ความคิดเห็นที่ 1 We do both... จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 03:13:57

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าวิธีลงโทษเด็กคงยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนว่า ตีหรือไม่ตีอย่างไหนดีกว่ากัน  แต่ผมมองว่าการกระทำทั้งสองอย่างนี้ถ้ามันแรงเกินไป มันจะทำให้ผลที่ตามมาเกิดความรุนแรงได้ในอนาคต ผมก็มีลูกครับ ถ้าถามว่าผมลงโทษแบบไหนผมทำทั้งสองอย่าง แต่ต่างแค่ช่วงเวลา ตอนเล็กๆก็ตีครับเพราะแกยังคิดเหตุผลไม่เป็น การตีเป็นการบ่งบอกว่าการกระทำแบบนี้อันตรายห้ามทำ... แต่เมื่อแกโตขึ้นพูดจามีเหตุผลผมไม่เคยตีแกเลย แค่คำพูดก็น้ำตาไหลพรากกันแล้ว.. สรุปผมว่าปล่อยตามธรรมชาติของครอบครัวดีที่สุดแล้วครับไม่ต้องไปจำกัดตั้งกฏมาตราฐานอะไรว่าแบบไหนดีไม่ดี  ให้ครอบครัวเป็นตัวบ่มเพาะความเป็นคนดีให้เค้าดีกว่า เรื่องการทำโทษเป็นแค่ปลายทาง บางทีการ TimeOut หรือติดคุก ก็ไม่ใช่เป็นการทำให้คนดี หรือการตีก็ไม่ใช่ทำให้คนรุนแรงเสมอไป  ไม่ต้องคิดมากครับปล่อยไปตามสถานะการและเหตุการก็พอ   ปล.ตอนเด็กๆผมกลัวโดนตีมากกว่าโดนกักบริเวณ อาจเพราะเป็นผู้ชายจึงไม่กลัวเรื่องนี้ พอโดนกักบริเวณก็สนุกได้อีก แอบหยิบเกมกดมาเล่นต่ออีกเห้อ...  ;) จากคุณ : A Tu Cor@zon เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 03:43:54

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่าการตีเหมาะกับเด็กที่คิดเป็นแล้วครับ ถ้าเด็กเกินไปยังคิดเล็กคิดน้อย อีกอย่างนึงการตีน่าจะเหมาะกับในโรงเรียนมากกว่าครับ เพราะทำให้อายด้วย ถ้าพ่อแม่ตีซักวันเขาจะสู้ครับ จากคุณ : ป่าปี๊ตัวกลม เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 03:55:43

ความคิดเห็นที่ 4 อยากให้คุณ JidNince เข้ามาให้ความเห็นเรื่องนี้จัง รออ่านนะคะ จากคุณ : Solothurn เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 04:30:04

ความคิดเห็นที่ 5 การทำโทษเด็กไม่ตายตัวจริงๆ ค่ะ  ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตอนนั้นว่าเด็กทำอะไร   ทำอย่างไร  ทำเพราะอะไร ตอนเด็กเราโดนพ่อตีครั้งเดียวเพราะเราวิ่งตัดหน้ารถ ซึ่งเราเองก็ไม่สนใจด้วย   แต่พอโดนพ่อตีแค่ 3 ทีกลัีบจำแม่นและจากนั้นก่อนข้ามถนนก็จะมองซ้ายขวาและไม่วิ่งโดยไม่มอง ส่วนแม่โดนแม่ตีครั้งเดียวเช่นกันเพราะแอบขโมยเงินแม่ไปซื้อการ์ตูน แม่ตีแค่ทีเดียว    จากนั้นเราก็เลิกขโมยเงินอีกเลย เราว่าการ time out ให้ผลรุนแรงกับสภาพจิตเด็กมากกว่าการโดนตีเสียอีก เพราะทำให้เด็กรู้สึกตัวเองขาดคนสนใจ    และเพราะความเป็นเด็กทำให้ปรับสภาพจิตใจได้ยากกว่าผู้ใหญ่    แม้จะบอกว่าเด็กลืมง่าย  แต่ไม่มีใครรู้ว่าความรู้สึกถูกเพิกเฉยจากการ time out จะฝังเข้าไปในจิตใจเด็กและส่งผลตอนโตหรือไม่         ขณะที่การโดนตีไม่ทำให้เด็กรู้สึกแย่เท่าการถูกเมินเฉย การที่การตีถูกแอนตี้ในสังคมพ่อแม่สมัยใหม่    เพราะอาจมองว่าตีด้วยแรงอารมณ์มากกว่าตีเพราะสั่งสอน        และสังคมสมัยนี้คนมักถืออารมณ์เป็นใหญ่   ขนาดครูบาอาจารย์ยังไม่รู้จักการยั้งมือในการตีเด็กเลย   ต่างกับรุ่นก่อนที่ใช้ไม้เรียวตีอย่างมากก็แค่ 1-2 ที   แทบไม่มีการตีเพราะความสะใจ จากคุณ : blacksatinrose เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 08:12:38

