ความคิดเห็นที่ 1 ลืมครับ อร่อยแบบไม่ต้องใส่ผงชูรส จะได้มั๊ยครับ จากคุณ : FOXTROT - [ 4 ม.ค. 50 04:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เคยมีผงชูรสติดบ้านเลย อาหารที่ทำก็อร่อยดี หมดเกลี้ยงทุกอย่าง.. จากคุณ : Lawanwadee - [ 4 ม.ค. 50 07:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่บ้านเวลาตำน้ำพริกกะปิจะใช้พริกขี้หนูสวนค่ะ แม่บอกว่าหอมกว่าพริกขี้หนูธรรมดา แล้วเวลาตำพริก แม่จะใส่กระเทียม+พริก+กะปิ ลงในครก โขลกพร้อมกันเลย เหนียวหนึบ ๆ  ตำยาก น่าดู   ความจริงแล้วน่าจะตำพริกกะกระเทียมให้ละเอียดก่อน แล้วค่อย หย่อนกะปิตามลงไปเนอะ แต่ว่า........ คุณนาย แกบอกว่าใส่พร้อมกันกะปิจะได้ไม่คาว ==> ประมาณว่าน้ำมันหอมระเหยจากกระเทียม และพริก จะแผ่ซ่านคลุกเคล้ากับกะปิอย่างเต็มที่ (ฟังดูเว่อร์เน้อะ) แต่ คุณนายแกตำอร่อย ไม่คาวจริง ๆ นะ เออ .. หอม กลิ่นพริก กับ กระเทียม ตู้ม ๆ ๆ ๆ แล้วถ้าคุณนายขยัน จะเอากะปิห่อใบตองไปเผาไฟก่อนจะหอมมาก ๆๆ ๆ แต่ คุณนายแม่ขี้เกียจก็ไม่ปิ้ง แค่นี้ก็อร่อยแล้วล่ะจ๊ะ ถ้าชอบมะเขือพวงก็เอาลงไปโขลกด้วยก็ได้ค่ะ หย่อนลงไป หลังจากโขลกกะปิ+พริก+กระเทียม ละเอียดแล้ว โขลกมะเขือพวงพอ บุบ ๆ ก็พอนะคะ แต่เราไม่ชอบกลิ่นมะเขือพวงอ่ะ ชอบมะอึกมากกว่า เป็นลูกเหลือง ๆ  มีขนอ่อน ๆ อ่ะคะ แม่จะซอยบาง ๆ ลงไปโขลกด้วยกัน  ฮืมมมมมมมมม.. อร่อยชื่นใจ และที่สำคัญเลือกน้ำปลาดี ๆ ๆ นะคะ  มะนาวหอม ๆ ๆ  คลุกเคล้า โขลก กันเข้าไป ตัดรสหวานด้วยน้ำตาลปี๊บ จิ๊ดนึง ตำไป ชิมไป โอ้ย กินกับไข่ชะอมทอดร้อน ๆ ๆ อร่อยมั๊ก .. อ่อ ... หลังจากตัก น้ำพริกใส่ถ้วยแล้วนะ อย่าลืม ตักข้าวร้อน ๆ  ไปคลุก ในครกน้ำพริกที่ติดครกด้วยล่ะ ... จะได้ข้าวคลุกน้ำพริกติดครก 1 จาน ที่อร่อยที่ ซู้ด ... แม่บอกว่าชอบ .. อย่างงี้ ล้างครกง่ายดี อิอิอิ ขอให้ จขกท สนุกกับการตำน้ำพริกนะคะ จากคุณ : n o n t h i y a - [ 4 ม.ค. 50 07:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แบบ คคห.ที่ 3 นั่นแหละค่ะ โดยเฉพาะมะอึก ซึ่งหายาก มากเลย.. บางสูตรเขาแนะนำให้คั้นน้ำส้มเขียวหวานใส่ลงไปด้วย จะทำให้รสกลมกล่อมขึ้นค่ะ และอีกอย่าง น้ำพริกกะปิ เป็นหนึ่งในอาหารที่ต้องค้างคืน ก่อนค่ะ ถึงจะอร่อย ตำแล้วทานเดี๋ยวนั้นอร่อยสู้ไม่ได้ทุกที เลย เข้าใจว่า เครื่องมันยังไม่เข้ากันเป็นเนื้อเดียวเหมือน ตอนทิ้งไว้ก่อนน่ะค่ะ จากคุณ : กุ๊กกลาง - [ 4 ม.