ความคิดเห็นที่ 1 ลูกสาวต้องทำงานหาเงินเองตั้งแต่ 12 ปี บางวันต้องนอนบ้านป้า เพราะพ่อบอกว่า เกิดมาเพื่อรอให้น้องเกิดเท่านั้น (คือแนว ๆ เกิดก่อนน้อง เพื่อให้น้องเกิดอะไรงี้) ทำงานเสิร์ฟที่ร้านใกล้ ๆ บ้าน 15 ปี ทำงานไปเรียนหนังสือไป พ่อไม่อยากให้เรียนหนังสือ บอกเดี๋ยวก็มีผู้ชายมาขอแต่งเอง เงินทอง ku ไม่มีให้ ที่ทำงานทุกวันนี้เพื่อลูกชายเท่านั้น ดวงมันดีก็มีสามีรวย ดวงมันแย่ก็ได้สามีซัีงกะบ๊วย ไม่ต้องให้มันเรียน อยู่ที่วาสนามัน แต่ป้าบอกถ้าไม่มีความรู้มันจะถูกหลอก ได้เรียนโรงเรียนรัฐเหมือนเดิม ซึ่งค่ีาใช้จ่ายน้อย จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 08:51:09

ความคิดเห็นที่ 2 เรียนและทำงานหาเงินใช้เองจนถึง 28 ปี ก็แต่งงาน สินสอดทองหมั้น พ่อคิดเป็นตัวเงิน 2 แสนกว่าบาท ไม่มีเงินก้นถุงให้บ่าวสาว คือรวบไปหมด  เราถือว่านี่คือเงินที่ทดแทนพระคุณพ่อพอสมควรแล้ว  ทางฝ่ายแม่สามีก็ งง เหมือนกัน นึกว่าจะมีเงินก้นถุงให้บ่าวสาว ทุกวันนี้เราทำงานหนักน้อยลง มีเงินเก็บพอสมควร  ทุกปีพ่อจะขอเงินตรุษจีน เราให้เท่าที่ได้ คือ ปีละ 5000 บาท เราบอกเราตั้งใจให้พ่อใช้จ่ายเท่านั้น แต่ท่านก็บอกให้เงินน้อย ไม่พอให้ค่าใช้จ่ายน้อง (น้องมีภรรยาแล้ว ไม่ทำงานทั้งคู่) จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 08:57:28

ความคิดเห็นที่ 3 บ้านที่พ่อกับแมู่อยู่เป็นของพ่อ พ่อได้ยกให้น้องชายไม่นานนี้เอง  เมื่อวานหอบหิ้วเสื้อผ้ามาที่บ้านเรา ถามว่า สามีเอ็ง อยู่ไหม พ่อกับแม่ขอบ้านซักหลังของสามีเอ็งอยู่หน่อย มีสองหลังนี่ ตอนนี้ขอเงินซักก้อนไปเที่ยวบ้างเหอะ เงินที่เอ็งมีให้พ่อใช้บ้าง พ่อหมดไปเยอะกับธุรกิจที่พังเพราะน้อง   เอ็งก็มีเงินเยอะอยู่  พ่อถูกน้องโกง น้องบอกจะเลี้ยงดูพ่อแม่ แต่เพราะเชื่อเมีย เลยไม่หาข้าวหาน้ำให้ ซ้ำยังถูกไล่ออกจากบ้าน จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:04:44

ความคิดเห็นที่ 4 เราทำงานได้เงินน้อยกว่าสามีมาก หรือแทบจะเรียกว่า ไม่มีดีกว่า เพราะรายได้ไม่แน่นอน ลูก ๆ เราก็ต้องเลี้ยงเอง ตอนนี้ สามีให้พ่อแม่อยู่ไปก่อนในบ้านหลังเล็ก (อดีตเป็นชื่อแม่ของเขา แม่เขายกให้ก่อนแต่งงานไม่นาน จึงเป็นชื่อสามี) เมื่อคืน สามีบอกว่า บ้านหลังเล็กนั่น ผู้เช่าเพิ่งออกไปไม่นาน ตอนนี้ขอกลับมาเช่าใหม่เหมือนเดิม เขาต้องการให้คนอื่นเช่าอยู่เพื่อก่อรายได้  แต่ถ้าเราจะให้พ่อแม่อยู่ เราต้องจ่ายค่าเช่า (คือจากที่รู้สึก สามีแสดงออกว่า ไม่ต้องการเลี้ยงดูพ่อแม่ของเรามาแต่ต้นแล้ว ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของเขา ในเมื่อไม่ได้มีพระคุณอะไรกับพ่อแม่เรามาก่อน เขาต้องช่วยทำไม) จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:12:18

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อปาดหน้าครับผม ก็พอเข้าใจว่าจะสื่ออะไรนะครับ เหมือนจะเตือนสติพ่อแม่ที่ทำตัวเอนเอียง แล้วกรรมสนอง ในกรณีนี้ถ้าลูกชังไม่เลี้ยงพ่อแม่ผมไม่ว่าหรอก (แค่อุดหนุนจุนเจือคงพอแล้ว) ใครไม่เคยเจอกับตัวไม่รู้หรอก ถึงผมจะไม่เท่ากับเนื้อเรื่อง แต่เคยเห็นกรณีนี้มาบ้าง บอกตรงๆสงสารลูกชัง แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 09:19:51 จากคุณ : chanapoom เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:18:27

ความคิดเห็นที่ 6 เช้านี้เราเลยให้พ่อแม่อยู่ที่บ้านเรือนหอที่เราอยู่กับสามี ซึ่งมันไม่ได้มีห้องหับจะสามารถอยู่กันได้ เพียงแค่กระซิบก็ได้ยินทะลุกันหมดแล้ว  สามีบอก รู้บ้่างไหมว่า เราน่ะ "โง่" สำนึกพระคุณไม่ใช่ว่าต้องตามใจพ่อแม่ทุกเรื่อง แม่ของคุณยังเดินไหว ยังทำงานได้ แต่ไม่คิดทำ พ่อคุณเดินตัวปลิวกว่าแม่ผมอีก แม่ผมเดินหลังค่อมอายุมากกว่าด้วย ยังทำงาน แต่พ่อแม่คุณนี่ กะว่าจะเกาะคุณกับผม ที่ผ่านมามันคือการวางแผนที่ผิดพลาดของพ่อคุณ ทำไมเราต้องรับความโชคร้ายนี้มาใส่ตัว เงินทองก้นถุงก็ไม่มีให้ ยังคิดมาเกาะเราอยู่อีก ทรัพย์สินที่มีทั้งหมดก็ยกให้ลูกชาย คุณเคยคิดบ้างไหมว่ากี่ศตวรรษแล้วที่ ผู้หญิงต้องเป็นทาสรับใช้ เมื่อไหร่จะปลดเอก คิดเป็น และเปลี่ยนค่านิยม ไม่ให้คนอื่นดูถูกผู้หญิง ว่า "โง่" จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:18:50

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เกี่ยวกับเนื้อกระทู้นะคะ แต่เราคิดว่า พ่อแม่ จะต้องเลี้ยงลูก จนลูกเลี้ยงตัวเองได้ค่ะ เพราะพ่อแม่อยากให้ลูกเกิดมาเอง ก็ต้องเลี้ยงให้ดีที่สุด จากนั้น เมื่อลูกดูแลตัวเองได้ พ่อแม่ก็ต้องดูแลตัวเอง ไม่ใช่มารอขอเงินลูก พึ่งพาลูก คนไทย มักจะเลี้ยงลูก เพื่อให้ลูกเลี้ยงกลับคืนในยามแก่เฒ่า ถ้าลองไม่เลี้ยง พ่อหรือแม่บางคน อาจจะบอกว่า กรูไม่น่าให้.... เกิดมาเลย หน้าจะเอาขี้เฒ่ายัดปาก ตั้งแต่เกิด เอ่อ.. อยากถามกลับจัง ว่าใครอยากจะเกิดวะ ทำให้เกิด ก็เลี้ยงไปสิ จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:20:19

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นค่ะ ใช่ค่ะ   เรายอมรับว่า น้องชายกับน้องสะใภ้ เคยด่าว่า เรา "โง่" จริง  สามีบอกเขาไม่ได้ด่าเราว่า เราโง่จริง ๆ แต่อยากให้ฉุกคิด  มันเป็นปัญหาของพ่อแม่ที่เขาต้องแก้ไขกันเอง ทำไมเราต้องรับมันมาใส่สมอง ใส่ตัว เอาไฟมาใส่ในหัว แล้วมันไปมีผลกับลูก ๆ ซึ่งพ่อกับแม่ก็ไม่เคยอุ้มชูหรือเลี้ยงดูหลานมาก่อนเช่นกัน ออกแนว หลานใน หลานนอก ตามฉบับคนจีนชังลูกสาว และชังหลานนอก น้องชายบอกว่า คนฉลาดมันต้องรู้จักพลิกแพลง อะไรตัดได้ตัดซะ ซึ่งปัญหามันเยอะ คนโง่เท่านั้นที่พยายามเอาภาระมาใส่ตัวเอง ผู้หญิงกี่คน ๆ ก็ "โง่" จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:22:54

ความคิดเห็นที่ 9 ยังตามอยู่นะครับ ยังอยู่ไหม จากคุณ : chanapoom เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:27:01

ความคิดเห็นที่ 10 เรากลับไปที่บ้านเกิด ไปถามน้องชาย ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาิปิดบ้าน ถามคนในละแวกบ้าน เขาบอกน้องชายขายบ้านทิ้ง ซึ่งมีคนติดต่อจะซื้อขายอยู่ในระหว่างการมัดจำอะไรซักอย่าง น้องชายกับน้องสะใภ้ไปซื้อบ้านใหม่อยู่ เอาเงินจากการขายสวนกว่า 40 ไร่ไปซื้อบ้าน (อีก 100กว่าไร่ยังอยู่แต่คิดว่าคงอีกไม่นาน) คนรู้จักแถวนั้น หาว่าเรากับน้องชายใจดำ เนรคุณพ่อแม่  หาว่าเราแต่งงานไปก็ไม่เคยมาดูแลพ่อแม่ (อ้าว..เราต้องเลี้ยงลูกหลายคนนะ ต้องช่วยงานสามีด้วย แม่ไม่เคยมาเลี้ยงลูกให้เรา แม้เฝ้าไข้ตอนเกิดลูกใหม่ ๆ แม่ก็ไม่เคยมา ค่านิยมคนจีนถือว่าลูกสาวแต่งออกไปก็เป็นคนอื่น เหมือนสาดน้ำออกนอกบ้าน พ้นไปแล้วพ้นเลย ) แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 09:38:14 จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:36:58

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่เกี่ยวกับเนื้อกระทู้เหมือนกัน แต่เห็นด้วยกับคุณเจ้าแม่แฟชั่น... คิดเหมือนคุณมานั่งอยู่ในใจ+พูดแทนที่เราคิดเด๊ะ ๆ จากคุณ : คิม (NYgirl) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:37:00

ความคิดเห็นที่ 12 อย่าสนใจคนอื่นครับ ยังตามอยู่ครับจนกว่าจะบอกจบครับ จากคุณ : chanapoom เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:38:41

ความคิดเห็นที่ 13 คนกตัญญู จะทำอะไรก็เจริญค่ะ (เเต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนไม่กตัญญูกับพ่อแม่ที่ลำเอียงจะไม่เจริญนะ) ยังไงพ่อแม่ก็ทำให้เราเกิดมา คิดในเเง่ดี คือค่าอุ้มท้อง ค่าไม่ทำเเท้ง ค่าเสปิร์ม ทำใจเลี้ยงดู เพราะเขามีบุญคุณให้เกิดมา (ถ้าทำให้รักเเละเคารพไม่ได้จริงๆ ) เเต่สุดท้าย พ่อแม่ที่ลำเอียงเเบบนี้ ก็สมควรปล่อยให้เลี้ยงดูตัวเอง หรืออยู่คนเดียวนะ ขอโทษที่คิดเเบบนี้ เเต่ทำตัวเอง ไม่ใช่เหรอ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:39:07

