Tags [Thien Duong, เทียนดอง, โรงแรมดุสิตธานี, สีลม, อาหารเวียดนาม, Dusit]
ดุสิตธานี ชื่อนี้ก็ค่อนข้างคุ้นกับผมมานาน หนก่อนก็เคยพาไปทานที่ il cielo มาแล้ว วันนี้เนื่องจากต้องพารุ่นน้องที่คณะไปเลี้ยง อาหารเอเชียจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ผมโทรไปจองตอนสายวันจันทร์ พนักงานที่รับ ดูท่าทางจะงงๆ ราวกับยังไม่ตื่นนอน แต่ก็พูดคุยรับจองกับผมเป้นอย่างดี
เย็นวันอังคาร ราวๆ ทุ่มครึ่ง นั่งรถไปที่โรงแรมดุสิต วันนี้ถนนสีลมรถไม่ติด แต่ไปติดในโรงแรม ติดยาวออกมาถึงถนน เลยตัดสินใจลงรถ เพื่อเดินเข้าไป อ้อ ขอแจ้งข่าวให้ทราบว่า ห้องอาหารจีนเมย์ฟลาวเวอร์ ของที่นี่ปรับปรุงเสร็จแล้ว มองจากภายนอก ก็ไม่เห็นจะเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ต่างกับห้องบุฟเฟต์พาวิลเลี่ยนที่ยังไม่เสร็จดี อันนี้เอาไว้เสร็จก่อนแล้วจะแวะเวียนไปชิมครับ
มาถึงที่หมายของผม ห้องเทียนดอง หรือแปลเป็นไทยก็คือ สรวงสวรรค์ อารมณ์ให้พ้องกับชื่อโรงแรมที่ชื่อดุสิต วันนี้หลังจากเข้ามาในร้าน ก็ไปยังโต๊ะที่จอง ที่น่าแปลกก็คือ มากี่ครั้งก็ได้โต๊ะเดิม คือเก้าอี้ไม้ริมหน้าต่าง ซึ่งไม่มีหน้าต่าง เพราะบริเวณนั้นเป็นเสาพอดี โต๊ะก็ออกจะเล็กๆ แคบๆ เรียกว่าวางอาหารสักอย่างสองอย่างก็เต็มโต๊ะแล้วครับ
วันนี้รับน้ำแร่ดุสิตเหมือนเคย จากนั้นก็สั่งอาหารตามเมนู ซึ่งราคาส่วนใหญ่อยู่ที่ จานละ 200-400 บาทครับ ถ้าเป็นพวกหม้อไฟก็จะประมาณ 500-600 บาท ส่วนอาหารพวกข้าวหรือก๋วยเตี๋ยว อยู่ที่ร้อยปลายๆ เกือบ 200 บาทครับ วันนี้เป็นมื้อค่ำผมและรุ่นน้อง เลยทานไม่เยอะคือสั่งมาเพียง 5 อย่างเท่านั้น ระหว่างสั่ง พนักงานเธอท่าทางจิตตกหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ เธอจดออเดอร์ไม่ครบ ท้ายที่สุดผู้จัดการร้านก็ต้องเข้ามารับหน้าที่แทน
ระหว่างรอ ก็พบความผิดปกติอีกประการหนึ่งก็คือ ทางร้านไม่ยองบริการผ้าร้อนให้แก่โต๊ะผม ทั้งที่โต๊ะอื่นก็ให้หมด จะขอก็ใช่ที่ก็เลยปล่อยเลยตามเลย เอาไว้ไปหักคะแนนทีหลังก็แล้วกันครับ อย่างไรก็ดี ระหว่างนี้จะมีการยกชามผักสด พร้อมกับน้ำจิ้ม ที่ประกอบด้วยมะละกอ แครอทและหัวไชเท้ามาเสิร์ฟก่อน แค่นี้ก็เต็มโต๊ะผมแล้ว ความจริงน่าจะย้ายไปนั่งโต๊ะกลมมากกว่า จะได้ไม่อึดอัด สำหรับภาชนะของที่นี่ค่อนข้างถูกใจผมมาก คือเป็นสีดำ ผมว่าพอใส่อาหารลงไปแล้วมันจะดูสวยมาก คือเด่นขึ้นมาทั้งอาหารและภาชนะครับ