ค. 50 08:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านความเห็นของคุณ  nonthiya แล้วกลืนน้ำลายเอื๊อกเลย ตอนนี้อยากกินน้ำพริกกะปิมากกกกก ฝันถึงมาหลายคืนแล้ว แต่ทำเองก็ไม่อร่อย อยากกลับเมืองไทยเร็วๆ จัง จากคุณ : Saor - [ 4 ม.ค. 50 08:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มันอยู่ที่กะปิอ่ะคุณ แนะนำว่าต้องเป็นกะปิจากระยองหรือทางแถบจังหวัดติดชายทะเลจะดีมาก ถ้าได้มีโอกาสไปก็ซื้อมาเก็บไว้เลยค่ะ อ้อ เคล็ดของที่บ้านคือ เอากะปิห่อใบตองแล้วเอาไปปิ้งไฟก่อนน่ะค่ะ ปิ้งให้พอหอม แล้วใส่ลูกมะอึกไปด้วย อร่อยค่ะ จากคุณ : moo_pud - [ 4 ม.ค. 50 09:23:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ลองใส่มะเขือเปราะลูกแก่หน่อย ปอกเนื้อออกเอาแต่ไส้ใน ที่มีเมล็ดนั่นแหละ ตำใส่ไปด้วย 1 ลูกค่ะ จากคุณ : YaiJomZon - [ 4 ม.ค. 50 09:38:46 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับ คคห 3 และ 6 ค่ะ คือต้องใช้กะปิอย่างดี จะได้รสอร่อย ยิ่งใส่พริกขี้หนูสวนให้เผ็ดสะใจ ยิ่งอร่อย จากคุณ : เซลเค็ต - [ 4 ม.ค. 50 11:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ให้ใช้พริกขี้หนูสวนเม็ดเล็ก ๆ จะหอมมาก ใส่ไม่กี่เม็ดพอ ถ้ายังไม่เผ็ดใส่เพิ่มตอนหลังได้แต่ให้ทุบพริกที่ใส่เพิ่มแค่พอแตกเท่าน้น แล้วชิมรสชาติตอนยังไม่ใส่เครื่องปรุงอะไรเลย ดูว่ากะปิเราเค็มแค่ไหน แต่ที่บ้านทำกะปิไว้ทานเองนะจะอร่อยกว่าและสะอาดด้วย กะปิให้ห่อใบตองแล้วไปปิ้งเพื่อฆ่าเชื้อโรคและให้มีกลิ่นหอม จากนั้น บีบมะนาวแบบไม่ต้องไปเค้นนำมันให้หมดจดหรอเดี๋วยจะขมไม่อร่อยก่อนบีบมะนาวใช้ช้อนช่วยคั่นกลาง ระหว่างเปลือกจะได้บีบน้ำได้ดีและมะนาวเปลือกไม่ช้ำจะได้ไม่ขม อย่าให้เปรี้ยวมากเพราะเติมทีหลังได้ แล้วใส่น้ำตาลปีปลงไปนิดเดียวนะ ให้ออกรสกลมกล่อมแต่ไม่ใช่หวานนะน้ำพริกจะอร่อยเพราะใส่น้ำตาลปีปไม่ต้องใส่ชูรสเลย หลังจากนั้นก็ปรุงรสให้อร่อยนะ แล้วก็บุบมะเขือพวงพอแตกเล็กน้อยลงไปก็อร่อยแล้ว ถ้ามีมะอึกก็ใส่ได้จะทำให้น้ำพริกเปรี้ยวอร่อยไปอีกแบบ จากคุณ : Tony_K - [ 4 ม.ค. 50 11:28:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่มเติมลืมไป ให้ใส่กุ้งแห้งอย่างดีนะไม่ใส่สี ตำให้ป่นลงไปเล็กน้อย แล้วถ้าน้ำพริกข้นไปก็เติมน้ำต้มสุกลงไปหน่อยได้ ขอให้อร่อยกับน้ำพริกกะปินะ จากคุณ : Tony_K - [ 4 ม.