมีสามีใหม่เค้าจะต้องรักเราและลูกเรามากกว่าคุณที่รักแต่ปากค่ะ เพราะเราก็คงเข็ดกับผู้ชายเห็นแก่ตัวแบบนี้ ปล. ไม่ทราบว่าสามีโดนแม่กับพี่เป่าหูมารึปล่าวคะเนี่ย จากคุณ : Z-Cube เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 08:23:53

ความคิดเห็นที่ 6 พี่สามีคุณมาแปลก ๆ นะคะ เหมือนกำลังแทรกแซงทางการเงินในครอบครัวคุณยังไงไม่รู้ ต้องคุยนะคะ อย่ายอม ไม่งั้นในอนาคตมีปัญหาแน่ ๆ เรื่องซื้อบ้านห้ามใส่ชื่อพี่สาวเด็ดขาด มันเ็ป็นทรัพย์สินของครอบครัวคุณ ยกเว้น เค้าเป็นคนหาเงินเข้าบ้านคนเดียว คุณอาจต้องอยู่ในสภาวะจำยอม จากคุณ : แม่โอ๋เรนเจอร์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 08:31:35

ความคิดเห็นที่ 7 สามีคุณไม่น่าทำอย่างนี้ ชื่อผู้รับผลประโยชน์ควรจะเป็นชื่อของภรรยานะคะ(หรือภรรยา+แม่เขาก็ได้) เราเป็นแม่ของลูกนะคะ  เราสมควรที่จะดูแลลูกของเรากว่าใครๆทั้งนั้น  ใครจะเลี้ยงดูฟูมฟักลูกได้ดีเท่ากับคนเป็นแม่เล่า? (เฮ้อออ...) ของพี่สาวเรา...สามีเขาทำประกันโดยใส่ชื่อผู้รับผลประโยชน์เป็นชื่อพี่สาวเราคนเดียว ทั้งๆที่เขาก็ยังไม่มีลูกด้วยกันเลย    ปวดใจจังกับความคิดของสามีคุณและครอบครัวเขา จากคุณ : Rosieroong เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 08:34:20

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วทำไมถึงยอม จากคุณ : ไม่เข้าใจ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 08:44:34 A:124.122.224.41 X: TicketID:323097

ความคิดเห็นที่ 9 สามีคุณเป็นลูกแหง่มาก่อนรึเปล่าคะ แบบว่าโตมาเพราะแม่กับพี่สาวเลี้ยง   ไม่ก็แม่ทำงานหาเลี้ยงคนเดียวส่วนตัวเองได้พี่สาวเลี้ยงเวลาอยู่บ้านเลยติดพี่สาวมาก เพราะถ้าไม่งั้นอย่างน้อยแต่งงานออกมาแล้วก็ควรจะคิดถึงภรรยามากกว่าพี่สาว ต่อให้พี่สาวอยากแทรกแซง   แต่ถ้าสามีคุณปฏิเสธ   เขาก็ทำอะไรไม่ได้ บอกตามตรงตรรกะสามีคุณแปลกมากเลยค่ะ มีอย่างที่ไหนถ้าเขาเป็นอะไรหรือมีการหย่าร้างคุณจะได้ไปมีสามีใหม่ ส่วนลูกก็ให้พี่สาวเลี้ยง    งงจริงๆ นะเนี่ย จากคุณ : blacksatinrose เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 08:46:41

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านแล้วปรี๊ดค่ะ เป็นเราจะถามแบบแรงๆ กลับไปเลยว่า "แล้วฉันล่ะ ถ้าเกิดคุณตายตอนฉันอายุ 40 จะหาผัวใหม่ได้เหรอ อยู่ด้วยกันทุกวันนี้มันไม่มีความหมายเลยเหรอ ฉันเป็นเมียเป็นแม่ของลูกนะ ลูกของฉัน ฉันเลี้ยงเองได้ ที่บอกจะให้พี่สาวเลี้ยงลูกให้นะ คิดดีแล้วเหรอ เขามีผัวมีลูกเขาใส่ชื่อเธอในประกันด้วยรึเปล่า น้อยใจนะเนี้ย "...เฮ้อ!! เซ็งเหมือนกันนะเนี้ย จากคุณ : NatM08 เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 09:34:54

ความคิดเห็นที่ 11 ออนแนวหวงสมบัติมากกว่าห่วงใยคุณและลูกนะ จากคุณ : รัศมีแห่งพระอาทิตย์ที่น่ารัก เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 10:32:10

ความคิดเห็นที่ 12 เดาว่าจขกทเป็นแม่บ้านแล้วสามีทำงานอยู่คนเดียวหรือเปล่า ถึงตกยู่ในภาวะจำยอม แต่คงต้องพูดกันให้เข้าใจว่าการที่คุณออกจากงานมาเลี้ยงลูกก็เพื่อครอบครัว(ถ้าเป็นการที่สามีร้องขอให้ออกอ่ะนะ) และคุณแต่งงานกับเค้าแล้วทุกอย่างมันต้องครึ่งๆ ไม่ได้แต่งกับที่บ้านเค้า จะได้มาหารกันทั้งครอบครัว  ถ้าสามีคุณเป็นอะไร ลูกก็ต้องอยู่กับแม่สิ ส่วนเรื่องประกัน เป็นเราคงไม่ยอม จะใช้เหตุผลเดียวกันกับเค้าค่ะ มั่นใจเหลือเกินนะว่าตัวเองจะตายก่อน ฟังแล้วเซ็งแทน จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 10:39:33

