CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ///// Dining Report 6 Kiku no Hana โรงแรมแลนด์มาร์ก

    เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้น จากเมื่อวานนี้ครับ ผมติดต่อไปที่ห้องอาหารคิคุ โนะ ฮานะ โรงแรมแลนด์มาร์ก เพื่อทำการจองที่ในการรับประทานอาหารกลางวัน ความจริงที่นี่จัดบุฟเฟต์มานานพอควรซึ่งผมก็ตามไปทานมาบ่อยเช่นกัน โดยที่นี่ลอกโปรโมชั่นมาจากห้องเอเทรียมด้านล่าง คือ มา 4 ลด50% แต่ตอนหลังยกเลิกไป แล้วกลับมาจัดใหม่ในราคา399 ก่อนขึ้นเป็น499 แล้วลดลงมาเหลือ 449 เนทในช่วงกลางวัน


    สำหรับในช่วงเที่ยงวันนี้ ผมตัดสินใจแหวกการจราจรจากมหาวิทยาลัย ไปยังที่หมายของผม ซึ่งแน่นอนว่า แลนด์มาร์กยังคงทำให้ผมผิดหวังตั้งแต่ก้าวแรกเช่นเคย กล่าวคือ แม้จะจองที่มาแต่โต๊ะในส่วนที่ไม่ใช่ห้องส่วนตัวเต็มหมด            พนักงานพยายามทำให้ความโกรธผมบรรเทาลงผ่านทางการเสนอให้ไปนั่งในห้องส่วนตัว ถึงตอนนี้ผมรู้สึกว่าขำไม่ค่อยจะออก มาคนเดียวแล้วไปนั่งห้องส่วนตัวผีหลอกตายแน่ๆ          ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะชอบ แต่ผมกลับชอบโต๊ะมากกว่าเพราะเดินเข้าออกสะดวกดี            ท้ายที่สุดด้วยความสามารถของพนักงานท่านหนึ่งที่ไปจัดการพรากโต๊ะของแขกกลุ่มหนึ่งที่กำลังขอบิลมาให้ผมจนได้           ก็เลยได้นั่งด้านนอกสมใจ


    บุฟเฟต์ที่ห้องนี้รวมน้ำแล้ว    เรื่องน้ำที่นี่ผมมีความหลังฝังใจกีบห้องเอเทรียมข้างล่างที่น้ำขวดละ 40 ++ สำหรับ คิคุโนะ ฮานะ มามาดใหม่ รวมเครื่องดื่ม มีให้เลือกระหว่างโคล่า กับชาเขียวเย็นซึ่งสามารถรีฟิลล์ได้โดยตลอด แต่ไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนสลับไปสลับมาได้หรือไม่ เพราะไม่ได้ลองถามดูครับ


    ไลน์บุฟเฟต์ที่นี่ แบ่งออกเป็นสี่กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรก เป็นอาหารจำพวกของเย็น เริ่มจากสลัดผัก หนก่อนที่มามุมใหญ่มากวันนี้ไม่ทราบว่าโดนเวนคืนพื้นที่ไปหรืออย่างไร เหลือผักสลัดรวมๆกันอยู่เพียงถาดเล็กๆ กับน้ำสลัดอีกเพียง 2 ถ้วย กุ้งเย็นที่เคยประจำอยู่ตรงนี้ คาดว่าคงไปหาที่ทำมาหากินใหม่           ถัดมาเป็นออเดิร์ฟสไตล์ญี่ปุ่น ปลาหมึกดองที่เคยเห็นก็หายไป เปลี่ยนเป็นปลาหมึกสดแทน แล้วก็มี ผักคลุกน้ำมันงา สลัดปูอัด ซึ่งรสชาติทำได้ตามมาตรฐานร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วๆไป    ถาดต่อมาเป็นยำสาหร่าย จัดใส่ถ้วยเล็กๆมาอย่างสวยงาม อันนี้รสชาติดีมาก   จนต้องเกิดอาการขอสอง    ถัดจากมุมนี้ก็มาถึงมุมปลาดิบ ที่สดมากๆ แต่มีสี่อย่าง คือ ปลาแซลมอน ปลากะพง ปลาทูน่า และปลาทูธรรมดา รสชาติหวานอร่อย ตรงนี้ยังมีข้าวปั้น หน้าปลาๆเมื่อสักครู่เอามาวางสลับกันให้ดูเยอะหน่อย แล้วก็มีแคลิฟอร์เนียมากิ ที่ออกจะงกไข่กุ้งไปสักนิด แล้วก็ข้าวห่อสาหร่ายที่มากันแบบเหงาๆเพียงสองไส้ คือ ปูอัดและแตงกวาญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีปูอัดอีกถาดเล็กๆวางไว้แบบขาดผู้เหลียวแล

