ความคิดเห็นที่ 1 ผสมกับมีเพื่อนท่านนึง ถามมาว่า  ถ่ายรูป ทั้งหลายแหล่   ตั้ง mode กล้องแบบไหน  เลยหยิบกล้องมากดหน่อย แล้วก็หาเรื่องมาชวนคุยกันเพลิน ๆ จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 09:34:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จริง ๆ  แล้ว ต้องออกตัวก่อนว่า ไม่ได้เก่งกาจขนาดจะมาเที่ยวแนะนำอะไรใครหรอกจ๊ะ  แค่คุยเล่นตามประสาเพื่อน ๆ   มากกว่า  จับกล้องดิจิตอลแบบนี้มา ก็แค่ปีสองปีเอง  ต้องเรียกว่าไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพของเขาอย่างเต็มความสามารถเท่าไหร่นัก จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 09:38:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เพื่อน ๆ  หลาย ๆ  ท่านคงคุ้นกับ กล้องพวกนี้ พอสมควรนะครับ  ส่วนใหญ่จะมีที่ให้เลือก mode ว่า จะถ่ายอะไร  แล้วเจ้ากล้องที่แสนฉลาดจะจัดการกำหนดค่า  ความไวแสง  ความกว้างของรูรับแสง  ระยะเวลาที่เปิดรูรับแสง   อะไรประมาณนี้  นะ จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 09:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หลัก ๆ  แล้ว mode ที่ ใช้กันมาก แล้วก็ง่ายที่สุด ก็คือ Auto  เรียกว่า ตั้งไว้เป็นค่ามาตรฐานได้เลย  ทำตามขั้นตอนการถ่ายที่ คู่มือแนะนำมา  เช่น  กดปุ่นชัตเตอร์ครึ่งนึง  โดยเล็งไปที่วัตถุที่ต้องการถ่าย  เป็นการ pre-focusing  พอสัญญานสีเขียวขึ้น  ก็ ค่อยกดต่อจนสุดระยะปุ่มกด  เป็นอันเสร็จ  อ้อ ระหว่างนั้น ต้องถือกล้องให้นิ่ง และ มั่นนะครับ  ภาพจะได้ไม่สั่นไหว เหมือนหลาย ๆ ภาพที่ผมเคยทำ แล้วยังทะลึ่งเอามาลง แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 49 10:37:35 จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 09:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทีนี้  จริง ๆ แล้ว ยังมีอีกหลาย mode ให้เลือกใช้ได้  แล้วแต่ยี่ห้อของกล้อง แล้ว ก็ รุ่นของกล้อง  จริง ๆ  แล้ว mode พวกนี้ เก่งนะ  เลือก ๆ  ใช้ได้ ตามความประสงค์ได้  แต่ยังมี mode อีกแบบนึง ที่ ผมนิยมใช้ครับ  คือ mode ที่เป็นตัวอักษร ตัว P  นั่นเอง จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 09:45:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เจ้าตัว P นี่ จำไม่ได้สะแล้ว ว่า ย่อมาจากคำว่าอะไร  แต่แน่ ๆ  คงไม่ใช่ professional หรอกนะ  อิอิ  อาจจะย่อมาจาก program  ซึ่งหมายถึงว่า เราสามารถเลือกตั้งค่าบางอย่างได้ตามที่เราต้องการ หรือ เห็นว่า สวย ถูกใจ  อาทิเช่น  การตั้งค่าชดเชยแสง ทั้ง ค่า บวก และ ค่าลบ จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 09:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นอกจากค่าชดเชยแสดง ยังอาจตั้งค่าสมดุลของสีขาว (white balance)  ตามสภาพแวดล้อมของแสงที่เราถ่ายภาพอยู่  ซึ่งมีค่าหลากหลาย ตั้งกะ  Auto  Sunny   Cloudy   Fluoressent   