ความคิดเห็นที่ 1 น่าจะไปลองหาทานที่ๆเค้าว่าอร่อยๆกันนะค่ะ แล้วก้อลองมาคิดดูว่าส่วนผสมเครื่องปรุงน่าจะมีอะไรบ้าง ทำลองก้อทำน้ำซุปดูเอง เป็นสูตรของตัวเองจะดีกว่าค่ะ (ไปชิมเพื่อเป็นแนวทางว่างั้น) ถ้าทำแบบครบวงจรก้อดีค่ะ แบบน้ำใส น้ำข้น ต้มยำ น้ำตก ไรงี้ เลือกทานได้เยอะดี ส่วนตัวตอนนี้ติดใจก๋วยเตี๋ยวไก่มะระค่ะ อิอิ แต่ต้องเป็นเจ้าประจำเท่านั้น เคยไปทานเจ้าอื่น อืม เหมือนน้ำล้างจานเลยอ่ะ ช่วยได้มั่งมั้ยเนี่ย แป่ว จากคุณ : Nui&Boo - [ 6 มิ.ย. 50 14:15:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต้มน้ำซุปให้ใส ต้องใส่กระดูกลงไปตั้งแต่น้ำยังเย็นอยู่แล้วต้มไปพร้อมกัน หมั่นช้อนฟองและน้ำมันออกจะใสครับ ส่วนรสชาดแล้วแต่จะปรุงอาจจะใส่ไชเท้าหรือหอมใหญ่ลงไปต้มด้วยเพื่อหวานอร่อยธรรมชาติ จากคุณ : xlt - [ 6 มิ.ย. 50 16:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ใส่น้ำตาลกรวด ก็ช่วยเพิ่มรสชาติดีนะคะ ^^ จากคุณ : Triny - [ 6 มิ.ย. 50 17:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 วิธีต้มน้ำซุป  http://www.horapa.com/content.php?Category=Thai&No=520 การทำแกงจืดเพื่อให้รสดี และเพิ่มคุณค่าของอาหารมากขึ้น จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่ จะต้องทำจากน้ำซุป ( น้ำ ต้มกระดูก ) ซึ่งทำจากกระดูกสดของเป็ด ไก่ หมู วัว และปลา ต้มกับเกลือและผักต่างๆ เช่น หัวผักกาด ต้นขึ้นฉ่าย ต้น หอม ผักชี หอมฝรั่ง กระหล่ำปลี หรือเศษผักที่เหลือจากประกอบอาหาร หลักของการต้มซุป 1. ใช้หม้อใบใหญ่และมีฝาปิด ควรใช้หม้อที่มีหูจับได้สะดวกต่อการยกขึ้นอุ่นบนเตา 2. เครื่องประกอบที่จะต้มน้ำซุปนี้ต้องให้สด กระดูกสับชิ้นใหญ่ประมาณ 4 นิ้ว เนื้อหั่นชิ้นเล็กๆ ตัดส่วนมันออกให้หมด ผักหัว ปอกเปลือกแล้วหั่น ส่วนผักชนิดอื่นตัดเป็นท่อน ๆ 3. แช่ในน้ำประมาณ 2 ชม. เพื่อให้น้ำหวานในกระดูกออก ใช้ไฟกลาง จนกว่าจะเดือด ใช้ทัพพี ช้อนฟองทิ้งเคี่ยวไฟ อ่อนๆต่อไป เมื่อน้ำซุปจวนจะได้ที่แล้ว ใส่ผัก และเคี่ยวต่อไป 4. กรองน้ำซุปด้วนตะแกรง และใช้ผ้าขาวบางวางใต้ตะแกรงอีกชั้นหนึ่ง ส่วนไขมันที่ลอยหน้ายังไม่ต้องช้อนทิ้งจนกว่า จะใช้ เพราะไขมันนี้จะช่วยไม่ให้อากาศเข้าไปในน้ำซุป ซึ่งจะทำให้เสียง่าย น้ำซุปที่ดีต้องใส ควรทำล่วงหน้าก่อนที่จะ ใช้หนึ่งวัน ไม่ควรเก็บไว้นานวัน เฉพาะอย่างยิ่งในที่ๆมีอากาศร้อน ...... ที่เหลืออ่านต่อในลิงค์นะคะ  เผื่อเป็นแนวทางได้ จากคุณ : เจซอง - [ 6 มิ.