ความคิดเห็นที่ 1 http://www.9leang.com/webboard2/question.asp?QID=860 http://www.doa.go.th/botany/foot.html เท้ายายม่อม-ไม้เท้ายายม่อม  http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=734          ถ้าจะถามถึงแป้งที่ใช้ประกอบอาหารหรือทำขนมไทยชนิดต่าง ๆ กับคนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่มักจะนึกถึง แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งมันสำปะหลัง แป้งข้าวโพด แป้งข้าวสาลี (แป้งหมี่) ที่จะนึกถึง แป้งถั่วเขียว คงมีบ้าง แต่ที่จะเลยไปถึง แป้งเท้ายายม่อม คงเกือบไม่มี เพราะน้อยคนที่จะรู้จัก ยิ่งถามว่าทำมาจากอะไร บางทีคงจะได้คำตอบที่น่าขัน คนไทยโบราณรู้จักและเห็นคุณค่าแป้งชนิดนี้ดี โดยนำมากวนกับน้ำตาลกรวด เป็นอาหารบำรุงคนป่วยและคนชรา แก้อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ทำให้เกิดกำลังชุ่มชื่นใจ ขนมบางชนิดใช้แป้งเท้ายายม่อมผสมเพื่อให้ตัวเนื้อขนมนุ่มนวล เพิ่มรสชาติขึ้น เช่น ผสมกับแป้งข้าวเจ้า ในการทำขนมชั้น ผสมกับแป้งถั่วเขียวเพื่อทำซ่าหริ่ม         แป้งเท้ายายม่อม ได้จากหัวของพืชที่มีชื่อว่า เท้ายายม่อม ชื่อพฤกษศาสตร์ว่า Tacca leontopetaloides  Ktze. ในวงศ์ Taccaceae เป็นไม้ล้มลุก มีหัวลักษณะกลมแบนอยู่ใต้ดิน ในฤดูฝนจะงอกงามดี แต่จะโทรมลงในฤดูหนาวเช่นเดียวกับพืชจำพวกบุก ของวงศ์ Araceae ต้นสูงประมาณ ๘๐ เซนติเมตร ก้านใบ??งอกตรงขึ้นจากหัว มีจำนวน ๑-๓ ก้าน ใบเป็นใบเดี่ยวออกที่ปลายก้าน สีเขียวอ่อน มีจุดประสีขาวหรือม่วงดำ ขอบใบจักเว้าลึก ออกดอกคราวละ ๑-๒ ช่อ แต่ละช่อมี ๑๐-๒๐ ดอก ใต้กลุ่มดอกมีกลีบรองดอกใหญ่และกลีบรองดอกย่อยรองรับ ดอกสีเหลืองอ่อน เหลืองแกมเขียว หรือเขียวแกมม่วงดำ ที่ช่อดอกสายยาว สายนี้จะติดอยู่จนผลแก่ ผลสีเขียว สุกสีเหลือง         เท้ายายม่อมมีเขตการกระจายพันธุ์อยู่ตามป่าดิบทั่วไปในเขตร้อนชื้นในดินทุกสภาพ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดหรือการแยกหัว ต้นเท้ายายม่อมชาวจังหวัดระยองรู้จักกันดีในชื่อ ต้นนางนวล         ยังมีต้นไม้อีกชนิดหนึ่งเป็นไม้พุ่ม มีชื่อสามัญว่า ไม้เท้ายายม่อม และชื่อนี้ต่อมากร่อนเหลือเพียง เท้ายายม่อม ทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดว่าสามารถนำมาทำแป้งได้ พรรณไม้ชนิดนี้อยู่ในวงศ์ Verbenaceae มีชื่อพฤกษศาสตร์ว่า Clerodendrum petasites   S.Moore  สูง ๖๐-๑๕๐ เซนติเมตร ใบออกเดี่ยว ๆ วนรอบกิ่ง ดอกออกเป็นช่อใหญ่ที่ยอด กลีบดอกสีขาวเชื่อมติดกันคล้ายหลอดยาว ปลายบานเป็นรูปปากแตร ผลกลม สุกสีดำ ใบใช้สูบแทนกัญชา และรากใช้ทำยาแก้ไข้         พบทั่วไปในป่าโปร่ง หรือนำมาปลูกตามบ้าน ทั้งนี้เพราะใช้ทำยาได้ นอกจากชื่อไม้เท้ายายม่อมแล้ว ไม้ต้นนี้ยังมีชื่อว่า ไม้เท้าฤๅษี และ พญารากเดียว อีกด้วย. ที่มา : จดหมายข่าวราชบัณฑิตยสถาน  ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๙, กันยายน ๒๕๓๒ จากคุณ : เจซอง - [ 6 ก.