ความคิดเห็นที่ 1 อาการที่สำคัญของเด็กกลุ่มสมาธิสั้นแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญุ่ๆคือ        1. อาการซนมากกว่าปกติ (Hyper Activity) ลักษณะความซนจะมากกว่าเด็กทั่วๆไป ซนแบบ ไม่อยู่นิ่ง อยู่ไม่เป็นสุข ลุกลี่ลุกร้น ตลอดเวลา       2. อาการสมาธิสั้น สามารถสังเกตุได้โดยเด็กจะมีความวอกแวกง่าย แม้แต่สิ่งเร้าเล็กๆน้อยก็สามารถ ทำให้เด็กเสียสมาธิได้แล้ว เข่น ในขณะที่เด็กกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ พอมีเสียงดังเบาๆเช่นเสียงของตก พื้น หรือกิ่งไม้หล่นบนพื้น กลุ่มเด็กพวกนี้จะหันไปหาแหล่งต้นเสียงทันที หรือขณนั่งเรียนอยู่ในห้องเรียน พอมีคนเดินผ่านก็จะหันไปดูโดยทันที เป็นลักษณะเป็นความไวต่อสิ่งเร้าภายนอกโดยผ่านทาง ตา / หู นอกจากนั้นยังอาจเกิดจากสิ่งเร้าภายในตัวของเด็กเอง ในกรณีนี้จะแสดงออกในลักษณะอาการเหม่อ ลอย นั่งนิ่งๆ เป็นนระยะเวลานานๆ เหม่อบ่อย เป็นต้น กลุ่มอาการสมาธิสั่นนี้ยังแสดงออกในรูปของการทำงานไม่ค่อยสำเร็จ เพราะในขณะที่กำลังทำงาน อย่างหนึ่งอยู่นั้น ใจก็จะคิดวอกแวกไปคิดถึงเรื่องอื่นๆต่อไป ทำให้งานกว่าจะเสร็จได้ต้องใช้เวลานาน ต้องค่อยจ่ำจี้จ่ำไชงานถึงจะสำเร็จลุล่วงไปได้        3. อาการหุนหันพลันแล่น (Impulsive) เด็กมักจะแสดงออกในลักษณะที่รอคอยไม่เป็น ยกตัวอย่าง เช่น ในขณะที่พ่อแม่หรือผู้ใหญ่กำลังคุยกันอยู่ เมื่ออยากจะพูดเด็กก็จะพูดแทรกขึ้นมาในทันทีโดยไม่คำนึง ถึงความเหมาะสม โดยเด็กจะไม่สามารถอดใจทนรอให้การสนทนานั้นเสร็จเสียก่อน หรืออีกตัวอย่างเช่นผู้ปกครองเด็กบอกให้ช่วยหยิบน้ำให้แก้วหนึ่ง ลุกจะรีบว่างไปหยิบเอาแต่แก้วมายื่น ให้ เหมือนกับยังไม่ทันฟังคำร้องขอให้เสร็จก่อน ก็รีบวิ่งไปก่อนเสียแล้วจะแสดงออกในลักษณะรีบเร่ง หุนหันพลันแล่น รอคอยไม่เป็น มักเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อกับตัวเด็กได้ง่าย     ซึ่งลักษณะอาการสำคัญทั้ง 3 ของกลุ่มเด็กสมาธิสั้นข้างต้น เด็กอาจมีลักษณะครบทั่ง 3 กลุ่มได้ หรือ โดยอาจมีลักษณะใดลักษณะหนึ่งที่เด่นหรืออาจมีลักษณะเด่นร่วมกัน1-2 อาการเลยก็ได้        สรุปลักษณะที่สำคัญของเด็กสมาธิสั้นคือ วอกแวกง่าย ทำงานไม่ค่อยเสร็จ ซนไม่อยู่นิ่ง หุนหันพลันแล่น ดังนั้นการวินิจฉัยจึงมักต้องเปรียบเทียบกับเด็กธรรมดาทั่วๆไป ที่สำคัญคือมักทำงานใดๆไม่ค่อยสำเร็จและชอบรบกวนเด็กอื่นๆมากกว่าปกติทั่วๆไป แม้แต่การเล่นก็เล่นก็มักเล่นไม่จบ เช่นการเล่นต่อตัวต่อเลโก้ โดยเด็กทั่วไปในวัย 7-8 ขวบ น่าจะนั่งเล่นตัวต่อเลโก้จนได้เป็นรูปเป็นร่างได้ แต่ในเด็กกลุ่มสมาธิสั้นอาจทำไม่สำเร็จ จากคุณ : skyim เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 15:46:43

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาเก็บข้อมูล ขอบคุณคะ ลูกสาวทั้งดื้อ ทั้งซน ไม่เคยอยู่นิ่งเลย แต่ยังเล็กอยู่ จะลองไปสังเกตุดูบ้างคะ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 55 15:59:46 จากคุณ : benjyja เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 15:58:42

ความคิดเห็นที่ 3 ลูกชายเป็นเหมือนกันครับ จิตแพทย์เค้าบอกว่าเป็น hyper active แกจะทำงานช้ากว่าคนอื่น แต่ซนเป็นที่สุด ชวนเพื่อนเล่น ตอนพูดก็พูดซ้ำๆ คล้ายติดอ่าง ไปหาหมอ ประมาณ ครึ่งปีได้ ซื้อหนังสือ เกี่ยวกับเด็กสมาธิสั้นมาอ่าน ลองทดสอบดูเรื่อยๆ จากนั้นก็หยุดไป ก็ไม่คิดอะไรมากเด็กเค้าก็พัฒนากลับมาได้ครับ ให้เค้าทำสิ่งที่ชอบครับ วาดรูป เขียนหนังสือปั้นดินน้ำมัน ปล่อยให้ทำเต็มที่เลย คะยั้นคะยอ ให้รางวัลล่อบ้าง ทำได้ก็ให้ ทำไม่ได้ก็ให้น้อยลง ให้ดาวให้สติกเกอร์ให้ขนม เรื่องผ่านมา 5 ปีแล้ว แต่ผมไปหาหมอตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนครับ ตอนนี้ก็ตั้งใจเรียนดี ซนมากเหมือนเดิม อ่านการ์ตูนไม่ปิดไฟไม่เลิกอ่านเลย จากคุณ : kanhapala เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 16:24:02

ความคิดเห็นที่ 4 ลูกชายเป็นเหมือนกันค่ะ แต่คุณครูบอกว่า เค้าไม่ใช้เด็กสมาธิสั้น แต่เป็นเด็กที่เป็นภาวะโลกส่วนตัวสูง ยังไม่ได้พาน้องไปพบจิตแพทย์เด็กเลย อ่านเรื่องของคุณแล้ว รู้สึกว่าช้าไม่ได้แล้วหล่ะ ต้องรีบพาน้องไปหาหมอโดยด่วน เดี๋ยวอะไร ๆ มันจะช้าไป จากคุณ : Bill_Minnie เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 16:36:35

ความคิดเห็นที่ 5 ขอให้อาการดีขึ้นไวๆนะคะ ขอบคุณที่มาแชร์ค่ะ จากคุณ : cookies.ginger เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 16:47:54

ความคิดเห็นที่ 6 กดโหวตให้นะคะ  รอคุณแม่มาแชร์ ประสบการณ์เพิ่ม ค่ะ จากคุณ : Lady..Online เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 17:12:59

ความคิดเห็นที่ 7 อยากบอกว่า TV กับ เกมส์คอมพิวเตอร์ มีผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดเลยนะคะ เคยปล่อยลูก (6 ขวบ) ดู TV เล่นเกมส์ โดยไม่ควบคุม แค่ไม่กี่เดือน เห็นผลทันตาเลยค่ะ รู้สึกได้เลยว่า ถ้าไม่มี TV หรือเกมส์ เค้าจะขี้หงุดหงิด อยู่เฉยๆ ไม่ค่อยได้ ดีที่รู้สึกได้ก่อน เลยจำกัดเวลาเค้า เห็นผลทันตาเช่นเดียวกันค่ะ เค้ากลับมาเป็นเด็กอารมณ์ดี ร่าเริง ไม่ขี้หงุดหงิด สงบขึ้น ... เห็นด้วยกับที่คุณหมอบอกว่า คุณแม่ช่วยรักษาลูกได้ดีกว่าคุณหมอค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : แม่น้องต้า (toom.com) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 17:18:31

ความคิดเห็นที่ 8 ลูกชายเป็นเหมือนกัน ซนมากค่ะ แล้วเราก็ดุมากด้วย แต่คุณพ่อเค้าตามใจมาก ลูกขอให้เล่นตลอด   จะกลับไปสังเกตลูกเหมือนกันค่ะ เพราะเค้าเริ่มระแวงว่าเราจะดุ จะทำอะไรชอบมองหน้า หรือมาขออนุญาตเราก่อน ขอเราคนเดียว ถ้าคนอื่นไม่ขอซะด้วย แล้วก็คุณพ่อชอบให้ดูทีวีในรถด้วย T_T จากคุณ : agalcalypso เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 17:32:57