ค. 50 11:30:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อันดับแรกหาซื้อกะปิสำหรับตำน้ำพริกดีๆ ให้ได้ก่อน กะปิมันจะมี 2 แบบ แบบสำหรับแกงกับแบบสำหรับตำน้ำพริก แนะนำกะปิจากเขาพลายดำ อ. ขนอม นครศรีธรรมราช อันนี้สุดยอด OTOP ระดับเทพ มาถึงขั้นตอนการตำ พริกใส่เท่าไหร่ก็ได้เท่าที่อยากเผ็ด ไม่ควรใช้พริดดอกใหญ่เพราะมันมีเนื้อเยอะ จะทำให้น้ำพริกมีกลิ่นเหม็นเขียว กระเทียมอย่าใส่เยอะจะทำให้น้ำพริกออกรสซ่าๆ เฝื่อนๆ มะนาว 2 ลูก น้ำตาลปี๊บช้อนนึง กระเทียมซัก 3-4 กลีบก็พอ ชิมให้ได้รสเปรี้ยวนำ ตามด้วยหวาน ออกเค็มด้วยรสกะปิ อย่าใช้น้ำปลาปรุงรส เพราะจะทำให้กะปิดีๆ เสียรสหมด จากคุณ : ลองดู - [ 4 ม.ค. 50 11:39:36 A:58.10.192.221 X: TicketID:134788 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบกระทู้นี้ เทคนิคเยอะดี โอ้ย อ่านแล้วอยากกินกะทันหัน โดยเฉพาะใส่มะอึกด้วย.. จขกท.เป็นผู้ชายที่น่ารักเนอะ จะตำน้ำพริกกินเอง อย่างนี้ก็ไม่ต้องกินน้ำพริกถ้วยเก่าเลยล่ะซิ ดีจัง.. จากคุณ : ร่ำอักษรา - [ 4 ม.ค. 50 12:26:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาเก็บความรู้ครับ อ่าน คห.ที่3แล้วนำลายไหลเลย เห็นภาพมากๆ จากคุณ : BhakSook - [ 4 ม.ค. 50 13:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับ คห.9 อย่างมากครับ เคล็ดลับความอร่อยของน้ำพริกกะปินอกจากกะปิแล้ว อยู่ที่น้ำตาลปี๊บนี่แหละ บ้านผมใช้น้ำตาลมะพร้าว ซื้อมาจากงานโอท็อป เขาปั้นเป็นก้อน ๆ มาเสร็จเลย ใช้ก้อนเดียวก็พอต่อน้ำพริกหนึ่งถ้วย ส่วนกะปิผมใช้ กะปิวันครับ ซื้อจากงานโอท็อปอีกเหมือนกัน เป็นกะปิ ชนะเลิศงานเกษตรแห่งชาติ อร่อยจริง ๆ นะไม่ได้พูดเล่น วันก่อนย่างปลาทูเหลือถ่านในเตา เลยลองเอากะปิ ใส่ใบตองที่ห่อปลาทูมา เอาไปอังไฟแล้วเอามาโขลก รสชาตินุ่มนวลขึ้นจริงครับไม่ฉุนกะปิด้วย สูตรผมก็ใช้ พริกขี้หนูสวนเหมือนกัน พยายามนับให้ได้เลขคี่เพื่อ เป็นเคล็ดนะครับ ส่วนกระเทียมก็ปอกเปลือกให้เกลี้ยง โขลกรวมกันพอแหลกอย่าให้ละเอียดมาก อยากใส่กุ้งแห้ง ก็โขลกเพิ่มเข้าไป มะอึก มะเขือเหลืองถ้ามีก็ประเดลงไป เอากะปิกับน้ำตาลปี๊บตามลงไปไม่ต้องใส่น้ำ โขลกทั้ง อย่างนั้นเลย พอแหลกได้ที่ก็ตักใส่ถ้วยเติมมะนาวและ เอาน้ำต้มสุกมาละลาย แค่นี้เองครับ ผมไม่เคยใส่น้ำปลา เพิ่มนะ เดี๋ยวกลิ่นตีกันยุ่ง แต่จะลองดูก็ได้ครับเผื่ออร่อย อย่าลืมโรยหน้าด้วยพริกขี้หนูกับมะเขือพวงด้วยนะครับ จากคุณ : เด็กหนุ่มหน้าตาดี - [ 4 ม.