ความคิดเห็นที่ 1 ไม่รู้เหมือนกันจ้า งัยเอาใจช่วยแล้วกัน เนสก็ใช้กาแฟสำเร็จรูปปกติ เก็บก็เหมือนเก๋ (โหลแก้ว) กลิ่นก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน + เนสพยายามเลี่ยงสารแต่งกลิ่น สี จ้า ชอบแบบธรรมชาติ จากคุณ : nes (ChuyJumbo) - [ 19 พ.ย. 49 14:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปกติผงกาแฟสำเร็จรูป ถ้าซื้อมาเป็นซองให้ใส่โหลแก้วสูญญากาศไว้ค่ะ เพื่อป้องกันความชื้นและรักษากลิ่นหอม ถ้าเป็นโหลอยู่แล้วก็ใส่ไว้อย่างนั้นแหละค่ะ วางไว้ในที่แห้ง แดดส่องไม่ถึง ไม่จำเป็นต้องแช่เย็น การทำเค้ก โดยเฉพาะเค้กที่มีไข่เป็นส่วนผสม ควรใส่กลิ่นสังเคราะห์เพื่อดับกลิ่นคาวของไข่ไก่ค่ะ หากต้องการทำเค้กกาแฟให้ใส่กลิ่นกาแฟ 1 ช้อนชา กับผงกาแฟสำเร็จรูป 2 ช้อนโต๊ะ ซึ่งผงกาแฟไม่จำเป็นต้องละลายน้ำเยอะ ให้ละลายน้ำอุ่นประมาณ 10 ซีซี หรือให้ผงกาแฟละลายหมดก็พอค่ะ เพราะถ้าใช้น้ำมากเกินไป จะทำให้ความเข้มข้นของรสชาติ สี และกลิ่นน้อยลงค่ะ หากต้องการทำบัตเตอร์ครีมเป็นรสกาแฟ ให้ใส่ผงกาแฟละลายลงไปเช่นกันค่ะ แต่ให้แบ่งบัตเตอร์ครีมมาทีละถ้วยเล็กๆ เทน้ำละลายผงกาแฟสำเร็จรูปลงไปตามต้องการ (สังเกตให้สีพอสวย หรือลองจิ้มดูดดูก็ได้ค่ะ) แล้วใช้พายไม้เล็กๆ ตีส่วนผสมให้เข้ากัน เคล็ดลับอยู่ตรงที่ ถ้าเราผสมทีละเยอะๆ จะทำให้กะประมาณบัตเตอร์ครีมกับผงกาแฟละลายลำบาก หากใส่ผงกาแฟละลายมากเกินไปจะทำให้บัตเตอร์ครีมเหลว ทำให้ปาดยากมากค่ะ ดังนั้นจึงแนะนำให้ผสมทีละน้อย แล้วกลิ่นจะหอมมากเลยค่ะ น้องเก๋คะ ที่พี่แนะนำนี่เป็นประสบการณ์ในการทำเค้กกาแฟของพี่นะคะ คือสูตรบัตเตอร์ครีมก็เป็นของพี่ หากเป็นสูตรของท่านอื่นอาจจะไม่อ่อนตัวง่ายๆ อย่างของพี่ก็ได้ ลองเอาคำแนะนำไปพิจารณาแล้วเลือกใช้ดูนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องบ้างค่ะ :) จากคุณ : tiara - [ 19 พ.ย. 49 14:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณเนสและพี่แหม่มมากค่า ^_^ จากคุณ : เค้กหอม - [ 19 พ.ย. 49 22:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เก๋จ๋า บีไม่เคยทำครีมบัตเตอร์กาแฟอ่ะ บอกตามตรงว่า จริงๆ แล้ว เป็นคนไม่ดื่มกาแฟ แต่เค้กกาแฟนี่กินบ้างเป็นบางครั้ง ประมาณว่ากลิ่นมันหอมยั่วยวนจริงๆ จนต้องลองชิมอ่ะ และที่บีเคยทำก็ทำเป็นมูสกาแฟน่ะจ้ะ วิธีผสมก็ใช้ผงกาแฟเอสเปรสโซแบบสำเร็จรูปนี่แหล่ะมาผสมกับน้ำร้อน ใช้นิดเดียวอย่างที่พี่แหม่มบอกน่ะจ้ะ เช่น ผงกาแฟ 1 ช้อนชา + น้ำร้อน 1-2 ช้อนโต๊ะ แล้วค่อยเอามาผสมกับวิปครีมที่ตีได้ที่แล้ว ออกมาก็มีกลิ่นหอมนะ ถึงแม้จะไม่ได้ใส่สีและกลิ่นสังเคราะห์ ส่วนตัวเค้กที่ใส่ผงกาแฟก็เหมือนกันก็ยังหอมนะ แต่คงจะไม่มาก เพราะไม่ได้ใส่กาแฟให้เข้มข้นมากๆ ล่ะ วิธีเก็บรักษาในรูปแบบของบีก็คือใส่โหลแก้วที่ปิดฝาได้มิดชิด เอาไว้ในตู้กับข้าวธรรมดาจ้า นี่ก็ไม่ได้เอามาใช้นานแล้วเหมือนกันตั้งแต่ทำเค้กกาแฟไปครั้งก่อนนู้นนนน...