อยากบอกแม่มือใหม่และแม่ใกล้คลอดที่ยังไม่เคยให้นมแม่
|
|
ขอแบ่งปันประสบการณ์ของคุณหมอศิริพัฒนา ศิริธนารัตนกุล กุมารแพทย์ผู้สนับสนุนนมแม่อย่างจริงจัง (คุณหมอเมืองไทยส่วนใหญ่ ณ ปัจจุบันไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องนมแม่แบบท่านนะคะ)
จริงหรือที่เขาว่า ของฟรีไม่มีในโลก "There is no such thing as a free lunch." เล่าจากประสบการณ์ที่เพิ่งพบในวันนี้
คุณแม่คนใหม่อุ้มลูกอายุ 1 เดือน มาหาด้วยเรื่องหายใจครืดคราด มีเสียงดังมา 1 สัปดาห์ เมื่อสัปดาห์ก่อนเริ่มมีอาการก็ได้พาไปหาที่รพ ที่คลอดได้ยาละลายเสมหะมากิน อาการดีขึ้นบ้างแต่ไม่หายหมด วันนี้จึงพามาที่นี่
ซักประวัติ ท้องแรกคลอดปกติน้ำหนัก 3070 กรัม กินนมแม่ตามด้วยนมผงมาตลอดตั้งแต่หลังคลอด แรกๆครั้งละ 2 ออนซ์ ต่อมาเพิ่มเป็นครั้งละ 3 ออนซ์ทุก 2 -3 ชม. ตรวจร่างกาย พบว่า น้ำหนัก 4,500 กรัม ไม่มีไข้ หายใจปกติไม่มีหอบ น้ำมูกไม่ไหล ฟังปอดปกติดี คอไม่แดง สรุปว่าไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ ระหว่างกำลังตรวจลูกร้อง คุณแม่หยิบขวดนมขึ้นมาเตรียมจะป้อนให้ ฉันรีบยับยั้งไว้ แล้วบอกว่า “ยังไม่ต้องป้อนนมขวดค่ะ คุณแม่ ตอนนี้ลูกอยู่กับคุณแม่ ลองเอานมแม่ให้ลูกดูดสิคะ หมอจะได้ดูด้วยว่าเขาดูดเป็นอย่างไรบ้าง?”
คุณแม่ก็เปิดเต้าเอาลูกเข้าเต้า ลูกก็ดูดเต้าแบบปากที่ดูดขวดนม ทำให้อมลานนมไม่ลึกพอ จึงต้องช่วยให้อุ้มกระชับตะแคงข้าง และประคองก้นไม่ให้เลื่อนลง มิฉะนั้นจะดึงให้หัวนมหลุดจากปากได้ พอท่ามั่นคงขึ้นลูกก็ดูดเอาดูดเอา หลับตาพริ้มหลับผล็อยไป ลองบีบน้ำนมแม่ก็ยังหยดออกมาหยดใหญ่ๆ “ คุณแม่ดูสิคะ น้ำนมแม่เยอะมากทีเดียว “ ฉันบอก
“ แต่ทำไมอยู่ที่บ้านปั๊มนมไม่ออกเลยล่ะคะ ?” คุณแม่ถาม
“ ที่ผ่านมาคุณแม่ให้ลูกดูดนมผงเสริมจากขวดด้วย ในปริมาณที่มากทำให้เขาได้น้ำนมมากจนเกินพอ นมที่เต็มอยู่ในกระเพาะ อาจจะท้นขึ้นมาทำให้มีเสียงครืดคราด บางทีก็แหวะใช่ไหมคะ พอลูกดูดนมผงอิ่มนอนได้นานก็ไม่ได้ตื่นมาดูดเต้า เครื่องปั๊มนมไหนจะสู้ลูกดูดเต้าโดยตรง คุณแม่อย่าเพิ่งข้ามขั้น ในเดือนแรกเอาลูกเข้าเต้าไว้ก่อน ร้องเมื่อไรดูดเต้า ทุกครั้ง ไม่ใช่ร้องเมื่อไรเอานมผงให้ดูดเหมือนที่ผ่านๆมา ลองดูไหมคะ “
“ ค่ะ จะลองให้ดูดนมแม่ดูใหม่ค่ะ แล้วอีก 2 เดือนจะไปทำงานจะเก็บสต๊อคทันหรือคะ?”
