Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อยากระบาย...ท้องได้ 6 เดือน แล้วก็ยังคิดไม่ออกว่าจะเลี้ยงลูกยังไง ไม่คิดว่าตัวเองจะเลี้ยงลูกได้ ติดต่อทีมงาน

เห็นกระทู้ที่คุณแม่สอนลูก homeschool แล้ว ทำให้รู้สึกว่าเครียดค่ะ เพราะเราเล่นกับเด็กไม่เป็นอย่างรุนแรง ชีวิตไม่เคยอยู่กับเด็กเล็กๆ ไม่มีพี่น้องค่ะ

ปัจจุบันไม่เคยเล่นกับเด็กคนไหนได้เกิน 3 วินาที

เราพูดกับเด็กเหมือนที่พูดกับผู้ใหญ่ คือเราไม่รู้จักวิธีการพูดกับเด็ก
เราพูดกับลูกเพื่อนหรือลูกคนที่ทำงานแบบพูดกับผู้ใหญ่
ถ้าเค้าไม่สนใจเรา เราก็ไม่สนใจเหมือนกัน
หรือถึงเค้าสนใจ ความสนใจของเราที่มีต่อเด็กก็ต่ำมากจนไม่คิดจะกลับไปพูดหรือเล่นกับเด็กอีกหลังจากที่เราทักทายไปตามมารยาทแล้ว ไม่แลตามองเอาเลยล่ะ แล้วก็หันกลับไปทำงาน

ปัญหาต่อมาคือเรากำลังท้อง ใกล้คลอดแล้วล่ะ
แล้วเราก็จินตนาการไม่ได้ว่าเราจะให้ความสนใจลูกเกิน 5 นาที ได้ยังไง แล้วเราจะพูดยังไงกับลูกที่เป็นทารกหรือเป็นเด็ก

ก่อนอ่านกระทู้ Home school ไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้ง แค่คิดว่า จะทำตัวตามปกติ เคยพูดยังไงก็พูดยังงั้น คิดแค่ "ได้เวลากินข้าวแล้ว นั่งกินข้าวนะลูก" จบ

ไม่ได้คิดจะต้องร้องเพลงเด็กสารพัดเพลงให้ลูกฟัง ถ้าจะร้องให้ฟังก็ึคงเป็น สุนทราภรณ์ เพลงฝรั่ง Barbra Streisand อะไรก็ว่าไป  เพราะร้องเป็นอยู่แล้ว

อ่านหนังสือ ก็จะให้อ่านนิยาย อ่านหนังสือพิมพ์... เหมือนที่ตอนเด็กๆป. 1 เราอ่านนิยายในสกุลไทย เพราะแม่เราก็ไม่เคยสอนให้อ่าน A B C D หรือนิทานภาพ (สมัยโน้นมันมีที่ไหน) แต่วางไทยรัฐไว้หลังรถให้เราอ่านตอนป. 1 เราก็อ่านละครย่อในไทยรัฐตั้งแต่บัดนั้น และอ่านหนังสือคล่องมาก  

ในเมื่อสมัยนี้มีนิทานภาพก็คงอ่านให้ฟัง แต่ไม่ได้จะซีเรียสอะไร

พยายามนึกถึงสิ่งที่เคยทำตอนเด็กกับถามแม่เอาว่า เราเคยทำอะไรบ้าง  

ประการสำคัญคือ เราเป็นคนไม่ค่อยพูด เราชินกับการอยู่ในโลกของตัวเอง ทำกิจกรรมของตัวเองคืออ่านหนังสือ ทำงาน โตมาก็ไ่ม่ได้พูดอะไรกับใครมากนอกจากตอนทานข้าว ที่เป็นเวลาครอบครัวเราถึงจะพูดกับพ่อแม่หรือแฟน พูดมากๆเลย แต่หมดเวลาทานข้าวคือจบ กลับไปใช้ชีวิตใครชีวิตมันถึงจะนั่งอยู่ห้องเดียวกัน ก็ไม่ได้พูดกัน นั่งอ่านหนังสือไปเงียบๆ มีธุระจะปรึกษากันถึงมาเริ่มพูดกัน

เราก็เลยนึกไม่ออกอีกว่า "เราจะช่วยลูกคุยยังไง" ดูมันไม่มีที่มาที่ไป อยู่ดีๆ คนเราทำไมถึงมานั่งชวนคุยกันตลอดเวลา อยู่ดีๆจะมาชี้นกชี้ไม้ตลอดเวลาน่ะนะ เดี๋ยวก็มา นั่นอะไรลูก นี่อะไรลูก ชี้ชวนตลอดเวลา แปลกๆอะ

เรามานั่งคิดว่าทำไมเราเป็นแบบนี้...ก็พอลำดับเรื่องออกว่า เพราะแม่เราทำงาน ส่วนพ่อเป็นคนเลี้ยงเราตั้งแต่เด็กๆจนโต..เค้าก็เลี้ยงแบบผู้ชายไง คือ หาข้าวให้กิน สอนการบ้าน เปิดทีวีให้ดูสารคดี เราก็ุคุ้ยเขี่ยหากิจกรรมทำเองเช่น รื้อค้นนิยายในบ้านมาอ่านเอง แล้วก็จมอยู่กับนิยายตั้งแต่เล็กๆ --> แต่เราไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตมีปัญหา มีความสุขที่ได้อยู่กับพ่อแบบนี้