ย. 49 21:45:12 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ยขอบคุณมากๆค่ะ ทีแรกนึกว่าเป็นยี่ห้อแป้งชทื่ท้าวยายม่อมซะอีก จากคุณ : bb (bearair) - [ 6 ก.ย. 49 22:49:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เคยเห็นที่โฮมเฟรซมาร์ท ท่าพระ  ตรงแถวๆที่วางแป้งทำขนม ต่างๆ จับดูเนื้อแป้งไม่ละเอียด (สัมผัสจากภายนอกถุง)   แบบสากๆ หรือ หยาบๆ หน่อยน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 49 01:26:29 จากคุณ : ป้า (ลักกี้) - [ 6 ก.ย. 49 23:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โอ้วเคยแต่ได้ยินแต่ไม่รุ้ที่มาวันนี้ได้รุ้ละ จากคุณ : Iheringi - [ 7 ก.ย. 49 08:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 http://www.thaifarmzone.com/modules.php?name=News&file=article&sid=230 เท้ายายม่อม ที่ ฟาร์มโซน จะนำมาแนะนำกันวันนี้ เป็นพืชสารพัดประโยชน์ ที่ชาวบ้านในหลายท้องถิ่น เช่น ภาคอีสานใต้ บริเวณป่าชายหาด จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดสกลนคร นำมาแปรรูปรับประทานกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการนำก้านและใบอ่อน รับประทานเป็นผัก แต่ต้องทำให้สุกก่อน ส่วนผลสุกสีเหลืองสามารถรับประทานได้ มีรสหวาน และหัวใต้ดินนำมาสกัดเป็นแป้ง ที่มีเม็ดแป้งสีขาวละเอียด ต้นเท้ายายม่อม ความพิเศษของมันที่นอกเหนือไปจากข้างต้น คือ ในส่วนของแป้งที่ได้รับการแปรรูปแล้วนั้น จะมีคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับทำเป็นอาหาร ให้กับผู้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร หรือคนสูงอายุ เนื่องจากเป็นแป้งที่ย่อยง่าย ผู้รับประทานสามารถใช้กลูโคสได้เร็ว แต่ด้วยข้อจำกัด คือ กว่าจะโตจนใช้ประโยชน์ได้ ต้องใช้เวลาถึง 3 ปี และมีขึ้นอยู่อย่างแพร่หลายในป่าเท่านั้น ซึ่งหากปล่อยไว้ให้เติบโตตามธรรมชาติ และปล่อยให้ชาวบ้านเข้าไปหาประโยชน์จากมันอยู่เรื่อย ๆ สักวันคงจะหมดป่าเหมือนไม้ต้นใหญ่ ๆ แน่นอน เหตุนี้เองสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตสุรินทร์จึงได้นำเท้ายายม่อม มาศึกษาลักษณะพฤกษศาสตร์ เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ในการประกอบการวิจัย ในด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาแนวทางการแปรรูป ให้ได้ผลิตภัณฑ์จากแป้ง ด้านอาหารเสริมสุขภาพและเครื่องสำอาง และการศึกษาด้านการตลาด และการคุ้มทุนในการปลูกเท้ายายม่อม เป็นพืชเศรษฐกิจ โดยหวังที่จะให้เกษตรกร ปลูกแซมไปกับพืชที่เกษตรกรปลูกอยู่แล้ว เพื่อใช้เป็นพืชเสริมรายได้ นางสาวพัชราภรณ์ แสงโยจารย์ อาจารย์คณะวิชาศึกษาทั่วไป สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตสุรินทร์ กล่าวว่า เท้ายายม่อมหรือที่เรียกว่า ไม้เท้าฤาษี บุกรอ สิงโตดำ จากการศึกษาพบว่ามี 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์สีเขียวและพันธุ์สีม่วงน้ำตาล เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่เป็นพืชล้มลุกหลายปี