    ไลน์ที่สอง  อันนี้ยาวจากหน้าห้องไปท้ายห้อง แต่ของน้อยถึงน้อยที่สุดโดยทางร้าน พยายามวางของห่างๆ กระจายกัน เพื่อหลอกตาแขก    ต้นไลน์ ที่เคยมีหมูชุบขนมปังทอดกับปลาแซลมอนย่างให้สั่งไปทำได้สดๆก็อันตรธานหายไปสิ้น   ดังนั้นวันนี้มีเพียงแต่ปลาหมึกชุบเกล็ดขนมปังทอดที่เหนียวสุดๆ   ถัดมามีข้าวสวย อันนี้ขอข้าม จากนั้นเป็นไข่ตุ๋น อันนี้ไม่มีที่คีบให้ ฉะนั้นท่านใดที่ห่วงสวัสดิภาพของตัวเองก็ไม่ควรทาน นึกๆ แล้วก็อาจเป็นกุศโลบายของทางโรงแรมอย่างหนึ่งที่ให้คนทานน้อยๆก็เป็นได้  ผมลองเสี่ยงตายเอามาชิมถ้วยหนึ่ง ข้างในมีกุ้ง เห็ดหอม ลูกชิ้นปลาและแปะก๊วย รสชาติอร่อยคุ้มค่าต่อการเสี่ยงตาย  ถัดมาเป็นถาดไฮไลท์ ไฟส่องหน้า คือเทมปุระ มีผักกับกุ้งอย่างละครึ่ง กุ้งตัวเล็กไปหน่อย แป้งรสชาติใช้ได้ กรอบดีครับ ส่วนถาดกลางเป็นหนังปลาแซลมอนทอดเอามากินที่ไว้อีกหนึ่งถาด ซึ่งผมขออนุญาตข้ามไป  ถัดจากตรงนี้ก็มีชารุโซบะ ที่สามารถสั่งให้ทำได้ อันนี้ผมก็ข้ามไปอีก   มีมิโซะซุปรสชาติธรรมดาสามัญมากโดยแยกเต้าหู้กับสาหร่ายเอาไว้ให้ปรุงเอง  ส่วนปลายสุดของไลน์ มีเข่งขนมจีบหรือชูไม รสชาติดีแต่อุดมไปด้วยมันหมูและวิญญาณกุ้ง  ถือว่ารสชาติผ่านสวนทางกับวัตถุดิบที่สอบตก  จานนี้ข้ามไปก็ไม่เสียดายอะไร  ส่วนสุดท้ายเป็นหัวปลาแซลมอนต้มเค็ม ดูท่าทางเหมือนจะดองเค็มมานานเลยขอข้าม  เทาที่สังเกตดูตลอดสองชั่วโมง หม้อนี้มีแขกแวะเวียนมาตักแค่ถ้วยเดียว ถ้วยเดียวจริงๆครับ เลยไม่รู้ว่าที่เหลือทางร้านจะเอาไปทำอะไรต่อ