ความคิดเห็นที่ 13 เอาผัวผิด ไม่นานก็มีอยู่ราย ทำประกันใส่ชื่อแม่ เพราะคิดไปเองว่ายังไงเมียก็ต้องได้ก่อน โง่แบบสุดๆ รายนี้กลัวเมียจะได้เงินไปมีผัวใหม่ ก็โง่ดี ตายแล้วยังหวงเงิน จากคุณ : อย่าเอาผัวแค่หน้าตาดี แต่โง่ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 10:49:02 A:171.98.166.134 X: TicketID:253582

ความคิดเห็นที่ 14 บอกสามีคุณไปว่า... แล้วถ้าพี่สาวเธอแต่งงาน มีผัว มีลูกแล้ว เค้าจะมาช่วยเลี้ยงลูกเธอเหรอ ลูกชั้น ต่อให้ชั้นแต่งงานใหม่ก็ยังเป็นลูกชั้น แต่กับพี่สาว เค้าแต่งงานไป  ลูกเราก็เป็นแค่หลานเค้า เค้าจะมาให้อะไรหลานเค้ามากกว่าลูกเหรอ เป็นเธอ เธอจะให้หลานมากกว่าลูกมั้ย ของแบบนี้ ให้ใช้สมองให้มากหน่อย แหม...อ่านแล้วปรี๊ด  เข้ามายุ่งอะไรกับครอบครัวคนอื่น จากคุณ : saturn_eyes เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 10:52:03

ความคิดเห็นที่ 15 ถามสามีสิคะว่า ถ้าพี่สาวมีลูกมีเต้าของตัวเอง เธอมั่นใจหรอว่า มันจะมาถึงลูกเธอ เปิดอกพูดตรง ๆ ไปเลย ถ้าเลือกจะทำแบบนี้ทางนี้ คุณไม่ต้องการ ไม่พอใจ อยากให้ทำอะไรแค่พ่อแม่ลูก คุณเค้าลูก ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำธุรกิจอะไร จากคุณ : ~amily~ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 10:56:12

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องของคุณขอไม่ออกความเห็น ขอบอกเฉพาะเรื่องของเรา บ้าน แม่สามีซิ้อให้ แฟนเราช่วยโปะไปแค่ไม่เท่าไรตอนโบนัสออกแค่ครั้งเดียว ที่เหลือแม่เค้าจัดการให้หมด บ้านเป็นชื่อของสามีคนเดียว เราไม่กล้าขอเอี่ยว แต่ก่อนจะทำการซื้อขายตอนนั้น สามีรีบไปจดทะเบียนสมรสกับเราไว้เรียบร้อยก่อน เหตุที่เกรงใจแม่ถ้าจะเอาชื่อเราไปเอี่ยว แต่ก็กลัวเราจะเสียใจ เพราะเราทิ้งหน้าที่การงานความก้าวหน้าออกมาอยู่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียว รายได้ไม่มีเป็นของตัวเองเลย เลยทำให้มันกลายเป็นสินสมรสแทน ประกัน สามีเราทำใส่ชื่อลูก ถ้าเป็นอะไรไป ถึงลูกยังเล็กสิทธิในการดูแลเงินก็เป็นของเราในฐานะแม่ เช่นกันกับประกันฉบับของเราก็ชื่อลูกเหมือนกัน เรื่องนี้พี่น้องหรือพ่อแม่ทั้งฝ่ายไม่เคยมายุ่งมารับรู้ มีแต่เราที่บอกแม่เราไว้ว่าทำอะไรๆไว้ให้ลูกบ้างเท่านั้น บ้านของเราทั้งสองฝ่าย มีแต่ให้ลูกให้หลาน พี่น้องไม่เคยมายุ่งเกี่ยวเพราะแยกครอบครัวออกมาแล้ว สามีเราค่อนข้างมีภาวะผู้นำสูง ในเมื่อออกมาเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว อำนาจตัดสินใจควรเป็นของตัวเอง ในขณะที่เค้าจะทำอะไรก็ต้องปรึกษากันสองคนกับเราเป็นหลัก ไม่เช่นนั้นเราคงไม่ค่อยพอใจ จากคุณ : shai339 เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 11:07:52

ความคิดเห็นที่ 17 ภาษิตจีนเค้าว่า พี่น้องเหมือนแขนขา ลูกเมียเหมือนเสื้่อผ้า เห็นใจค่ะ ถ้าเงินที่จะซื้อประกันชีวิตเป็นเงินของคุณก็ทำไปเลยสิคะ แต่ถ้าพูดไปแค่อยากให้เค้ารู้สึกบ้าง ก็อย่าไปเอาชนะกันเรื่องแบบนี้เลย จากคุณ : เต่าทองร้อง..ยี้ฮ่า!! เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 11:51:44

