ความคิดเห็นที่ 1 หุงข้าวไม่ยาก อย่างนี้ครับ 1) วิธีกะน้ำให้วางผ่ามือกดเบาๆ บนข้าว เติมน้ำจนท่วมฝ่ามือ ... จะวัดเป็นข้อนิ้วก็ตามใจ 2) เปิดฝาหม้อ ตั้งไฟ 3) เปิดไฟแรงสุด 4) เมื่อข้าวเดือด ปล่อยให้เดือด ปล่อยให้น้ำแห้งงวดลงเรื่อยๆ เมื่อน้ำแห้งเห็นเมล็ดข้าว 5) รีบหรี่ไฟอ่อนสุด แล้วปิดฝาหม้อ 6) คอยดูไอน้ำที่เล็ดรอดจากฝาหม้อ รอจนไอน้ำค่อยน้อยลงจน หมดไอ ค่อยปิดไฟ 7) ข้อนี้สำคัญ  "อย่า" เพิ่งเปิดฝาหม้อทันที ให้รอสักพัก วิธีนี้ค้นคว้าโดย เจ้าของ รง. เส้นหมี่ ใหญ่ เจียงคายเช็ง  อ.หนองแค สระบุรี เชียวนะ รง. เขาหุงข้าวทีเป็นกระสอบ ติดก้นหม้อมากเท่าไร เสียของมากเท่านั้น ;-) 8) วิธีนี้จะทำให้ข้าวไม่ติดก้นหม้อ ถ้าไม่เชื่อเปิดฝาหม้อทันที ข้าวจะติดก้นหม้อ ฟังดูหลายขั้นตอน ยังไม่ลอง ก็ไม่ต้องตกใจ ทำสักครั้ง ก็หมูครับ รับรองยี่ห้อช่างกล ไม่แนะนำให้ยากหรอกครับ บ้านผมหุงอย่างนี้ 30 ปีแล้ว บ้านผมไม่ใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 25 เม.ย. 50 12:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมลอง apply วิธีข้างบนไปหุงด้วยไมโครเวป ก็ได้ แต่ผมเป็นห่วงสุขภาพเตาไมโครเวป เนื่องจากไอน้ำที่ออกมาเป็นจำนวนมากมาก ไอน้ำมันจะไปรบกวน วงจรควบคุมของตู้ไมโครเวปทำให้ชื้น ถ้าเตาไมโครเวป "แบบปุ่มกด" ผมว่า ไม่ควรใช้ เพราะความชื้นโดนวงจร ปุ่มกด พอมันเสีย มันจะเสียทั้งหมด ถ้าไมโครเวปรุ่นเก่า แบบ "ปุ่มหมุน" คงไม่มีปัญหา จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 25 เม.ย. 50 12:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ของแถม ผมหุงข้าวทีละมากๆ แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น พอจะทาน ก็เอาข้าวมาใส่ไมโครเวป สักพัก จะได้ข้าวสวย ร้อนๆ เหมือนหุงสุกใหม่ๆ ที่สำคัญ ข้าว จะต้องเป็นข้าวมะลิ เพราะข้าวชนิดนี้ เมื่อเย็นแล้วอุ่นให้ร้อนใหม่ ข้าวยังนุ่มเหมือนเดิม ใครมาทานข้าวบ้านผม ถ้าไม่บอก ก็ไม่รู้ ว่าข้าวแช่ตู้เย็น ครับ ข้าว ขาวตาแห้ง หรือ เสาไห้ ข้าวชนิดนี้ มีลักษณะพิเศษ คือ นุ่มเมื่อร้อน ถ้าปล่อยให้ข้าวเย็น แล้ว ข้าวจะแข็ง อุ่นใหม่ก็ไม่นุ่ม สังเกต ไหม แม่ค้าข้าวแกง เขาหุงเสร็จ จะเอาใส่กระติกเก็บความร้อน ไม่ให้ข้าวเย็น หรือ ห้องครัว ตามวัดต่างๆ เวลามีงานวัด หุงเลี้ยงคนจำนวนมาก หุงเสร็จ จะเอาใส่โอ่ง ปิดฝาไว้ให้ร้อนไว้เสมอ ข้าว เป็นเรื่องสำคัญของคนไทย ผมเก็บข้อมูลไว้มาก วัดอัมพวัน หลวงพ่อจรัญ ผมไปบุกโรงครัวมาแล้ว เขาหุงข้าวเลี้ยงแขก วันหนึ่งๆเป็นกระสอบ ใช้ Boiler หุง เชียวครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 25 เม.ย. 50 13:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เดิมทำแต่แซนด์วิช >>>>>>>> วิธีหุงข้าว ถ้าไม่เข้าใจตรงไหน เชิญซักถามได้ ผมยินดีบอกจนเข้าใจ รับรองหุงได้ และได้อย่างดี เสียด้วย ไม่ใช่แค่หุงได้ ขอแลกกับ วิธีทำเซนวิช ก็แล้วกัน จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 25 เม.ย. 50 13:07:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เก่งจิงคุณช่างกล จากคุณ : KKB (KKB) - [ 25 เม.ย. 50 13:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใช้วิธีคล้าย ๆ คห. 1 นะคะ แต่อันนี้เพื่อนชาวเกาหลีสอนมา (อิอิ เราอยู่เมืองไทยใช้เป็นแต่หม้อหุงข้าว) 1. ตักข้าวสารใส่หม้อ ล้างหนึ่งครั้งแล้วก็ใส่น้ำประมาณ 1 ข้อนิ้วชี้ 2. ต้มให้เดือด ไม่ปิดฝา 3. เมื่อเดือดได้สักสองสามนาที หรี่ไฟอ่อน ปิดฝา แล้วทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง ที่ hostel มักจะมีอุปกรณ์ให้อยู่แล้ว แต่เครื่องปรุงบางครั้งอาจจะไม่มีนะ พวกเกลือ น้ำตาล เนย พริกไทย น้ำมันมักจะมีอยู่แล้วค่ะ เราไม่แบกไปจากบ้านนะ ไปซื้อเอาที่ซุปเปอร์ใกล้ ๆ ที่พักสบายกว่าค่ะ ที่เหลือถ้าคิดว่าจะได้ใช้ก็เก็บ อาหารที่เคยทำ คือต้มยำกุ้ง (ซื้อน้ำพริกต้มยำที่ร้านแถว ๆ ที่พัก) ไข่เจียว ไข่ต้ม หมูกระเทียม ผัดกะเพรา (แต่ต้องหาน้ำพริกผัดกะเพราให้ได้ก่อน ไม่งั้นยาก) ไก่อบ ต้มบะหมี่เกาหลี shin ramyun (ห่อละ $1 เดียวเองค่ะ ไม่แพงเหมือนเมืองไทย) วิธีทำไก่อบนะคะ ไก่ส่วน quarters ก็ได้ค่ะราคาไม่แพง อร่อยด้วย น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาล พริกไทย หมักไก่ทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นเปิดเตาอบเตรียมไฟประมาณ 375 F ทิ้งไว้ เมื่อเตาร้อน วางไก่บนถาดห่อกระดาษฟอยล์ซึ่งทาเนยหรือน้ำมันไว้ เอาเข้าเตาอบ อบประมาณ 30 นาทีค่ะ แต่เราคอยดูได้ค่ะ ปกติพอประมาณ 20 นาทีก็เอาไก่ออกมากลับค่ะ วิธีทำบะหมี่ shin ramyun สุดอร่อย shin ramyun เห็ด ต้นหอม จะใส่เนื้อสัตว์ หรือไข่ก็ได้ค่ะ จากนั้นต้มน้ำให้เดือด ใส่บะหมี่ต้มประมาณห้านาที ใส่ผักในซอง ใส่เนื้อสัตว์ ใส่เห็ด ต้มให้สุก ปิดไฟแล้วค่อยใส่ผงเครื่องปรุงค่ะ ผัดกระเพรา น้ำพริกผัดกะเพรา เคยเจอยี่ห้อ lobo ค่ะ เนื้อสัตว์ที่ชอบ เห็ด ซีอิ้วขาว เผื่อมันเค็มน้อยไป กระเทียม (ถ้ามี) ทำง่ายมาก ๆ ค่ะ ผัดกระเทียม ใส่น้ำพริกลงไป เติมเนื้อสัตว์ เติมเห็ด ชิมรส จากคุณ : white cat - [ 25 เม.ย. 50 14:02:57 A:203.170.242.2 X: TicketID:060333 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอแนะนำว่าเมื่อถึงที่พักแล้วไปสำรวจในห้องครัวก่อนว่าเค้ามีอะไรบ้าง แล้วขาดเหลืออะไรก็ไปซื้อได้ค่ะ ที่ China Town ของแต่ละเมืองมีแน่นอน ที่ไหนเล็ก ๆ คิดว่าไม่มีก็เตรียมไปจากที่แรก ๆ (จากประสบการณ์เที่ยว Vancouver ฯลฯ ค่ะ) อีกเมนูที่ง่ายนะคะ คือเนื้อผัดเห็ด หรือเนื้อผัดcelery ถ้าทานเนื้อ หรือใช้ไก่แทนก็คงจะได้ ส่วนผสมมี เนื้อวัว => หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ เห็ด => ซอยตามยาวของเห็ด เป็นชิ้นหนาประมาณ 3-4 มิลลิเมตร หอมหัวใหญ่ => ซอยเป็นเส้น ๆ หนาประมาณ 5 มิลลิเมตรตามยาวของหัวหอม น้ำมันหอย (ปกติใน section ของเครื่องปรุงต่างประเทศจะมีขาย) ซีอิ๊วขาว (อันนี้ก็มีขาย) กระเทียม (ส่วนใหญ่ก็มีนะคะ พวกนี้เป็นของเหลือที่คนอื่นใช้ไม่หมดแล้ว share ไว้ให้) วิธีทำก็ผัดกระเทียมให้หอม ใส่เนื้อ เห็ด หัวหอมใหญ่ ปรุงด้วยน้ำมันหอยและซีอิ๊วขาว เสร็จแล้วโรยพริกไทยก็ได้ ถ้าเป็นเนื้อผัด celery ก็เปลี่ยนผักอื่นมาเป็น celery ค่ะ จากคุณ : white cat - [ 25 เม.ย. 50 14:43:40 A:203.170.242.2 X: TicketID:060333 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ประสบการณ์จากไปสวิสมาค่ะ ทำน้ำพริกเผาไป 1 กระปุกใหญ่ และหมูแดดเดียวไป 1 กก.ค่ะ เช้า ๆ กินอาหารเช้า ก็หุงข้าวสวยเตรียมไว้เลยค่ะ และใส่ถุงพลาสติก ติดตัวไประหว่างทาง หิวตรงไหนกินได้เลยค่ะ จากคุณ : ร้ายเดียงสา - [ 25 เม.ย. 50 17:10:59 A:85.194.253.84 X: TicketID:123166 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ปกติใช้แต่หม้อสารพัดประโยชน์สำหรับเดินทางค่ะ ทำได้ทุกอย่างตั้งแต่หุงข้าว ต้ม ยำ ทอด   แต่ยืมคนอื่นตลอดเลย >.< ไม่แน่ใจว่าเมืองไทยมีขายหรือเปล่าคะ ... เห็นเค้าซื้อจากญี่ปุ่นกัน ส่วนเครื่องปรุง ... จะเอาซีอิ๊วขาว กับน้ำมันหอยขวดเล็ก  ๆ โหลดติดไปด้วยค่ะ ... ระวังเรื่องแตกด้วยนะคะ ^^ จากคุณ : Triny - [ 25 เม.ย. 50 21:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ปกติใช้แต่หม้อสารพัดประโยชน์สำหรับเดินทางค่ะ ทำได้ทุกอย่างตั้งแต่หุงข้าว ต้ม ยำ ทอด   >>>>>>>> ขำคุณ Triny หม้อสารพัดประโยชน์ ทำยำได้ด้วย เมืองไทยมีหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ที่มีอุปกรณ์นึ่ง ต้ม ทอด ครับ ผมสังเกตว่า หม้อหุงข้าวไฟฟ้าบ้านเรา มีจุดอ่อนอย่างหนี่ง ทำให้เปลืองไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น กล่าวคือ เมื่อหุงข้าวสุกแล้ว หม้อหุงข้าวจะเปลี่ยนไปอยู่ที่ warm mode โดยไม่มี switch สำหรับ manually ON/OFF ทีนี้เด็กมักจะลืม หรือ ขี้เกียจถอดปลั๊กไฟ ทำให้เปลืองไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น ในขณะที่หม้อหุงข้าวที่ผมเคยใช้ในต่างประเทศ (ยี่ห้อญี่ปุ่นนี่แหละ) เขาจะทำ switch warm แยกไว้ ให้เราเปิด หรือปิด ได้ ผมบ่นกับเพื่อนๆ มีคนบอกผมว่า หม้อหุงข้าวที่ขายเมืองไทย รุ่นเก่า ก็มีสวิทช์ปิดเปิด warm ครับ ตอนหลัง ร.ง ลักไก่ แอบถอดทิ้ง จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 26 เม.ย. 50 06:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ้าว!!! คห.4 ของเราโพสต์ไว้ตั้งยาว หายไปไหนล่ะเนี่ย จากคุณ : gypsio - [ 26 เม.ย. 50 20:13:20 ]