ความคิดเห็นที่ 1 แล้วใครครับ ที่มีน้ำหนักเกินหรือต่ำกว่ามาตรฐาน ตัวชี้วัดแรกคือน้ำหนักมาตรฐานครับ คิดจากส่วนสูงว่าควรมีน้ำหนักไม่เกินเท่าใด (ข้อมูลจากพญ.ธัญญา เชฏฐากุล) -สำหรับผู้ชาย ใช้ความสูงเป็น cm. – 100 = น้ำหนักที่ควรจะเป็น -สำหรับผู้หญิง ใช้ความสูงเป็น cm. – 100 – (1/10 ของผลลบ) = น้ำหนักที่ควรจะเป็น อีกมาตรฐานหนึ่งที่นิยมใช้กันมาก คือ BMI ครับ หลายคนคงเคยได้ยินมา มีความหมายว่า ดัชนีความหนาของร่างกายซึ่งเป็นคนละ พารามิเตอร์กับตัวข้างบนเลยนะครับ วิธีคิด BMI = น้ำหนัก(กก.)/(ความสูงเป็นเมตร)2    (ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข) การแปลผลแตกต่างกันไปแล้วแต่สถาบันครับ                     น้อยกว่า 18.5     ผอมไป                     18.5 – 24.9 น้ำหนักตัวเหมาะสมหรือปกติ                     25 – 29.9 น้ำหนักเกิน                     30 ขึ้นไป มีภาวะโรคอ้วน แล้วอ้วนลงพุงล่ะ ต้องพุงขนาดไหน -ข้อมูลของคนไทยและทั่วโลก ให้เอวผู้ชายน้อยกว่า 90 cm เอวผู้หญิงน้อยกว่า 80 cm ยกเว้นของญี่ปุ่นนะครับ ตัวเลขตรงนี้สลับกัน เขาให้ผู้หญิงเอวใหญ่ได้มากกว่า จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 12:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอาล่ะครับ ทีนี้เรามีคำตอบในใจแล้วว่าใครอยู่ตรงไหนนะครับ สำหรับคนที่ต่ำกว่าเกณฑ์ มาดูครับว่าควรจะทานอะไรเพื่อให้ไปอยู่ในกลุ่มปกติ สำหรับคนที่ปกติ มาดูครับว่าอะไรควรทานอะไรไม่ควรทาน เพื่อไม่ให้หลุดกลุ่มครับ สำหรับคนที่เกินหรืออ้วนแท้ ๆ ต้องสนใจเป็นพิเศษครับ สำหรับชาวก้นครัวแล้วคงทราบว่าสารอาหารมีมากมายหลายสิบชนิด แต่ส่วนที่ให้พลังงานนั้นมี 3 อันหลักคือ คาร์โบไฮเดรต 1 กรัมให้พลังงาน 4 แคลอรี่ โปรตีน 1 กรัมให้พลังงาน 4 แคลอรี่ ไขมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 แคลอรี่ ส่วนแอลกอฮอลที่หลาย ๆ คนนิยมนั้น ให้พลังงานในระดับ 7 แคลอรี่ครับ ***  เพิ่มตรงนี้ครับเพราะหลายคนงงเต๊กกับการคำนวณ ร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำและ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน คิดสะระตี่แล้วประมาณ 7700 cal/ กิโลกรัมครับ ฉะนั้น ถ้าอยากลด 1 กิโล ทำไงก็ได้ครับ ให้ใช้ cal ให้กำไรไป 7700 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 14:55:49 จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 12:39:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วเราก็มาใช้ตรรกะกันครับ ถ้าต้องการเท่าเดิม ให้เข้าเท่ากับออก ถ้าต้องการมากขึ้น ให้เข้ามากกว่าออก หรือให้ออกน้อยกว่าเข้า ถ้าต้องการน้อยลง ให้เข้าน้อยกว่าออก หรือให้ออกมากกว่าเข้า แล้ว 1 วัน เราเอาเข้าไปเท่าไหร่ แล้วเอาออกไปเท่าไหร่กัน Thai RDI กำหนดให้ค่าความต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี ซึ่งเป็นระดับที่คนไทย (ผู้ใหญ่) ส่วนใหญ่ที่มีสภาวะทางสุขภาพปกติต้องการ http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D5256420/D5256420.html แต่หากต้องการคำนวณจริง ๆ แล้วนั้น ตัวเลขของแต่ละคนไม่เท่ากันแน่นอน