ความคิดเห็นที่ 14 อยู่ในสถานะลูกชังเหมือนกันค่ะ แต่ชีวิตไม่ได้รันทดขนาดนั้น เพียงแต่เป็นลูกสาวในบ้านคนจีนที่เห็นผู้ชายเป็นเทวดา ลูกสาวคือแก็สโซฮอล อิอิ เห็นใจจขกท. นะคะ แต่อยากจะเสนอในอีกแง่มุมนึง ถึงแม้พ่อแม่จะทำผิดต่อเรา หรือ ผิดพลาดแค่ไหน แต่การที่เราจะทำความดี หรือ กตัญญู ทำไมต้องขึ้นกับว่าคนอื่นเป็นยังไง ถ้าเราทำแล้วเราสบายใจ นั่นแหละคือสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่าแล้ว จากคุณ : JNOY เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:39:56

ความคิดเห็นที่ 15 พูดยากนะเรื่องนี้  เรื่องของคุณก็คล้ายกับที่เป็นข่าว. ถ้าไม่ให้อยู่เดี๋ยวก็จะเมือนในข่าว. ความจริงไม่มีใครรู้ว่าใครทำอะไรกับใครไว้อย่างไร พ่อแม่ก็ทำกับลูกไว้เยอะ แต่เพราะคนไทยสอนให้รู้จักกตัญญูไม่ว่าพ่อแม่จะดีจะชั่วก็ต้องตอบแทนคุณ เราเลือกคนเป็นพ่อแม่ไม่ได้ ขณะเดียวกันม่ก็ไม่สามารถเลือกใครมาเกิดในท้องได้ ใครจะมองว่าคุณโง่ก็ช่างเถอะ เราว่ายังไงดูแลท่านตามกำลังที่พอจะทำได้. เท่าที่คุณและสามีไม่เดือดร้อน สิ่งที่คุณทำก็จะได้กับตัวคุณเอง ลูกคุณก็จะได้เห็นเป็นตัวอย่าง.      ขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วยให้ปัญหาของคุณคลี่คลายไปในทางที่ดี จากคุณ : นางในวรรณคดี เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:44:16

ความคิดเห็นที่ 16 ตามอยู่ครับ ก็ส่งไปบ้านพักคนชราเลยครับ คุณมี 2 ครอบครัว 1 ครอบครัวอดีตคือพ่อแม่ ที่เลี้ยงดูคุณได้แย่มาก 2 ครอบครัวคุณ คุณคือพ่อแม่ คุณคงตั้งใจเลี้ยงดูลูกคุณให้ดีใช่ไหมล่ะจะได้ไม่ซ้ำรอยเดิม จากคุณ : chanapoom เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:46:19

ความคิดเห็นที่ 17 มาถึงตอนนี้ เราทำใจมาก ๆ แล้วว่า เราต้องมีปัญหากับสามีแน่นอน เพราะสามีเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว ตัวเราเองมีเิงินเก็บก่อนแต่งงานไม่มากนัก ไม่มั่นใจจะเลี้ยงดูพ่อแม่ได้แค่ไหน ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยได้เที่ยว มาได้เที่ยวก็ิเพราะสามีพาเที่ยวเป็นคนออกเงินให้ทุกอย่าง มาตอนนี้ วินาทีนี้ แม่พร่ำบ่น ต่อว่าเรา รำคาญลูกที่ยังเล็กของเรา ชี้หน้าด่าว่า ไอ้ลูกพ่อสารเลว ลูกก็คงเลว ๆ ด้วย เงินมีเยอะแต่ไม่ให้แม่ยาย!! (สามีบ่นที่ห้องนอน ผมเกลียดแม่คุณจริง ด่าพ่อไม่ว่า ด่าทั้งลูกด้วย ลูกผมนั่น หลานหรือเปล่า ถ้าไม่คิดว่าหลานก็สมควรออกจากบ้านผมไปซะ ) ส่วนพ่อเรา ตอนนี้พยายามหามุมอับ ลากเราไปคุย เงินน่ะ มีไหม สามีเอ็งน่าจะเยอะอยู่นะ แค่เรือนหอนั่นติดถนนใหญ่ ขายได้คงหลายสิบล้านอยู่ ถามเพื่อน ๆ หน่อยค่ะ ถ้าเป็นคุณ คุณจะทนสภาพนี้ได้ไหม ไม่กี่วันเรายังไม่ค่อยไหวแล้ว   เชิญด่าเราได้ เราทนได้ เพราะชักชินกับคำว่า เนรคุณ ทรพี มันฟังจนด้านชาแล้ว   เราคิดว่าเราก็ทำดีที่สุดแล้ว มันยังไม่พอหรืออย่างไร  หรือต้องให้เราหอบหิ้วลูกไปอยู่สถานสงเคราะห์ แล้วเราก็หนีไปไกล ๆ จากโลกนี้ซักที นิยายมันอาจเน่า แต่ถ้าใครได้ลอง แล้วจะซึ้ง จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:46:29

ความคิดเห็นที่ 18 เดี๋ยวจะเข้ามาคุยใหม่ ลูกร้องพอดี แม่เราอยู่บ้านสามีเราแท้ ๆ แต่หลานนอก ท่านไม่คิดเลี้ยง ท่านบอกเลี้ยงได้แต่หลานใน (ป่านนี้ยังไม่รู้สึกอีกหรือ ว่่าหลานในของวัย 11 ปียังไม่ชายตามองด้วยซ้ำไป เลี้ยงมากับมือจริง ๆ ) ส่วนพ่อเรากำลังไปบ้านแม่สามีเราเพื่อขอ "เงิน"   เราอยากหลุดพ้นกับสภาพเลวร้ายนี้ซักที สามีก็ไม่มีกำลังใจทำงาน วัน ๆ ทนอยู่กับพ่อแม่เราแบบซักกะตาย จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:51:53

ความคิดเห็นที่ 19 ลูกที่โดนเลี้ยงดูไม่เท่าเทียมกับพี่น้องคนอื่นๆคงมีปมในใจแบบนี้ทุกคน คิดซะว่าเรามีกรรมผูกพันกันมาต้องชดใช้กัน  เราก็ทำตามหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ตามกำลังที่เราจะทำได้  คิดแบบนี้เราคงสบายใจขึ้น ถ้าคุณปล่อยปละละเลยไม่ช่วยเหลือ คิดว่าในใจลึกๆคุณเองคงไม่สบายใจ  ทำแล้วสบายใจก็ทำไปเพราะสิ่งที่ทำก็เป็นสิ่งที่ดี ควรบอกพ่อแม่คุณตรงๆถึงการที่ต้องร่วมกันด้วยว่าต้องทำอย่าง  ตั้งเป็นกฎไปเลย แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 09:58:52 จากคุณ : โมโม่เหมียวเหมียว เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:53:45

ความคิดเห็นที่ 20 ส่ง พ่อ แม่ คุณ ไปบ้านพักคนชราครับ ดูแล้วคุณเป็นคนไม่แข็งพอ ผมชอบแฟนคุณจัง ที่ยังมีความกระด้างบ้างในเรื่องที่ถูกเอาเปรียบทั้งด้านจิตใจแล้วเงินตรา ปรึกษากับสามีคุณ คุณไม่ใช่คนที่ต้องออกไป เข้าใจไหมมมมมมมม นี่ไม่ใช่แค่เรื่องครอบครัวของคุณนะ (พ่อ แม่ คุณ) แต่นี่คือเรื่องของครอบครัวคุณ (คุณ สามี ลูก) ยังไม่บอกจบขอตามต่อ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 10:00:25 จากคุณ : chanapoom เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:55:55

ความคิดเห็นที่ 21 เข้าใจหัวอกคุณ จขกท นะคะ เพราะเราเองก็ตกอยู่ในสถานะลูกชังเหมือนกัน จากคุณ : pakacayor เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:57:27

ความคิดเห็นที่ 22 แปลกดีคนจีนชังหลานนอก แม่เราคนไทยรักหลานยายมากกกก (บอกเกิดมาจากท้องลูกสาวถือเป็นหลานใน) จากคุณ : nongcookie71 เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:57:51

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านแล้วอดออกความเห็นไม่ได้ คุณคะ ถ้าเป็นอย่างที่คุณเล่ามาจริงๆ แล้วคุณยังยอมพ่อแม่มากร่างอยู่ที่บ้านอย่างนี้ อีกหน่อยต้องมีปัญหากับสามีแน่นอน เลือกเอานะคะว่าจะเห็นแก่ครอบครัวคุณเอง หรือว่าจะยอมพ่อแม่ ไม่ได้บอกว่าให้ทิ้งพ่อแม่ แต่ที่สามีคุณพูดก็ถูก พ่อแม่คุณต้องพยายามช่วยตัวเองบ้าง เป็นเราเราจะเด็ดขาดค่ะ บอกว่าช่วยให้เงินได้เท่านี่้ต่อเดือน พ่อแม่ต้องไปจัดการกันเอง อยู่บ้านเดียวกันแบบนี้ อีกหน่อยก็ต้องมีคนออกไปจากบ้าน เลือกเอาแล้วกันค่ะว่าจะเป็นใคร จากคุณ : Pacosan เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:58:26

ความคิดเห็นที่ 24 บอกได้แค่คำว่า. สงสารคุณสุดหัวใจค่ะ จากคุณ : tang-tong เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:58:28

ความคิดเห็นที่ 25 ไปแล้วเหรองั้นเดี๋ยวมาตามใหม่ จากคุณ : chanapoom เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:03:14

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านแล้วเข้าใจจขกท.มาก ๆ เราไม่ได้ถูกพ่อแม่รังเกียจขนาดนั้น แต่ก็โตมาแบบพ่อมีเมียหลายคน ไม่เคยมีเงินให้ลูกใช้เพียงพอแม้กระทั่งการเรียน ตอนเด็ก ๆ มักพูดให้ชาวบ้านฟังว่าแก่ตัวไปไม่หวังพึ่งเราหรอก จะปลูกกระต๊อบอยู่บ้างแหล่ะ เราก็มีพี่ชายที่พ่อไม่กล้าใช้ เป็นคุณชายอยู่ทุกวันนี้ ทำงานก็เข้า ๆ ออก ๆ ตรุษจีนทีไรพี่ชายเรานอนตื่นสายที่สุด แต่ตัวเราต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 มาช่วยทางบ้านเตรียมของ เชื่อไหมตอนนี้เราเกลียดเทศกาลตรุษจีนที่สุด เมื่อเราทำงานหาเงินเองได้เราไม่เคยไหว้เจ้าอีก เพราะความน้อยใจในพฤติกรรมของพ่อและพี่ป้าน้าอา ที่ไม่มีใครใช้พี่เราเลย ตอนนี้พ่อเราแก่ตัว สุดท้ายเมีย ๆ ที่เคยมี ตังค์ที่เคยทิปนักร้องไม่เหลือให้แกใช้อีกแล้ว แกมีเงินบำนาญเดือนละ 6 พันบาทไว้เลี้ยงตัว ซึ่งเราคิดว่าพอสำหรับการอยู่คนเดียว น้ำ ไฟ เราออกให้ แต่เราไม่ให้เงินแกใช้ เพราะแกเป็นคนที่ใช้เงินเก่งมาก ได้เงินมาเดี๋ยวเอาไปซื้อมือถือ เดี๋ยวเอาไปซื้อดีวีดี แล้วแป๊ป ๆ ก็เบื่อ และชอบบอกเราว่าป้าแกมีสมบัติเยอะ ยายแกมีสมบัติเยอะ ทำไมไม่ไปหาเค้าบ้าง เหมือนกับยุให้เราไปหวังสมบัติคนอื่น อาจจะว่าเราเนรคุณแต่เราก็โตมาแบบที่แกไม่มีอะไรให้เราเหมือนกัน ยังนึกเลยว่าทำไมพ่อคนอื่นเค้าถึงมีเงินเก็บเป็นแสน ๆ เมื่อวัยชรา ไม่ต้องเดือดร้อนลูกเต้าเลย เราเลยจำเป็นบทเรียนว่าเราต้องเก็บเงินเพื่อลูก แต่ต้องเก็บเพืื่อตัวเองด้วย เมื่อลูกโตขึ้นทำงานได้เราก็ไม่หวังพึ่งลูก แต่ต้องมีเงินเก็บของตัวเองไว้ใช้จ่ายยามชรา จะได้ไม่มีสภาพเหมือนพ่อเราตอนนี้ จากคุณ : arrissat เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:05:19