Thungsten  อะไรแบบนี้  ก็ลอง ๆ  ตั้งแล้วดูว่า ตั้งแบบไหนแล้วได้สีที่ดูเป็นธรรมชาติ หรือ ถูกใจเรามากที่สุด แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 49 10:39:02 จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 09:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องการตั้งค่า นี่ หลากหลายเหลือเกินนะ  เอาเป็นว่า ยังไงก็ลองอ่านคู่มือที่เขาติดมาให้หน่อยด้วยแล้วกัน   มาคุยกันต่อเรื่อง การใช้ macro  กับการถ่ายวัตถุที่อยู่ใกล้ ประมาณแนบสนิทชิดกับเลนซ์  กัน  อิอิ ก็แบบที่ถ่ายเน้นให้เห็นเนื้อหนังมังสาของกับข้าวกับปลา อะไรแบบนั้นนะ แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 49 09:53:12 จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 09:52:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 การถ่ายมาโครหรือ เจ้า ปุ่ม รูปดอกไม้นี่  จริง ๆ  ก็ไม่ใช่ว่าเน้นจะต้องถ่ายแบบชิดติดกับ ตัว วัตถุที่จะถ่ายจน  แน่นหนา  หาช่องหายใจไม่เจอนะ  หรือ ว่า ถ่ายดอกไม้ แต่ไม่มีช่วงว่าง ให้เห็นมิติของภาพ  ประมาณ ชัดลึก  ชัดตื้น  หาไม่เจอ  ไม่รู้จัก  อันนี้ ก็ หมดปัญญา จ๊ะ  อิอิ อ้อ แม่มณี นี่ไง มะม่วงอกร่องที่ได้มา จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 09:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ข้อสำคัญอีกอย่างนึง ก็คือ  การถ่ายรูป จะว่าไปก็เป็นศิลป อย่างนึง  ประมาณว่า เราต้องหามุมมองของทุกสิ่งทุกอย่างให้พบว่า มุมไหน จะดูดีที่สุด  บางครั้งเหมือนกับว่า การถ่ายภาพเหมือนการโกหกคนดู   แต่ไม่แน่นะ  อย่างเจ้ามะม่วงนี่  ฉันปอกไม่สวยจริง ๆ  มีดที่ปอดทื่อ มาก  เถืออยู่นานจนช้ำไปหมด  อย่างนี้  บางทีก็คงหมดปัญญาจะหลอกตาคนดูได้เหมือนกัน นะ  อิอิ จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 09:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 นั่งหามุมถ่ายมะม่วงที่ปอกได้น่าเกลียดที่สุด  จนเหนื่อย  เหมือนพบสัจจธรรมว่า  ของไม่สวย ถ่ายยังไงก็ไม่สวย  อิอิ  เฮ่อ หรือจริง ๆ  ก็คือ  คนถ่ายมีปัญญาแค่นี้  ละนะ  เอาน่านะ  เรียกว่า ถ่ายเล่นสนุก ๆ  กันแล้วกัน แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 49 10:41:56 จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อย่างที่บอกไว้ ว่า การถ่ายภาพ เป็นงานศิลปอย่างนึง   คนถ่ายไม่แน่ว่าจะต้องถ่ายภาพ ที่ ดูสวยจนเกินจริง  จาก สถานที่ หรือ ว่า บุคคล  หรือ  แม้แต่ดอกไม้ใบหญ้า อะไร    หาของใกล้ ๆ  ตัว มาลองถ่ายดู  เป็นการเสริมทักษะ  ถ่ายเสร็จแล้ว ก็มาดูกัน  ว่า  เราควรปรับ  หรือแต่ง  หรือแม้แต่ จะหาอะไรมาประกอบในกรอบภาพให้สื่อความหมายของภาพที่ถ่าย    อย่างที่เรียกกันว่า   องค์ประกอบศิลป์  ละจ๊ะ จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รูปทุกรูปที่เราถ่าย ไม่จำเป็นต้องมองว่า ต้องสวย  ต้องครบองค์ประกอบ  