“ คุณแม่คิดว่าจะต้องมีสต๊อคสักเท่าไรล่ะคะ ? สต๊อคสำรองที่เก็บก่อนไปทำงาน ไม่สำคัญเท่านมแม่ที่จะปั๊มเก็บกลับจากที่ทำงานนะคะ เอ้า สมมุติว่า แม่ไปทำงานแต่ละวัน 8 ชั่วโมง บวกเวลาเดินทางเป็น 10 ชั่วโมง นมแม่ปั๊มที่ลูกจะกินแต่ละวันเผื่อเหลือเผื่อขาดก็ 12 ออนซ์ เท่ากับถุงละ 3 ออนซ์ 4 ถุงต่อวัน สต๊อคเวียนที่จะมีไว้ล่วงหน้าน้อยที่สุดคือ 4 ถุง ถ้ายังไม่สบายใจก็เผื่อไว้ 4 วัน คือ 16 ถุงเท่านั้นเอง ถ้าคุณแม่จะเริ่มเก็บ 1 เดือนหรือ 30วันก่อนไปทำงานโดยเก็บแค่วันละ 1 ถุงๆละ 3 ออนซ์ ก็จะได้นมทั้งหมด 30 ถุง ลูกกินได้ตั้ง 7 วันแน่ะ พอเหลือจะพอเลยค่ะ ช่วงนี้กลับไปให้ลูกดูดกระตุ้นน้ำนมแม่ให้มีมากๆก่อนนะคะ นมผงทิ้งไปได้เลย ว่าแต่ว่า นมผงได้มายังไงคะ? “ อดถามไม่ได้เพราะแอบไปเห็นว่าขวดนมที่คุณแม่หยิบขึ้นมามีโลโก้ของโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งพิมพ์อยู่บนขวดเห็นได้อย่างชัดเจน
“ อ๋อ ! ทางโรงพยาบาลเขาแจกให้ก่อนกลับบ้าน ตอนที่ไปคลอดน่ะค่ะ แจกนมผงพร้อมขวดนมมาด้วยเลยค่ะ”
“ ขอโทษนะคะ นมผงที่แจกยี่ห้ออะไรคะ?.” คุณแม่ก็ตอบมายี่ห้อหนึ่งซึ่งไม่ต้องเอ่ยนามดีกว่า เป็นที่รู้ๆกันว่าแจกเป็นประจำอยู่แล้ว
ถ้าคุณแม่รายนี้ไม่ได้รับการแจกนมผงพร้อมขวดกลับบ้าน และได้รับคำแนะนำให้ดูดนมแม่อย่างเดียวบ่อยๆ เธอก็คงจะได้ให้ลูกดูดนมแม่จากเต้าตามที่ลูกต้องการ ร้องเมื่อไรก็เอาเข้าเต้า หัวนมก็ดี ลูกก็ดูดเก่ง น้ำนมแม่ก็คงจะไหลมาเทมา แม่ลูกเข้ากันได้ดีมีความสุข
สรุปบทเรียนจากรายนี้
1. ไม่จำเป็นต้องเสริมนมผงให้ทารกแรกเกิดที่คลอดครบกำหนดปกติ ตัวอย่างรายนี้เสริมจนน้ำหนักขึ้นมามากกว่า 1 กิโลกรัมต่อเดือน ทั้งๆที่ใน 1 เดือนแรก ขึ้นเฉลี่ยแค่ 600- 800 กรัม ก็พอใจแล้ว 2. แม่เสริมนมผงเพราะ เป็นแม่มือใหม่ ไม่มั่นใจว่าที่ลูกร้องเพราะอะไร พอดีมีนมผงและขวดนมใกล้มือจากที่รพ.แจกฟรีมา จึงชงเสริมให้ลูกกินจนล้นท้น ถึงแม้รายนี้แม่จะไม่เสริมนมผง น้ำหนักลูกก็จะขึ้นได้พอดีๆอยู่แล้ว 3. ในเดือนแรก แม่ไม่ต้องกังวลเรื่องเก็บสต๊อคนม เอาเรื่องเฉพาะหน้า คือให้ลูกดูดจากเต้าให้ชำนาญก่อน เรียกน้ำนมให้มาเพียงพอกับความต้องการของลูกเสียก่อน แม่อยู่กับลูกให้ลูกดูดจากเต้า ลูกร้องก็ให้ดูดจากเต้า 4. สต๊อคน้ำนมแม่ที่เก็บก่อนไปทำงาน ไม่สำคัญเท่าการปั๊มเก็บน้ำนมเมื่อแม่กลับไปทำงานแล้ว ถึงแม้จะมีสต๊อคมากๆ แต่ตอนไปทำงานแม่ไม่ปั๊มบ่อยๆ น้ำนมจะผลิตน้อยลง การมีสต๊อคน้ำนมแม่ไว้เผื่อประมาณ 7 วันก็เพียงพอแล้ว แต่ใครจะเก็บมากน้อยกว่านี้ก็ขึ้นกับแต่ละคน สำหรับแม่ที่ทำงานนอกบ้าน ไม่จำเป็นต้องมีสต๊อคจนล้นตู้เย็นก็สามารถให้นมแม่ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆได้ ถ้าขยันปั๊มที่ที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ 5. การแจกนมผงและขวดนมฟรีให้แม่หลังคลอดบั่นทอนความมั่นใจของแม่ในการให้นมแม่ ถ้าหากแม่ลูกคู่นี้ไม่ได้รับคำแนะนำให้กลับมากินนมแม่อย่างเดียว เธอจะต้องซื้อนมผงยี่ห้อที่ได้รับแจกนั้นเลี้ยงลูกของเธอไปเรื่อยๆ เพราะน้ำนมแม่จะผลิตน้อยลงไป ในขณะเดียวกับที่ต้องชงนมผงเพิ่มมากขึ้นๆ เธอจะต้องใช้เงินซื้อนมผงมากกว่าค่านมกระป๋องที่ได้รับหลายร้อยเท่า นี่จึงไม่ใช้การแจกฟรี แต่เป็นการตลาดที่ไร้จริยธรรม!
ยังมีคุณแม่มือใหม่อีกมากมายที่พบปัญหาเช่นเดียวกันนี้ เราจะปกป้องสิทธิ์ของทารกน้อยๆเหล่านี้อย่างไร?
แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 55 10:36:28
จากคุณ |
:
joymacy
|
เขียนเมื่อ |
:
21 พ.ย. 55 10:36:03
|
|
|
|