ความคิดเห็นที่ 27 เป็นกำลังใจให้นะคะ รอฟังอยู่ค่ะ จากคุณ : น้องจีจี้ เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:12:00

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าปล่อยไว้แบบนี้สงสัยครอบครัวคุณเองจะพังเอา สามีคุณเขาคงไม่อดทนเหมือนคุณแน่นอน อย่าทำลายครอบครัวคุณเองเลยนะคะ สามีและลูกไม่ผิดอะไรเลย ไม่อยากบอกให้ส่งพ่อแม่ไปสถานคนชราเลย แต่ถ้าจำเป็นก็คงต้องทำ แล้วส่งเสียเงินให้ใช้เดือนละพอประมาณ จากคุณ : แม่น้องข้น เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:24:27

ความคิดเห็นที่ 29 แล้ว จขกท.ทำไงต่อคะ ดูๆแล้ว ถ้าจะช่วยเหลือพ่อแม่ของ จขกท. ๆ จะำทำยังไง เพราะถ้าช่วย ครอบครัวตัวเองพังแน่นอน ถึงวินาทีต้องเลือกค่ะ...และเราเคารพในการตัดสินใจของ จขกท. เอาใจช่วยให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ส่วนตัวเรา คิดเช่นเดียวกันสามี จขกท.นะคะ จากคุณ : แม่หญิงฟุ้งซ่าน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:33:25

ความคิดเห็นที่ 30 คุณไม่รู้หรอกว่าบางที่ พ่อเเม่บางคน ก็เยอะจนลูกทนไม่ได้ก็มี จากคุณ : remy&chanel เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:34:40

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านแล้วสงสารตัวคุณจังเลยค่ะ แต่อย่าลืมนึกถึงครอบครัวตัวของคุณที่กำลังสร้างมาด้วยมือคุณเองนะคะ ถ้าพ่อแม่เค้ายังไม่เข้าใจ และซาบซึ้งในน้ำใจของคุณก็ช่างเค้า เพราะคุณทำดีที่สุด ทุกอย่างที่คุณตัดใจสินทำลงไปอย่าลืมนึกถึงลูกและสามีของคุณนะคะ เพราะคนเหล่านี้ คือ คนที่สร้างกำลังใจให้คุณและจะอยู่เคียงข้างคุณ ถึงแม้คุณจะล้มหรือยืน เป็นกำลังใจให้ค่ะ อย่าท้อ เพราะในกรณีแบบนี้เห็นมาเยอะ สุดท้ายลูกรักก็ไม่เคยเห็นหัวพ่อกับแม่ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 10:37:23 จากคุณ : life in abroad เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:35:41

ความคิดเห็นที่ 32 สงสารลูกของคุณ ยังเล็กคงรับคำด่าไปจดจำ อีกหน่อยโตมาจะแย่นะตัวเอง ออกแนวด่าแม่ด่าพ่อแบบที่เคยเห็นตายายทำน่ะแหละ ไม่ได้ยุให้ไล่ แต่ไล่ออกไปเหอะ ถ้าคุณรักลูกของคุณเอง จากคุณ : ipodine เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:42:32

ความคิดเห็นที่ 33 ต้องรีบแก้ปัญหานะคะ ไม่งั้น ชีวิตครอบครัวคุณจะพังไปด้วย เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : pluswipa เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:43:40

ความคิดเห็นที่ 34 ให้สามีออกหน้าเจรจาให้พ่อกับแม่ไปอยู่กับลูกชายสุดที่รักค่ะ คุณเป็นลูก แถมยังหัวอ่อนอีก คุณพลาดตั้งแต่ให้เขาเข้ามาทีแรกแล้ว ที่จริงบ้าน(ที่พ่อคุณอยู่ปัจจุบัน) ก็ไม่ใช่ของคุณ คุณต้องออกตัวตั้งแต่แรกว่า ต้องถามสามีก่อนจึงจะถูกนะ นี่เข้ามาแล้ว บอกตรง ๆ ออกยากค่ะ ขอเตือนว่าอย่าเอาลมปากชาวบ้านมาทำให้เป็นทุกข์เลย คนพวกนี้ไม่ได้มาดูดำดูดีเรา เวลาที่เราลำบากหรอกค่ะ พ่อแม่คุณกำลังรับกรรมแล้ว กรรมจากการเลี้ยงลูกแบบผิด ๆ ไงคะ ตอนนี้คุณต้องปรึกษาสามีแล้วล่ะค่ะ หันหน้ามาคุยกัน ช่วยกันแก้ปัญหา อย่าให้ปัญหาของพ่อแม่ มาทำให้ครอบครัวคุณพังเลยค่ะ เรากับสามีก็ทำแบบนี้แหละค่ะ เวลาพ่อแม่มีปัญหาถ้าเราช่วยได้เราช่วยนะ แต่ถ้าไม่ได้ เราเลือกที่จะวางปัญหาไว้ ถือว่าใครสร้างปัญหา คนนั้นต้องแก้เอง เรื่องของใครของมันค่ะ เราแก้ไขพ่อแม่ไม่ได้ ก็ต้องแก้ที่ตัวเรา อดีตแก้ไขไม่ได้ แต่อนาคตเราสามารถวางแผนได้นี่นา ทุกวันนี้ เราใช้ชีวิตคนละขั้วกับพ่อแม่เราเลยค่ะ สิ่งไหนที่ไม่ดี ไม่ประทับใจในวัยเด็ก เราไม่เอามาใช้กับลูกเลย ยี่สิบปีที่ผ่านมา ถ้าให้คะแนนความสุขในครอบครัว(เฉพาะสี่คนพ่อแม่ลูกนะ ตัดปัญหานอกบ้านออกไปให้หมด) เราว่าครอบครัวเราได้เต็มร้อยนะ จขกท.ต้องเข้มแข็งกว่านี้ค่ะ จากคุณ : เด็กหญิงเอาแต่ใจ (เด็ดชายวุ่นวายเด็กหญิงเอาแต่ใจ) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:45:50

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านแล้วน่าเห็นใจจขกท. ปกติคนจีนมีความเชื่อเรื่องหลานนอกหลานในจริง คิดว่าลูกสาวยังไงก็แต่งออกไปเป็นลูกคนอื่น แต่โดยทั่วไปคนจีนไม่เก็บเงินสินสอดลูกสาวนะ แล้วก็ไม่มีวัฒนธรรมให้ลูกเขยเลี้ยงดูด้วย ที่บ้านก็คนจีนรักลูกชายมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ได้มีท่าทีชังลูกสาวขนาดนี้ จากคุณ : Shojikochan เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:49:34

ความคิดเห็นที่ 36 ระวังครอบครัวคุณจะพัง เพราะพ่อแม่คุณเห็นแก่ได้ หายใจเข้าออก เป็นเงินของสามีคุณตลอด ไม่เคยให้แถมตั้งใจมาเอาอีก ขอให้หาทางออกได้เร็ว ๆ นะคะ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 10:56:37 จากคุณ : coolnessgirl เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:55:51

ความคิดเห็นที่ 37 แก้ปัญหาง่ายๆเลย คุยกับพ่อและแม่ตรงๆเลย ว่าเราให้ท่านได้แค่ไหน เงินเดือนให้เท่านี้ มีบ้านให้อาศัยอยู่ มีอาหารให้ครบ ต้องมีลิมิต อย่าไปคิดว่าการที่เราไม่ทำตามใจท่านทุกเรื่องที่ท่านต้องการจะเป็นการเนรคุณ  เพราะคุณก็ไม่สามารถทำตามได้ทุกเรื่องที่ท่านต้องการอยุ่แล้ว เราทำให้ท่านได้แค่ไหนแล้วเราสบายใจ ไม่เดือดร้อนครอบครัวของคุณ มันต้องเดินทางสายกลางค่ะ ถ้าคุณไม่มีความสุขคนรอบตัวคุณก็ไม่มีความสุข ความสุขจะเกิดได้ต้องเริ่มจากตัวเองนะคะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : หัวราน้ำ เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 10:57:04

ความคิดเห็นที่ 38 ใจแข็งและหนักแน่นบ้างนะคะ อย่าให้ครอบครัวของคุณต้องพัง เพราะคนที่ไม่เคยเห็นคุณเป็นครอบครัวของเขา ช่วยเหลือตามประมาณ แต่อย่าให้อยู่จนเกิดปัญหาระหว่างคุณกับสามี สมมุตินะในวันที่สามีคุณไม่ไหวแล้ว แล้วคุณสองคนต้องเลิกกันล่ะ ชีวิตคุณต้องพังเพราะพ่อแม่ และน้องชายอีกครั้งเหรอ ปกป้องสิทธิ์ของคุณตั้งแต่วันนี้ จากคุณ : อิมาอิซัง เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:02:35

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่ใช่ลูกรักนี่มันเศร้าเนอะ  "ถ้าน้องชายเกิดมาก่อน เราไม่ได้เกิดหรอก เพราะมี ผญ เเล้ว1คน อยากได้ ผช อีกคน เรามันมาขั้นกลาง" ขอให้แก้ปัญหาได้นะค่ะ จากคุณ : ลูกคนกลาง (naoco) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:17:16