เป็นไปตามหลักวิชาการถ่ายภาพที่นิยม แบ่งภาพออกเป็นเก้าส่วนเท่า ๆ กัน  แล้วจัดวางตัววัตถุไว้  อยู่ตรงกลาง  หรือ มุมใดมุมหนึ่ง     รูปบางรูป เราอาจใช้แค่บอกเรื่องราว  แทนคำพูด  ก็ใช้ได้แล้ว  เรียกว่า บรรลุวัตถุประสงค์ในการสื่อความหมาย นั่นเอง จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 การถ่ายภาพจริง ๆ  แล้ว  เป็นเรื่องของการเล่นกับแสงที่ตกกระทบวัตถุ  แล้ว บันทึกไว้ในสื่อที่เราใช้  เสมือนกับดวงตามองเห็นวัตถุ  แล้วส่งสัญญานภาพไปถึงสมอง   ประมาณได้แบบเดียวกัน  เวลาเราเอากล้องไปถ่ายรูป  ก็จะเป็นการเปิดรูรับแสงผ่านเลนซ์ของกล้อง  แล้ว แสงก็ไปตกกระทบกับ  ตัวรับภาพของกล้องนั่นไง  จริง ๆ  หลักการก็ไม่ต่างไปกับ การถ่ายรูปที่ใช้ฟิลม์นะ  แค่เปลี่ยนจาก ฟิลม์เป็นตัวรับภาพ แบบอิเล็คทรอนิค เท่านั้น แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 49 10:47:51 จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นมะ ว่า จริง  ๆ  หลักการก็ไม่มีอะไรมากนะ  ยังอยู่กับหลักเดิม ๆ นั่นเอง    ถ้าแสงสว่างเพียงพอ การถ่ายภาพก็ไม่มีปัญหา  ถ่ายติดแน่  การทำงานของกล้อง ก็จะเป็นไปด้วยความรวดเร็วจนไม่ต้องกังวลว่า มือไม้เราจะสั่นระหว่างกดชัดเตอร์    เพราะถ้าแสงน้อย กล้องก็จะสั่งการให้เปิดรูรับภาพ นานขึ้น  หรือ ขนาดของรูรับแสงกว้างขึ้น  เพื่อให้ตัวรับภาพได้รับแสงเพียงพอ  ซึ่งในภาวะแบบนั้น  ก็อาจจะเกิดอาการแสงมากเกินไป หรือที่เรียกกันว่า over นั่นไง  แล้วในทางกลับกัน ถ้าเราไปตั้งค่าให้แสงเข้าได้น้อยเกินไป  ถ่ายติดแต่จะดู สลัว ๆ  มืด ๆ  ไม่งาม  เรียกว่า under   แล้วก็อย่างเคย  บางที่ไอ้สิ่งที่ไม่พอดี นี่ อาจเป็นเทคนิคที่เราใช้เล่นกับภาพได้อีกเหมือนกัน  ของแบบนี้ต้องลองเล่น ลองมอง  กันเองนะจ๊ะ  เพราะความชอบเป็นเรื่องรสนิยมส่วนบุคคลจ๊ะ แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 49 13:57:18 จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จริง ๆแล้วกล้อง เกือบทุกตัวจะมี การตั้งค่าจุดชัดของภาพได้  ว่า  จะให้ชัดแบบทั่วไปทั้งภาพ  หรือ ให้ชัดเฉพาะจุดที่ต้องการ (spot)   ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์มาก ในการสร้างสรรงานถ่ายภาพของเรา  ประมาณว่า เน้นให้เห็นว่าจุดนำภาพเป็นอะไร  อย่างที่บอกว่า เราสามารถที่จะ pre-focusing ที่วัตถุที่ต้องการ  โดยคานิ้วไว้ แล้วขยับกล้องจัดองค์ประกอบของภาพ ให้ได้ ในรูปแบบที่เราเห็นงาม จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ทีนี้ ยังมีอะไรที่เราต้อง คำนึงถึงอีกมั้ย ในการถ่ายภาพ    มีจ๊ะ  มีเยอะเลย  เคยได้ยิน ที่พูดกันใช่มะ  ว่า   ย้อนแสง  หน้ามืด    ตาหยี    นั่นไง  ลองนึกถึงการตกกระทบของแสง ไปยังวัตถุ หน่อยนะ  จากแหล่งกำเนิดแสง  ถ้าเวลาถ่ายภาพวัตถุนั้น  เราเกิดไปยืน บังแสง  ที่จะกระทบวัตถุ  ผลที่เกิดขึ้น ก็ คือเงาดำจากตัวเราที่ไปบัง   หรือ อีกอย่างนึง  