วันนี้เวลาประมาณ 10.00น.ผมได้พาคณะของพี่สาวที่มาเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงสุดสัปดาห์ แวะไปซื้อของฝากที่กาดวโรรส ก่อนคณะของพี่สาวจะเดินทางกลับกทม. ซึ่งในกาด(ตลาด)วันนี้มีนักท่องเที่ยวมาจับใช้สอยกันมาก โดยเฉพาะน้ำพริกหนุ่มและของกินพื้นเมืองเจ้าดัง ชื่อ Dum-rong มีคนเข้าคิวต่อแถวซื้อกันแน่นขนัด ซึ่งพี่สาวก็เป็นคนหนึ่งที่ไปรอซื้อ เพราะผมมักจะแนะนำญาติสนิทมิตรสหายที่มาเที่ยวเชียงใหม่ให้มาซื้อเจ้านี้ ตั้งแต่สมัยก่อนหน้าที่จะมีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนในปัจจุบัน ผมไม่ได้อยู่ที่ร้านด้วยเพราะพาอีกกลุ่มไปซื้อของทางด้านอื่นๆ พี่สาวได้มาเล่าให้ผมฟังที่อาคารจอดรถก่อนกลับว่าขณะที่พี่สาวเข้าคิวรอซื้ออยู่นั้นพนักงานขาย(ลูกจ้าง)สาวรุ่นๆคนหนึ่ง จะด้วยเหตุบังเอิญหรือไม่อย่างไรก็ไม่ทราบได้ทำน้ำมันในกระทะทอด ซึ่งคงเป็นกระทะเปลี่ยนถ่ายได้รดใส่เท้าของพี่สาวของผม ถึงจะไม่ใช่น้ำมันบนเตาทอดแต่ก็ยังมีความร้อนอยู่ จนพี่สาวร้องออกมาด้วยความตกใจ โชคพอมีอยู่บ้างที่พี่สาวผมใส่ถุงเท้ากีฬาแบบหนาๆในรองเท้าแตะแบบผู้หญิงไว้ แต่ก็ทำให้เกิดอาการแดงที่ผิวหนัง พี่สาวเลยถามเด็กสาวคนนั้นไปว่าทำไมหนูทำแบบนี้เทน้ำมันไม่ระว้งมาหกรดใส่เท้าป้า แต่คำตอบที่ได้รับด้วยเสียงห้วนๆคือ ก็จะให้ทำยังไงก็หกไปแล้วนี่ ด้วยนิสัยของพี่สาวของผมที่ผมทราบดีว่าเป็นผู้ใหญ่ที่สุภาพ จึงไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงอะไรเพราะคงเห็นเป็นเด็กรุ่นลูกรุ่นหลาน และลูกค้าก็เยอะมากจนชุลมุนวุ่นวายไปหมด แกก็เลยออกจากแถวเลิกซื้อและกลับมาที่จอดรถและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผมและญาติๆฟัง ผมยอมรับว่าในขณะนั้นรู้สึกโกรธมากและจะกลับไปต่อว่าพนักงานคนนั้น แต่ถูกพวกพี่สาวและญาติๆที่มาจากกทม.ห้ามเอาไว้ ในฐานะที่ผมขึ้นมาทำงานและรับราชการที่จ.เชียงใหม่เกือบยี่สิบปีจนถือได้ว่าเป็นชาวเชียงใหม่ไปแล้ว รู้สึกทั้งโกรธและอับอายแทนคนเชียงใหม่ ในฐานะเจ้าบ้าน ที่มีพวกกาฝากกลุ่มน้อยให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มาเป็นลูกค้าของตัวเอง ซึ่งในขณะที่คณะของพี่สาวผมมีความประทับใจในตลอดระยะเวลาที่มาท่องเที่ยวในจ.เชียงใหม่จากผู้คนและมารยาทที่สุภาพไม่ว่าในงานราชพฤกษ์ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แม้กระทั่งพนักงานบนรถโดยสารปรับอากาศของเชียงใหม่ที่วิ่งในตัวเมืองที่พูดจาสุภาพเรียบร้อยให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยว จนคณะของพี่สาวเอ่ยปากชม แต่กลับมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ในวันที่กำลังจะเดินทางกลับ กับร้านน้ำพริกเจ้าดังซึ่งระยะหลังคงขายดีมากจนไม่มีเวลาอบรมกิริยามารยาทให้กับพนักงาน และคาดว่าคงไม่ง้อลูกค้าแค่คนเดียว เพราะยังไงก็ขายได้อยู่แล้ว ผมขออนุญาตใช้สื่อนี้โพสต์ความรู้สึกนี้ถึงท่านเจ้าของแม้ว่าอาจะไม่มีผลอะไรกับยอดขายของท่าน แต่อยากให้ท่านได้รับรู้ว่าพนักงานคนหนึ่งของท่าน ซึ่งอาจจะเป็นเครือญาติกับท่านเจ้าของร้านหรือไม่ก็ไม่ทราบได้ ได้แสดงกิริยานี้กับลูกค้าคนหนึ่งของท่าน ต่อหน้าคนอื่นๆที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งคงทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งโดยนิสัยของพี่สาวผมที่ผมทราบดีว่าท่านคงไม่ลดตัวเองไปทะเลาะหาความกับพนักงานของท่านให้เสื่อมเสีย เป็นเป้าสายตาแก่ผู้คนในตลาด เลยถือว่าเป็นโชคร้ายไป
จากคุณ :
endophyte
- [
20 พ.ย. 49 13:12:12
A:202.28.27.3 X: TicketID:132217
]