ความคิดเห็นที่ 1 รูปหลานไม่ยอมขึ้น  เอาใหม่ อาพยายามแล้วนะค่ะคุณหลาน ปุยฝ้ายย T T จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 10:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อ๊ะ เข้าเรื่องๆ  เด๋วจะกลายเป็นลงผิดกระทู้ ผิดที่ผิดทาง ก่อนอื่นมาดูส่วนประกอบหลักๆกันก่อนเลยจ๊ะ วันนี้เราจะทำนี่กัน  แกงไก่บ้าน  หรือบางคนเรียกว่า ไก่ไทย  กับ กล้วยแก่   (เหมือนคนทำ อิอิ) จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 10:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนประกอบก็มี 1. ไก่ไทย 1 ตัว ตัวนี้ก็ราวๆ  กิโลนิดๆ 2.  กล้วยน้ำว้าแก่จัด  ราวๆ 1 หวี 3. มะพร้าว ขูด ครึ่งกิโลกรัม 4. ใบมะกรูด เครื่องแกงมีส่วนผสมดังนี้  1. พริกแห้ง แช่น้ำ ราว  1 กำมือ หรือตามความชอบของคนทาน  2. กระเทียมกลีบเล็ก  3. หอมหัวเล็ก  4. ตะไคร้ ซอย ต้นเล็ก 2 ต้น หากต้นอวบอูม ใช้ แค่ 1 ก็พอจ๊ะ  5. พริกไทย  หากขยันนับเม็ดก็ ราวๆ 15 เม็ด  6. กะปิ อย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ + ได้อีกนิดหน่อย  7. ขมิ้น เพราะแกงใต้ขาดไม่ได้ ขาดแล้วขาดใจ จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 10:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หลานน่ารักดีค่ะ   ส่วนแกงไก่ ไม่เคยทาน ขอจดสูตรหน่อยน่ะคะ จากคุณ : นัต (ทาโร่ซัง) - [ 22 เม.ย. 50 11:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ในที่นี้ เด็จแม่บอกว่า กล้วยน้ำว้าไม่มี เลยได้กล้วยเล็บมือนาง แก่ มาแทน  หยวนกันได้ค่ะ แต่สำคัญต้องแก่จัด วิธีดูเหรอ อื้มหากผมหงอกเป็นใช้ได้ อิอิ ไม่ช่ายยยยยย   ดูขนาดของ ผล ว่า ไม่ค่อยมีส่วน ที่เป็นเหลี่ยมๆ และบีบดูมันจะยังแข็งๆไม่นิ่ม หากนิ่มแสดงว่าเริ่มสุก ไม่อร่อย คะ   วิธีทำกันเลย 1. นำส่วนผสมเครื่องแกงยกเว้น กะปิ  นำไปโขลกรวมกัน  แม่บ้านยุคใหม่ ใช้เครื่องบด  ก็ไม่ว่ากันคะ แต่แนะนำให้ ตำพริกไทยดำ ให้ละเอียดเสียก่อน  คะ พักไว้ 2. นำไก่ไทย มาย่อส่วน ให้เหลือชิ้นเล็กๆ ขนาดพอแทะ เอ๊ยพอคำ     หากใครขยัน ก็เลาะแยกกระดูก แยกเนื้อ จะยิ่งเป็นการดีมากสำหรับคนทาน     3. กล้วยลอกเปลือก เน้นว่าลอกนะคะ เพราะว่าจะยังคงไว้ซึ่งเปลือกเขียวๆ  อร่อยดี  หั่นพอคำ แล้วแช่น้ำไว้ 4. คั้นน้ำกะทิ  ให้ได้ เศษ 1 ส่วน 4 ของ ภาชนะที่จะแกง เจียดหัวเก็บไว้ ประมาณ ครึ่งถ้วย จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 11:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต่อไป รูปนี้ ก็กระทิ คะ นำไปตั้งไฟ ปานกลาง จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 11:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 น้องปุยฝ้ายน่ารักจังเลยค่ะ แก้มยุ้ยเชียว แต่สงสัยโดนยุงกัดเป็นตุ่มแดงๆ ถือจานข้าวเปล่ามารอทานกับแกงไก่ค่ะ    ^ _ ^ จากคุณ : Petit Patty - [ 22 เม.ย. 50 11:03:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พอน้ำกะทิเดือด หากใคร ทำแบบ ไก่เลาะกระดูก แยกเนื้อ  ให้นำกระดู ลงไปเคี่ยวก่อน ราว 10 นาที แต่หากไม่เคี่ยวก็ได้คะ ไม่ผิดกติกา   พอน้ำกะทิเดือดแล้ว ก็นำเครื่องแกง + กะปิ ลงไป ลาวากำลังจะพุ่งงงงงงงงงงงงง  เอ๊ยไม่ใช่ น้ำแกงกำลังเดือดคะ จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 11:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 9 หรี่ไฟลงหน่อยนะค่ะ ระวัง มันจะปะทุ ล้นหม้อ คงได้มีงานเพิ่ม คือทำความสะอาดเตาแก๊สครั้งใหญ่   พอเริ่มเดือด ก็ใส่ ไก่ ที่เหลือลงไปคะ รูปอาจไม่ค่อยชัดนะคะ เด็ดแม่รีบเหลื๊อเกิน  คงหิวแน่ๆเลย อันนี้คิดเอาเอง จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 11:07:47 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รอ ไก่สุกซักพักคะ  รู้ได้ไงเหรอว่าสุก??   