มีลำต้นใต้ดิน สะสมอาหารประเภทแป้ง เติบโตในช่วงพฤษภาคม – เดือนกันยายน สามารถเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย ในสภาพชื้นแต่ไม่มีน้ำท่วมขัง และมีสภาพร่มเงา แตกใบในช่วงต้นฤดูฝน และจะฟักตัวในช่วงฤดูหนาว และแตกหัวใหม่ทุก ๆ ต้นฤดูฝน ออกช่อดอกเมื่อมีอายุ 3 ปี การที่เท้ายายม่อมต้องใช้เวลานานในการเจริญเติบโต ดังนั้น การปลูกเพื่อผลทางเศรษฐกิจ จึงต้องทำควบคู่ไปกับพืชอื่น เพราะหากปลูกเป็นการเฉพาะ จะใช้เวลานาน กว่าจะนำมาสร้างประโยชน์ได้ แม้ว่าผลผลิตที่ได้เมื่อนำมาทำแป้ง จะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 130 - 140 บาทก็ตาม ซึ่งในขณะนี้ทางราชมงคล ฯ ได้ทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับราชมงคลวิทยาเขตอื่น ๆ รวมไปถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ กับกรมวิชาการเกษตร เพื่อให้ได้ผลการวิจัยออกมาเป็นที่แน่นอน ก่อนจะส่งเสริมให้กับชาวบ้านปลูกแซมกับพืชอื่นต่อไป นางสาวพัชราภรณ์กล่าวว่า ปัจจุบันแป้งเท้ายายม่อมเป็นที่ต้องการของตลาดมาก เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษของแป้ง แต่เท่าที่ผ่านมาพบว่า ยังหายากมาก การสนับสนุนให้ปลูก เท่ากับเป็นการสนองความต้องการของตลาด ประกอบกับเป็นการอนุรักษ์พันธุ์พืชไปในตัว เพราะชาวบ้านยังไม่ค่อยเห็นประโยชน์มากนัก นอกจากนี้ ยังจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เนื่องจากเป็นพืชจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ไม่อยากให้สูญหายไป   ดอกเท้ายายม่อม ที่กว่าจะบานต้องใช้เวลา 3 ปี   แป้งเท้ายายม่อม นับเป็นการนำพืชท้องถิ่นมาเพิ่มมูลค่า ให้เกิดผลทางการตลาด ที่นอกจากจะช่วยสร้างรายได้ ให้กับชาวบ้านในท้องถิ่นแล้ว ยังสามารถช่วยให้คนไทยได้ใช้ประโยชน์ จากพืชภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่นับวันจะเหลือน้อยลงทุกที เพราะส่วนใหญ่จะหันไปนิยมของต่างประเทศกันมากกว่า เป็นการอนุรักษ์พันธุ์พืชที่ก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้านทีเดียว ทั้งนี้ หากชาวบ้านหันมาร่วมปลูกกันมากขึ้น ฟาร์มโซน รับรองได้เลยว่า จากคุณสมบัติที่ดีของมันแล้ว จะสามารถทดแทนแป้งนำเข้า จากต่างประเทศได้มากทีเดียว อยู่ที่ว่าใครจะเป็นผู้กระตุ้น ให้พืชที่ชื่อเท้ายายม่อมได้แจ้งเกิดและรู้จักกันทั่วไป ที่มา : ฟาร์มโซน - www.farmzone.FoodMarketExchange.com จากคุณ : เจซอง - [ 7 ก.ย. 49 12:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ฟังคุณ เจซอง บรรยาย  ได้ความรู้มากมายเลยค่ะ  ขอบคุณค่า แต่ยังไม่เคยใช้แป้งท้าวฯ สักที  สงสัยต้องลองดูบ้างแล้วล่ะ จากคุณ : ป้า (ลักกี้) - [ 8 ก.ย. 49 01:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หลงเข้าใจว่า ท้าวยายม่อมฯ เป็นเจ้าตำรับเสียตั้งนาน ขอบคุณผู้ให้ข้อมูลครับ จากคุณ : เด็กหนุ่มหน้าตาดี - [ 8 ก.ย. 49 08:14:13 A:210.203.176.2 X: TicketID:120371 ]