ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อคดี "คุกกี้ดำ" ชนะ กฎหมายก็สั่งการให้มีการระบุ trans fat บนฉลากผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ ทันที และผลิตภัณฑ์บางชนิดถูกห้ามใช้ trans fat โดยเด็ดขาด ฉะนั้นจึงทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องขวัญผวา กินอะไรไม่ได้อีกต่อไป ทางเลือกที่จะทำให้เรารอดตาย(หรือไม่ด่วนตายก่อนหนุ่มมาขอลูกสาวแต่งงาน) ก็เพิ่มสูงมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขอบคุณคดี "คุกกี้ดำ" (ทนายเขาใช้วิธี "เขียนเสือ ให้วัวกลัว") ทำให้คนหลายคนบนโลกได้ตื่นขึ้นมาพร้อมความจริงข้อใหม่ว่า เราไม่ควรประมาทมั่นใจในสิ่งที่เรากินเข้าไปทุกวัน ...หากเราไม่ได้ปรุง ไม่ได้ทำมันกับมือตัวเอง อะแฮ่ม และไม่ว่าใครก็ตามที่โชคดีไม่เคยกินคุกกี้ดำมาก่อน ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นเจ้า trans fat นี้ได้ง่ายๆ เพราะว่า trans fat เป็นส่วนผสมมากมายอยู่ทั้งในขนม นม เนย ที่มีมาร์การีนเป็นส่วนประกอบ และของทอดที่ต้องใช้น้ำมันทั้งหลายแหล่ ผลิตภัณฑ์อาหารที่ เสี่ยงต่อ Trans fat มีดังนี้เอย - อาหารนอกบ้านที่ไปซื้อเขากิน เราไม่รู้แน่ชัดว่าส่วนผสมเขาใช้อะไรบ้าง ใช้เนยสด หรือใช้มาร์การีนหรือเนยเทียม ใช้น้ำมันประเภทอะไร ว่ากันว่าบรรดาอาหาร+ขนมไดเอททั้งหลายล้วนมี trans fat ผสมทั้งนั้น กินแล้วไม่อ้วน ไขมันจุกตาย แต่หัวใจสลาย เอ้ย ล้มเหลวเพราะ trans fat แทน (ตอนนี้มาแรงกว่าโรคใดๆ) - เค้ก บิสกิต คุกกี้ทุกชนิดที่ในสูตรมี เนยขาว ชอร์ทเทนนิ่งเป็นส่วนผสม ล้วนอุดมไปด้วย trans fat - พวกขนมกรุบกรอบ-ซองๆ ของขบเคี้ยวกินเล่นทั้งหลาย อาทิ พวกมันฝรั่ง ต้องดูให้ดีว่าเขาใช้น้ำมันอะไรทอด เพราะนั่นก็ที่มาของ trans fat เช่นกัน (Frito Lay / Chee-tos / แครกเกอร์ไส้ชีส Ritz/ ถั่วทอด ถั่วอบกรอบ เสี่ยงปริมาณ trans fat ทั้งสิ้น) - คอฟฟี่เมท ครีมเทียม วิปครีม (ต้องเลือกดูตามฉลาก แต่ละยี่ห้อว่า เขาใช้ส่วนผสมอะไร) - Crouton / น้ำสลัดสำเร็จรูป - dips สำเร็จรูปทั้งหลาย - ผงเกรวี่สำเร็จรูป / ซอส มิกซ์ต่างๆ - อาหารแช่แข็งแบบสำเร็จรูปที่เอามาอุ่นในไมโครเวฟแล้วกินได้เลย (ก็เข้าข่าย) - ซุปกระป๋อง / ซุปซองสำเร็จรูป / พีนัท บัตเตอร์ /ซีเรียลอาหารเช้า อาหารที่แยกย่อยให้อ่านดูเหล่านี้ต่างมีมาร์การีน / น้ำมันเป็นส่วนผสม หรือใช้ในการปรุง เราไม่อาจรู้ได้เลยว่า เขาใช้น้ำมันอะไร หากเขาไม่ระบุแน่ชัดบนฉลาก อาจมี trans fat ผสมอยู่ได้ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ใครที่ไม่เคยกินคุกกี้ดำ แต่เคยกิน - วิปครีม - ไอศกรีม - ครัวซอง พาย ทัพ ชีสเค้ก (ที่ใช้บิสกิต-คุกกี้ในส่วนที่เป็นครัสท์) ก็อาจเสร็จ trans fat มาแล้วทั้งนั้น พวกอาหาร fast food อาหารอุตสาหกรรมโรงงาน ขายด้วยปริมาณไม่เน้นคุณภาพ ... ตายห้าห้าห้า (หัวเราะก่อนตาย) เขาล่อ trans fat มาให้เราเผลอกินโดยไม่รู้ตัวทั้งนั้น เชื่อ/ไม่เชื่อ ไปดูตัวอย่างตารางเมนูอาหารที่ขายใน "แมคโดนัลด์" กันสิ กดลิงค์ดูกันจะๆ http://www.mcdonalds.com/app_controller.nutrition.index1.html ตะแคงหัวดูตรงส่วนที่เป็น trans fat สิว่า บิ๊ก-แมค ชีสเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น มี trans fat ผสมอยู่เท่าไหร่ โอ๊ะโอๆ อกคุณแป้น รู้แล้วใจแล่นหล่นลิ่ว (ตกกะจาย) - เฟรนช์ ฟรายขนาดใหญ่ 170 กรัม trans fat 8 กรรม - พายแอปเปิ้ล 1 ชิ้น 77 กรัม trans fat 4.5 กรรม - ไก่นักเก็ต 20 ชิ้น trans fat 5 กรรม ข้อมูลที่เขาระบุไว้นี้ ไม่นานเท่าไหร่ เมื่อเดือน พ.ค. 2006 นี้เองนะ นี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งของ trans fat ตามร้านอาหาร(แค่แห่งเดียว) ที่เราๆ อาจไม่เคยรู้มาก่อน ยังมี ...ร้านโดนัท  ...ร้านพิซซ่า ...ร้านปอเปี๊ยะทอด ... ร้านหมี่ผัด take away chinese ...ทั้งหลายแหล่ที่เคยตรวจเจอ trans fat มาแล้วทั้งนั้น อธิบายเพิ่มเติม ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่เลยไหม? แต่ไม่ต้องตกใจไปหรอก น่าดีใจด้วยซ้ำที่ทนายเขาฟ้อง "คุกกี้ดำ" - ชนะ ตอนนี้ผลิตภัณฑ์อาหารและร้านอาหาร "แหลกร่วน" ทั้งหลาย ถูกไล่ตรวจการใช้น้ำมัน-มาร์การีนในสินค้าของว่ามี trans fat มากมายหรือไม่ ถ้าพบว่า มีมากมาย ก็ต้องถูกเปลี่ยนและเลี่ยงไม่ให้ใช้ทันที ที่สำคัญที่สุด หากไม่เปลี่ยนส่วนผสม ยังคงใช้ trans fat ต่อไป ก็ต้องระบุให้เห็นชัดๆ ห้ามปกปิดผู้บริโภคอีกต่อไป จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 17:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนนี้ประเทศเดนมาร์ก - เป็นประเทศเดียวที่ออกกฎหมายห้ามใช้ trans fat ในผลิตภัณฑ์ทุกชนิด แคนาดากำลังเดินหน้าปราบปราม trans fat ลำดับต่อไป ประเทศในยุโรปหลายๆ ประเทศกำลังเร่งผลิตกฎหมายออกมาควบคุม ส่วนเมืองไทย คืบหน้าไปถึงไหน ไม่ทราบได้ รู้แต่ว่า อาหาร-เบเกอรี่อุตสาหกรรมที่วางขายทั่วไป ล้วนอุดมไปด้วย trans fat เกือบทั้งสิ้น แม่บ้านคนหนึ่ง (ในอเมริกา) เมื่อได้อ่านข้อมูล trans fat เธอไปเปิดคัพบอร์ดในครัว แล้วอ่านฉลากอย่างละเอียด ของที่เธอหยิบออกมาวางบนโต๊ะในรูป ล้วนมี trans fat ทั้งสิ้น...ดูซะให้เต็มๆตาว่า มันแฝงอยู่ในอาหารมากมายแค่ไหน ที่อเมริกาปัญหานี้ใหญ่โตนัก เพราะบริโภค fast food กันเป็นกิจวัตร และอาหาร diet ทั้งหลายที่โฆษณาว่าเลี่ยงใช้ไขมันที่ไม่ทำให้อ้วน ไม่เพิ่มแคลอรี่ส์ แต่กลับอุดมไปด้วย trans fat - ซึ่งเป็นไขมันชนิดที่ร้ายแรงที่สุด ไว้แทน อะฮ่าๆ จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 17:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กินอะไรได้มั่งเนี่ย จากคุณ : kiddlywink - [ 10 ต.ค. 49 17:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 น่ากลัวจังค่ะ .. แต่ว่า .. มันแฝงอยู่ในทุกอย่างที่มี่ "รัก" ที่จะรับประทานทั้งสิ้นเลย  >.<" จากคุณ : luvammie - [ 10 ต.ค. 49 17:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านแล้วเลยมาเล่าต่อ ทำที "รีวิว" อาหารมั่งสินะ (แต่ในคอนเส็ปท์ที่แตกต่างกันไป "อาหารที่น่ารังเกียจ ไม่ชวนใครให้ไปกินมันนัก" และไม่อยากให้ตกใจกันมาก แต่อยากให้ตระหนัก อยากให้รับรู้ข้อมูล ใครอ่านแล้วยังใคร่กิน กินตามสบาย แต่ใครที่กินไขมันอันตรายเข้าไปเพราะความไม่รู้ ถ้ารู้ไว้บ้างจะได้เท่าทันป้องกันภัย เลือกกินกันไปหรือหลบเลี่ยงกันบ้าง เพราะรับรองอีกหลายอย่างมากมาย เราหลบเลี่ยง "มัน" ไม่ทัน ไม่สามารถหลบกันได้หมดหรอก เมื่อ trans fat โผล่มา ปัญญาเราก็มีสู้ "มัน" สาเหตุหนึ่งที่เราหันมาบริโภคอาหารออร์แกนิก เพราะข้อมูลโหดๆ พวกนี้มันมาท้าทายปัญญาให้ลุกขึ้น "สู้รบ หลบเลี่ยง" ให้รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมทุนนิยม เรื่องอะไรจะให้เขามาบังคับบงการทางอ้อมเอานู่นเอานี่มา "ยัด" ใส่ปากเรา เงินของเรานี่นะ  เราจะจ่ายให้เฉพาะอาหารที่เราเชื่อว่ามีประโยชน์และคุ้มค่าเงินเท่านั้น อย่ามาหลอกเอาเงินเราไปจ่ายสิ่งไม่ดี เนื้อไม่ได้กิน ไขมันเลวๆไม่ได้เรียกร้องหา แถมโรคหัวใจมาให้เราอีก...ได้ไงๆ ... ไม่ยอมกันง่ายๆหรอก ฮึๆ - สู้ตายค่ะ : )   ต้องขอบคุณผู้ผลิตอาหารออร์แกนิกที่ช่วยสกัดกั้น ไม่ผสมสารพิษ-สิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายไม่ต้องการ ไม่แอบ GMO ไม่แถม trans fat ... เพราะเราไม่ได้ต้องการ"มัน"เลย- จริงๆ ขอขอบคุณ ; ) แถมการ์ตูนที่ขำแบบชวนสะดุ้ง...มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหนอ - "เสมอกลาง" ผู้ชอบสะสมข้อมูลอันแสนจะไม่รื่นรมย์ผู้บริโภค...ขอยืนยัน ; ) จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 17:45:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 kiddlywink / luvammie มันน่ากลัวจริงๆค่ะ แต่อย่ากลัวจนคิดว่า เลี่ยงมันไม่ได้ เริ่มตั้งต้นเช็คลิสต์ง่ายๆ ตรงนี้ค่ะ เลี่ยงอาหารทุกชนิดที่มีมาร์การีนผสม (พาย พัพ คุกกี้อุตสาหกรรมราคาถูกๆ เค้กหน้าครีมเยอะๆ) พยายามลดอาหารที่ใช้น้ำมันเยอะๆ ทอด (เพราะเราไม่รู้ว่าเขาใช้น้ำมันอะไร corn oil / soyabean oil พวกนี้ เป็น trans fat) น้ำมันดี คือ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วลิสง ท่องเอาไว้ว่า...ถ้ารู้ว่าอะไรก็ตามที่ใช้ Shortening / Crisco อย่าทานอีกต่อไป มาเล่าให้อ่าน ไม่อยากเล่าลอยๆ ไม่หาทางออกไว้ให้ เพราะอนาคตเราจะค่อยเอาเมนู Trans fat free kitchen มาแนะนำต่อไป มันไม่ได้วุ่นวายอย่างที่คิด แต่ต้องเริ่ม "หาหนทาง" สู้กับมันบ้างแล้วค่ะ จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 17:52:27 ]