อาหารจานแรกที่มา เป็นข้าวเกรียบปากหม้อญวณ อันนี้โรยหน้ามาด้วยหอมเจียว ทานคู่กับหมูยอ ตัวหมูยอนี่อร่อยมาก มากเสียจนจะตักอีกที เจ้ารุ่นน้องตัวดีของผมนี่ทานไปจนเหลือชิ้นสุดท้ายไว้ให้ผม ส่วนตัวปากหม้อนั้น จะมีหลายไส้ ทั้งหมู ไก่ แล้วก็รูสึกจะมีปลาด้วย ทานๆ ไปก็ลุ้นไปกับการแหวกไส้ดู นับว่าสนุกไม่ใช่น้อย
จานต่อมานี้เป็นขาประจำของผม ขาจรก็สั่งได้ ไม่ได้หวงห้ามครับ เป้นออเดิร์ฟเทียนดอง มีสี่อย่างพร้อมน้ำจิ้มที่รสชาติอร่อยเลิศ จานแรกนี้เป็นเนื้อย่างใบชะพลู อร่อยดี เสียอย่างเดียวชิ้นเล็กไปหน่อย ทานไม่ค่อยเต็มปากเต็มคำนัก ส่วนถ้วยถัดมาเป็นแหนมเนือง มาสองชิ้น อร่อยใช้ได้เช่นกัน ส่วนถ้วยที่สามเป็นกุ้งพันอ้อย อันนี้รสชาติดี เพียงแต่ผมรู้สึกว่ากุ้งน้อยไปหน่อยสู้ที่อังเคิลโฮ โรงแรมอิมพีเรียลไม่ได้ครับ ส่วนถ้วยสุดท้ายก็เป็นปอเปี๊ยะสดที่รสชาติอร่อยมากๆ สำหรับทั้งถาดนี้อะไรๆ ก็ดีหมด จะเว้นก็แต่ เจ้าผักชีลาว(dill) ที่เอามารองจานนั้น ผมไม่ชอบกลิ่นมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยให้เจ้ารุ่นน้องผมจัดการจนหมดครับ
มาถึงจานหลักกันบ้างครับ เป็นอกเป็ดทอด ราดซอสมะขาม อกเป็ดทอดพอสุกเนื้อยังนุ่มอยู่มาก ส่วนตัวซอสก็อร่อยแล้วซึมเข้าเนื้อเป็นอย่างดี รับประทานคู่กับหมี่กรอบที่จัดมาในจาน นับว่าเข้ากันดีมาก แต่แล้วอกเป็ดก็มาตายตอนจบ เอ หรือความจริงมันก็ตายมาแล้ว นั่นก็คือ มีเป็ดชิ้นหนึ่งที่หลงฝูงมา เพราะว่าเนื้อแข็งและเหนียวมาก เนื่องจากคงทอดสุกเกินไปครับ
ในส่วนของข้าวนั้นผมสั่งเฝอและข้าวผัดมาอย่างละชุด แต่เอามาแบ่งกันทาน ข้าวห่อใบบัวนั้น รสชาติอร่อยตามแบบฉบับข้าวผัดสามัญธรรมดาทั่วไป แต่เทียนดองของเราก็พยายามสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการห่อใบบัว แถมยังเอาดอกบัวมาประดับอีก ไปๆมาๆ ส่วนที่กินไม่ได้ในจาน มีมากกว่าส่วนที่ทานได้ นับว่าเป็นวิธีการสร้างมูลค่าเพิ่มและปริมาณลดที่แยบยลเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนของเฝอนั้น มาเป็นถ้วยเล็ก มาพร้อมถั่วงอก โหระพา และมะนาวให้ทานเคียงคู่ ตัวน้ำซุปใช้ได้ ส่วนเนื้อก็นุ่มและเส้นเหนียวดีครับ ผมทานไปสองสามคำก็ยกให้รุ่นน้องทานจนหมด เจ้าตัว จัดการปรุงใส่พวกกระเทียมเจียวกับพริกผัดน้ำมันอีกหน่อย เห็นเข้าบอกว่าอร่อยมากทานเสียจนหมดถ้วยเลยครับ