ก็ดูชิมสิ เอ๊ยไม่ใช่   ก็ดูว่าเนื้อไก่จะเปลี่ยนเป็นสีขาวหนะค่ะ ไม่ต้องสุก 100% หรอก เดี๋ยวเราจะต้อง ทำให้เจ้า กล้วยน้อย ให้สุกด้วย   รอราว 3อึดใจ  นับอย่าให้ขาดให้เกินนะ เดี๋ยวไม่อร่อย อิอิ    เราก็ใส่กล้วยลงไปคะ จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 11:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากนั้น เราก็รอ  ร๊อ  รอ  ระหว่างนี้ ก็คน หน่อยนะค่ะ เดี๋ยวจะสุกไม่ทั่วถึงกัน  ไม่ต้องคนมากค่ะ พอประมาณ  ท่านว่าให้เดินทางสายกลาง   เอ๊ะเกี่ยวไม๊???  ปรุงรส กับ น้ำปลา  น้ำตาลปี๊ป  หัวกะทิที่เหลือ  ชิมรสตามชอบคะ  ตั้งไฟกลาง ต่อ ราวๆ 10 นาที  ก็เสร็จแล้วคะ   ฉีกใบมะกรูด  ผู้ช่วยพระเอก และนางเอก  ลงไป เป็นอันเสร็จพิธีปลุกเสก  เอ๊ย วิธีทำไก่คะ จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 11:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ของฝากคะ........ 1.กล้วย หากเป็นกล้วยน้ำว้า แก่จัด จะอร่อยกว่าคะ เนื้อจะเหนียว และ มีรสหวานแทรกหน่อยๆ  แต่หาก กล้วยน้ำว้า อ่อนไป เนื้อกล้วย จะมี เมือก ค่ะไม่อร่อย  สุกไปก็จะมีรสเปรี้ยว    ก่อนลอก ควรใช้น้ำมันพืช ทาที่มีด กันยางกล้วย เกาะมีด  ลอกเสร็จแล้ว ควรแช่น้ำคะ   2.  วิธีเลือกไก่ไทย  ไม่ให้เหนียว  ก็คือลอง หยิก  หยิก และหยิก อิอิ  แม่ค้าจะหยิกเราไม๊???    ลองหยิกดูนิดๆหนะค่ะว่า หยิกได้หรือเปล่า หากไม่ เหนียวแน่นอน  ดูที่หนังสีเหลือง แต่ไม่ใช่เหลืองเพราะทาขมิ้นนะ  ก็จะได้ไก่ไทย ที่ เนื้อนุ่ม  เจ้าคะ หากบางคน มีเวลา ก็เคี่ยว เนื้อไก่ กับหางกะทิก่อนก็ได้ เพื่อความนุ่มนวลของเนื้อไก่  แต่หากอยากทานไก่ที่มีรสชาด ของไก่ไทยจริงๆ ซึ่งจะมีความเหนียวหน่อยๆ และมีความหวาน มากกว่าไก่เลี้ยง ก็ไม่ต้องเคี่ยวนาน  เปลืองแก๊ส อิอิ จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 11:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีคะ คุณ นัต (ทาโร่ซัง)   ขอบคุณค่ะ หลานน่ารักไมเหมือนอา T T  จดสูตรตามสะบายคะ หากสงสัยตรงไหน ก็จิ้มอมยิ้มได้เลยคะ คุณPetit Patty  ใช่แล้ว คะ คุณหลานโดนยุงแอบแต๊ะอั๋ง  เลยดูเหมือน เป็นสิวสาว ตั้งแต่ยัง ไม่ 7 เดือนเลย T T  ว่าแต่ว่า  ขอข้าวสวยด้วยจานนึงสิ แลกกับ กับข้าว อิอิ จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 11:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ๊ะมี อีกอย่างมาฝากคะ     แต๊แหน่ววววววววววววววววว จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 11:20:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อันนี้เค้าเรียกว่าเห็ดโคนคะ ขาวอวบๆๆๆ แม่เอามาทำแกงเลียง ตอนแรกขามกะว่าจะเอาผัดน้ำมันหอย    ขึ้นไปกวาดบ้านแป๊ปเดียว ลงมาเด็จมา จัดการซะแล้ว T T   เอาฟระ แกงเลียงก็แกงเลียง  รูปสำเร็จมีดังนี้  น่าหม่ำไม๊เนี่ย  .... จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 11:22:23 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตบขาม เอ๊ยตบท้ายด้วย  มะม่วง อกไม่ร่อง  เพราะเป็นมะม่วงเขียวเสวยสุก  แต่ขามจะสวาปาม   ฮิ้วววววววว หมดทุกกระบวนความแล้วคะ   ขอได้รับความขอบคุณจาก  เด็จแม่ของหญิงขาม มา ณ.ที่นี้  ขอแว่บไปหม่ำก่อนเด้อ จากคุณ : มะขามสามรส - [ 22 เม.ย. 50 11:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หิวเลยอ่ะ  เพิ่งกินแท้ๆ  เฮ้อ ! จากคุณ : วา (ส้มแกง) - [ 22 เม.ย. 50 11:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กล้วยดิบเอามาทำแกงได้ด้วยเหรอค่ะ....ไม่เคยกินอะ จากคุณ : klakung - [ 22 เม.ย. 50 12:57:20 ]