ความคิดเห็นที่ 7 น่ากลัวจังค่ะ...แต่หลายอย่างยังอดใจไม่ไหว...ยังตามใจปากอยู่เลยค่ะ... จากคุณ : ยุ่งจัง - [ 10 ต.ค. 49 17:54:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพิ่งกินคุ๊กกี้ดำหมดไป1แถว ตูโดน trans fat ไปเท่าไรแย้วเนี้ยย จากคุณ : friskyz~* - [ 10 ต.ค. 49 17:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แอบนอกเรื่องนิดนึงค่ะ...วันนี้ฝนตกรุนแรงมากๆ สงสารคนยังอยู่บนรถ  คนที่ยังเดินทางไม่ถึงบ้านจัง... จากคุณ : ยุ่งจัง - [ 10 ต.ค. 49 18:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ใครที่อ่านเรื่องนี้แล้วสนใจใคร่รู้ปริมาณ trans fat ในอาหารชนิดต่างๆ จากนี้ไป ซื้ออาหารสำเร็จรูปมา พลิกฉลากดูเล่นให้เป็นนิสัยทุกครั้ง และแม้จะมองไม่เห็นคำว่า trans fat เป้งๆ บนฉลาก ก็อย่าเพิ่งวางใจว่ามันไม่มี ให้มองหาต่อไปอะไรก็ตามที่ระบุว่า partially hydrogenated oils (อาทิ soybean / cottonseed fat) มันคือ Trans fat ทั้งสิ้น ปี 2006 กฎหมายกำลังเริ่มออกอาระวาดสินค้าต่างๆ ว่า ต้องระบุ trans fat กันแล้ว ขอให้ติดตามอ่านฉลากใกล้ตัวให้ดีๆ จะช่วยหลบเลี่ยงได้มากเลย จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 18:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณอย่างสูง ปกติก็พยามสังเกตุเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยเจอ สงสัยจะซ่อนไว้ ไม่บอก ว่าแต่ trans fat เนี่ย เรียกเป็นไทยว่า ไขมันอะไร จากคุณ : พริกดอง พริกน้ำส้ม - [ 10 ต.ค. 49 18:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 - friskyz~* ทิ้งซองคุกกี้ดำไปแล้วหรือยังคะ ลองไปหยิบมาดูฉลากสิว่า ยังมี trans fat อยู่หรือเปล่า เพราะหลังจากคดี "คุกกี้ดำ" บริษัท Kraft มาให้การว่า ได้เปลี่ยนส่วนผสมของคุกกี้ชนิดนี้ให้ trans fat free แล้ว - ไม่รู้เขาผลิตแบบนี้ในทุกประเทศหรือเปล่า? - ยุ่งจัง เราอ่านข่าวไต้ฝุ่นเข้าที่เชียงใหม่ อ่านข่าวเรื่องฝนตกหนักมากๆ เรื่องเขื่อนจะรับน้ำไว้ได้ไหวไหม? ยังเป็นห่วงเมืองไทยเหมือนกันเลยค่ะ Al Gore (Vice president นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม - คนที่อเมริกันไม่เลือกเขา แต่ไปเลือกบุชมาแทน) เพิ่งออกหนังสือชื่อ 'The Inconvenient Truth" เป็นเรื่องสถานการณ์ Global Climate Change มันน่ากลัวมากถึงมากที่สุด ใครอยากรู้ว่าน่ากลัวมากแค่ไหน เข้าไปดูคลิปดีวีดีสารคดีชุดนี้ได้ที่ลิงค์นี้เลย http://www.climatecrisis.net/ เล่ามากๆ...เดี๋ยวคนเบื่อเราแย่เลยเนี่ย มีแต่เรื่องไม่น่าอร่อย ไม่น่ารื่นรมย์มาฝากชาวบ้านเขา - ฮ่าๆ (ยังทำหัวเราะไป โลกจะล่มสลายอยู่สองวันข้าวหน้าแย้วเอย) จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 18:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 น่ากลัวจังค่ะ แต่ว่าอยากรบกวนคุณเสมอกลาง ลองยกตัวอย่างอีกสักเล็กน้อย ว่าบนฉลาก ถ้าเค้าไม่ได้ระบุว่า trans fat แล้วจะระบุว่าอะไรได้บ้างค่ะ ที่มันเป็นประเภทเดียวกัน อย่าง มาการ์รีน เป็น trans fat ควรจะเลี่ยงไปกิน เนย ธรรมดาอย่างนั้นเหรอค่ะ อาจจะถามคำถามเชย ๆ งง งง แต่ว่าอยากรู้ค่ะ แต่ถ้าจะเลี่ยงยากน่ะค่ะ จากคุณ : ฟ้าสางฯ (ฟ้าสางที่กลางใจ) - [ 10 ต.ค. 49 18:18:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณฟ้าสางฯ ตอบแบบเร็วๆ ใช่ค่ะ ควรหลีกเลี่ยงมาร์การีน หันไปกินของที่ทำจากเนยสด แต่ต้องควบคุม-ลดปริมาณการบริโภคเนยแท้ เพราะไขมันจากสัตว์ ร่างกายคนเราต้องการมันวันละ 20-40 กรัม-สำหรับผู้ใหญ่ สำหรับเด็กเล็กที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโตต้องการไขมัน 30-60 กรัม จำนวนไขมันที่ระบุไว้บนฉลากชี้นำเราได้ค่ะว่า เราควรบริโภคไขมันดีๆ จำนวนเท่าไหร่จึงจะมีประโยชน์ไม่มีโทษ ไม่ต้องหวาดกลัวไขมัน เหตุที่คนกลัวอ้วนนี่แหละ เลยคิดว่าหันไปกินอาหารไดเอท เลยไปเสร็จ trans fat ที่ร้ายแรงกว่า ตอนนี้เป็นปัญหาใหญ่มากที่อเมริกา เพราะความเข้าใจผิด คิดว่า อาหารไดเอทเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ มันมีตำรา The good fat cookbook แจกแจงการรู้จักปรุงอาหารด้วยไขมันชนิดดี มันมีให้เลือกกินเยอะนะ และจำไว้ ต้องกินไขมันในปริมาณที่ร่างกายต้องการ ไม่บริโภคมากเกินไป ... จะดีที่สุด น้ำมันดีที่ควรใช้ คือ น้ำมันมะกอก / น้ำมันถั่วลิสง / น้ำมันปาล์ม / น้ำมันมะพร้าว น้ำมันตัวร้ายที่ควรหลีกเลี่ยง คือ น้ำมันถั่วเหลือง / น้ำมันข้าวโพด เพราะยังมีอัตราเสี่ยงทั้ง GMO และ trans fat ค่ะ ที่สำคัญท่องไว้ในขึ้นใจ หากอยากเลี่ยง trans fat แบบตั้งต้น ต่อไปนี้จงเลือกกิน "ครัวซอง ไอศครีม วิปครีม" ที่ทำจากครีมแท้ ทำจากไขมันสัตว์ และเนยแท้ อย่าเลือกซื้อชนิดที่ใช้ไขมันพืช ครีมเทียม อย่ากินอาหารที่ใช้ Shortening และมาร์การีน...อีกต่อไป จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 18:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณค่ะ เพิ่งซื้อคุ้กกี้ดำมากล่องนึงพอดี (ทั้งกล่องเลย!) ที่ข้างกล่อง ที่ห่อ บอกแต่ Total Fat 7g/g/n. Saturated Fat 3g/g/n. เท่านี้จริงๆ ค่ะ ไม่มีเขียนว่า transfat free ที่เก็บออกจากตลาดบ้านเขาน่ะ จะเอามาเทใส่บ้านเราหรือเปล่า? จะโยนทิ้งไปดีหรือเก็บไว้ให้ญาติๆ ดูดีคะ? (แต่ไม่ให้ใครเอาไปกินแน่ๆ) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 10 ต.ค. 49 18:39:35 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบคุณ Tweety สี่ตา จากข้างซองที่คุณระบุมา มี trans fat 4g/g/n ค่ะ รู้ได้ยังไง รูปประกอบค่ะ...การซ่อนจำนวน trans fat เราคำนวณหามันได้แบบนี้ เวลาที่ฉลากระบุจำนวนไขมันไว้ว่า คำนวณจากคุกกี้ 5 ชิ้น (16 กรัม) Total Fat  4 กรัม เป็นไขมันอิ่มตัว 1 กรัม แล้วอีก 3 กรัม คืออะไรเขาไม่บอกชัดๆ ...เพราะมันคือ trans fat ค่ะ นี่แหละที่มาแห่ง "คดีโอรีโอ" ที่เราต้องขอบคุณมากมาย ต่อไปนี้ กฎหมายกำลังจะออกมาบังคับให้ทุกสินค้า ต้องแจกแจง trans fat เป้งๆ ห้ามปกปิดข้อมูลผู้บริโภคอีกต่อไป จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 18:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ... ขอบคุณครับ ข้อมูลมีประโยชน์สุดๆ ^^ จากคุณ : ปีศาจตัวอ้วนหมายเลข 17~ - [ 10 ต.ค. 49 18:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คิดว่า trans fat ภาษาไทยน่าจะใช้คำว่า "ไขมันแปรรูป"  ถูก/ผิดอย่างไร ใครรู้จริงช่วยยืนยันด้วยค่ะ บางทีเขาก็เรียกว่า "ไขมันทรานส์" จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 18:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เพิ่งทำงานเสร็จหมาดๆ เพิ่งเห็นทู้พี่แก้ว.. ขอนอกเรื่อง.. สีลมน้ำท่วมอ่ะ.. กลับบ้านไงเนี่ย -*- ขอถามนิดค่ะ พี่แก้ว.. ทานได้แต่ของแท้ ไม่ควรแตะของเทียมใช่ไหม (ของเทียมมีปัญหาบ่อยๆ เนอะ ส่วนใหญ่เลยไม่ใช่แค่อาหาร) หรือไม่ก็เลี่ยงอะไรที่ใช้น้ำมันได้มากที่สุด ก็ควรเลี่ยง.. ใช่ป่ะคะ.. @^^@ แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 49 19:09:03 จากคุณ : ขวัญณิตา - [ 10 ต.ค. 49 18:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณด้วยค่ะ อืม มีอีกเรื่องที่อยากจะถามไม่ทราบว่าเกี่ยวกันไหม อย่าง พวกที่ว่า Low Fat เช่น นมไขมมันต่ำหรือว่าครีมชีสไขมันต่ำ หรือโยเกิร์ต ล่ะค่ะ อันนี้มันเป็นประเภทเดียวกันหรือเปล่า พอดีกำลังจะออกไปซื้อ ครีม มาทำกับข้าวอ่ะค่ะ ก็เลยถามไว้ก่อน จากคุณ : ฟ้าสางฯ (ฟ้าสางที่กลางใจ) - [ 10 ต.ค. 49 19:01:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โหวต เก็บไว้ก่อน   บางทีหลายคนอาจนึกว่ายุ่งยาก กินอะไรก็ตายเหมือนกัน  แต่  คนเรานะ ไม่เจ็บเจียนตายจะไม่นึกกลัวหรอก อ่านไว้ไม่เสียหลายนะจ๊ะ   ปฎิบัติได้ก็เป็นผลดีกับสุขภาพ จากคุณ : miss_ginger(ยิ้มแป้น) - [ 10 ต.ค. 49 19:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณครับ กลัวก็กลัวอยากกินก็อยากกินเฮ้อทำไงดีเนี่ย จากคุณ : Lee Sharp - [ 10 ต.ค. 49 19:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบคุณฟ้าสางฯก่อน เดี๋ยวเราจะเผ่นจากหน้าจอแล้วเหมือนกัน เราไม่อาจบอกได้เลยค่ะว่า ยี่ห้อ low fat ทั้งหลายที่คุณจะซื้อ ใช้ไขมันชนิดใดทดแทน ดูวิธีการหา trans fat ซ่อนเร้น จากรูปประกอบข้างบนเลยค่ะ จำนวนไขมันบนฉลาก หากเขาไม่ชี้แจงชัดๆ ว่า ใช้ไขมันชนิดใดมาทดแทน ให้สรุปไว้ก่อนเลยว่า มันคือ trans fat เพราะเขาซ่อน "ข้อมูลร้ายๆ" กันมาแบบนี้ตลอด โดยเฉพาะอาหารไดเอท ต้องระวังมากเป็นพิเศษ จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 19:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ลองอ่านในนมUHT LOW FAT ของโฟร์โมท ไขมันทั้งหมด 4.5 ก.    7% ไขมันอิ่มตัว 0.5 ก.      2% แล้วอีก 5 % มันเป็นอะไรอะคะ trans fat เหรอ ทำไมเยอะจัง จากคุณ : ~JinnyJoop~ - [ 10 ต.ค. 49 19:10:21 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พี่แต้ว / คุณลี จริงๆ อ่านรู้อะไรมากๆ อาจจะทำให้กลัวหัวหด แต่อยากจะบอกว่า อย่ากลัว เพราะความกลัวไม่ช่วยอะไรขึ้นมา แนะนำว่า เมื่อรู้แล้วเลี่ยงหลบให้ได้มากที่สุด แล้วจะรู้สึกอุ่นใจไปเอง จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 19:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คุณเสมอกลางค่ะ ก็เข้าใจไงคะ แปลว่า ที่เขาขายบ้านเราน่ะ ยังไม่มี transfat free (ที่ว่าผลิตสูตรใหม่น่ะ) ก็คือยังเป็นของเก่า ยังมี transfat แอบแฝงอยู่ :( จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 10 ต.ค. 49 19:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ~JinnyJoop~ ...นี่แหละค่ะ ปัญหา การไม่ระบุให้แน่ชัดบนฉลาก ทำให้เราไม่รู้ได้เลยว่า เขา low fat เรากินแล้วไม่อ้วน แต่เขาเอา fat แบบไหนมาทดแทนให้เรา ตอนเราอ่านเจอวิธีการค้นหา trans fat แอบแฝง เราก็ช็อคแบบค้นตู้ทั้งบ้าน อ่านฉลากทุกชนิด แล้วเจอ trans fat เต็มไปหมด รีบสั่งตำรา trans fat มาอ่านเป็นตั้งเลย ไม่งั้นงงตาย ตั้งหลักเริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่ถูก ตอนนี้อิจฉาชาวเดนนิชมากๆ โชคดีจริงๆ ที่ประเทศเขามีกฎหมายควบคุม trans fat โดยเด็ดขาด จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 19:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มันน่ากลัวจริงๆ ดีนะเนี่ย ที่เราไม่นิยมพวกมาการีน หรือเนยขาวพวกนี้อยู่แล้ว แต่จะเลี่ยงนี่มันยากจริงๆนะคะ จากคุณ : Orion - [ 10 ต.ค. 49 19:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คุณ Tweety สี่ตา ขอบคุณข้อมูลที่มาบอกด้วยค่ะ ที่เราเอารูปประกอบมาอธิบายเพิ่มเรื่องการค้นหา trans fat เพราะไม่อยากอ้างลอยๆเหมือนเราสรุปเอาเอง เราคิดว่า โอรีโอ เขาประกาศไม่ใช้ trans fat อย่างที่เขาออกข่าวจริงๆ นี่เป็นการเลือกปฏิบัติหรือนี่ ...ร้ายจริงๆ  : ( จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 19:21:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สงสารคนไทย ในประเทศไทยจัง มันมีบางอย่างคอยบังตาผู้ใหญ่ในประเทศ ของที่อันตรายกับคนอื่น มาที่ไทยสิ รับหมด คิดว่าทำอาหาร - ทำขนมกินเองจะรอดปลอดภัย นี่ยังเหลือน้ำมันถั่วเหลืองในขวดอีกเยอะ อะไรอีกหล่ะ นึกไม่ออกแระ ตายผ่อนส่ง โฮะๆๆๆ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ทั้งข้อมูลและลิงค์ที่เป็นประโยชน์ ขออนุญาตเซฟด้วยเลยนะคะ จากคุณ : เด็กแหนม - [ 10 ต.ค. 49 19:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คิดอย่างเดียวเลยคะว่า LOW FAT ก็เอาไขมันออก +รสชาดอาหารจะกร่อย ๆ ลง เทียบกับไม่โลแฟท%ไขมันก็ต่างกันมาก ๆ ก็โอเคกินเลย ไม่รู้ค่ะ ว่าเค้าใส่ไขมันอื่น ๆ มาเพิ่ม นมยังมีตายแน่ตู..... เย้....เจอแล้วลูกพรุนยี่ห้อNature's Sensation trans fat  0 g. จ้า ซื้อที่โลตัส แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 49 19:29:10 จากคุณ : ~JinnyJoop~ - [ 10 ต.ค. 49 19:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กลัวเนี่ย มันทำให้หลอนกับการกินจริงนะเนี่ย ปลูกผักเลี้ยงปลากินเองยังไม่แน่ใจเร้ยว่าจะปลอดภัยจริง จากคุณ : ปริญชนก - [ 10 ต.ค. 49 19:24:41 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โชคดี 1 อย่างที่ไม่ชอบทานของขบเคี้ยวประเภทเดียวกับคุ้กกี้ดำ และพวกชีสเค้กทั้งหลายก็มักจะ ตักแครกเกอร์ด้านล่างทิ้งซะ ^^; ขอบคุณพี่แก้วมากครับสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อีกแล้วครับท่าน ^^; จากคุณ : AugusT[CrusheR]VeronicA - [ 10 ต.ค. 49 19:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 34 "น้ำมันดีที่ควรใช้ คือ น้ำมันมะกอก / น้ำมันถั่วลิสง / น้ำมันปาล์ม / น้ำมันมะพร้าว น้ำมันตัวร้ายที่ควรหลีกเลี่ยง คือ น้ำมันถั่วเหลือง / น้ำมันข้าวโพด เพราะยังมีอัตราเสี่ยงทั้ง GMO และ trans fat ค่ะ" แต่ว่าพวกน้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าวนี่เป็นไขมันอิ่มตัวใช่ไหมคะ เหมือนเคยได้ยินมาว่าไขมันอิ่มตัวมันไม่ดี รึเปล่า? มาหาความรู้จากผู้รู้แถวนี้อะค่ะ ^^' จากคุณ : Sorry I'm late. - [ 10 ต.ค. 49 20:07:05 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : 004 - [ 10 ต.ค. 49 20:14:06 ]

ความคิดเห็นที่ 36 "ไขมันอิ่มตัว เป็นไขมันที่มีอยู่ในสัตว์ พวกนมสด เนยสด หนังไก่ทอดกรอบ มันหมู มะพร้าวกะทิทั้งหลายนี้ คือไขมันอิ่มตัวที่มีไฮโดรเจนเกาะเต็มพื้นที่และมีคุณสมบัติ เป็นของแข็งในอุณหภูมิห้อง สามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เหม็นหืน การที่มีสภาวะเป็นของแข็งจึงเป็นปัญหาต่อสุขภาพ เพราะไขมันพวกนี้ เมื่อมีมากเข้าก็จะเพิ่มระดับโคเลสเตอรอล และลอยไปมาในกระแสเลือด และเกาะตามผนังหลอดเลือดทำให้เส้นเลือดอุดตันได้" ไปหาข้อมูลมาเพิ่มค่ะ ชักเริ่มงงว่าเนยสดมันอันตรายมั้ยนี่ - -" จากคุณ : Sorry I'm late. - [ 10 ต.ค. 49 20:15:30 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โอ้ ...เรื่องไขมันอิ่มตัว - ไม่ดี ไขมันไม่อิ่มตัวดีกว่า ตอนนี้ต้องเลือกกินมากๆ เลยค่ะ ต้องหาความรู้มาอ่านประกอบ เพราะมันมาแบบซ้อนซับหลากหลาย ไขมันอิ่มตัวไม่ดี แต่ต้องวงเล็บไว้ให้กระจ่างด้วยว่า หากเราบริโภคมากเกินไป - มันจะเป็นอันตรายอีกเช่นกัน ฉะนั้นเราจึงต้องอดใจ ไม่กินขนม นม เนย มากเกินไป แต่ตอนนี้ระหว่าง "ไขมันอิ่มตัว" กับ "ไขมันแปรรูป" (trans fat) "อิ่มตัว" กลายเป็นไขมันชนิดดีกว่า Trans fat มากมายนัก หากรู้จักบริโภคดีๆ อย่าหลบไปอาหารไดเอท เพราะมันยิ่งร้ายนักเข้าไปใหญ่ เราเคยเก็บข้อมูลหมอคนหนึ่งตอบคำถามเรื่องนี้ไว้ ถ้าจำไม่ผิดในเว็บ thaiclinic กระมัง หมออธิบายเรื่องไขมันไว้ตามนี้ อ่านดีๆ ค่อยๆ อ่าน จะได้คำตอบในการเลือกกินต่อไปค่ะ เรื่องของไขมันชนิดต่างๆ 1. ไขมันเลว (ถ้ามีปริมาณมากจะเป็นโทษต่อร่างกาย) ได้แก่ โคเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์, LDL (ต่อไปถ้าแพทย์ บอกว่า LDL ให้ฟัง คงเข้าใจได้ดีขึ้น) ไขมันอิ่มตัว (ในฉลากอาหาร, ฉลากข้างขวดน้ำมันพืชบางยี่ห้อ จะเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า SATURATED FAT. นั่นหมายถึงไขมันอิ่มตัวนั่นเอง) นอกจากนั้นก็มีไขมัน TFA (ไม่ต้องจำชื่อก็ได้ แต่ให้ทราบว่า, ถ้าไขมันที่ดี ของเราผ่านขบวนการทางอุตสาหกรรมหรือทางเคมี ก็จะทำให้เปลี่ยนเป็นไขมันเลว หรือ TFA ได้ เช่น ผ่านความร้อนสูงมาก เช่น การกลั่นน้ำมันพืช หรือเติมไฮโดรเจน ให้อาหารกรอบ เช่น คุกกี้ ขนมกรอบทั้งหลาย เป็นต้น) 2. ไขมันดี เช่น HDL (คงได้ยินคุณหมอพูดกันบ่อย ๆ) ไขมันไม่อิ่มตัว (UNSATURATED FAT) (ซึ่งรวมถึงไขมัน โอเมก้า 3 ด้วย), เลซิติน พวกนี้จัดเป็น ไขมันดี ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดอุดตันที่หัวใจและทำให้มีสุขภาพดี เราควรรู้ค่าปกติของ ไขมันในเลือดบางตัวที่เราสามารถตรวจวัดได้ดังนี้ 1. โคเลสเตอรอลรวม (total cholesterol) เป็น Cholesterol ทุกชนิดรวมกันค่าปกติไม่ควรเกิน 200 mg% ใครที่โคเลสเตอรอลสูง ต้องงดอาหารพวกที่มีโคเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่แดง, ไขมันสัตว์, เครื่องในสัตว์ (ถ้าอยากทราบว่าอาหารอะไรมี โคเลสเตอรอลประมาณเท่าไร ให้หาอ่านในหนังสือเกี่ยวกับโภชนาการทั่ว ๆ ไปได้) 2. โคเลสเตอรอล HDL ซึ่งเป็นไขมันดี ค่ายิ่งสูงยิ่งดี, ถ้าต่ำกว่า 35 mg% ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดอุดตันที่หัวใจ การสูบ บุหรี่, ภาวะอ้วน, ภาวะขาดอาหาร จะทำให้ HDL ต่ำลงได้ ส่วนการออกกำลังกายจะทำให้ HDL เพิ่มขึ้น การดื่มไวน์แดงจำนวนเล็กน้อย เป็นประจำพบว่าเพิ่มไขมัน HDL ได้ถึง 5-10% 3. โคเลสเตอรอล LDL เป็นไขมันเลว ปกติไม่เกิน 130 mg% ถ้าเกิน 160 mg% จะมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจเพิ่มขึ้น การควบคุมว่า จะเข้มงวดมากน้อยเพียงไร, ต้องกินยารักษาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเรามีโรคอย่างอื่นที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจร่วมอยู่ด้วยหรือไม่ 4. ไตรกลีเซอไรด์ เป็นไขมันเลวอีกชนิดหนึ่ง ถ้าสูงมากจะเกิดตับอ่อนอักเสบได้ หรือเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจได้ ค่าปกติไม่ควรเกิน 200 mg% พบมากในอาหารพวกแป้ง, ของหวาน ไขมันอิ่มตัวหรือไขมันไม่อิ่มตัวนั้น เราตรวจเลือดวัดออกเป็นตัวเลขไม่ได้ ต้องควบคุมปริมาณที่กินเข้าไป โดยต้องทราบว่า ควรกิน ไขมันพวกนี้มากน้อยแค่ไหน ไขมันอิ่มตัวนั้น ไม่ควรกินมากกว่า 10% ของอาหารในแต่ละวัน* ในฉลากอาหารมักจะเขียนเปอร์เซ็นต์ของไขมันอิ่มตัวว่ามีกี่เปอร์เซ็นต์ ให้เราทราบ ไขมันอิ่มตัวพบมากในเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ เช่น ไส้กรอก, เบคอน, นม, เนย, นอกนั้นก็จะพบในมาการีน, กะทิ, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันปาล์ม ไขมันอิ่มตัวนี้จะไปแย่งที่ไขมันที่จำเป็นของร่างกายทำให้เราเจ็บป่วยได้ ไขมันไม่อิ่มตัว จะมีหลายชนิดที่สำคัญและเรารู้จักกันดี คือ ไขมันโอเมก้า 3 และ DHA ซึ่งทั้ง 2 นี้ พบมากในน้ำมันปลา (คนละอย่าง กับน้ำมันตับปลา) กรดไขมันโอเมก้า 3 นี้ จะสามารถเปลี่ยนเป็นไขมันรูปอื่นซึ่งทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนที่ทำให้เราเกิดความสบาย ป้องกันการบวมน้ำ บรรเทาอาการอักเสบ ป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน เสริมภูมิต้านทาน, ลดความดัน ปลาที่มีน้ำมันปลาสูงนั้นจะเป็น ปลาที่คาว, ส่วนที่มีน้ำมันปลามาก คือ ส่วนหัวปลา, พุงปลา, หนังปลา แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 49 20:27:25 แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 49 20:25:01 จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 20:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 น้ำมันดอกทานตะวันล่ะคะ? ที่บ้านใช้อยู่ (ใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว และน้ำมันปาล์มด้วย สลับๆกัน เขาไม่ให้กินอะไรซ้ำซากใช่มั้ยคะ) เนยสด ครีมสด คอเลสเตอรอลสูงไม่ใช่เหรอคะ มีผลเสียเหมือนกันแต่คนละแง่กับ transfat (ถูกหรือเปล่าคะ?) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 10 ต.ค. 49 20:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณคะสำหรับข้อมูลดีๆ แต่ก็อย่างว่านะคะ  แล้วของโปรดก็อดหมดเลย  เศร้าจัง จากคุณ : aorr - [ 10 ต.ค. 49 20:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถูกแล้วค่ะ คุณ Tweety สี่ตา เราเอาข้อมูลไขมันอิ่มตัว / ไม่อิ่มตัว และปริมาณที่ปลอดภัยมาแปะเพิ่มเติม คุณหมอคนหนึ่งเคยตอบไว้ ตอนแรกเราก็งงๆ เหมือนกันว่า จะเลือกกินน้ำมันอะไรดี ตั้งหน้าตั้งตาอ่านแหลก เพื่อหาคำตอบที่กระจ่างกับตัวเอง แล้วจึงมาเล่าต่อ ...เรื่องแบบนี้ต้องขยาย นี่เป็นอีกข้อมูลหนึ่ง ลองอ่านเปรียบเทียบว่า อันไหนอ่านเข้าใจง่ายกว่ากัน คุณหมออีกท่านหนึ่งแปลไว้ ไขมันไม่อิ่มตัวคืออะไร? ไขมันในอาหารมี 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. ไขมันอิ่มตัว (Saturated) พบในไขมันสัตว์ นม ครีม เนยแท้ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ สอง ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated) พบในน้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันปลาทะเล น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วลิสง เป็นต้น รเลือกใช้เฉพาะน้ำมันพืชชนิดที่ มีไขมันไม่อิ่มตัวมาก ๆ หน่อย และลดไขมันสัตว์กับน้ำมันพืชชนิด จำพวกไฮโดรจิเนต (Hydrogenated Vegetable Oil ไขมันที่มีอยู่ในอาหารมีส่วนประกอบของกรดไขมัน (fatty acid) มีธาตุคาร์บอน ธาตุไฮโดรเจน และธาตุออกซิเจน เรียงจับกันในลักษณะต่างๆ สามารถแบ่งตามโครงสร้างทางเคมี ได้ดังนี้ 1. ไขมันอิ่มตัว (Saturated fatty acid) คือไขมันที่มีโครงสร้างคาร์บอนเรียงจับกันครบ ไขมันชนิดนี้ร่างกายสามารถสร้างได้เอง ถ้ารับประทานมากเกินไป จะทำให้เกิดคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง เกิดการอุดตันของเส้นเลือด เป็นต้นเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด 2. ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsatuarated fatty acid) คือ ไขมันที่ธาตุคาร์บอนยังมีเหลือสามารถจับกับธาตุไฮโดรเจนได้ แบ่งออกเป็น - ก. กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (Monounsaturated fatty acid) ได้แก่ กรดโอเลอิก (Oleic acid) เป็นกรดไขมันที่ร่างกายสามารถสร้างได้เอง แต่ถ้ารับประทานเข้าไปมาก ก็ไม่ทำให้เกิดโรคหัวใจ และมีแนวโน้มที่จะช่วยลดไขมันในเลือดด้วย - ข. กรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหลายตำแหน่ง(Polyunsaturated fatty acid) เป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง จำเป็นต้องรับจากอาหาร ไขมันที่สำคัญคือ Omega-3 (Alpha-linolenic acid) และ Omega-6 (linolenic acid) ในหมู่ไขมันในอาหาร มีไขมันที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ จะเป็นไขมันที่อยู่ในกลุ่มไขมันไม่อิ่มตัว ไขมันเหล่านี้อยู่ในอาหารอะไรบ้าง เรามาดูกัน - น้ำมันมะกอก olive oil เป็นน้ำมันที่มีส่วนผสมของกรดโอลิอิก (Oleic acid) ซึ่งจะไม่เพิ่มระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด และเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูล (Antioxidants) ช่วยลดการเกิดมะเร็ง และช่วยลดการทำลายหลอดเลือด ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน น้ำมันจากเมล็ดพืช น้ำมันคาโนลา (Canola oil) เป็นน้ำมันที่มีส่วนผสมของ กรดโอลิอิก (Oleic acid) ซึ่งช่วยลดไขมันในเลือดชนิด LDL ที่เป็นคลอเรสเตอรอลที่ไม่ดีให้ลดลง และมีส่วนประกอบของOmega-3 และ Omega-6 ซึ่ง Omega-3 มีส่วนช่วยลดไขมันไตรกรีเซอไรด์ และลดการเกาะตัวของเกร็ดเลือด ที่เป็นต้นเหตุให้เส้นเลือดหัวใจอุดตัน จึงมีส่วนสำคัญในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ แต่นับว่าเป็นข่าวร้ายที่นักวิจัยพบว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นที่เราใช้อยู่ปัจจุบัน คือ น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันเมล็ดฝ้าย มีส่วนของ omega-6 มากกว่า omega-3 ซึ่ง omega-6 นี้แม้จะมีความจำเป็นต่อร่างกาย แต่ถ้าได้รับมากเกินไป ก็เป็นต้นเหตุให้ความดันเลือดสูง ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือดง่ายขึ้น ทำให้เกิดหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้ง่าย และทำให้ร่างกายบวมน้ำ ดังนั้นถึงแม้เราจะใช้ไขมันเหล่านี้ปรุงอาหาร ก็ควรหลีกเลี่ยงอย่าใช้มากเกินจำเป็น และหลีกเลี่ยงอาหารที่ใช้น้ำมันมาก เช่น ของทอด หรือผัดควรทานอาหารประเภทต้ม หรือนึ่งมากกว่า น้ำมันปลา fish oil น้ำมันปลา (อย่าสับสนกับน้ำมันตับปลา) ในปลาทะเลได้แก่แซลมอน ทูน่า ซาดีน เฮอร์ริ่ง เป็นปลาที่มีกรดไขมัน omega-3 จากการศึกษาพบว่าการทานปลาเหล่านี้ สองครั้งต่อสับดาห์ จะช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นและอารมณ์ดีขึ้น ถั่วนัท (nut) ได้แก่ ถั่วแอลมอนด์ วอลนัท พีนัท พีแคน จะมีไขมันไม่อิ่มตัวชนิด Monounsaturated fatty acid ช่วยลดปริมาณไขมัน LDL ได้ และในวอลนัท จะมีปริมาณ Omega-3 สูงด้วย แต่ในการทานถั่วนี้ ไม่ควรทานในรูปของ ถั่วคั่วใส่เกลือ เพราะมีพลังงานสูงและเกลือมากเกินไป ถึงแม้ไขมันเหล่านี้ จะเป็นมิตรต่อสุขภาพ แต่ก็เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง ดังนั้นการทานอาหารที่มีไขมันสูง ก็ต้องระวังเรื่องความอ้วนด้วย จึงไม่ควรทานมากเกินกว่าความต้องการของร่างกาย SOURCES: Good Fats, Bad Fats, by Rosemary Stanton, PhD, Marlowe & Co. * The PDR Family Guide to Nutrition and Health, Medical Economics Co. 2003 WebMD Inc. All rights reserved. แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 49 20:35:05 จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 20:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ไปซื้อครีมกลับมา ก็อ่านแล้วงงง ค่ะ แต่ว่าค่อนข้างโชคดีที่ว่าอาหารที่นี้ ฉลากค่อนข้างบอกละเอียด แต่ว่าปัญหาบางครั้งอ่าน แล้วไม่ค่อยเข้าใจ เรื่องไขมันอิ่มตัว ไม่อิ่มตัว ก็อย่างที่คุณเสมอกลางว่าค่ะ ถ้าเลือกได้ก็ต้องเลือก ไขมันไม่อิ่มตัว แต่ ตอนนี้ต้องมาระวัง ไขมันแปรรูปอีกแล้ว เหนื่อยน่ะค่ะ เอาเป็นว่าระวังเท่าที่เราทำได้แล้วกัน ถ้าระวังมากไปพาลจะไม่เป็นกินอะไรเลย อ้อ ที่บ้านเราก็ใช้น้ำมันดอกทานตะวัน แล้วก็น้ำมันพืชอะไรสักอย่างไม่รู้ น้ำมันงา กับน้ำมันมะกอกก็ใช้ค่ะ แต่ว่าไม่ชอบกลิ่นน้ำมันมะกอกเลยเรา แล้วรู้สึกว่าทำอาหารไทยไม่ค่อยอร่ยยด้วย คิดไปเองค่ะ จากคุณ : ฟ้าสางฯ (ฟ้าสางที่กลางใจ) - [ 10 ต.ค. 49 20:34:39 ]