ความคิดเห็นที่ 9 การพาลูกไปพบจิตแพทย์ เราว่าเป็นเรื่องปกตินะคะ  เมื่อเราคิดว่ามีปัญหา เราก็ต้องหาที่ปรึกษาช่วยแก้ไข ลูกอยู่ ป.1 เหมือนกันค่ะ เราพาลูกหาหมอมาตั้งแต่ อ. 3  แล้วค่ะ แต่ที่ รร.ตอนนี้ลูกเราไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ (มีบ้างที่มีหลง ๆ ลืม ๆ หนังสือ) ถามคุณครู ตั้งแต่ อ. 3 รร.เก่า จนมาอยู่ป. 1 รร.ใหม่ตลอดว่าลูกเราเป็นยังไง มีเหมือนสมาธิสั้นมั้ย มีสมาธิในการเรียนมั้ย คุณครูบอกปกติไม่มีอะไร วันนี้เจอคุณครูอีกคนนึงเค้าก็ยังชมลูกเราด้วย แต่เวลาอยู่ที่บ้าน และตอนที่ไปพบคุณหมอซิคะ  ลูกเราแสดงออกทุกอย่างของอาการสมาธิสั้นแบบข้อมูลข้างบน คุณหมอบอกเข้าข่ายทุกข้อ คุณหมอวิเคราะห์ว่าเป็น แม่อย่างเราก็ยัง งง งง อยู่ถึงตอนนี้ อาจจะเป็นเพราะการเลี้ยงดูที่บ้านนี่แหละ  ตอนนี้ก็ยังพาไปพบคุณหมอตามนัดตลอด และ 2 ครั้งล่าสุด ลองให้เค้าเข้าไปพบคุณหมอก่อนคนเดียว โดยที่พ่อแม่ รอข้างนอก คุณหมอบอกว่า นิ่งมาก หมอให้ทำอะไรก็ทำ ไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ คุณหมอให้ขีดเขียน วาดรูป ไม่ยอมทำซักอย่าง  คุณหมอบอกไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะก่อนหน้านี้บอกคุณหมอว่าอยู่ รร.ไม่เป็น หมอเหมือนจะไม่เชื่อ  แต่พอพ่อแม่เข้าไปพบคุณหมอด้วยก็เริ่มป่วนเหมือนเดิม เมื่อก่อนลูกก็ดูการ์ตูนเยอะ เล่นเกมส์ เยอะ เดี๋ยวนี้ก็ต้องกำหนดเวลาค่ะ และคุณหมอให้พยายามหากิจกรรมให้เค้า เบิร์นพลังออก ก็ให้เรียนว่ายน้ำ และก็อยากให้เรียนขี่ม้าด้วย  เราว่าช่วงนี้ลูกเราก็ดีขึ้นกว่าตอนแรกที่เข้า ป.1ตอนแรก ๆ เครียดมากยากไปทุก ๆ อย่างค่ะ ตั้งแต่ก่อนไปโรงเรียน และ กลับมาจากโรงเรียน เป็นกำลังใจให้คุณแม่นะคะ การ์ตูน เกมส์ เลี่ยงได้เลี่ยงเลยค่ะ แต่จริง ๆ มันก็ยากแหละค่ะ จากคุณ : อิจิโงะจัง เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 17:51:41

ความคิดเห็นที่ 10 มาต่อค่ะ แอบไปรับเจ้าตัวแสบมา      คุณหมอก็ซํกประวัติลูกชายเรื่อยๆ จนมาถึงน้องเป็นโรคภูมิแพ้ตั้งแต่ตอนเล็กๆค่ะ คุณแม่ก็บอกคุณหมอว่า น้องตัดต่อมทอมซิลกับอะดีนอยไปตั้งแต่สามขวบครึ่งค่ะเพราะน้องหายใจไม่สะดวก มีอาการหยุดหายใจเป็นพักๆ แต่หลังจากตัดทอมซิลไปดีขึ้นมาก หวัดและน้ำมูกคุณแม่ไม่เคยเห็นอีกเลย           คุณหมอเลยส่องจมูกดูค่ะ คุณหมอบอกคุณแม่ครับ โพรงจมูกน้องบวมมาก ภูมิแพ้คงไม่ได้หายไปไหน แต่ไม่ได้แสดงอาการให้คุณแม่เห็นเท่านั้น คุณหมออธิบายให้ฟังว่า เพราะโพรงจมูกน้องบวม น้องเลยหายใจเอาอากาศไปเลี้ยงสมองได้ไม่เท่าเด็กทั่วไป ก็อธิบายได้ว่า ทำไมลูกคุณแม่ มีอาการง่วงเวลาเรียน หรือทำกิจกรรมต่างๆ และพัฒนาการของน้องก็จะช้ากว่าเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน เพราะออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ     คุณพ่อแอบแซวว่า คุณหมอรักษาแบบ บูรณาการมาก มาที รักษาไปหลายโรคเลย น้องเลยส่งตัวต่อไปพบคุณหมอภูมิแพ้ค่ะ     คุณหมอภูมิแพ้ คุณแม่ แอบไม่ปลื้มค่ะ เพราะเป็นหมอผู้หญิง แต่พูดจาไม่น่ารักเลย เจอครั้งแรก คุณหมอก็ส่องจมูกและยืนยันว่าบวมเกือบคับจมูกลูกแล้ว และให้คุณแม่ดูหน้าน้องว่า น้องตาโหลและใต้ตาดำ ซึ่งก็เป็นมาจากโรคภูมิแพ้ของน้องเช่นกัน ถ้าไม่รักษาภูมิแพ้ น้องหายใจเอาออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ น้องก็จะไม่ฉลาด จะพัฒนาน้องก็จะไม่สำเร็จเท่าที่ควร      แต่ช่วงที่คุณหมอตรวจน้องอยู่นั้น น้องก็หมุนๆเก้าอี้เล่น น่าจะเห็นว่ามันหมุนได้ค่ะ เลยหมุนเล่น คุณหมอดุน้อง หยุดหมุนเล่นนะ นั่งนิ่งๆครับ หนูโตแล้ว ไม่ใช่เด็กเล็กๆ วัยนี้ต้องนั่งนิ่งๆเป็นแล้ว  แล้วเธอก็หันมาหาคุณพ่อคุณแม่ว่า คุณแม่ต้องเตือนน้อง ถ้าลูกเราทำกิริยาไม่ดีเราต้องบอกลูก ถ้าเราไม่บอกลูกโตไปเป็นคนไม่ดี ต้องโทษพ่อแม่ เพราะพ่อแม่ไม่สอน เด็กเลยไม่ดี  คุณแม่หน้าชาเลยค่ะ  คุณหมอพูดถูกส่วนนึง แต่แค่เด็กหมุนเก้าอี้เล่นตอนที่คุณหมอคุยกับคุณแม่ คงไม่เสียมารยาทอะไรมากหรอกมั้งเนอะ คุณแม่ก็ได้แต่พยักหน้ารับ ไม่ได้พูดอะไรมาก (แต่เคืองนะ555)      เรื่องรักษาภูมิแพ้ เลยต้องกลับมาล้างจมูกและพ่นยา เช้าเย็นค่ะ    คุณแม่ก็ได้ความรู้ด้วยว่า เด็กที่เป็นภูมิแพ้ต้องดูแลดีๆค่ะ เพราะน้องอาจจะหายใจเอาออกซิเจนไปไม่พอ (โพรงจมูกบวม ใครจะรู้เนอะ ) ทำให้น้องพัฒนาการช้า และไม่ฉลาดได้ค่ะ     โชว์ความรู้เท่าหางอึ่งซะนานเลย55 หนีไปเลี้ยงลูกต่อนะคะ จากคุณ : skyim เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 17:52:59

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นกำลังใจให้ค่ะ UP DATE ผลด้วยนะคะ และก็หวังว่า จากการรักษาครั้งนี้ คุณแม่และน้องจะเข้าใจกันมากขึ้น ^^ จากคุณ : ai_nan เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 19:24:26

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้เยอะเลย จากคุณ : ล่องหนจริงๆนะ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 21:41:16