ความคิดเห็นที่ 18 ที่เราต้องยอม ก็เพราะเราเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกนี่แหละค่ะ แถมหยิ่งไม่เข้าท่าอีกต่างหาก เรื่องเงินๆทองๆ เราไม่อยากพูดเลยค่ะ ถ้ามันไม่เป็นของเรา สามีเองก็ไม่ใช่ลูกแหง่หรอกค่ะ ออกจากบ้านทำงานเลี้ยงตัวเองตั้งแต่ 16 แต่ก่อนแต่งงานกับเราแกไปเที่ยวรอบโลก 3 ปีครึ่ง เงินหมดไม่มีแม้ค่าตั๋วกลับบ้าน ก็ได้แม่กับพี่สาวนี่แหละ ซื้อตั๋วให้ แล้วก็ให้ยืมเงินซื้อบ้านซื้อรถ (ซึ่งตอนนี้ผ่อนคืนไปหมดละ) สามีก็เลยสำนึกได้ว่า พี่สาวและแม่มีพระคุณต้องตอบแทน ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ให้ทำอะไร ไม่เคยขัดอ่ะ ที่เขาหวงสมบัติ เราคิดเองนะคะว่า ทั้งครอบครัวไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตครอบครัว ทั้งพี่สาว และพ่อเขาต่างมีกิ๊กจนครอบครัวล่ม และแต่งงานใหม่ ก็เลยระแวงว่าเราอาจจะทำแบบนั้นบ้าง ประกอบกับสามีเรา ก็ล้มเหลวมาเหมือนกัน แต่ต่างตรงที่โดนเมียเก่ามีชู้แทน.......สามีเลยเป็นไก่อ่อนในสายตาครอบครัวไป เลยต้องให้ผู้มีประสบการณ์มาปกป้อง เซ็งมากค่ะ เรื่องเขาหวงเนี่ยไม่เท่าไรนะคะ แต่อึดอัดและนอยด์ตรงที่ ชอบมีแผนแต่มาพูดหวานๆ ว่าทำเพื่อเราเพื่อลูก :-) (ขอหยาบคายนะคะ) เขาคงคิดว่าเรากินหญ้าละมั้งเนี่ย ช่วงนี้ดูละครแรงเงา เห็นหน้าน้องนกสองหัว เป็นคุณพี่ขึ้นมาเชียว อย่าให้ชั้นกลายร่างเป็นมุนินทร์แล้วกัน เดี๋ยวได้มีถกกระโปรงตีเข่ากันบ้าง จากคุณ : ตุ๊กตาดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 11:56:33

ความคิดเห็นที่ 19 สามีเราคล้ายสามีคุณเลยค่ะ แม่เค้าเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก พ่อแยกบ้านกันอยู่นานๆมาที ชีวิตเค้ามีแต่แม่ อะไรๆก็เชื่อแม่ค่ะ ตอนแรกเราก็ชอบนะคะ ผู้ชายติดแม่น่ารักดี  แต่มาตอนนี้ชักจะมากเกิน อะไรเชื่อแม่หมดเลยค่ะ  แม่เค้าฟ้องอะไรเกี่ยวกับเรา ไม่ถามเราสักคำ ทะเลาะกันหลายครั้งมากเรื่องกับแม่เค้า    เค้าทำประกันใส่ชื่อผู้รับผลประโยชน์ให้แม่กับน้อง เราถามเค้าก็บอกว่า แม่เค้าแบ่งให้เราอยู่แล้ว แม่เค้าไม่่คนแบบนั้น เราไม่ได้คิดว่าจะได้อะไรเท่าไหร่ แต่มันเปนเหมือนสัญญาใช่ไหมค่ะ  เกืดอะไรขึ้นมาจริง ล่ะเค้าไม่แบ่ง ล่ะเรากับลูกจะทำอย่างไง   ตอนนี้เราเป็นตัวแทนประกันเอง ให้เค้าทำเพิ่มและย้ายมาทำกับเราที่นี้เราใส่ชื่อเรากับลูกรับผลประโยชน์เองเลยค่ะ 555 จากคุณ : เด็กหญิงตาสวย เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 12:05:57

ความคิดเห็นที่ 20 เก็บเงินส่วนของเรา ซื้อประกันค่ะ   บอกเค้าไปว่า ที่บอกอ่ะ บอกให้รับรู้เฉยๆ ไม่ได้บอกเพราะว่าต้องขออนุญาต ชีวิตคุณ ไม่จำเป็นต้องไปขออนุญาตอะไรเค้าเลยค่ะ ในเมื่อเค้าก็ไม่ได้ขออนุญาตคุณนี่ อย่าไปยอมมากค่ะ  ยิ่งเราเงียบ เรายอม ยิ่งเอาใหญ่ แม่กับพี่สาวเค้า เห็นคุณยอม ไม่พูด ก็ยิ่งได้ใจเหมือนกันค่ะ     เกิดสามีคุณเป็นอะไรไปจริงๆ เค้าจะเลี้ยงลูกคุณจริงไหมก็ไม่รู้ และหากเค้าเลี้ยงจริงๆ แต่เด็กไม่อยากอยู่กับเค้า อยากอยู่กับคุณ คุณจะเอาเงินที่ไหนเลี้ยงลูกคะ ถ้าลูกอยากอยู่กับคุณ คุณเอาลูกมาเลี้ยง  แม่กับพี่สาวสามีจะให้เงินคุณหรือเปล่า จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 12:09:58