ค. 50 14:56:16 A:161.200.255.162 X: TicketID:120371 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โอยยย....น้ำลายไหลเยย......อื้ออื้อ ชะอมทอดกรอบๆบางๆหอมๆนะ แล้วกินกับ ผักกาดดองหั่น แตงกวา หรือไข่เค็ม.....สุดๆเลยจ้า จากคุณ : อุเมะจัง (อุเมะจัง) - [ 4 ม.ค. 50 15:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เพิ่งทานไปเมื่อกลางวัน ยังอยากทานอีกเลย... จากคุณ : prapasawat - [ 4 ม.ค. 50 15:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สุดยอดทุก คห. เลยครับ นับเป็นกระทู้รวมเซียนน้ำพริกกะปิจริงๆ อาหารที่เรียบง่ายเนี่ยเป็นจุดวัดฝีมือคนทำอาหารอย่างแท้จริง เคล็ดลับเยอะมาก สามารถนิยามคำว่า เรียบง่ายแต่ไม่ง่าย <Simple but not Easy> ได้ดีทีเดียว ถ้าสังเกตให้ดีแล้วเก็บเกี่ยวจุดเด่นในแต่ละสูตรออกมาคงได้น้ำพริกกะปิระดับเทพจริงๆ ขอเพิ่มเติมสูตรให้ด้วยคนนะครับ เป็นน้ำพริกกะปิดัดแปลงที่ผมเคยทำมาแล้ว ออกมาได้ไม่เลวเลยครับ "น้ำพริกกะปิทรงเครื่องนายอาหย่อย" 1. เทน้ำมันใส่กะทะเล็กน้อย นำกระเทียมสับลงไปเจียวให้พอเหลืองหอม 2. นำหมูสับ (ติดมัน) ลงไปผัดให้พอสุก 3. เทน้ำพริกกะปิที่คุณตำเสร็จใส่ลงไป ปริมาณประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณหมู ผัดให้งวดด้วยไฟปานกลาง (เช่น หมู 1 ถ้วย ต่อ น้ำพริกครึ่งถ้วย) 4. เติมน้ำพริกเผา พร้อมน้ำมันพริกเผาลงไปผัด ปริมาณประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำพริกกะปิ ผัดให้สุกหอม น้ำขลุกขลิก 5. ชิมรส - ปรุงเพิ่มเติม ให้มีรสนำเป็น เปรี้ยว หวาน เค็ม ตามลำดับ 6. ตักใส่ถ้วยโรยหน้าด้วยกากหมูเล็กน้อย เสริฟพร้อมผักแกล้ม + Heineken เย็นเจี๊ยบ 1 แก้ว ลองไปทำกันดูนะครับ อยากทำให้ดูมีรูปแต่กระทันหันไปนิด วันนี้วัตถุดิบมีไม่ครบครับ ปล. #14 จ๊าบจริงๆ ครับ นับพริกเป็นเลขคี่ สุดยอดเคล็ดวิชา (มีใช้ไสยศาสตร์ช่วยด้วยเล็กน้อย) ไว้ผมจะลองใช้ดูด้วยคนครับ *แก้คำผิด* แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 50 16:16:08 จากคุณ : Are Yoi - [ 4 ม.ค. 50 15:57:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอเพิ่มเติมหน่อยนะค่ะ  เท่าที่ ที่บ้านทำและที่ และตัวเองก้อติดมาคือ  น้ำล้างครกนี่แหละค่ะ  พอตักน้ำพริกออกจากครก ก้อเอาน้ำต้มสุกนี่แหละค่ะ มส่ลงไปหน่อยล้างๆ ตูดครกแล้วเทใส่ถ้วยกะปิค่ะ อันเนี๊ยเคล็ดลับวิชาเลยนะค่ะ  ลืมไม่ได้คือน้ำล้างครก ค่ะ จากคุณ : กล้วยไม้ (rotchalek) - [ 4 ม.