ความคิดเห็นที่ 1 ลองแบมือมานะครับข้างนึง แล้วกดลงตรงฝ่ามือบริเวณนิ้วโป้ง ลักษณะนั้นเรียกว่า แรร์ครับ ทีนี้ลองเอานิ้วชี้จับกับนิ้วโป้ง แล้วกดลงตรงบริเวณเดิม จะได้เป็นมีเดียม แล้วลองเอานิ้วโป้ง ชี้ กลาง มาจับติดกัน แล้วกดลง แบบนั้นจะได้เป็น ดัน ครับ จากคุณ : Zaezar - [ 15 พ.ค. 50 09:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 @@@@@@@      เอาภาษาไทยก็แล้วกัน นะครับ เพราะอังกถษผมไม่ค่อยแข็งแรง  อิ อิ อิ ...   แรร์  คือ  ย่างเพียงเล็กน้อยแค่หอมกลิ่นไฟ แต่ยังเนื้อยังคงความสดดิบอยู่   มีเดี่ยม  คือ  ย่างสุกเกรียมข้างนอกแต่ข้างในยังดิบอยู่   เวลดัน  คือ  ย่างให้สุกไปเลย  ทั้งข้างนอกข้างใน  ( ส่วนมากคนไทยเรามักจะทานแบบนี้ เป็นส่วนมาก )                                                                  +++++++++++++++++++++++++++++++++++++                    เสต็กถ้าเป็นเกรด เทนเดอร์ลอย  ก็แค่ใช้ได้  แต่ยังเหนียวอยู่นิดหน่อย    มาตรฐาน คือ เซอร์ลอย   ละก็ เยี่ยม อร่อยจนลืมไม่ลง    แต่แพงหน่อย กก. ละ 500 ขึ้น  เป็นราคาต้นทุน   แต่ในเมนูราคาขายจะสูงกว่านี้  4 - 5  เท่า จากคุณ : กัมมันตระ - [ 15 พ.ค. 50 09:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปรกติ วี ชอบ แบบ medium rare น่ะ วันก่อนไปกับเพื่อน เห็นเค้าสั่งแบบ rare มากิน ดู ฉ่ำ น่าหม่ำมากเลยอ่ะ จากคุณ : สงครามกวี - [ 15 พ.ค. 50 11:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การย่าง steak มีอยู่ด้วยกัน 7 ระดับครับ นอกจากว่าจะเป็นเรื่องของความสุก ความนุ่มหรือเหนียวของเนื้อแล้ว ยังเป็นเรื่องของความหวานของเนื้อ และใน เรื่องของอุณหภูมิอุณหภูมิ หรือว่าความร้อนของเนื้อในการบริโภคอีกด้วย 1. Blue หรือ Black and Blue...ย่างไฟแรงให้ข้างนอกไหม้ เกรียม แต่ไม่ถึง กับร้อน ภายในจะยังดิบและเย็นอยู่ เนื้อจะเป็นรสชาติของเนื้อดิบ 2. Very Rare...อุณหภูมิภายนอกของเนื้อจะพออุ่นๆ แต่ภายในยังจะเย็นอยู่ เนื้อยังดิบและจะยังนุ่มอยู่มาก 3. Rare...ภายนอกจะร้อนหน่อย ภายในเริ่มอุ่น เนื้อยังแดงอยู่ ไม่ร้อนมาก เนื้อยังจะนุ่มอยู่ 4. Medium Rare..เนื้อด้านนอกเริ่มร้อนและพอสุก ภายในจะร้อนปานกลาง และจะยังมีเลือดอยู่มากตรงกลาง 5. Medium...ข้างนอกสุก ความร้อนจะมีมากขึ้น แต่ข้างในตรงกลางจะยังมี เลือดอยู่บ้าง เนื้อเริ่มจะนุ่มน้อยลง 6. Medium Well... ย่างสุกจนทั่ว ความร้อนของเนื้อสูงขึ้น แต่ภายในยังพอ จะเห็นสีออกชมพูอยู่บ้าง แต่ไม่มีเลือดแล้ว ความนุ่มลดลงอีดหน่อย 7. Well Done...จะสุกทั้งชิ้น ทั้งนอกและในไม่มีสีเลือดหลงเหลืออยู่ แห้งและ จะค่อนข้างเหนียวกว่าระดับอื่นๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษใดๆทั้งสิ้น จะใช้กระทะอะไรก็ได้ จะใช้ตะแกรงก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าอยากจะปิ้ง หรือย่าง หรือทอด อย่างไร...วิธีทำที่ถูกต้องคือ วิธีที่ เราชอบ การย่างสเต็กที่ความสุกใดจึงจะดี...ก็ที่ความสุกที่เราชอบไงล่ะครับ การเช็คความสุกของเนื้อ ใช้นิ้วจิ้มดูก็ได้ หรือว่าจะใช้ส้อมจิ้ม ใช้ปลายมีดผ่า ก็ได้ทั้งนั้น บาดแผลนิดเดียว ไม่เสียเลือดมากหรอกครับ จริงๆแล้วผมจะใช้ Thermometer ช่วยในการวัดอุณหภูมิ ในการทำขาย เพราะ แต่ละความสุกของเนื้อ มันจะมีความร้อนภายในเป็นตัวช่วยบอกว่าเป็นอย่างไร แต่ว่าไม่อยากทำเรื่องง่ายๆให้เป็นเรื่องยากครับ จากคุณ : tnu - [ 15 พ.