ความคิดเห็นที่ 21 จขกท ค่ะ คุณแม่คุณพี่สามีคุณ เขาเป็นผู้มีพระคุณกับสามีคุณ แล้วสามีคุณมักทำชอบทำผิดพลาด แม่และพี่สาวสามีคุณ เขารักสามีคุณ เขาก็ต้องพยายามปกป้องสามีคุณ แสดงว่าคุณไม่ได้พยายามไปสนิทกับผู้มีพระคุณสองคนนั้น แถมคุณมาตั้งแง่อีก กับคำพูดว่า เผื่อคุณไปมีสามีใหม่ ถ้าคุณสามีคุณฉลาด คงไม่มาพูดกับคุณแบบนี้ แสดงว่า สามีคุณก็ระแวงคุณ ลองปรับความเข้าใจกันใหม่ดีไหมค่ะ ดูแล้ว สามีคุณไม่ไ้ด้เลวร้ายอะไร คุณไม่ได้หวังสมบัติเขา คุณดูจะรักเขามาก ผู้ใหญ่อาจเข้ามาจุ้นมาก มันก็เพราะเขารักและสามัคคีกัน อยากใ้ห้คุณคิดว่า คุณเป็นญาติพวกเขาจริงๆ สองคนนั้นก็เป็นผู้มีพระคุณกับคนที่คุณรักจริงๆ ไม่ได้หวังสมบัติเขา ทุกคนทำเพื่อลูกคุณ คุณน่าจะดีใจที่เขาเหล่านั้นรักลูกคุณ อ้อ คุณจดทะเบียนสมรส มีลูกด้วยกัน ต่อให้เป็นชื่อสามีคุณคนเดียว อย่างไรเสีย ในส่วนของสามีคุณ คุณได้ครึ่ง ลูกคุณได้ครึ่ง ไม่ต้องมีชื่อหรอกค่ะ ส่วนถ้า พี่สาว หรือ แม่สามี เขาลงทุนให้ เขาย่อมมีสิทธิใส่ชื่อลงไป เขาคงไม่คิดจะมาเอาเปรียบหรอก เคยผ่านตรงนั้นมาค่ะ ตอนนี้ ที่ดิน ที่ซื้อไว้มูลค่า มันมากกว่าเดิมเป็นสิบเท่า แรกๆคิดเหมือน จขกท เลยมาเตือนสติ จ๊ะ  รักๆกันนะ มีลูกด้วยกันแล้ว รักครอบครัวเรา รักญาติผู้ใหญ่เขาด้วย ชีวิตถึงจะเจริญก้าวหน้า จากคุณ : UlingChi เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 15:41:25

ความคิดเห็นที่ 22 อารมณ์คล้ายๆพ่อเราค่ะ รักพี่สาวมากกกก กู้เงินสวัสดิการมาได้เป็นล้านให้พี่สาวเก็บหมด แกกู้มาเพื่อรักษาตัวค่ะ พอใกล้ตาย เค้าเจียดเศษเงินมาให้หลักหมื่น ค่ะ และเรื่องนี้พวกเราไม่รู้เลยค่ะ จนแกถึงวาระสุดท้ายถึงรู้ แบบว่า มีจริงๆนะคะ รักพี่สาวมากกว่าลูกนี่ แล้วแบบยังพยายามไปเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชนในประกันตัวอื่นอึก ดีที่เปลี่ยนไม่ได้. เพราะฉะนั้น เรื่องแบบนี้ ลูกเมียต้องคุมดีๆค้ะ จากคุณ : puy_naka63 เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 16:18:31

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านมาหลายกระทู้ของคุณขอบอกว่าแม่สามีคุณยังอีกเยอะ ยังเจออีกเยอะ บ้านนี้ สามีคุณก็เหมือนแก้หลับหูหลับตามไม่รับรู้ เรื่องประกันจริง ๆ วันพรุ่งนี้(วันอาทิตย์ )วันจันทร์เดินไปเปลี่ยนชือคนรับผลประโยชน์หรือใส่ชื่อร่วมเพิ่มเขาไปก็ทำได้ เพราะตอนเราสามีเคยทำให้(ตอนนี้เอาเงินประกันมาใช้จะหมดแล้ว 555)จากชื่อน้องสาวเขา เปลี่ยนมาเป็นชื่อเรา ไม่ต้องใช้หลักฐานอะไรของเราเลยด้วยซ้ำ(เปลี่ยนหลังแต่งงานกับเราได้ 1 เดือน) ของแบบนี้มันอยู่ที่ตัวผู้ชาย ถ้าเขาคิดว่าคุณจะทิ้งเขา ก็บอกสิ ถ้าหย่ากันก็แค่เดินไปเปลี่ยนชื่อคนรับผลประโยชน์แค่นั้น ชั้นไม่คิดว่าคุณจะตายเร็ว คิดว่าถ้าคุณตายชั้นคงจะ 50-60 จะให้มีผัวใหม่คงไม่ไหวแล้วล่ะ จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 16:42:45