เนื่องจากเป็นมื้อค่ำ แล้วทั้งคู่อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนัก เลยของดของหวานกันทั้งคู่ เลยไม่มีรายงานในส่วนนี้มาฝาก แต่หนก่อนเคยทานพุดดิ้งชาเขียว แล้วก็สาคูแคนตาลูปของที่นี่ รสชาติใช้ได้ครับ
ถึงเวลาขอบิล ราคาของแต่ละจานนั้น ปากหม้อญวณ ราคา 250 บาท ออเดิร์ฟเทียนดองนั้น 260 บาทครับ ส่วนเป็ดซอสมะขาม 265 บาท ข้าวห่อใบบัว 190 บาท และเฝอถ้วยละ 170 บาทครับ น้ำแร่ขวดละ 30 บาทซึ่งทานไป 3 ขวด รวมภาษีและค่าบริการเบ็ดเสร็จ ราคา1441.83 บาทครับ วันนี้อิ่มเสร็จ ก็ลงมาซื้อเค้กที่ลดราคาที่กูร์เมต์ คอร์เนอร์ต่อตอนสามทุ่มพอดี นัยว่าเอาไว้ไปต่อเป็นของหวานครับ
โดยสรุป ตัดเกรด
บรรยากาศสถานที่ B ห้องเป็นลักษณะยาว และทางเดินค่อนข้างแคบครับ โต๊ะก็เล็กไป แถมบริเวณที่ผมนั่งคือข้างเสาเสียอีก ยังดีที่เก้าอี้ และอุปกรณ์ภาชนะต่างๆ มีดีไซน์ที่โดดเด่นครับ
ความสะอาด A ไม่มีที่ติใดๆได้เลยครับ สะอาดมากๆ ทุกอย่าง ผักสดดีมากเช่นกัน
รสชาติ Aทุกอย่างอร่อยหมดครับ โดยส่วนตัว ผมว่าที่นี่น่าจะเป็นร้านอาหารเวียดนามในโรงแรมที่ดีที่สุดในสายตาผม คือดีกว่า อังเคิลโฮ ที่อิมพีเรียล แล้วก็ไซ่ง่อนที่โรงแรมเอเชีย ส่วนที่ เลอ ดานัง โรงแรมโซฟิเทลเซนทรัลนั้น ดูจากรีวิวของคุณกุ๊กกุ๋ยแล้วน่าจะสูสีกันครับ
การบริการB เฉยๆมาก นี่เป้นครั้งแรกที่ผมว่าดุสิตทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น ดูขาดๆ และไม่ลงตัวหลายอย่าง ทั้งเรื่องการจอง การรับออเดอร์ หรือเรื่องผ้าร้อน
ความคุ้มค่ากับราคา B พิจารณาจากการเป็นโรงแรม ก็ราคาสมน้ำสมเนื้อ แต่ก็อาจจะแพงไปหน่อยเมื่อเทียบกับร้านอาหารเวียดนามตามศูนย์การค้านะครับ ประมาณสักเท่าตัวหนึ่ง แต่วัตถุดิบที่ใช้ก็จะดีและประณีตกว่าค่อนข้างมากครับ
รวม 3.40 น่าไปลองถ้าคุณต้องการในเรื่องของรสชาติ ส่วนเรื่องบริกาต่างๆ ก็กลางๆครับไม่ต้องไปคาดหวังอะไรมากนัก
ข้อมูลจำเพาะ ห้องอาหาร เทียนดอง upper lobby โรงแรมดุสิตธานี ถนนพระรามสี่ตัดกับถนนสีลม เปิดบริการทุกวัน เป็นแบบตามสั่งและมีอาหารชุดในบางมื้อ กลางวัน เวลา 11.30-14.30น. และมื้อค่ำ 18.00-22.00น. ครับ
จากคุณ :
buenos
- [
20 ต.ค. 49 20:57:12
]