ความคิดเห็นที่ 1 เป็นสารเสริมชนิดนึงคะ มีลักษณะเป็นเจลสีส้มใส ส่วนใหญ่ใช้กับเค้กประเภทสปันจ์หรือสปอง ช่วยให้เนื้อเค้กขึ้นฟู และข้น และช่วยให้รอเตาได้ประมาณครึ่งช.ม.คะ ข้อเสีคือหาซื้อยากและจะขายเป็นกระป๋องใหญ่   เวลาซื้อต้องระวังนะคะ อ่านชื่อให้ชัวร์ อย่าซื้อชื่อ โอเว็ต โอเล็ต เพราะมันเป็นของปลอมคะ และต้องเก็บในตู้เย็นเท่านั้นคะ ถ้าเสียไม่สามารถเช็คได้จนกว่าเค้กจะอบออกมาแล้วไม่ฟูอ่ะคะ แบบแบ่งขายก็มีแต่ต้องไปวื้อตามร้านอุปกรณ์ใหญ่ที่ไว้ใจได้หน่อยนะคะ จากคุณ : joydavid - [ 21 มี.ค. 49 23:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อ้อ ถ้าหาไม่ได้ใช้ SPแทนได้คะ หาวื้อง่ายกว่า แต่เนื้อเค้กจะต่างกันนิดหน่อย SPจะออกมาร่วนกว่าหน่อย และต้องรีบอบคะ สรรพคุณข้างกระป๋องคะ นี่ยังกระป๋องเล็กนะคะ จากคุณ : joydavid - [ 21 มี.ค. 49 23:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลักษณะเนื้อเจลคะ จากคุณ : joydavid - [ 21 มี.ค. 49 23:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่มา: www.maama.com ของคุณ Guzzie ==================== [ "โอวาเล็ต (OVALETT), เอสพี (SP) เอ็มเพล็ก (Emplex) และ อีซี 25 เค (EC25K) ทั้งหมดนั้น คือ สารอิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) ที่ในปัจจุบันวงการอุตสาหกรรมเบเกอรี่ของบ้านเรา (และในหลายประเทศ) นิยมนำมาใช้กันอย่างมาก เพื่อทำหน้าที่เป็น Cake Stabiliser การใช้สารอีมัลซีไฟเออร์เหล่านี้ นิยมใช้ในการผสมแบบขั้นตอนเดียว คือ เติมส่วนผสมทั้งหมดลงในอ่างผสม แล้วตีส่วนผสมด้วยความเร็วต่ำ 30 วินาท ปาดข้างอ่างเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี แล้วตีต่อด้วยความเร็วสูงอีกประมาณ 5 - 6 นาที (หรือแล้วแต่สูตรจะกำหนด) เหตุผลที่มีการใช้สารอิมัลซิไฟเออร์ในวงการเบเกอรี่กันมาก ก็เพราะมันช่วยให้การตีไขมันกับของเหลวต่าง ๆ ในส่วนผสม สามารถรวมตัวกันได้ดี ภายในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ประหยัดเวลา ช่วยให้การทำเค้กง่ายขึ้น ได้เนื้อเค้กที่ละเอียดขึ้น และโอกาสที่ขนมจะเสียหรือยุบตัวจะมีน้อยมาก จึงสามารถที่จะควบคุมต้นทุนและคุณภาพของเค้กไว้ได้ โอวาเล็ต (นิยมใช้กับขนมอบ) และ เอสพี (นิยมใช้กับขนมประเภทนึ่ง) จะนิยมใช้ในขนมที่ขึ้นฟูด้วยไข่ เช่น สปอนจ์เค้ก (Sponge Cake) ปุยฝ้าย สาลี่ ฯลฯ โดยใช้ประมาณ 3.5 - 5 % ของน้ำหนักแป้งหรือขึ้นอยู่กับสูตรขนม