เราก็เคยเป็นคนที่สามารถอยู่คนเดียวได้ โดยไม่ต้องพูดอะไรกับใครเป็นเวลานานๆ ขอแค่มีกิจกรรมทำ  

ผลก็คือ ประสบความสำเร็จในการเรียนและการทำงานมาก เพราะสามารถจมอยู่กับงานและเรียนได้ โดยไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร

แต่เมื่อท้อง เราก็กังวลแต่ว่า คลอดมาแล้วจะทำงานยังไง จะเรียนต่อยังไง จะเลี้ยงลูกยังไงในเมื่อต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย
ที่ผ่านมา เสาร์อาทิตย์เรามอบให้กับงานบ้าน เมื่อจบงานบ้านคือทำงานและอ่านหนังสือสำหรับเรียนต่อ  การพักผ่อนคือเรื่องหลังจากทำงานและอ่านหนังสือจบแล้ว ถ้าทำภารกิจการงานและเรียนไม่เสร็จ จะรู้สึกผิด และไม่สบายใจและรู้สึกว่าตัวเองไม่มีประสิทธิภาพ

พอมีลูกกลายเป็นเครียดว่าจะกระทบต่องานกับการเรียน กังวล
ตอนนี้พยายามควบคุมตัวเองไม่กลับมาทำงานที่บ้าน เพื่อจะฝึกตัวเองว่า อีกหน่อยกลับบ้านหลังเลิกงานต้องเลี้ยงลูกอย่างเดียว ไม่ทำงานอะไรทั้งนั้น แต่ก็รู้สึกว่าประสิทธิภาพของเราลดลงชอบกล  

สุดท้ายก็มานั่งพร่ำเพ้อกับ Pantip เพราะรู้สึกว่างจนเกือบประสาท ณ ขณะนี้ อยากทำงาน อยากอ่านหนังสือ ... อยากอ่านบทความให้ได้เยอะๆ  อาการเหมือนเสี้ยนยา

แต่อีกหน่อยมีลูกคงไม่ว่างประสาทมั้ง พยายามคิดๆ แต่ตอนนี้ต้องฝึกตัวเองไม่ทำงานหลังเลิกงานก่อน


พออ่านกระทู้ Home School เสร็จก็อึ้งไป...นี่คนเราต้องทำขนาดนี้ด้วยรึ ชีวิตตั้งแต่เด็กไม่เคยเจอ พ่อไม่เคยนับว่าเราต้องท่องศัพท์ได้กี่คำตอนกี่ขวบ เอาแค่เราทำการบ้านได้ ท่องสูตรคูณได้ตามที่ครูสั่งก็จบ พ่อสอนแค่ว่า คนเราต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง เราก็รับผิดชอบเองตลอดมา พ่อไม่เคยต้องบอกว่า ให้ทำอะไรๆ คิดเองทำเอง ถึงเวลาต้องอ่านหนังสือก็อ่าน โดยพ่อยกตัวอย่างจากตัวเองที่ก็ทำแบบนี้เช่นกันตนเด็กๆ  รู้เองว่าต้องทำอะไร คิดเอาเองว่าหน้าที่คืออะไร เราก็คิดตามแล้วก็อ๋อ คืออ่านหนังสือ จบ

เราก็เลยคิดเอาว่า เด็กทุกคนก็คงรู้หน้าที่ของตัวเอง บอกให้ทำการบ้านก็ต้องทำสิ เหมือนที่เราก็ทำเองตลอดมา ...พอมาตอนนี้ เอ๊ะ แล้วถ้าไม่ทำ home school แบบนั้น ลูกเราจะโง่รึเปล่า

ตอนนี้เลยเป็นประสาทว่าเราจะเลี้ยงลูกได้รึ ... ดูไม่มีอนาคต ไร้อนาคต ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนตัวเองได้ขนาดมานั่งจ๊ะจ๋ากับลูกตลอดเวลา มานั่งคิดกิจกรรมว่าจะทำอะไรกับลูกดี มานั่งอ้อแอ้ๆ ตอนเป็นทารก มานั่งพูดสอนคำศัพท์ซ้ำๆ

งงชีวิตชอบกลตอนนี้  ที่สำคัญคือ ไม่มีกำลังใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ตลอดมา แต่งงานแล้วก็ไม่ได้เปลี่ยน ยังบ้างานเหมือนเดิม สามีก็บ้างานด้วย ต่างคนต่างขนงานกลับมาทำที่บ้าน ช่วยกันทำงานเพราะทำงานสายเดียวกัน Happy ทั้งคู่

ที่รู้สึกแน่ๆคือ การมีลูกจะกระทบกับงานและการเรียนไม่ได้
ต้องจัดเวลาให้ได้

ที่คิดขณะนี้คือ ต้องเอาให้รอด 3 อย่าง คือ ลูก งาน เรียน ทุกอย่างต้องรอด

สรุป เครียดอยู่ดี  

แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 23:01:31

จากคุณ : Volksrecht
เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 22:54:42




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com