เพราะปัจจัยหลาย ๆ อย่าง จึงมีสูตรคำนวณง่าย ๆ เพื่อดูว่า ร่างกายใช้พลังงานเท่าไหร่ต่อวัน แคลอรี่ใน 1 วัน = น้ำหนักมาตรฐาน X ระดับกิจกรรมที่ทำ ระดับกิจกรรมที่ทำแบ่งคร่าว ๆ เป็น 3 ระดับคือ -งานน้อย นั่งทำงานมากกว่า 70%         =   25 cals/Kg/day -งานปานกลาง นั่งทำงานประมาณ 50%    =  30  cals/Kg/day -งานหนัก นั่งทำงานน้อยกว่า 30%   =   35-40  cals/Kg/day จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 12:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อันนี้ต้องมีตัวอย่าง แพทย์คนหนึ่งสูง 170 หนัก 70 กิโลกรัม รอบเอว 80 นั่งตรวจแทบทั้งวัน ถามว่าควรทานอาหารวันละกี่แคลอรี่จึงสมดุล แพทย์คนนี้มีน้ำหนักมาตรฐานพอดี 170-100=70 BMI 70/(1.7x1.7) ประมาณ 24 ยังปกติ แต่ควรระมัดระวังตัวแล้ว รอบเอวถือว่าไม่อ้วนครับ แพทย์คนนี้ถือว่างานน้อย ดังนั้น แคลอรี่ใน 1 วัน = (170-100) X 25 = 1750 cals/day งั้น ทานไขมัน 1750/9 = 194 กรัมต่อวันสิ จะได้พลังงานพอดีเป๊ะ คิดแบบนี้ ถูกไหม คำตอบคือผิดครับ เพราะอะไรให้ย้อนกลับไปดูที่ กระทู้ Thai RDI ไขมันทั้งหมด (Total Fat) 65* กรัม (g) โปรตีน (Protein) 50* กรัม (g) คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 300* กรัม (g) ตามนี้จะได้ 1985 ก็คือที่ RDI แนะนำ แต่แพทย์ท่านนี้ ต้องการแค่ 1750 ก็ต้องลดตามสัดส่วน ลองลดลง 10% ไขมันทั้งหมด (Total Fat) 59* กรัม (g) โปรตีน (Protein) 45* กรัม (g) คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 270* กรัม (g) ตามนี้จะได้ 1711 ซึ่งใกล้เคียงที่ต้องการและตรงตามสัดส่วน RDI จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 12:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คำถามต่อมา ถ้าแพทย์ท่านนี้ต้องการลดน้ำหนัก สามารถทำอย่างไรได้บ้าง ต้องย้อนดูครับว่าทำอย่างไร นั่นคือ ให้เข้าน้อยกว่าออก หรือให้ออกมากกว่าเข้า เขาจะลดขาเข้าลงได้อย่างไร ลดเท่าไหร่และลดอะไร (คิดที่แพทย์ท่านนี้ไม่มีโรคเบาหวานหรือไขมันนะครับ) สมมติว่าต้องการลด 5 กิโลกรัมใน 1 เดือน เป้าหมาย = น้ำหนัก 65 kg ทำงานเท่าเดิม จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 12:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลองคำนวณกันดูเล่น ๆ 1 Kg ของคนเรามีอินทรียสารประกอบกันคิดเป็น 7700 cal แพทย์ผู้นี้ต้องการลด 5 Kg ต้องลดแคลอรี่ที่เข้าหรือเพิ่มการใช้พลังงาน = 7700 X 5 = 38500 cal ดังนั้นต้องการลดใน 30 วัน ก็ต้องลดวันละ 38500/30 ประมาณ 1200 cal เพราะงั้นแลเว คุณหมอก็ได้กินแค่ 550 แคลอรี่ต่อวันครับ ฝาก Link ตารางแคลอรี่ในอาหารครับ http://www.lannapoly.ac.th/health/web-4/cl/001.htm http://kitty.narak.com/table1.html ลองเทียบดูครับ ผมไม่แน่ใจว่าอันไหนแม่นกว่ากัน แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 14:20:28 จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 12:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แต่ถ้าคุณหมออยากจะทานสักวันละ 1000 cal ต้องทำอะไรเพิ่มเติม นั่นก็คือ อาจจะต้อง ออกกำลังเพิ่มเพื่อให้ชดเชยในส่วนที่ไม่สามารถลดอาหารได้ ดังนั้น ถ้าเพิ่มการใช้พลังงานสัก 450 cal/day ก็จะทานได้ 1000 cal/ วันครับ ชนิดของการออกกำลังกาย   พลังงานที่ใช้ (แคลอรี) ต่อ 1 ชั่วโมงครับ http://www.thairunning.com เดินช้า ๆ                                                               150 เดินลงเนิน                                                             240 เดินธรรมดา                                                           300 เดินเร็ว                                                                 420-480 เดินขึ้นเนิน                                                            480-900 ขี่จักรยาน                                                              250-600 ว่ายน้ำ                                                                  260-750 ตีกอล์ฟ                                                                 300 เล่นแบดมินตัน                                                        350 เต้น                                                                      350 เล่นเทนนิสคู่                                                           360 เล่นบาสเกตบอล                                                      360-660 เล่นโบว์ลิ่ง                                                             400 เล่นเทนนิสเดี่ยว                                                      480 วิ่งเหยาะ ๆ                                                              600-750 วิ่งเร็ว                                                                    900-1,200 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 14:22:21 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 12:56:16 จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 12:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พี่หมอ มันแทงใจจัง จากคุณ : cookery-girl - [ 25 มี.ค. 50 12:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตัวอย่างที่สองครับ เด็กหญิงฝัน (นามสมมติ) เรียนทำอาหารที่ฝรั่งเศส ต้องกินนมเนยทุกวัน สูง 160  หนัก 60 รอบเอว 80 cm ทำขนมทั้งวัน น้ำหนักมาตรฐาน 160-100-6 = 54 เด็กหญิงฝัน น้ำหนักเกินมาตรฐาน BMI = 60/1.6*1.6 = 23.43 เกณฑ์ปกติไม่อ้วน รอบเอว ปกติ ทั้งนี้ เด็กหญิงฝันควรลดน้ำหนักให้ได้ 6 กิโลกรัม แต่เด็กน้อยจำเป็นต้องชิมขนมตลอดเธอไม่อาจลด Cal ได้มากกว่าวันละ 200 calและมีเวลาวันละ 30 นาทีสำหรับเดินช้า ๆ ลองคิดดูกันว่าเด็กหญิงฝันจะลด 6 Kg ได้ในกี่เดือน จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 13:10:25 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เค้าจะลดได้ภายในหนึ่งเดือนค่ะ พี่หมอ ฟันธง!!!!!!!!! จากคุณ : cookery-girl - [ 25 มี.ค. 50 13:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อย่างนี้ต้องท่องก่อนกินอะไรปะคุงหมอ จากคุณ : ปีเตอร์แพน (Cyberchat) - [ 25 มี.