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาอึ้งกับตรรกะมืดของผู้ชายคนนี้ ฮีคิดได้ บอกฮีไปนะคะ ลูกยังเล็กดูแลเงินไม่ได้ แต่ไม่เคยได้ยินหรอว่า เงินของเด็กเล็ก ยังไงก็จะมีผู้จัดการดูแลเงินนั้นในระหว่างที่น้อง ยังไม่บรรลุนิติภาวะน่ะ หรือสามีคุณไม่ไว้ใจกับคุณ เรื่องเงิน? ตลกอะ เรื่องบ้าน จะชื่อใคร ดูจากรูปการณ์แล้วยังไงครึ่งนึงก็ถือว่า เป็นสินสมรสค่ะ (ครึ่งนึงในส่วนของพี่ชายคุณ) แต่จขกท. จะมีแรงยื้อเมื่อสามีตายรึเปล่านั่นก็อีกเรื่องนะ เพราะเห็นว่า เงินที่เหลือของครอบครัว จะเอาไปลงที่บ้านนี่นา อีกอย่าง สามีคุณตาย พี่สาวเค้ามีสิทธิ์อะไรในตัวเด็กไม่ทราบ? แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 55 17:47:18 จากคุณ : สตอร์เบอร์รี่ราดครีม เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 17:46:23

ความคิดเห็นที่ 25 เหมือนเขามองภรรยาเป็นคนอื่นตลอดเวลา พ่อแม่พี่น้องสำคัญที่สุด น่ารำคาญ จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 18:06:31

ความคิดเห็นที่ 26 เราอ่าน กระทู้คุณมาตั้งแต่คุณ ท้อง. รู้สึกว่า สามีคุณ เห็นแม่ พี่สาว ดีกว่าคุณมาตลอด และ สามีคุณก็ เห็นดีเห็นงามมาตลอด ไม่ว่าจะเอ่ยอะไร ขอโทดนะ ถ้าบอกตรงๆ. เป็นเราคงไม่ทนอยู่ด้วยหรอก. ครอบครัว ควรจะเป็นครอบครัว สามีภรรยา ปรึกษากัน แต่นี่คุณต้องเป็นฝ่ายยอมตลอด ตั้งกะเรื่องแต่งงาน ย่าเลี้ยงหลาน ตอนนี้ยังมามีเรื่อง ประกันอีก จะบ้าตาย.  สามีคุณ แกล้งโง่หรือโง่จริงๆ ที่บอกให้คุณไปมีสามีใหม่ได้แบบสบายใจ และพี่สาวจะเลี้ยงลูกให้. เอาสมองส่วนไหนมาคิด เน้อ  แม่ยังไงก็ไม่มีวันทิ้งลูก. ญาติๆ จะมาเลี้ยงได้ดีกว่าแม่ได้ไง.  สามีเราทำประกันใส่ชื่อพ่อตั้งแต่ยังไม่เจอกับเรา  ยังเอ่ยกับเราว่า เดี๋ยวจะไปเปลี่ยนชื่อให้เป็นภรรยาและลูกรับ. และให้ดูแลให้ลูกด้วย. ทั้งที่คบและแต่งงานแค่6ปี กลัวเมื่อตายไปแล้ว จะไม่มีบ้านอยู่ถ้าไม่อยู่ กับพ่อแม่สามี ก็เอาเงินเก็บไปซื้อ บ้านให้ที่เมืองไทย โดยไม่บอกพ่อกับแม่เค้าให้รู้.  เราว่าสามีคุณไม่มองคุณแบบภรรยาเลย มองว่าเป็นคนอื่นมากกว่า. ส่วนสามีเราก็มีพี่สาว. พี่สาวไม่เคยมายุ่งมายืมมาวุ่นวายกับเงินสามี พ่อแม่เค้าก็ด้วย แต่สามีเราก็ จ่ายค่าน้ำไฟ ให้บ้านสามี เอง. ทั้งๆที่เงินคนชรา ของพ่อแม่สามีเราก็แค่พอกิน พอใช้  ยิ่งพี่สาวไม่เคยมาวุ่นวาย. เราซะอีกมาทีหลังแต่กลับให้มาซะมากมาย จนเราไม่กล้าขอหย่า( ถ้าทะเลาะกัน) ชาตินี้คงไม่มีวันชดใช้บุญคุณได้หมด จากคุณ : jtsunod7 เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 19:20:02

ความคิดเห็นที่ 27 คิดแล้วมึนมากค่ะ สามีเรา เห็นพี่สาวกับแม่ดีกว่าเรา อาจจะจริงค่ะ ก็เขาสายเลือดเดียวกัน แต่ที่สามีเราเห็นดีเห็นงามมาตลอดเนี่ย อาจจะไม่จริงค่ะ เรารู้สึกได้ว่า สามีเราก็รักเรามาก แต่ที่เขายอมๆๆครอบครัวเขา เพราะเขาบอกตลอดเลย แม่เขาน่ะนางฟ้า พี่เขานะรวย ไม่โกงเราหรอก เรื่องประกันนี่ เป็นความคิดพี่สาวเขานะคะ ไม่ใช่ความคิดสามีเรา พี่สาวเขาทำประกันก็ใส่ชื่อแม่เขากับสามีเราเหมือนกัน ให้เหตุผลเดียวกันว่า เผื่อสามีเขา จะไปมีภรรยาใหม่ เพราะสามีเขาเด็กกว่าเขาตั้ง 10 ปี เลยให้สามีเราทำแบบเดียวกัน สามีเราเอง....คล้อยตามมั้ง เห็นด้วยหรือเปล่าไม่รู้ แต่เท่าที่รู้ สามีเราตั้งแต่เด็กก็ยอมพี่มาตลอด ถ้าขัดใจพี่สาวจะเหวี่ยงมาก เราเคยเจอมาแล้วค่ะ ตอนแต่งงานใหม่ๆ เราทำกับข้าว ลืมเช็ดปากขวดซอสหอยนางรม ปิดฝาไปเลย มันก็เลยมีซอสแห้งๆติดผา ติดปากขวด เจ๊แกมาเห็นก็บ่นๆๆๆ เหวี่ยงๆๆ สามีปกป้องเรานิดนึง ว่าเรื่องเล็กน้อยมาก เจ๊แกประท้วงไม่กินข้าวไปหลายวันทั้งๆที่ท้องอยู่ สามีเราทนไม่ได้ค่ะ เห็นเจ๊แกไม่กินข้าวมื้อเดียวสามีเราก็แทบอกแตกตาย ก็เลยต้องตามใจมาตลอด แล้วถ้าเราเหวี่ยงบ้าง เราสงสารสามี ต้องรับศึก 2 ด้านค่ะ จากคุณ : ตุ๊กตาดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 04:10:57