ความคิดเห็นที่ 40 1. ให้พูดกับพ่อและแม่ของคุณตรงๆค่ะ "พ่อมาขอหนู หนูไม่มีให้หรอกนะ ไม่ต้องไปขอสามีหรือครอบครัวของสามีหนูด้วย สามีจะเลิกกับหนูอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้ ถ้าพ่อยังมาขอให้ขายบ้าน ขอเงินแบบนี้ สามีจะเลิกกับหนู แล้วหนูจะไปตกละกำลำบากกับพ่อแม่เอง พ่อมีที่ทางเหลืออีกเทาไหร่ ไปขอคืนจากน้อง เอามาขายปะทังชีวิตกัน หรือพ่อจะให้หนูขายตัวเลี้ยง ตั้งแต่เด็กจนโต ตอนเรียนหนังสือ กว่าหนูจะมีชีวิตมาได้ถึงทุกวันนี้ หนูต้องผ่านอะไรมาบ้างอาศัยบ้านป้านอนมากี่ครั้ง พ่อกับแม่ฝากความหวังไว้กัลูกชายหมด จนไม่มีเหลือมาถึงหนู กว่าหนูจะหาทางอยู่รอดมาจนถึงป่านนี้ก็สายตัวแทบขาดแล้ว หนูไม่มีเงินให้พ่อเยอะแยะมากมายหรอกนะ เงินสามีหนูเขาก็ต้องเลี้ยงพ่อแม่เค้าเหมือนกัน เพราะพ่อแม่เค้าดูแลเค้ามาเป็นอย่างดี เราไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องเงินต่อกัน หนูมีเงินเดือนจากการทำงาน .....บาทต่อเดือน หนูจะเช่าห้องให้พ่อแม่กับแม่อยู่ ห้องเล็กๆเป็นอพาร์ทเม้นท์นะ หนูไม่มีปัญหาหาบ้านให้หรอกเพราะทุนชีวิตหนูได้มาน้อยกว่าจะมีถึงวันนี้ แต่หนูจะพยายามทำเท่าที่หนูจะทำได้นะ ในอพาร์ทเม้นท์มีของข้าวของเครื่องใช้ให้ตามอัตภาพ มีเงินรายเดือนให้ใช้เดือนละ ....บาท มากกว่านี้ไม่ไหว เพราะพ่อเคยพูดว่า "พ่อไม่อยากให้เรียนหนังสือ บอกเดี๋ยวก็มีผู้ชายมาขอแต่งเอง เงินทอง ku ไม่มีให้ ที่ทำงานทุกวันนี้เพื่อลูกชายเท่านั้น " ต้นทุนชีวิตหนูน้อย รายได้เลยน้อยตาม แต่หนูจะพยายามให้พ่อกับแม่อยู่ได้แบบประหยัด แค่พ่อกับแม่สองคนนะ ถ้าพ่อกับแม่ไม่เอาแบบนี้ หนูคงไม่มีทางเลือก หนูจะไปส่งพ่อกับแม่ที่หน้าบ้านลูกชายสุดที่รักของพ่อกับแม่ กับส่งเงินรายเดือนละ ....บาทพอ หรือพ่อจะทำให้หนูต้องเลิกกับสามีจนไม่มีเงินให้พ่อและแม่สักบาท พ่อต้องเลือกเอา วันนี้พ่อแม่อาจจะรู้สึกว่าหนูพูดแรงมาก แต่หนูพูดจากใจตรงๆเลยๆนะ ว่าาเรื่องตั้งแต่เด็กจนโตมันทำให้หนูน้อยใจและรู้สึกแย่มาโดยตลอด หนูก็ไม่อยากให้พ่อและแม่รู้สึกแย่เหมือนหนูตอนเด็กๆหรอกนะ แต่หนูไม่มีทางเลือก พ่อเหมือนเอามีดจี้ปาดคอคอยหาเงินกับหนูทุกเวลาเลย หากวันนี้หนูทำให้พ่อและแม่เคืองใจเรื่องคำพูด หนูขออโหสิกรรมด้วย หนูคงสรรหาคำพูดสวยๆมาแทนความรู้สึกใจของหนูไม่ได้ พรุ่งนี้พ่อให้คำตอบกับหนูนะว่าจะเลือกทางไหน" ปล. ให้พูดเสียดัง ต่อหน้านะคะ อย่าพยายามไปมุมลับ 2.ถ้าพ่อหามุมอับ ลากเราไปคุย ให้พูดโต้ตอบเสียงดังเลยค่ะ "อะไรนะพ่อจะให้สามีหนูขายที่หรอบลาๆๆๆ" 3.ถ้าแม่ด่าลูกเรา ให้พูดกับแม่กลับไปว่า คนสารเลวคนนั้น คือเจ้าของบ้านที่ให้แม่อยู่ แต่ตอนนี้ คนสารเลวคนนั้นโดนด่าทุกวันจนทนไม่ได้ เงินทองแม่ก็ได้จากสามีหนูไปแล้วตอนแต่งงาน ถือว่าเขาจ่ายค่าตัวหนูมาแล้ว เขาซื้อตัวหนูมากจากพ่อและแม่แล้ว เงินค่าสินสอดแม่ก็เก็บไปหมด ไม่เหลือเงินก้นถุงให้พวกหนูตั้งตัวเลย ปล.ซื้อเครื่องอัดเสียงเล็กๆติดตัวไว้ค่ะ พยายามอัดทุกอย่างไว้ วันหนึ่งถ้าถูกพ่อแม่ประจานขึ้นมา อย่างน้อยจะได้มีหลักฐาน บุญคุณพ่อแม่อย่างน้อยต้องตอบแทนค่ะ แม่เราไม่ได้ส่งเราเรียนเหมือนกัน แม่รักแต่ลูกสาวคนโต แต่ตอนนี้เราก็ให้แม่ตามอัตภาพค่ะ บุญของการให้จะตอบกลับมาในรูปแบบอื่นๆค่ะ เพราะแม่ก็ยังไม่รักเท่าคนโตเหมือนเดิม 55555 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 11:32:28 แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 11:31:44 จากคุณ : ปลายปัญญา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:31:24

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ เรายอมรับว่าเราอ่อนแอจริง เพราะถูกปลูกฝังให้สำนึกในหน้าที่รับผิดชอบ สำนึกในพระคุณข้าวแดงแกงร้อน สำนึกในความเป็นลูก ถูกเลี้ยงดูฝังหัวให้ต้องกตัญญู ทุกครั้งที่พ่อแม่เครียด เราเครียดเหมือนกัน เราไม่เคยได้ใกล้ชิดพ่อแม่เลย ส่วนใหญ่ต้องทำงาน ไม่เคยได้รับไออุ่นจากแม่ ไม่เคยได้รับคำพูดดี ๆ จากพ่อ คงเกิดมาเพื่อชดใช้กรรมที่ได้กระทำกับท่านแต่ครั้งชาติที่แล้ว ทุกวันนี้ต้องเอาธรรมะ เข้าวัดเข้าวาเพื่อปลง เราเติบโตมากับครอบครัวที่ไม่มีการเข้าวัด พ่อแม่ไม่เคยหล่อหลอมหรือกล่อมเกลาให้ลูกเข้าวัด ท่านมีแต่งาน และ งาน เงินและเงินให้ลูกชายใช้ ส่วนกับเรา ท่านพยายามส่งให้ไปอยู่กับป้า เพื่อจะได้ให้ป้าออกเงินแทน ทั้งค่ากับข้าว ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ  ตื่นมาก็ต้องไปรับใช้ที่บ้านพ่อแม่ช่วงตี 4 ร้านขายของชำ พ่อจะไม่ให้เราถือเงิน ให้เรากลับดึกแทบไม่ได้อ่านหนังสืออะไรมาก เราใจไม่แข็งพอที่จะส่งให้ท่านไปอยู่สถานสงเคราะห์ ด้วยเพราะ สังคมจีนไม่ค่อยมีใครทำกัน แต่เพราะเราไม่ได้มีรายได้เป็นของตนเอง เราจะเอาเงินที่ไหนให้พ่อแม่ได้ใช้จ่าย ลูกเราก็ต้องเลี้ยงเอง ไม่มีใครช่วยเลี้ยง มีบ้างในบางความรู้สึก ช่วงคลอดลูกใหม่ ๆ อ่อนแอมาก ฮอร์โมนพุ่ง เกือบกระโดดตึกชั้น 7 ลงจาก ร.พ.  หลังคลอดลูกค่าใช้จ่ายสูง แม่มาขอเงิน เราไม่มีให้ โดนสาปแช่งว่า เลว ขอให้ลูกจงเลวกับเอ็งแบบที่ทำกับแม่ ตอบคุณ chanapoom ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะ จบ ที่ตรงไหน จริง ๆ ค่ะ ตอนนี้ปรึกษาสามีแล้ว   แม่สามีมาที่บ้าน บอกกับพ่อแม่เราว่า เรือนหอนี้ ฉันสร้างให้ลูกชายกับสะใภ้ ฉันไม่ได้สร้างเรือนหอให้พ่อแม่พี่น้อง ญาติของสะใภ้ฉันมาอยู่ด้วย โปรดเข้าใจไว้ด้วย เพื่อน ๆ คะ ถ้าเราเป็นคนดัง ป่านนี้คงลงข่าวหน้า 1 ไปแล้วมังคะ จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:31:45

ความคิดเห็นที่ 42 อย่านำปัญหามาทำให้ครอบครัวของตัวเองที่มีสุขอยู่แล้ว เปลี่ยนให้เป็นทุกข์อยู่เลย เรื่องของการตอบแทนความกตัญญูมันเป็นสิ่งที่สมควร แต่ในเมื่อมันจะนำมาซึ่งปัญหาและความทุกข์ คุณควรหลีกเลี่ยง คุณไม่สงสารลูกและสามีของคุณเองบ้างเหรอ คนภายนอกไม่ได้รับรู้ปัญหากับคุณด้วยอย่าไปสนใจกับคำพูดของคนอื่นให้มากนักเลย คุณควรสนใจกับคนในครอบครัวตัวเองให้มากที่สุด เรื่องแบบนี้สามีภรรยาต้องคุยกันแล้วช่วยกันแก้ปัญหามองไปในทางเดียวกัน ขอให้มีทางออกที่ดีนะครับ จากคุณ : Miyangi เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:40:42

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าเป็นเรา เราขอเลือกครอบครัวที่สร้างมากับมือค่ะ ถ้าคุณยังปล่อยให้พ่อแม่มาวุ่นวายแบบนี้ เราเชื่อว่าสามีทิ้งคุณแน่นอน เพราะคุณไม่เด็ดขาดเอาซะเลย บ้านก็บ้านของเค้า ยังให้พ่อแม่ขอบคุณเข้ามาด่าเจ้าของบ้านปาวๆ ถึงจะรักคุณแค่ไหน แต่ศักดิ์ศรีของผู้ชายเค้าก็มีนะคะ ถ้าวันนึงครอบครัวคุณพังไป พ่อแม่คุณเค้าก็ไม่กลับมารักมาเอ็นดูคุณหรอกค่ะ เป็นเรา เราคงจะช่วยเป็นตัวเงินตามสมควรในแต่ละเดือน แต่ไม่เอาเข้ามาอยู่ในบ้าน ให้บ้านร้อนเป็นไฟแบบนี้หรอกค่ะ ตั้งแต่เกิดมา พ่อแม่คุณยังรักคุณไม่ได้เท่าที่สามีรักคุณด้วยซ้ำ คิดถึงใจสามีคุณให้มากๆนะคะ ปล. อันนี้ตอบตามสถานการณ์นะคะ ไม่ได้สอนให้เป็นคนเนรคุณ เราโชคดีที่แม่เราดีกับเรามากๆ แต่งงานอยู่กับสามี ก็ให้แม่มาอยู่บ้านด้วย ช่วยเราเลี้ยงลูก สามีก็รักและเคารพแม่เรามากๆ แต่ถ้าเรามีแม่แบบคุณ เราก็คงไม่ให้มาอยู่ด้วยหรอกค่ะ จากคุณ : มินนาโน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:42:14

ความคิดเห็นที่ 44 ให้กำลังใจกับคนที่ติดคุกทางประเพณีนะครับ จากคุณ : ริมน้ำคาน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:44:20

ความคิดเห็นที่ 45 มึสติให้มาก ๅ นะค่ะ ท่านจะ...มาพาโวย ด่าว่าอย่างไรอย่าไปตอบโต้ พูดในสิ่งที่ตัดสินใจว่าจะทำ ที่จะให้ท่านเลือก แล้วรอฟังคำตอบ  ถัาไม่มีคำตอบกลับมาให้แม่สามีลงมาเจรจานะค่ะ ให้ผู้ใหญ่เค้าจัดการให้.  ขอโทษแม่สามี และ สามีด้วยเพื่อจะไม่มีเรื่องผิดใจกันภายหลังถ จากคุณ : ลูกคนกลาง (naoco) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:47:49

ความคิดเห็นที่ 46 โห แม่สามีเอ่ยขนาดนี้แล้ว พ่อแม่คุณยังกล้าอยู่ต่อก็ไม่รู้จะว่ายังไง หาบ้านเช่าหลังอื่นให้พวกเค้าอยู่ไปก่อนค่ะ เรื่องเงิน เมื่อไม่มีก็คือไม่มี ให้ได้แค่ค่ากับข้าว น้ำไฟ ส่วนพวกเค้าจะด่าจะด่าจะแช่ง ก็ช่างเค้า ปล่อยให้เป็นลมเหม็นๆพัดผ่าน เหนื่อยก็หยุด หายเหนื่อยก็ด่าใหม่ ซึ่งเค้าจะทุกข์เอง รับไว้เอง คุณไม่รับคุณไม่ทุกข์นะคะ ผลของการกระทำ ถ้าทำแล้วมันทำให้เกิดทุกข์ ปล่อยค่ะ ปล่อยไปเลย ปล่อยให้วางแบบว่างๆ ให้ตกลงไป จะเจ็บหรือไม่เจ็บมันไม่ใช่เรื่องของคุณ เพราะคุณปล่อยแล้ว คุณเป็นแม่บ้าน รายได้น้อย ใครดีกับคุณคุณก็ดีตอบ ตามลำดับขั้น มีสติไว้นะคะ อย่างไปไหวเอนตามแรงลมปากใครๆ สู้ๆค่า จากคุณ : นนนี่จ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:50:20