ค. 50 14:49:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอาง่าย ปกติซื้อเนื้อโคขุนไทยที่ฟู้ดแลนด์ ไม่แพงมาก อารมณ์ดี ก็ค่อยซื้อเนื้ออัสซี่มากิน ทอดน้ำมันน้อยๆบนกระทะ (เหมือนนาบเนื้อบนกระทะ) โรยเกลือนิด พริกไทยหน่อย กินกับซ้อสสเตค หรือซ้อสพริกไทยดำก็ได้ ไม่ค่อยชอปย่าง  เพราะขี้เกียจรอ และขี้เกียจขูดคราบไหม้บนตะแกรงครับ จากคุณ : audy - [ 15 พ.ค. 50 15:58:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ได้ความรู้ดีจัง จากคุณ : หน่อยคุง - [ 15 พ.ค. 50 16:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เทนเดอร์ลอยน์ หรือเซอร์ลอยน์ ไม่ใช่มาตรฐานของเนื้อนะครับ มันเป็นส่วนของเนื้อต่างหาก อย่างที่อเมริกาจะมีการจัดเกรดเนื้อเป็น USDA select, USDA choice, USDA prime ขึ้นกับหลายๆ อย่าง แต่ที่สำคัญคือปริมาณไขมัน marble ในเนื้อครับ Seasoning, ปรุงรส - จะหมักไม่หมัก แล้วแต่ความชอบครับ สูตรมีบนเน็ทมากมาย แต่ถ้าปรุงรสแบบพื้นฐานสุด ก็แค่โรยเกลือ กับพริกไทย (ดำ) บดใหม่ ชนิดเกลือที่ใช้ก็พิถีพิถันหน่อยเถอะครับ ที่เมกาชอบใช้ Kosher Salt ที่เป็นเกล็ดหยาบๆ ส่วนที่ยุโรปก็ชอบใช้เกลือสมุทร (จะเป็น fleur de sal จากฝรั่งเศสก็ไม่ว่าถ้ามีตังค์) บ้านเราคงหาเกลือสมุทรได้ง่ายกว่า Kosher salt ก็ใช้อันนั้นแหล่ะ ขอร้อง เกลือป่นเอาไว้ใช้ที่โต๊ะตอนมันเค็มไม่พอดีกว่าครับ ย่าง - grille - ถ้าจะดีที่สุดคงต้องแบ่งไฟเป็นสองส่วน ตรงที่ถ่านร้อนจัดเอาไว้ sear ข้างละประมาณ 1-2 นาที แล้วค่อยย้ายไปส่วนที่ถ่านร้อนน้อยกว่า (วางฝ่ามือเหนือไฟแล้วนับ 1-10 ได้) ย่างไปนานเท่าไหร่ขึ้นกับความหนาของชิ้นเสต็ค (หนาซักนิ้วนึงกำลังดี) และความเย็นของเนื้อเสต็ค เอาออกจากตู้เย็นช่องธรรมดาก่อนย่างซัก 30 นาที จะได้ไม่เย็นเกิน คุมความสุกยาก จะกะความสุก อย่าง คคห. 1 ก็ได้ หรือจะ ใช้แบบความนิ่มของใบหน้าก็ได้ ให้ซ้อมจับให้ชิน แล้วค่อยล้างมือไปทำเสต็คนะครับ อย่างทำมึนย่างไป จิ้มแก้มตัวเองไป คนรอจะกินจะพาลหมดอารมณ์ไปซะ แก้ม = มีเดี่ยมแรร์, ข้างจมูก = มีเดี่ยม, ปลายจมูก = มีเดี่ยมเวลล์   ทำเสต็คต้องทำให้ชินครับ เตาบ้านใคร บ้านมัน ความร้อนแรงไม่เท่ากัน แถมแก้มสาวคงไม่แข็งเท่าแก้มหนุ่ม (แก่) อย่างผมหรอก หรือไม่ก็ใช้ meat thermometer ง่ายและแม่นยำที่สุด ทอดบนกระทะ ใช้น้ำมันน้อย แล้วเข้าเตาอบ 450-500 F ซัก 6 นาทีก็พอใช้ได้เหมือนกัน แต่นั่นอีกแหล่ะครับ ต้องซ้อมให้คุ้นมือ น้ำมันเลือกที่ smoke point สูงๆ หน่อยละกัน เดี๋ยวเป็นมะเร็ง จะหย่อนเนยสดลงไปเท่าปลายนิ้วโป้งก่อนเอาเนื้อลงก็หอมขึ้นอีกเยอะทีเดียว กินกับซ๊อส หรือไม่มีซ๊อส เขียนได้อีกหลายหน้าครับ ย่างให้ดีๆ ทาเนยเล็กน้อยพอเนื้อชุ่ม จิ้มแจ่วแบบง่ายๆ ใช้น้ำปลา พริกป่น มะนาว หอมแดง ต้นหอมซอย ผงซูรสซักปลายนิ้วพอได้รสส้มตำหน้าปั๊ม  ข้าวเหนียวร้อนๆ ซักปั้น ผักสดซักกอง แค่นี่ก็สุโขๆ ครับ Dry-aged Porterhouse กับ Watercress Salad ถอยห่างไปไกลๆ เลยเหอะ.... จากคุณ : bUzZ - [ 16 พ.ค. 50 01:51:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ความรู้มาเต็มๆ ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นศาสตร์ที่น่าค้นหาครับ หรือว่าตูไปซื้อเขากินเหมือนเดิมดีกว่า เหอ เหอ ขอบคุณมากๆครับ ที่ยอมสละเวลาพิมพ์ตอบตั้งเยอะ เกรงใจจริงๆครับ ขอบคุณจริงๆครับผม จากคุณ : จขกท - [ 16 พ.ค. 50 20:42:35 A:124.120.94.56 X: TicketID:118563 ]