ความคิดเห็นที่ 11
วัฎจักรของบุฟเฟท์ที่ได้รับความนิยมสูง ก็เป็นเหมือนกันทุกที่แหละครับ กล่าวคือ เมื่อฮิตติดลมบน ก็จะมักมีคนแห่กันมารับประทานอาหารที่นี่จากทุกสารทิศ จากบรรยากาศแบบสบายๆ อยากกินเมื่อไหร่ ไปตักเมื่อนั้น
ก็กลายเป็นว่า จ้องอะไรไว้ ให้รีบพุ่งไปที่นั่น ก่อนที่ของจะหมด แล้วเดี๋ยวนี้บริกรก็ไม่ค่อยเติมของถี่เหมือนแต่ก่อน จากที่เคยนั่งกินสบายๆ ก็ต้องเร่งมือหน่อย เพราะหากถึงบ่าย 2 โมง อาหารหลายๆ อย่างอาจไม่เหลือให้ทานแล้ว
จากห้องอาหารสุดหรู กลายเป็นสมรภูมิรบ ที่ต่างคนต่างยื้อแย่งอาหาร เมนูเด็ดเช่นฟัวกรานั้น มีคนต่อแถวตลอดเวลา ไม่ได้ต่างไปกับบุฟเฟท์ตามโรงแรมระดับกลาง หรือบุฟเฟท์ตามห้างสรรพสินค้าอย่างโออิชิเลย
พนักงานก็ตกใจกับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ถึงจะเป็นโอเรียนเต็ลก็รับมือกับ "คลื่นมนุษย์" ไม่ไหว
มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่ลูกค้าเก่าๆ อาจไม่พอใจไปบ้าง เพราะว่าคุณภาพมันไม่เหมือนเดิม
มีอยู่วันหนึ่งเมื่อประมาณเดือนมกราคม ที่ซุ้มญี่ปุ่น กลับไม่มีปลาเบสิคอย่างแซลม่อนซะอย่างงั้น แม้จะแก้ตัวว่า ของมาส่งไม่ทัน แต่ก็ขำไม่ออกครับ งานนี้
คือถ้าอยากลดต้นทุน ด้วยการลดคุณภาพและปริมาณอาหาร ผมว่าสู้ขึ้นราคาไปให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสียจะดีกว่า ยังไงเสีย ลูกค้าเก่าๆ เขารับได้อยู่แล้วล่ะ ถ้าคุณภาพยังเหมือนเดิมนะ
สำหรับฟัวกรานั้น ผมคิดว่าเขาไม่ได้ใช้ของนอกมานานแล้วครับ เพราะว่าการใช้ตับนอกทำฟัวกราสำหรับให้ลูกค้าทานได้ไม่อั้น ในราคา 1,000 บาทนั้น เป็นไปไม่ได้ครับ (แต่ตอนที่เปิดเป็นบุฟเฟท์แรกๆ อาจใช้ของนอกก็เป็นได้ เพราะไม่คิดว่าคนจะมาทานกันเยอะ) นี่รวมไปถึงห้องอาหารที่ขายฟัวกราในราคาไม่เกินจานละ 500 ด้วยนะครับ
สำหรับพาสต้า ที่นี่ทำไม่ค่อยอร่อยมานานแล้วครับ แม้แต่ที่ห้อง Chao ก็ไม่ค่อยอร่อยครับ (แต่บรรยากาศดี)
ส่วนเค้กและไอศครีมยี่ห้อโอเรียนเต็ลนั้น (ทั้งในโรงแรมและที่ส่งไปขายตามห้าง) หากคุณรู้ราคาส่งแล้ว อาจช๊อคตายได้ ว่า "มันจะกำไรไปถึงไหน"
จากคุณ :
Toddy&Hammy
- [
25 เม.ย. 50 04:47:01
]
|
|
|