ค. 50 16:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คิดถึงน้ำพริกกะปิฝีมือแม่ขึ้นมาทันทีเลยค่ะ จากคุณ : Jekyll and Hyde - [ 4 ม.ค. 50 16:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แม่เราเค้านอกจากจะใส่มะอึก หรือมะเขือพวง หรือใส้มะเขือเปราะแล้วนะ  บางทีแม่จะหั่นเปลือกมะนาวที่บีบใส่น้ำพริกเป็นเส้นเล็กๆบางๆลงไปในน้ำพริกด้วย   กะปิจากปากน้ำแม่ห่อใบตองปิ้ง  กระเทียมเม็ดเล็กๆ พริกขี้หนูสวนปลูกเอง น้ำตาลปี๊บ มะนาวต้องคลึงก่อน  บางทีเวลานำพริกข้นไปแม่จะใส้น้ำร้อน ครึ่งถึง ช้อนชาไปด้วย อร่อยดี  ทานกะชะอมชุบไข่ มะเขือชุปไข่ มะระลวก หรือไม่ก็ดอกแคลวก ว้าคิดถึงแม่จัง  พรุ่งนี้สมควรไปทำบุญให้แม่เนาะ จากคุณ : factorygirl - [ 4 ม.ค. 50 16:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โอว ชอบค่ะทู้นี้ ของเราต้องใช้กะปิอย่างดีที่ไม่เค็มมาก น้ำตาลมะพร้าวหอมๆ พริกขี้หนูปลูกเอง ที่สำคัญเลยใส่มะอึกด้วยน้ำพริกจะอร่อยขึ้นอย่างแรงค่ะ มะอึกจะหอมๆเปรี้ยวๆ โดยเฉพาะถ้ามะอึกสุกๆนะคะจะหอมมากเลย กรี๊ด อยากกิน เอารูปต้นมะอึกที่บ้านมาให้ดูด้วยค่ะ (ลองหามาปลูกดูสิคะ ไหนๆก็มีชะอมแล้ว จะได้ครบวงจร อิอิ) จากคุณ : คุณนายเย็นชา - [ 4 ม.ค. 50 21:16:09 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบจังกระทู้นี้ ต้องขโมยเคล็ดลับซะแล้ว ของเราจะตำกุ้งแห้งให้ละเอียดก่อน(แล้วแต่ชอบนะคะ จะไม่ใส่กุ้งแห้งก็ได้) แล้วตำกะปิผสมให้เข้ากัน แล้วค่อยใส่กระเทียมตำค่ะ เคล็ดลับเราก็คือต้องตำกะปิให้เข้ากับกระเทียมแบบสุด ๆ แล้วค่อยใส่พริก ปรุงด้วยน้ำตาลปีบ มะนาว เห็นด้วยกับ คห 4 ค่ะ น้ำพริกกะปินี่ถ้าเก็บค้างคืนแล้วความอร่อยเพิ่มเป็นเท่าตัว  อา~ น้ำลายไหล พรุ่งนี้ตำกินดีกว่า จากคุณ : LightenUp - [ 4 ม.ค. 50 23:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 กระทู้นี้ เห็นแล้วเปรี้ยวปากมากๆ อยากกินจังเลยครับ ต้องขอจดเทคนิกไว้ซักหน่อยครับ :D จากคุณ : Calamity - [ 5 ม.ค. 50 00:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มาแนะนำกะปิ เพื่อนเราบอกว่า กะปิอ.ไม้แก่นอร่อยมากกกกกก ฝีมือตำน้ำพริกห่วยระดับเทพแค่ไหน (เช่นเพื่อนเราเป็นต้น)ก็ตำออกมาหร่อยจังฮู้! อ้อลืมบอก อ.ไม้แก่นที่อยู่ที่ปัตตานีอ่ะนะ จากคุณ : Mistor Tonue (Mister Tonue) - [ 5 ม.ค. 50 15:54:53 ]