ความคิดเห็นที่ 1 (บางครั้งได้สูตรดี ๆ มา แต่ไม่ได้บอกอุณหภูมิ หรือเวลาในการอบ ทำให้ขนมเสียเหมือนกันค่ะ เมื่อกะ ๆ แบบผิด ๆ ถูก ๆ) ขอบคุณค่ะ จากคุณ : โสดในซอย - [ 14 มิ.ย. 49 19:39:14 ] ^ ^ ^ ^ ถ้าได้สูตรดีๆ แต่ไม่บอก อุณหภูมิความร้อนในการอบ ..ทำใจ ลืมไปดีกว่า ง่ะ.....งานนี้ เซียนยังพลาดเลย เพราะ มีองค์ประกอบเยอะ ในการทำขนมอบให้ สำเร็จ ไม่ใช้ แค่ เรื่องความร้อน และ ระยะเวลาในการอบ เท่านั้น อีกอย่าง คุณ จะรู้ได้อย่างไร ว่า สูตรที่คุณได้มามัน ดี มากๆ ขนาดนั้น ถ้า เค้าไม่ได้ บอกขั้นตอนในการผสมที่ ถูกต้องมาด้วย ... ในกรณีที่เป็น มือใหม่ พยายาม มองหา สูตรที่ อธิบายขั้นตอนในการผสมที่ ละเอียดที่สุด จะดีกว่า นะ .. ส่วนเรื่องความร้อน และ ระยะเวลา ..คุณต้องเรียนรู้ด้วย ตนเอง แล้วล่ะ เพราะ เตาอบ แต่ละเครื่องมันก็ให้ ความร้อนไม่เท่านั้น ส่วนใหญ่ เตาอบ ตามบ้าน เมืองไทย ไม่ใช่ เตาอบขนาดมาตราฐานด้วย เป็นเตาอบขนาดเล็กๆ ที่ ให้ความร้อนไม่คงที่ การทำขนมอบ ควรเริ่มจาก พื้นฐานที่ถูกต้องก่อน แล้ว ค่อยดัดแปลงเพิ่มเติม ภายหลัง .. หาสูตรที่ ครบขั้นตอน อธิบายแล้วเข้าใจ ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ หรือ งง?? กับ ขั้นตอนการผสม ..เปลี่ยนหา สูตรใหม่ แทน หนังสือตำราอาหารขนมอบ หลายๆเล่มเมืองไทย ต้องบอกว่า แปล ( สักแต่ แปล จริงๆ ) แต่ ไม่สามารถทำได้ สำเร็จ มีมากมาย อุปกรณ์ในการทำ ได้มาตราฐาน รวมไปถึงเตาอบ ก่อนเริ่มทำ ควร ทำความเข้าใจ ในสูตร และ ขั้นตอน อย่างละเอียด โชคดี ...นะ จากคุณ : นอนมาทั้งบ่าย - [ 15 มิ.ย. 49 04:10:54 A:68.98.145.176 X: TicketID:121271 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อืมม.. เคยคิดๆเหมือน จขกท เหมือนกันคะว่าน่าจะมีหลักในการกำหนดอุณหภูมิในการอบขนม แต่ก็ไม่เคยได้เห็นว่ามีใครบอกหรือกำหนดได้ตายตัวแบบเป็นทฤษฏีซะที คงต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆอย่างคุณ คห. 1 แนะนำต่อไปอ่ะคะ อิอิ.. จากคุณ : เนเน้ :) (Pucca_jang) - [ 15 มิ.ย. 49 15:14:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โห คุณวี ถามได้ยากมากๆ ครับ ถ้ารู้หลักการเป๊ะๆ ตายตัวอย่างที่ถามก็คงจะดีนะครับ แต่คงเป็นไปไม่ได้อ้ะครับ เอาที่ผมทราบนะครับ การใช้ไฟเนี่ย ไม่มีหลักอะไรมากครับ (นั่นล่ะที่มันยาก) แค่ อบขนม ให้สุกในปริมาณที่ต้องการ (ออกจะกำปั้นทุบดินไปหน่อย แต่มันมีหลักแค่นี้จริงๆ) ทีนี้ ขนมมีความหนาไม่เท่ากัน ก็ต้องใช้ไฟต่างกัน เพื่อให้มันสุกพอดีเท่าเดิม ซึ่งมันยากมากครับ ดังนั้นเค้กที่มีความหนามาก จึงอบได้ยากกว่า เพราะถ้าเราอบให้ข้างในสุกได้พอดี ภายนอกต้องสัมผัสกับความร้อนนานขึ้น ซึ่งทำให้เสียความชื้นออกไปมากกว่า สังเกตง่าย ๆ ขนมจำพวกคัพเค้กหรือมัฟฟินมักให้รสชาติที่ดี เมื่อทำในขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เพราะเปลือกนอกของขนมรับความร้อนสูงได้ จะให้ความกรอบนิดๆ ส่วนเนื้อในจะได้รับความร้อนแบบระอุ ทำให้ยังรักษาความนุ่มไว้ได้ จึงมีเนื้อสัมผัสสองแบบ (ซึ่งในความคิดผมมันอร่อยกว่าแบบใดแบบหนึ่งเพียงอย่างเดียวนะครับ) ดังนั้นการอบขนมที่ขนาดต่างๆ กัน ก็มีหลักที่ว่า ถ้าขนมมีขนาดใหญ่ หนา ก็ต้องอบไฟอ่อนลง และนานขึ้น ขนมที่เล็กและบาง ก็กลับกัน อันนี้ในกรณีที่ต้องการเนื้อใกล้เคียงกันนะครับ ในการคิดเรื่องอุณหภูมิของเตา ผมใช้ประสบการณ์เพียงอย่างเดียวเลยครับ เพราะเตาแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน เราต้องเรียนรู้นิสัยเตาของเรา คงเจาะจงลงไปชัดเจนไม่ได้จริงๆ แต่คร่าวๆ นะครับ ในการอบเค้กที่เราต้องการเนื้อขนมที่เบานุ่ม ควรจะอบที่ไฟราวๆ 160 องศาครับ (อย่าลืมว่านี่คือเตาบ้านผมนะครับ) ถ้าเป็นคุกกี้ ผมจะอบที่ราวๆ 175 องศา (180 ก็ได้) เพราะคุกกี้ถ้าอบนานจะกระด้าง ถ้าอบเร็วจะไม่กรอบ ไฟ 180 องศา เป็นไฟสารพัดประโยชน์ อบขนมได้หลายแบบ เช่นคุกกี้ เค้ก(บางประเภท) ขนมปัง ถ้าไม่มั่นใจว่าจะอบแบบไหน อบไฟ 180 ลองดูก่อนก็ได้ครับ โอกาสเสียน้อยสุด (จากประสบการณ์ของผมนะครับ) แต่ถ้าเป็นพวกเอแคลร์หรือชูเพสต์ พวกนี้ควรอบไฟแรง ราวๆ 210 องศา เพื่อให้เกิดโพรงอย่างรวดเร็วในเนื้อขนม จะส่งผลให้ได้แป้งที่บางโพรงใหญ่ ไส้เยอะ โดยสรุปจึงฟันธงลงไปไม่ได้จริงๆ ครับ ประสบการณ์เท่านั้นครับ จึงจะบอกเราได้ ก็ขอให้สู้ต่อไปครับ คุณวี และทุกๆ ท่านที่สนใจด้วย คงไม่มีอะไรยากเกินความเพียรพยายามไปได้ครับ จากคุณ : jumjee - [ 15 มิ.ย. 49 20:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ นอนมาทั้งบ่าย --- -ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ ส่วนเรื่องที่มั่นใจว่าอร่อย  ก็เพราะได้ทานมาแล้วค่ะ  แต่คนให้สูตรเป็นคนละคนกะคนทำ  เขาเลยไม่ทราบว่าอุณหภูมิเท่าไร อบนานแค่ไหนน่ะค่ะ คุณ เนเน้ :) (Pucca_jang) ---- ค่ะ  สงสัยมานานแล้วละค่ะ  เพราะคนที่คิดสูตรออกมาใหม่ ๆ  เขาคงต้องมีหลักการในการคิดอุณหภูมิควบคุ่ไป  แต่คงเป็นขั้นแอดวานช์ มาก ๆ แน่ ๆ เลยค่ะ  ^ ^ คุณ jumjee --- ขอบคุณค่ะ   จะจำไว้เลยค่ะ ว่า คิดอะไรไม่ออก  เริ่มที่ 180 ไว้ก่อน  ขอบคุณนะคะ จากคุณ : โสดในซอย - [ 16 มิ.ย. 49 22:24:07 ]