ย. 50 23:15:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 น้ำสต็อค (Stock) หรือน้ำต้มกระดูก   การทำน้ำต้มกระดูกไว้ใช้เองในบ้านมีวิธีการง่ายๆ คือ ใช้กระดูก เศษเนื้อและผัก ใส่หม้อต้มเคี่ยวในน้ำด้วยไฟอ่อนๆจนกระทั่งสารอาหารจากเนื้อถูกสกัดออกมาในน้ำ แล้วกรองทำให้เย็นแล้วช้อนเอาไขมันออก น้ำสต็อกที่ได้นี้จะเป็นพื้นฐานในการทำซุปและซอสมากมายหลายชนิด สิ่งที่จะต้องให้ความสนใจคือ การเลือกเครื่องปรุงที่จะนำมาทำน้ำสต็อค ควรรู้ว่าสต็อคนั้นจะนำไปทำอะไร เช่น น้ำสต็อคขาว (White Stock) ใช้ทำครีมซุป ซุปใส เป็นต้น ไม่นิยมนำกระดูกแกะมาทำน้ำสต็อค เพราะกลิ่นไม่น่ารับประทาน รสชาติและความเข้มข้นของน้ำสต็อคขึ้นกับปริมาณกระดูก เศษเนื้อ น้ำที่ใช้ต้มตลอดจนเครื่องเทศและเวลาที่ใช้เคี่ยว ข้อสำคัญในการทำน้ำสต็อคคือ การใช้เศษกระดูก เศษผักที่สด และล้างให้สะอาด สัดส่วนพอดีกับน้ำ ควรใช้น้ำเย็นและใช้เวลาเคี่ยวนานๆ ไฟอ่อนๆ ควรเก็บในภาชนะที่มีฝาปิดและเก็บในตู้เย็น หากเก็บในที่อุ่นน้ำสต็อคจะเสียเร็ว มีรสเปรี้ยว ถ้าน้ำสต็อคขุ่นไม่ใสให้ใช้ไข่ขาวกับเปลือกไข่ใส่ลงไป คนสักครู่ยกลง กรอง จะได้น้ำสต็อคใสขึ้นกว่าเดิม......................  อ่านต่อที่นี่ค่ะ   http://www.horapa.com/content.php?Category=Pasta&No=456 วิธีที่ ๑  >>น้ำซุปไก่<< ปอกเปลือกหัวไชเท้า แครอท อย่างละ 1 หัว ตัดครึ่ง ผ่า 4 ขึ้นฉ่าย 1 ต้น ตัดรากออก  นำกระดูกไก่ลงแช่น้ำ นานประมาณ 40 นาที  ใส่ผักทั้งหมดลงในหม้อน้ำกระดูกไก่ เติมเกลือ 1 ชช ยกขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวนาน 30 นาที ระวังอย่าให้เดือด ช้อนฟองออก  ตักผัก กระดูกไก่ออก กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำน้ำที่ได้ ไปต้มอีกครั้ง  http://www.littleandmom.com/little&mom/food3.html#2 วิธีที่ ๒  >>น้ำซุปไก่<< 1. โครงไก่ 2. รากผักชี + ต้นผักชี 3. เกลือป่น 4. ฟัก หรือ หัวไชเท้า 5. ใบเตย วิธีทำ 1. ล้างโครงไก่ให้สะอาด ควักพวกปอด เครื่องในที่จะทำให้มีกลิ่นออกมาให้หมด แล้วเอาใบเตย 4-5 ใบมัดๆ ยัดเข้าในท้อง แล้วใส่ถุง แช่ตู้เย็น ทิ้งไว้ 1 คืน (หรือจะไม่แช่ทิ้งไว้ ทำเลยก็ได้) 2. พอวันรุ่งขึ้น ตั้งน้ำให้เดือด เอาใบเตยออกจากตัวไก่ พอน้ำเดือด นำไก่ลงลวกสักแป๊บ ก็เทน้ำทิ้ง 3. ตั้งน้ำที่จะใช้ต้มน้ำซุป