ความคิดเห็นที่ 42 นี่คือ คำอธิบาย ไขมันทรานส์ ที่เราว่า เขียนอ่านง่ายที่สุดแล้ว เอามาจากเว็บคุณหมอ thaiclinic เคยเขียนตอบไว้ (trans = แปรสภาพ) เป็นไขมันที่คนเราทำขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ขบวนการสำคัญได้แก่ การเติมไฮโดรเจน (hydrogenation) ให้กับโมเลกุลของคาร์บอน การเติมไฮโดรเจนทำให้น้ำมันเหลวแปรสภาพ กลายเป็นน้ำมันข้นขึ้น ขาวขึ้น และละลายหรือปนกับน้ำได้ง่ายขึ้น เก็บได้ง่ายที่อุณหภูมิห้อง ไม่เสียง่าย และเก็บได้นานขึ้นคำกล่าวที่ว่า “น้ำกับน้ำมันไม่มีวันเข้ากันได้” จะเปลี่ยนไปก็ตอนนี้เอง "ถ้านำน้ำมันมาเติมไฮโดรเจนเข้า น้ำมันจะแขวนลอยในน้ำได้ เปรียบคล้ายสบู่ที่แขวนลอยอยู่ในน้ำได้" ครีมเทียมหรือคอฟฟี่เมตที่มีจำหน่ายประมาณครึ่งหนึ่งเป็นน้ำตาล อีกครึ่งหนึ่งเป็นไขมันเติมไฮโดรเจนไปบางส่วน ทำให้ไขมันบางส่วนแปรไปเป็นไขมันทรานส์ ตัวอย่างไขมันทรานส์                                             ไขมันทรานส์พบมากในครีมเทียม(คอฟฟี่เมต) เนยเทียม ขนมปังกรอบ (crackers) ขนมท้อฟฟี่ ขนมปังปิ้ง คุกกี้ ขนมสำเร็จรูป (snack) อาหารทอด สลัดน้ำข้น ฯลฯ นอกจากนั้นการทำอาหารที่ใช้ความร้อนต่อเนื่องกันนานๆ หรือน้ำมันทอดที่ใช้ซ้ำหลายครั้ง เช่น กล้วยทอด มันทอด ฯลฯ มีส่วนทำให้เกิดไขมันทรานส์ได้ การใช้น้ำมันจึงควรใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งส่วนที่เหลือ แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 49 20:39:58 จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 20:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มาเก็บความรู้ค่ะ : ) จำได้ว่าเมื่อหลายปีมาแล้ว มีโฆษณาน้ำมันถั่วเหลืองยี่ห้อนึง เขาโฆษณาว่าเอาไปแช่ตู้เย็นแล้วไม่เป็นไข นัยว่าไม่ส่งผลให้ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ...ลวงให้เข้าใจผิด(ไปอีกทาง)มานานเลยนะคะเนี่ย ล.ป.An Inconvenient Truth ยังเข้าฉายอยู่ที่ลิโด้นะคะ : ) http://www.climatecrisis.net/ จากคุณ : jimkong - [ 10 ต.ค. 49 20:42:16 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เอาข้อมูลพวกนี้มาเล่า เพราะอยากให้เริ่มระวังกัน แต่อย่ากลัวนะคะ เลือกบริโภค หลบได้เป็นหลบ ลดได้ก็ลดซะ เพราะมันเป็นภัยแฝงที่ใกล้ตัวมาก หลายคนที่ลุกขึ้นมาเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่อง trans fat คือ "บรรดาแม่ๆ" ที่เคยรักชอบการทำอาหารมากๆ พอเริ่มมีลูกก็คิดจะทำอาหารที่มีประโยชน์มากมายให้กับลูก เมื่อค้นหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาอ่าน ก็ต้องตกใจกับข้อมูล trans fat จนทนไม่ได้ ต้องลุกขึ้นมาเขียนหนังสือเล่าต่อ เพราะขนม คุกกี้ ที่เด็กชอบกินนักหนา เต็มไปด้วยอันตรายแบบนี้   อยากกระซิบบอกดังๆ อีกครั้งว่า เมื่อเราได้อ่านข้อมูลพวกนี้ เรายิ่งรู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่หันมาบริโภคอาหารออร์แกนิกให้ได้มากที่สุด เพราะขบวนการ "ออร์แกนิก" จะไม่ใช้ขบวนการและส่วนผสมอันตรายให้เราต้องคอยกังวลระวังมากมายเลยสักอย่าง...สินค้าออร์แกนิกอาจจะแพง อาจจะมีให้เลือกไม่มาก อาจจะไม่อร่อยล้ำ แต่เราแน่ใจได้ว่า นั่นคือรสชาติธรรมชาติดั้งเดิม ที่ "ปลอดภัย" ที่สุด - จริงๆ จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 20:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แอบมาต่อนิดนึง เรื่องอาหารออร์แกนนิคค่ะ โดยส่วนตัวตอนอยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยใส่ใจเลยค่ะ อะไร ดี ปลอดสารพิษ หรืออะไรพวกนี้ แล้วเป็นนึงที่หิวท้องฝากตลาดหน้าปากซอยประจำ ไม่สนใจ เพราะกินอะไรก็ตาย เหมือนกัน น่ากลัวไปหมดค่ะ กินให้อร่อยดีกว่า พอต้องมาใช้ชีวิตต่างแดน อาหารก็ต้องทำกินเอง เริ่มใสใจเรื่องอาหารมากขึ้น แล้วคนรอบ ๆ ตัวที่นี้ก็ใสใจเรื่องนี้เหมือนกัน เราก็เลยเริ่มศึกษามากขึ้น จนมาทุกวันนี้เราค่อนข้างเลือกมาก ถึงมากที่สุด ซื้ออะไรก็ต้องอ่านฉลากด้วย ติดนิสัยไปเลย อย่างที่นี้ เค้าจะเรียกกันว่า บีโอ ไบโอ BIO อ่ะค่ะ ราคาแพงกว่าของปรกติเกือบเท่าตัวค่ะ บางอย่างก็เราก็ไม่มีปัญญา แต่ว่าก็เอาเท่ากำลังพึงจะมีค่ะ เพื่อสุขภาพค่ะ กินอะไรก็ตาย แต่ว่าตายไม่เหมือนกัน ถ้าเลือกได้ขอตายแบบไม่ทรมานดีกว่า ถ้าอย่างนั้นเรามาดูแลสุขภาพ ใสใจกับการเลือกกินนิดนึงน่ะค่ะ ลำบากหน่อย แต่ก็ทำเพื่อตัวเองค่ะ จากคุณ : ฟ้าสางฯ (ฟ้าสางที่กลางใจ) - [ 10 ต.ค. 49 20:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นด้วยกับคุณฟ้าสางฯ - มั่กๆ เราแปะกระทู้นี้ เพราะคิดเหมือนคุณฟ้าสางฯ เช่นกัน หากรักตัวเอง รักคนที่รักเรา รักคนที่เราต้องดูแล การเลือกกินอาหารที่ปลอดภัย เป็นเรื่องที่สำคัญมาก อย่าชะล่าใจจนสายเกินไป เราไม่รู้หรอกว่า อะไรที่อันตรายอีกมากมายที่เรายังไม่ค้นพบมีอีกเท่าไหร่ อาหารนั้นไม่ใช่กินแค่ให้อิ่มอร่อย แต่กินเพื่อให้เป็นดั่งยาอายุวัฒนะ ... คำเตือนของคนยุคโบราณก่อนเก่ายัง "จริง" เสมอ จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 21:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ทิ้งซองไปแย้วอ่า แล้วกันกินแบบครีมขาวๆตับเบิ้ลด้วยอ่า ไอซองสีชมพู ๆ น้ำเงินๆ นี้ฉันโดนไป2เท่าเลยหรอเนี้ย T^T จากคุณ : friskyz~* - [ 10 ต.ค. 49 21:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 48 --- ต้องเอาจริงเอาจังเรื่องพวกนี้แล้วครับ  โหวตก่อนล่ะ จากคุณ : เหมียวหล่อ (myth) - [ 10 ต.ค. 49 21:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 49 น่ากลัวแฮะ >o< ลาทีโอรีโอค่ะ T___T น่ากลัวจริงๆ จากคุณ : +~%Chocolate Republic%~+ - [ 10 ต.ค. 49 21:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ความรู้ใหม่จริงเลยนะเนี่ย ต่อไปซื้ออะไรจะกินอะไรก้อคงต้องระวังให้มากขึ้นกว่านี้อีนะเนี่ย ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดี ที่เพื่อนเอามาแบ่งปันกันนะ จากคุณ : ^_^ หมูน้อยเกเร ^_^ - [ 10 ต.ค. 49 22:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 51 สงสัยอย่างนึงน่ะครับผม .... ทำไมถึงให้ "น้ำมันปาล์ม" เป็นน้ำมันดี ล่ะครับ .... เท่าที่ผมเคยได้ยินมา เค้าไม่ให้ทานน้ำมันปาล์ม แต่ให้ทานน้ำมันชนิดอื่นเช่นมะพร้าว / งา/ รำข้าว ฯลฯ แทนน่ะครับ สงสัยจัง d- -a จากคุณ : เด็กน้อยในไร่ส้ม - [ 10 ต.ค. 49 22:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 52 น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันเมล็ดฝ้าย ถ้าเป็นชนิดที่ไม่ผ่านกระบวนการทำให้เป็นไขมัน(fat) ถือว่าเป็น น้ำมัน(oil)ที่มีคุณภาพ เอามาใช้ทำอาหารได้ตามปกตินะ *** ต้องแยกความแตกต่าง ระหว่าง vegetable fat กับ vegetable oil ก็อย่างที่รู้กันว่า ตามปกติ พืชต่างๆจะให้น้ำมัน อยู่ในรูปของเหลวที่อุณฯห้อง ดังนั้น เมื่ออุตสาหกรรมอาหาร ต้องการใด้น้ำมันพืชที่เป็นของแข็งที่อุณฯห้อง จึงนำน้ำมันไปผ่านกระบวนการ ซึ่งกระบวนการที่ว่าเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิด Trans fat และขนมขบเคี้ยวต่างๆ อุตสาหกรรมเบเกอรี่ มันฝรั่งทอด ฯลฯ ในช่วงที่ผ่านมาก็เฮโลใช้ผลิตภัณฑ์ไขมันที่เกิดจากการทำให้น้ำมันพืชกลายเป็นของแข็งแทบทั้งสิ้น วิธีสังเกตง่ายๆ สำหรับในประเทศไทย ที่ยังไม่มีกม.หรือนโยบายเรื่องนี้ ให้สังเกตดูที่ส่วนผสมของอาหารนั้นๆ ว่ามีไขมันมันแปรรูป ,ไขมันดัดแปรง, (Partailly)Hydrogynated Vegetable Oil , มาการรีน, shorteningเหล่านี้ หรือไม่ ส่วนเบเกอรี่ทั่วๆไป น่าจะสันนิษฐานว่าส่วนมากจะใช้ ไขมันดัดแปรงเหล่านี้ผสม หนึ่งเพื่อลดต้นทุน สองจริงๆแล้วเบเกอรี่หลายๆชนิดที่ใช้ไขมันดัดแปรงทำจะทำให้ขนมมีรสชาติหรือเนื้อสัมผัสที่เป็นที่พอใจของคนชิมมากกว่า อย่างเช่น แครกเกอร์หรือคุกกี้กรอบๆ ถ้าใช้ไขมันดัดแปรง(ซึ่งก็คือtrans fatรูปหนึ่ง)ทำ จะให้เนื้อขนมกรุบกรอบคงทนกว่า หรืออย่างเฟรนช์ฟรายที่มีการทำให้สุกมาส่วนหนึ่งก่อน แล้วนำมาทอดต่ออีกทีก่อนกิน ในขั้นตอนแรก ก็มีหลายๆยี่ห้อที่ใช้เนยขาวทอด หรืออย่างครีมเค้กก็รู้อยู่ว่าใช้เนยสด ตีครีม เจออุณฯของไทยเราละลายแหงๆ *** แต่น้ำมันพืช(oil) ก็ต้องมีหลักการการเลือกใช้ที่ถูกต้อง เช่นน้ำมันที่ใช้ทอดก็ควรใช้น้ำมันที่มีจุดกลายเป็นควันสูงๆ เมืองไทยเรา ก็ใช้น้ำมันปาล์ม น้ำมันรำข้าวได้ ลองอ่านดูที่ฉลากนะ ขวดน้ำมันมักจะบอกว่าเหมาะสำหรับใช้ทำอะไร หรือไปหาข้อมูลเรื่องจุดที่กลายเป็นควัน หรือว่าจุดเดือดของน้ำมันแต่ละชนิดมาศึกษาดู ส่วนน้ำมันสำหรับผัด ส่วนตัวเราใช้ น้ำมันทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง สลับกันไป ส่วนเรื่องไขมันอิ่มตัวในน้ำมันพืช ก็เลือกบริโภคแต่ในปริมาณที่พอเหมาะ ดูให้สมดุลย์กับปริมาณจากไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ด้วย(ไขมันในเนื้อสัตว์ที่กินแต่ละวัน ไขมันจากนม เนย ชีสต่างๆ) เรื่องน้ำมันมะพร้าว พี่สาวเรา เพิ่งเล่าให้ฟังเร็วๆนี้ว่า ได้อ่านหนังสือ ที่มีงานวิจัยว่า ถึงน้ำมันมะพร้าวจะมีไขมันอิ่มตัวสูง แต่ในน้ำมันมะพร้าวนั้นเองก็มีสารที่ป้องกันการจับตัวของไขมันอยู่ในตัวมันเองด้วย เรื่องนี้เรายังไม่ยืนยัน แต่ถ้าสังเกตพฤติกรรมการกินกะทิขิงไทยเรา เรื่องนี้น่าจะเป็นไปได้สูงมากๆ งานวิจัยที่ว่าเป็นงานวิจัยของนอกนะ ไม่แน่ใจว่าชาติไหน แต่หนังสือเล่มที่พี่สาวเราอ่านเป็นหนังสือของคนที่เป็นคนคิดค้นให้มีการเขียนปิระมิดอาหารขึ้นมา **** สรุปตามความคิดเรา คือ อย่าตกใจกลัว เพราะที่ผ่านมาหลากๆคนก็กินเข้าไปเยอะแล้ว อาการป่วยยังไม่แสดง ดังนั้นน่าจะเป็นการสะสม ถ้าขจัดได้เสียแต่ตอนนี้ เราว่าที่ผ่านมา ร่างกายน่าจะมีกลไลขจัดล้างสิ่งสกปรกที่อยู่ในตัวเราอยู่แล้ว แต่คงต้องร่วมกับการมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย เช่นพักผ่อนให้พอ ออกกำลังกาย กินอาหารให้ครบหมู่ตามที่ร่างกายต้องการ จากคุณ : trml - [ 10 ต.ค. 49 22:25:50 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณเสมอกลางอีกครั้ง มีอะไรดีๆอย่าลืมเอามาบอกอีกนะคะ จากคุณ : นินจาไร้เงา - [ 10 ต.ค. 49 22:26:17 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เย ... คุณ trml คู่หู trans fat มาแล้ว เรื่องน้ำมันที่ใช้ทอด อย่างที่คุณ trml บอกเลย มันเกี่ยวกับลักษณะการใช้ ณ จุดเดือดแค่ไหน เท่าที่รู้ตอนนี้ ถ้าจะต้องทอดอะไรนานๆ ไฟแรงๆ ให้ใช้ น้ำมันปาล์ม และ น้ำมันถั่วลิสง เรื่องน้ำมันมะพร้าว แต่ก่อนที่เราเคยอ่านๆ ก็ถูกให้เข้าใจผิดว่า มันอันตรายนะ แต่ต่อมาเราอ่านเจอว่า เป็นการให้ข้อมูลปิดเบือนแฝงเรื่องการค้า ตอนนี้มีข้อมูลวิจัยออกมาโต้แล้วว่า แท้จริงน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันดีที่คนโบราณใช้มาเนิ่นนาน ... มาช่วยยืนยันข้อมูลที่อ่านเจออีกหนึ่งเสียง หนังสือเล่มนี้มั้งคะที่ คุณ trml ล่าถึงปิรามิดอาหาร "Eat Drink and be Healthy"เขียนโดย Walter Willett แห่ง The Harvard Medical School คนนี้ดังสุดๆ แล้ว งานเขียนเล่มนี้ทำให้ชาวไดเอท กลับมาตื่นตัวเรื่อง Trans fat กันมากเลย http://www.hsph.harvard.edu/now/aug24/ ใครอ่านเรื่อง trans fat แล้ว อย่ากลัวเกินเหตุ แต่อยากให้พึงระวังไว้มากๆ มีคนเตือนไว้ว่า อะไรก็ตามที่อันตราย เราได้กินสะสมมาไม่รู้เท่าไหร่ ในส่วนที่มันเกินเข้ามาโดยที่เราไม่รู้ตัว แล้วระบบในร่างกายไม่สามารถขับถ่ายออกมาได้หมด หากรู้แล้ว พยายามเลี่ยง พยายามลดจำนวนลง จะช่วยได้มาก เพราะเรื่องร้ายๆพวกนี้ ไม่เห็นผลทันตา แต่จะค่อยๆเริ่มโผล่มาเมื่อวัยเราล่วงขึ้นเลข 3 เลข 4 ปี ไม่เชื่อนัก แต่อย่าวางใจ : ) จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 23:01:42 ]