ค. 50 14:00:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ใครมาเซพไปก่อน 2 โมงมาเซพใหม่นะครับ มีการคลาดเคลื่อน เพราะผมอ้างอิงเยอะไปหน่อยเลยงง ดันไปคิดแบบตรง ๆ เสียได้ งั้นดูตามเฉลยของเด็กหญิงฝันครับ ไม่ว่าชายรึหญิง องค์ประกอบใน 1 คนก็เท่ากันครับ 1 กิโลกรัม 7700 cal น้องฝันต้องการลด 6 กิโล = 46200 cal ตัวเลขที่ให้มาล้วนหลอกครับ ไม่ได้ใช้ น้องฝันลดอาหารวันละ 200 และ ออกกำลังประมาณ 100 รวมเป็นแคลอรี่ที่ใช้ 300/day ดังนั้น ถ้าเด็กหญิงฝันทำแค่นี้ ก็จะใช้เวลาทั้งหมด 46200/300 = 154 วัน หรือ 5 เดือนทีเดียว ทีนี้ เราลองมาช่วยน้องฝันให้ลดได้ในเร็ววันกันครับ จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 14:29:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 5 เดือน!!!!!!!! งั้นสงสัยต้องเพิ่มโปรแกรม เดินซุปเปอร์ เป็นวันละ3ชม. จากคุณ : cookery-girl - [ 25 มี.ค. 50 14:35:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 น้องฝันมีน้ำหนักมาตรฐาน = 54 ทำขนม เป็นงานระดับกลาง 54 X 30 = 1620 cal/day นี่คือพลังงานที่ต้องการ เป็นจุดที่ถ้าทำไปเรื่อย ๆ น้ำหนักจะคงที่ แต่น้องฝันสัญญาจะลดวันละ 200 และออกกำลัง 100 ก็จะลดได้ใน 5 เดือนดังกล่าว สมมติว่าเราลองให้น้องฝันทำงานหนักขึ้น ยืนนวดแป้งขนม เดินไปเดินมาทั้งวัน ให้ค่าคงที่ 40 ... 54 X 40 = 2160+100(ที่สัญญากันเดินช้า 30 นาที) = 2260 เด็กหญิงฝันสัญญาจะกินเท่ากับตอนทำงานปานกลางและจะลดอีก 200 ก็คือน้องฝันจะกินแค่ 1620-200 = 1420 cal/day ลองดูดีดี แค่ทำงานหนักขึ้น เธอสามารถเพิ่มความแตกต่างของรายรับ-รายจ่ายถึง 2260-1420 = 840 ทีเดียว ฉะนั้นเธอจะลด 6 กิโลได้ใน 46200/840 = 55 วันเท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 14:39:08 จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 14:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อืม อ่านไปมาเจอความเห็นที่ 12 แล้วงงครับ ต้องกลับไปตั้งใจอ่านใหม่ จากคุณ : Jazzmo - [ 25 มี.ค. 50 14:40:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16 การลดน้ำหนัก นี่จะมีผลกับโรคความดันโลหิตสูงและ เรื่อโรคหัวใจหรือเปล่าคะหมอ เพราะเหมาเป็นทั้งสองโรคเลย แต่พอลดอาหารหรือออกกำลังกายจะมีอาการเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลียค่ะ จากคุณ : กั้งกระดาน - [ 25 มี.ค. 50 14:41:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อันนี้คิดคร่าว ๆ ดรีม ถ้าคิดละเอียดต้อง ชั่วโมงต่อชั่วโมงครับ เพราะ นั่ง ยืน เดิน นอนหลับ หลับนอน กิน ขับถ่าย ใช้พลังงานทั้งนั้น ยกตัวอย่างครับ อันนี้จาก http://www.geocities.com/sci123th/m7.html แยกเพศและคำนวนตามอายุครับ จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 14:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านรู้เรื่องเข้าใจ แต่มันยากมากในทางปฏิบัติครับ 55555555555555555555 จากคุณ : Lee Sharp - [ 25 มี.ค. 50 14:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เด็กหญิงฝัน 55555 ยายดรีมแหงๆ หนัก 60 เลยเหรอ 55555 เบากว่าเรานิดเดียวเอง จากคุณ : Lee Sharp - [ 25 มี.