ความคิดเห็นที่ 13 ผมก็เคยเห็นหลายครั้งแล้วนะครับ พ่อแม่ชอบป้อนเทคโนโลยีให้อะไรประมาณนี้นะครับ อย่างเช่น ตอนผมอยู่บนรถไฟฟ้าตอนเช้า แม่หลายคนเอา ไอแพด ไอโพน ให้ลูกดูการ์ตูนก่อนไปโรงเรียน เวลาเข้าโรงเรียนก็ไม่มีสมาธิในการเรียน เพราะอารมณ์ค้างจากการ์ตูนอยู่นะครับ พ่อแม่สมัยนี้ชอบเลี้ยงให้เป็นเด็กสมาธิสั้นจริงๆเลยนะครับ เด็กที่เป็นสมาธิสั้นอยู่แล้วก็ให้เล่นเกม เป็นสมาธิสั้นหนักเอาไปอีก ผมคิดว่าตอนเช้าระหว่างเดินทาง แม่ๆทั้งหลายที่ส่งลูกไปโรงเรียน ผมคิดว่าน่าจะคุยกับลูกบ้างนะครับ เช่น วันนี้หนูจะเรียนอะไรบ้าง พักกลางวันหนูจะทำอะไรบ้าง ประมาณนี้ เพราะผมเห็นว่าแม่ๆ สมัยนี้(บนรถไฟฟ้า) พูดกับลูกตัวเองน้อยมากเลย บางทีก็เห็นน้องประถม เดินมาหน้าบูดเลย เหมือนไม่อยากไปโรงเรียน เห็นแล้วเหนื่อยใจจัง บางทีผมคิดว่า การที่เราจะทำเรื่องเดิมทุกวัน มันน่าเบื่อนะครับ ผมคิดว่าแม่ๆ น่าจะสร้างสีสัน อย่างเช่น คุยกับลูก เล่าเรื่องที่ทำงานบ้าง เล่าประสบการ์ณชีวิตตัวเองบ้าง ให้ดูสนุกๆ ผมว่ามันจะดีขึ้นเยอะเลยนะครับ จากคุณ : น้องเชาว์ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 21:51:13

ความคิดเห็นที่ 14 ชื่นชมคุณ skyim ค่ะ vote แล้วค่ะ ยังมีพ่อแม่อีกหลายครอบครัว อาจเป็นส่วนใหญ่ ยังไม่เปิดใจกับปัญหาสมาธิสั้น จากคุณ : mom for 2 เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 55 22:08:51

ความคิดเห็นที่ 15 แต่แค่เด็กหมุนเก้าอี้เล่นตอนที่คุณหมอคุยกับคุณแม่ คงไม่เสียมารยาทอะไรมากหรอกมั้งเนอะ เราว่าอาจจะเพราะคุณหมอเห็นว่าคุณแม่ไม่ได้ห้ามน้อง  คุณหมอเลยเตือน เราอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆแต่ถ้าเรื่องเล็กๆๆหลายๆเรื่องมาสะสมกันมันก็จะเป็นเรื่องใหญ่น่ะคะ จากคุณ : แม่น้องออกัส (ช่วงหน้า) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 01:50:20

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนน้องหมุนเก้าอี้ คงรบกวนสมาธิหมอ หมอเลยดุเอา บ้านเราเวลาผู้ใหญ่คุยกัน ต้องนิ่งเป็นสากะเบือ เพราะนิ่งดีกว่าโดนดุ และบางทีก็ติดนิสัยนี้มาเหมือนกัน หลานแฟน เป็นสมาธิสั้นประเภทหนึ่ง คือไม่ใช่แค่ซนมาก มากที่สุดอะไรแบบนี้ แต่น้องจะไม่ฟังอะไรเลย อยากทำอะไรทำ ส่งเสียง เล่นแรง พูดแทรกทั้งวันทั้งคืน เหมือนใส่ถ่านพร้อมชาร์ตแบจในตัว พอได้กินยาหมอ ก็เป็นเด็กปกติไป ไม่เกิน ไม่ล้น แต่ก็ต้องคอยกินยาและเอาใจใส่ตลอด จากคุณ : Aris_L เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 02:13:27

ความคิดเห็นที่ 17 3 ขวบนี่เด็กไปไหมคะในการเอาอาการมาวิเคราะห์? อ่านแล้วนอยด์มาก ลูกเราก็คล้ายๆอยู่ แถมเป็นภูมิแพ้อีก ขนาดล้างจมูกเกือบทุกวันแล้วนะ T_T จากคุณ : via iPad (Rada Nene) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 02:38:11

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องหมุนเก้าอี้ เราเห็นว่าควรปรามลูกคุณค่ะ ไม่ต้องดุ แต่ใช้น้ำเสียงเย็นๆ อ่อนๆ แล้วเบี่ยงเบนกิจกรรมค่ะ เราเคยบอกผู้ปกครองเด็กอายุ 14 ว่า ลูกคุณแม่น่าจะมีอาการบางอย่างที่น่าจะหาหมอ เพราะสอนไป เด็กไม่ช้า แต่ลืมเร็วมาก  พ่อแม่เด็กไม่เชื่อค่ะ ซ้ำยังทำโทษว่าลูกตัวเองขี้เกียจ ไม่ตั้งใจ  พอไปตรวจ ก็สมาธิสั้นจริงๆ ค่ะ  ครูสมัยประถม 6 รู้เข้า เค้ายังไม่เชื่อว่าเด็กคนนี้เป็น (โดปามีนหลั่งมาน้อย ทำให้สมาธิไม่นิ่ง  เราเจอทั้งสั้นแบบซน และสั้นแบบนิ่งเลยนะ สั้นแบบนิ่งมีแนวโน้ม ครูจะไม่รู้ง่ายกว่า เพราะนึกว่าเด็กเฉื่อย หัวช้า) เอิ่ม ครูคะ ครูสอน 40-50 คน แต่เราสอนแค่ 8 คนเอง  แล้วครูบางคนก็ไม่ได้สนิทกับเด็ก บางทีก็พูดเอาใจผู้ปกครองไปงั้นๆ ก็เยอะ ส่วนคนที่พูดเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาให้ลูกคุณ ผู้ปกครองส่วนมาก จะปิดหูตัวเอง จนหลายครั้ง ก็ไม่อยากบอก หากเจอผู้ปกครองประเภท เข้าข้างลูกตัวเองเกินไป แต่พอลูกทำไม่ได้ก็ด่า ทำโทษลูก ดีไม่ดีพาลมาที่เราอีก . จากคุณ : moonface เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 06:09:25

ความคิดเห็นที่ 19 อาการคล้ายกันเลยค่ะ อ่านแล้วนึกว่าลูกตัวเองและตัวเองซะอีก ตอนนี้กลุ้มใจอยู่มากเหมือนกัน แต่กำลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันชุดใหญ่ทั้งบ้าน (พ่อแม่นี่แหละตัวแปรที่สำคัญที่สุด) ของเราให้ลูกลด การ์ตูน ไอแพด เกมส์คอมพิวเตอร์ ยังไม่หักดิบ แต่ไม่ตลอดเวลาเหมือนเมื่อก่อน ยอมรับว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ดาบสองคม และมีผลเสียต่อเด็กมากจริงๆ ความรัก ความอบอุ่นของพ่อแม่สำคัญมากสำหรับลูก จากที่เจอกับตัว รู้เลยว่าสิ่งของข้างบนไม่ต้องมีก็ได้ สำหรับลูกขอแค่มีพ่อแม่คอยเล่นกับเค้าก็พอ รบกวนถามว่าคุณแม่พบคุณหมอที่ไหนคะ ขอเป็นข้อมูลเผื่อไว้เป็นไม้สองถ้าปรับพฤติกรรมพ่อแม่ลูกแล้วไม่ดีขึ้นค่ะ จากคุณ : ลูกชายคนแรก เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 07:49:32

ความคิดเห็นที่ 21 มาให้กำลังใจจขกท. เข้าใจดีทุกอย่างเพราะลูกชาย (ป.1/7ขวบ) เราก็เป็นโรคนี้อยู่ และกำลังอยู่ในระหว่างการรักษา ซึ่งต้องใช้ความพยายามกันอย่างมากทั้งเด็กและผู้ใหญ่..สู้ๆไปด้วยกันคะ จากคุณ : โมลลาโย เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 09:13:32