ความคิดเห็นที่ 55 รูปปิรามิดอาหารค่ะ จากคุณ : เสมอกลาง - [ 10 ต.ค. 49 23:03:17 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ข้อมูลอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลดีต่อสุขภาพสำหรับน้ำมันปาล์ม และน้ำมันมะพร้าว (จะมีใครแปลสรุปมาไหม:P) http://www.africanpacific.com/nui_health_benefits_coconut_oil.htm For Thais, palm oil always has been a good thing http://www.sfgate.com/cgi-bin/article.cgi?f=/chronicle/archive/2003/03/12/FD191844.DTL http://www.americanpalmoil.com/ http://www.bettykamen.com/newsletters/palmoil.htm ยังมีอีกมากลองไปค้นอ่านดูนะ เราพยายามค้นภาษาไทยมาให้แต่หาไม่ได้ แต่จำได้เคยมีข่าวสั้นๆลงในกรุงเทพธุรกิจว่า กระทรวงสาธารณสุขเคยประกาศออกมาว่าทั้งน้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม (ที่ไม่ผ่านการแปรรูปเป็นไขมัน) เป็นน้ำมันที่ดี ถ้าบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ จากคุณ : trml - [ 10 ต.ค. 49 23:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อีกอันนึง น้ำมันรำข้าว เป็นของดีใกล้ตัวคนไทยอีกอย่าง http://www.californiariceoil.com/healthbenefits.htm http://www.ncbi.nlm.nih.gov/entrez/query.fcgi?itool=pubmed_Abstract&db=pubmed&cmd=Display&dopt=pubmed_pubmed&from_uid=10625933&itool=ExternalSearch เมื่อเร็วๆนี้อ่านหนังสือพิมพ์เจอ ว่าน้ำมันรำข้าวยี่ห้อนึงที่มีการทำให้ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันรำข้าวมีเพิ่มขึ้นกว่าปกติเป็นสามเท่า ได้รับรางวัลงานวิจัยผลิตภัณฑ์ดีเด่นด้วย อิ อิ เราก็ใช้อยู่ เอาไว้ทำขนมอบ จากคุณ : trml - [ 10 ต.ค. 49 23:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 58 **** ขอสรุปสุดท้ายอีกที ถ้าดูจากรูปปิรามิดอาหารที่คุณเสมอกลางโพสต์ จะเห็นว่า ไขมัน/น้ำมัน เป็นส่วนที่อยู่ยอดสุดของปิรามิด แสดงว่าปริมาณที่ต้องการสำหรับร่างกายก็ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยที่สุดอยู่ดีเมื่อเทียบกับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายกลุ่มอื่นๆ นอกจากการเลือกกินไขมันคุณภาพดีแล้ว ปริมาณที่จะกินเข้าไปในแต่ละวันก็ความควบคุมให้เหมาะสม และควรเลือกกิน ไขมัน/น้ำมันจากแหล่งที่หลากหลายก็จะได้ประโยชน์จากไขมัน/น้ำมันที่มีประโยชน์หลากหลายกันไป:) จากคุณ : trml - [ 10 ต.ค. 49 23:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 59 พรุ่งนี้จะจัดมหกรรมตรวจฉลากสินค้ากันบ้างแล้ว ละเลยเรื่องนี้มาตลอด ถือว่าของที่หยิบใส่ปากกินนั้น แค่กินกันตาย ..... ไป ๆ มา ๆ ถ้าไม่อ่านให้ถ้วนถี่ มีหวังได้ตายไวเข้าไปอีก ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล .....โหวต...... จากคุณ : มัทนะพาธา - [ 11 ต.ค. 49 00:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เพิ่งไปตรวจสุขภาพประจำปีมา.... หมอบอกว่าเสียใจด้วยนะคุณบอล คุณ ... ... ... ... ... ... ไม่ได้ป่วยอย่างที่คุณวิตกกังวล ระดับต่างๆในเลือดยังปรกติอยู่ ฟังแค่นี้ก็ค่อยโล่งอก มีโอกาสสู้กับเจ้า trans fat ต่อครับผม 5555 ที่ผ่านๆมา ยัดพวกนี้เข้าไปเยอะแบบไม่บันยะบันยัง....รอดตัวมาได้ปีนี้ ต้องดูแลกันมากขึ้นหน่อยแล้วครับ ขอบคุณสำหรับขัอมูลดีๆแบบนี้นะครับผม ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อด้วยนะครับ จากคุณ : kittscake - [ 11 ต.ค. 49 01:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆค่ะ  แต่ยาวมั่กๆ มาลงชื่อไว้ก่อน เดี๋ยวมาอ่านแบบละเอียดๆอีกทีค่ะ ^^ จากคุณ : คุณนายเย็นชา - [ 11 ต.ค. 49 01:55:40 ]

ความคิดเห็นที่ 62 งดเข้าร้านเบเกอรี่จะดีที่สุด แยมโรล คุ๊กกี้ หน้าเค้ก(ที่ตีด้วยเนยขาว+เนยสด)ฯลฯ ใช้ไขมันแปรรูปทั้งน้าน จากคุณ : GOD FINGER - [ 11 ต.ค. 49 02:40:17 A:203.188.25.35 X: TicketID:124478 ]

ความคิดเห็นที่ 63 - คุณ trml  ขอบคุณลิงค์ที่แปะมาให้เพิ่มอย่างสูง ชอบมั่กๆ ข้อมูลแบบนี้ เก็บลิงค์ทันใด เอาไว้โอกาสเหมาะๆ แปลแปะอีก ฮ่า คนเขาจะได้ไม่เปิดกระทู้เรา เพราะอ่านแล้วกลัวไม่กล้ากินอะไร แต่เราชอบอ่านแฮะ ยิ่งอ่าน ยิ่งทำอาหารสนุก หาศาสตร์มาเล่นไป สนุกนึกสนุกค้น : ) - คุณนินจาไร้เงา ขอบคุณเช่นกันค่ะ ที่มาอ่าน หวังว่าเรื่องพวกนี้จะส่งผลดีมีประโยชน์ต่อคุณ ต่อคนที่อยู่ใกล้ตัวคุณ และคนที่คุณรู้จักทุกคนด้วยนะคะ play it forward งวดหน้าอาจจะมาเล่าเรื่อง "เกลือ"  และ "น้ำตาล" ในอาหารต่อ ... เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่สำคัญยิ่งใหญ่เชียวล่ะ - มัทนะฯ กินๆ เข้าไปตายไวก็หมดกรรมเวรกันไป แต่ถ้าเกิดไม่ตายไว นอนพะงาบๆ ให้เป็นภาระคนอื่นนี่สิ - กรรมไม่ปล่อยปลด ว่าแต่ค้นเจออะไรพิสดารอย่าลืมมาเล่าต่อด้วยนา - บอล อืม...จริงนะ พี่เตือนๆตัวเองเสมอ เพราะชีวิตคนเรามันคงไม่โชคดีตลอดไป ฉะนั้นอย่าประมาทกับชีวิต โชคดีที่ตัวพี่ไม่ค่อยชอบกินขนม นม เนยเท่าไหร่ มันไม่อยากเอง เห็นเค้กสวยๆ ชอบดูนะ แต่ให้กินเอง ชีสเค้ก มูสเค้กอะไรพวกนี้ชิ้นหนึ่งก็กินไม่หมดหรอก แต่ถ้าเค้กชอคโกแลตนานๆที กินได้อร่อยดีเหมือนกัน (วงเล็บ โดยเฉพาะถ้าทำเอง อร่อยล้ำที่ซู้ด) - ตุ๋ม กระทู้ยาวจริงๆ ด้วย เล่าเพลินไปหน่อย เมามันข้อมูล : ) - คุณ God Finger เอาท้องไปฝากคนอื่น ก็แย่ตรงนี้ล่ะเนอะ ใช่ว่าเราจ่ายเขาแพงๆ เขาจะให้ของคุณภาพสมราคากับเราเสมอไป หลังๆ เราลงทุนซื้อเอง-ทำเองเกือบหมด เพื่อความแน่ใจ คิดเบ็ดเสร็จแล้วจะว่าไปถูกกว่าไปซื้อเขา แถมยังได้กินของมีคุณภาพเชื่อใจได้จริงๆ จากคุณ : เสมอกลาง - [ 11 ต.ค. 49 03:21:12 ]

ความคิดเห็นที่ 64 http://www.apple.com/trailers/paramount_classics/aninconvenienttruth/trailer/ ก่อนลาไปนอน ไม่ชวนใครให้กลัวไม่ให้ใครกินอะไรล่ะ แต่อยากชวนไปดู trailer หนังสารคดี An Inconvenient Truth ที่มาจากหนังสือของ อัล กอร์ อยากให้ดู-มั่กๆ เข้ากับสถานการณ์น้ำล้นที่เมืองไทยตอนนี้เลย   บางทีเราๆอาจจะ(ไม่โชคดี) อยู่ไม่ถึง 10 ปีข้างหน้าก็เป็นได้ ฉะนั้นเมื่อดูหนังเรื่องนี้แล้ว เรื่อง trans fat ที่เราคุยๆ กันอยู่นี่ อาจจะกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย : ) จากคุณ : เสมอกลาง - [ 11 ต.ค. 49 03:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 65 กว่าจะอ่านจบ  ลดอาการอยากกินขนมไปได้เยอะเลยค่ะ ปล.  โหวตค่ะ จากคุณ : habibe - [ 11 ต.ค. 49 04:03:49 ]

ความคิดเห็นที่ 66 โอ้ว...อ่านไปขนหัวสแตนอัพ... ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆจ๊ะ....เจ้าแคว้น.... จากคุณ : เจ๊แหนมกะน้าพุ้ย - [ 11 ต.ค. 49 10:19:38 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขออ่านก่อนนะพี่ เยอะจัง ไม่เข้ามาแป๊บเดียวเอง จากคุณ : Quenn - [ 11 ต.ค. 49 10:20:20 ]

ความคิดเห็นที่ 68 มานั่งอ่านต่อ.. ส่วนลิ้งค์คงต้องตามไปอ่านวันหลัง.. มาโหวตให้หลายๆ ครั้งเลยค่ะ.. จะชนะกระทู้แนะนำตอนนี้มั๊ยเนี่ย.. จากคุณ : ขวัญณิตา - [ 11 ต.ค. 49 10:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณมากเลยค่ะ ได้ความรู้มาเยอะเลย ต่อไปจะพยายามเลือกกินให้มากขึ้นค่ะ ^_^ จากคุณ : ribbon jung +^_^+ - [ 11 ต.ค. 49 11:07:34 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณพี่แก้ว ที่เอาข้อมูลดีๆมาฝาก เลิกกิน oreo มานานแล้วล่ะ กินแล้วมันเลี่ยนๆ เบื่อๆน่ะค่ะ จากคุณ : Irony - [ 11 ต.ค. 49 11:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ยังอ่านไม่หมด ขอโหวตให้คนเห็นเยอะ ๆ แระกันค่า จากคุณ : jeeddy - [ 11 ต.ค. 49 12:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เคยอ่านเรื่อง trans fat มานานแล้วเหมือนกันค่ะพี่แก้ว แต่ตอนนั้นนานมากๆๆๆแล้ว  เห็นในอเมริกาเค้า concern เรื่องนี้มาก....รับรู้ได้ว่ามันไม่ดีแน่ๆ แต่พอไปเมกานี่  ขนมเกือบทุกอย่างจะมี trans fat ทั้งนั้น เลยค่ะ  อันไหนที่ไม่มีนี่จะเหมือนว่าผู้ผลิตภูมิใจมากๆๆ เค้าจะเขียนไว้ตัวโตๆหน้าห่อเลยค่ะ ว่า No Trans Fat เพื่อนตาโตมองผ่านๆนึกว่า No Fat  55555555 ซื้อมากินกันใหญ่ ^^" จากคุณ : ลูกสน - [ 11 ต.ค. 49 12:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 73 Thank you for informative kra-too so much ka p'keaw. (I'm now using school computer which cannot type Thai la ^^') I am wondering about "Tablespread" which I have eatten every day a p'keaw. I should find some more of its information la. "You are what you eat" จากคุณ : oh_ho_ole - [ 11 ต.ค. 49 12:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ชอบกินโอรีโอ้ แต่ไม่ชอบกินครีมโอรีโอ้อ่ะครับ  เวลากินจะปาดครีมออกหมด แล้วจะโดนเจ้า trans fat ซักประมาณไหนครับ จากคุณ : คนอย่างเรา...ใครเขาจะเอา - [ 11 ต.ค. 49 13:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 75 กระทู้นี้ดีมากๆค่ะ โหวต จากคุณ : ^Pum^ - [ 11 ต.ค. 49 14:38:13 ]