ความคิดเห็นที่ 6 ดิฉันเลี้ยงลูกไม่ตีค่ะแต่จะใช้วิธีตักเตือนอธิบายและพูดคุยในกรณีที่มีการทำผิดไม่ร้ายแรงเกิดขึ้นและคุยกันรู้เรื่อง ส่วนวิธีการทำโทษก็จะมีวิธีการที่แตกต่างกันไปแล้วแต่กรณีและความผิดค่ะ Time out จะเป็นวิธีการทำโทษที่ใช้ตอนอยากให้ลูกสงบสติอารมณ์เมื่อทำความผิดแล้วพูดจากันไม่รู้เรื่องซะส่วนใหญ่ค่ะ ที่บ้านจะเน้นเรื่องเมื่อทำผิดต้องรู้จักขอโทษมากกว่าเน้นเรื่องทำผิดแล้วจะต้องโดนทำโทษน่ะค่ะ อย่างกรณีของลูกชาย จขกท. ดิฉันคิดว่าด้วยวัยที่ไล่เลี่ยกันของเด็กๆเลยทำให้คนโตอาจจะต้องการเรียกร้องความสนใจ ด้วยการแกล้งน้องรักแกน้องก็ได้ค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงคุณ จขกท. ก็ต้องแสดงออกว่ารักเขามากแค่ไหน และพยายามบอกเขาว่ามีพี่น้องนั้นสำคัญยังไงและไม่ควรรังแกน้องน่ะค่ะ มีอะไรก็ต้องแบ่งกันเล่น อย่าทะเลาะกัน ตอนแรกๆที่เขายังเล็กๆอย่างนี้อาจจะไม่เข้าใจและไม่ได้ผลทันที แต่ถ้าเราค่อยๆฝึกเขาไป ก็น่าจะได้ค่ะ ไม่ทราบว่าช่วยอะไรมั๊ยนะคะ แต่ขอให้จขกท.โชคดีหาทางออกเจอะนะคะ ว่าทำโทษแบบไหนถึงจะดีน่ะค่ะ จากคุณ : ลูกปัดสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 08:14:42

ความคิดเห็นที่ 7 คห 6 เรื่องพี่ต้องการเรียกร้องความสนใจนี่ เราทำทุกอย่างและให้ความสนใจเขามากกว่าน้องอย่างเห็นได้ชัด แต่อาการแกล้งน้องก็ยังมีเป็นระยะค่ะ ยิ่งเรื่องขอโทษ เดี๋ยวนี้แกทำผิดปุ๊บรีบชิงขอโทษเลยค่ะ คือแกรู้ว่าถ้าทำผิดแค่ขอโทษก็ได้แล้ว แต่ไม่มีการสำนึกผิดเลยค่ะ :( แถมยังพาลไปตีพี่เลี้ยงกับคนอื่นๆในบ้านอีก อยากรู้ว่านอกจากตีกับtime out แล้ว มีใครมีวิธีอื่นอีกไหมคะ?? จากคุณ : Rada Nene เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 09:52:23