ความคิดเห็นที่ 47 เราเห็นใจคุณจังคะ ถ้าเป็นเราคงเลือกรักษาครอบครัวไว้คะอย่าลืมว่าคุณยังมีลูกที่ต้องเลี้ยงดูและเขาคงไม่อยากขาดความรักแบบที่คุณเจอ ส่วนใครจะคิดกับคุณยังงัยก็ช่างเขาคะคุณไม่สามารถอธิบายอะไรกับใครได้ทุกคนหรอกคะ เพียงแค่คนที่คุณรักเเข้าใจก็พอแล้วนะคะ ตอบแทนตามที่คุณสามารถทำได้โดยไม่รบกวนสามีดีกว่าคะ อย่าลืมลูกๆต้องใช้จ่ายอีกเยอะมากคะ ขอให้หาทางออกได้เร็วๆ นะคะ ใจเราเท่านั้นคะสำคัญที่สุด สู้ ๆ คะ^^ จากคุณ : arikone เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:00:33

ความคิดเห็นที่ 48 เพื่อป้องกันปัญหาใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนะคะ ต้องปรึกษากับสามีว่า ควรจะต้องหาบ้านเช่า (ไม่แพง) ให้พ่อแม่คุณออกไปอยู่กันเอง และ ต้องเด็ดขาดบอกพ่อแม่ไปเลยว่า แต่ละเดือนจะส่งเงินให้แค่เท่าไหร่ (เอาแค่ที่คุณกับสามีพอไหว) และให้ได้เท่านั้นจริงๆ เป็นการจำกัดงบไม่ให้บานปลาย จากคุณ : Blue_SapPhire เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:01:48

ความคิดเห็นที่ 49 คล้ายกันเลย อาจไม่แรงเท่าเรื่องจขกท แต่ก็ทำนองเดียวกัน ลูกสาวคนกลางน่ะค่ะ ไม่ค่อยมีใครสนใจนัก แต่บั้นปลายก็เรานี่ละนั่นนี่ให้พ่อแม่ แต่สามีเราแม้จะใจดีแต่ไม่ตามใจแบบจขกทน่ะ ซึ่งนั่นทำให้พ่อแม่เราค่อนข้างเกรงใจพอสมควร เราก็ได้แต่แอบช่วยแอบให้เท่าที่ทำได้ จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:08:37

ความคิดเห็นที่ 50 แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 55 10:45:43 จากคุณ : PHaTthiTA เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:13:38

ความคิดเห็นที่ 51 ปรึกษาสามีแล้ว ส่วนแม่สามี    ..ด้วยสายตาแม่สามี คงเหยียดเราไม่น้อย บอกว่า ถ้าฉันรู้อย่างนี้ ฉันก็ไม่คิดอยากได้หนูมาเป็นสะใภ้ หนูลองคิดเอง ถ้าหนูมีลูกชาย แล้วมีญาติ ๆ ของสะใภ้ชอบเกาะ ชอบเงินโดยที่ไม่ได้ลงทุน ลงแรงอะไร หนูอยากได้มาร่วมชายคาบ้านหรือเปล่า อย่างนี้คือจับผู้ชายหรือเปล่า!! แล้วก็บอกกับสามีว่าจะ ไม่ขอยุ่งเกี่ยว ขอให้คิดให้ดีอย่าถึงขนาดครอบครัว ship หายเลย .. เครียดมากค่ะ  เรามีต้นทุนน้อยเอง ไม่มีทุนทำกิน ไม่เก่งเหมือนผู้หญิงอื่น ๆ ที่หาเงินเก่ง ๆ เราไม่มีเงินพอจะลงทุนอะไร แค่เก็บหอบรอมริบมาตั้งแต่เด็ก ๆ อดออมมาตั้งแต่เล็ก เรามีแค่นี้จริง ๆ คือไม่สามารถเช่าบ้านหรือให้เงินพ่อแม่ได้จริง ๆ   เรายอมรับว่า สับสน สามีตอบว่า ตัดสินใจไม่ให้พ่อแม่เราอยู่ที่เรือนหอเรา ไม่ให้อยู่ที่บ้านหลังเล็กเค้าด้วย เพราะต้องให้คนอื่นเช่า คือคนเดิมที่เคยย้ายออกไป เขาบอกเขาขอโทษ ต่อว่าเขาได้เลย เขายอมรับว่า เขาใจดำ เขาถามว่าที่ผ่านมาพ่อแม่เราไม่เคยเก็บเงินไว้เผื่อเวลาป่วยไว้บ้างหรือ เราตอบว่า ไม่มีบ้าน ไม่มีที่ เงินมีไม่มาก ราว ๆ หมื่นกว่า ๆ เท่านั้น พ่อแม่เราทุ่มไปกับลูกรักมากเกินไปไหม จนต้องเดือดร้อนลูกที่ไม่เคยทำผิดอะไรเลย หรือเราผิดจริง ที่เกิดมาในครอบครัวนี้กันแน่ จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:15:11

ความคิดเห็นที่ 52 ไม่ได้อ่านทุกข้อความนะคะ แต่เราคิดอย่างนี้ ไม่ได้โลกสวยด้วย ใครจะว่าใจแคบก็เถอะ พ่อแม่ให้กำเนิดก็ต้องมีหน้าที่มอบสิ่งดีๆให้กับลูก อย่างน้อยต่อให้ไม่ได้กินดีอยู่ดี แต่ก็ต้องให้ความอบอุ่นเอาใจใส่ หรือส่งเสริมเรื่องการศึกษาเท่าที่จะทำได้ (ไม่นับคนที่ลำบากและขาดปัจจัยเอื้ออำนวยจริงๆ) สังคมบ้านเรามันเป็นแบบนี้ เอะอะอะไรก็นั่นพ่อนะ นี่แม่นะ ยังไงเค้าก็ให้คุณเกิดมานะ ไปดูสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเด็กถูกทิ้งนู่นเลย เด็กจรจัดข้างถนนอีก ถามสิ เค้าอยากเกิดมามีชีวิตแบบนี้มั้ย.. เลือกได้อาจจะขอไม่เกิดดีกว่า เวลามีข่าวแบบนี้ทีไร ลูกถูกตราหน้าว่าชั่ว เนรคุณทุกครั้ง โดยไม่รู้ที่มาที่ไปอะไรทั้งนั้น เราชอบดูรายการ วันนี้ที่รอคอย หลายครั้งที่ดู ก็เห็นว่าบางคนทิ้งลูกไป ไม่เคยสนใจ ใส่ใจ พอวันนึงแก่ตัว ยากจน มีโรคประจำตัว ก็มาตามหา มาเป็นภาระให้ลูกอีก ส่วนเรื่อง จขกท ก็ปรึกษาสามีเลย สามีว่าไง ก็ว่าตามนั้น ถ้าพ่อแม่อยากได้เงินและคุณไม่มีก็ให้ไปเอากับลูกชายเค้าที่ขายที่ 40 ไร่นู่นเลย หรือถ้าเพื่อตัดรำคาญก็อาจจะให้เงินสักก้อน กำชับไปเลยว่าไม่มีแล้วนะ นี่เป็นเงินที่สามีทำงานหามาเก็บมาอะไรก็ว่าไป และก็ไม่ให้อยู่ด้วย จะเรือนหอ เรือนเล็กอะไรก็ตาม เพราะถ้าอยู่เค้าก็จะเกาะคุณกิน แต่ดูแล้วคนลำบากคือสามีคุณเพราะรายได้เยอะกว่า และเชื่อเถอะ ถ้าพวกเค้าอยู่ สักวันสามีคุณกับคุณจะทะเลาะกันจนทนไม่ไหวแน่ๆ ญาติห่างๆเรา แต่งงานจนมีลูกมีเต้า อยู่กันมาจนอายุจะ 60 อยู่แล้ว แล้วทีนี้ ลุงเค้าเอาแม่มาอยู่ด้วย แม่ก็ยุแยงนู่นนี่จนผัวเมียทะเลาะกัน หย่ากันตอนจะ 60 นั่นล่ะ ครอบครัวของคุณดีมากแล้ว อย่าให้มันเสียไปเหมือนญาติเราเลย จากคุณ : fahsaihome เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:17:14

ความคิดเห็นที่ 53 ให้พ่อแม่คุณไปฟ้องเอาที่คืนได้นี่ค่ะ แล้วเอาทั้งสองคนไปส่งไว้กับน้องชายก่อน ในเมื่อเค้าทั้งสองตั้งเข็มชีวิตไว้อย่างนี้แล้ว ก็ต้องรับสภาพกันไป อย่าไปกังวลกับความรู้สึกพ่อแม่ ต่อให้คุณทำดีกว่า เค้าก็ด่าคุณอยู่ดี จากคุณ : ลูกสาวคนจีนเหมือนกัน (มนอุ๊งอิ๊ง) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:29:40

ความคิดเห็นที่ 54 ตอนนี้คุณมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้วครับ สิ่งแรกที่คุณต้องปกป้องคือครอบครัวคุณครับ สำหรับหน้าที่ของลูก คุณทำได้เพียงแต่ดูว่าคุณสามารถส่งเงินให้กับพ่อแม่ได้ไหมครับ ในเมื่อคุณก็แต่งงานออกมาแล้ว และพ่อแม่คุณก็มีความคิดที่ว่าลูกผู้หญิงเลี้ยงมากก็ต้องไปอยู่กับคนอื่น คุณก็ควรจะเชื่อในข้อนี้ คุณแต่งงานออกมาแล้ว สำหรับครอบครัวพ่อแม่คุณ ถือว่าคุณได้ออกเรือนมาอยู่กับครอบครัวสามีคุณแล้วครับ และขอให้เลิกคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกหรือเป็นคนดีได้แล้วครับ บทนี้คุณต้องเป็นางร้ายเท่านั้นครับ อย่าไปสนใจรอบข้าง เพราะคนรอบข้างไม่ได้ช่วยเหลืออะไรคุณเลย ใครจะด่าก็ด่าไป เพราะไม่ว่าคุณจะดีหรือเลวแค่ไหน เขาก็ด่าคุณได้อยู่ดี ไม่ดูแลพ่อแม่ เรียกเนรคุณ แต่ถ้าคุณพยายามดูแลพ่อแม่จนครอบครัวคุณพัง เขาก็ด่าคุณโง่อยู่ดีครับ ดังนั้นไม่ต้องสนใจเพราะคุณไม่ได้ขอคนเล่านี้กินครับ นึกถึงลูกไว้ ถ้าครอบครัวคุณพังคนที่เดือดร้อนไม่ใช่คุณ คุณต้องเลิกคิดว่าคุณจะยอมเสียสละเพื่อพ่อแม่ เพราะคนที่จะต้องเสียสละตามมาคือลูกคุณ และสามีคุณ คุณเคยถามเขาไหมว่าเขาอยากเสียสละไปกับคุณไหมครับ จริงๆ ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าผมคิดถูกไหม แต่ผมขอบอกตามตรง ไม่ว่าคุณจะเลือกอะไร พ่อแม่คุณก็คงไม่รู้สึกดีขึ้นกับคุณหรอกครับ อย่างที่รายคนบอก ลองนั่งสมาธิแล้วค่อยใช้สติคิดครับ คุณจะได้คำตอบไม่ยาก หรือนั่งมองหน้าลูกๆตอนเขาหลับก็ได้นะครับ ลองดูครับ จากคุณ : Zam เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:41:35