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่ต้องเกรงใจค่ะ จขกท ก็ชอบฟังเหมือนกัน    เจ้าของกระทู้ รอคิวนานๆของรพ.รัฐ ไม่ไหวค่ะ เบิกไม่ได้ด้วย เลยตัดสินใจเป็นเอกชน  รพ บางปะกอก9 ค่ะ คุณหมอผู้ชาย พูดจาน่ารักค่ะ     เมื่อก่อนจขกท ก็เป็นเหมือนหลายๆท่านที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ คือสับสน ไม่แน่ใจว่าลูกเราสมาธิสั้นจริงรึป่าว เลยใช้วิธีปรับพฤติกรรมเอา ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะลูกเราเนอะ ก็มีใจอ่อนบ้างเวลาทำหน้าหมาสงสัยมา แม่แพ้ทางทุกที ลูกชายก็เหมือนจะรู้ ทำบ่อยเหลือเกิน55     จขกท ก็พลัดผ่อน ที่จะมาพบจิตแพทย์เด็ก ไปเรื่อยๆๆๆ ตั้งแต่สี่ขวบ จนตอนนี้หกขวบกว่าแล้ว แนะนำคุณแม่ๆว่า ถ้าไม่แน่ใจ ก็ไปให้คุณหมอประเมินเหอะค่ะ ถ้าไม่ใช่ คุณหมอจะทราบ บางทีลูกเราอาจจะแค่เครียด ปรับตัวในการไปโรงเรียนไม่ได้ หรือ คุณแม่ดุเกินไป จนลูกกลัวคุณแม่ คุณหมออธิบายเกี่ยวกับความกลัวที่ทำลายสมองเด็กมาซะยาวยืด และสรุปท้ายว่า น้องกลัวคุณแม่ครับ  แง่ววว-_-"    คุณแม่ก็กลับมามองตัวเอง เออ ลูกกลัวเราจริงๆนะ เพราะเราเป็นคนเป๊ะ เกินไปค่ะ  คุณแม่เป็นคนดุ มีแต่คนชมว่าดีนะลูกกลัวแม่ ลูกไม่ดื้อเลย  เพิ่งรู้ว่าจริงๆแล้วเป็นผลดีกับแม่ แต่เป็นผลเสียกับลูกค่ะ คุณแม่คงได้ทำลายสมองน้องไปซะมากมาย คุณแม่เลยเริ่มต้นใหม่ค่ะ น้องเองก็คงได้ผลดี ที่ได้แม่น่ารักๆกลับมาด้วยค่ะ จากคุณ : skyim เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 09:28:43

ความคิดเห็นที่ 23 หาหมอที่ไหนคะเนี่ย เราว่าหมอวิเคราะห์ได้ดีค่ะ แถมตรวจรอบด้านด้วย ^^ จากคุณ : nitimajeng เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 10:09:19

ความคิดเห็นที่ 25 พยายามนะคะ เลี้ยงน้องพิเศษ การสอนต้องทำทุกวันสม่ำเสมอ ทุกเวลา ประเมินน้องอยู่เสมอว่าการกระทำของเค้ามีเหตุจากอะไร พยายามหาทางให้เค้าแก้ไขได้ด้วยตัวเอง สู้ๆ ค่ะ จากคุณ : ผ่านมาแล้วเหมือนกัน (แอนมนพั๊นซ์) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 10:18:37

ความคิดเห็นที่ 26 จาก คห10 อ่านๆ ดุ คุณแม่ ก็​แอบสปอย ลูกเหมือนกัน นะ เราชอบออกที่เจอคุณหมอ หรือ ใครที่พูดตรงๆ แบบนี้ เราจะได้มองออกว่า คนอื่นเขาเห็น ไม่เหมือนที่เราเห็น จากคุณ : ทุเรียนสีชมพู เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 10:28:15

ความคิดเห็นที่ 27 เป็นคุณแม่ที่ใส่ใจลูกมากค่ะ เยี่ยมเลย จากคุณ : แมงคิ้ว เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 10:28:27

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟังค่ะ ขอให้ผลการักษาผ่านไปด้วยดีนะคะ จากคุณ : เจนนี่เจ้า เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 10:36:15

ความคิดเห็นที่ 31 "หมุนเก้าอี้" ในสถานการณ์แบบนี้ คุณแม่ควรปรามค่ะ เพราะเป็นมารยาทแบบหนึ่งที่ควรพึงทำได้ตามวัยเวลาออกไปข้างนอกค่ะ อย่าเคืองคุณหมอเลยค่ะ เค้าหวังดีค่ะ บางทีเส้นผมบังภูเขา เราเป็นแม่ก็มองไม่ออก..ต้องให้คนอื่นช่วยค่ะ ขอให้น้องหายเร็ว ๆ ค่ะ จากคุณ : twas เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 10:39:30

ความคิดเห็นที่ 32 ลูกเราก็เป็นสมาธิสั้นแบบเฉื่อยเหมือนกันค่ะ รอคอยไม่เป็นจะเร่งตลอดเวลา พูดติดอ่างเป็นบางครั้งโดยเฉพาะเวลาเรียกแม่จะเรียก "แม่ครับ" ประมาณ 5-6 ครั้งกว่าจะพูดต่อได้  ตอนนี้ก็พาไปเรียนศิลปะกับว่ายน้ำ คงต้องพาไปพบจิตแพทย์บ้างแล้ว รบกวนถามคุณใจเดียวกันว่านัดรพ.รามาต้องโทรไปแผนกไหนค่ะ แล้วเค้ามีนัดเสาร์ อาทิตย์หรือเปล่า หรือว่าต้องไปวันธรรมดาเท่านั้น จากคุณ : อยากเป็นแม่ที่ดี เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 11:20:35

ความคิดเห็นที่ 33 ขออนุญาตปรึกษาเจ้าของนะคะ ลูกเราก็มีอาการแบบนี้เหมือนกัน ตอนนี้ 8ขวบ อยู่ ป.2 แล้วเขียนงานไม่เสร็จเป็นส่วนมาก คือ 90 % เลยล่ะคะตอนนี้ให้เอากลับมาทำต่อที่บ้านทุกวัน เป็นแบบนี้มาตั่งแต่ป.1 เขียนช้ามาก ได้ยินเสียงอะไรนิดหน่อยก็แว็บมอง น้องคุยหรือเล่นอะไรใก้ลๆก็ไม่ได้ แล้วเค้าก็ขี้กังวลแบบที่คุณหมอบอก เพราะเราก็ดุ พ่อเค้าก็ดูมากตะหวาดที่เสียงดังมาก เราเองก็ยอมรับว่าละเลยการตรวจดูกระเป๋าของลูกหรืองานต่างๆของเค้า เนื่องจากตอน ป.1 คุณครูให้เอาหนังสือไว้โรงเรียนทั้งหมด เพราะจะให้เด็กจำได้ว่าเล่มไหนคือวิชาอะไร เราจึงไม่เคยได้เห็นสมุดหรือหนังสือของลูกเลย ว่างานไม่เสร็จ แล้วหนังสือก็เยอะมากลูกไม่ยอบแบกกลับบ้าน ให้เอากลับก็ลืมตลอด ตอน ป.1 นั่งรถนักเรียนด้วยเลยตามลำบาก ตอนนี้ไปรับ-ส่งเองเลยตามงานได้เยอะขึ้น แต่เขียนช้าแบบว่า 3-4 วิชาไม่เสร็จสักอย่างเลยอ่ะคะ เราควรพาไปพบหมอดีมั้ยคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ปิ่น เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 11:49:05 A:101.109.214.248 X: TicketID:245846

ความคิดเห็นที่ 34 ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่กับคุณลูกผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ แล้วมาเล่าให้ฟังอีกนะคะไปหาคุณหมอตามนัดมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง จากคุณ : Sky2009 เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 12:06:35

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ ปิ่น  ควรค่ะ เพราะลูกเราก็เป็นเหมือนกันเลยค่ะ ถ้าลูกไม่ได้สมาธิสั้นจริง คุณหมอจะประเมินเองค่ะ เพราะคุณหมอก็บอกว่าเด็กบางคนก็ช้าเป็นธรรมชาติของเค้าค่ะ จากคุณ : skyim เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 12:14:06

ความคิดเห็นที่ 36 มีลูกชาย 2 คน คนโต ปอหนึ่ง คนเล็ก อนุบาลหนึ่ง เราว่าลูกคนโตเราก็ ช้าๆ นะ ทำการบ้านพร้อมกัน เขาจะไม่ค่อยสนใจ การบ้านตัวเอง..เราเอ็ดเรื่อย..ว่า ทำของตัวเอง สนใจแต่ของน้อง ว่าอันนั้น ต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้.. เวลามีปัญหา เช่นโดนเอ็ด หรือไม่สบายใจ..จะปวดท้อง.. ลูกเราเล่นเกมไม่บ่อย ออกจะขาดความมั่นใจ แต่ดูการ์ตูนบ่อย อย่างนี้ต้องไปหาหมออะไรคะ หมอเด็ก ต้องไป รพ.รัฐ เอกชน หรือไปคลินิค ยังไงคะ.. รบกวนด้วยนะคะ จากคุณ : yamplu เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 12:16:39

