ความคิดเห็นที่ 16
http://www.bangkokbiznews.com/jud/taste/20060501/news.php?news=column_20534339.html เพชรบุรี ...กินแบบเก๋ (ตอนแรก)
เก๋เป็นสาวเมืองกรุงที่ไปพบรักกับหนุ่มเมืองเพชร ความรักทำให้เธอโบกมือลาแสงสีไปสร้างครอบครัวเล็กๆ กันที่บ้านชายหาดชะอำ หลังจากนอนฟังเสียงคลื่นอย่างสงบมากว่าสิบปี เพื่อนฝูงที่ห่างหายไปนานก็ลงความเห็นตรงกันว่าถึงเวลาอันควรในการก่อกวนเก๋ได้แล้ว
เพราะคงจะมีแต่เก๋เท่านั้นที่จะบอกเราได้ว่า เพชรบุรีมีอะไรกินดีนะ...
เก๋ ปัญจวรรณ สุขเจริญ หยิบยาดมขึ้นมาสูดเฮือกใหญ่ พร้อมกับสรุปสั้นๆ ตัดบทความต้องการอันเซ็งแซ่ของเพื่อนๆ ว่า ...ใครจะว่าไง เก๋ไม่สน เอาเป็นว่ากินแบบที่เก๋ว่าก็แล้วกันนะ ...แปลกดีเหมือนกันที่ลองกินตามแล้วคล้อยตามเก๋ ...อันนี้ขอบอกว่าเป็นคนชอบส่วนบุคคลนะคะ เราชอบคุณอาจไม่ชอบก็ได้
เราเริ่มต้นมื้อเช้ากันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเพ็ญพริกเผ็ด อยู่ตรงข้ามประตูทางเข้าวัดใหญ่สุวรรณาราม ร้านนี้เปิดตั้งแต่สามโมงเช้า บ่ายสามโมงก็หมดแล้ว เก๋บอกว่าก๋วยเตี๋ยวที่เมืองเพชร แทบทุกร้านจะต้องเสิร์ฟกับซอสสีแดงคล้ายๆ กับซอสพริกศรีราชา แต่ความจริงเป็นซอสที่แต่ละร้านจะปรุงขึ้นเป็นพิเศษไม่เหมือนกัน รสชาติจะเผ็ด เปรี้ยว หวาน แตกต่างกันออกไป
สำหรับที่ร้านเพ็ญพริกเผ็ดนี้ ชื่อก็บอกแล้วว่าเผ็ด ทีเด็ดอยู่ตรงซอสสีแดงที่ว่านี้มีรสชาติออกเผ็ด เปรี้ยว หวาน กลมกล่อมกำลังดี เวลากินจะใช้ราดลงไปในก๋วยเตี๋ยวน้ำเลยก็ได้ปรุงรสออกมาจะพอดี หรือจะใช้จิ้มเนื้อหมูลวก ลูกชิ้น และหมูตุ๋น ก็อร่อย ส่วนพริกน้ำส้มนี่ก็เด็ดทั้งเผ็ดทั้งหอม ถูกใจคนชอบรสเผ็ดกันเลย
จะกินแห้งหรือน้ำเลือกกันไม่ถูก แนะให้กินคู่กันไปเลย เพราะว่าก๋วยเตี๋ยวแห้งจะมีน้ำซอสสีแดงราด นอกจากหมูลวก ลูกชิ้นหมู หมูตุ๋นแล้ว ยังมีหมูหวานปรุงรสให้กินอีกด้วย ส่วนก๋วยเตี๋ยวน้ำนั้นน้ำซุปแทบไม่ต้องปรุงเช่นกัน แล้วยังมีลวกจิ้มให้กินแบบราดซอสพิเศษที่กินแล้วอึมม์...ต้องกินแล้วกินอีก
มาร้านนี้มีกติกาค่ะ มาถึงแล้วให้นั่งรอที่โต๊ะจนกว่าพนักงานจะมาถามซึ่งควรมีคำตอบให้ทันทีด้วย เนื่องจากร้านนี้เขาจะจัดการตามคิวอย่างเคร่งครัด และทุกคนก็เหมือนจะรู้ ในร้านจึงมีบรรยากาศที่เงียบ เรียบร้อย สะอาดสะอ้าน และเป็นไปตามคิวค่ะ