ความคิดเห็นที่ 55 ."เครียดมากค่ะ  เรามีต้นทุนน้อยเอง ไม่มีทุนทำกิน ไม่เก่งเหมือนผู้หญิงอื่น ๆ ที่หาเงินเก่ง ๆ เราไม่มีเงินพอจะลงทุนอะไร แค่เก็บหอบรอมริบมาตั้งแต่เด็ก ๆ อดออมมาตั้งแต่เล็ก เรามีแค่นี้จริง ๆ " คุณมีต้นทุนชีวิตที่คิดดีทำดีตลอดมา อย่ามองตัวในแง่ร้ายหรือกดตัวเองลงต่ำขนาดนั้นค่ะ เราเป็นกำลังใจให้คุณ ไม่อยากให้คุณต้องมีเหตุเลิกรากับสามี มีเหตุต้องบ้านแตก ในเมื่อคุณรู้ว่าตอนนี้อำนาจต่อรองต่ำ ถ้าเกิดเลิกรากัน เราห่วงว่าสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกจะตกอยู่ที่สามีคุณน่ะค่ะ แล้วถึงตอนนั้น คุณจะไม่เหลืออะไรเลย เราห่วงจริงๆ นะ ไม่ได้ยุแยง กตัญญูแต่พอดีเถอะค่ะ กตัญญูอย่างมีเหตุมีผล ดีกว่าปล่อยให้ตัวเองถูกทำร้ายจากทั้งคนที่เป็นพ่อแม่ น้องชาย แล้วสุดท้ายก็ตัวคุณเองที่บั่นทอนคอยว่าตัวเองไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ พฤติกรรมนี้ส่งต่อถึงลูกได้นะคะ จากคุณ : อิมาอิซัง เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:49:41

ความคิดเห็นที่ 56 หนักแน่นเข้าไว้นะคะ เรากลับมองว่า ดีแล้วนะคะ ที่แม่สามีพูดไปตรงๆอย่างนั้น เรื่องทั้งหมดเกิดจากพ่อแม่ จขกท. ต้องให้ท่านไปแก้ไขเองนะคะ ไม่ใช่ให้ถือปัญหา เปรียบเสมือนไฟ มาเข้าในบ้านลูกสาว และมันจะลามไปเรื่อยๆนะคะ ตอนนี้ต้องเอาพ่อกับแม่ของ จขกท.ออก อาจจะไปหาหอพักอยู่ แล้วติดต่อน้องชายให้ช่วยกันจ่ายค่าหอ และค่าใช้จ่ายต่อเดือน ไม่แนะนำให้อยู่ด้วยกัน เพราะปัญหาจะไม่จบสิ้นนะคะ จากคุณ : แม่หญิงฟุ้งซ่าน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:51:10

ความคิดเห็นที่ 57 เห็นด้วยกับ คุณเจ้าแม่แฟชั่น คห # 6 ค่ะ โดนเลย คิดแบบนี้เหมือนกันเด๊ะ พึ่งดูแรงเงา ตอนที่แม่วีกิจ สอนลูกสาวของนพนภา ว่า ที่เค้าบอกว่าพ่อแม่คือพระในบ้านน่ะ ไม่จริงหรอก พ่อแม่ก็เป็นคนธรรมดานี่แหละ มีทำผิดทำถูก มีดีมีไม่ดี ซึ่งเห็นด้วยมากค่ะ แต่คงมีอยู่แล้ว ที่พ่อแม่เป็นคนที่ประเสริฐ รักลูกโดยไม่หวังผลตอบแทน เสียสละทุกอย่างเพื่อลูก รักลูกไม่มีเงื่อนไข แต่ก็มีอีกไม่น้อย ที่พ่อแม่ เอาเปรียบลูก เห็นแก่ตัว เอะอะ ก็อ้างบุญคุณที่ให้กำเนิด ซึ่งจะว่าไป มันเหมือนกฎธรรมชาติของมนุษย์ ที่ต้องมีการให้กำเนิดชีวิตใหม่ แต่ไมได้หมายความว่า จะเลี้ยงได้อย่างมีคุณภาพและรักลูกแบบบริสุทธิ์ใจ ขอให้คุณ จขกท ผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดีนะคะ เป็นกำลังใจให้ จากคุณ : เปี๊ยะหอม เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 12:57:22

ความคิดเห็นที่ 58 คิดเหมือนหลาย ๆ ความเห็นข้างบนค่ะ ช่วยเหลือเท่าที่เราจะช่วยได้ อย่าให้ครอบครัวใหม่ต้องพัง ท่านหวังพึ่งลูกชาย ก็ให้ลูกชายมาช่วยดูแลเถอะค่ะ ลำพังคุณคนเดียวไม่ไหวหรอก เพราะตอนนี้คุณเองก็พึ่งสามีแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว อย่าเก็บเอาขี้ปากชาวบ้านมาคิด ว่าเดี๋ยวเค้าจะว่าอกตัญญูยังโง้นยังงี้ ถ้าคุณทำดีที่สุดแล้วแค่ไหนก็แค่นั้นเถอะค่ะ สงสารครอบครัวใหม่ สงสารลูก สงสารสามีบ้างนะคะ จากคุณ : triyapa เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 13:01:12

ความคิดเห็นที่ 59 ตอนคุณอยู่กับพ่อแม่ คุณมีชีวิตครอบครัวที่ไม่มีความสุข ตอนนี้คุณมีสามี และลูก เราว่าคุณน่าจะพยายามทำให้ครอบครัวมีความสุขให้มาก พ่อ-แม่คุณ วางแผนชีวิตไว้เยอะกับลูกชาย คุณเองก็ควรวางแผนชีวิตครอบครัวคุณไว้เหมือนกัน เมื่อแผนของพ่อแม่คุณผิดพลาด คุณก็ไม่ควรเอาพ่อแม่คุณมาทำให้ครอบครัวคุณผิดพลาด สามีและลูก ไม่ควรมารับผลจากความผิดพลาดของพ่อแม่คุณ แนะนำให้ไปฟ้องเอาคืนจากน้องชายเอง เค้าทำได้ค่ะ นี่เค้ารักมาก ก็คงไม่กล้าเอาคืนจากลูกชายรึป่าว ส่วนเราให้แค่ที่สามารถให้ได้ดีกว่าค่ะ เข้มแข็งทั้งกายและใจ ถ้าทำไม่ได้ให้สามีออกหน้าค่ะ ขอให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดีค่ะ จากคุณ : jud_d_da (jud_d_da) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 13:07:15

ความคิดเห็นที่ 60 ไปคุยกะน้องชายค่ะ บอกน้องไปว่า "แกว่าพี่โง่ ตอนนี้พี่เข้าใจแล้ว และฉลาดแล้ว  พ่อกะแม่ไม่เคยมี บุญคุณ อะไรกะพี่ เพราะฉะนั้น ถึงพี่จะไม่ช่วย ก็ไม่สามารถเรียกว่า เนรคุณ ได้  แต่สำหรับแก(น้องชาย) พ่อแม่ทำให้แกขนาดนั้นแล้ว ถ้าแกยังไม่คิดแม้แต่จะหาที่ซุกหัวนอนให้พ่อแม่ แกก็เนรคุณเต็มขั้น"   แล้วก็บอกให้น้องชายมาพาพ่อแม่กลับไป หรือไม่ก็พาพ่อแม่ไปส่งไว้ที่บ้านน้องชายเลยค่ะ(ให้สามีเป็นคนพาไปก็ได้ค่ะ) อย่าไปคิดมาก สิ่งที่คุณควรทำตอนนี้ คือรักษาครอบครัวคุณ ลูกคุณ สามีคุณไว้ค่ะ ไม่ต้องไปแคร์คนแปลกหน้าที่ได้ชื่อว่า พ่อแม่   จริงๆคนที่คุณควรกตัญญูด้วยคือ ป้าตะหากนะ ปล.ถ้าพ่อแม่แช่ง หรือว่าให้อีก ว่าลูกคุณก็จะทำเหมือนที่คุณทำกับพวกเค้า คุณก็บอกไปเลยว่า "ไม่มีวันเกิดขึ้นแน่ เพราะหนูจะไม่เลี้ยงลูกเหมือนกะที่พ่อแม่เลี้ยงหนูหรอก" จากคุณ : Doraemon no fushigi na POKKE เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 13:12:04

ความคิดเห็นที่ 61 รู้สึกว่าจะครอบครัวดังนี้ 1.พ่อ แม่ คุณ (พ่อ แม่ คุณ มาสร้างความลำบากใจให้ครอบครัว ที่ 2 กับ 3) 2.คุณ สามี ลูก (โดน พ่อ แม่ ข้อ 1 คุกคาม) 3.พ่อ แม่ สามี (โดน พ่อ แม่ ข้อ 1 คุกคาม แล้วกำลัง มาช่วย ครอบครัว 2) ปล่อยไปนานๆมีพัง สู้ๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 13:38:34 จากคุณ : chanapoom เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 13:37:11

ความคิดเห็นที่ 62 มีตัวอย่างให้เห็นเยอะกรณีนี้ **ลูกรักควักเล็ดตา  ลูกชังเดียดหม้อยา **  ลูกรักเอาแต่ปอกลอกไม่ดูแล แต่ลูกชังกลับดูแลพ่อแม่ยามแก่เฒ่า   เวรกรรมจะตามสนองลูกรักเองแหล่ะ เวียนว่ายไม่จบสิ้น ก็จะเจอกับตัวเอง เวลามีลูกเองแล้วจะรู้สึก จากคุณ : เหลียน เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 14:22:57

ความคิดเห็นที่ 63 สามีคุณได้แม่มาจริงๆ แม่สามีคุณสุดยอด พ่อแม่คุณกับครอบครัวคุณคงอยู่ร่วมบ้านกันไม่ได้หรอกค่ะ สิ่งที่เราแนะเนี้ยะมันดีหรือป่าวน่ะค่ะ แต่เราก็เป็นคนนึงที่ถูกเลี้ยงมาไม่ให้ทิ้งพ่อทิ้งแม่เหมือนกัน เราพอเค้าใจค่ะว่าคุณลำบากใจขนาดไหน จากที่ฟังมาเนี้ยทางบ้างสามีคุณจขกทเนี้ยพอมีฐานะอยู่บ้างใช้ไม๊ค่ะ แล้วตัวคุณเนี้ยก็พอมีรายได้อยู่นิดหน่อย เราอยากแนะว่าให้คุณยืมเงินคุณสามีหรือทางบ้านเค้ามาสร้างบ้านหลังเล็กๆ ที่แยกออกไป อาจจะเป็นแถวบ้านเดิมของคุณก็ได้ และหาอาชีพให้เค้าทำ อาจจะเปิดร้านของชำให้ขายพอมีรายได้ โดยที่ชื่อบ้านยังเป็นของคุณ เค้าจะได้ไม่ยกให้ใครได้อีก และเค้าจะได้ไม่หาว่าคุณอกตัณญู ไม่มียุ่งวุ่นวายกับครอบครัวคุณทำให้ครอบครัวคุณเสียสุขภาพจิตอีก ส่วนเรื่องเงินที่ยืมคุณก็เอารายได้ของคุณค่อยๆใช้คืน มันอาจจะฟังดูเบียดเบียนบ้านทางคุณสามีจขกทน่ะค่ะ เราก็ไม่รู้ว่าทางบ้านสามีจขกทมีแนวคิดเรื่องเงินๆทองๆอย่างไร เราก็แค่ลองแนะนำดูค่ะ เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ จากคุณ : auizii_ka เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 14:33:27

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณมากๆครับที่แชร์  "แม่ยายผมเลยดูเหมือนนางฟ้าไปเลย" จากคุณ : บ้านผมมองออกไปเห็นภูเขา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 14:36:48