แต่ลองเอามาพิสูจน์กลิ่นดู ก็ยังหอมเหมือนเดิมนะจ้ะ บีว่า เอาเค้กเก็บเข้าตู้เย็นไม่น่าจะเป็นปัญหาเลยอ่ะ งงแหะว่าทำไมถึงกล่นหายไปได้ ว่าแต่ตอนทำเสร็จใหม่ๆ มีกลิ่นหอมรึเปล่าจ้ะ หรือว่าตอนทำเสร็จก็ไม่ได้กลิ่นเหมือนกัน เพราะถ้าตอนทำเสร็จยังหอมอยู่ แต่พอเอาเข้าตู้เย็นแล้วกลิ่นหาย อาจต้องลองดูที่ตู้เย็นหรือเปล่าอ่ะว่ามันมีกลิ่นอย่างอื่นมารบกวนรึเปล่า บางทีอาจเป็นสาเหตุจากตู้เย็นก็ได้นะ ไม่ใช่ที่เค้ก ไม่รู้จะช่วยยังไงดีอ่ะ ไม่มีประสบการณ์เลยแหะ แต่พอจะช่วยสันนิษฐานเอาไว้ก่อนละกันนะจ้ะ จากคุณ : Bambie - [ 20 พ.ย. 49 07:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาตามหลังไมค์จ้ะ  กาแฟ ไม่ควรใช้แบบสำเร็จรูปเลยจ้ะ เพราะพอเปิดขวดโดนอากาศปั้บ ... กลิ่น และความอร่อย จะหายไปกว่าครึ่งภายใน 24 ชม. เนื่องจากความชื้น และออกซิเจนในอากาศ  เราไม่ได้ทำเค้กบ่อยๆ ฉะนั้น ลงทุนกาแฟสด คุ้มกว่ามาก ... เม็ดกาแฟที่คั่วเสร็จ ขีดนึงไม่เกิน 100 บาท ใช้ได้นานมากๆๆๆ เพราะกาแฟเข้มๆ 1 แก้ว จะใช้แค่ 15-20 กรัมเอง  เม็ดกาแฟที่เหลือ เก็บไว้ในถุงเดิมของมัน ไล่อากาศออกให้หมด แล้วผนึกเก็บไว้ในตู้เย็น ได้นานเกือบเดือน  การบดกาแฟ ถ้าใช้เครื่องบด ให้ตั้งความเร็วต่ำสุด และบดไม่เกิน 10 วินาที ก่อนพัก 5-10 วินาที ซัก 3-4 รอบก็พอ กะแค่พอเป็นเม็ดหยาบๆแบบเม็ดทราย ไม่ต้องป่นเป็นแป้ง ... เพราะเราไม่ได้ใช้กับเครื่องชงแรงดันสูง    น้ำร้อน 90-95 องศา (น้ำเดือดพล่านๆ จากไมโครเวฟ แล้วคนๆให้เย็นซัก 5-10 วิ) เทลงให้ท่วมผงกาแฟ คนเร็วๆจนเป็นฟอง แล้วปิดฝา รอ 1 นาที ก่อนเทลงกรอง ก็จะได้น้ำกาแฟหอมมากๆ  ทั้งหมดนี่ ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที  อ้อ .. น้ำกาแฟนี้ จะต้องลงไปอยู่กับแป้ง ในเวลาไม่เกิน 5 นาทีนะจ้ะ ไม่งั้น หมดท่าเหมือนกัน เพราะความหอมของกาแฟ มันมาจากน้ำมันหอมระเหยกว่า 4,000ชนิด ซึ่งระเหยเร็วมากๆ ที่อุณหภูมิสูงกว่า 50 องศา  ถ้าจะใส่เหล้า อย่าใส่มาก  เหล้าจะละลายไขมัน และน้ำมันทุกอย่างให้เข้าไปรวมกับน้ำ .. ถ้าเป็นกลิ่นกาแฟนี่ มันจะอยู่ได้นานขึ้น  แต่กลิ่นเหล้า ... เอาไม่ออกเหมือนกัน เหล้าดีๆ มันถึงแพงมาก เพราะมันเป็นกลิ่นหอมของผลไม้หลายๆอย่าง  การแช่ตู้เย็น จะทำให้กลิ่นไม่ระเหยออกมา ... ถ้าจะให้หอมตลบ ก็ต้องเข้าไมโครเวฟสั้นๆ .. เพื่อให้ความร้อนเฉพาะจุดของมัน ระเหยพวกกลิ่นหอมออกมา  แต่เข้าแล้ว ต้องกินเลยนะ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 20 พ.