กินของคาวแล้วตามด้วยของหวาน จากร้านเพ็ญพริกเผ็ดให้มุ่งหน้าไปที่ถนนโพธิ์การ้อง ไปไม่ถูกถามคนแถวๆ นั้นก็ได้ค่ะ พอเลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 50 เมตร ซ้ายมือจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าอร่อยๆ คนเพชรเรียกว่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อโพธิ์การ้อง ใครชอบกินเนื้อแวะชิมได้เลย ขับรถเลยไปอีกนิดฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่ตั้งของร้านลอดช่องน้ำตาลข้น
เจ้าของร้านชื่อป้าแหม่ม สาวสวรรค์ เก๋บอกว่าร้านลอดช่องน้ำตาลข้นในเมืองเพชรมีด้วยกันหลายร้าน แต่ของป้าแหม่มเก๋ยืนยันว่าเด็ด จะเลือกใส่ลอดช่องสิงคโปร์ ทับทิมกรอบ ถั่วแดง หรือ อื่นๆ เลือกได้ 3 อย่าง ขายแก้วละ 8 บาท ใส่ถุงถูกกว่าคิด 7 บาท ดิฉันอยากกินลอดช่องอย่างเดียว ป้าแหม่มไม่ว่าตักลอดช่องใส่แก้วทรงสูง ราดด้วยกะทิสด ตามด้วยน้ำตาลข้นซึ่งทำมาจากน้ำตาลโตนดน้ำไปเคี่ยวกับอะไร สูตรลับค่ะ ถามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมบอก จากนั้นเติมนมสด นมข้น และน้ำแข็งใส เห็นแล้วกลัวน้ำตาลในเลือดจะพุ่งปรี๊ด
แต่พอได้คนน้ำแข็งแล้วยกดื่มน้ำตาลข้นของป้าแหม่มแล้ว น้ำตาลจะขึ้นเท่าไหร่ก็ยอมเลยค่ะ ทั้งหวานกลมกล่อมและหอมกลิ่นน้ำตาลโตนด ดื่มเย็นๆ หายร้อนเลยจริงๆ ค่ะ ตัวลอดช่องก็ดึ๋งดั๋งเคี้ยวมัน ร้านป้าแหม่มเปิดขายเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น บรรดาเพื่อนเก๋ต่างสะกิดกันใหญ่บอกว่าไว้เย็นๆ มากันกันอีกนะ
ไม่ไกลร้านป้าแหม่มสังเกตดูจะเห็นป้ายชื่อซอยทำเป็นรูปชมพู่เมืองเพชร มองดูซอยโพธิ์ทองจะมีก๋วยเตี๋ยวผัดไทยเจ้าอร่อย เก๋หันมาถามว่ากินกันไหวมั้ย ไม่มีใครสบตา เลยบอกว่าระหว่างรอหิวอีกทีเราไปซื้อน้ำตาลโตนดกลับไปฝากแม่กันดีกว่า
เตาตาลบ้านหม้อ โครงการกลุ่มเกษตรทำน้ำตาลโตนด ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดบันไดอิฐพอดี ที่นี่มีทั้งลูกตาลสด น้ำตาลสด และน้ำตาลโตนดขาย ทำกันสดๆ หลังร้านนี่เลย ถ้ามาเที่ยวหลายวันจะมาสั่งก่อนแล้ววันกลับค่อยมาเอาก็สะดวกดี ถ้าอยากจะซื้อสินค้าโอท็อปประเภทข้าวตังเป็นของฝากคนที่บ้าน เก๋บอกว่าบนเส้นทางเดียวกันนี้เป็นที่ตั้งของบ้านสุคันธา แหล่งผลิตข้าวตังทรงเครื่อง ซึ่งจำหน่ายให้ในราคาถูกกว่า พนักงานใจดีเปิดให้ชิมข้าวตังทุกรสได้แก่ ข้าวตังหน้าหมูหยอง ไก่หยอง ปลาสมุนไพร ข้าวตังธัญพืช หน้างา และเม็ดมะม่วงหิมพานต์