ความคิดเห็นที่ 65 มาให้กำลังใจนะครับ ทุก ๆ ท่านมีปัญหาทั้งนั้น สติมาปัญญาเกิด(ถึงจะช้าหน่อยก็ตาม แต่เกิดแน่นอน) จากคุณ : คนพิการ เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 15:54:08

ความคิดเห็นที่ 66 ทำไมเรารู้สึกว่า คนที่คุณควรตอบแทนบุญคุณ คือ คุณป้าของคุณ ไม่ใช่พ่อแม่ของคุณ ที่ผ่านมา คุณมห้เขามามากพอแล้ว คุณเป็นคนดีมามากเกินไปแล้วค่ะ ลุกขึ้นมาเข้มแข็งเพื่อครอบครัวของคุณได้แล้ว ,,, เขาทำลายชีวิตคุณไปแล้ว ไม่ควรให้เขามาทำลายชีวิตครอบครัวคุณอีก คุณมาโพสแบบนี้ คุณได้กำลังใจ คำแระนำไปมากพอแล้ว เท่าที่เราอ่านมา  ความเห็นต่างๆ คุณสามารถนำไปใช้ได้หมด มันอยู่ที่คุณจะเลือกค่ะ ชีวิตจริงมันไม่เหมือนนิยายตรงที่ เปลี่ยนแปลงเรื่องราวได้ แต่นิยายต้องดำเนินเรื่องไปตามบทละคร ชีวิตคุณตอนนี้ยังไม่รุจุดจบสะด้วยซ้ำ ทำไมคุณไม่รีบลุกขึ้นสู้ล่ะคะ ? เราเป็นกำลังใจให้ และหวังว่าคุณจะเข้มแข็งได้ในเร็ววันค่ะ จากคุณ : FORESTAR เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 16:12:44

ความคิดเห็นที่ 67 เป็นผมจะให้ที่พัก ให้อาหาร แต่เงื่อนไขว่าต้องไปแจ้งความลูกชาย น้องชายคุณนะว่าไม่เลียนงดูบิดามารดา เพราะพ่อคุณให้มรดกน้องชายจนหมดตัว ถ้าไม่แจ้ง ก็พาแกไปส่งบ้านพักคนชรา หรือบ้านป้า สำหรับผม การทำให้เกิดกับการเลี้ยงดูมันคนละส่วน งงมาก พ่อแม่คุณไม่เอาเรื่องน้องชายเลยเหรอ ปล. มองหน้าลูกคุณเอาไว้ตอนตัดสินใจ จากคุณ : lon (Soon Moon Party) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 16:26:18

ความคิดเห็นที่ 68 ไม่รู้จะพูดยังไงให้กำลังใจนะคะ ถ้าคุณยังคิดแบบเดิมๆอีก  คุณกับสามีคงอยู่กันได้อีกไม่นานแน่ บุญคุณมันต้องชดใช้ตลอดชีวิตหรือคะ เราคิดว่าพอแล้วมั้ง ตอนเด็กๆ เค้าก็ไม่ได้ใยดีคุณเท่าไหร่ คุณยังมีอนาคตนะคะ ต้องรีบตัดสินใจแล้วค่ะ ก่อนที่สามีคุณคุณจะเปลี่ยนไป จากคุณ : พาไล เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 16:29:22

ความคิดเห็นที่ 69 อ่านดูแล้วสงสารคุณเจ้าของกระทู้จับใจเลยจริง ๆ ค่ะ คนจีนจะปลูกฝังให้ลูกหลานในครอบครัวสำนึกบุญคุณของพ่อแม่และมีความกตัญญูเป็นที่ตั้ง มันขึ้นอยู่กับว่าพ่อแม่จะ"ปลูก" และ"ฝัง" กันมาอย่างไร ขอบังอาจเรียนตามตรงว่าปลูกฝังแบบผิดวิธี และก็แสดงความคิดรวมถึงทำตัวให้น่าเลี้ยงน่ากตัญญูรู้คุณเสียจริง ๆ คุณเจ้าของกระทู้คะ ถ้าหากว่าเราอยู่สถานการณ์เดียวกันกับคุณ เราจะคงหาทางออกไม่ได้เช่นกัน เราจะพยายามช่วยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยที่ยังรักษาความเป็นครอบครัวของเราไว้ จะเชิญท่านไปอยู่บ้านพักคนชรา หรือบ้านเช่าที่คุณพอจะช่วยส่งเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้บ้าง บ้านเช่าหลังนั้น ต้องยึดตามความเห็นของสามีและแม่สามีเพราะเป็นเจ้าของที่แท้จริง ท่านปลูกฝังความกตัญญูให้คุณด้วยการ "กด" คุณไว้กับคำนี้ ทำให้คุณดูเหมือนไม่กล้าสู้คนเพราะโดนกดอยู่ตลอด ตอนนี้คุณต้องลุกขึ้นสู้แล้วค่ะ สู้เพื่อครอบครัวของคุณเอง ช่วยได้ตามอัตภาพและกำลังที่มี ไม่ว่าจะอย่างไรท่านก็คือพ่อแม่ที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูคุณมา เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : เลขาหน้าใส เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 16:35:07

ความคิดเห็นที่ 70 สรุปให้ค่ะ ขนของพ่อแม่ใส่กระเป๋าพาเค้าขึ้นรถไปส่งบ้านน้องชาย ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วทำแค่นั้นแหละ  เงินไม่มีให้ก็ไม่ต้องให้จบค่ะ จากคุณ : Miwmilk เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 16:39:29

ความคิดเห็นที่ 71 กิฟหมด ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุก ๆ ท่านสำหรับคำแนะนำทุก ๆ ความเห็น เราจะนำไปฉุกคิด เพื่อครอบครัวของเรา เพื่อให้รู้ว่า ตนเองก็มีค่า ในสายตาของสามีเสมอ อดีตที่ผ่านมา คือการกดหัวเราให้อยู่ในความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ ซึ่งมันคงไม่สามารถไปทดแทนกันจนถึงขนาดครอบครัวใหม่ ชีวิตใหม่ต้องพินาศ คืบหน้าอย่างไร แก้ไขอย่างไรจะมาบอกค่ะ เพื่อให้รู้ว่า ชีวิตจริงรันทดมันมีจริง   คนรู้จักบางคน ไม่เคยรู้ว่าเหตุการณ์แท้จริงเป็นอย่างไร สักแต่ต่อว่า เลว เนรคุณคน   มันทรมานกับคำ ๆ นี้ ทั้ง ๆ ที่เราก็ทำดีทีุ่สุดแล้ว เขาถึงบอกว่า โลกแห่งความจริงนั้น คนดีอยู่ไม่ได้ จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 18:58:48

ความคิดเห็นที่ 72 เข้ามาให้กำลังใจนะคะ จากคุณ : tua-lex เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 20:59:35

ความคิดเห็นที่ 73 ขอให้คุณใช้สติแก้ปัญหาค่ะ ถ้าแก้ด้วยตัวเองไม่ได้ให้ยืมมือสามีและแม่สามีค่ะ ให้เขาออกหน้าพูดให้ แก้ปัญหาให้ จากคุณ : เทียนสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:53:42

ความคิดเห็นที่ 74 เข้ามาตามต่อ คือถ้าเราเป็นเเม่สามี เราก็ไม่ยอมเหมือนกันนะคะ พ่อเเม่คุณไม่ใช่ไม่มีที่ไป ลูกชายลูกเทวดาที่ยกขึ้นหิ้งล่ะ ตอนนี้คุณต้องถนอมครอบครัวคุณไว้ดีๆนะคะ สามีคุณดีมากเลยนะเราว่า เเต่เขาคงไม่ไหวเเล้วจริงๆ เพราะเขาต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงคุณ จะให้มาเลี้ยงพ่อแม่คุณอีกมันเกินไปนะ ให้เขาออกไปเถอะค่ะ ส่งเงินให้ก็พอ ลงทุนกับลูกชายไว้ ก็ไปขอทุนคืนซะ กับลูกสาวที่ไม่มีค่าในสายตาเขา ให้ได้เเค่นี้เเหละ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 22:06:38

ความคิดเห็นที่ 75 บอกให้พ่อแม่กลับไปอยู่บ้านเดิมของตัวเองค่ะ นั่นเป็นบ้านของแก แกย่อมมีสิทธิที่จะอยู่ น้องชายไล่ ก็ไม่ต้องออกมาค่ะ ถ้าน้องชายขับไล่มาก ๆ จนคนแถวนั้นรู้กันทั่ว พ่อแม่คุณสามารถฟ้องร้องตามกฏหมายเอามรดกคืนได้ค่ะ (ตามความผิดในฐานะลูกเนรคุณ) แล้วพาแกไปหาทนายดำเนินการเลยค่ะ (น้องชายจะได้กลัว) บอกพ่อแม่คุณค่ะ ว่าวิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้แกมีบ้านอยู่และกลับมามีเงินใช้เหมือนเดิม ถ้าไม่ทำ คุณก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้มากกว่านี้ เพราะคุณไม่มีรายได้ ยังต้องพึ่งทางบ้านสามีอยู่ จากนั้น ให้สามียืนยันและช่วยพูดอีกแรงค่ะ มีคนใกล้ตัวเจอปัญหาแบบนี้เหมือนกันค่ะ พ่อแม่แบบนี้มีพอควรในสังคม ที่รักลูกลำเอียง เข้าข้างไม่ลืมหูลืมตา ยกมรดกให้เกือบหมด ลูกที่ดี เจอด่า โดนกระทำซะจนเข็ดไม่กล้าเข้าใกล้ ตอนนี้ลูกรักไม่เอาแล้ว แต่ยังดีว่า ยังไม่เจ็บไม่ไข้ ไม่งั้น ยังไม่รู้ว่าจะมีใครมาดูแลตอนบั้นปลาย จขกท. เข้มแข็งเข้าไว้นะ มีคนเป็นกำลังใจให้เยอะแยะเลย พยายามตั้งสติให้มาก ๆ อย่างเพิ่งหวั่นไหวกับปัญหาค่ะ ค่อย ๆ คิด ไปค่ะ จากคุณ : Ms_Marshmallow (Ms_Marshmallow) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 02:17:08