พอน้ำเดือด ใส่โครงไก่ลงไป ตามด้วยรากผักชีทุบ ๆ ต้นผักชี เกลือ และใบเตย 4. พอน้ำเดือดอีกทีก็ใส่หัวไชเท้าหรือผักต่าง ๆ ที่ชอบลงไป ใช้ไฟอ่อน น้ำซุปจะได้ใส  ระหว่างนี้มันคอยช้อนฟองที่ลอยอยู่ผิวน้ำทิ้งด้วย 5. ต้มเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำซุปออกรสหวาน หอมจากไก่และผักตามต้องการ เค็มนิด ๆ ก็ใช้ได้ แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 50 23:23:39 จากคุณ : เจซอง - [ 6 มิ.ย. 50 23:19:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ร้านที่ผมรู้จักที่บางขุนนนทร์ เค้าขายก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เคยดูเค้าตั้งแต่ต้มน้ำเลยนะ เค้าใส่กระดูกส่วนที่เรียกว่า เอียเล้ง คาตั๊ง ใส่เยอะมากนะ จนผมเองยังถามเลยว่าทำไมใส่เยอะจัง เค้าว่ามันจะได้อร่อยๆ เครื่องหอมก็มีแค่ รากผักชีทุบๆ 20 - 30 อันได้ พริกไทยเม็ดบุบ น่าจะครึ่งกิโลได้ เกลือป่น 5 ถุง น้ำตาลกรวด น่าจะซัก ครึ่งกิโลนะ สังเกตุดูเค้าไม่ใส่กระเทียมนะครับ เค้าจัดร้านตั้งน้ำตั้งแต่ 6 โมงเช้า ขายได้ตอน 8 โมงนะ เคี่ยวอยู่พักใหญ่เลยครับ   ช้อนฟองด้วยนะ น้ำใสแจ๋ว เค็มนิดๆ หวานโชยๆมาเท่านั้นเอง แต่อร่อยดีครับ....นายเพ้ง..บางขุนนนทร์..ไปลองดูได้ จากคุณ : OverEat - [ 7 มิ.ย. 50 11:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ แต่...ยังต้องการเรื่อยๆค่ะ สูตรไหนว่าดี ที่ไหนว่าอร่อยจะไปลองทานให้หมดเลยเจ้าค่ะ :) จากคุณ : cowboyland - [ 7 มิ.ย. 50 14:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ต้มน้ำซุปกระดูกหมูอย่างรวดเร็วโดยหม้อความดัน ถ้าใช้หม้อธรรมดาก็ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวไปประมาณ 3 ช.ม. การลวกกระดูกหมูก่อนไปต้มน้ำซุปจะทำให้ล้างพวกเลือดและสี่งสกปรกต่างออกไป ทำให้น้ำซุปใส วิธีนี้ได้มาจากพ่อครัวญี่ปุ่น เพราะถ้าไปทานซุปใสญี่ปุ่นจะสังเกตุได้ว่าน้ำซุปใสมาก วิธีทำใส่ไว้ใน Bloggang แล้ว ไปตาม Link ได้เลย http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=chim&group=2&date=16-02-2007&gblog=3 จากคุณ : swin - [ 7 มิ.ย. 50 15:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ก๋วยเตี๋ยวอยู่ทีน้ำซุบคับ ให้ คาตั๊ง สด ๆ ต้มให้นานคับ ที่สำคัญตอนขายน้ำก๋วยเตี๋ยวต้องร้อนๆคับ บางร้านน้ำไม่ร้อน ไม่ได้เรือ่ง จากคุณ : v_justin - [ 8 มิ.