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนเรื่องบ้านนี่ เราก็ทราบนะคะว่า หลังแต่งงานแล้ว ใส่ชื่อ 2 คนมันก็มีสิทธิอยู่ดี แต่ที่เรากังวลก็คือ เราไม่อยากตกอยู่ในภาวะเป็นหนี้พี่สาว มันอึดอัดกว่าเป็นหนี้แบงค์หลายเท่าค่ะ เป็นหนี้แบงค์ ยังรู้ว่า เดือนๆนึงต้องจ่ายเท่าไร แต่ถ้าเป็นหนี้พี่สาว เจ๊จะเก็บเงินเดือนของสามีหมดค่ะ อย่าหวังว่าเราจะรู้จักว่าหน้าตาของเงินมันเป็นยังไง เจ๊แกเป็นคนจ่ายบิลเองค่ะ ค่าบ้าน ค่าน้ำ ไฟ ค่ากับข้าว  อยากได้ต้องไปเบิกจากแก เงินที่เหลือ หักใช้หนี้ อึดอัดไหมคะ ตอนเราซื้อบ้านหลังนี้ เป็นหนี้เจ๊แกอยู่ประมาณ 10 เดือน เหมือน 10 ปี เสื้อผ้าใหม่ๆ หรอ ไม่รู้จัก วันหยุดหรอ ยังหวังว่าจะได้ออกไปเที่ยวให้สบาย สามีเรากลัวพี่สาวโกรธว่า ถ้ามีเงินเหลือไปเที่ยว ซื้อของฟุ่มเฟือย ก็ควรใช้หนี้มากกว่า ....เหนื่อยไหมล่ะคะ พอเราจะขอเอาเงินไปซื้อประกันบ้าง ก็เลยเป็นเรื่องนี่แหละค่ะ เพราะสามีกลัวว่า ถ้าซื้อบ้านขึ้นมาเมือไร ค่าประกันของเรามันจะไปรบกวนกับเงินที่ต้องผ่อนคืนให้พี่สาว แล้วก็เลย......โมโห ทั้งๆเรื่องซื้อบ้านเป็นแผนที่วางไว้ จะซื้อเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่เอาประเด็นนี้มาขัดเราแล้ว ที่มากไปกว่านั้น วันดีคืนดีขัดใจกันขึ้นมา เราก็กลัวเขาโกงเหมือนกันค่ะ ตอนแรกที่เราแต่งงานกับสามีใหม่ๆ บ้านยังเป็นชื่อสามีอยู่เลยค่ะ แล้ววันดีคืนดี มันก็เปลี่ยนเป็นชื่อพี่สาว ก็ไม่รู้เมื่อไรเหมือนกัน สามีกับเรากลายเป็นผู้เช่าไปซะงั้น  ตอนแรกบอกเปลี่ยนสัญญาเป็น 15 ปี แต่สุดท้ายสามีบอกเราว่า....พี่สาวเขาท้อง สามีใหม่ก็ยังเรียนอยู่ เด็กต้องการความมั่นคง ทุกวันนี้พี่สาวสามียังเซ็นต์เช็คของสามีอยู่ทุกเดือนๆเลยค่ะ แต่ดีที่ว่า สามีเราไม่ได้เอาเงินเข้าบัญชีนั้นแล้ว เจ๊แกเอาเงินเข้าเอง เซ็นต์เช็คเอง แต่เราก็งงว่า......ทำไมไม่เซ็นต์เช็คชื่อตัวเอง สิ่งที่เรากังวลก็คือ ทุกวันนี้แกเปิดบัญชี ฝากเงิน ถอนเงิน เซ็นต์เหมือนแกเป็นสามีเราเองได้แบบไม่มีข้อกังขา วันหน้ามันอาจจะมีอะไรถูกทำในนามสามีเราอีก แล้วถ้ามันกระทบกับเรา ไม่แย่หรอคะ ดีไม่ดี โอนบ้านเป็นชื่อตัวเองไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้เหมือนคราวก่อน แย่ไหมเนี่ย คิดมากเนอะ จากคุณ : ตุ๊กตาดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 04:34:12