ความคิดเห็นที่ 8 การตีควรมีตามความเหมาะสมครับ และเป็นวิธีที่ได้ผลมาก กว่าวิธีอื่นๆ เด็กมีหลายช่วงครับ เช่นบางช่วงสอนให้ทำบางอย่าง มักจะขัดคำสั่ง           เช่นสอนให้เปิดประตูรถเบาๆ ก็จะไม่ทำตาม โดยไม่สนใจสิ่งที่บอกและพยายามฝ่าฝืน ครั้งแรกเปิดไปโดนรถคันอื่น ที่จอดข้างๆ ไม่ลงโทษแค่สอนบอกว่าทำแบบนั้นมันเสียหายต้องชดใช้เงินเค้า ก็รับฟังแล้วนั่งเงียบ           พอมาถึงบ้านจอดรถชิดทางเท้า ก่อนเปิดประตูก็บอกว่าให้เปิดเบาเพราะจะชนฟุตบาท ประกฏว่าเค้าไม่สนเลยเปิดและผลักออกไปแรงๆเลย ผลคือครูดฟุตบาท ประตูเสียหาย             ถ้าแบบนี้ ผมว่าไม่มีวิธีไหนดีกว่าการลงโทษด้วยการตีครับ 2 กรณีที่เล่ามา ความเสียหายประมาณ 4 พันบาท สำหรับคนเงินเยอะคงไม่เป็นไรสอนได้อีกหลายรอบ  แต่สำหรับคนรายได้น้อยๆ คงไม่มีเวลาพอที่จะสอนกันแบบพูดคุยเพื่อให้เกิดความเข้าใจนะครับ จากคุณ : บองหลา เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 10:09:33

ความคิดเห็นที่ 9 ดิฉัน ไม่ตีลูก  ไม่ time out หล่อหลอมให้เค้ารู้ว่าสิ่งนั้นควรหรือไม่ควร เพราะอะไร เด็กรับรู้ และเข้าใจได้ จากคุณ : pha-sea-pha เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 10:27:43

ความคิดเห็นที่ 10 วิธี time-in การ time-in คล้ายกับการ time-out (การไทม์เอาท์ ไม่ได้เน้นการโดดเดี่ยวลูกนะคะ แต่เป็นการให้ลูกมีเวลาสงบสติอารมณ์ เมื่อปรับอารมณ์ได้แล้ว ค่อยกลับมาเล่นใหม่) ต่างกันที่ เราไม่ให้ลูกนั่งคนเดียว เราจะนั่งไปกับลูกด้วย ให้เค้านั่งอย่างสงบ เราเอามือจับไหล่หรือต้นขาเค้าไว้ เพื่อคุมให้เค้านั่งนิ่งๆ เราจะไม่บอกว่าเค้านิสัยไม่ดีเลยถูกลงโทษ แต่เราจะอธิบายว่าหนูควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว มานั่งซักพักให้คุมตัวเองได้ก่อนแล้วค่อยไปเล่นใหม่ ข้อดีที่มากกว่าไทม์เอาท์คือ เด็กจะไม่รู้สึกถูกทอดทิ้ง ไม่เข้าใจผิดว่าแม่เกลียดเค้าเลยไล่ให้ไปนั่งเงียบๆ และการที่เราสัมผัสตัวเค้าไว้ จะช่วยให้ฮอร์โมนเค้ากลับเป็นปกติได้เร็วกว่า เราจะใช้วิธีนี้เมื่อลูกเริ่มคุมตัวเองไม่อยู่ เช่น ร้องกรี๊ด อาละวาด ขว้างปาข้าวของ สิ่งที่สำคัญมากกว่าการลงโทษเมื่อทำผิด คือการหาสาเหตุว่าทำไมลูกถึงทำผิด เด็ก 3 ขวบ โดยธรรมชาติแล้ว ยังไม่ค่อยเข้าใจการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ยังเห็นความต้องการตัวเองเป็นใหญ่อยู่ ถ้าน้องมาแย่งของเล่น แย่งขนม เค้าอาจปกป้องความต้องการของตัวเองด้วยการทำร้ายน้อง แม่ควรสอบถามหาสาเหตุก่อนที่จะตำหนิเค้า แล้วค่อยสอนด้วยความเข้าใจในตัวเค้า เราไม่ควรบอกว่าเค้าผิด เพราะเป็นการปฏิเสธตัวตนเค้า แต่เราควรบอกว่า สิ่งที่เค้าทำอยู่เป็นสิ่งที่ผิด เราไม่ชอบ และขอให้เค้าไม่ทำอีก จากคุณ : แม่น้องอัณณา เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 12:49:58 A:180.180.136.208 X: TicketID:258399

ความคิดเห็นที่ 11 อย่าตีเลย เดี๋ยวเขาแอบตีน้อง จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 21:30:37