ย. 49 09:32:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยากนะครับปัญหานี้ ถ้าเคยทำแล้วหอม พอมาทำอีกทีไม่หอมแล้ว คงวิเคราะห์ได้แค่ว่าต้องกลับมาดูว่ามีปัจจัยอะไรให้มันเปลี่ยนไปบ้าง แล้วลองทำซ้ำอีกครั้งนึงเทียบกับแบบเดิมที่สุด เท่าที่จะทำได้ ที่บอกอย่างนี้เพราะบางครั้ง "หอม" ของเรานิยามต่างกันอ้ะครับ ที่น้องเก๋บอกว่าหอมฟุ้งเลยเนี่ยแบบไหน ไม่หอมเท่าเดิมนี่แบบไหน คงลงไปตอบแบบนั้นไม่ได้อ้ะครับ ส่วนมากการเก็บกาแฟก็อย่างที่ทราบน่ะครับ คือไม่ให้โดนความชื้น ส่วนความเย็นนั้นก็ไม่จำเป็นครับ ที่พี่ทำส่วนมากพี่จะใส่ซินนาม่อนลงไปนิดหน่อย (น้อยมากๆ) มันจะให้ท็อปโน้สที่เปลี่ยนกลิ่นกาแฟให้หอมหวาน อย่างที่พี่แหม่มว่านี่ถูกเลยครับ พี่เคยชิมเค้กกาแฟที่ใส่กลิ่นกาแฟและใช้กาแฟจริงด้วยปนๆกัน มันหอมมากๆ เนื่องจากถ้าเราใส่กาแฟให้มากพอจะให้กลิ่นขนาดนั้นมันจะทำให้ขนมขม และไม่ค่อยขึ้นเท่าที่ควร แต่โดยส่วนตัวพี่ไม่ค่อยชอบกลิ่นกาแฟนัก และพี่ก็พยายามเลี่ยงๆ กลิ่นสังเคราะห์ ก็เลยใช้ใส่ซินนาม่อนแทน ถ้าเราใช้ปริมาณซินนาม่อนได้พอเหมาะ พลังของกาแฟจะออกมาจ้ะ ลองดูล่ะกันนะจ๊ะ เอาใจช่วย จากคุณ : jumjee - [ 20 พ.ย. 49 21:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาตามเก็บความรู้ครับ แหะๆๆ จากคุณ : kittscake - [ 21 พ.ย. 49 02:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คิดถึงป้า จากคุณ : Jonuu - [ 22 พ.ย. 49 13:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โอ...ไม่ได้เข้าตั้งนานเลยค่ะ คุณ Bambie :: บีจ๋า .. ขอบคุณมากเลยจ้า ตอนนี้ไปเที่ยวเชียงใหม่อยู่แหงเลย เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะ อย่าลืมเอารูปสวยๆมาอวดน้า ^_^ คุณ แมวเหมียวพุงป่อง : :ขอบคุณมากเลยค่ะ ได้ความรู้เพิ่มเติมมากเลยค่ะ คุณ JumJee :: พี่จี้คะ .. ขอบคุณมากเลยค่ะ เดี๋ยวเก๋จะลองใส่ชินนาม่อนซักหยิบมือนึง น่าจะหอมขึ้นนะคะ อ้อ..พี่จี้คะ เจ้ามอคค่าพาสต้านี่เป็นยังไงอ่ะคะ ไม่เคยลองเลยค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาตอบให้เก๋นะคะ คุณ kittscake :: หวัดดีค่ะพี่บอล ไม่ค่อยได้คุยเลยคิดถึงเน่อ คุณ Jonuu :: กรี้ดดดดดดดดดด อกอีแป้นแทบแตก .. เห็นล๊อคอินคุ้นๆ หลานรักนี่เอง คิดถึงจอยมากๆๆเหมือนกันจ๊ะ ^_^ จากคุณ : เค้กหอม - [ 1 ธ.ค. 49 16:06:37 ]