ความคิดเห็นที่ 29 แต่ทำไมเราไม่คิดว่าสามีคุณ รักคุณกับลูกเลยเหมือนเค้าต้องการแม่บ้านคอยดูแลจัดการบางสิ่งบางอย่างในบ้านให้เรียบร้อยเท่านั้น ยิ่งพี่สาวสามีคุณท้อง นั่นแสดงว่าเค้ากำลังมีทายาทเป็นสายเลือดแท้ๆของตัวเอง ซึ่งเค้าไม่สามารถมาดูแลลูกคุณได้ดีเท่าคุณหรอกคะ เข้าเรื่อง 1.เรื่องประกันชีวิต สามารถเปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์ได้ภายหลัง คุยกับสามีคุณด้วยเหตุผล ว่า "คุณไม่ใช่จะเสียชีวิตภายในเวลาอันรวดเร็วหรอก ฉันอาจจะตายก่อนคุณก็ได้ ประกันที่ฉันทำ ฉันจะใส่ชื่อคุณกับลูก เพราะฉันไม่คิดว่าคนอื่นจะเลี้ยงลูกได้ดีไปกว่าคนเป็นพ่อแม่ คุณว่าจริงไหม" ถ้าเค้ารักคุณกับลูกเค้าต้องคล้อยตามคุณบ้างละ แล้วค่อยไปแอบเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์กัน 2.เรื่องหุ้นซื้อบ้าน เป็นการลงทุนระยะยาว กำไรยังมองไม่เห็น ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง ในยุคเศษฐกิจแบบนี้เก็บเงินไว้ก่อนดีกว่า คุยกับเค้าดีๆถ้าเค้ารักคุณอย่างที่คุณว่า ยังไงเค้าต้องฟังคุณบ้าง ** ไม่มีใครเอาเงินออกจากกระเป๋าเราได้ นอกจากตัวเราเอง** จากคุณ : ด้วยความหวังดี (ekuni) เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 12:15:51

ความคิดเห็นที่ 30 อดีตสามีเราก็เป็นแบบนี้ค่ะ ทำประกันใส่ชื่อแม่  และตอนนี้เราเลิกกันแล้วค่ะ คุณจดทะเบียนสมรสไหมคะ อย่างงี้ต้องรีบเคลียร์ด่วนค่ะ จากคุณ : mountaintop เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 14:11:06

ความคิดเห็นที่ 31 จาก คห.ที่28 แบบนี้พี่สาวสามีก็แสดงให้เห็นแล้วนี่ค่ะ ว่าไม่ได้หวังดีจริง "พี่สาวเขาท้อง สามีใหม่ก็ยังเรียนอยู่ เด็กต้องการความมั่นคง " "บ้านยังเป็นชื่อสามีอยู่เลยค่ะ แล้ววันดีคืนดี มันก็เปลี่ยนเป็นชื่อพี่สาว" จากคุณ : สิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 15:24:34

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าเป็นเรา  บ้านแตกค่ะ ยิ่งเหตุผล หวังพรากลูกพรากแม่ ตอนพ่อตายเนี่ยนะ  คิดอะไรอยู่เนี่ย ถ้าสามีเราคิดได้ลงคอว่าเราจะทิ้งลูกไว้กะญาติ และหาสามีใหม่นี่ คงต้องเลือกวันนั้นค่ะ จะเลือกพี่ รึ เลือกเมีย ถ้าคุณไม่แข็งบ้างก็ต้องยอมไปเรื่อยๆ ค่ะ เค้าตีสองหน้าได้ เราก็ทำได้ค่ะ เป็นเมียมันต้องอ้อนขึ้นกว่าคนอื่นสิคะ คิดว่าเป็นน้องนกหวานเสน่ห์โลด จากคุณ : lekumi เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 23:08:11

ความคิดเห็นที่ 33 ง่าย เป็นดิฉัน หย่าค่ะ จบ ตรรก แบบนี้ไม่ใช่อยากได้ไร หรอกนะ เเต่มันแปลก เเละ ไม่ถูกต้องอย่างแรง  เห็นชั้นเป็นตัวอะไร เหรอคุณ  จบค่ะแบบนี้ จากคุณ : doong เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 23:44:13

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านแล้วรู้สึกว่าสามีคุณไม่ค่อยไว้ใจคุณอ่ะค่ะ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบได้ ลองค่อย ๆ พิจารณาค่ะ เอาใจช่วยนะคะ ^^" จากคุณ : ConstancE PalladiuM เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 23:53:30

ความคิดเห็นที่ 35 จะบอกว่าบ้านสามีคุณคงถือคติมาแต่ตัวก็ไปแต่ตัว อาจจะต้องเลี้ยงลูกด้วย สรุปถ้าสามีคุณไม่ทำอะไรสักอย่างกับที่บ้าน ขอหย่าเถอะ ไม่เข้าใจระบบการเงินที่บ้าน แต่เอาเป็นว่าถ้าหย่าอายุยังน้อย ยังหาผัวใหม่ได้ ไม่ก็หางานทำได้อยู่ ถ้าอายุมากแล้วไม่รู้จะแนะนำอย่างไร ไม่นั้นก็ขอเงินเดือนสามี เดือนกี่เหรียญก็ว่าเพราะเพราะบอกว่าชั้นรู้สึกว่าชีวิตชั้นไม่มีความมั่นคงอะไร วันหนึ่งเธอตายชั้นคงอดตาย ต้องพูดกันแล้ว ถ้าเขาไม่ทำประให้คุณก็ขอเงินเขาเลย เก็บใส่แบงค์แล้วกรุณาเอาทนายไปบอกว่ามันไม่ใช่สิทธิสมรสด้วยนะ แต่คิดว่าไม่น่าจะขอน้อยกว่า 200 เหรียญ เก็บไปอย่างนั้น บอกขอเงินไปเก็บแค่นั้นล่ะ ถ้าไม่ให้คิดว่าน่าจะคุยกันอีกนาน บ้านจะเปลี่ยนเป็นชี่อพี่สาวได้ก็เพราะสามียอมให้เปลี่ยน ของแบบนี้ทำอะไรไม่ปรีกษาคุณ มันเกินไปแล้วนะ คนเราเป็นผัวเมียกัน คุณยอมทิ้งทุกอย่างมาอยู่กับเขา จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 55 23:58:31

