ความคิดเห็นที่ 1 มันมีชิ๊ปของนอสตราดามุสฝังอยู่ครับ ประมาณว่าหยั่งรู้ล่วงหน้า แฮ่ๆๆ รอคนข้างหลังดีกว่าครับ ฟิ้ววววววส์ จากคุณ : ม้าเจ๋ง - [ 10 ก.ค. 50 17:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คือ มันอยู่ที่เราตวงน้ำ กับข้าว ที่เหมาะสมกันอ่ะคะ .. แล้วหม้อหุงข้าวเนี่ย จะมีตัววัดและตัดไฟ คือ เทอโมสแตท .. เวลาความร้อนของหม้อหุงข้าวถึงจุด จุดนึง มันจะตัดไฟ แต่หม้อหุงข้าวไม่รู้หรอกค่ะ ว่าสุกไม่สุก ถ้าคุณเติมน้ำเยอะมันก็แฉะ ถ้าเติมน้อยไป ข้าวไม่สุกหรือแข็งนั่นเองค่ะ จากคุณ : iMyEnZ~* - [ 10 ก.ค. 50 18:15:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โห... เห็นชื่อกระทู้แล้ว อดจะเข้ามาตอบไม่ด้ายยยยยย ขอนั่งยัน นอนยัน ยืนยันเลยค่ะว่า หม้อหุงข้าว น่าจะไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลยว่าข้าวจะสุกหรือไม่ เพราะเคยหุงข้าวออกมาได้ 3 กษัตริย์มาแล้วเมื่อซัก 3-4 ปีก่อน ข้างล่างแฉะเหมือนข้าวต้ม ส่วนตรงกลางกำลังสวย ขณะที่ข้างบนแข็งเป็นไต เหตุเพราะตอนนั้นกะปริมาณน้ำกับข้าวไม่เป็น เปิดหม้อดูก็เห็นว่าแห้งไป เลยเติมน้ำเพิ่ม สุดท้ายต้องตักข้าวทั้งหมดคลุกๆ กันแล้วเข้าไมโครเวฟไปซะ อายสามีมากๆ เพราะว่าเจ้าหม้อหุงข้าวเนี่ยมันไม่ได้ช่วยแม่บ้านมือใหม่อย่างอิชั้นเลย - -" จากคุณ : L@st love - [ 10 ก.ค. 50 20:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หม้อหุงข้าวจะตัดการทำงานโดย Thermostat คือพอร้อนได้ที่กำหนดไว้ การให้ความร้อนก็จะหยุดลง หม้อหุงข้าวเวลาที่มีน้ำอยู่ในหม้ออุณหภูมิจะไม่เกิน 1000C (เพราะจุดเดือดของน้ำอยู่ 1000C) แต่พอน้ำระเหยไปจนหมด อุณหภูมิภายในหม้อหรือบริเวณก้นหม้อจะสูงเกิน1000C Thermostat จึงตัดการให้ความร้อน แต่ข้าวก็ยังไม่สุกได้ที่นะครับ ต้องรอให้ข้าวระอุ อีก 15 นาที ถึงจะกินได้ จากคุณ : ระเบิดทราย - [ 10 ก.ค. 50 21:02:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 555 ขำ ไม่คิดว่าจะมีคนสงสัยเหมือนเรา จากคุณ : apotheker - [ 11 ก.ค. 50 08:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กระทู้แบบนี้ปกติอยู่หว้ากอ แต่มาอยู่ห้องอื่นๆบ้างก็มีอานิสงค์ดี จากคุณ : เคราครึ้ม - [ 11 ก.ค. 50 11:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ครับ ก็เขาคำนวนมา ระหว่างข้าว+น้ำ แล้ว ไม่เชื่อลองเอาไปหุงข้าวอย่างอื่นๆ ดิ เช่น ทำไมต้องมีหม้อหุงข้าวเหนียว ข้าวสวยญ่ปุ่น ต่างหาก เพราะมันไม่รู้หรอกว่า สุกหรือไม่รู้แต่ว่า จะตัดวงจรเมื่อไร เอาไปไว้ทำ อย่างอื่นๆ ได้เยอะเลยนะ วงจรหม้อหุงข้าวเสียๆ น่ะ จะบอกให้ จากคุณ : กองปราบ - [ 11 ก.ค. 50 14:23:21 A:58.9.87.8 X: TicketID:103401 ]

ความคิดเห็นที่ 8 #4 ข้าว 3 กษัตริย์  อิอิ พึ่งเคยได้ยิน  หุงเก่งนะเนียะ ส่วนมากผมหุง ก็จะดูจากขีดข้างในหม้อ  ตวงกี่ถ้วยก็เติมน้ำตามขีดนั้น   ถ้าอยากให้แฉะก็เกินมา ครึ่งขีด   หุงมาอร่อยทุกที จากคุณ : close2heaven - [ 12 ก.ค. 50 01:42:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^    หม้อวิเิศษ..... จากคุณ : ceacar salad - [ 12 ก.ค. 50 08:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ น้องที่ทำงานถามเรามาอีกที แต่ก็มานั่งคิด นั่นสิ ข้าวเรากินทุกวัน มันสุกได้ยังไง เลยเอามาถามเพื่อนๆ ในห้องนี้ เพราะว่าเรื่องฟิสิกส์เราก็ลืมเข้าหม้อไปหมดแล้ว เลยเอามาถามเพื่อนในห้องนี้ เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องอาหารเหมือนกัน อิอิ (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย) อ้อ.. มีคนคิดว่าปุ่มตรงกลางนั่นเป็นเซนเซอร์น้ำหนักด้วยนะ ประมาณว่าพอข้าวมันสุก น้ำหนักก็จะเพิ่ม บวกกับการทำงานของ thermostat หนะ แต่ก็เอาเหอะ ประเด็นสำคัญ เราได้ข้าวสุกสวยๆ มากินก็พอ จากคุณ : delightful (delightful) - [ 12 ก.ค. 50 22:26:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วไอ้ Thermostat คืออะไร   สถิติของอุณหภูมิ  เหรอ  แล้วมันยังไง   แล้ว ความดันมีส่วนเกี่ยวข้องไหม  เห็นก้นหม้อ มีตัวคล้ายสปริง สมมุติฐาน :  ขณะข้าวเดือด ความดันในหม้อสูง ก็จะกดสปริงให้ออกคำสั่ง 1 อย่าง เมื่อข้าวสุกได้ที่ ความดันลดลง จนถึงจุดหนึง สปริงคลายออก  "ข้าวก็เด้ง"  แต่รออีก 15 นาทีนี่ข้าวไม่รู้หลอก   ทำไม ศธ. ถึงไม่เอาเรื่องนี้เข้าหนังสือแบบเรียน ว301 มีแต่ตู้เย็น กะแอร์มั้ง จากคุณ : นักเรียนแก่ (KRISSANAI) - [ 25 ก.ค. 50 08:31:24 ]