    มุมที่3 มุมนี้ ยิ่งร้างผู้คนไปใหญ่ รวมถึงไม่มีพนักงานประจำอยู่ด้วย เป็นมุมมองโกเลียน ที่มีเนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อวัว หมู กุ้ง ไก่ เป็ด ปลาแซลมอน ปลาหมึกและปูอัด ทุกอย่างรสชาติและความนุ่มสอบผ่าน จะยกเว้นก็แต่เนื้อวัว ที่ไม่ทราบว่าคล้องพระอะไร เพราะกัดแทบจะไม่เข้าเลยครับ  นอกจากนี้ก็มีผัก พวกเห็ดเข็มทอง เห็ดเป๋าฮื้อ ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ฝรั่ง กวางตุ้ง ผักกาดแก้ว ผักกาดขาว แล้วก็บรัสเซลล์สเปราท์   ส่วนท้ายมุมก็มีเส้นให้เลือกทั้งโซบะ อุด้ง เส้นเล็ก หรือถ้าชอบข้าวสวยก็เลือกได้ และยังมีไข่ไก่ให้เลือกด้วย อีมุมหนึ่จะมีเครื่องปรุงให้ตามชอบ เป็นซอสหลายๆชนิดที่ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมาก เติมๆเข้าไปเดี๋ยวก็คาดว่าจะอร่อยเอง  สำหรับการปรุง ลูกค้าก็ตักกันไปตามมีตามเกิด   จากนั้นจงทำหน้าให้มีปัญหาสุดชีวิต โดยไม่ลืมเอาหมายเลขโต๊ะหย่อนลงไปในจานด้วย เพียงเท่านี้ ก็จะมีพ่อครัวขี่ม้าขาว เอ้ย น่าจะเป็นพ่อครัวใส่ชุดขาวมากกว่าเข้ามาช่วย ผัดอีกสักประมาณ 180 วินาที ก็เป็นอันจบข่าวได้รับประทาน


    ผมทยอยตักวนไปวนมา กับทั้งสามมุมอยู่หลายรอบ ของก็น้อยเหลือใจตักไปตักมาก็เลยซ้ำเดิมอยู่ตลอด แต่รสชาติโดยรวมก็ใช้ได้นะครับ ออกจะอร่อยด้วยซ้ำไป

    มาถึงส่วนสุดท้ายหลังทานเสร็จ เป็นมุมของหวาน ที่นี่เน้นของหวานเป็นแบบญี่ปุ่น โดยเอาถาดขนมไทยไหว้เจ้าที่เคยมีอยู่ออกไปจากไลน์บุฟเฟต์เรียบร้อย วันนี้มี เค้กถั่วแดง โดนัทก็ไส้ถัวแดง ยังดีที่มูสเป็นราสเบอร์รี่มิใช่ถั่วแดง แล้วก็มีเค้กมะพร้าวชอกโกแลตที่เอามาการงฝานครึ่งลูกมาแต่งหน้า อันนี้เค้กทั้งชิ้นไม่ผ่าน ผ่านแต่มาการงที่อยู่ข้างบนเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ก็ยังของหวานเป็นน้ำแข็งไสแบบญี่ปุ่น แต่เครื่องเคราที่ทานประกอบกันเป็นลูกไทยแท้ จำพวก ลูกชิด ฟักทอง มัน และแห้ว  มีถั่วแดง น้ำเขียวน้ำแดงและน้ำแข็ง ให้เลือกเติม   นอกจากนี้ก็มีไอศกรีมอีกสองรส คือเชอร์เบทมะนาวและรสวาซาบิ ดูแปลกตาแต่รสชาติอร่อยเลิศ  ที่สำคัญท่านที่กลัวว่าไอศกรีมจะแข็งราวกับหิน วันนี้ไม่ต้องกลัว เพราะแลนด์มาร์กมามาดใหม่ ตั้งแต่เที่ยงไอศกรีมก็เหลวตักง่าย ทำให้ผมไม้ต้องออกแรงสู้รบปรบมือเหมือนคราวก่อน  ท้ายสุดมีผลไม้มาเสิร์ฟอีกหนึ่งจานเล็ก  ให้เดาอย่างไรก็ไม่ถูกว่าสามเกลอวันนี้เป็นอะไร ที่แน่ๆ ไม่ใช่สับปะรด แตงโม มะละกอ อย่างเคย แต่เพื่อให้เข้ากับสโลแกนที่ว่า just getting better วันนี้เลยมีเซอร์ไพรส์ กลายเป็น เงาะ แก้วมังกร และชมพู่ ไม่ทราบว่าเหลือมาจากไหว้สารทจีนหรือไม่ แต่โดยรวมก็หวานอร่อยดี เลยจัดการเสียเรียบวุธ