ความคิดเห็นที่ 36 ตอบในฐานะผู้ชายนะครับ ถ้าแต่งงานกันแล้ว และมีลูกแล้วด้วย ถือเป็นครอบครัวใหม่ที่แยกมาอีกครอบครัวนึง การจะใส่ชื่อแม่เป็นผู้รับผลประโยชน์ ผมถือว่ายอมรับได้ครับ เพราะเป็นมารดา ลูกใส่ชื่อแม่ด้วยเหตุผลด้านความกตัญญู อันนี้รับได้ครับ แต่ถ้าใส่ชื่อพี่สาว ถึงแม้เค้าจะมีครอบครัวหรือไม่ อันนี้ไม่สมเหตุสมผลครับ ถ้าแต่งงานแล้ว ถือเป็นครอบครัวใหม่ ควรใส่ชื่อภรรยาครับ คุณจดทะเบียนกับสามีหรือเปล่าครับ ถ้าจดทะเบียนให้ติดต่อไปบริษัทประกันว่าเราไม่ยินยอมให้พี่สาวเป็นผู้รับผลประโยชน์ (คิดว่าน่าจะได้) แต่ให้แม่เนี่ยคุณควรให้ครับ ของผมซื้อประกันใส่ชื่อ อาม่า กับ แฟน ครับ จากคุณ : CW Together เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 12:12:37

ความคิดเห็นที่ 37 ขอแสดงความคิดเห้นส่วนตัว นะคะ 1. ถ้าคุณเป็นแม่บ้านไม่ได้ทำงาน สามีหาเงินคนเดียว สิ่งนึงที่คุณควรถามเค้าว่า ฉันยอมที่จะมาดูแลคุณ ดูแลลูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมอยู่กับคุณโดยไม่มีสวัสดิการชีวิตที่ดีนะคะ ทำงานยังต้องเงินเดือน และสวัสดิการ การเป็นแม่บ้าน ต้องยอมเสียโอกาส เพื่อมาดูแลคนคนึง แต่ดันไม่มีสวัสดิการชีวิตอะไรเลย 2.ถ้าคุณทำงาน ก็อย่าได้แคร์คะ เงินฉัน ในเมื่อคุณยังทำเพื่อครอบครัวคุณได้ฉันก็มีสิทธิ์ทำได้คะ 3.แล้วที่บอกว่า ให้พี่สาวเป็นผู้รับผลประโยชน์ จากประกันชีวิตที่ซื้อหนะคะ เพราะกลัวลูกจะโตพอดูแลเงินไม่ได้หนะคะ เอาเข้่าจริงถ้าให้ลูกเป็นผู้รับผลประโยชน์ ถ้าสามีคุณ จากไปตอนนี้ที่ลูกยังไม่โตพอดูแลเงิน ทางบริษัทประกันเค้าก็จะพิจารณา เองคะว่าใครเหมาะที่เป็นผู้ดูแลมรดกนั้น แต่ถ้าให้เป็นชื่อพี่สาวเลยนะคะ ก็เท่ากับว่าเงินที่พี่สาวได้จากการรับผลประโยชน์ เป็นของพี่สาวทันที่คะ แล้วถึงเวลานั้น ก็เท่ากับว่าพี่สาวคุณสามีเป็นเจ้าของเงินนั้นเพียงผู้เดียว 4.เรื่องครอบครัวของเรา เราต้องคุยกันคะ คุยสถานเดียว เพื่อจะได้เข้าใจกันคะ สงสัยอะไรก็ถาม จากคุณ : ผ้าส่าหรี (กระยาหงัน) เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 55 16:48:22

ความคิดเห็นที่ 38 สวัสดีคับ ผมชื่อ จารึก ครับ เป็นผู้บริหารตัวแทนฝึกหัดอยู่ที่ บลจ อลิอันซ์ อยุธยา ยินดีให้คำแนะนำครับ ไม่ทำก็ได้แต่อยากให้ทราบข้อมูล ลูกค้าหลายคนทำประกันแล้วแต่ได้รับข้อมูลไม่ละเอียดทำให้เสียสิทธิประโยชน์ ประกันทุกบริษัทดีเหมือนกันหมดครับอยู่ที่ถูกใจเราแค่ไหนแต่ที่ไม่ดีและทำให้เป็นปัญหากันคือตัวแทนไม่ดูแลดีแต่ตอนจะขาย ติดต่อสอบถามได้ครับ จารึก 0854838345 จากคุณ : ่่่j.jaruk1986@hotmail.com เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 23:31:54 A:171.7.186.136 X: TicketID:381092

ความคิดเห็นที่ 39 แปลกอ่ะ ทั้งความคิดและการกระทำ จากคุณ : O (Being_ing) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 00:07:24