ความคิดเห็นที่ 76 อ่านแล้วขนลุกเลยค่ะ จากคุณ : ตังโอ๋ - [ 11 ต.ค. 49 15:29:15 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เข้ามาอ่านค่ะพี่แก้ว จริงๆก็รู้มาเป็นปีแล้วเรื่องนี้ เลยไม่เคยทำขนมที่ใช้เนยขาวเลย  แต่ปกติก็ไม่ค่อยได้ทำขนมเท่าไร อิอิ อ่านเรื่องแบบนี้แล้วชอบค่ะ เราจะได้รู้เท่าทันพวกนายทุนบ้าง ว่าแต่ เจี๊ยบหาอ่านข้อมูลเจ้าน้ำมันปาล์มแล้วไปเจอเวบภาษาดัทช์เวบนึง ดูเหมือนจะโจมตีเจ้าน้ำมันปาล์มจัง แต่เจี๊ยบไม่เชื่อ อิอิ แล้วยังมีเวบนึงเช่น เวบนี้ http://www.gezondfrituren.nl/content/gezondfrituren_transvet.htm เค้าว่าเจ้า trans fat มีในเนื้อวัว เนื้อแกะ ด้วย ว่าไปนั่น ดูเค้าจับแพะชนแกะยังไงไม่รู้ค่ะ สรุปข้อมูลที่ถูกต้องจริงๆนี่เวบนี้เค้าคงไม่รู้ใช่มั้ยคะเนี่ย ว่าไป คนที่ฮอลแลนด์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้มากนักนะคะ พวกข้างซอง ข้างกล่องก็ยังมีการให้ข้อมูลไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร น่าสงสารตัวเอง อ่านข้างกล่องทีมันก็ไม่กระจ่าง บอกอะไรทีก็บอกไม่หมด หนอ จริงๆอยากจะซื้อพวก ออแกนิค แต่เงินมันก็ไม่อำนวยเท่าไรเลยค่ะ เลยซื้อเท่าที่ทำได้ แล้วจะรออ่านตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : Peter en Jeab - [ 11 ต.ค. 49 15:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณทุกคนที่สนใจมาอ่านนะคะ ใครมีข้อมูลด้านอื่นเพิ่มเติม แปะๆเล่ามาได้เลย จะได้ช่วยนำความกระจ่างในเรื่องนี้มาเสริมความรู้กันและกัน -เจี๊ยบ ... เว็บนั้นไม่จับแพะชนแกะจ้ะ trans fat พบในผลิตภัณฑ์ dairy products ด้วย อย่างนม อย่างเนื้อวัว เนื้อแกะ แต่ที่พบตามธรรมชาตินี้มีสัดส่วนอัตราที่น้อยมากๆ (ประมาณน้อยกว่า 0.5 กรัม / 100 กรัม)  หากเราไม่บริโภคเนื้อสัตว์มากๆ เราจะไม่ได้รับอันตรายจากมันเลย แต่ชนิด Trans fat ที่กำลังคุยกันอยู่นี้ คือ พวกไขมันแปรรูปทั้งหลาย ที่ผ่านกระบวนการ Hydrogenated ย้ำอีกครั้งนะคะว่า ไม่ใช่ว่าการหลบเลี่ยง trans fat กลับไปสู่ นม เนย ไขมันอิ่มตัวทั้งหลาย คือ ทางเลือกแห่งสุขภาพโดยสิ้นเชิง กลับไปดูที่ปิรามิดอาหารดีๆนะคะว่า ปริมาณการบริโภคไขมัน ยังเป็นปัจจัยสำคัญด้วย "ไขมันอิ่มตัว" ก็ยังเป็นอันตรายเช่นกัน หากเราบริโภคมันมากเกินไปในแต่ละวัน ปัญหาโรคหัวใจ โคเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (มันมีชนิดโคเลสเตอรอลดีที่ร่างกายต้องการอีกเช่นกัน)ที่เพิ่มขึ้นสูงในเลือด ยังมีสาเหตุมาจากการบริโภคไขมันอิ่มตัวอยู่ดี และอย่าลืมระวังตัวนี้ด้วย... - ไตรกลีเซอไรด์ เป็นไขมันเลวอีกชนิดหนึ่ง ถ้าสูงมากจะเกิดตับอ่อนอักเสบได้ หรือเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจได้ ค่าปกติไม่ควรเกิน 200 mg% ...จะพบมากในอาหารพวกแป้ง, ของหวาน ทางเลือกที่(น่าจะ)ดีที่สุด คือ เลี่ยง trans fat - จำกัดปริมาณไขมันทุกชนิด - ไม่กินเนื้อสัตว์และคาร์โบไฮเดรตมากเกินกว่าความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน - ออกกำลังกายสม่ำเสมอ - อ่านข้อมูลเพิ่มเติมไว้รู้เท่าทัน ค่ะ จากคุณ : เสมอกลาง - [ 11 ต.ค. 49 16:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อ่านไปกลัวไป ระแวงไปเลยค่ะ พี่เสมอกลาง เมื่อวานเพิ่งไปช็อปมาเอง ซื่อขนมขบเคี้ยวมาหลายห่ออยู่ ต้องรีบตรวจดูเสียหน่อย ปล. ดีใจจังที่อังกฤษหาซื้อ โอรีโอ้ ยากมาก แถมร้านที่มีขายก็ขายแพงซะหยิบจับไม่ลง จากคุณ : you've got my attention - [ 11 ต.ค. 49 16:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อ้อ...จุดสำคัญอีกอย่าง อย่าเข้าใจผิดคิดว่าอาหาร Low Fat อาหาร Diets ทั้งหลายเป็นอาหารที่ตีตราประกันสุขภาพ ... มันจำกัดไขมันอิ่มตัวจริง แต่ใช่ว่ามันจะปลอดภัยมีประโยชน์ต่อสุขภาพเราอย่างสิ้นเชิง ดูปิรามิดอาหารข้างบนนำทางการบริโภคอาหารของเราดีกว่า ... นั่นคือ วิธี diet ที่ดีที่สุด ใช้หลัก "พอดี" ในการบริโภค ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่มอะไรให้วุ่นวายเลย : ) จากคุณ : เสมอกลาง - [ 11 ต.ค. 49 16:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ร้าน Coffee & Fastfood ชื่อดัง อ.ป.ป. เห็นเค้าแปะป้าย " T.... Fat " ไว้ตัวใหญ่มากเลยนะครับ พร้อมบรรยายสรรพคุณเสร็จสรรพว่า "ทานแล้วไม่อ้วน" จากคุณ : Top27 - [ 11 ต.ค. 49 16:57:48 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เข้ามาอ่านอย่างตั้งใจมาก ๆ เพราะมันค่อนข้างยาว  ถึงแม้จุ๋มจะชอบกินของหวาน  เค้ก  และขนมที่มีกะทิ  และคงไม่หยุดกินง่าย ๆ  แต่คุกกี้ดำไม่ค่อยกินคะ  ปีนึงกินสัก 1-2 ครั้ง  จุ๋มก็ไปตรวจสุขภาพทุกปีค่ะ  เพื่อความปลอดภัย ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล  เดี๋ยวจะ copy ไป forward mail จากคุณ : แม่สลิ่ม - [ 11 ต.ค. 49 17:15:56 ]

ความคิดเห็นที่ 83 โอ้ มายกู๊ดเนสสสส อกอีแป้นจะแตก ขอบคุณ จขกท มาก สำหรับความรู้นี้ จะกระจายข่าวนี้ให้เพื่อนๆ รู้ทั่วกัน จากคุณ : ลาเต้ - [ 11 ต.ค. 49 17:23:21 A:203.118.68.109 X: ]

ความคิดเห็นที่ 84 แล้วถ้าหากเราไม่สามารถเลี่ยงได้จริง ๆ เลี่ยงได้แค่ ขนมที่ไม่จำเป็น เราจะชดเชยด้วยการออกกำลังกายแทนได้ไหมคะ หรือว่า การออกกำลังกายไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่คะ ? พอจะมีทางแก้ไขสุขภาพได้ไหมคะ หากเราป้องกันไม่ได้จริงๆ จากคุณ : นายแสนแมวดำอิจฉาหมูตุ๋นหมาขาว - [ 11 ต.ค. 49 18:08:32 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ไม่กล้าแตกประเด็นค่ะ ไว้คุยเรื่อง trans fat จบแล้วเราจะขอมาเสริมเรื่องน้ำมันรำข้าว น้ำมันงา หรืออะไรพวกนี้ดีไหมคะ ตอนนี้กำลังร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าบางมดทำวิจัยเรื่องน้ำมันรำข้าวค่ะ ซึ่งพบว่าประโยชน์มากมายมหาศาล ... แต่มีข้อแม้ในการนำมากิน จากคุณ : Quenn - [ 11 ต.ค. 49 18:36:02 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ขอบคุณค่ะ ขอตัวไปค้นคลังอาหารก่อนนะคะ จากคุณ : @little pixie@ - [ 11 ต.ค. 49 18:51:59 ]

ความคิดเห็นที่ 87 มาลงชื่ออ่านต่อครับ จากคุณ : Lee Sharp - [ 11 ต.ค. 49 19:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ อ่านแล้วตกใจเหมือนกัน คิดว่าตัวเองละเอียดแล้วเชียว อ่านข้างกล่องทุกครั้งก่อนซื้อของ แต่ไม่ได้เข้าใจเรื่อง Trans fat เลย ในบ้านเลยมีแต่ของพวกนี้ทั้งนั้น สงสัยต้องกำจัดซะให้หมด คุณหมอสั่งให้ลดความอ้วนให้ได้เลยพึ่งพาเจ้าพวกนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ ไตรกลีเซอไรด์ว่าไปตั้ง 600 กว่าแล้ว ต้องทานยาลดไขมันทุกเช้า เป๊ปซี่ก็เป็นเป๊ปซี่แม็กซ์ทานวันละ 2 กระป๋อง ตายแน่ๆ ช้าน งานนี้ จากคุณ : L@st love - [ 11 ต.ค. 49 19:31:25 ]

ความคิดเห็นที่ 89 แหะๆ เข้าใจค่ะพี่แก้วเคยอ่านเหมือนกันว่าในอาหารธรรมชาติมันมีด้วย แต่เจี๊ยบว่าเวบเค้าให้ความรู้ไม่กระจ่างน่ะคะ มันไม่ละเอียด เพราะมันทำให้คนอ่านที่ไม่ได้ไปหาข้อมูลหลายๆที่เข้าใจผิดได้ง่าย น่ะค่ะ ส่วนตัวเจี๊ยบคิดว่าเข้าใจบ้าง และคิดว่าตัวเองไม่มีปัญหากับพวกนี้น่ะค่ะ แต่เป็นห่วงคนอื่นที่เค้ายังไม่รู้กัน เท่าที่ดูคนข้างๆก็ไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนกันกินอย่างเดียว (แต่ว่าเจี๊ยบเป็นคนจัดการเรื่องกินเลยดีไป)อิอิ แต่เลิกทาขนมป้งด้วยมาร์การีนไปแล้ว อิอิ ส่วนตัวเจี๊ยบไม่ซีเรียสมากเท่าไรค่ะ กินแบบสบายๆ แต่ก็ไม่ละเลยในสิ่งที่เคยได้เรียนมาเอามาใช้ในชีวิตด้วย อันไหนไม่ดีเลี่ยงไป เอาแบบไม่ตึงไม่หย่อนน่ะค่ะ แล้วก็ได้ข้อมูลใหม่ๆแบบนี้มาก็อ่านให้ความรู้กับตัวเอง หาเพิ่มอีกหลายๆทางเสริม สนุกดีค่ะ ขอบคุณพี่แก้วอีกครั้งนะคะ จริงๆ อยากกินข้าวกล้องหอมมะลิจังแถวนี้ไม่เห็นมีขายเลย ไม่ทราบว่าพี่แก้วเคยเห็น มีขายแถวไหนบ้างคะจะตามไปซื้อ (อ้าวกลายเป็นเรื่องข้าวไปแล้ว อิอิ) เอาแบบกระสอบละ 20 กิโล เลย อิอิ จากคุณ : Peter en Jeab - [ 11 ต.ค. 49 19:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 90 อ่านแล้วได้ความรู้ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Pecan - [ 11 ต.ค. 49 19:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 91 มาลงชื่อว่าแอบอ่านไปได้ครึ่งกระทู้แล้วค่ะ เดี๋ยวเคลียร์งานเสร็จกลับมาอ่านต่อ ^^ จากคุณ : @ - ENYA - @ - [ 11 ต.ค. 49 20:33:56 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณครับ ขอก้อปไปเผยแพร่นะครับ แล้วจะใส่เครดิตไว้ให้ครับ จากคุณ : D - [ 11 ต.ค. 49 21:22:52 A:58.9.101.234 X: TicketID:116553 ]

ความคิดเห็นที่ 93 กินมาตั้งนานไม่เคยรู้เรื่องเลยครับ และไม่เคยคิดจะอ่านสลากข้างกล่องด้วย สงสัยคราวนี้ต้องจริงจังกับมันหน่อยแล้วล่ะครับ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า และเพื่อคนที่เรารัก ^^ จากคุณ : March (marchie) - [ 11 ต.ค. 49 23:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ทานโอโรโอแบบคุณคห.74ค่ะ   ที่ทำงานเค้าให้กินฟรี  เลยกินอย่างต่ำๆวันละ10อันมานานมากแล้ว - -'  ไม่กินครีมนี่จะอันตรายน้อยลงมั่งไม่คะ  ยังมีความหวัง ... จากคุณ : it's u i love. - [ 12 ต.ค. 49 00:15:46 ]

ความคิดเห็นที่ 95 คุณลูกชายไปบอกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนไม่ให้กินคุ้กกี้ดำ (เพราะที่เขาขายที่เมืองเรายังมี trans fat อยู่) เพื่อนหาว่าบ๊อง   เขาเลยต้องหาหลักฐานไปแสดงที่โรงเรียนพรุ่งนี้ ก็พริ้นท์จากเว็บไป เลยเอาลิ้งค์มาแบ่งกันดูค่ะ http://en.wikipedia.org/wiki/Trans_fatty_acid http://www.bantransfats.com/theoreocase.html http://www.sfgate.com/cgi-bin/article.cgi?f=/c/a/2003/05/12/OREO.TMP http://www.kraft.com/update/faq.html http://www.sfgate.com/cgi-bin/article.cgi?f=/c/a/2003/05/12/OREO.TMP http://www.nyc.gov/html/doh/html/cardio/cardio-transfat-healthcode.shtml http://campaignfortruth.com/Eclub/220903/transfat.htm เดี๋ยวจะคอยฟังผลว่า เด็ก 10 ขวบอ่านแล้วเข้าใจกันแค่ไหน หวังว่าคุณครูจะเอาไปกระจายให้ด้วยค่ะ ขอบคุณคุณเสมอกลางมากค่ะ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 12 ต.ค. 49 00:17:02 ]

ความคิดเห็นที่ 96 พี่แก้ว ขวัญขอเอาไปแปะที่ห้องโภชน์ฯ นะคะ (แห่ะๆ แปะไปแล้วอ่ะ) พอดีเค้ามีกระทู้เมนูลดความอ้วนกัน.. เห็นมันเกี่ยวกันอยู่บ้าง.. @^^@ จากคุณ : ขวัญณิตา - [ 12 ต.ค. 49 00:22:08 ]