ความคิดเห็นที่ 37 คุณอยากเป็นแม่ที่ดี นัดรพ.รามาต้องโทรไปแผนกไหนค่ะ >> เบอร์แผนกผู้ป่วยนอกจิตเวชศาสตร์ รพ.รามา 02-200-300 ต่อ 61211 , 61212 โทรถามเวลา 13.00 - 15.00 น. แล้วเค้ามีนัดเสาร์ อาทิตย์หรือเปล่า หรือว่าต้องไปวันธรรมดาเท่านั้น >> ของเราไปวันธรรมดาค่ะ จ.-ศ. 8.00 - 12.00 น. แต่มีคลีนิกพิเศษวันธรรมดา 16.30 - 19.00 น. และวันเสาร์ 9.00 - 12.00 น. ด้วยค่ะ แว่บไปชอปก่อนค่า จากคุณ : ใจเดียวกัน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 12:24:30 A:110.168.110.130 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 38 @ Bill_Minnie คือที่คุณบอกว่าลูกเป็นเด็กภาวะโลกส่วนตัวสูง อาการของน้องเป็นยังไงเหรอคะ คือหลานดิฉันก็เหมือนจะเป็นแต่ไม่รู้ว่าเป็นรึเปล่าค่ะ เป็นกำลังใจให้ จขกท.นะคะ จากคุณ : รักมากที่สุด เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 12:25:00

ความคิดเห็นที่ 39 แผนกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น มีทุก ๆ รพ.ค่ะ ทั้ง รพ.รัฐ และเอกชน เราคิดว่าถนัด สะดวกใกล้บ้านที่ไหนก็ไปที่นั่นจะดีกว่า จากคุณ : อิจิโงะจัง เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 12:31:10

ความคิดเห็นที่ 40 คุณอิจิโงะจัง แผนกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น มีทุก ๆ รพ.ค่ะ ทั้ง รพ.รัฐ และเอกชน เราคิดว่าถนัด สะดวกใกล้บ้านที่ไหนก็ไปที่นั่นจะดีกว่า >> ใช่ค่ะ แต่อย่าลืมนะคะว่าการรักษาไม่ใช่แค่ครั้งเดียวจบ มันต่อเนื่อง และยาวนาน ถ้าเบิกไม่ได้เจอค่าหมอ + ค่ายาไปรวมๆ แล้วก็หลายอยู่นะคะ คุณหมอบอกว่าแล้วแต่เคส อาจจะทุกสัปดาห์ ทุก 2 สัปดาห์ หรือทุกเดือน ... จากคุณ : ใจเดียวกัน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 15:17:23 A:110.168.110.130 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ skyim ไปบางปะกอก9 ค่าหมอเท่าไหร่คะ แชร์กันค่ะ จากคุณ : ใจเดียวกัน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 15:19:00 A:110.168.110.130 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 42 ลูกก็เป็น แบบนี้เหมือนกัน ซนมาก นั่งปั้นดินน้ำมันได้ไม่นาน ก็ลุกไปทำอย่างอืน อีกแล้ว จากคุณ : spri_fifa เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 15:24:00

ความคิดเห็นที่ 43 หลานชายเราก็เป็นสมาธิสั้นค่ะ แต่เป็นแบบไฮเปอร์ค่ะ  รักษาที่รพ.ชลบุรี คุณหมออนุพงศ์ ใช้สิทธิบัตรทอง  หาหมอตั้งแต่ 4 ขวบ  ตอนนี้ 14 ขวบ ไม่ต้องกินยาแล้วค่ะ อาการตามคห.ข้างบนบอกทุกอย่างค่ะ  ไม่มีสมาธิ  ซนล้างผลาญกันทีเดียว รอคอยไม่ได้เลย  ตอนนี้ไม่ได้กินยามา 2 ปีแล้วแต่เราว่ายังมีอาการอยู่บ้าง เพราะเวลาบอกให้ทำอะไรจะล่กๆๆ ทำ  แบบไม่คิดค่ะ  เหมือนไม่มีสมาธิฟัง แต่เรียนดีพอใช้  ไม่ดีมากเหมือนตอนเรียนประถม ตอนนี้แอบกลัวซ่าหริ่มจะเป็นนิดหน่อย เพราะซนมากเหมือนกันค่ะ แต่ก็ยังว่าไม่น่าใช่  ต้องรอดูต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคนที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษไม่ว่าแบบไหน สู้ๆนะคะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 15:30:40

ความคิดเห็นที่ 44 แม่ยายซ่าหริ่ม >> ใช้สิทธิบัตรทองก็ไม่ต้องเสียค่ะ พอดีสิทธิ์ของลูกเราอยู่คลีนิคเวชกรรมแถวบ้าน และรพ.ต้นสังกัดของคลีนิกเวชกรรม คือรพ.แพทย์ปัญญา (ไกลบ้านมากๆ) แล้วเราโทรไปถามรพ.แพทย์ปัญญา จนท.บอกว่าถ้าใช้สิทธิบัตรทองต้องให้คลีนิคเวชกรรมนัด เพราะหมออยู่เฉพาะวันอังคาร บ่าย มาคำนวนดูแล้วค่ารถมันไม่คุ้ม ป.ล.พี่ซ่าหริ่ม กับน้องสาคูสบายดีนะคะ >> เราแฟนพันธุ์แท้บ้านไม่ทาสีเลยนะคะ จากคุณ : ใจเดียวกัน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 15:45:37 A:110.168.110.130 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 45 เสียทรัพย์ไป 2800 ค่ะ รวมรักษาภูมิแพ้ด้วยนะคะ จากคุณ : skyim เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 15:51:20

ความคิดเห็นที่ 46 ขออนุญาตจขกท.นะคะ คุณใจเดียวกันไม่มีหลังไมค์นิ ขอบคุณค่ะ  เดี๋ยวไว้เค้าแต่งได้เยอะๆจะเอาไปรีวิวอีกทีค่ะ แต่ว่าแต่งแบบไม่มีงบแล้วนะคะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 16:21:57

ความคิดเห็นที่ 48 แม่ยายซ่าหริ่ม >>> รอค่า จากคุณ : ใจเดียวกัน เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 16:28:25 A:110.168.110.130 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณที่นำมาแชร์ค่ะ...เรื่องแบบนี้เป็นประโยชน์มากเลย ไว้ให้แม่มือใหม่อย่างเราเก็บไว้สังเกตุอาการลูก ได้ทั้งเรื่องพัฒนาการและได้ทั้งการเลี้ยงดูของผู้เป็นแม่ จากคุณ : cheerydoll เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 16:43:11

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่ใช่แค่การสื่อสารนะคะ การเห็นร่วมกันสำหรับบ้าน+โรงเรียน สำคัญมากค่ะ เพราะยาที่หมอให้หลานเรากิน  กินเช้าและกลางวัน ต้องคอยให้คุณครูดูแลการกินยาให้ด้วยค่ะ และแชร์ให้แม่ๆ ดูแลนิดนึงค่ะ เคยมีการจ่ายยาผิดค่ะ  คุณหมอสั่งยามาแต่ห้องยาจ่ายผิดค่ะ แม่หลานก็คิดว่าหมอเปลี่ยนยาค่ะ  และหลานเราก็มีปัญหาทันที เพราะอาการป่วนไม่หยุด  ครูก็ว่ายาก็กินทำไมเป็นแบบนี้ วันนั้นลางานไปโรงเรียนเลยค่ะ แม่มันพูดขึ้นมาคำว่าหมอเปลี่ยนยา  เลยไปรพ.แทน ปรากฏว่าห้องยาจ่ายยาผิด  หมอเรียกมาด่าซะค่ะ แล้วไม่รู้ลงโทษกันยังไงค่ะ เลยฝากว่า  ให้เช็คนิดนึงถ้ามีอะไรเปลี่ยนไป การรักษาจะเปลี่ยนไปเลยค่ะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 16:57:07

ความคิดเห็นที่ 51 ลูกชาย อายุ 6 ขวบ ก็ไปพบจิตแพทย์เหมือนกันค่ะ ตอนแรก ไม่ได้สนใจเพราะว่าน้องเป็นเด็กที่ชอบอ่านหนังสือมาก เราเป็นแม่ก็เห็นว่าลูกเก่ง ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร พอดีมาย้าย ร.ร ตอน อ.3 ครู ร.ร ใหม่ทักว่า น้อง ต้องคอย บอกตลอดเวลา คือทำได้ แต่ทำงานได้ไม่เสร็จ ต้องคอยบอก ก็เลย พาไปหาหมอ ที่ ร.พ เอกชน เกี่ยวกับจิตเวทย์ แถวบางนา คุณหมอ ก็ ระบุว่าสมาธิสั้น บวกกับกล้ามเนื้อไม่แข็งแรง เพราะ ลูกชาย ยัง ยืนขาเดียวไม่ได้ คุณหมอก็ให้ไป ฝึก แต่จะเป็นเกี่ยวกับด้านพัฒนาการร่างกายมากว่า ไป 1 ชม. ก็ 700 กว่า ทุกอาทิตย์ ก็เห็นว่า สู้ไ่ม่ไหว ก็ มีคนแนะนำ ให้โทรไปที่ รพ. จุฬา รอประมาณ เดือน กว่า ๆ ก็ได้คิวมาค่ะ  หมอที่จุฬาตรวจละเอียดมาก ๆ แถมยังส่ง ต่อไป อีก หลายแผนกเลยค่ะ ค่ารักษาก็ ครั้ง ละ 50 บาท แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 55 17:00:57 จากคุณ : เสือบวกหมูเท่ากับหมา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 16:59:42

