นิทานที่ไม่จบในเรื่องหรือกลับมาที่จุดเริ่มต้นเช่น กบเอ๋ยทำไมถึงร้อง เด็กได้คิดต่อยอด เห็นถึงความสัมพันธ์จากการถามคำถามหลังจากนิทานจบลง นิทานที่ใช้คำซ้ำแต่เปลียนตัวละครใหม่เช่น ตากะยาย หัวผักกาดยักษ์ จดจำเรื่องราว/เนื้อเรื่อง จากคำที่ใช้ซ้ำๆ ควรเล่นซ้ำบ่อยๆ ให้ลูกนั้งตัก ใช้มือชี้แล้วลากไปตามตัวหนังสือด้วยเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา (ฟัง อ่าน จำจากเสียงและสัญลักษณ์เป็นคำ) นิทานที่เล่นจากสิ่วของใกล้ตัวเช่น ดินสอ ช้อน กระดาษที่พับเป็นหุ่น เพิ่มความแปลกใหม่ เด็กสามารถสร้างเล่นของตัวเองขึ้นมาใหม่ได้โดยไม่จำต้องให้ผู้ใหญ่เล่นให้ฟังจากหนังสือนิทาน พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ นิทานที่ตลกมาจากเรื่องใกล้ตัวหรือเป็นเรื่องของเด็กๆ เองเช่น มีชื่อเด็ก ชื่อเพื่อนชื่อคุณพ่อคุณแม่ คนในรอบครัว อาจดักแปลกจากเรื่องที่มีอยู่แล้ว รวมเรื่องนั้นผสมเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ หรือคิดเอง โดยมีแก่นของเรื่องว่าจะพูดถึงเรื่องอะไร 1เรื่อง 1 แก่น ใช้คำที่ตลกๆ เช่นคำอุทาน มีการไล่เสียงสูงต่ำ การใช้วรรณยุกต์ แนวคิดของนิทานเด็กและผู้ใหญ่อาจเข้าใจไม่เหมือนกัน ผู้ใหม่อ่านแล้วได้อย่างหนึ่งแต่เด็กได้อีกอย่างหนึ่งเช่น เม่นหลบฝน สอนให้เด็กนับเลข แต่เด็กบางตัวอาจเข้าใจว่าช้างตัวใหญ่แต่มีน้ำใจก็ได้ ให้เขาได้แสดงความคิดเห็นก่อนและอย่างพยายามแสดงให้ลูกเห็นว่าคิดของเราถูกต้องเสมอ นิทานมีข้อคิดที่ผมชอบ คือนิทานชุดจริยธรรมต่างๆ เช่นกุ๋งกิ๋ง นิทานเพื่อนรัก เมฑเริ่งรำสายน้ำร้องเพลง นิทานสีขาวเป็นต้นครับ
จากคุณ |
:
ไมก้า (ไมก้า)
|
เขียนเมื่อ |
:
25 พ.ย. 55 12:20:22
|
|
|
|