ความคิดเห็นที่ 97 สนใจเรื่องน้ำมันงาครับ เพราะตอนนี้ กระแสงาขาวงาดำออกมาเรื่อยๆ เลยอยากรู้ว่า น้ำมันงาขาวดำ ทำประโยชน์อะไรได้บ้าง จากคุณ : จิ้งจกน่าหยอก (จิ้งจกน่าหยอก) - [ 12 ต.ค. 49 01:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 98 - เอ่อ คุณ Top27 ช่วยถ่ายรูปร้านแปะป้ายหราที่ว่านั้นมาให้ดูหน่อยได้ไหมคะ? อยากเห็น - คุณ Tweety สี่ตา ...เป็นคุณแม่ที่น่ารักมาก ถ้าเอาเรื่องนี้ไปแปะที่โรงเรียนเด็กๆ ช่วยเล่าต่อด้วยนะคะว่า ปฏิกิริยาของครูและเด็กๆที่ได้อ่านเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง ...ลิงค์ที่คุณเอามาแปะเพิ่มเยี่ยมมากๆ ช่วยๆ กันบอกเล่าเรื่องอันตรายพวกนี้ เอาให้เป็น  talk of the town ไปเลย ร่วมด้วยช่วยกันกระจายข่าว เพราะเราคิดว่าเรื่องนี้สำคัญและไม่ควรชะล่าใจ หวังให้ อ.ย. บ้านเราตื่นตัวจัดการอะไรด้วยเถิด เหมือนกรณีที่เขาฟ้อง โอรีโอ น่ะ พอมันเป็นข่าวลงสื่อ คนอเมริกันตื่นตัวกันมากเลย เราอยากให้คนอ่านแล้วรู้สึกจริงจังนะ โดยเฉพาะคนที่มีเด็กมีลูก เรารู้สึกว่า เด็กกำลังเป็น "เหยื่อ" โดยตรง อาหารขบเคี้ยวสมัยเราๆ ยังมีไม่มากและไม่ล่อใจมากเท่ากับเด็กสมัยนี้ อัตราเสี่ยงที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ เด็กๆ นี่แหละ หากไม่ระวังของพวกนี้ ไม่แน่พอเริ่มอายุ 20-30  โรคร้ายก็มาเยือนเข้าแล้ว สำหรับตัวเรา ในฐานะที่เป็นแม่ เป็นคนจ่ายของเข้าบ้าน เป็นคนทำกับข้าว สิ่งที่เราเลือกเราปรุงเราใส่ลงไปในอาหารให้คนอีก 4 ชีวิตในบ้านกิน ...ถือเป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ เราจึงคิดว่าเรื่องนี้สำคัญ-จริงๆ มีคนมาถามหลังไมค์รายละเอียดน้ำมันอื่นๆว่าปลอดภัยแค่ไหน? จะใช้อะไรได้บ้าง? จะป้องกันได้อย่างไร? อืม...สารภาพก่อนว่าเราไม่ใช่นักโภชนาการที่รู้ละเอียดในคำตอบทุกอย่างนะคะ ตรงไหนไม่กระจ่าง สับสน ไม่ชัดเจน ช่วยติ ช่วยแก้ ช่วยเพิ่มเติม ช่วยๆกันเอาความรู้มาแบ่งปันกันดีกว่า คืนนี้พิมพ์ไม่ไหวแล้วค่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาคุยเรื่อง "น้ำมันอื่นๆ" ต่อนะ หรือ Quenn เริ่มก่อนก็ได้ ไม่ต้องขึ้นกระทู้ใหม่หรอก เรื่องเดียวกันนี่เอง มีคนอยากรู้เยอะนะ พี่ก็อยากรู้เช่นกัน : ) จากคุณ : เสมอกลาง - [ 12 ต.ค. 49 03:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สวัสดีค่ะ วันนี้นั่งสำรวจ ขนมทุกชนิดที่มีอยู่ในบ้าน ที่ผลิตในประเทศอังกฤษ (แม้แต่ขนมที่ผลิตจาก mark & spencer) ไม่มีชนิดใดเลยค่ะ ที่บอกปริมาณของเจ้า Trans fat ไว้ด้วย แสดงว่าที่อังกฤษยังไม่พัฒนาเท่าไร ยังมีการปกปิดผู้บริโภคอยู่ สำรวจต่อมาทางฝั่ง Panatone กับ Pandoro มั่งซิ ไม่มีบอกเหมือนกัน หรือจะเป็นขนมขบเคี้ยวที่ทำจากเยอรมัน (ประเภท cripst ต่างๆ) ก็ไม่มีระบุ สิ่งเดียวทีพบว่าระบุคือ เนย(แท้หรือเทียมก็ไม่รู้ค่ะ)  ตรา Flora ที่ระบุไว้ว่า มีปริมาณของ Trans fat อยู่ 0.5 ใน 100 กรัม จากคุณ : you've got my attention - [ 12 ต.ค. 49 07:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เฮลโหล เฮลโหล แฟนคุ้กกี้ดำโปรดทราบ! คุ้กกี้ดำที่ผลิตในอเมริกาปีนี้ นำเข้าเมืองเราโดยบริษัท พ. Trans Fat 0g  ค่ะ ข้าพเจ้าซื้อมาแล้วถุงนึง เป็นถุงรูดปิดได้ คุ้กกี้ขนาดเล็กพอดีคำค่ะ เป็นสูตรใหม่แล้ว ชิมดูแล้ว อร่อยเหมือนเดิมค่ะ ส่วนคุ้กกี้ดำขนาดปกติที่เห็นในซูเปอร์เดียวกันที่ไปซื้อนี้ ผลิตในประเทศเพื่อนบ้านเรา นำเข้าโดยบริษัทผู้ผลิตสาขาประเทศเรา ฉลากยังคงเป็นเหมือนเดิมค่ะ คือไม่บอกว่า 4 กรัมที่เหลือคือไขมันอะไร ทั้งๆ ที่บอกวันหมดอายุปีหน้า ซึ่งก็คงผลิตปีนี้ แต่ยังผลิตสูตรเดิมอยู่ ...จบข่าว  :) เด็กๆ คงดีใจ ได้กินเหมือนเดิม จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 12 ต.ค. 49 09:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 101 อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เลยซื้อแต่คุ้กกี้ "นักเดิน" ให้ลูกกินยืนพื้นค่ะ pure butter ไปเลยหมดเรื่อง ไม่มีเนยเทียม แพงหน่อยแต่ก็ไม่ได้ซื้อมาก (ที่จริงอยากอุดหนุนของไทย แต่ฉลากเขาไม่ละเอียด) ถ้าวันไหนมีคนมากินด้วยมากๆ ก็จะทำเองค่ะ เนยแท้ น้ำตาล นม แป้ง ปั่นๆๆๆ + อบแป๊บเดียว เสร็จละ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 12 ต.ค. 49 09:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ที่มาแบ่งปันกันอ่านนะคะ จากคุณ : เจ้าแก้มป่อง - [ 12 ต.ค. 49 13:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 103 แล้วถ้าข้างกล่องเขียนอย่างนี้ละคะ นมของแม่อ่ะ แม่ดื่มทุกวันเลย เขียนว่านมพร่องมันเนย ไขมันทั้งหมด 2.5 ก.         4% ไขมันอิ่มตัว      2 ก.        10% เลยงงๆ จากคุณ : aiyazawa9051 - [ 12 ต.ค. 49 14:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 104 เอ่อ ... อย่าเพิ่ง panic มากนะคะ สำหรับคนที่กินอาหาร diary products อาทิ นมพร่องมันเนย นมถั่วเหลืองทั้งหลาย หากดูจำนวนไขมันที่แจ้งไว้บนฉลาก แล้วเขาแจกแจกแจ้งไม่ครบถ้วนจำนวนกรัม อย่าตกใจว่าที่เหลือมันคือ trans fat กลับไปดูรูปที่ คห. 16 ประกอบอย่างละเอียด นอกจากดูจำนวนเปอร์เซนต์ที่เหลือของไขมันที่ไม่แจ้งไว้ ต้องดูส่วนผสมด้วยว่า มันมีคำว่า partially hydrogenated ....oil ด้วยหรือเปล่า ถ้าไม่มีคำนี้ แปลว่า ไม่มีนะคะ ...อย่าตกใจ อนึ่ง ในผลิตภัณฑ์ dairy products อาจจะมี trans fat ธรรมชาติอยู่ด้วย ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก และไม่อันตรายเท่าที่ถูกนำไปแปรรูปค่ะ เท่าที่เราอ่านๆข้อมูลมา พวกนมต่างๆ ทั้งนมวัวและนมถั่วเหลือง น่าจะปลอดภัย trans fat ที่เป็นอันตรายค่ะ (ใครรู้จริงอีก มาช่วยกันยืนยันนะ) จากคุณ : เสมอกลาง - [ 12 ต.ค. 49 15:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 105 อ่ะ -*-.. อย่างงี๊เนยทอด ที่เค้าใช้ทอดอาหารตามร้าน fast food ก้อมี trans fat หมดเลยเด่ะคับ เห็นกันจะๆเลยกับ boot พวก mister donut ที่เด๋วนี้เค้าทำโชว์อ่ะ -*- เป็นก้อนขาวมาเลยอ่ะ...(ลองไปดูตอนที่เค้าเริ่มเปิดร้านอ่ะ ประมาณ 10:00 น.) จากคุณ : A49 GTR34 - [ 12 ต.ค. 49 15:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 106 A49 GTR34 ... แม่นแล้วค่ะ อาหาร fast food ขนม อาหารทอดๆ ทั้งหลาย มีแต่ trans fat ทั้งนั้น เราตัวอย่าง โอรีโอ เพื่อให้เห็นภาพเข้าใจชัดๆ แต่ภาพรอบตัวอื่นๆ ยังเต็มไปด้วย trans fat ค่ะ มันเป็นภัยมืดที่ใกล้ตัวมากๆ ตอนนี้ประเทศไหนๆ ก็ตื่นตัวค่ะ ปี 2006 คอยฟังข่าวให้ดี คุณจะได้ยินเรื่องภัยของ trans fat บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ใครรู้ข้อมูลก่อน ตั้งหลักชีวิตใหม่ก่อน ถือเป็นกำไรค่ะ เราเองรู้ข่าวมาได้สักพัก ก็ไม่ได้เพนิก แต่สงสัยใครรู้ เลยหาข้อมูลมาอ่านมากมาย เพื่อความปลอดภัยขั้นต้น แต่คุยกับใครๆ เขาก็ไม่ค่อย "ตื่นตูมตกใจ" ตามเรา จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อน ข่าววิทยุออกว่า ที่แดนกังหันก็จะเริ่มเข้มงวดกับการระบุ trans fat  บนฉลากให้มากขึ้นในปีนี้ และจะมีการรณรงค์ความรู้เรื่อง trans fat สู่ผู้บริโภคในวงกว้าง หนุ่มที่บ้านได้ฟังข่าว เลยหันมายิ้มว่า เธอทันสมัยมาก เธอรู้เรื่องนี้ก่อนใครมากมาย : ) จากคุณ : เสมอกลาง - [ 12 ต.ค. 49 15:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ยังไงก็ต้องตาย กินๆ ไปเถอะ ขืนหลีกเลี่ยงนู่ไม่กินนี่ไม่กิน ก็ตายเพราะอดเหมือนกันแหละ อุๆ จากคุณ : น้องอาร์นี่ - [ 12 ต.ค. 49 16:59:27 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ขอบคุณคุณTweety สี่ตา / you've got my attention ที่ไปช่วยสำรวจฉลากสินค้ามาบอกข่าวเพิ่มเติม ย่านยุโรปกฎหมายระบุ trans fat กำลังจะเริ่มออกใช้นะ ข่าวว่า ปี 2006 นี่ล่ะ จะเริ่ม แต่ละประเทศก็แล้วแต่ว่า จะเริ่มออกกฎให้เริ่มแจ้งกันแค่ไหน เรื่องสำคัญคือ ถึงไม่มี trans fat ก็ต้องระบุว่า 0 gram ไว้ด้วย มีคนถามต่อเรื่องจะใช้น้ำมันอันไหนดี เราขอยกเอาตารางของเว็บ Harvard School of Public health ช่วยนำทางความกระจ่างให้ดีกว่า ส่วนที่เป็นน้ำมันจากพืช ที่ไม่โดน Hydrogenated ให้กลายเป็น fat จะไม่มี trans fat แต่เมื่อใดที่ถูก Hydrogenated เช่น  น้ำมันถั่วเหลือง / น้ำมันข้าวโพด มันจะมี trans fat ทันที คือ มาร์การีน เนยสเปรดที่ทาขนมปังทั้งหลายที่ทำมาจากพืชเหล่านี้ มี trans fat http://www.hsph.harvard.edu/nutritionsource/fats.html และที่เราบอกว่า น้ำมันข้าวโพด กับ น้ำมันถั่วเหลือง ยังมีอัตราเสี่ยง ก็เพราะมีงานวิจัยล่าสุด ให้ข้อมูลออกมาว่า ** แต่นับว่าเป็นข่าวร้ายที่นักวิจัยพบว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นที่เราใช้อยู่ปัจจุบัน คือ น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันเมล็ดฝ้าย มีส่วนของ omega-6 มากกว่า omega-3 ซึ่ง omega-6 นี้แม้จะมีความจำเป็นต่อร่างกาย แต่ถ้าได้รับมากเกินไป ก็เป็นต้นเหตุให้ความดันเลือดสูง ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือดง่ายขึ้น ทำให้เกิดหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้ง่าย และทำให้ร่างกายบวมน้ำ ** ฉะนั้นต้องดูลักษณะการใช้ประกอบด้วย (ยุ่งยากชีวิตไปไหม? คงไม่ล่ะนะ)  ถ้าจะทอดอาหาร ควรเลือกใช้น้ำมันถั่วลิสง หรือ ปาล์ม จะปลอดภัยกว่า จากคุณ : เสมอกลาง - [ 12 ต.ค. 49 18:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 109 อันนี้เป็นพวกเนยสเปรดที่บ้านเราใช้อยู่ สำหรับทาขนมปัง 1. คือ มาร์การีนออร์แกนิก 2. คือ เนยแท้ที่มีไขมันต่ำ 3. คือ เนยเทียมที่ฉลากบอกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีโคเลสเตอรอล (ที่ไม่ดี) ในเลือดสูง คือ ตอนนั้นหนุ่มที่บ้านไปตรวจร่างกายเพื่อต่อประกันอันใหม่ แล้วหมอบอกว่าเจอโคเลสเตอรอลในเลือด ให้เช็คอีกทีว่า เป็นอย่างดีหรืออย่างไม่ดี ปรากฎว่า เจอแบบที่ดี ไม่ใช่ไม่ดี แต่เราก็เริ่มระวังเรื่องนี้กันมากมาตั้งแต่นั้น เพราะการมีระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูงจนเป็นอันตรายนั้น ไม่ได้ตรวจเจอเฉพาะคนอ้วนนะ บ้านเรานี่ผอมกันทั้งบ้าน - คนผอมก็มีสิทธิเป็นโรคหัวใจนะ ฉะนั้น อย่ากลัวแค่ความอ้วนจะเป็นภัย ผอมก็มีโรคแทรกได้เช่นกัน และโรคพวกนี้บางทีไม่เสี่ยงไปตรวจเล่นๆ ก็อาจไม่รู้ว่า- เป็น มารู้ตัวอีกทีอาการอาจจะเพียบหามเข้าโรงพยาบาลไปเลย จากคุณ : เสมอกลาง - [ 12 ต.ค. 49 19:01:29 ]

ความคิดเห็นที่ 110 มาร์การีนออร์แกนิกจะปราศ trans fat จากคุณ : เสมอกลาง - [ 12 ต.ค. 49 19:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 111 เขาจะบอกไว้ชัดเจนว่า non hydrogenated และในส่วนผสมจะบอกว่า ใช้น้ำมันพืชเป็นส่วนผสม จากคุณ : เสมอกลาง - [ 12 ต.ค. 49 19:04:25 ]

ความคิดเห็นที่ 112 อันนี้เป็นเนยสดชนิดใหม่ที่เพิ่งวางขาย มีไขมันแค่ 25% น้อยกว่ามาร์การีนอีก ไม่มี trans fat และไม่ต้องกังวลเรื่องไขมันอิ่มตัว เนยพวกนี้จะไม่แข็ง จะนิ่มเอามาทาขนมปังได้ง่ายๆ ก็เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งของคนแถวนี้ จากคุณ : เสมอกลาง - [ 12 ต.ค. 49 19:07:15 ]

ความคิดเห็นที่ 113 อันนี้เป็นมาร์การีนที่โลว์โคเลสเตอรอล จากคุณ : เสมอกลาง - [ 12 ต.ค. 49 19:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 114 แพงมากๆ เราว่าจะไม่ให้หนุ่มที่บ้านซื้อแล้ว กล่องละ 4 ยูโรกว่า มันช่วยลดโคเลสเตอรอลจริง แต่มันก็ยังมี trans fat นิดๆ ซึ่งมันไม่อันตรายนะ เพราะ 0.5 กรัมที่เขาระบุไว้ หมายถึง ถ้าเรากินเข้าไป 100 กรัม ปกติเราทาขนมปังกันก็แค่ 5 กรัมต่อวันล่ะมั้ง ฉะนั้น มันไม่มีผลเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เราหันมาใช้มาร์การีนออร์แกนิก และเนยสดชนิดใหม่แทน เพราะเป็นทางเลือกที่น่าจะปลอดภัยและถูกเงินที่สุด จากคุณ : เสมอกลาง - [ 12 ต.ค. 49 19:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ขอบคุณสำหรับความรู้นะค่ะ (ปล.ขออนุญาตsaveข้อมูลเก็บไว้อ่านนะค่ะ จะได้เอาไปบอกคนที่บ้าน+รู้จักค่ะ) รบกวนถามอีกนิดค่ะว่า พวกชีสแผ่นๆที่ทานกับแซนวิช..จะมีอันตรายรึเปล่าค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 49 20:27:08 จากคุณ : mummy_barbieTm - [ 12 ต.ค. 49 20:23:34 ]

ความคิดเห็นที่ 116 --- สมัยเด็กๆ กินแต่น้ำมันถั่วเหลือง ยี่ห้อหนึ่ง ... เฮ้อ จากคุณ : เหมียวหล่อ (myth) - [ 12 ต.ค. 49 21:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 117 กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เมื่อวานเผลอทานคุ้กกี้ดำไปคนเดียวเกือบหมดแถวอ่ะค่ะ แบบ double stuff ซะด้วย แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : มนุษย์โครมันยอง - [ 12 ต.ค. 49 22:44:07 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เข้ามาอัพข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ จากคุณ : habibe - [ 12 ต.ค. 49 22:45:29 ]

ความคิดเห็นที่ 119 หึหึ ดูเอาเถิด นี่แค่เรื่องอาหารนะ ถ้าเอากระทู้เรื่อง อันตรายอื่นๆๆ มารวมกัน....... สงสัยจริงๆ ว่า เราจะมีชีวิต อยู่รอดต่อไปได้ยังไงกันในสภาพสังคมปัจจุบันนี้??? อยู่ในชนบทแบบสุดขั้วเท่านั้น น่าจะเป็นหนทางสุดท้าย ของการมีชีวิตอยู่....หรือ ไม่ก็อยู่แบบมนุษย์อวกาศ ใส่ชุด ทำอากาศออกซิเจน + กินอาหารเม็ด + ดื่มน้ำปัสสาวะที่ กรองแล้ว...... หรือ ไม่ก็ "ไม่ต้องสนใจปล่อยให้เป็นเรื่อง ของกรรม"?? จากคุณ : อืม (ใจบริสุทธิ์) - [ 13 ต.ค. 49 09:04:37 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ขอบกราบขอบพระคุณข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆค่ะ ถึงได้ว่า วันนั้นเราไปกินโรตีทอด 4 แผ่นแล้ววิ่งแทบตาย ตั้งหลายวันถึงน้ำหนักลงเท่าเดิม จากคุณ : กิ๊กค่ะ - [ 13 ต.ค. 49 13:07:31 A:161.200.255.162 X: TicketID:022325 ]

ความคิดเห็นที่ 121 แอบ forward กระทู้นี้ไปให้คนรู้จักอีกเป็นฝูงเลยค่ะ ต่อไปนี้จะระมัดระวังในการอ่านฉลาก ingredients และ nutrition บนผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้นเวลาไป shopping ขอบคุณมากนะคะคุณเสมอกลาง ข้อมูลสรุปละเอียดดีจังเลย จากคุณ : ป๋อมแป๋ม - [ 13 ต.ค. 49 14:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 122 โอรีโอที่บ้าน ไม่มีตารางแสดงอะไรเลยค่ะ มีแต่ส่วนผสม (3 ภาษา/มาเลย์อังกฤษ/ไทย) ตามด้วย อย (อะยอย) ส่วนที่ต้องร้อง จ๊าก เพราะต้มบะหมี่สำเร็จรูป กินเสร็จ นึกขึ้นได้ไปค้นถังขยะดูข้างซองเล็ก (ห่อใหญ่ไม่มี ซื้อมาแบบแพคละ 6 ซอง) เลยต้องมาบอกเพื่อนๆ ซะหน่อยว่า Fat, Total 12 กร้ม -Saturated 6 กรัม งั้นที่หายไปนี่ให้นึกแบบหลอนๆ ได้เลยใช่ไม๊คะว่า Trans fat ยี่ห้อ Yumๆ ค่ะ นำเข้ามา ปท. มาเลเซีย... หรือจะปล่อยๆ ให้คนที่นี่เขากินกันต่อไปดีน๊า จากคุณ : @little pixie@ - [ 13 ต.ค. 49 15:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ขอบคุณค่ะ ต่อไปจะพยายามสังเกตให้มากขึ้นว่า สิ่งที่กินเข้าไปมีอะไรเป็นส่วนผสมบ้าง จากคุณ : ชิวเทียน - [ 13 ต.ค. 49 16:13:06 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ จากคุณ : bns (bns) - [ 13 ต.ค. 49 17:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 125 สมัยก่อน ทำงานโรงงานอาหาร เห็น กรรมวิธี การทำ นมถั่วเหลืองยูเอชที ยี่ห้อหนึ่ง แล้ว คงไม่กล้าดื่มบ่อยๆ  เพราะ เค้าใส่ ไขมันปาล์ม ลงไปเยอะเหมือนกัน แต่โฆษณา ว่า ปลอดภัย  ต้องระวังๆๆๆๆ ไขมันอิ่มตัวทั้งนั้น ขอบคุณ คุณเสมอกลาง ที่นำความรู้มาให้อ่านกัน เป็นการเตือนผู้บริโภค ให้ สนใจอ่าน ฉลากข้างผลิตภัณฑ์ ทุกครั้ง เรื่อง ไขมัน ทรานส์ นี่ จริงๆ ตื่นตัวกันมานานมากแล้วตั้งแต่ สมัยเราเรียน ที่ อเมริกา สิบกว่าปีมาแล้ว  ทำให้เราไม่เคยกิน มาการีนเลย กินเนย น้อยๆ ดีกว่า และไม่ใช้ เนยขาว   ปัจจุบัน คนสนใจสุขภาพมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์อาหาร ก็ ต้อง ผลิต สิ่งใหม่ๆ ที่ปลอดภัยมากขึ้น และ อร่อยด้วย ออกมาหลากหลายขึ้น จากคุณ : *พิณ* - [ 13 ต.ค. 49 18:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 126 สวัสดีค่ะพี่เสมอกลาง เนยตัวที่ไม่มีคลอเลสเตอรอล becel ที่อังกฤษก็มีค่ะ ชื่อว่า Flora ค่ะ ที่บ้านแอร์ใช้ยี่ห้อนี้เหมือนกันค่ะ จากคุณ : you've got my attention - [ 13 ต.ค. 49 18:17:17 ]