ความคิดเห็นที่ 52 ต่อค่ะ แต่หมอ ที่ รพ จุฬา ที่แผนกจิตเวช ก็แจ้ง ว่าน้องไม่ได้สมาธิสั้นนะคะ แต่ว่าส่งไปอีกแผนกนึง ที่เกี่ยวกับ พัฒนาการ ก็บอกว่า น้อง มีพัฒนาการ เท่าเด็กอายุ 6 ขวบ บางอย่าง 7 ขวบด้วยซ้ำ้ ยกเว้น ด้านร่างกาย เท่า 4 ขวบ แต่ก็บอก เรื่องสมาธิ ต้องดูอีกที ตอน ป.1 ถ้า ยังไม่ดีขึ้น ต้องทานยา เพราะไม่งั้่น จะเรียน ไม่ทัน แต่เรื่องอ่าน ภาษาไทย น้องอ่านได้เก่งมาก อ่านแบบไม่ต้องสะกดเลย คือมองปั๋บ อ่านได้เลย คำยาก ๆ ก็อ่านได้ แต่ จะเสียเรื่องเขียน คือเขียนช้า ลายมือไม่สวย เดือนหน้า คุณหมออีกแผนกนึงก็นัดไปทำ กายภาพ ฝึกกล้ามเนื้อค่ะ จากคุณ : เสือบวกหมูเท่ากับหมา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 17:05:45

ความคิดเห็นที่ 53 คห.ที่ 40 คุณใจเดียวกัน ใช่ค่ะ รพ.เอกชนจะแพงกว่ามากแต่ถ้า ผปค.ท่านไหนสะดวกก็สามารถไปได้ค่ะ ถ้าไม่สะดวก รพ.รัฐ ก็มีเก่ง ๆ ด้วยทั้ง รพ. จุฬา ฯ   รพ.ศิริราชเป็นต้นค่ะ มีทั้งคลีนิคในเวลา และนอกเวลา นอกเวลาก็ราคาแพงพอ ๆ กับเอกชน สามารถ โทรไปสอบถามได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : อิจิโงะจัง เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 17:42:01

ความคิดเห็นที่ 54 ตอนที่น้องยังเด็กๆ โดนคุณครูบอกว่า สมาธิสั้น ให้พาลูกไปพบจิตแพทย์เถอะ ที่บ้านป๊ากับแม่เป็นเดือดเป็นร้อนมากเลยค่ะ มาว่าลูกฉันยังงี้ได้ยังไง แต่คุณแม่ก็พาไปนะค่ะ เพราะว่ามีเพื่อนของน้องอีกคนก็เป็นเหมือนกัน สรุปว่าน้องเป็นพวกไฮเปอร์ นิสัยกัดเล็บก็หายไปค่ะ โหวตกระทู้นี้ให้ค่ะ อยากให้คุณพ่อคุณแม่ทำความเข้าใจกับการหาจิตแพทย์และดูพัฒนาการลูกๆค่ะ (แต่ในส่วนของเด็กจะพาไปหาคุณหมอในแผนกพัฒนาการเด็กนะค่ะ) เพราะพฤติกรรมบางอย่างก็เป็นปมที่ทำให้เด็กมีพฤติกรรมแบบนั้นค่ะ จากคุณ : caez_nista เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 18:36:33

ความคิดเห็นที่ 55 ขอเสริมเรื่องสมาธิสั้นนะคะ  มันจะมี 2 แบบค่ะ คือ 1. สมาธิสั้นแท้  ประเภทนี้ถือว่า born to be ก็ได้น่ะ คือ จะเป็นแต่กำเนิดค่ะ มีความบกพร่องที่ตัวพันธุกรรมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาท Dopamine  อาการจะแสดงออกแต่เด็กค่ะ  แต่ยังสังเกตได้ยากอยู่  พอโตถึงสังเกตได้ง่ายขึ้น การรักษาไม่สามารถหายขาดค่ะ เพราะเราเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมไม่ได้ แต่สามารถที่จะให้ยาไปช่วยให้พฤติกรรมเหมาะสมได้น่ะ   2. สมาธิสั้นเทียม อย่างที่หลายๆคห. พูดถึง เป็นเรื่องของการเลี้ยงดูค่ะ สื่อต่างๆ ถ้าปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู เด็กก็ดีขึ้นได้น่ะ มีหลายงานวิจัยเหมือนกันที่ศึกษาว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์แล้วได้รับสารต่างๆ ควันพิษ แฮลกฮอล์ ก็มีผลทำให้ลูกมีภาวะสมาธิสั้นได้เหมือนกัน และการที่เด็กได้รับสารพิษอย่างพวกปรอท ตะกั่ว ก็ส่งผลกับระดับสมาธิของเด็กน่ะ นอกจากนี้ถ้ามีบรรพบุรุษเป็นสมาธิสั้น ลูกก็เป็นได้เหมือนกัน อย่างที่บอกแบบสมาธิสั้นแท้ จะบกพร่องในส่วนของพันธุกรรมเลยน่ะ โรคนี้มันค่อนข้างใหม่ พึ่งเข้าไทยมาประมาณ 30 ปีได้ เราเลยไม่ค่อยได้ยินว่ารุ่นปู่รุ่นย่าเป็นโรคนี้กัน เพราะสมัยนั้นยังไม่มีการวินิจฉัยที่ชัดเจน ทั้งที่จริงแล้วหลายคนในสังคมที่โตๆ ก็เป็นสมาธิสั้นกันเยอะนะ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 55 19:26:12 จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 19:23:23

ความคิดเห็นที่ 56 เป็นกำลังใจให้ค่ะ และเห็นด้วยค่ะ  ว่าการเป็นแม่คนนั้น  เราจะได้เรียนรู้ และเติบโต ไปพร้อมกับลูกของเรา สู้ต่อไปค่ะ ^^ จากคุณ : คัสซีโอเพย่า เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 20:23:39

ความคิดเห็นที่ 57 ลูกชายก็ไปหาหมอที่ รามา  มาแล้วเหมือนกันค่ะ  เมื่อวันที่ 12 พ.ย.55 นี้เองค่ะเป็นครั้งแรกที่แผนกจิตเวชเด็ก ชั้น 9 ตึกพระเทพ เมื่อคุณใจเดียวกันค่ะ   แต่เป็นคลีนิกพิเศษเย็นค่ะ  ได้เข้าตรวจคนแรกเลยค่ะ ตอน 16.30 น.   คุณหมอพูดคุยนานมากค่ะ ถามประวัติการเลี้ยงดู รวมถึงคนที่เลี้ยงดูเลยค่ะ ออกมาจากห้องตรวจอีกที 6 โมงเย็นเลยค่ะ  แล้วก็ให้แบบประเมินพฤติกรรมมาให้ครูประจำชั้นจดค่ะ    นัดอีกทีวันเสาร์ที่ 25 พ.ย.55 ค่ะ  เพื่อมาดูกันอีกที มีค่าตรวจกับค่าคลีนิกพิเศษประมาณ 900 บาทค่ะ จากคุณ : pummy_beauty เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 20:42:05

ความคิดเห็นที่ 58 ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ แต่ปัญหาที่บ้านเราคือ ปู่กับย่าค่ะ ตามใจหลานมากจนเราคนเป็นแม่ทนไม่ไหว เค้าไม่ได้เลี้ยงหลานนะคะ แค่ให้อยู่ด้วยเป็นบางเวลายังทำให้ลูกเราเถียงเราไฟแลบเลยค่ะ จะไม่ให้ไปหาก็หาว่ากีดกันอีก จากคุณ : ออยล์ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 22:08:38

ความคิดเห็นที่ 59 เท่าที่อ่านมา ไม่ได้จะอคติหรืออะไรนะครับ เพราะไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ผมว่าคุณแม่(จขกท)บางครั้งมองมุมตัวเองมากไปครับ บางครั้งเราก็ต้องปรับปรุงด้วย อย่างเช่น เรื่องหมุนเก้าอี้ คุณแม่อาจมองว่าไม่เสียมารยาทอะไร แต่คุณหมอเค้าไม่ได้ต้องการจะสื่อถึงเรื่องมารยาทครับ คุณแม่ต้องคิดและวิเคราะห์ให้ดีครับว่าเค้าหมายถึงอะไร ผมว่าคุณหมอพูดถูก ..คุณแม่ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญกับพัฒนาการของน้องด้วย สรุป ทั้งพ่อแม่ลูก ต้องสู้ไปด้วยกันครับ ผมเชื่อว่าจะผ่านไปได้ด้วยดีแน่นอน สู้ๆ ทุกคนเป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : ^ ^ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:23:27 A:110.171.76.98 X: TicketID:334295