ค. 50 14:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อาจจะงงจริง ๆ เพราะตัวอย่างของนายแพทย์ กำหนดว่าจะขอลดใน 1 เดือนแล้วถามว่าต้องกินเท่าไหร่และออกกำลังอย่างไร ส่วนของเด็กหญิงฝัน บอกเป้าหมายที่จะลด โดยไม่กำหนดระยะเวลาหรือวิธีการครับ จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 14:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณเอก ใช้ยากไม่เป็นไรครับ สำหรับเรา ๆ มันคิดยากว่าวันนึง ๆ ได้ไปเท่าไหร่ แต่ผมทำเพื่อเกริ่นนำก่อนพาไปสู่การควบคุมอาหารคนเป็นเบาหวาน ไขมันน่ะครับ จะได้ไม่ต้องตามท้าวความ แถมปิรามิดอาหาร จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 15:08:36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เข้าใจค่ะ แต่ทำไม่ค่อยได้อ้ะ จากคุณ : killchan - [ 25 มี.ค. 50 15:24:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุงหมอบอยคะ ข้าพเจ้าจะมาบอกว่าตอนนี้ เกณฑ์ BMI สำหรับคนไทยเป็น มากกว่าหรือเท่ากับ 23 ถือว่าน้ำหนักเกินเเล้วเเล้ว (สำหรับผู้ใหญ่ที่อายุ 20 ปีขึ้นไปของชาวเอเชีย) จาก World Health Organization The Asia -Pacific perspective Redefining Obesity and its treatment.February 2000 ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะเจ้าคะ ^^ น่าเสียดายจังกระทู้มาแอบหลบตรงนี้ ...อยากเห็นอาหารบำบัดโรคเร็วๆจัง จากคุณ : วาฬอันดามัน - [ 25 มี.ค. 50 16:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ ใช่ครับ แล้วก็เอาปกติที่ 20-22.9 เองด้วย ไม่ใช่ 18.5 อย่างที่บอก แต่ว่า มันมีที่มาหลายแหล่ง ผมเลยเลือกมา 1 อันน่ะครับ ไม่ใน่ใจว่ามีใหม่กว่านี้อีกไหม จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 16:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมรองานประชุมราชวิทยาลัยอายุรกรรมในเดือนหน้าครับว่าจะออกมาเป็น Guideline ใหม่หรือไม่ จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 16:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ^ เพิ่งทราบนะคะเนี่ย อย่าลืมแจ้งผลด้วยนะคะ จากคุณ : วาฬอันดามัน - [ 25 มี.ค. 50 17:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อ้าวปกติที่ 20-22.9เหรอเนี่ย จากข้อมูลที่มีอยู่เกณฑ์เป็นอย่างนี้อ่า น้อยกว่า          18.5 ผอม (อันตรายมากกว่าสวย 555) ปกติ           18.5-22.9   น้ำหนักเกิน ตั้งแต่          23 อ้วนเล็กน้อย(At risk)     23-24.9 อ้วนปานกลาง(Obease I) 25-29.9 อ้วนมาก(Obease II)  มากกว่าหรือเท่ากับ 30 มาแก้ไข อ้อนมาก(Obease II)  มากกว่าหรือเท่ากับ 30 เป็นอ้วน จ้า ----------------------------------------------------------- ข้าน้อยคงต้องเช๊คใหม่เจ้าคะ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 18:10:52 จากคุณ : วาฬอันดามัน - [ 25 มี.ค. 50 17:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คืองี้จ้า WHO ออกมาแล้วแต่ในแต่ละประเทศยังคงถกเถียงน่ะครับว่าเท่าไหร่เป็นเท่าไหร่ดี ที่ 20-22.9 ผมเอามาจากใน หนังสือสาระน่ารู้เบาหวานของพญ.