ความคิดเห็นที่ 127 มาเก็บความรู้ค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 13 ต.ค. 49 19:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 128 โอ้วววว เครียด ชีวิตนี้จากินไรได้มั่งฟะเนี่ย นี่มันของตามซูปเปอร์มาร์เก็ตแทบทุกชนิดเลย จากคุณ : M@y_Merry - [ 13 ต.ค. 49 22:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ขอบคุณค่ะสำหรับกระทู้นี้ ขอกราบงาม ๆ เลยค่ะ ขอบคุณจริง ๆ ที่ช่วยให้ความรู้นี้แก่เรา ทำให้เราคดจะเลิกกินขนมอย่างถาวรแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังลดน้ำหนักอยุ่ไม่ได้กินขนมมาหลายเดือนแล้ว มีบ้างที่อยากอยู่ แต่ห้ามใจได้ทัน พอมาเจอกระทู้นี้แล้ว สาธุเลยค่ะว่า จะไม่กินอีกแล้ว ต่อไปนี้จะกินอะไรจะดูให้ดี ๆ ก่อนค่ะ ขอบคุณจริง ๆ จากคุณ : vanishgirl - [ 13 ต.ค. 49 22:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ขอบคุณมากๆ เหมือนกันค่ะ  ที่ให้ความรู้ดีๆอย่างนี้ จะต้องกลับไปดูขนมและอาหารที่บ้านบ้างแล้วว่ามีปะปนเพียบมั้ย? จากคุณ : Gusto_jung - [ 14 ต.ค. 49 10:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 131 แวะมาตอบข้างบนๆ ที่เป็นคำถามนะคะ mummy_barbieTm - ชีสแผ่นๆไม่น่าจะมีอันตรายมาก  แต่นั่นล่ะค่ะ ชีสแผ่นบางยี่ห้อที่ราคาถูกๆ อาจจะมีการใช้ไขมันเทียมนะคะ (อันนี้เราไม่แน่ใจ) แต่เคยซื้อชีสแผ่นที่เมืองไทย กินแล้วเหมือนเคี้ยวพลาสติกเลย เราว่าเขาอาจจะผสมไขมันเทียมลงไป เพื่อลดต้นทุน ... อย่างที่บอกน่ะค่ะ ต้องอ่านที่ฉลากอย่างเดียวเลย ข้อดีของการให้ระบุจำนวน trans fat บนฉลาก ก็เพื่อความแน่ใจ การไม่บอกแจ้งให้รู้ชัดๆ หรือปล่อยตัวเลขที่เหลือให้เป็นปริศนา เราต้องคิดกันเดากันไปเองว่า มันคือ ไขมันชนิดไหน?...เราว่าไม่แฟร์เลยค่ะ - นายแสนแมวดำอิจฉาหมูตุ๋นหมาขาว... เรื่องออกกำลังกายเพื่อลดปริมาณไบมันทรานส์ได้ไหม? เราไม่แน่ใจว่าไขมันทรานส์จะสามารถนำมาใช้งานเผาผลาญหมดไปเหมือนไขมันอิ่มตัวนะคะ เพราะไขมันทรานส์นี่เป็นไขมันชนิดที่ร่างกายไม่ได้ต้องการ มันไม่มีประโยชน์และเข้าไปทำลายไขมันดีที่ร่างกายต้องการอย่างที่เล่าไป การกินสะสมเข้าไปมากๆ มันก็จะยิ่งไปเคลือบตามผนังหลอดเลือดเรา ยิ่งกินมากก็ยิ่งสะสมมาก หากเลี่ยงกินน้อยก็คงสะสมอยู่ไม่มาก คงแล้วแต่ condition ร่างกายของแต่ละคนว่าจะมีสมรรถภาพในการขับ+ขจัดออกมาได้มากน้อยแค่ไหนด้วย จากคุณ : เสมอกลาง - [ 14 ต.ค. 49 14:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 132 - คุณใจบริสุทธิ์ ... เราว่าเรื่องภัยของอาหาร เป็นเรื่องเดียวกับ "ปัญหาสิ่งแวดล้อม" มนุษย์เราบางทีอาจจะหลงลืมไปว่า "คน" ก็เป็นสิ่งแวดล้อมอย่างหนึ่ง และเป็นตัวก่อเหตุให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษมากมาย แล้วสุดท้ายพิษต่างๆนั้นก็กลับมาทำร้ายตัวเอง คงจะเป็น "กรรม" จริงๆอย่างที่คุณว่า การไม่สนใจดูแลสิ่งแวดล้อม จึงเหมือนการทำลายตัวเองไปพร้อมๆ กัน - @little pixie@ พวกบะหมี่สำเร็จรูป มีสิทธิ์เสี่ยงกับ trans fat เหมือนกัน เพราะน้ำมันที่เขาใช้ทอด คงต้องดูที่ฉลากอย่างที่บอกว่า เขามีระบุอะไรไว้ชัดเจนแค่ไหน -แม่น้อง*พิณ* ... หวัดดีจ้ะ เอาความรู้โภชนาการมาเล่าเพิ่มด้วยสิ เราชอบอ่านมาก คนที่เรียนพวกนี้มา น่าจะรู้เรื่องวงในมานานแล้วจริงๆ แต่เราสงสารเด็กๆที่ปัจจุบันกินแต่อาหาร fast food กินขนมขบเคี้ยวกันมากๆนี่นะสิ อย่างสมัยเราๆ อัตราเสี่ยงมันน้อยกว่าเนอะ ที่อเมริกา trans fat ดังมากจริงๆ เพราะวัฒนธรรมการบริโภคเขา "เสี่ยงที่สุด" แล้วคนอเมริกันอ้วนเอาๆ กิจการ slim fast / low fat เลยเติบโตอย่างไวในตลาดเหมือนเป็นทางเลือกสุขภาพ ปรากฎว่าไปกันใหญ่ ตอนนี้คนพอเริ่มอายุ 40 ก็จะตรวจเจอมะเร็ง / โรคหัวใจกันแล้ว สถิติอายุโรคร้ายจะค่อยๆ ถอยวัยลงมาเรื่อยๆ เพราะคนปัจจุบันฝากท้องฝากชีวิตกินอาหารสำเร็จรูปกันบ่อยกว่าคนสมัยก่อน ...ความน่ากลัว ความเสี่ยงภัยจึงมีมากกว่าสมัยพ่อแม่-ปู่ย่าตายายเรา - เนอะ - you've got my attention  ส่วนตัวพี่ว่าเนยสเปรดแบบลดโคเลสเตอรอลนั้น ไม่อันตรายมาก ยังกินได้สบายใจอยู่ แต่ถ้าคิดคำนวณในแง่เศรษฐกิจ เนยออร์แกนิกถูกกว่าและปลอดภัยกว่า ตอนนี้บ้านพี่เลยหันมาเลือกตัวนี้แทนน่ะ - M@y_Merry อย่ากังวลกลัวจนเกินไปนะ เมื่อรู้เรื่องพวกนี้แล้ว เราจะได้เลือกและละเอียดขึ้นไงคะ มันยังมีอาหารให้เลือก ให้หลบได้พ้นอีกเยอะค่ะ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์บางชนิดไม่สนใจว่าผู้บริโภคกินแล้วจะมีสุขภาพอย่างไร มันก็มีผลิตภัณฑ์อีกหลายยี่ห้อที่เขา "จริงใจ" ผลิตอาหารที่ปลอดภัยออกมาให้เราเลือกกิน ฉะนั้นเราจึงต้องมองหา "มิตรแท้" ของเราในตลาดให้เจอค่ะ เราเองยังหาอะไรกินได้ทุกอย่างนะ อร่อยและปลอดภัยด้วย เดินซื้ออาหารในซูเปอร์ฯนี่ล่ะ วางอยู่ใกล้ๆกัน อีกยี่ห้อเป็นมิตร อีกยี่ห้อเป็นพิษ การอ่านฉลากหลังซองจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย - vanishgirl โถๆ อย่าอ่านกระทู้นี้แล้วทำให้คุณ "หักดิบ" กับขนมอีกต่อไปเลยนะ ขนมหวานเป็นของขวัญล้ำค่าของชีวิต ดร. วัลเตอร์ วิทเล็ทส์ ผู้คิดปิรามิดอาหารน่ะ เขายังบอกว่าเลยว่า "เราระวังเรื่องการบริโภคอาหารดีมีประโยชน์ แล้วในบางทีเราก็ให้รางวัลกับชีวิตบ้าง ด้วยชอคโกแลตดีๆ สักแท่งหรือเนยแข็งรสชาติหวานมันสักชิ้นโตๆ ... แล้วมันจะไม่ทำลายสุขภาพเราหรอก ถ้าเรารู้จักเลือกกินและรู้ประมาณ" ท่านพุทธทาสและศาสนาพุทธก็สอนหลักไว้ง่ายๆ "ชีวิตต้องรู้จักความพอดี" แล้วมันจะไม่มีอะไรที่น่าทุกข์ น่ากลัว...นะคะ จากคุณ : เสมอกลาง - [ 14 ต.ค. 49 14:50:44 ]

ความคิดเห็นที่ 133 กระทู้ดีมีประโชน์ครับ สำหรับผมก็จะพยายามหลีกเหลี่ยง พวกของทอดที่ใช้น้ำมันเยอะๆ เวลาผัดกับข้าวก็ใส่น้ำมันนิดเดียว และก็กินพวกยำ พวกนึ่ง สลับกันไปน่ะครับ จากคุณ : สวี่เหวินเฉียง - [ 14 ต.ค. 49 17:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 134 มีประโยชน์แน่นปึ้กๆๆ เลยค่ะพี่แก้ว ดีจังๆๆ จากคุณ : เด็กชายหัวตะปู - [ 14 ต.ค. 49 21:08:44 ]

ความคิดเห็นที่ 135 อยู่หอ ไม่ได้ทำอาหารกินเอง แย่จัง T_T ปกติก็หาของกินยากอยู่แล้ว จากคุณ : ลูกหนอน. - [ 14 ต.ค. 49 21:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ^________________^ ขอบคุณค่ะ คุณเสมอกลางที่เป็นห่วง จริง ๆ เป็นคนที่ชอบทานchocolateมาก ๆ แต่ขาดความพอดีเลยอ้วนน่ะค่ะ 555+ ตอนนี้หักดิบลดขนมทุกอย่างเลย ลดได้ 5 กิโล.แล้วค่ะ ส่วนหลังจากที่ได้อ่านบทความจากกระทู้นี้ทำให้ตัวเองตั้งเป้าหมายใหม่ในชีวิตว่าต่อไปนี้เวลาจะกินอะไรต้องดูให้ดีก่อน จากคุณ : vanishgirl - [ 15 ต.ค. 49 00:07:56 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ขอบคุนพี่แก้วมาคะ สำหรับความรู้ดีๆ จากคุณ : -AmAm bamboo- - [ 15 ต.ค. 49 13:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 138 แวะมาขอบคุณที่ให้ความรู้  +  มาโหวตค่า เราว่า  Trans Fat  ที่กินเข้าไปร่างกายคงสามารถกำจัดได้แต่คงค่อยๆกำจัด  ต้องใช้เวลา   บังเอิญชาวเราดันชอบกินทุกวันหรือกินโดยไม่รู้นี้จิ   ร่างกายเลยกำจัดไม่ทันก่อให้เกิดโรคต่างๆ   อันนี้เป็นความคิดของเรานะค่ะ   ไม่มีข้อมูลยืนยัน  เป็นสมมติฐานเฉยๆ   ที่เราคิดแบบนี้เพราะว่า  ถ้านับๆมาตั้งแต่เกิด เราทาน  Trans Fat   ไปเป็นกิโลๆแล้วแต่ยังไม่เกิดโรค  แสดงว่าร่างกายต้องมีวิธีกำจัด(แบบค่อยๆเอาออกจากร่างกาย)   เมื่ออายุมากขึ้น  ร่างกายเริ่มโรยราตามวัย  กระบวนการกำจัด  Trans Fat   เลยไม่ค่อยดีเหมือนตอนเด็กๆ   ดังนั้นTrans Fat  จึงก่อให้เกิดโรคในผู้ใหญ่มากกว่าในเด็กละมั้ง   ยังไงก็ไม่ดีจริงๆ  ต่อไปจะกินอะไรนอกจากดูว่าแต่งกลิ่นแต่งสี  มีวัตถุกันเสียแล้วยังต้องดู  Trans Fat    ด้วย   (แล้วจะเหลืออะไรที่กินได้บ้างเนี่ย  กลุ้ม  กินมากตายผ่อนส่ง  กินน้อยก็อดตาย)  ทำอาหารกินเองดีกว่า  -__-" จากคุณ : bubblebaba - [ 15 ต.ค. 49 15:39:01 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ขอถามอีกนิ๊ดนะค่ะ Shortening หรือ Crisco คืออะไรค่ะ  มาการีนหรือเปล่า จากคุณ : bubblebaba - [ 15 ต.ค. 49 16:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 140 เนยขาวคับ จากคุณ : scissorman - [ 15 ต.ค. 49 22:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ป๋องส่งเรื่องไขมัน tran fat มาให้ พี่ดม จูน อ่านด้วยนะ อันตรายมาก ๆๆๆๆ จากคุณ : qlm1@anet.net.th - [ 16 ต.ค. 49 10:34:43 A:202.12.118.36 X: ]

ความคิดเห็นที่ 142 น้ำมันถั่วเหลืองของที่บ้านเขียนส่วนประกอบดังนี้อ่ะค่ะ ไขมันทั้งหมด 15 ก. ไขมันอิ่มตัว 2.5 ก. ไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง 9 ก. ไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว 3.5 ก. อยากทราบว่า ไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง กับ ไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวนี่คืออะไรอ่ะคะ ใช่ trans fat รึเปล่าคะ จากคุณ : minnano ichigo (minnano ichigo) - [ 16 ต.ค. 49 13:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ตอบคุณ minnano ichigo ประเภทไขมันมี 4 ชนิดนะคะ 1. ไขมันอิ่มตัว (saturated fat) 2. ไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (monounsaturated fat) 3. ไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (polyunsaturated fat) 4. ไขมันแปรรูป (trans fat) เวลาดูฉลาก หากเขาระบุชนิดของไขมันไว้ทั้งหมด ท่องไว้เลยว่า ไขมันไม่อิ่มตัว ทั้ง monounsaturated fat/ polyunsaturated fat คือ ไขมันดี ส่วนไขมันที่ต้องระวังและดูปริมาณ คือ ไขมันอิ่มตัว (saturated fat) และ trans fat อะไร คือ ไขมันไม่อิ่มตัว ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsatuarated fatty acid) คือ ไขมันที่ธาตุคาร์บอนยังมีเหลือสามารถจับกับธาตุไฮโดรเจนได้ แบ่งออกเป็น - กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (Monounsaturated fatty acid) ได้แก่ กรดโอเลอิก (Oleic acid) เป็นกรดไขมันที่ร่างกายสามารถสร้างได้เอง แต่ถ้ารับประทานเข้าไปมาก ก็ไม่ทำให้เกิดโรคหัวใจ และมีแนวโน้มที่จะช่วยลดไขมันในเลือดด้วย - กรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหลายตำแหน่ง (Polyunsaturated fatty acid) เป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง จำเป็นต้องรับจากอาหาร ไขมันที่สำคัญคือ Omega-3 (Alpha-linolenic acid) และ Omega-6 (linolenic acid) Omega-3  เป็นกรดไขมันดี-ที่ร่างกายต้องการมากๆ จะพบได้ในถั่วต่างๆและปลา โดยเฉพาะน้ำมันปลา ...กินอาหารพวกนี้มากๆ จะได้รับไขมันที่มีประโยชน์ค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 49 15:09:18 จากคุณ : เสมอกลาง - [ 16 ต.ค. 49 15:07:25 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ขอบคุณมากค่ะ คุณเสมอกลาง กระจ่างเลย จากคุณ : minnano ichigo (minnano ichigo) - [ 16 ต.ค. 49 15:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 145 That's very useful information. Thank you very much, คุณเสมอกลาง :) จากคุณ : noopiglet - [ 17 ต.ค. 49 00:28:36 ]

ความคิดเห็นที่ 146 เอ่ออยากทราบข้อมูลว่า สะสมไปเท่าไหร่ถึงอยู่ในระดับอันตราย ้พอมีบ้างมั้ยครับ ? จากคุณ : FroZen_Monster - [ 17 ต.ค. 49 15:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 147 โอ้โฮ  เอามาทำครัสท์ซะหลายรอบแล้ว แย่จัง   เพิ่งจะทราบนะคะ ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ที่มอบให้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 49 15:44:03 จากคุณ : โสดในซอย - [ 17 ต.ค. 49 15:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 148 .. อ๋อ งั้น daily queen ที่เค้า ลดราคา เหลือ 15 ที่ใช้ โอลีโอ เป็นส่วนผสมนี่ เพราะต้องการรีบระบายสินค้ารึเป่านี่ จากคุณ : neungnarak - [ 17 ต.ค. 49 15:52:27 ]

ความคิดเห็นที่ 149 ได้ความรู้มากเลยครับ จากคุณ : zmen - [ 17 ต.ค. 49 18:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 150 คุณ FroZen_Monster จากงานวิจัยที่เราอ่านๆ ถ้าเราบริโภคอาหารที่มี trans fat แค่ไม่เกิน 1-2 กรัม/วัน อาจจะไม่มีผลร้ายจู่โจมแบบฉับพลันมากค่ะ ยกตัวอย่างนะคะ พวกเนยมาร์การีนบางยี่ห้อ เขาระบุไว้ว่า มี trans fat 0.5 กรัม / 100 กรัม นั่นหมายถึงว่า ถ้าเราแค่ปาดทาขนมปัง 2 แผ่นต่อวัน เราอาจจะได้บริโภค trans fat เข้าไปน้อยนิดมาก และหากเราไม่ได้รับ trans fat จากอาหารอื่นๆ ตลอดทั้งวัน มันไม่มีผลร้ายอันใดเลย แต่ถ้า... คุณกินครัวซองค์เป็นอาหารเช้า (1-2 กรัม/ 1 ชิ้น) กินโอรีโอแกล้มชา-กาแฟ (4 กรัม / 3 ชิ้น) อาหารกลางวันกินอาหารฟาสต์ ฟู้ดนอกบ้านบ่อยๆ แถมด้วยพายแอปเปิ้ล-แมคโดนัลด์แก้หิวยามบ่ายคล้อยก่อนถึงบ้าน (4- 8 กรัม / 1 เมนูฟาสต์ ฟู้ด) อาหารเย็นซื้อไก่ทอดน้ำมันท่วมมากินกับข้าวเหนียว ( 4-5 กรัม / ไก่ 2 ชิ้น) ตกดึกยังเคี้ยวมันฝรั่ง (1-3 กรัม / 250 กรัม) ... หมายเลขในวงเล็บ คือ ปริมาณ trans fat ที่มีในอาหารที่กินเข้าไป พอเอาปริมาณจากอาหารหลายๆ อย่างต่อวันมารวมกันแล้ว เราก็เผลอรับ trans fat เข้าไปไม่ต่ำกว่า 10 กรัม ...ซึ่งการบริโภคอาหารแบบที่ยกตัวอย่างนั้น เข้าขั้นอันตรายต่อสุขภาพ-มากๆ ถ้าเราลดและเลี่ยงกินอาหารที่รู้ว่ามี trans fat ให้น้อยลง อัตราการเสี่ยงที่จะตรวจเจอโรคหัวใจก็จะน้อยลง โรคพวกนี้มันไม่ปรากฎในเร็ววันหรอกนะคะ มันสะสมไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเราจำกัดปริมาณมันไว้บ้าง พอชักแก่ตัวจะได้ไม่ผวาตรวจเจอโรคนู่นนี่ให้กลุ้มใจ หลายคนคงสงสัยว่า อย่างพวกเนยขาว พวกไขมันแปรรูป ของทอดทั้งหลาย เราก็กินกันมานานแล้ว ทำไมคนถึงไม่เป็นอะไรแบบปุบปับ เราว่าวิถีบริโภคในปัจจุบันมันเปลี่ยนไปมากจากสมัยปู่ย่าตายายพ่อแม่เราๆ คนยุคปัจจุบันฝากท้องไว้กับอาหาร นอกบ้านมากขึ้น กินขนมขบเคี้ยวบ่อยขึ้น มีร้านสะดวกกินสะดวกซื้อล่อตาล่อใจมากมาย เราจำได้ว่าสมัยตัวเองเด็กๆ ได้กินเค้กก็แค่ช่วงปีใหม่ ขนมขบเคี้ยวถุงๆ เบเกอรี่หน้าตาน่ากินไม่ค่อยได้กินเท่าไหร่ เพราะมันราคาแพง ถือเป็นความฟุ่มเฟือยที่ไม่อาจเอื้อม ขนมหวานล้ำที่ได้กินจะมีแต่ขนมไทยๆ ซื้อเอาตามตลาดมั่ง แม่ทำให้กินมั่ง แต่เดี๋ยวนี้เราๆซื้อขนมสำเร็จ - กินเค้ก กินขนมเบเกอรี่กันได้บ่อยเท่าที่อยากเท่าที่มีทรัพย์จ่ายกันได้ ไม่ต้องรอโอกาสใดๆ สัดส่วนตัวแปรวิถีการบริโภคของคนรุ่นปัจจุบันที่เปลี่ยนไปนี่ล่ะค่ะ ที่ทำให้สุขภาพชีวิต "น่าเป็นห่วง" มากมายนัก จากคุณ : เสมอกลาง - [ 17 ต.ค. 49 20:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 151 neungnarak ... ไม่แน่นะคะ เจ้าของ daily queen อาจจะเพิ่งรู้เรื่องโอรีโอ เกิดอาการผวาไปมองหาคุกกี้ตัวอื่นมาทำครัสท์แทนก็ได้มั้งคะ เลยรีบลดราคาตัวนี้ ถ้าเป็นเช่นนั้น-จริงๆ ก็น่าดีใจแทนลูกค้าขนมร้านเขาเลยล่ะ ; ) จากคุณ : เสมอกลาง - [ 17 ต.ค. 49 20:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 152 อาหารต้องกินให้สมดุล ที่จริงทุกคนเวลากินก็รู้ว่าอะไรมันเกินไป แต่มักหยุดกิเลสไม่ได้ จากคุณ : Dr.slump - [ 17 ต.ค. 49 21:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 153 อ่านแล้วสยอง จากคุณ : Ms. Kim - [ 18 ต.ค. 49 12:58:33 ]