ความคิดเห็นที่ 60 บางที เด็กทำพฤติกรรมที่รบกวนคนอื่น แต่แม่เห็นจนชินเลยลืมนึกไปว่ามันผิดปกติ หรือมันไม่เหมาะค่ะ อย่างแม่พาลูกไปกินข้าวกับเพื่อน ลูกก็เคาะโต๊ะ เคาะจานชามเล่น แม่ก็คุยไปไม่สนใจ จนคนเป็นเพื่อนบอกว่าให้ลูกหยุดเถอะเสียงมันหนวกหูมาก แม่เด็กเลยขอโทษและหันไปห้ามลูก บอกว่าได้ยินจนชินเลยไม่รู้สึกอะไรค่ะ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 06:25:39

ความคิดเห็นที่ 61 เพิ่มเติม คห.47 (รีบไปรับลูก) >>สรุปค่ารักษาครั้งที่ 2ไม่รู้จะไปเมื่อไหร่เลย skyim >> จขกท. รายงานตัวด่วน จากคุณ : ใจเดียวกัน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 08:19:31 A:110.168.78.46 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 62 พิมพ์มาเยอะ หายหมดเลย YY >>สรุปค่ารักษาครั้งที่ 2 = 350 บาท (ค่าตรวจ 50 + ค่ายา 50 เม็ด @ 6) สั้นๆ แค่นี้ดีกว่า จากคุณ : ใจเดียวกัน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 08:21:33 A:110.168.78.46 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 63 แม่ยายซ่าหริ่ม >> ขอบคุณที่เตือนเรื่องยาค่ะ ยาที่หมอจ่ายให้ลูก เราไม่ได้ให้ในทันทีหรอกค่ะ ก่อยให้ลูกกินก็ให้น้อง (เภสัชกร) ไปถามเพื่อน (หมอ) ก่อน แถมพ่อของลูกบอกว่าให้แม่ทดลองกินดูผลข้างเคียงของยาก่อนด้วย (เวียนศรีษะและเบื่ออาหาร) pummy_beauty >> ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่า เข้าใจมาตลอดว่า 200 เท่าคลีนิกนอกเวลาของรพ.เด็ก ต่างกันเยอะเลย 50 กับ 900 แอบแรงเหมือนกันนะคะเนี่ย!! ขอบคุณทุกความเห็น และที่สำคัญขอบคุณ จขกท.ด้วยค่ะ ขอบคุณจากใจค่ะ มีเพื่อร่วมอุดมการณ์เยอะเลย จะบอกว่ามีแย้งหมอด้วยนะว่าไม่ใช่สมาธิสั้นหรอกค่ะ เพราะลูกเราเรียนเก่งออก ซึ่งคุณหมอบอกว่าไม่เกี่ยวกัน แต่คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าสมาธิสั้นคือเรียนหนังสือไม่ได้ จากคุณ : ใจเดียวกัน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 08:49:22 A:110.168.78.46 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อเริ่มสงสัยว่าลูกอาจจะสมาธิสั้น ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะถ้าปล่อยไว้นาน การรักษาก็จะเสียค่าใช่จ่ายมากขึ้น จากคุณ : ประชาชนคนเดินดิน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:19:03

ความคิดเห็นที่ 65 ยังแปร่งๆ หูกับคำว่า "เด็กพิเศษ" อยู่เลยค่ะ สรุปว่า สมาธิสั้น คือ เด็กพิเศษหรอคะ จากคุณ : ใจเดียวกัน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:06:06 A:110.168.78.46 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณที่นำมาแชร์นะคะ...เรื่องแบบนี้เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ การเป็นแม่คนนั้น  เราจะได้เรียนรู้และเติบโต ไปพร้อมกับลูกของเราจริงๆ สองแสบของเรายังไม่ทราบว่าวันข้างจะเป็นอย่างไร สู้ต่อไปค่ะ ^^ จากคุณ : กระรอกถลาลม เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:10:36

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณมากเลยค่ะ ที่นำเรื่องราวมาแชร์ ขอให้คุณแม่และคุณลูก แข็งแรงทั้งกายและใจนะคะ สู้ๆค่ะ ^^ ... จากคุณ : Spirited A's way เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:56:05

ความคิดเห็นที่ 68 รบกวนถาม จขกท และผู้รู้ท่านอื่นด้วยนะคะ ลูกชายคนโตของเราพัฒนาการช้า พูดช้าค่ะ ไปฝึก ศิริราช ตั้งแต่2.6ขวบ ตอนนี้5.2ขวบแล้วค่ะ ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อย ๆ (จากสายตาของแม่) แต่การเขียนหนังสือ +การอ่านยังไม่ดีเลย อ้อน้องค่อนข้างหลุดง่ายด้วยค่ะ คือไม่ค่อยมีสมาธิค่ะ ปัญหาอยู่ที่ว่าปัจจุบันเรียนอยู่อนุบาลแถวบ้าน ที่มีแค่อ1-อ3 เลยอยากย้าย ร.ร.ที่มีชั้นประถมด้วย เผื่อจบอ.3แล้วจะได้ต่อป1.เลย แต่ทางร.ร.ใหม่บอกว่าถ้าย้ายมาแล้วน้องต้องเรียนอ2 ใหม่คือจะช้าไป1ปี เพราะความสามารถน้องไม่ได้ ถ้าเป็นคุณแม่ท่านอื่นจะยอมให้ลูกช้าไป1ปีมั้ยค่ะ หรือจะอยู่ที่เดิมแต่ได้ขึ้นอ.3 รบกวนด้วยนะคะ (ตอนนี้คุณหมอยังไม่สรุปว่าน้องเป็นอะไรกันแน่แต่ให้ฝึกพัฒนาการกับฝึกพูดมาเรื่อย ๆ ค่ะ) จากคุณ : พี่บาร์นี่ บีเจ เบบี้บ๊อบ เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:29:22

ความคิดเห็นที่ 69 น้องชายก็เป็นค่ะ แต่เด็กพวกนี้จะไอคิวสูงนะคะ เค้าจะมีด้านที่ชอบ ส่งเสริมดีๆเค้าจะเก่งด้านนั้น น้องชายเราเป็นแบบอยู่ไม่นิ่งค่ะ หาหมอตั้งแต่อนุบาล ตอนนี้เข้ามหาลัยแล้วค่ะ ก็ยังทานยา ลิทาลีน อยู่ เป็นกำลังใจให้ค่ะ แม่เราก็ต้องปรับตัวเยอะมากเหมือนกัน เพราะเราเป็นเด็กเลี้ยงง่าย พอแม่เจอน้องแม่ตีน้องกระดูกแทบหักอะ เพราะน้องซนมาก.ดื้อมาก พอทราบว่าเพราะเป็นสมาธิสั้น แม่ร้องในห้องหมอเลย จากคุณ : kolanya เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 13:42:14

ความคิดเห็นที่ 70 ไม่อยากให้คุณแม่เครียดกันนะคะ สมาธิสั้นเป็นโรคที่รักษาได้ค่ะ ไม่เกี่ยวกับไอคิว เด็กทุกคนเป็นได้ เป็นแล้วรักษาหายค่ะ ยารักษาก็ปลอดภัยมากค่ะ มีหมอหลายคนเป็นโรคนี้กินยาตั้งแต่เด็ก ก็ดีไม่มีปัญหาค่ะ ประสบความสำเร็จดี แต่ขอให้รักษา อย่าทิ้งไว้ค่ะ สุดท้ายนี้ขอฝาก เพจเฟซบุ๊คของจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น 4 คนที่อาสาเป็นสื่อกลางในการให้ความรู้ในเรื่องเด็กและวัยรุ่น ไปสอบถามอะไรก็ได้ค่ะ มีคุณหมอมาตอบเองเลย http://www.facebook.com/kendekthai จากคุณ : ปอมปอมจัง เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 22:45:11

ความคิดเห็นที่ 71 มาแชร์ข้อมูลครับ ลูกผมเป็นภูมิแพ้ ไปหาหมอที่บำรุงราษ หมอให้ทานแอเรียสทุกคืนครับเพื่อไม่ให้จมูกบวมครับ ยาไม่มีอันตรายแม้จะทานต่อเนื่อง ครับ จากคุณ : jabby (jabbywa) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 07:23:40

ความคิดเห็นที่ 72 จะร้องไห้ค่ะ สู้ๆนะคะ น้องป.1 กับคุณแม่ จากคุณ : ยืมตังค์200 เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 07:33:53