ธัญญา เชฏฐากุล น่ะครับ ส่วนตัวเลข 23 ผมเจองานวิจัยนึง คิดว่าน่าสนใจ http://www.medassocthai.org/journal/files/Vol89_No.12_2123_9964.pdf ปล.เดี๋ยวคุยส่วนตัวนะครับ กระทู้จะได้ไม่ยาว เผื่อใครเข้ามาดู แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 17:30:17 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 17:27:35 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คนที่ไป Meeting ถ้าผมไม่ลืมเอาไป จะเอาอันนี้ไปให้เล่นครับ BMI calculator พร้อมวัดรอบเอว หุหุ ถ้าแดงก็แปลว่าเกินละงานนี้ ปล.ใน 27 ผมเองก็เรียนแบบนั้นครับ แต่ผมเถียงเพราะว่าใช้อันนั้นแล้วผมอ้วนปานกลาง ไม่ยอม ผมต้องปกติไม่ก็แค่ท้วม ๆ สิ ปล.2 มากกว่า 30 ขี้อ้อนมากเลยเหรอครับ ^ ^ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 17:45:24 จากคุณ : Dr.boyze - [ 25 มี.ค. 50 17:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 30 555  มากกว่า 30 ขี้อ้อน คะ อ้วนๆ "ขี้อ้อน" ใช้เกณฑ์ 23 นี่ก็ไม่ชอบเท่าไหร่ (แต่ยังไม่ถึงอะ 55) อ๊ะมีเหมือนกันเลยสายวัดอันนั้น งานวิจัยขอบคุณมากคะ น่าสนไว้ค่อยอ่านนะคะ จากคุณ : วาฬอันดามัน - [ 25 มี.ค. 50 18:06:23 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่อาวววววว เค้าไม่วัด อิอิ จากคุณ : AugusT[CrusheR]VeronicA - [ 25 มี.ค. 50 23:38:43 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ง่า สายวัด บรึ๋ยยสงสัยคงอยู่เส้นเขียวๆ จากคุณ : scissorman - [ 26 มี.ค. 50 02:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เดี๋ยวเตรียมสีเขียวไประบายสาย จากคุณ : เฮียแมว - [ 26 มี.ค. 50 11:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ หมอบอย ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ที่เอามาฝากกัน จากคุณ : spamkie - [ 26 มี.ค. 50 19:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อยากผอม ลองหาสามีแบบอิชั้นสิคะ .. จากคุณ : pepsakoy - [ 27 มี.ค. 50 12:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โดนคุณสา สะกิดทุก 5 นาทีเลยเหรอป้า? คริก ๆ ๆ ๆ ๆ จากคุณ : เฮียแมว - [ 27 มี.ค. 50 15:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 37 o_O กระทู้นี้... ทำร้ายจิตใจ... รู้สึกแปร๊บๆๆๆ เวลาอ่าน บอกมะถูก กรี๊ดดดดดดดดดด บร้าที่สุดดดด จากคุณ : Toxicz - [ 27 มี.ค. 50 17:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 38 แหมมมมม เฮียยยยย พูดเหมือนมานั่งอยู่กลางเตียง เอ้ยย ใจอิชั้นเลยนะคะ....โย่ว โย่ว จากคุณ : pepsakoy - [ 27 มี.ค. 50 17:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไคจะไปอยากวัดอะพี่หมอ จากคุณ : ladystrawberry - [ 31 มี.ค. 50 01:32:00 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อ่านแล้วกลุ้มใจจังอ่ะคุณน้องหมอ จากคุณ : Bi_Fhon - [ 4 เม.ย. 50 23:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 41 รู้ๆ อยู่ แต่ม่ะเคยทำได้ แง จากคุณ : sueko - [ 5 เม.ย. 50 17:24:29 ]