ความคิดเห็นที่ 154 เมื่อสิบกว่าปีก่อนคุณยายเสียชีวิตด้วยโรคไขมันอุดตันบวกกับเบาหวาน หมอตรวจเลือดแล้วบอกว่าไขมันพืชสูงมากไอ่เราก้องงๆ ทำไมไขมันพืชสูงแล้วต้องตายด้วยเหรอ?วันนี้เพิ่งเข้าใจว่าไขมันพืชมันมีอันตราย เพราะที่เรียนมาเรารู้แค่ว่าไขมันสัตว์ไม่ดี น้ำมันมะพร้าวไม่ดี ขอบคุณทุกข้อมูลข้างบนเลยค่ะ เพราะมานั่งคิดดูว่าพฤติกรรมการกินของคุณยายคือชอบกินข้าวโพดมากๆๆๆ (กินได้ทั้งวัน) อีกทั้งถั่วลิสงต้ม (เป็นถุงๆ ดูแล้วถั่วลิสงต้มก้อไม่น่ามีอันตรายนะ ก้อยังงงๆอยู่ดี?) กินข้าวก้อเยอะ แต่เนื้อสัตว์กินไม่ค่อยเยอะ และชอบเอาไขมันหมู วัวมาทำกับข้าว สรุปแล้วต้องกินทุกอย่างแต่พอดี น่าจะดีที่สุด ขอบคุณทุกข้อมูลอีกครั้งนะนะ จากคุณ : จิอุน (TherMoman) - [ 18 ต.ค. 49 15:20:57 ]

ความคิดเห็นที่ 155 ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากเลย จากคุณ : dk - [ 18 ต.ค. 49 18:33:30 A:213.93.215.185 X: ]

ความคิดเห็นที่ 156 มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งเขียนโดยศ.จ.นายแพทย์ของฝรั่งเศส เกี่ยวกับ อาหาร โคเลสเตอรอล โรคหัวใจ และมีรายละเอียดเกี่ยวกับน้ำมันดังนี้ค่ะ น้ำมันที่ควรใช้ มี น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันมะกอก น้ำมันจากเม็ดองุ่น น้ำมันที่ควรหลีกเลี่ยง มี น้ำมันถั่งลิสง น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม น้ำมันที่ทนความร้อนได้ดี มี น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันมะกอก น้ำมันข้าวโพด จากคุณ : poussin - [ 19 ต.ค. 49 03:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 157 อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะมีปริมาณโคเลสเตอรอลสูง mg/100 กรัมนะคะ ใข่แดง     1700-2000 mg ตับ          500 คาเวียร์     300 เครื่องในสัตว์    280-400 เนย         240 กุ้ง         160 หอย       130 ครีม       100-120 เนื้อหมู    105 อาหารทะเลใขมันต่ำก็จริงกินแล้วไม่อ้วนแต่โคเลสเตอ รอลสูง ส่วนน้ำมันทั้งหลายใขมันร้อยเปอร์เซนต์กินแล้วอ้วนแต่ไม่มีโคเลสเตอรอล ส่วนพวกที่มีทั้งใขมันสูงและโคเลสเตอรอลสูงอันนี้ไม่ทานเลยก็ดีค่ะ อย่างเช่น เนย ใขมันหมูที่เขามาเคี่ยววางไว้แล้วจับตัวกันเป็นก้อนขาวๆ นั่นแหละร้ายนัก แล้วพวกเค้ก ไอศครีมล่ะ มีทั้งครีม ทั้งเนย ทั้งใข่ ลดเหลือเดือนละกีีครั้ง หรือปีละกี่ครั้งดีนา แล้วเหลืออะไรให้กินอีกบ้าง.... ปลาเกือบทุกชนิด เนื้อไก่ช่วงอก เนื้อไก่งวง เนื้อกระต่าย จากคุณ : poussin - [ 19 ต.ค. 49 04:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 158 ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณ poussin ด้วยนะคะ จริงๆ เรื่องไขมันนี่ อ่านมากๆ ข้อมูลหลายฝั่งหลายฝ่าย แล้วเราเองก็งงๆเหมือนกันนะ เรื่องน้ำมันมะพร้าว / น้ำมันปาล์ม งานวิจัยฝั่งตะวันตกจะบอกว่าไม่ดีมาเนิ่นนาน เพราะจัดอยู่ในประเภท "ไขมันอิ่มตัว" ซึ่งก่อนที่เรื่อง trans fat จะโด่งดัง น้ำมันพวกนี้จัดเป็นตัวร้ายที่สุด คือ มีปริมาณโคเลสเตอรอลสูงมากๆ แต่พออ่านงานวิจัยฝั่งเอเซียและบางฝั่งของเว็บออร์แกนิกยุคใหม่ เขากลับบอกว่า การหันมาใช้น้ำมันมะพร้าว/น้ำมันปาล์มแทนพวก shortening กลับปลอดภัยกว่า คือ เอามาใส่คุกกี้ช่วยให้มันกรอบ ช่วยให้มันเก็บได้นานในปริมาณที่พอดี จะไม่อันตราย นั่นหมายความว่า ต้องกินขนมพวกนี้พอประมาณ ไม่ใช่กินกันกระหน่ำ แบบนั้นก็กินๆ trans fat ไปเถิด ไม่อ้วนแต่ตายเร็วพอๆกับเปลี่ยนมากินไขมันอิ่มตัว เราว่า เรื่อง "ไขมัน/น้ำมัน" มันละเอียดกว่าที่คิดๆ กันแบบผิวๆ จากที่ได้อ่านเรื่องนี้มาสักพัก เราเองก็ต้องตั้งหลักหยุดคิดทำความเข้าใจพื้นฐานของประเภท "ไขมัน" ใหม่เกือบหมด หาความพอดีที่จะมีชีวิตอยู่กินต่อไป อย่างเช่น น้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าว...ที่ถูกจัดอยู่ในหมวด "ไขมันอิ่มตัว" ซึ่งทุกวงการสุขภาพทั้งหลายเรียกน้ำมันพวกนี้ว่า "ไขมันชนิดเลว" (bad fats) แต่พอ่านรายละเอียด เราก็ได้รู้ว่า เออ...ไขมันจากพืชพวกนี้ไม่ใช่มีแต่โทษ ไม่มีประโยชน์ซะเลย การระบุว่า "ไขมันชนิดเลว" ลอยๆ ทำให้คนที่ไม่เข้าใจเรื่องไขมันชนิดต่างๆ ลึกซึ้ง จะมองแค่ ไขมันอิ่มตัว >>> โคเลสเตอรอล>>>โรคหัวใจ เราว่าข้อมูลพวกนี้ควรจะต้องวงเล็บประกอบด้วยว่า "ไขมันอิ่มตัว" เป็น"ไขมันชนิดเลว" (หากบริโภคเกินปริมาณที่ร่างกายต้องการ) เพราะไม่ว่าเนื้อสัตว์(สีแดง) นม ไข่แดง ครีม-เนยแท้ จัดอยู่ในประเภท "ไขมันชนิดเลว" ทั้งหมด เหมือนกับน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์มเช่นกัน กินมากๆ ก่อให้เกิดปัญหาหัวใจไม่น้อยไปกว่า trans fat เรื่องน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์ม เราคุยๆ กับคุณ trml ซึ่งมีลิงค์เกี่ยวกับข้อดีของน้ำมันพวกนี้ อยู่ที่ คห. 56 อ่านเรื่องไขมัน/น้ำมัน,kdq-จนมึนพอสมควร : ) เราเองก็เลือกเชื่อเท่าที่ข้อมูลดูน่าเชื่อถือ และเอาจากประสบการณ์การบริโภคของตัวเองเป็นหลักยึดไว้ก่อนนะคะ ไม่ปักใจเชื่อว่า ข้อมูลชิ้นไหนถูกทั้งหมดหรือผิดทั้งหมด บางบทความอาจจะสรุปเรื่องไขมันในมุมมองต่างกันไป เราต้องอ่านๆ แล้วเอามาสรุปในมุมกว้างเอาเอง ไม่งั้นไม่กล้ากินอะไร -แน่ๆ แต่ก่อนเราก็เชื่อว่า น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าวไม่ดีมากๆเหมือนกัน แต่หลังๆ ได้อ่านงานวิจัยที่ว่า น้ำมันพวกนี้คนโบราณใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว ปัญหาโรคหัวใจในคนยุคก่อนน้อยกว่าคนยุคนี้ ปัญหาไม่น่าจะเกิดจากชนิด "ไขมันอิ่มตัว" เท่านั้น แต่มันน่าจะโยงตัวแปรถึงวิถี+ปริมาณการบริโภคด้วย มีลิงค์เรื่องพวกนี้ให้ลองอ่านดูค่ะ อ่านแล้วมึนๆ ศัพท์วิทยาศาสตร์การทดลองผลของเขาเหมือนกัน งานวิจัยน้ำมันมะพร้าว http://www.westonaprice.org/knowyourfats/coconut_oil.html งานวิจัยน้ำมันปาล์ม http://www.bettykamen.com/newsletters/palmoil.htm ถือคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันนะคะ เราเชื่อว่า ทุกข้อมูลเกี่ยวกับไขมันล้วนมุ่งให้ประโยชน์กับผู้บริโภค รู้แล้วจะได้ระวังการบริโภคมากขึ้น ส่วนตัวเราเอง เลี่ยงการบริโภคไขมันทุกชนิดมานานแล้ว คือ จะบริโภคไขมันน้อยมากๆ วันไหนไม่ได้ใช้น้ำมันในการทำอาหารเลย จะรู้สึกดี รู้สึกตัวเบา ไม่อึดอัด ไม่พะอืดพะอม   ด้วยนิสัยเราเอง ถ้ามีใครวางของว่างให้หยิบกิน ระหว่างชีสเค้กกับผลไม้หรือถั่วกินเล่น เราจะเลือกหยิบผลไม้กับถั่วกินก่อน พวกเค้ก พวกเบเกอรี่ จะกินแบบชิ้นเล็กมากๆ เพราะกินแล้วมันจะแน่น มันจะอิ่ม กินอะไรต่อไม่ได้ และช่วงไหนกินอาหารนมๆ เนยๆ มันๆ มากๆ ก็เตือน(หรือขู่)ตัวเองไว้ในใจเลยว่า หากเจ็บป่วยจะโทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเองที่ไม่รู้จักประมาณเอง แต่นานๆที เทศกาลความสุขต่างๆ เราก็กินแบบไม่คิดมาก(ประสาทกิน)เช่นกัน แต่สำหรับอาหารที่กินเข้าไปทุกวัน ค่อนข้างคำนวณ+คิดเยอะพอควร ...เพราะชักแก่ตัวแล้วน่ะ จากคุณ : เสมอกลาง - [ 19 ต.ค. 49 14:59:53 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ลืม... พฤติกรรมส่วนตัวของเรานี่ อาหารเพิ่มโคเลสเตอรอลอันตรายที่ต้องระวังและปริมาณตัวเองมากๆ คือ ไข่ ชอบกินอาหาร "ไข่ๆ" ทุกชนิด โดยเฉพาะไข่ต้มเฉยๆ แล้วพอรู้ว่า ผู้หญิงเราควรบริโภคไข่แค่วันละฟองเท่านั้น...ก็เริ่มนับฟองไข่ที่กินประจำวัน โดยเฉพาะไข่แดงจะพยายาม "ข่มใจ" ไม่กินเกินวันละ 1 ฟอง (อาหารใส่นม เนย ไข่ เลยถูกจำกัดจำนวนตามไปด้วย) จากคุณ : เสมอกลาง - [ 19 ต.ค. 49 15:25:36 ]

ความคิดเห็นที่ 160 โอ้ยย ชอบกิน Big Mc ซะด้วยย ชุดใหญ่มี tran fat ล่อไปเกือบ 10 กรัม  สงสัยต้องลดซะแล้ว ขอบคุณมากๆที่นำมาเล่าสู่กันฟัง จากคุณ : Game_deb - [ 19 ต.ค. 49 21:16:06 ]

ความคิดเห็นที่ 161 อะโห ขอบคุณมากเลยค่ะที่บอกกัน  ตอนนั้นเคยเห็นข้างกล่อง prinkleเขียนว่า trans fat free ไม่รู้ว่าหมายความว่าไง แต่ที่พูดๆมามีแต่ของโปรดทั้งนั้นเลยค่ะ  โดยเฉพาะ o รี โอ้ กินทู้กวัน จากคุณ : ลัลลา - [ 19 ต.ค. 49 21:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 162 ไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะว่ามันอันตรายขนาดนี้ มิน่า ตอนนี้ตามกล่องขนม อาหารต่างๆ ชอบมี 0% trans fat ตัวเบ้อเร่อเลย อ่านแล้วก็เข้าครัว ตรวจดู ทั้งเนย และวิปครีม ล้วน 0 gram trans fat งนั้นเลย ค่อยโล่ง คริๆๆ จากคุณ : ......Only Love Can Say....... - [ 20 ต.ค. 49 09:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 163 เยี่ยมไปเลยคะ ขอบคุณมากสำหรับความรู้ที่ให้นะคะ จากคุณ : ส้ม (kanrutai) - [ 20 ต.ค. 49 10:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 164 เกี่ยวกับความอันตรายของน้ำมันชนิดต่างๆ ผมคิดว่าน่าจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้นะครับ เพราะเท่าที่สังเกตุมา พวกตกค้างยากจะมีจุดเดือดต่ำ ขณะที่พวกจุกเดือดสูงจะตกค้างในร่างกายได้ง่ายกว่า. แบ่งประเภทน้ำมันตามประเภทงาน และหมุนเวียนประเภท น้ำมันที่กินเข้าไปน่าจะเหมาะสมที่สุด พวกผัด ใช้น้ำมันธัญพืช พวกทอด ใช้น้ำมันปาลม์ ....... อะไรประมาณนี้ เพราะของทุกอย่างละครับที่ใช้ผิดประเภทย่อม ทำให้เกิดโทษ สารอาหารต่างๆไม่ว่าจะมีมากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ ไม่ดีทั้งนั้น ...... กินให้พอดี พอดี น่าจะดีที่สุด ทั้งนี้ทุกอย่างที่กินเข้าไปไม่ว่าอะไรอย่างน้อยก็ทำให้หาย หิวได้นะคัรบ.............โรคกระเพาะไม่ถามหา อ้ออีกอย่าง....... คติส่วนตัวครับ.....  ยอมตายเร็วขึ้นอีกนิด---เพื่อชีวิตที่มีรถชาติครับ 555 ไอ้โอลีโอ้นี่ละครับตัวดี  รู้มานานแล้วว่ามันไม่ดีเพื่อนๆก็ เตือนตั้งแต่ยังอยู่ Florida ตอนนี้อยู่ไทยแล้วก็ยังห้ามใจ ไม่ได้   แต่ก็กินน้อยลงเยะมากจากเดือนละ1ห่อใหญ่ มาเป็น 1-2เดือน 3 ชิ้น Ps. ขอขอบคุณข้อมูลที่มีประโยชน์ทั้งหลายในกระทู้นี้ด้วยนะครับ จะพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งอันตรายไม่กินบ่อยเกินไป จะได้อยู่กินอีกนานๆ กินอีกหลายๆ อย่าง. จากคุณ : LenG (Leng_148) - [ 20 ต.ค. 49 23:04:57 ]

ความคิดเห็นที่ 165 ขอบคุณๆๆ คุณเสมอกลาง ที่เปิดประเด็น พร้อมข้อมูลเพียบ อ่านแล้วอึ้ง ๆ ๆ แต่หูตาสว่างขึ้นเยอะ มิน่า เดี๋ยวนี้คนเป็นมะเร็งเยอะมากๆ จากคุณ : อ้วงน้อย - [ 24 ต.ค. 49 21:10:23 A:203.88.245.227 X: ]

ความคิดเห็นที่ 166 อ่านแล้วตกใจเหมือนกันเพราะเป็นคนชอบคุกกี้มากๆ โอรีโอ้นี่ก็กินเป็นประจำ เลยรีบไปดูข้างซอง ปรากฎว่า โอรีโอ้ที่อเมริกาไม่มีtrans fat แล้วนะคะ ข้างซองเขียนไว้แบบนี้ค่ะ 3 cookies (35g) Total fat 7g transfat 0g saturated fat 2g polyunsaturated fat 1g monounsaturated fat 3g (แอบสงสัยว่าแล้วอีก1gหายไปไหน) Ritzที่เป็นไส้peanut butterก็ไม่มีtransfat พวกcrackerก็ไม่มีเหมือนกันค่ะ แต่ถ้าเป็นChip Ahoy ยังมีtransfatหลงเหลืออยู่ cookies 40g มี transfat0.5g ปกติฉลากทุกอย่างที่เมกาเค้าจะเขียนบอกปริมาณไขมันไว้สามอย่างค่ะ คือ total fat, saturated fat, แล้วก็transfat (แต่โอรีโอ้นี่บอกunsaturated fatด้วยค่ะ สงสัยกลัวถูกฟ้องอีก) แต่ฉลากที่เมืองไทยรู้สึกจะเขียนบอกแค่ total fat, saturated fatใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นเห็นฉลากก็อย่าเพิ่งตกใจนะคะว่าfatที่เหลือเป็นtransfatทั้งหมด fatที่เค้าไม่ยอมบอกน่าจะเป็น unsaturated fat รวมกับ transfat ค่ะ เราเช็คของในตู้ที่บ้านทั้งหมด ปรากฎว่าแทบไม่เจอtransfatเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น cookies, peanut butter, yogurt, milk, haagen dazz ice cream, butter ไม่มีtransfat แต่ก็ได้saturated fatไปแทนค่ะ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็เลยไปสำรวจที่ซุปเปอร์มาด้วยค่ะ ปรากฎว่าถ้าเป็นพวกคุกกี้ราคาถูกๆ (ส่วนใหญ่importจากแถบละตินอเมริกา) จะมีtransfatค่ะ ผู้ผลิตคงต้องการลดต้นทุนเลยใช้transfat เราว่าที่เมกาเค้าเข้มงวดกับเรื่องนี้ แล้วผู้ผลิตที่นี่เค้าก็คงเลี่ยงtransfatเพราะไม่อยากถูกฟ้องเพราะถ้าถูกฟ้องยังไงก็แพ้อยู่แล้ว แต่ที่เมืองไทยเราไม่ได้ให้ความสนใจกันเท่าไหร่ โอรีโอ้ที่เมกาเค้าเปลี่ยนส่วนผสมแล้วนะคะไม่มีtransfat แต่ที่ส่งไปขายเมืองไทยอันนี้ไม่รู้ค่ะ แต่ถ้าเค้าเปลี่ยนส่วนผสมแล้ว เค้าก็น่าจะเขียนบอกเลยนะคะว่าไม่มีtransfat ที่เค้าไม่บอกนี่ก็น่าจะหมายถึงยังมีอยู่นะ เพื่อนๆที่เมืองไทยก็ตัดใจอย่ากินโอรีโอ้นะคะ เดี๋ยวเรากินเผื่อเองค่ะ ของเราไม่มีtransfatแล้ว จากคุณ : Angel without wings (Angel without wings) - [ 27 ต.ค. 49 22:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 167 --- ข่าว ITV (ภาคเที่ยง 31 ต.ค.49) ล่าสุด ประธาน KFC อเมริกา ออกมาประกาศยกเลิกการใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของ Transfat ภายในต้นปีหน้า ทุกร้านของ KFC ในอเมริกา แล้วประเทศไทยล่ะคร้าบบบบบ - -' จากคุณ : เหมียวหล่อ (myth) - [ 31 ต.ค. 49 13:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 168 อาหารสำเร็จรูปแทบทุกอย่างเลยอะ  จะบอกแค่ Total Fat             X -saturated fat      X แต่ว่า Total Fat  ที่เหลือจากหักลบ saturated fat ไปแล้ว มันคืออะไรอะ   ทีแรกเข้าใจว่าไขมันไม่อิ่มตัว   มาอ่านกระทู้นี้เลยตกใจมาก    สรุปมันคือ trans fat เหรอครับ    +_+ จากคุณ : Darth Zomo - [ 11 พ.ย. 49 02:27:31 ]