เราไปยืนถ่ายภาพโดยหันเลนซ์ไปหาแหล่งกำเนิดแสง   อันนี้วัตถุที่เราถ่าย ก็จะกลายเป็นเงาดำ เพราะค่าความแตกต่างของแสง จากแหล่งกำเนิดแสง  จะแตกต่างกัน  ระหว่างการมีวัตถุบัง กับไม่มีวัตถุบัง  แบบนี้ละ ที่เรียกกันว่า ย้อนแสง  ไง แล้วก็ยังมีเรื่อง การวัดแสง อีก ตะหาก  ว่า การวัดแสงจะวัดจากจุดไหนของภาพ  อันนี้ละ ที่มักจะพลาดกัน  ตอนพรีโฟกัสนั่นละ  ลองดูด้วยนะว่า  แสงที่แสดงบนจอ  เป็นยังไง  สวยหรือยัง จ้าไป หรือ มืดไป  แล้วลองขยับปรับหาจุดวัดแสงใหม่อีกที  เรื่องเยอะจังนะ  เฮ่อ เหนื่อย แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 49 10:52:37 จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อธิบายมายาวเหยียด  ไม่รู้ว่า จะเป็นประโยชน์บ้างหรือเปล่านะครับ  ประมาณว่า  จะมาสอนจระเข้ ว่ายน้ำ สะอย่างงั้น  อิอิ จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:20:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สรุปให้ง่าย ๆ  สั้น ๆ หน่อย ก็คือ เวลาเราจะถ่ายรูปอะไร  อย่างแรก ต้อง มองเรื่องแสง  ว่าแสงมาทางไหน  ลองเดินส่องดูรอบ ๆ  ว่า มุมไหนจะเห็นความงามของวัตถุ ได้ดีที่สุด  แสงมาจากด้านบน  หรือ แสงมาจากด้านข้าง  แสงเข้มแสงอ่อน   ตัววัตถุผิวเป็นมันสะท้อนแสงหรือเปล่า    ลองถ่ายมาหลาย ๆ มุม  แล้วมาลองเปรียบเทียบดู  ว่าเราชอบแบบไหน แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 49 10:53:44 จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเข้าใจถึงเรื่องแสง แล้ว  การถ่ายภาพอะไร ก็ จะดูไม่ยากไปหมด  แม้แต่ในที่แสงไม่พอ ก็ยังมีแสงประดิษฐ์จากกล้อง หรือ flash นั่นไง  แต่อย่างว่า แสงจากแฟลชแบบมาตรฐานแบบนี้  จะยิงตรงจากตัวกล้องไปหาวัตถุ   สิ่งที่สูญเสียไปในการใช้แสงแบบนี้ ก็คือ  มิติ จ๊ะ  มิติของภาพจะเหลือแค่ มิติเดียว  หรือ เรียกว่า ภาพจะแบนราบ  ไม่มีความลึก  ซึ่งเกิดจากความแตกต่างของแสงที่กระทบวัตถุที่แตกต่างกันออกไป ในแต่ละภาพ จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อีกอย่างนึง ที่ แนะนำกันยาก หน่อย ก็คือ มุมมองภาพจ๊ะ  อันนี้  เพื่อน ๆ ที่รักการถ่ายภาพ  จะรู้สึกได้เอง โดยไม่อาจจะบอกเล่ากันได้  ว่า แต่ละคน จะมีมุมมองภาพ แตกต่างกันไป    แรก ๆ   ที่เราเริ่มถ่ายภาพไปเรื่อย ๆ  ก็  เหมือนกับการเรียนรู้  ทุกสิ่งทุกอย่าง  เราต้องศึกษา  ดูตัวอย่างภาพที่สวยงาม ถูกใจ  อาจลองถ่ายตามมุมที่เขาถ่ายไว้    หรือเรียกกันว่า ก๊อปมุมนะ  ได้  จ๊ะได้   แต่  คนเราทุกคนต้องมีวัน และ เวลาที่เราอยากเป็นตัวของตัวเอง จริงมะ    เรียกว่า มีเอกลัษณ์  ยังไงละ จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:28:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คนถ่ายรูป หลาย ๆ คน  มักจะมีลักษณะของภาพที่เป็นแรงบันดาลใจ ว่า นี่ละสวยถูกใจมาก    ซึ่งก็มักจะเอาไปลองถ่ายไปเรื่อย ๆ     แต่   ยังไง ก็น่าจะลองขยับกล้องไปทางซ้ายนิด  หรือ เลื่อนขึ้นขวาไปอีกหน่อย  อาจจะได้ภาพที่ถูกใจเรามากกว่า เดิมนะ    หรือ  เรียกว่า การสร้างสรรค์  งานใหม่ ๆ ไงจ๊ะ  นี่คือเหตุที่ทำให้โลกเราเจริญต่อมา จนถึงทุกวันนี้  ไง จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ร่ายยาวมานานแล้ว    ไม่รู้ว่า  คนอ่านจะได้รับประโยชน์อะไรหรือเปล่า  เล่าไปตามความเข้าใจส่วนตัว  อาจไม่ได้อิงหลักวิชาการ  หรือ ตำราเล่มไหน นะครับ     แนะนำ ในเรื่องที่อาจรู้อยู่แล้ว  แต่อาจลืมไป   รูปนี้แวะไปวัดเล่งเน่ยยี่  มา  เจอ เจ้าขายกาลอจี้  เจ้านี้  น่ากินมาก จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 24 น้ำตาล กับ งาคลุกของเขา  สวย เชียว แถมตอนซื้อเขายังไปเติมงาบดให้อีกหน่อยด้วย หอมจริง ๆ   รูปชุดนี้ ถ่ายเล่นนะครับ  เอามาประกอบการเล่าเรื่องเท่านั้น   ใครอ่านแล้วไม่ถูกอกถูกใจประการใด ก็  ขออภัยมาล่วงหน้า    เอาละครับ ไปก่อนดีกว่า   สวัสดีครับ  จาก จิงโจ้เจ้าเก่า  อิอิ จากคุณ : jojo02 - [ 17 เม.ย. 49 10:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ้าวว จบพอดี ปาดไม่ทันเลย อิอิ จากคุณ : กลัวที่หนาย - [ 17 เม.ย. 49 11:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้ สารภาพเลยครับ เวลาถ่ายรูปนี่ไม่ได้คำนึงถึงองค์ประกอบอะไรเลย ค่ารูรับแสง ความไวชัตเตอร์ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่  สักแต่ถ่ายๆๆ  ก็อาศัยโหมดPเป็นหลักเหมือนกัน จากคุณ : ChutangjaiMan - [ 17 เม.ย. 49 12:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาเข้าแถวอ่านตำราถ่ายรูปจากอาจารย์ค่ะ ขอบคุณหลายๆๆ จากคุณ : ปลาาหมุก - [ 17 เม.ย. 49 14:51:47 ]

ความคิดเห็นที่ 28 วันนี้ไม่อิ่มแต่ก็ได้ความรู้เยอะเลย ต้อง save ไว้อ่านหลายรอบจนเข้าใจนั่นแหละ ขอบคุณครับ จากคุณ : parad - [ 17 เม.ย. 49 16:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ป้าออนใช้ auto เป็นหลักเลยค่ะ แต่ก็พยายามขยับซ้ายขวาดูมั่ง แต่ผลออกมาก็ยังม่ะค่อยได้ดังใจเท่าไหร่ 5555..คงต้องลองต่อไป.. จากคุณ : ป้าออน - [ 17 เม.ย. 49 18:10:00 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากค่ะคุณโจโจ้ อ่านเพลินได้ความรู้เป็นขั้นเป็นตอนดีจังค่ะ แต่ภาพประกอบคำบรรยายเนี่ย ชวนให้หิวน่าดูนะคะ ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงหรือแฮม และรูปกาล้อจี๊ ที่เพิ่งหัดกินได้ไม่นาน เสียดายเวลาจริงจริ๊ง แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 49 19:46:05 จากคุณ : อุบลวัลย์ - [ 17 เม.ย. 49 18:21:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อืม....กะลอจี่...ชอบๆ ว่าแต่ ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเหรอค่ะ... ทู้นี้เพิ่มทักษะดีจัง พี่จ๋า.... จากคุณ : เจ๊แหนมกะน้าพุ้ย - [ 17 เม.