ความคิดเห็นที่ 73 เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ ๆๆค่ะ จากคุณ : kafill (kafill tin) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 12:34:35

ความคิดเห็นที่ 74 เราว่าเรื่องบางเรื่อง จขกท อาจละเลยหรือเข้าข้างลูกมากไปนะคะ การที่เด็กหมุนเก้าอี้เล่นแล้วคุณแม่ไม่ยอมห้ามปรามลูก คุณหมอเลยดุลูกน่ะถูกแล้วค่ะ แล้วเหมือนคุณหมอจะบอกประมาณว่าผู้ใหญ่ไม่สอนด้วยใช่มั้ยคะ ขอโทษที่พูดตรงนะคะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (smallgiant) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 19:10:53

ความคิดเห็นที่ 75 แต่เป็นกำลังใจให้นะคะ และขอบคุณมากๆสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (smallgiant) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 19:34:08

ความคิดเห็นที่ 76 หลานสาวเป็นสมาธิสั้นค่ะ เราซึ่งเป็นคนเลี้ยงก็ไปพบจิตแพทย์แทนแม่เด็กทุกเดือน คุณหมอบอกว่า ยิ่งเร็วยิ่งดี เพราะบางทีการปรับเปลี่ยนการเลี้ยงดูก็ช่วยน้องได้มาก  ส่วนยาคุณหมอจะให้เพราะจะช่วยให้น้องมีสมาธิในการเรียน แต่ด้วยเป็นการรบกวนคุณครู ซึ่งไม่รู้คุณครูจะเอาใจใส่แค่ไหน เลยขอคุณหมองดไปก่อน ตอนนี้ปรับเรื่องการเลี้ยง ปรึกษาคุณหมอกับพฤติกรรมของน้อง คุณหมอจะบอกวีธีจัดการ ปรับ สอน  ผ่านไป 1 ปี เมื่อวานไปคุยกับคุณครู คุณครูบอกว่าน้องปกติดี เรียนได้ ก่อนหน้านี้ คุณครูฟ้องตลอดว่าชอบชวนเพื่อนแตกแถว คุย เล่น ไม่เรียน จำ-ทำไม่ค่อยได้ คุณหมอจาก รามา ค่ะ ไปวันธรรมดา ไกลบ้านจริง แต่ครั้งละ 50 บาท (ค่าตรวจ) จากคุณ : @little pixie@ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 21:12:55

ความคิดเห็นที่ 77 เราเห็นด้วยกับหมอมากที่สุดว่า แม่ การเลี้ยงดูต่างๆเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สุดที่จะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก แล้วที่สำคัญอีกอย่างสำหรับการเป็นแม่ คือ "การฟังลูกให้เป็น" ไม่ใช่แค่เราเป็นแม่แล้วจะสั่งให้ลูกทำตาม หรือการทำตามใจลูกทุกอย่างจะเป็นเรื่องดี หรือการมีลูก แล้วทุ่มเท โอ๋เอาใจทุกอย่าง. สารพัดที่จะให้กับลูกเพราะคิดว่าเราไม่เคยมี จะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง การคุยกับลูก และฟังเรื่องที่ลูกพูด แค่ วันละ. 5-10 นาทีมีความหมายกับลูกมาก อย่าทิ้งเค้าไว้กับข้าวของที่ไม่มีชีวิต ลูกของเราก็จะเปลี่ยนและกลายเป็นสิ่งไม่มีชีวิตตามที่เราทำให้เค้าเป็น ลูกเราก็ 6 ขวบ ความเป็นแม่ทำให้เราสารพัดที่จะกังวล บางครั้งแค่ลูกร้องไห้อย่างไร้เหตุผลเราก็คิดเยอะ(เพราะลูกเราเป็นเด็กที่มีเหตุผลมาก) แต่ทุกครั้งเราจะนั่งคุยถามทำความเข้าใจ ในความคิดของเค้า ฟังสิ่งที่เค้าต้องการจะสื่อออกมาบางครั้งเรมคิดว่าเรื่องเล็กๆในสายตาผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กวัยแค่ 6 ขวบของเค้าอาจจะกลายเป็นโลกทั้งโลกของเค้าเลย เราเองก็พยายามที่จะเข้าใจแล้วบอกได้เลยเด็กแต่ละวัย ทำให้ความเป็นพ่อแม่ของจะต้องอาศัยการเรียนรู้และการเติบโตในความเป็นพ่อหรือแม่ไปพร้อมๆกับเค้านั้นแหละ จากคุณ : วีทีอาร์ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 23:18:00

ความคิดเห็นที่ 78 case ผมเป็นเด็กเล่นเกมตั้งแต่อนุบาล จนตอนนี้เริ่มทำงาน ก็ยังเล่นอยู่บ้าง แม่ควบคุมการเล่นตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ ก็มีหงุดหงิด ทะเลาะกับแม่บ้าง จนเข้ามัธยมแม่เลิกคุม เพราะเห็นเกรดผมเกือบ 4 มาตลอด  ทีนี้ก็เล่นรัวๆเลย  พอจะสอบค่อยอ่านหนังสือ ผมกลับไม่ล้มเหลวด้านการเรียน  เข้ารร.ม.ปลายท็อปได้ ทุนเรียนตรี จบมหาลัยข้างๆ อันดับ1ภาค ทุนต่อโทนอก ฯลฯ แค่อยากบอกว่ามันฟันธงไม่ได้หรอกครับ   ไม่ได้จะบอกว่าเกมดีนะครับ  ถ้าผมมีลูกตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะให้เล่นเกมดีมั้ย อ้อ ตอนนี้ผมก็นิสัยอารมณ์ร้อน ใจร้อน เดินเร็ว อยากเอาชนะ อยู่ครับ (ไม่รุ้เกี่ยวกับเกมป่าว) แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 55 00:31:20 จากคุณ : General Solution เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 00:29:58

ความคิดเห็นที่ 79 อ่านหลายๆความเห็นแล้ว อดน้อยใจไม่ได้ว่า พ่อแม่ส่วนใหญ่ เชื่อ"หมอ"มากกว่าเชื่อ"ครู"  ทั้งๆที่ครูเป็นคนที่สัมผัสและสังเกตุเด็กมากที่สุด ถ้าครูพูดจะตั้งแง่ไม่เชื่อก่อน ในขณะที่หมอแทบจะเพิ่งเคยเจอลูกคุณเดี๋ยวนั้นเองแต่หมอพูดอะไรมากลับเชื่อหมด เหอะๆๆๆ จากคุณ : เด็กเกเรกับอมยิ้มที่ขโมยมา เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 01:22:39

ความคิดเห็นที่ 80 เด็กเกเรกับอมยิ้มที่ขโมยมา ส่วนตัวไม่ได้เชื่อหมอมากกว่าเชื่อครูนะคะ ... แต่ ... คนที่สังเกตุเด็กดีที่สุดคือครอบครัวค่ะ ... และ ... ถ้าตั้งใจจะรักษาแล้ว หมอที่รักษาจะดูเคสลูกเราไปตลอด ส่วนครู พอขึ้นชั้นใหม่ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ มาปรับตัวกันใหม่ อาจจะไม่ต่อเนื่องค่ะ จากคุณ : ใจเดียวกัน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 09:17:05 A:58.11.141.31 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 81 @little pixie@ ไปที่เดียวกันเลยค่ะ (RAMA) รบกวนแชร์เรื่องการปรับพฤติกรรมให้ด้วยค่ะ ของลูกเรามียามากินก็จริง ... แต่ ... ลืมบ่อย ครั้งหน้าจะไปปรึกษาคุณหมอบ้าง ^_^ จากคุณ : ใจเดียวกัน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 09:20:16 A:58.11.141.31 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 82 เราก็ไปที่จุฬาเหมือนกันคะ เราว่ารพ.รัฐอาจจะไม่สะดวกสำหรับแม่ๆที่ทำงานประจำ เพราะมันต้องไปตรวจประเมินเบื้องต้นก่อน แล้วถึงจะส่งต่ออีกที นี่เราไปประเมินเบื้องต้นมาแล้วคุณหมอว่าไม่เป็นค่ะ เค้าบอกว่าให้สังเกตุเวลาคุย ถ้าเด็กสมาธิสั้นจะไม่ค่อยสบตาคนพูดสักเท่าไหร่ แต่คุณหมอก็นัดมาตรวจประเมิณพฤติกรรม อีก 3 เดือนถัดไปค่ะ จากคุณ : viwi_only เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 15:31:13

ความคิดเห็นที่ 83 มาต่อ เรื่องลูกชายป.1ของฉัน พบจิตแพทย์เด็ก ค่ะ จากคุณ : skyim เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 15:49:01