ส่วนเจ้า Emplex และ EC25K จะนิยมใช้กับพวกเค้กที่มีปริมาณของไขมันสูงหรือใช้ไขมันเป็นส่วนผสมหลัก SP, OVALETT และ EC25K มีลักษณะเป็นครีมข้น จึงใช้เติมลงไปในระหว่างการตีเนยกับน้ำตาล หรือเติมพร้อมไปกับการตีไข น้ำตาลและน้ำได้เลย ยกเว้น เอ็มเพล็ก (Emplex) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับนมผง จึงต้องนำไปร่อนผสมลงในแป้งก่อนนำไปตีกับส่วนผสมอย่างอื่น เพราะฉะนั้น คุณผู้อ่านคงจะทราบเหตุผลแล้วนะคะ ว่าทำไมเวลาที่เราทำเค้กทานเองที่บ้าน โดยใช้สูตรแบบ Homemade จึงไม่ได้เนื้อเค้กอย่างที่เราไปซื้อเขาทานสักที ก็เพราะสูตรแบบ Homemade จะไม่มีการใส่สารอิมัลซิไฟเออร์นั่นเอง ทั้ง โอวาเล็ต และ วานิลาแบบผง สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วไปคะ" ] ==================== จากคุณ : ธารน้ำใส - [ 22 มี.ค. 49 02:46:41 A:67.168.55.213 X: TicketID:117598 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นสารอีมัลซิไฟเออร์ครับ การ emulsify ก็คือ การทำให้ไขมันกับน้ำรวมตัวกัน (จริงๆใช้กับ การทำให้สารอื่นที่ปรกติแยกตัวกันนั้น รวมตัวกันก็ได้) ซึ่งกระบวนการนี้ต้องอาศัยการตี ให้ไขมันกระจายตัวเป็นอณูเล็กๆ แทรกอยู่ในน้ำ สารอีมัลซิไฟเออร์เป็นตัวช่วยให้ไขมันกระจายเป็นเม็ดเล็กๆ ได้ดี แต่ไม่จำเป็นว่า เค้กที่ใส่สารเสริมพวกนี้ จะได้คุณภาพที่ดีกว่าเสมอไปนะครับ อย่างเค้กเนยที่ผมทำเนี่ย ถ้าตีแล้วแยก บางครั้งก็จะใส่สารพวกนี้ด้วย ผมเคยทำทั้งสองแบบ พบว่าเนื้อขนมที่ใส่สารอีมัลซิไฟเออร์ลงไปนั้น ละเอียดกว่าก็จริงครับ แต่มันละเอียดไป กินแล้วจะจุกอิ่มแน่นกว่า แถมสารพวกนี้ยังมีกลิ่นเฉพาะ จึงมีการแต่งกลิ่นมาในตัว ทำให้เค้กที่ได้มีกลิ่นรสที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย (ซึ่งอาจจะอร่อยหรือไม่อร่อยขึ้น ก็แล้วแต่คนชอบกลิ่นนั้นไหม) ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่า กลิ่นมันเลี่ยนๆ แม้จะหอมก็ตาม ในขณะที่เค้กเนยที่ไม่ใส่จะให้กลิ่นรสเนย ที่เป็นธรรมชาติมากๆ เนื้อเค้กละเอียดพอดี เนียน แต่ไม่แน่น นุ่มแต่ไม่จุกเวลากิน ดังนั้นเวลาทำขนม ผมก็พยายามหลีกเลี่ยงการใส่ครับ เน้นที่กระบวนการทำที่เข้าใจถึงภาวะของขนม และสิ่งแวดล้อมมากกว่าครับ ถ้าจำเป็นก็ใส่ ถ้าไม่ก็เลี่ยงครับ ขนมพื้นฐานเดิม ถ้าทำอย่างถูกวิธี ก็อร่อยอยู่แล้วครับ จากคุณ : jumjee - [ 22 มี.ค. 49 08:39:10 ]