นั่งรถไปมาเริ่มหิวกันอีกแล้ว มื้อกลางวันเก๋ให้ขับรถตรงไปแถวน้ำพุใกล้ๆ โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี เป็นที่ตั้งของร้านเจ๊กเม้ง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านนี้มีชื่อเสียงแต่เก่าก่อน เนื้ออร่อย น้ำซุปเข้มข้น จะสั่งน้ำหรือแห้งก็มีน้ำซอสสีแดงปรุงพิเศษมาให้ด้วย พร้อมกับพริกน้ำส้ม แต่รสชาติแตกต่างจากร้านเพ็ญพริกสด ใครไม่กินเนื้อร้านนี้ก็มีก๋วยเตี๋ยวหมูให้กิน รสชาติเข้มข้นไปอีกแบบ
ดื่มด่ำกับก๋วยเตี๋ยวแล้ว เก๋บอกว่าร้านต่อไปนี้ต้องแวะ ถ้าคุณชอบกินปลาหมึกปิ้งพลาดไม่ได้ มุ่งหน้าไปถนนนอก หลังวัดมหาธาตุ ร้านนี้ชื่อว่าเต๋าปลาหมึกย่างโบราณ ถามว่าโบราณมากแค่ไหน คุณแม่เต๋า ปราณี อังคนุรักษ์ ใจดีเล่าให้เราฟังว่าขายมานานกว่า 30 ปีแล้ว ต้นตำรับจริงๆ เป็นของคุณแม่สามี คือ คุณแม่เท้งเอ็ง แซ่เตียว เคล็ดลับอยู่ที่น้ำจิ้มที่ใช้ชุบปลาหมึกแล้วนำไปย่างให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ ซึ่งมีคนมาขอซื้อสูตรหลายรายแล้วแต่แม่เต๋าไม่ยอมขาย ยกให้เป็นมรดกของลูกสาว น้องกาญจน์ รุ่งวิภา บุญประเสริฐ ผู้ยืนปิ้งปลาหมึกให้ลูกค้ากินส่งกลิ่นหอมหวลอยู่ทุกวัน
แม่เต๋าบอกว่า ปลาหมึกที่นี่สั่งตรงจากเรือไดหมึกแถวปากน้ำปราณ และทะเลประจวบคีรีขันธ์เท่านั้น หมึกที่นั่นจะสดเนื้อหวานกว่าหมึกแถวหาดเจ้าสำราญ หมึกที่สั่งไว้จะได้รับการตากหนึ่งแดดแล้วเก็บไว้ในห้องเย็น จากนั้นต้องจ้างคนงานมาปิ้งแล้วบด ที่ต้องจ้างเพราะสองคนแม่ลูกทำกันไม่ไหว ก็ขายกันวันละห้าสิบกิโลกรัม
ปลาหมึกที่ปิ้ง บด เรียบร้อยแล้ว แม่เต๋ากับลูกสาวจะนำออกมาปิ้งด้วยการชุบน้ำจิ้มสูตรลับ ปิ้งกับไฟอ่อน ระหว่างปิ้งมีการเหยาะน้ำตาลทรายลงไปด้วย นอกจากจะทำให้กลิ่นหอมแล้วน้ำตาลที่โดนความร้อนจะละลายออกมาเป็นคาราเมลเพิ่มรสชาติให้เนื้อปลาหมึกที่จุ้มน้ำจิ้มไว้แล้วอีกด้วย หมึกจุ้มมีให้เลือกแบบจุ้มเผ็ด จุ้มหวาน อบเนย ขายกันตัวละ 5 บาท ถุงละ 50 บาท และ 100 บาท ถ้าอยากซื้อกลับบ้าน หรือ ไปปั๊บรับปุ๊บไม่ต้องรอ สามารถโทรไปสั่งล่วงหน้าได้เลยค่ะ
ยังไม่ถึงมื้อเย็นแวะไปแล้ว 6 ร้าน เก๋บอกว่าเสียดายจังขนมโตเกียวหมด ไม่งั้นจะพาไปกินอีก อยากรู้ว่าร้านอยู่ที่ไหนเก๋บอกให้ถามได้ที่น้องกาญจน์ เอาเป็นว่าเดี๋ยวไปกินขนมเบื้องญวนหน้าวัดมหาธาตุ มื้อค่ำกินอาหารทะเลปิ้งย่าง วันรุ่งขึ้นค่อยไปกินขนมจีนทอดมัน ส้มตำรสเยี่ยม
อยู่ที่ไหนกันบ้างติดตามกินแบบเก๋ตอนสองวันศุกร์หน้าค่ะ@
หมายเหตุ : ร้านป้าแหม่ม ลอดช่องน้ำตาลข้น โทร.09-080-4387 ร้านเต๋าปลาหมึกย่าง โทร.09-681-2106 , 032-427-250 ข้าวตังทรงเครื่องสุคันธา โทร.032-488-311-2 www.kaotang.com
จากคุณ :
วี
- [
28 ก.ย. 49 12:34:36
]
|
|
|