    ท้ายที่สุดขอบิล 448.99 บาท เลยรูดการ์ด จะได้ประหยัดไปอีก 1 สตางค์ พนักงานในช่วงท้ายปรี่เข้ามาถามผมด้วยว่ามาจากองค์กรไหน ระหว่างที่ผมกรอกใบแสดงความคิดเห็น ราวกับทำข้อสอบ final ซึ่งแน่นอนว่าเธอก็ได้เพียงรอยยิ้มจากผมเป็นคำตอบ ใครจะไปกล้าบอกเล่าครับ ประเดี๋ยวจะแอบตามนินทาลับหลังผมได้ว่ามาเขียนเล่าใน pantip เป็นอันจบไปอีกหนึ่งมื้อครับ


    โดยสรุป ตัดเกรด
    บรรยากาศสถานที่ B มืดทึบและไม่มีทางออกหน้าต่างใดๆ น่าจะเหมาะกับนิยามของที่นี่ แต่การแต่งห้องส่วนอื่นๆทำได้ดี แต่เน้นห้องส่วนตัวมากไปหน่อย มีโต๊ะเล็กๆ แค่ 8 โต๊ะเองครับ ผมว่าออกแนวเดียวกับโชกุนที่ดุสิตครับ ส่วนที่หักเพิ่มอีกคือห้องน้ำ มันไม่สะอาดครับ
    ความสะอาด B+ ติที่ห้องน้ำ ส่วนในร้านสะอาดสะอ้านดีครับ
    รสชาติ B+ อาหารทุกอย่างอร่อยดีครับ จะมีก็แต่ในไลน์หลักที่รสชาติเฉยๆ ไม่ได้แย่อะไร กับเนื้อเทปันยากิที่เหนียวไปหน่อย จัดเป็นบุฟเฟต์ที่รสชาติดีรองจากที่คิสโซะเลยครับ
    การบริการB+ ที่ร้านดีมากถึงมากที่สุดครับ แต่ถูกหักคะแนนเพราะเรื่องการรับจองที่ขาดการประสานงานที่ดี จะลูกค้า 1 คนหรือร้อยคนถ้าจองมาก็ควรมีการเตรียมพร้อมครับ
    ความคุ้มค่ากับราคา B+ ที่นี่ถูกที่สุดในบรรดา บุฟเฟต์ แต่ข้อเสียคือของน้อยมาก ถ้าคุณต้องการความหลากหลายที่นี่อาจไม่เหมาะ แต่ถ้าต้องการรสชาติ ผมว่าที่นี่ใช่เลยครับ

    รวม 3.40 ผ่านเกียรตินิยมอันดับ2 สบายๆครับ น่าไปลองอยู่ครับ

    ข้อมูลจำเพาะ ห้องอาหาร kiku no hanaโรงแรมแลนด์มาร์ก ถนนสุขุมวิท (สถานีรถไฟฟ้านานา) เปิดทุกวัน ช่วงเที่ยงวันจันทร์-ศุกร์11.30-14.30 มี บุฟเฟต์ราคา449 เนท ถ้าเสาร์-อาทิตย์ ราคา 650 เนท ส่วนบุฟเฟต์เย็น 18.00-22.00 ราคาเท่ากันทุกวันคือ 549 เนท รวมชาเขียวหรือpepsiแล้วครับ

    จากคุณ : buenos - [ 9 ส.ค. 49 20:27:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com