ย. 49 18:48:19 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กองกี้ถ่ายแต่ auto เป็นหลักค่ะ เพราะหมูเย็น 3200 มีแต่ ออโต้ ไม่มีโหมดอื่นๆ เลย ^^" เห็นเสบียงแล้ว นึกได้ว่า ยังไม่ได้ตุนเลยค่ะ ท่าทางจะต้องออกไปคืนนี้แล้ว ไม่งั้นคงออกจากบ้านไม่ได้แน่ๆ เลย พรุ่งนี้กับมะรืนนี้นี่ถ้าออกถึงขั้นตายแน่ๆ ค่ะ - -" ออกไปตี 1 นี่ไม่รู้จะรอดจากการเปียกหรือเปล่า งึมงำๆ ไม่ชอบเลยค่ะ เล่นน้ำเกินเลยเนี่ย อ้าวแล้วกัน มาบ่นในกระทู้พี่โจ้เสียแล้ว ขอโทษค๊าบ ^^" จากคุณ : jengly - [ 17 เม.ย. 49 19:11:24 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณโจโจ้เจ้าขา เห็นกล้วยแล้วนึกอยากกินกล้วยเชื่อมตะหงิดๆ มะม่วง อวบอ้วนน่ากินมากๆเลยค่ะ มามะ หนูอาสาปอกให้ อิอิ กาลอจี้ก็น่ากินค่ะ ท่าทางจะหอมงาน่าดูเลย อูย ท้องร้องอีกแล้ว ไปดีกว่า จากคุณ : ~มณีลัลลา~ - [ 17 เม.ย. 49 19:56:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ชอบจังเลยค่า..กระทู้นี้ อ่านแล้วรู้ตัวเลยว่าไร้หลักการใดๆ ทั้งนั้น.. บางทีกลั้นหายใจจนหน้าเขียว.. บางทีหนีบข้อศอกจนเกร็ง.. รูปออกมาดูม่ายล่ายเล้ยยยยย.. เหมือนเสี่ยงดวงไงไม่รู้ค่า..แฮ่ๆๆ จากคุณ : น้ำเขียวโซดาหวานซ่า..ชื่นใจ - [ 17 เม.ย. 49 22:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 35 กระทู้สาระล้วนๆ ความรู้แน่นเอียดเหมือนแฮมชิ้นนั้นเลย แฮมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : อนาคอนด้า - [ 18 เม.ย. 49 01:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อิอิ  สวัสดีอีกรอบครับ ทุกท่าน อย่าถือเป็นเรื่องจริง จังอะไรนักนะครับ แค่เล่า อะไรที่พอรู้ ปะรมาณเล่าสู่กันฟัง   จริง ๆ  ก็อย่างคุณน้ำเขียวบอก อะนะครับ ยังมีเทคนิคอื่น ๆ  อีกหลายอย่าง ถ้าจะเล่าให้ครบนี่ ท่าจะเหนื่อย  เทคนิคมือสั่นนี่  บางคนเขาไม่สั่นอะครับ   อิอิ ขอบคุณทุกท่านนะครับ  ที่แวะมาทักทาย  เสวนากัน   ไว้เจอกันใหม่ยามที่หายขี้เกียจ  อิอิ จากคุณ : jojo02 - [ 18 เม.ย. 49 07:54:15 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาแกะเสบียง แอบแบ่งไปนั่งเงียบๆในมุมห้อง แล้วค่อยๆอ่านที่ละคำต่อคำ  ได้ความรู้มากเลยค่ะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากเลยเจ้าค่ะ อิ อิ อ้อ อยากบอกจังว่าจะมีช่างภาพในดวงในด้วยหละ เคยพยายามก๊อปมุมมองเจ้าของภาพนะ แต่ทำไม่ได้อ่ะ ไม่สวยเท่า (เริ่มความประทับใจจากภาพโซ่ ในสวยแห่งหนึ่งอ่ะ) โหมด  P  ตอนนี้ก็เริ่มใช้แล้วค่ะเผื่อว่าจะได้ภาพสวยกับเขามั่ง หลังจากที่พยายามใช้โหมด AV มา อิ อิ ขอบคุณมากเจ้าค่ะ อ่านง่ายดี เอาไว้ขอภาคสองต่อนะเจ้าคะ จากคุณ : geao - [ 18 เม.ย. 49 23:24:28 ]

ความคิดเห็นที่ 38 กระทู้นี้ได้ความรู้ที่เป็นประโยชน์จริง ๆ ค่า ขอบคุณค่า :D จากคุณ : บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน - [ 19 เม.ย. 49 23:27:27 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มาขอตักตวงความรู้เรื่องถ่ายรูปด้วยนะค้า :D จากคุณ : monutto - [ 19 เม.ย. 49 23:35:25 ]