ความคิดเห็นที่ 76 สามีคุณเป็นคนดี มีเหตุผลค่ะ และเชื่อว่าเค้าจะใช้เหตุผลเหนืออารมณ์ ถ้าถึงที่สุด หากมีเหตุการณ์ถึงที่สุด สามีคุณต้องเลือก เราว่าเค้าจะยอมตัดคุณ ให้กลับไปดูแลพ่อ แม่ ให้หนำใจ และเค้า จะเอาลูกไว้ ให้แม่มาเยี่ยมได้ อะไรทำนองนี้นะคะ และในที่สุด เค้าจะมีภรรยาใหม่ ที่มีเหตุผลศีลเสมอกัน คิดว่านะ และเมื่อครอบครัวคุณแตกสลาย คุณต้องออกมาทำงาน หาเลี้ยงพ่อ-แม่ (ที่ไม่เคยเห็นความดีของคุณ) จะไปเยี่ยมลูก ต้องดูวัน/ เวลาว่าง คุณต้องนั่งร้องไห้ คิดถึงลูก คุณคิดว่า ตา ยาย (พ่อ- แม่คุณ) จะสรรเสริญคุณหรือไม่ เราว่า เค้าคงนั่งด่า นั่งซ้ำเติมว่าคุณโง่ (ไม่รู้จักกอบโกยไว้) ลูกเขยใจดำ อะไรทำนองนี้นะ เพราะพวกเค้าโทษแต่คนอื่น ยกเว้นโทษตัวเอง คุณคิดดูให้ดี ๆ ได้ฟังหลายความเห็น ได้อ่านหลายมุมมอง แนะนำพ่อ แม่ ด้วยเหตุผล ว่าให้แกกลับไปอยู่บ้านเดิม ฟ้อง เรื่องเนรคุณ กับลูกชายได้ ตาม คคห. 75 ค่ะ หรือบอกตัดบทไปเลย ว่า ถ้าพ่อ แม่ มายุ่งยากอีก ครอบครัวหนูพังแน่ แล้วปิดประตูเลยค่ะ หรือไม่ ก็ส่งแกขึ้นรถ เดินเข้าไปอยู่บ้านลูกชายคนเล็ก อย่าสง่า ผ่าเผยน่ะแหละ ----------------- เคยมีเพื่อนเก่าคนหนึ่ง (ชาย) แต่งงานไปแล้ว มีปัญหาครอบครัว เค้าพูดว่า เวลาจะแต่งงาน ให้ดูแม่ยายด้วย อะไรทำนองนี้ แต่ครอบครัวเค้าไม่มีปัญหาเยอะเท่าคุณ เพราะแม่ยายเค้า ไม่เยอะ เพียงแต่ชอบขอเงินลูกพร่ำเพรื่อ แต่บังเอิญลูกสาวเค้า พอมีเงินเดือน รายได้ เลยแบ่งให้สบาย ๆ แต่ตอนหลังลูกสาวไม่มีรายได้ แกก็ไม่กล้านะ เพราะลูกเขยเอาจริง แกก็อยู่เงียบ ๆ รับเงินเดือนตามที่เขย ลูกสาว จุนเจือ ค่ะ พ่อ - แม่คุณ ถ้าเจอลูกเขยอย่างเพื่อนอิฉัน ไปด่าเค้าว่า สารเลว สงสัยได้เก็บกระเป๋าตั้งแต่คืนนั้นแล้วค่ะ จะได้กลับบ้าน หรือนอนศาลาไหนไม่รู้เหมือนกัน ส่วนลูกสาว จะรักแม่ยาย จนตามออกไป เค้าก็ไม่สนเหมือนกัน (ผู้ชาย ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ค่ะ) ขอให้คุณโชคดี เจอทางออกได้ค่ะ จากคุณ : แม่รอหนูอยู่นะ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 05:52:20 A:27.55.15.52 X: TicketID:294838

ความคิดเห็นที่ 77 มาให้กำลังใจต่อครับ ปิดกระทู้เมื่อไหร่บอกด้วยนะ จะได้เลิกตามให้กำลังใจ ^^ จากคุณ : chanapoom เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 08:31:57

ความคิดเห็นที่ 78 หาทนายความและ ให้พ่อแม่คุณฟ้องร้องน้องชาย ได้ค่ะ ต้องรีบทำก่อนจะสายนะคะ พอมีที่มีทางในมือกลับคืน น้องชาย กับน้องสะใภ้ มันก็ต้องจำใจอยู่เกาะพ่อแม่คุณเหมือนเดิมค่ะ ปรึกษาทนายเลย มี เคสนี้บ่อยๆ จากคุณ : เอาใจช่วย (A perfect girl is not real) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 14:32:14

ความคิดเห็นที่ 79 เห็นใจคุณจขกท.มากเลยค่ะ ปกติคนเรามักรังเกียจคนที่เห็นแก่ได้ แต่นี่ดันเป็นพ่อแม่เราเอง ลำบากใจสุดๆค่ะ   ทำไมน้องชายคุณทำกับพ่อแม่แบบนั้น ทำไมพ่อแม่คุณถึงเอาแต่ใจตัวเอง ไม่มีเหตุผลได้ขนาดนั้น ถ้าเราเป็นคุณ เราเจียมตัวค่ะ ถือว่านี่บ้านของสามี เราแต่งงานเข้ามาในตระกูลคนอื่นแล้ว คงไม่อาจจะให้พ่อแม่มาอาศัยอยู่ด้วยได้นานๆ ถ้ามาพักชั่วคราวยังว่าไปอย่าง เราต้องแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นค่ะ หาเงิน ไปเช่าบ้านให้พ่อแม่อยู่ดีที่สุด จากคุณ : Rewritable เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 22:57:51

ความคิดเห็นที่ 80 อย่าไปเอาคำคนอื่น (และในกรณีนี้ก็คำพ่อแม่คุณด้วยค่ะ ท่านไม่ได้หวังดีกับคุณเลยเท่าที่อ่านมา) มาใส่ใจค่ะ ใครจะพูดยังไง ช่างเขา ใครจะว่าอะไร ช่างเขา แค่ครอบครัวเรามีสุข สามีและลูกอยู่กันมีความสุข ค่อยๆสร้างฐานะสร้างครอบครัวให้ลูก ดีกว่ามานั่งปวดหัวคอยคิดกังวลกลัวคนจะนินทาดีกว่านะคะ คิดหาวิธีหาเงิน ดีกว่ามานั่งคิดกลัวคนอื่นไม่เข้าใจ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเป็นยังไงนี่ค่ะ ก็ช่างเขาไป จากคุณ : BigSom เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 00:17:09

ความคิดเห็นที่ 81 สงสารคุณจับใจเลยค่ะ  พยายามช่วยคิดนะคะ 1.  เรื่องทรัพย์สินที่ยกให้น้องชายไป  สามารถ "ถอนคืนการให้" เพราะเหตุเนรคุณ (ไม่เลี้ยงดูจนทำให้พ่อแม่อยู่ในฐานะลำบาก) ได้ค่ะ   ไม่ต้องเสียเงินทองแพงๆจ้างทนาย   ลองติดต่อที่ศาลหรือสภาทนายความ  น่าจะมีคนดำเนินการให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ  ควรรีบเข้านะคะ  ก่อนที่ทุกอย่างจะถูกขายไม่มีเหลือ  ส่วนบ้านที่กำลังจะมีการซื้อขายกัน  ให้รีบไปบอกคนซื้อหรือป่าวประกาศให้รู้ทั่วกันเลยค่ะว่าพ่อแม่ถอนคืนการให้ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่  น้องชายไม่มีสิทธิขายบ้านนี้  เพื่อให้คนซื้อเค้าถอนตัวไปหรือถ้าดื้อแพ่งจะซื้ออยู่  เมื่อถอนคืนได้แล้วจะไ้ด้มีสิทธิขอเพิกถอนสัญญาซื้อขาย   เพราะคนซื้อไม่สุจริตค่ะ 2.  คุยกับสามี  บอกเค้าว่าคุณเกรงใจที่ครอบครัวคุณมาเบียดเบียนเค้า  คุณลำบากใจมากไม่อยากให้พ่อแม่อยู่รบกวน  แต่ถึงยังไงสองคนนั้นก็เป็นพ่อแม่ของคุณ   ถึงคนนอกจะพูดกันไปโดยไม่รู้ความใน  แต่คุณไม่อยากให้ลูกของคุณได้ยินใครๆว่าแม่ของเค้าว่าเป็นคนเนรคุณไปตลอด   ขอให้เค้าเห็นใจและช่วยหาทางออกให้  ถือว่าเป็นการสร้างกุศล  เป็นตัวอย่างให้ลูกเห็นว่าพ่อแม่ดูแลตายายไม่ได้ทอดทิ้ง  อย่างน้อยพวกคุณก็ได้สร้างความทรงจำดีๆ  ปลูกฝังสิ่งดีๆให้กับลูก พยายามคุยกับสามีแบบที่ว่าคุณเป็นครอบครัวเดียวกัน  อยู่ข้างเดียวกัน  พูดให้เค้าสงสารคุณที่ต้องลำบากใจในฐานะลูก (เพราะสามีคุณคงสงสารพ่อแม่คุณไม่ลงจากการกระทำที่ทำกับลูกของเค้า)  เท่าที่คุณเล่าสามีแต่งงานกับคุณ  ดูแลคุณดี  และชีวิตคุณมีความสุข  เค้าคงมีพื้นฐานที่รักคุณมากพอดู   เชื่อว่าถ้าทำให้เค้าเห็นถึงความทุกข์ของคุณ   และดูแล้วเค้าก็น่าจะมีความสามารถที่พอช่วยได้   ถึงจะไม่ช่วยเต็มพิกัดอย่างที่พ่อแม่คุณหวัง   แต่เราว่าเค้าก็คงจะช่วยอะไรบ้าง เราคิดว่า  ที่เหมาะสุดก็ควรเช่าอพาร์ตเม้นท์ให้พ่อแม่ของคุณแยกไปอยู่ต่างหาก   เพื่อไม่ให้มาสร้างความระคายใจให้กับสามีคุณและไม่มาแสดงพฤติกรรมแย่ๆกับลูกของคุณ   เลือกที่ราคาไม่แพง  ให้เงินค่าอาหารให้สามารถดำรงชีพได้แบบไม่ฟุ่มเฟือย  ตกลงกับสามีว่าจะขอช่วยในระหว่างที่พ่อแม่(โดยความช่วยเหลือของคุณ)ดำเนินการตามข้อ 1  ซึ่งสามีน่าจะพอโอนอ่อนบ้างหากเป็นการให้ที่มีจุดสิ้นสุด   ไม่ใช่ว่าเค้าจะต้องโดนเกาะและรับภาระไปตลอด 3.  คุยกับพ่อแม่ของคุณ  พูดให้ชัดว่าบ้านและทรัพย์สินที่มีอยู่นี้เป็นของสามีคุณซึ่งทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรงของเค้า  คุณไม่ได้มีสิทธิที่จะขายหรือเอามาใช้หากว่าเค้าไม่ยินยอม   ซึ่งคุณลำบากใจมาก   คุณก็มีครอบครัวของตัวเอง  มีลูก  มีภาระ  หากว่ามีปัญหาจนครอบครัวแตกแยกคุณและลูกของคุณจะต้องลำบากเพราะคุณเองก็ไม่มีรายได้   ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นที่หวังจะได้จุนเจือพ่อแม่ก็จะยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปอีก   ตอนนี้คุณและสามีตกลงกันแล้วว่าคงจะช่วย........................(ตามที่ตกลงกันค่ะ)   ขอให้พ่อแม่อดทนและเห็นใจคุณด้วย  เพราะคุณก็ได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว อีกอย่างนึง  เราเตือนคุณด้วยความเป็นห่วงนะคะ  พอเกิดเรื่องแบบนี้คุณรู้สึกไหมว่าคุณไม่มีความมั่นคงในชีวิตเลย   นั่นเพราะคุณไม่มีรายได้   คุณจึงไม่มีอิสระที่จะทำอะไร  จะใช้เงินอะไรแบบส่วนตัวก็ไม่ได้  ที่สำคัญมันทำให้ตัวคุณรู้สึกด้อยค่าทั้งที่จริงๆแล้วคุณก็มีคุณค่าเหมือนกับคนอื่นๆนั่นแหละ   ที่สำคัญอนาคตมันก็ไม่แน่นอนนะคะ   เราอยากเตือนคุณให้คุณหาช่องทางสร้างรายได้ให้กับตัวเองค่ะ  อย่างน้อยที่สุด  การที่คุณเลี้ยงลูกอยู่บ้านนั่นก็คือการทำงานนะคะ  เดี๋ยวนี้ห้าหกพันจ้างพี่เลี้่ยงเด็กได้ที่ไหนกัน   นั่นแหละค่ะรายได้ที่คุณควรได้โดยออดอ้อนสามีให้เค้าให้คุณเป็นรายเดือน (แต่ว่ารอให้พ้นช่วยวุ่นๆนี่ไปก่อนนะคะ)  หรือหางานอะไรที่ทำอยู่กับบ้านได้  จะรับพิมพ์งานหรือขายของทางเนตก็ได้  ได้เงินมาก็เก็บหอมรอมริบ  เผื่อไว้ยามฉุกเฉินค่ะ จากคุณ : SWEET TOFFY เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 16:31:37

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุกความเห็น แจ้งการนำทุกความเห็นไปแก้ไขปัญหาของลูกชัง จากคุณ : Cupid MOMO เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 55 11:34:26