ย. 50 10:18:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รากผักชี หอมใหญ่ หัวไชเท้า ทุกครั้งที่ทำกับข้าว พวกแกงจืด  จะพลาดพวกนี้ค่ะ แล้วก็อย่างกกระดูกหมู จากคุณ : น้องหนูสะดิ้งน้อย - [ 8 มิ.ย. 50 15:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ซุปก๋วยเตี๋ยว กระดูกหมู 1 กิโลกรัม น้ำเปล่า 15 ถ้วย รากผักชี 6 ราก พริกไทยเม็ด 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ กระดูกหมูหลายคนชอบใช้ส่วนหลัง บอกคนขายว่าจะเอามาต้มน้ำซุป เดี๋ยวเขาจัดให้ หรือจะใช้กระดูกซี่โครงก็ได้ แต่คนนิยมว่าส่วนหลัง น้ำซุปหวานกว่า ล้างกระดูกหมูให้สะอาด ต้มกับน้ำ พร้อมรากผักชี พริกไทยเม็ด เกลือ พอเดือด หรี่ไฟลง หมั่นช้อนฟองออก เคี่ยวประมาณ 2 ชั่วโมง อย่าใจร้อน เร่งไฟแรงตลอด น้ำซุปจะขุ่น ไม่น่ากิน ตำรับก๋วยเตี๋ยวต้มยำมีกันหลายท้องที่ ใครเคยไปกำแพงเพชร สุโขทัย ต้องเคยกินก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย เอกลักษณ์คือ ถั่วฝักยาวสดๆ หั่นแฉลบ แล้วไปลวกน้ำพอเขียวสด ส่วนเครื่องเป็นหมูสับแผ่นๆ บ้าง หมูสับละเอียดบ้าง หรือหมูแดง ลูกชิ้น ตามถนัด เครื่องปรุงใช้น้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น น้ำตาลทราย บางทีก็น้ำตาลปี๊บ เพิ่มความพิเศษด้วยกุ้งแห้งตัวเล็กๆ เอาแบบไม่แดงใส่ลงไปด้วย สัดส่วนเครื่องปรุงนี้ เขาใส่กันแบบไม่เสียดายของ และห่วงสุขภาพลูกค้าเลย ใส่ไปอย่างละช้อน ยกเว้นพริกป่น สักครึ่งช้อนพอ เดี๋ยวไม่แซ่บถึงใจพระเดชพระคุณ กรรมวิธี เขาจะตักเครื่องปรุงใส่ชาม ใส่น้ำซุปร้อนๆ ลงไป เอาตะบวยคนๆ ให้น้ำตาลละลาย ถึงเอาเส้นที่ลวกไว้กับถั่วฝักยาวเทใส่ โรยด้วยกุ้งแห้ง กับหัวไชโป๊สับ หมูสับ ลูกชิ้นลวกน้ำเดือดใส่ลงไป ไม่กลัวสารพิษอะฟลาท็อกซินในถั่วลิสงบด ก็ใส่ลงไปอีก 1 ช้อน อย่างนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัย ไม่รู้ว่ามีกำเนิดมายังไง ที่แน่ๆ คงไม่ได้มาจากสมัยพ่อขุนราม ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม เปลี่ยนเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่หมูแดง ทำแบบเดียวกัน แต่นิยมใช้น้ำตาลทรายแทนน้ำตาลปี๊บ เปลี่ยนถั่วฝักยาวเป็นถั่วงอก ไม่ใส่กุ้งแห้ง ต้มยำมักจะไม่ใส่น้ำเยอะมาก เอาแค่เกินขลุกขลิกนิดหน่อย http://www.mwthaicook.com/webboard.php จากคุณ : agapanthus - [ 10 มิ.ย. 50 09:41:18 ]